Share

บทที่ 719

Author: ไห่ตงชิง
เศษถ้วยชาแตกกระจายพร้อมน้ำที่หกทั่วพื้น จ้าวไท่ไหลกลิ้งไปมาบนพื้นพร้อมกับร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

ภาพที่เห็นทำให้คนในตระกูลหลิวต่างสูดหายใจลึกด้วยความตกใจ

หลิวซือฉุน ซึ่งเป็นแกนหลักของตระกูล ได้แต่เก็บสีหน้าเคร่งขรึม ไม่กล้าเอ่ยปาก

ส่วนหลิวซือต๋าที่ใบหน้าบวมช้ำ มองไปที่หลิวซือฉุน จากนั้นมองไปที่หลี่เฉิน เขารู้สึกมั่นใจขึ้นมาในทันที

มั่นใจเต็มร้อย

องค์รัชทายาททรงแสดงออกชัดเจนว่ามีความสนใจในตัวน้องสาวของเขา

เมื่อคิดเช่นนี้ หลิวซือต๋าถึงกับมีท่าทางเบิกบาน

ธุรกิจ คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม

ไม่เพียงแต่เขา ลุงสามแห่งตระกูลหลิว ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ ก็มีสายตาที่เปล่งประกายด้วยความหวังเช่นกัน

คนที่เข้าใจสถานการณ์ ย่อมเข้าใจดี

ในขณะเดียวกัน จ้าวไท่ไหลที่ยังเจ็บปวดทรมานอยู่บนพื้นร้องออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ “กระหม่อมไม่รู้อะไรเลย! ท่านพ่อของบอกว่าจะส่งกระหม่อมไปจินหลิงในเดือนหน้า กระหม่อมเพียงแค่อยากหาอะไรไปทำเงินที่นั่นเพื่อใช้จ่าย หากรู้ว่านี่คือธุรกิจขององค์ชาย กระหม่อมไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวเด็ดขาด!”

คำพูดของจ้าวไท่ไหลเป็นความจริงจากใจ

แต่ในขณะนั้นเอง หลี่เฉินจับประเด็นเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในคำพูดข
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 720

    เมื่อจ้าวไท่ไหลนึกถึงความใจกว้างที่ผิดปกติของบิดาในวันนี้ อีกทั้งการที่บิดาออกคำสั่งให้เขาหาผู้หญิงมาปรนนิบัติ และกำชับว่าให้หาวิธีทำให้ผู้หญิงคนนั้นตั้งครรภ์ภายในหนึ่งเดือน...ในตอนนั้น จ้าวไท่ไหลไม่ได้คิดลึกซึ้ง เขาเพียงคิดว่าบิดาที่มีอายุมากอยากมีหลานเพื่อสัมผัสความสุขในบั้นปลายชีวิต แต่ตอนนี้ เมื่อมองย้อนกลับไป นั่นชัดเจนว่าเป็นการเตรียมการเพื่อรักษาสายเลือดของตระกูลจ้าวเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ จ้าวไท่ไหลก็รู้สึกเหมือนตกลงไปในหลุมเย็นเยือกไม่มีใครอยากตาย โดยเฉพาะเมื่อต้องตายด้วยน้ำมือของบิดาตนเอง"อยากรอดชีวิตหรือไม่?"คำถามของหลี่เฉินดังก้องในจิตใจของจ้าวไท่ไหล ราวกับเสียงเย้ายวนจากปีศาจในห้วงลึกจ้าวไท่ไหลสะดุ้ง เขามองหลี่เฉินด้วยความระแวงและไม่ไว้ใจ พร้อมพูดว่า "พระองค์จะใจดีขนาดนั้นเชียวหรือ? หรือพระองค์อยากใช้กระหม่อมเพื่อต่อต้านท่านพ่อ?""คนที่ให้กำเนิดและเลี้ยงดูเจ้าคือพ่อของเจ้า แต่ตอนนี้เขาต้องการฆ่าเจ้า เจ้าจะยังยอมรับเขาอยู่หรือ?"หลี่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "ไม่ต้องกังวล ข้ามีวิธีจัดการกับจ้าวเสวียนจี โดยไม่ต้องพึ่งเจ้า อีกอย่าง เจ้าจะช่วยอะไรข้าได้? เจ้าทำอะไ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 721

    หลังจากส่งตัวจ้าวไท่ไหลไปแล้ว หลี่เฉินจึงเรียกสวีหยวนต๋าและคนอื่นๆ ที่ยืนตัวสั่นอยู่ด้านนอกให้เข้ามาซึ่งนำโดยซ่างกวนเจา เบื้องหลังเขามีขุนนางระดับสูงหลายคน ทั้งหมดล้วนเป็นผู้มีอำนาจแท้จริง และล้วนมาจากกลุ่มสำนักราชเลขาจุดนี้ หลี่เฉินยังพอใจอยู่บ้างอย่างน้อยขุนนางฝั่งตำหนักบูรพาเหล่านี้ล้วนถูกคัดเลือกโดยหลี่เฉินเอง โดยคำนึงถึงภูมิหลังตระกูลเป็นสำคัญ และต้องมีการอบรมลูกหลานที่เหมาะสม ไม่เช่นนั้น หากวันนี้พบว่าลูกหลานขุนนางตำหนักบูรพาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ คงจะเป็นเรื่องน่าอับอายยิ่งนัก"กระหม่อมทั้งหลาย ถวายบังคมองค์รัชทายาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญพันปี พันปี พันๆ ปี"สวีหยวนต๋าและคนอื่นๆ ก้มศีรษะต่ำ ขณะเดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะคุกเข่าถวายบังคมโดยไม่พูดสิ่งใดหลี่เฉินนั่งเอนหลังบนเก้าอี้ ขาข้างหนึ่งพาดขึ้นอย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา "การที่พวกเจ้าชอบมาป้วนเปี้ยนทำเรื่องวุ่นวายต่อหน้าข้า อย่าว่าแต่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย ต่อให้พวกเจ้าอยู่จนถึงพันปี ก็มีแต่จะทำให้ชาวบ้านสาปแช่งไปอีกหลายปีเท่านั้น"คำพูดเปิดหัวของหลี่เฉินแสดงให้เห็นชัดเจนว่าคงไม่มีทางจบเรื่องนี้ง่ายๆในสถาน

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 722

    เมื่อเห็นสวีหยวนต๋าและคนอื่นๆ แสดงท่าทีตอบรับ หลี่เฉินลุกขึ้นกล่าวว่า “เอาเถอะ เรื่องนี้จัดการตามนี้แล้วกัน”จากนั้นเขาก็เอามือไพล่หลังเดินออกจากหลันเยว่เซวียน ก่อนจะเหลือบมองเหล่าหนุ่มน้อยที่ยังคุกเข่าอยู่หน้าประตู ในยามกลางวันเช่นนี้ การให้พวกเขาคุกเข่าอยู่นั้นก็เท่ากับเป็นการลงโทษให้ผู้คนเห็น คนเหล่านั้นต่างก้มหน้าก้มตาไม่กล้าสบสายตาใคร ทั้งยังมีกลิ่นเหล้าคละคลุ้ง“คุกเข่าให้ครบสองชั่วยามแล้วค่อยลุก จากนั้นส่งตัวตรงไปยังค่ายทหาร”หลี่เฉินกล่าวทิ้งท้าย ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเขาเชื่อว่าสวีหยวนต๋าและพวกจะไม่กล้าทำท่าทีตีสองหน้าเพราะหน่วยบูรพาเฝ้าจับตาอยู่ใกล้ๆใครกล้าเล่นตุกติก ไม่ใช่แค่ลูกชายจะถูกส่งไป แม้แต่พ่อก็อาจจะต้องตามไปด้วยเมื่อหลี่เฉินจากไป สวีหยวนต๋าและบรรดาบิดาจึงเดินมายังหน้าลูกชายของตน ก่อนจะฟาดฝ่ามือใส่พวกเขาด้วยความโกรธสวีหยวนต๋าไม่ฟาดลูกชายตัวเอง เพราะใบหน้าของลูกชายเขาก็เหมือนหัวหมูอยู่แล้วเขาชี้ไปที่ลูกชายตนพร้อมกล่าวด้วยความเจ็บใจว่า “เจ้ามันไร้ความสามารถโดยแท้ วันนี้ถือว่าโชคดีนัก ไม่เช่นนั้น ตระกูลเราคงต้องถูกเจ้าทำให้พินาศหมดสิ้นแน่!”ลูกชายเขาถามด

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 723

    เมื่อได้ยินคำถามของหลี่เฉิน หลี่เพ่ยเพ่ยที่พอจะเตรียมใจไว้แล้วก็ยังตัวสั่นเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าตอบเบาๆ ว่า “ยังไม่มีเพคะ”การสมรสขององค์ชายและองค์หญิงส่วนใหญ่ มักไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเอง โดยเฉพาะองค์หญิงที่ใช้ชีวิตในวังลึกมาตลอด มีโอกาสได้พบปะชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันน้อยมาก จึงแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครในดวงใจยิ่งไปกว่านั้น ในยุคสมัยนี้ หญิงที่มีอิสระในความคิดเหมือนกับซูจิ่นพ่า เรียกได้ว่าเป็นส่วนน้อยมาก คำตอบของหลี่เพ่ยเพ่ยจึงเป็นสิ่งที่หลี่เฉินคาดไว้อยู่แล้วหลี่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “เจ้าก็ถึงวัยแล้ว หากไม่รีบออกเรือน เกรงว่าจะกลายเป็นสาวแก่ นั่นไม่เหมาะสมทั้งในด้านความรู้สึกและเหตุผล เสด็จพี่รองจึงคิดจะหาเจ้าบ่าวให้เจ้า คนที่ข้าหมายตาไว้คือซูผิงเป่ย บุตรชายคนโตของแม่ทัพใหญ่ซู เขาเพิ่งกลับจากชัยชนะในสนามรบ เจ้าน่าจะเคยได้ยินเรื่องราววีรกรรมของเขามาบ้าง?”หลี่เพ่ยเพ่ยตอบเบาๆ ว่า “เพ่ยเพ่ยเคยได้ยินถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของแม่ทัพซูอยู่บ้างเพคะ”หลี่เฉินยิ้ม “เช่นนั้นก็ดี แม่ทัพใหญ่ซูมีบุตรเพียงสองคน คือซูผิงเป่ยและซูจิ่นพ่า ซึ่งอีกไม่นานซูจิ่นพ่าก็จะเข้ามาเป็นชายาองค์รัชทาย

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 724

    เมื่อซูผิงเป่ยได้ยินคำพูดนี้ เขาอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนว่า “กระหม่อม…น้อมรับพระบัญชา”“นี่ไม่ใช่คำสั่งทหาร”หลี่เฉินเงยหน้ามองเขาแวบหนึ่งแล้วกล่าวว่า “การตกหลุมรักเป็นเรื่องของเจ้าเอง งานสมรสนี้ข้าจัดหาให้ แต่ความรู้สึกเป็นของเจ้า หากเจ้ารู้สึกว่าเข้ากันไม่ได้ ข้าก็จะไม่บังคับให้เจ้าต้องสมรส”แม้ว่าหลี่เฉินจะได้ประโยชน์จากการสมรส แต่เขายังคงมีจิตวิญญาณอย่างคนสมัยใหม่ จึงให้ความสำคัญกับความรู้สึกส่วนตัวในเรื่องการสมรสเขาคิดในใจว่าหากซูจิ่นพ่าเป็นคนที่หน้าตาน่าเกลียดมาก ต่อให้ผลประโยชน์ทางการเมืองจะมากเพียงใด เขาก็อาจจะยอมสมรสเพื่อผูกมิตรกับซูเจิ้นถิง แต่ซูจิ่นพ่าคงได้เป็นเพียงเครื่องหมายประดับในตำหนักหลังเท่านั้น คงไม่มีทางได้ขึ้นเป็นชายาองค์รัชทายาทเพราะการสมรสคือเรื่องสำคัญตลอดชีวิต เมื่อสมรสแล้ว หากไม่มีเหตุผลอันใหญ่หลวง จะต้องอยู่ร่วมกับคนๆ นั้นไปตลอด หลี่เฉินจึงเปิดโอกาสไว้เล็กน้อยสำหรับซูผิงเป่ยและหลี่เพ่ยเพ่ยถ้าหากไม่ชอบจริงๆ การบังคับสมรสก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีแต่ดูเหมือนว่าซูผิงเป่ยจะเข้าใจความหมายของหลี่เฉินผิดไป เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 725

    แม้หลี่เฉินจะไม่ได้รับสั่งใดๆ หรืออธิบายเพิ่มเติม แต่เฉินทงก็รู้ดีว่างานที่องค์รัชทายาททรงมอบหมายให้เขาดูแลด้วยตนเองนั้น จะต้องเป็นเรื่องลับแน่นอนยิ่งไปกว่านั้น เรื่องนี้ยังเกี่ยวข้องกับฮองเฮาและจ้าวไท่ไหลเพื่อความปลอดภัย เฉินทงจึงไม่ได้พาจ้าวไท่ไหลเข้าประตูใหญ่ แต่ใช้เส้นทางลับที่พวกขันที นางกำนัล และผู้ดูแลวังใช้เข้าออก โดยอ้อมเข้าประตูด้านข้างของพระราชวังหลวงระหว่างทาง เฉินทงไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เพียงนำทางจ้าวไท่ไหลที่เต็มไปด้วยความกังวลเดินไปอย่างเงียบๆส่วนจ้าวไท่ไหลนั้น ใจยังคงสับสนวุ่นวาย ไม่อาจทำใจยอมรับเรื่องที่บิดาของเขาต้องการฆ่าเขาได้เต็มที่ เขาจึงไม่ได้กล่าวอะไรเช่นกันทั้งสองเดินกันอย่างเงียบงันเป็นเวลาครึ่งชั่วยาม จนกระทั่งมาถึงหน้าตำหนักเฟิ่งสี่ทหารรักษาการณ์ นางกำนัล และขันทีในตำหนักเฟิ่งสี่ล้วนถูกเปลี่ยนให้เป็นคนของตำหนักบูรพา เฉินทงจึงสามารถพาจ้าวไท่ไหลเข้าไปได้โดยไม่มีอุปสรรคเมื่อเข้ามาในตำหนักเฟิ่งสี่แล้ว จ้าวชิงหลานที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนเห็นจ้าวไท่ไหลในชุดปลอมตัวก็ถึงกับประหลาดใจ“ท่านพี่!”เมื่อเห็นจ้าวชิงหลาน จ้าวไท่ไหลก็อดกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 726

    คำพูดของจ้าวไท่ไหลทำให้จ้าวชิงหลานถึงกับนิ่งอึ้งนางมองดูจ้าวไท่ไหลที่กำลังหมดหนทาง เบื้องหน้านางคือน้องชายที่ไร้ความหวัง จ้าวชิงหลานกัดฟันแน่นก่อนจะกล่าวว่า “เจ้าจะโทษใครได้? หากไม่ใช่เพราะเจ้าไม่เอาถ่าน ใช้ชีวิตก่อปัญหาไปวันๆ”“ถ้าเจ้าทำให้เขาเห็นความหวังบ้าง เขาจะทำเช่นนี้หรือ?”“มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย!”จ้าวไท่ไหลที่เต็มไปด้วยความกลัวและความกดดันมาทั้งวัน ทนฟังคำตำหนิของจ้าวชิงหลานไม่ไหว ความโกรธของเขาพุ่งพล่านเขาเอ่ยด้วยความโกรธ “ต่อให้ข้าไร้ค่าเพียงใด ข้าก็ยังเป็นลูกชายแท้ๆ ของเขา! ข้าเป็นสายเลือดตระกูลจ้าว เป็นคนสืบทอดวงศ์ตระกูลของเขา แล้วนี่เขาตอบแทนข้าด้วยการทำเช่นนี้หรือ?”“ที่ผ่านมา ต่อให้เขาตีข้าหรือด่าข้า ข้าก็ยังเคารพและชื่นชมเขาอยู่ในใจ แต่ตอนนี้เล่า? เขาคิดจะส่งข้าไปให้เหวินอ๋องระบายความโกรธ นี่เขาเสียสติไปแล้ว ท่านพี่มองไม่ออกหรือ?”“ตั้งแต่ตำหนักบูรพาเรืองอำนาจ องค์รัชทายาทแย่งอำนาจไปจากมือเขาแทบทั้งหมด เขาก็กลัวมาตลอด กลัวว่าตัวเองจะหมดสิ้นทุกสิ่ง เขาเคยเสวยสุขกับอำนาจมาทั้งชีวิต แต่ตอนนี้กลับคลุ้มคลั่งเพื่อปกป้องมัน!”“เขาส่งพี่ไปให้ฮ่องเต้ก่อน แต่แล้วฮ่อง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 727

    “อย่าทำตัวเหมือนผู้ชนะที่ได้ใจในสงครามต่อหน้าข้า บอกมาเถอะว่าท่านต้องการให้ข้าทำอะไร”คำพูดที่แข็งกร้าวของจ้าวชิงหลาน ทำให้รอยยิ้มอันภาคภูมิของหลี่เฉินหุบลง“อย่าทำหน้าบึ้งตึงไปเลย สิ่งที่ข้าต้องการให้ท่านทำนั้นง่ายมาก”เมื่อได้ยินดังนั้น จ้าวชิงหลานหัวเราะเยาะ ไม่เชื่อคำพูดนั้นแม้แต่น้อยหลี่เฉินจึงพูดต่อทันที“สิ่งที่ข้าต้องการ คือท่านไม่ต้องทำอะไรเลย”คำพูดนั้นทำให้สีหน้าของจ้าวชิงหลานหยุดนิ่งนางมองหลี่เฉินด้วยความตกตะลึง ดวงตาฉายแววไม่แน่ใจ“ชัดเจนหรือยัง? สิ่งที่ข้าต้องการจากท่านคือ…ไม่ต้องทำอะไรเลย”หลี่เฉินกล่าวเสริมอีกครั้งจ้าวชิงหลานมองเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะเข้าใจความหมายของเขา“ท่านต้องการให้ข้าไม่ให้ความร่วมมือใดๆ กับท่านพ่อของข้า ใช่หรือไม่?” จ้าวชิงหลานกัดฟันถามหลี่เฉินเพียงยิ้มโดยไม่ตอบ เพราะเขารู้ดีว่า จ้าวชิงหลานเข้าใจความหมายของเขาแล้ว“สำหรับจ้าวไท่ไหล ข้าจะจัดการเอง ตราบใดที่เขาว่านอนสอนง่าย ก็จะไม่มีใครทำอะไรเขาได้”พูดจบ หลี่เฉินก็ยืดเส้นยืดสายแล้วเดินออกจากตำหนัก“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ข้าจะขอตัวก่อน ช่วงนี้งานยุ่งมาก”จ้าวชิงหลานกัดริมฝีปาก ม

Latest chapter

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1063

    ตามคำอธิบายและเรื่องราวของฮ่องเต้ต้าสิง หลี่เฉินก็เริ่มมองเห็นถึงเบื้องลึกในจิตใจที่แท้จริงของฮ่องเต้พระองค์นี้ สิ่งที่พระองค์ต้องการ คือการสืบทอดราชบัลลังก์โดยไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันถึงรากฐานของบ้านเมือง และขุนนางชั่วอย่างจ้าวเสวียนจี ก็คือประกันภัยอีกชั้นหนึ่งที่พระองค์วางไว้ ตราบใดที่จ้าวเสวียนจียังอยู่ เขาก็จะกระหายอำนาจ และต้องพยายามลดบทบาทของฮ่องเต้แน่นอน แต่การลดบทบาทของฮ่องเต้หาใช่ปัญหาไม่ ขอเพียงฮ่องเต้ยังคงดำรงอยู่ อ๋องแห่งแคว้นย่อมไม่อาจก่อหวอด สถานการณ์ก็จะยังดำเนินต่อไปได้ กล่าวได้ว่า ฮ่องเต้ต้าสิงได้วางหมากไว้สองทาง ทางแรก คือหวังว่าจะมีบุตรผู้หนึ่งสามารถเติบโตขึ้นมาเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ มีสติปัญญาและความสามารถลึกซึ้ง กอบกู้สถานการณ์ได้ แต่เรื่องนี้ยากเกินไป อย่างน้อยในขณะวางแผน ฮ่องเต้ต้าสิงเองก็มองไม่เห็นความหวัง ดังนั้นพระองค์จึงเตรียมทางที่สอง ผลักดันให้เกิดขุนนางชั่วคนหนึ่ง เพื่อรักษาความมั่นคงของการถ่ายโอนอำนาจ แม้ฮ่องเต้จะเป็นเพียงหุ่นเชิด ตราบใดที่ยังเป็นบุตรของฮ่องเต้ต้าสิง แผ่นดินก็จะไม่ล่มสลาย ส่วนอำนาจนั้

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1062

    “เขาวางแผนมาอย่างยาวนาน บัดนี้ลูกกับเขาก็ถึงคราวแตกหัก ต่อให้มิใช่จ้าวเสวียนจี ลูกก็ไม่อาจอยู่อย่างสงบได้อีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” หลี่เฉินเงยหน้าขึ้นอย่างกล้าหาญ จ้องสบสายพระเนตรของฮ่องเต้เบื้องหน้า แม้พระวรกายจะซูบผอมดั่งน้ำมันหมดไส้เทียนใกล้มอด แต่ก็ยังเปี่ยมด้วยพลังสุดท้าย แล้วกล่าวสิ่งที่อยู่ในใจออกไป ฮ่องเต้ต้าสิงทรงฟังด้วยรอยยิ้ม รอจนหลี่เฉินพูดจบจึงเอ่ยว่า “ข้ากล่าวไปแล้ว เขา มิใช่สิ่งที่ควรกังวล” “เจ้าจะฆ่าเขาก็ได้ แต่ไม่ใช่เวลานี้” หลี่เฉินขมวดคิ้ว สีหน้างุนงงยิ่งนัก ฮ่องเต้ต้าสิงทอดถอนใจเบาๆ แล้วตรัสว่า “สามารถเดินมาถึงจุดนี้ เจ้าก็เกินกว่าความคาดหวังเดิมของข้าไปมาก แม้แต่อีกหลายการจัดวางที่ข้าวางไว้แต่แรก ข้าก็ไม่คิดว่าเจ้าจะได้ใช้จริง แต่ก้าวแล้วก้าวเล่า เจ้าก็ผ่านมาได้ทั้งหมด” “เจ้าควรรู้ว่า บางแผนที่ข้าวางไว้นั้น เริ่มตั้งแต่เมื่อครานานมาแล้ว” หลี่เฉินนึกถึงพี่น้องสกุลอู๋ จึงพยักหน้า “พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อทรงวางแผนอย่างลึกซึ้ง ลูกนับถือยิ่งนัก” “รอจนเจ้าได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ เจ้าก็จะเข้าใจเอง” ฮ่องเต้ต้าสิงตรัสเสียงเรียบ “ข้าวางแผนไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เจ้าคิดว่

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1061

    จ้าวหรุ่ยเงยหน้าขึ้น แม้ใบหน้ายังคงซีดเซียวอ่อนแรง แต่กลับมีสีเลือดระเรื่อขึ้นเล็กน้อย “ฝ่าบาท รีบเสด็จเข้าไปเถิด” จ้าวหรุ่ยกล่าวจบ ก็หลีกทางไปด้านข้าง หลี่เฉินจับมือของจ้าวหรุ่ยแน่น แล้วจึงก้าวเข้าไปภายใน จ้าวเสวียนจีตามเข้าไปติดๆ นี่เป็นครั้งแรกที่จ้าวเสวียนจีสนทนากับจ้าวหรุ่ยหลังจากจ้าวหรุ่ยทรยศ “เจ้าคุกเข่าจนฮ่องเต้ทรงฟื้นคืนหรือ?” จ้าวเสวียนจีกล่าวเสียงเรียบ จ้าวหรุ่ยก้มหน้า ไม่กล้ามองจ้าวเสวียนจี เอ่ยเสียงแผ่วเบา “ฮ่องเต้ทรงมีฟ้าคุ้มครองเพคะ” “ข้าไม่คาดคิดเลยจริงๆ” จ้าวเสวียนจีทิ้งประโยคหนึ่งอย่างมีนัย แล้วจึงติดตามหลี่เฉินเข้าไป จ้าวหรุ่ยเม้มริมฝีปาก ก้มหน้าถอยออกจากประตูตำหนักบรรทม ภายในตำหนักเฉียนชิง หลี่เฉินเห็นฮ่องเต้ต้าสิง...ทรงยืนขึ้นแล้ว พระองค์ทรงสวมเสื้อชั้นในสีเหลืองอ่อนที่เพิ่งผลัดเปลี่ยนใหม่ ซึ่งอาจนับเป็นชุดนอนหรือชุดชั้นในก็ได้ หลี่เฉินไม่รู้สึกแปลกตากับฉลองพระองค์ชุดนี้นัก ขณะฮ่องเต้ต้าสิงบรรทมบนเตียง ก็ทรงสวมเช่นนี้ แต่หลังจากเขาข้ามมิติมา ก็เป็นครั้งแรกที่เห็นฮ่องเต้ทรงมีสติและยืนอยู่ “อย่างไรหรือ เห็นข้าแล้ว ถึงกับลืมคำ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1060

    ประโยคเดียวว่าฮ่องเต้ทรงฟื้นแล้วสร้างแรงสะเทือนใจแก่ทุกผู้คนยิ่งกว่าเสียงฟ้าร้องเหนือศีรษะแม้กระทั่งทหารที่ไล่ตามขันทีน้อยมาแต่แรกยังถึงกับตื่นตะลึงถ้อยคำของขันทีน้อยยังไม่ทันจบประโยค เงาร่างสายหนึ่งพลันแวบขึ้นตรงหน้าเขา ซานเป่าได้คว้าตัวเขาไว้แล้ว“เจ้าว่าอะไรนะ?!”ขันทีน้อยผู้นั้นเป็นเพียงขันทีระดับต่ำสุด เคยเห็นซานเป่าจากที่ไกลๆ เท่านั้น หากแต่ความแตกต่างระหว่างฐานะของทั้งสองทำให้เขาไม่เคยมีสิทธิแม้แต่จะกล่าวคำกับซานเป่ายังไม่ทันตั้งสติจากแรงกดดันของซานเป่า ซูเจิ้นถิงและเหล่าขุนนางใหญ่น้อยก็พากันล้อมเขาไว้หมดแล้ว“บ่าว...บ่าวกล่าวว่า...ฮ่อง...ฮ่องเต้ทรงฟื้นแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ขันทีน้อยตัวสั่นระริก พูดติดขัดแทบจับใจความไม่ได้ โชคยังดีที่เขายังจำหน้าที่ของตนเองได้“ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่ง ขอให้องค์รัชทายาทและสำนักราชเลขาเข้าเฝ้าทันที”ซานเป่ากับซูเจิ้นถิงสบตากัน แล้วก็ตัดสินใจได้ทันควัน“ไม่ได้!”จางปี้อู่ตะโกนลั่น “ใครจะรู้ว่านั่นไม่ใช่ราชโองการปลอมล่ะ!”“เจ้าบังอาจแอบอ้างหาบรรพบุรุษงั้นรึ!”ซูเจิ้นถิงสบถกลับด้วยความโกรธ แล้วซัดหมัดหนักเข้าที่ใบหน้าของจางปี้อู่อย่างจังจางปี้

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1059

    “จ้าวเสวียนจี เจ้าทำเรื่องมากมาย วางแผนมานักหนา ท้ายที่สุดแล้วก็เพื่อสิ่งใดกันแน่”หลี่เฉินชี้ไปยังบัลลังก์มังกร ถามว่า “เพื่อจะได้ขึ้นนั่งบนนั้นหรือ”จ้าวเสวียนจีมองตามนิ้วของหลี่เฉินไปยังบัลลังก์มังกร กล่าวอย่างราบเรียบว่า “มิใช่ หากกระหม่อมประสงค์จะขึ้นนั่งบัลลังก์ กระหม่อมสามารถลงมือได้ตั้งแต่เมื่อปีกลายแล้ว แม้แต่ก่อนหน้านั้น กระหม่อมก็ยังมีโอกาสดีกว่านี้อีกมาก จะต้องรอให้ฝ่าบาททรงมีอำนาจมั่นคงก่อนแล้วจึงลงมือไปเพื่ออันใดกันเล่า”“หรือมิใช่เพราะเจ้าคิดว่าควบคุมตัวข้าได้ยาก จึงต้องเสี่ยงเอาดาบเข้าวัดอย่างนั้นหรือ” หลี่เฉินหัวเราะเย็นชาจ้าวเสวียนจีถอนหายใจเบาๆ สีหน้ากลับแฝงด้วยความหดหู่ยิ่งนัก กล่าวว่า “ฝ่าบาท พระองค์มิใช่กระหม่อม ย่อมไม่รู้ความลำบากของกระหม่อม”“บัลลังก์นั้น นั่งแล้วสบายหรือ ไม่เลย”จ้าวเสวียนจีหันหน้ากลับมามองหลี่เฉิน กล่าวว่า “กระหม่อมแทบจะเฝ้าดูฮ่องเต้ขึ้นครองบัลลังก์กับตาตนเอง ตลอดหลายปีมานี้ ในท้ายที่สุด ฮ่องเต้ได้อะไรกลับมาบ้าง”“กระหม่อมชราภาพแล้ว ไม่รู้ว่ายังจะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่ปี อีกทั้งบุตรหลานของกระหม่อมก็สูญสิ้นไร้ร่องรอย หากกระหม่อมขึ้นไปนั่ง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1058

    หลี่เฉินหันขวับกลับมาเผชิญหน้าจ้าวเสวียนจี ดวงตาเย็นเยียบดั่งน้ำแข็งจ้าวเสวียนจีเงยหน้าขึ้น ยืนตัวตรง มาดอ่อนน้อมเมื่อครู่พลันสลาย เหลือเพียงท่วงท่าท้าทายอย่างเปิดเผยหลี่เฉินเอ่ยเรียบเย็น “ข้าเพิ่งรู้ว่า...ขุนนางอาวุโส สูงไม่น้อยเลยทีเดียว”จ้าวเสวียนจีตอบ “กระหม่อม...แค่เคยชินกับการโค้งก้มเท่านั้น แต่ครั้งนี้...กระหม่อมไม่อยากก้มอีกแล้ว”เขายกมือชี้ออกไปทางประตูพระที่นั่งไท่เหอ ก่อนกล่าวว่า “ทหารมีดดาบชั้นยอดจำนวนสามพันนาย บัดนี้อยู่ภายนอกพระที่นั่งไท่เหอเรียบร้อยแล้ว”“กระหม่อมรู้ดีว่า ฝ่าบาทมีปืนไฟ และอาวุธที่ระเบิดเทพต้าฉินทรงพลังยิ่ง หากให้เวลาพัฒนา คงกลายเป็นอาวุธสังหารอันน่าสะพรึงกลัวในอนาคต แต่เวลานี้ ฝ่าบาทมีน้อยเกินไป อีกทั้งในค่ำคืนที่ฝนตกหนักเช่นนี้ อานุภาพของอาวุธไฟก็จะลดลงจนเหลือน้อยนิด”“ที่สำคัญที่สุดก็คือ... ทหารทั้งสามพันนายของกระหม่อม ล้วนเป็นยอดฝีมือระดับแนวหน้าแห่งยุทธภพ สามารถกวาดล้างกองทัพปกติหนึ่งหมื่นนายได้ภายในเวลาอันสั้น”จ้าวเสวียนจีหัวเราะเบาๆ ราวกับได้พลิกไพ่ลับที่เตรียมไว้มาเนิ่นนาน มีความภูมิใจอย่างปิดไม่มิด “ที่สำคัญที่สุดคือ… ทหารสามพันนี้ มิใ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1057

    คำพูดของจ้าวเสวียนจี ได้เผยให้เห็นสถานการณ์ที่น่าอึดอัดที่สุดของหลี่เฉินอย่างหมดเปลือก ไม่มีแม้แต่นิดเดียวที่หลงเหลือให้ปิดบังหลี่เฉินในตอนนี้ แม้จะเป็นองค์รัชทายาท แม้จะทำหน้าที่สำเร็จราชการแทนพระองค์ แต่สิทธิอำนาจในมือของเขา โดยรากแท้แล้วยังคงเป็นสิ่งที่ฮ่องเต้ประทานให้ตราบใดที่หลี่เฉินยังไม่ขึ้นครองราชย์ ไม่ได้สวมชุดมังกร เช่นนั้นเขาก็ไม่อาจครอบครองราชอำนาจแท้จริงได้เลยต่อบรรดาข้าราชการท้องถิ่นแล้ว พวกเขายอมรับแค่สิ่งเดียว...ราชโองการ ยอมรับแค่บุคคลเดียว...ฮ่องเต้นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพายุการเมืองในครั้งนี้ ถึงเรียกได้เพียงว่า "พายุการเมือง" มิใช่การชิงราชสมบัติในสายตาของปวงชนแผ่นดิน สิ่งที่พวกเขาเห็น ก็แค่ความขัดแย้งระหว่างองค์รัชทายาทกับฝ่ายสำนักราชเลขาที่รุนแรงจนถึงขั้นยกทัพใส่กัน มิใช่การกบฏแย่งชิงราชบัลลังก์ของสำนักราชเลขาสองสิ่งนี้...แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงหากหลี่เฉินคือฮ่องเต้จริงๆ การกระทำของจ้าวเสวียนจีทั้งหมดนี้ ก็จะกลายเป็นการชิงบัลลังก์อย่างชัดเจน และจะก่อให้เกิดความโกลาหลไปทั่วทั้งแผ่นดิน ขุนนางในทุกหัวระแหงที่ยังมีความจงรักภักดีและสำนึกในคุณธรรม ย่อมต้องลุ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1056

    “ด้านนอกลมฝนรุนแรง ฝ่าบาททรงเปียกโชกทั้งตัว ดูก็รู้ว่าเส้นทางที่ก้าวเข้ามา ไม่ได้ราบรื่นเลยแม้แต่น้อย”จ้าวเสวียนจีมองหลี่เฉินด้วยแววตาสงบนิ่ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ใบหน้าแลดูใจดีอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ“ลมฝนหนักเช่นนี้ มีใครเล่าจะก้าวเดินได้อย่างสบาย?”หลี่เฉินพลิกมือปิดประตูพระที่นั่ง ลมฝนภายนอกถูกสกัดไว้ทันที ความสงบและอบอุ่นจึงกลับคืนสู่ท้องพระโรงอีกครั้ง“หากเพียงต้องการมุมหนึ่งอันสงบสุข ก็แค่ปิดประตูเท่านั้น ความสงบก็จะอยู่กับเราแล้วไม่ใช่หรือ?”จ้าวเสวียนจีกล่าว “ดี ฝ่าบาทตรัสได้ถูกต้องอย่างยิ่ง”หลี่เฉินย่างเท้าเข้าสู่พระที่นั่งไท่เหอด้วยฝีเท้าหนักแน่น หยุดยืนอยู่เบื้องล่างบัลลังก์ หันไปมองเก้าอี้มังกรแล้วเอ่ยกับจ้าวเสวียนจีข้างกาย “เก้าอี้ตัวนี้ ช่างเย้ายวนใจนักใช่หรือไม่?”จ้าวเสวียนจีก็มองไปยังเก้าอี้มังกรร่วมกับหลี่เฉินเขาไม่ได้ตอบคำถามของหลี่เฉิน กลับกล่าวเพียงว่า “ฝ่าบาท ถอยเถิด”หลี่เฉินหัวเราะเบาๆ ไม่ขยับสายตา ไม่ตอบคำใด“กระหม่อมให้คำมั่น ว่าจะปกป้องฝ่าบาทให้ปลอดภัยไปตลอดชีวิต คำมั่นของกระหม่อมนี้ ฝ่าบาทเชื่อถือได้แน่นอน”หลี่เฉินพยักหน้า “ฟังดูจริงใจดี”

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1055

    หลี่เฉินหันไปมองซูจิ่นพ่าที่อยู่ข้างกาย ยิ้มอ่อนเอ่ยว่า “เจ้าทำให้ข้ารู้สึกประหลาดใจมาก”ซูจิ่นพ่าไม่ได้ตอบ เพียงยอบกายทำความเคารพแบบสตรีผู้สูงศักดิ์อย่างอ่อนช้อยหลี่เฉินหลุดหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันไปกล่าวกับซูเจิ้นถิงว่า “แม่ทัพซู ลูกหลานตระกูลแม่ทัพเสือเจ้าฝีมือ เจ้าช่างมีบุตรีที่ดีนัก”ซูเจิ้นถิงก่อนหน้านี้อยู่หน้าประตูวัง เมื่อเขามาถึงพอดีกับที่ซูจิ่นพ่ากำลังตำหนีขุนนางพวกนั้น ด้วยสัญชาตญาณจึงไม่ได้รีบเข้าไป และการรอเพียงครู่เดียวนี้ ก็ทำให้เขาได้เห็นฝีมือกับสติปัญญาของบุตรสาวตัวเองอย่างชัดเจน นับว่ายอดเยี่ยมอย่างแท้จริง“ฝ่าบาทตรัสเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูเจิ้นถิงยกมือขึ้นคารวะ แล้วหันไปมองจางปี้อู่และขุนนางฝ่ายสำนักราชเลขาที่ใบหน้านิ่งสงบ จากนั้นกล่าวว่า “ฝ่าบาท ที่นี่ขอให้เป็นหน้าที่ของกระหม่อมกับท่านอาจารย์เถิดพ่ะย่ะค่ะ”ทหารย่อมต่อสู้กับทหาร แม่ทัพย่อมรับมือแม่ทัพบุคคลที่หลี่เฉินตั้งใจจะรับมือมาตลอด ไม่ใช่จางปี้อู่ และไม่ใช่ขุนนางทั้งหลายที่อยู่เบื้องหลังเขาเหล่านั้นแต่คือ...จ้าวเสวียนจี“ดี”หลี่เฉินพยักหน้าเบาๆ แล้วหมุนกาย มุ่งหน้าเข้าสู่พระที่นั่งไท่เหอในขณะที่หลี

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status