Share

บทที่ 507

Author: ไห่ตงชิง
“เจ้ามาทำไม!?”

จ้าวชิงหลานที่กำลังเอนกายบนแท่นบรรทมหงส์ และขมวดคิ้วมองซุปสีดำในถ้วย

พอเห็นหลี่เฉินเดินเข้ามา ปฏิกิริยาแรกของนางคือกล่าวประโยคนี้

หลี่เฉินไม่ได้แสดงความสุภาพใดๆ เขานั่งบนขอบแท่นบรรทมตามอำเภอใจแล้วพูดว่า “ก็มาดูว่าเจ้าหายดีแล้วหรือยัง”

ใบหน้างามของจ้าวชิงหลานดูเยือกเย็น นางกล่าวเสียงเย็นชาว่า “ถ้าเจ้าไม่ปรากฏตัวต่อหน้าข้า ข้าคงอาการดีขึ้นเร็วกว่าเดิม”

หลี่เฉินได้ยินแบบนั้นก็ถามว่า “หากข้ามาเยี่ยมทุกวัน เจ้าไม่โกรธจนตายเลยหรือ?”

“เจ้า!”

ดวงตาหงส์ฉายแววชั่วร้าย ใบหน้างามพลันเย็นชา จ้าวชิงหลานกัดฟันแน่นและอยากจะตำหนิอีกฝ่าย แต่เมื่อคิดขึ้นได้ว่าคนตรงหน้าหัวแข็งเพียงใด ก็ทำได้แค่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเท่านั้น ก่อนจะเบือนหน้าหนีไม่สนใจ

นางรู้สึกว่าไม่ว่าปฏิกิริยาของนางจะเป็นอย่างไร ตราบใดที่นางตอบ หลี่เฉินก็จะพบกับความสนุกในนั้น แต่ถ้าหากนางปฏิบัติต่อหลี่เฉินเหมือนเป็นธาตุอากาศ หลี่เฉินก็จะค่อยๆ รู้สึกเบื่อหน่าย และไม่อยากยุ่งอีกต่อไป

เมื่อเห็นว่าจ้าวชิงหลานเพิกเฉยต่อเขา หลี่เฉินก็เข้าใจแผนการของนางทันที

หลี่เฉินไม่โกรธและไม่ได้รู้สึกผิดหวัง

การได้หยอกล้อม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 508

    “แล้วเจ้าเห็นด้วยไหม?” จ้าวชิงหลานถามต่อ “เจ้าคิดว่าข้าจะตกลงไหม?” หลี่เฉินพูดแบบลอยๆ “ไม่ว่าจะเป็นสำนักบัวขาวหรือหลี่อิ๋นหู่ พวกมันคือสิ่งที่ข้าต้องกำจัด แล้วข้าจะมอบอำนาจนี้ให้กับหลี่อิ๋นหู่ได้อย่างไร” “บางที...”หลี่เฉินป้อนยาอีกช้อนเข้าไปในปากของจ้าวชิงหลาน พลางพูดด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้มว่า “และถึงแม้ว่าข้าต้องการจะให้ แต่บิดาของเจ้าก็ต้องให้ผลประโยชน์ที่เพียงพอในการแลกเปลี่ยน ถ้าเขาสามารถลืมเรื่องที่หลี่อิ๋นหู่เกือบฆ่าลูกสาวของเขาเพื่อผลประโยชน์ได้ เช่นนั้นเพื่อผลประโยชน์แล้ว เขาก็สามารถแลกเปลี่ยนได้เช่นกัน” จ้าวชิงหลานก็พลันตระหนักขึ้นมา “ที่แท้เจ้าก็มาที่นี่เพื่อเรื่องนี้!”“การเมืองไม่มีอะไรมากไปกว่าเกม ในเวทีการเมือง ไม่มีศัตรูที่ถาวรและไม่มีมิตรแท้ที่ถาวร มีเพียงผลประโยชน์เท่านั้นที่จะคงอยู่ตลอดไป” “แล้วเจ้าล่ะ”จู่ๆ หลี่เฉินก็เปลี่ยนเรื่องและถามด้วยรอยยิ้ม “รู้สึกอย่างไรเมื่อรู้ว่าบิดาของเจ้าไม่เพียงแต่ไม่สนับสนุนเจ้าเท่านั้น แต่ยังร่วมมือกับหลี่อิ๋นหู่อีกด้วย?”จ้าวชิงหลานมองไปที่หลี่เฉินและหัวเราะเยาะ “พูดมากขนาดนี้ เจ้ามาที่นี่เพื่อสร้างความขัดแย้งร

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 509

    พูดตามหลักเหตุผลแล้ว หลี่เฉินคือองค์รัชทายาท และนางสนมในวังหลังก็เป็นนางสนมของจักรพรรดิ และพวกเขาล้วนเป็นผู้อาวุโสในนามของหลี่เฉินไม่ว่าจะมองมุมไหน หลี่เฉินก็ไม่มีคุณสมบัติหรืออำนาจที่จะดุนางสนมในวังหลัง แต่สถานการณ์ในตอนนี้กลับพิเศษเพราะองค์จักรพรรดิหมดสติมาเป็นเวลานานแล้ว และอำนาจของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ขององค์รัชทายาทก็รุ่งเรืองมากขึ้น ทุกคนรู้ดีว่าหากจักรพรรดิสิ้นพระชนม์ องค์รัชทายาทก็จะขึ้นครองบัลลังก์ทันทีดังนั้นเวลานี้ หลี่เฉินจึงตำหนินางสนมในวังหลังอย่างมั่นใจ ยิ่งไปกว่านั้นนางสนมก็ประพฤติตัวไม่เหมาะสมในเรื่องนี้จริงๆ นางสนมหน้าซีดด้วยความหวาดกลัว ตั้งแต่สมัยโบราณ เพื่อปกปิดเรื่องอื้อฉาว ราชวงศ์ได้ฆ่าคนเพื่อปิดปากบ่อยมากแค่ไหน?ถึงแม้ว่านางจะเป็นสนมขององค์จักรพรรดิ แต่สถานการณ์ในปัจจุบัน หากองค์รัชทายาทต้องการจะฆ่านาง แค่คำเดียวชีวิตของนางก็จบเห่แล้ว “หม่อมฉัน...หม่อมฉัน...”เมื่อเห็นนางสนมหวาดกลัวจนพูดไม่ออก หลี่เฉินก็ดุไปว่า “ยังไม่รีบออกไปอีก!? หรือยังเห็นไม่พอ!?”นางสนมตื่นตระหนกและถอยออกไปอย่างรวดเร็วหลี่เฉินวางชามซุปลง ยืนขึ้นแล้วพูดกับจ้าวชิงหลา

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 510

    “อืม ไม่เลว”หลี่เฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็ชี้ไปที่กองสาส์นกราบทูลประมาณสิบกว่ากองที่มุมหนึ่งของพระที่นั่งสีเจิ้ง แล้วพูดว่า “สาส์นกราบทูลพวกนั้น เจ้าไปหยิบมาอ่านสักอันสิ” เจิ้งเป่าหรงสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้าฝ่าฝืนคำพูดขององค์รัชทายาท เขาหยิบสาส์นกราบทูลขึ้นมาสองสามอันด้วยความสับสน และอ่านมันอย่างคร่าวๆ เมื่อกวาดสายตาอ่าน สีหน้าของเจิ้งเป่าหรงก็ดูมีชีวิตชีวาอย่างยิ่งหลี่เฉินเอนตัวพิงเก้าอี้แล้วพูดว่า “หลายวันมานี้ ผู้ตรวจการของสำนักตรวจการขนสาส์นกราบทูลของเจ้า เข้ามาที่นี่เป็นจำนวนมากทุกวัน ในนั้นแสดงรายการอาชญากรรมของเจ้า ซึ่งไม่มีอะไรมากไปกว่าการใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและกลั่นแกล้งคนดี พวกเขาบอกว่าเจ้าอาศัยสิทธิพิเศษที่ตำหนักบูรพามอบให้เจ้า กดดันเจ้าของที่ดินรอบเมืองหลวงและบังคับให้พวกเขาปลูกมันเทศ” “ผู้ที่เห็นด้วยก็จะพูดคุยกันได้ง่าย ส่วนผู้ที่ไม่เห็นด้วย เจ้าก็จะข่มขู่พวกเขาด้วยหน่วยบูรพาและตำหนักบูรพาเสมอ”“ที่ร้ายแรงที่สุดคือ เจ้ายังย้ายเจ้าหน้าที่ทหารในศาลของเมืองหลวงไปบังคับซื้อที่ดิน ซึ่งส่งผลให้มีการต่อสู้ระหว่างผู้คนกว่าสิบคน เรื่องนี้จริงหรือ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 511

    หลี่เฉินพูดจบ เจิ้งเป่าหรงก็ตื่นจากความฝันเขารู้สึกว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นผู้ว่าการเมืองหลวง ทำอะไรก็เจอแต่ความลำบากใจและโดนดูถูกอยู่เสมอ มีหลายครั้งที่เขาอยากจะกลับไปยังเวยไห่เว่ย เพื่อกลับไปเป็นราชาท้องถิ่นตามเดิมแต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าองค์รัชทายาทต่อต้านการโจมตีที่เปิดเผยและแอบแฝงนับไม่ถ้วนเพื่อเขาน้ำในเมืองหลวงลึกแค่ไหน ตอนนี้เจิ้งเป่าหรงได้ก้าวเข้ามาทดสอบความลึกด้วยตัวเองแล้ว“แม้ว่าข้าจะยอมให้เจ้าฝ่าฝืนกฎบางอย่างโดยปริยาย แต่เจ้าก็ต้องใส่ใจกับวิธีการและรูปแบบทำงานของเจ้าด้วย เมื่อออกไปข้างนอกเจ้าตะโกนว่าข้าเป็นผู้สนับสนุนของเจ้า หากยังเป็นเช่นนี้ต่อ ไปไม่ว่าหนังเสือจะมีประโยชน์แค่ไหน แต่สักวันหนึ่งมันจะหมดฤทธิ์ไปเอง”หลี่เฉินพูดอย่างจริงจัง “จำไว้ว่า วิธีการและอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของเจ้า จะน่ากลัวที่สุดก็ต่อเมื่อไม่ได้ใช้มันเท่านั้น หากพวกมันถูกใช้จริงๆ พลังในการคุกคามจะน้อยลงกว่าเดิมมาก”เจิ้งเป่าหรงครุ่นคิด และโค้งคำนับอย่างลึกซึ้งแล้วกล่าวว่า “กระหม่อมขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงชี้แนะ”“ที่ข้าชี้แนะเจ้าก็เพราะเจ้ายังเป็นวัสดุที่สามารถใช้งานได้ในอนาคต อย่างน้อยงานส่งเสริม

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 512

    “จอมพลซู ตอนนี้แม่ทัพหลิวเฉิงได้ทำลายค่ายป้องการปีกซ้ายของตงอิ๋งแล้ว ตอนนี้เรามีสองทางเลือก”แม่ทัพคนหนึ่งประสานมือ และชี้ไปที่จุดสีดำทางด้านซ้ายของแผนที่ซึ่งเป็นตัวแทนของแม่ทัพหลิวเฉิง แล้วกล่าวว่า “เราสามารถปรับแผนที่วางไว้ก่อนหน้านี้ได้ ด้วยการสั่งให้แม่ทัพหลิวเฉิงโจมตีกองทัพหลักของตงอิ๋งจากทางฝั่งซ้าย ร่วมกับกองทัพของพวกเราที่สนามรบด้านหน้า ปิดล้อมพวกมันเป็นเกี๊ยว”“อีกทางหนึ่งคือตรงไปยังที่ตั้งของแม่ทัพหวงไห่เหอ และร่วมมือกับแม่ทัพหวงไห่เหอเพื่อทำลายกองทัพของแม่ทัพอุเมกาวะทั้งหมด เมื่อถึงตอนนั้นแม่ทัพหลิวเฉิงและแม่ทัพหวงไห่เหอจะมีกำลังทหารทั้งหมด 12,000 นาย ซึ่งเพียงพอที่จะเอาชนะสนามรบครั้งนี้ได้”การวิเคราะห์ของแม่ทัพคนนั้นชัดเจนและสมเหตุสมผลมาก และคนอื่นๆ ในกระโจมหลักที่ได้ฟังก็พยักหน้าดวงตาของซูผิงเป่ยสั่นไหว เขาไม่ได้ตัดสินใจทันที แต่ถามว่า “ทุกท่านคิดว่าอย่างไร?”ทันใดนั้นแม่ทัพทุกนายก็แสดงความคิดเห็นทีละคน บางคนสนับสนุนให้หลิวเฉิงทำการรบขนาบข้างตามแผนที่วางไว้ล่วงหน้า ในขณะที่บางคนบอกว่ามันเสี่ยงเกินไป ควรเปลี่ยนไปรวมตัวกับแม่ทัพหวงไห่เหอก่อน ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 513

    การต่อสู้ขั้นแตกหักเริ่มต้นขึ้นโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ซึ่งทำให้หลายคนประหลาดใจการสู้รบในสมัยโบราณก็เป็นเช่นนี้ เนื่องจากความไม่สะดวกในการสื่อสาร จึงมักใช้เวลาหลายวันในการส่งข่าวการเดินทางกลับไปกลับมาก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนดังนั้นตราบใดที่พวกเขาไม่ได้เผชิญหน้ากับจักรพรรดิทรราช การบัญชาการรบในสนามรบ แม่ทัพก็สามารถสั่งการได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะทำให้การรบในต่างแดนมีประสิทธิภาพที่สูงมากสถานการณ์ในสนามรบเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเป็นไปไม่ได้ที่จะคาดการณ์และเตรียมการจัดวางกำลังได้อย่างแม่นยำ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับระดับและความสามารถของผู้บัญชาการทหารในแนวหน้า และฝ่ายสนับสนุนด้านหลังก็ไม่สามารถตัดสินใจใดๆ ในสนามรบได้ดังนั้น ตราบใดที่ซูผิงเป่ยคิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมจะสู้ชี้ขาด จึงไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นในขณะที่การต่อสู้ขั้นแตกหักซึ่งกำหนดผลลัพธ์ของสงครามทั้งหมดเริ่มต้นขึ้น หลี่เฉินซึ่งอยู่ในเมืองหลวงห่างออกไป ก็ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้เขากำลังอยู่ในพระที่นั่งร้อยบุปผาโดยเล่นพลิกผ้าห่มกับจ้าวหรุ่ยที่เพิ่งกลับมาแผ่นหลังอันเรียบเนียนถูกปกคลุมไปด้วยเม็ดเหงื่อ และผิวที่

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 514

    เห็นได้ชัดว่าเนื้อหาของสาส์นกราบทูลฉบับนี้จะต้องมีความสำคัญอย่างยิ่ง จนไม่กล้าตัดสินใจด้วยตัวเอง หรือหวังจะใช้ตำแหน่งของจ้าวหรุ่ยที่อยู่ข้างกายหลี่เฉิน อำนวยความสะดวกในการเกริ่นเนื้อหาที่อยู่ด้านในของสาส์นกราบทูล หลี่เฉินรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี “อากาศหนาวเช่นนี้ เหตุใดเจ้าถึงลงไปคุกเข่าที่พื้นทั้งที่เปลือยเปล่าเล่า ลุกขึ้นมาเถอะ”หลี่เฉินรับสาส์นกราบทูล พลางจับข้อมือของจ้าวหรุ่ยแล้วดึงนางขึ้นมาบนเตียงหลี่เฉินวางแขนของเขาโอบรอบเอวของจ้าวหรุ่ย และปล่อยให้นางเอนตัวในอ้อมแขนของเขา จากนั้นก็กล่าวพร้อมกับรอยยิ้มว่า “แต่ทิวทัศน์เมื่อครู่ก็น่าชมมาก”ใบหน้าที่สวยงามของจ้าวหรุ่ยแดงเล็กน้อย เมื่อสักครู่นี้นางรู้สึกหวาดกลัวเกินไป และยังถูกกระตุ้นด้วยลมหนาว เวลานี้ร่างกายที่บอบบางอยู่แล้วก็ยิ่งอ่อนแอเข้าไปใย นางหวังแค่ว่าจะรวมร่างของนางเข้าไปในร่างกายขององค์รัชทายาทได้ยิ่งดี แม้จะปลอบใจจ้าวหรุ่ย แต่ในใจของหลี่เฉินก็ไม่ได้ผ่อนคลายเมื่อจำนวนคนที่อยู่ใต้เขาเพิ่มขึ้น ทุกคนก็มีความคิดและวิธีการของตัวเองเช่นกัน ความจริงที่ว่าจ้าวเหอซานยืมมือของจ้าวหรุ่ยเพื่อส่งมอบสาส์นกราบทูลให้นั้น จะว่

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 515

    “เรื่องนี้มีข้อดีสามประการ”“ประการที่หนึ่ง ทุ่งนาร้างสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ จะได้ไม่ไร้คนมาปลูกนา”“ประการที่สอง เราสามารถกำจัดผู้ประสบภัยอย่างน้อยครึ่งหนึ่งที่รวมตัวกันอยู่ในมณฑลซีซาน แบ่งที่นาให้กับพวกเขา เพื่อให้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้”“ประการที่สาม เรื่องนี้จะส่งผลต่ออิทธิพลของกลุ่มกบฏ ทำให้พวกเขาวางอาวุธลง หยิบจอบขึ้นมา และหยุดการก่อกบฏ ท้ายที่สุดแล้วกฎหมายไม่ได้ลงโทษมวลชน และคนที่ราชสำนักต้องการจะลงโทษคือพวกผู้นำในการก่อกบฏ ไม่ใช่ชาวนาเหล่านี้” “แต่ข้อเสียก็มีไม่น้อย”“ประการที่หนึ่ง นับตั้งแต่ก่อตั้งราชวงศ์นี้ เมื่อสิบกว่าปีก่อน หลังจากการสังหารหมู่ที่ด่านอวี้เหมิน เมืองชายแดนหลายแห่งเกือบจะกลายเป็นเมืองผี ราชสำนักจึงย้ายคน 300,000 คนไปอาศัยอยู่ที่นั่นและแบ่งพื้นที่ทำนา แต่ครั้งนั้นและครั้งนี้ โดยพื้นฐานแล้วแตกต่างกัน ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าไม่มีตัวอย่างในการแบ่งที่นาใหม่หลังภัยพิบัติ มิหนำซ้ำ ถ้าหากใช้วิธีการนี้จริงๆ แล้วมณฑลอื่นๆ ทั่วทั้งจักรวรรดิจะคิดอย่างไร ถึงแม้ว่ามณฑลซีซานจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามณฑลอื่นจะเบากว่า”“ประการที่สอง หากแบ่งที

Latest chapter

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 978

    หวงจี๋เทียนจากไปด้วยความพึงพอใจ หลังจากนั้น หลี่เฉินก็สะสางภาระงานของวันนี้จนเสร็จเรียบร้อย แต่กลับไม่ได้ไปพักผ่อนเหมือนเช่นเคยวั่นเจียวเจียวเดินเข้ามารินน้ำชาให้หลี่เฉิน พลางกล่าวเสียงเบา "องค์ชาย ควรจะพักผ่อนแล้วเพคะ"หลี่เฉินที่กำลังก้มหน้าดูตำราอยู่ ตอบกลับไปโดยไม่เงยหน้า "วันนี้ต้องอยู่ดึกหน่อย ข้ารอคนคนหนึ่ง""รอคน? องค์ชายต้องการพบท่านใด ให้เขามาพบก็สิ้นเรื่อง ไฉนต้องเป็นองค์ชายที่ต้องรอ?" วั่นเจียวเจียวกล่าวด้วยความไม่พอใจหลี่เฉินหัวเราะเบา "คนผู้นี้ ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะมาเมื่อใด แต่ที่แน่ๆ เขาต้องมา และเมื่อมาถึง เขาจะต้องนำข่าวคราวของหลี่อิ๋นหู่มาให้ข้าอย่างแน่นอน"วั่นเจียวเจียวกระพริบตา ไม่เข้าใจนักแต่ก็ไม่ได้ถามต่อหลี่เฉินกวาดตามองไปรอบๆ พระที่นั่งสีเจิ้ง ก่อนจะเอ่ยถาม "ช่วงนี้ไม่เห็นกงฮุยอวี่เลย หายไปไหน?"วั่นเจียวเจียวเบ้ปาก "องค์ชายเองยังไม่รู้ บ่าวจะรู้ได้อย่างไรเพคะ? ช่วงนี้นางทำตัวลึกลับเหลือเกิน ไม่เห็นหน้าเลยสักวัน บางทีอาจจะหนีไปแล้วก็ได้"หลี่เฉินวางตำรา ก่อนจะใช้หนังสือตีลงบนศีรษะของวั่นเจียวเจียวเบาๆ แล้วกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ "เลิกเล่นแง่ได้แล้ว

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 977

    หลี่เฉินเชี่ยวชาญในเรื่องการใช้ช่องว่างของข้อมูล เพื่อสร้างผลประโยชน์ที่สุดหวงจี๋เทียนไม่มีทางรู้ถึงสถานการณ์ที่พลิกผันภายในต้าฉินในขณะนี้ และยิ่งไม่รู้ว่าหลี่เฉินได้ดำเนินการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่รอให้วันพรุ่งนี้ประกาศพระราชโองการ เพื่อลบล้างตำแหน่งและอำนาจทั้งหมดของหลี่อิ๋นหู่ พร้อมกับขับไล่ออกจากทำเนียบราชวงศ์ดังนั้น บุญคุณตามน้ำนี้ หลี่เฉินจึงยินดีมอบให้โดยไม่ลังเลถึงแม้ว่าภายหลังหวงจี๋เทียนจะรู้ความจริง แต่มันก็สายไปเสียแล้วหวงจี๋เทียนตกตะลึงทันทีไฟไหม้จุดพักแรม ลอบสังหารองค์ชายต่างแคว้น ไม่ว่าอยู่ที่ใดก็ถือเป็นเรื่องใหญ่โต แต่ก็ไม่น่าถึงขั้นทำให้ท่านอ๋องของแคว้นตนเองถูกปลดจากทุกตำแหน่ง หากลองคิดในมุมของตนเอง หากวันใดวันหนึ่งเขาถูกริบตำแหน่งและลดเป็นสามัญชน นั่นอาจจะเป็นความทุกข์ทรมานยิ่งกว่าความตายเสียอีกสิ่งที่ทำให้หวงจี๋เทียนประหลาดใจกว่านั้นก็คือ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป ตนเองเพิ่งถูกเพลิงไหม้เล่นงานไปไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ฝ่ายตำหนักบูรพากลับสามารถจับตัวคนร้ายได้ แถมยังมีมาตรการจัดการออกมาเสร็จสรรพแล้วเรื่องนี้ทำให้หวงจี๋เทียนอดคิดไม่ได้ว่า หรือว่

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 976

    "องค์รัชทายาทต้าฉิน ครั้งนี้โปรดให้ข้าได้รับคำอธิบายที่สมเหตุสมผลด้วย!"หวงจี๋เทียนก้าวเข้ามาด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่พอใจแต่เพียงแค่คำพูดของเขาสิ้นสุดลง ก็มีถ้วยชาลอยหวืดลงมาตกกระทบพื้นข้างเท้าของเขาดังเพล้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้หวงจี๋เทียนสะดุ้งโหยงเขาเงยหน้ามองหลี่เฉินด้วยความตกตะลึง พลางคิดว่า หรือว่าหลี่เฉินจะโกรธจนขาดสติแล้วฆ่าตนเสียที่นี่?ทั้งที่ตนเองเป็นฝ่ายถูกกระทำแท้ๆหวงจี๋เทียนรู้สึกอัดอั้นเพียงเห็นใบหน้าของหลี่เฉินที่มืดครึ้ม ราวกับกำลังระงับโทสะอย่างเต็มที่ เขาฝืนยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนกล่าว "อาเกอสิบสามอย่าเข้าใจผิด ข้าโกรธที่มีคนกล้าหาญชาญชัยถึงขั้นวางเพลิงที่จุดพักแรม ตั้งใจจะลอบสังหารอาเกอสิบสาม แล้วโยนความผิดมาให้ข้า""เรื่องนี้ ข้าได้สืบหาข้อมูลแล้ว และพบว่ามีเงื่อนงำบางอย่าง ตอนนี้จับตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว เพียงแต่ทำให้อาเกอสิบสามต้องตกใจ ข้ารู้สึกผิดจริงๆ"ความโกรธที่อัดแน่นอยู่ในใจของหวงจี๋เทียนพลันถูกความประหลาดใจแทนที่ เขาเอ่ยถาม "เหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน องค์ชายรู้ตัวคนร้ายแล้วหรือ?"หลี่เฉินถอนหายใจ ก่อนเผ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 975

    คำพูดถูกส่งออกไป ความหมายชัดเจนแจ่มแจ้งหลี่ชางหลานรู้สึกว่าลมหายใจของตนเริ่มร้อนระอุจักรวรรดิต้าฉินมีกฎเกณฑ์ควบคุมเชื้อพระวงศ์อย่างเข้มงวด ฮ่องเต้แต่ละพระองค์ล้วนยึดมั่นในแนวคิดของปฐมจักรพรรดิอย่างเคร่งครัด นั่นคือ ราชสำนักสามารถมอบเงินทองให้เชื้อพระวงศ์ได้ใช้ชีวิตสุขสบาย มีเกียรติและศักดิ์ศรี แต่ไม่อาจมีอำนาจทางการเมืองตลอดสามร้อยกว่าปีของราชวงศ์ต้าฉิน เชื้อพระวงศ์สามารถเข้ารับราชการได้ แต่ตำแหน่งจะไม่เกินระดับสี่ นี่เป็นกฎเหล็ก ส่วนตำแหน่งทางทหาร อย่าได้หวัง แม้แต่จะสมัครเข้ารับราชการก็ยังเป็นไปไม่ได้“เชื้อสายราชวงศ์หลี่ทั้งปวง จะต้องยกย่องพระราชอำนาจเป็นสูงสุด สมควรได้รับความมั่งคั่งรุ่งเรือง แต่สิทธิ์ทางการเมืองต้องชัดเจน ฮ่องเต้มิอาจลำเอียงเพราะสายสัมพันธ์ส่วนตัวจนทำให้บ้านเมืองปั่นป่วน”ประโยคที่ปฐมจักรพรรดิทรงทิ้งไว้ ได้ตัดโอกาสของเชื้อพระวงศ์หลี่ในการก้าวเข้าสู่ราชสำนัก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องแทรกแซงการปกครองเลยด้วยซ้ำ และเพราะเหตุนี้เอง การที่หลี่เฉินเสนอที่นั่งในราชวิทยาลัย จึงถือเป็นโอกาสอันล้ำค่าสำหรับหลี่ชางหลาน รวมถึงเชื้อพระวงศ์อื่นๆ ที่อาจได้รับส่วนแบ่งจากโอก

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 974

    หลี่เฉินต้องการถอดถอนอำนาจและตำแหน่งทั้งหมดของหลี่อิ๋นหู่ จำเป็นต้องผ่านสำนักคุมประพฤติเว้นแต่ว่าเขาจะเป็นฮ่องเต้ที่สามารถใช้อำนาจแห่งราชบัลลังก์บังคับบัญชาได้โดยตรง มิฉะนั้น ต่อให้เป็นองค์รัชทายาทผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ก็ยังต้องคำนึงถึงท่าทีของสำนักคุมประพฤติเรื่องของสำนักคุมประพฤติจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยากง่ายตรงที่หากหาคนที่มีอำนาจตัดสินใจถูกต้อง และมอบผลประโยชน์ที่อีกฝ่ายต้องการ เรื่องนี้ก็สามารถจัดการได้ทันที ยากตรงที่หากสำนักคุมประพฤติยืนกรานขัดขวาง หลี่เฉินก็แทบไม่มีหนทางจัดการกับพวกผู้เฒ่าที่สูงศักดิ์แต่หัวโบราณเหล่านั้น โชคดีที่ครั้งนี้หลี่เฉินเลือกถูกคน หลี่ชางหลานคือกุญแจสำคัญ และผลประโยชน์ที่เสนอให้ก็เป็นสิ่งที่อีกฝ่ายปฏิเสธไม่ได้ดังนั้นโอกาสที่จะได้รับการจัดการเรื่องนี้จึงสูงมากในช่วงเย็นของวัน สำนักคุมประพฤติส่งข่าวมาว่าพวกเขายอมรับบทลงโทษทั้งหมดที่ตำหนักบูรพากำหนดแก่หลี่อิ๋นหู่"องค์ชาย ได้ยินว่าครั้งนี้จงเหรินลิ่งต้องจ่ายไม่น้อย สำนักคุมประพฤติยังมีผู้อาวุโสบางคนที่เห็นว่าการกระทำขององค์ชายเป็นการทำร้ายสายเลือดเดียวกัน เกรงว่าฝ่าบาทอาจไม่พอพระทัย"

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 973

    หลี่เฉินไม่ได้ยืนยันเรียกเขาว่าเสด็จปู่ใหญ่ และก็ไม่ได้เรียกตำแหน่งของเขา แต่เลือกใช้คำว่าผู้อาวุโสหลี่เมื่อปัญหาเรื่องสรรพนามถูกแก้ไขอย่างลงตัว หลี่ชางหลานจึงรับถ้วยชาด้วยสองมือ แล้วยกขึ้นจิบเบาๆหลังจากวางถ้วยชาลง เขากล่าวว่า “ชาดีจริงๆ”หลี่เฉินยิ้มพลางกล่าว “หากผู้อาวุโสหลี่ชอบ ข้าจะให้คนเตรียมไว้ให้ท่านนำกลับไป”หลี่ชางหลานโบกมือ “สุภาพชนไม่แย่งของรักของผู้อื่น ชาดีที่องค์ชายสะสมไว้ ข้าไม่ควรนำไป”“ก็ไม่ได้มีค่าอะไรมาก ก่อนหน้านี้ตอนข้าพระราชทานตำแหน่งท่านอ๋องให้หลี่อิ๋นหู่ เขามอบชานี้มาเป็นของขวัญขอบคุณ”เพียงประโยคเดียว ทำให้มือของหลี่ชางหลานที่กำลังจะยกถ้วยชาขึ้นดื่มค้างอยู่กลางอากาศเมืองหลวงไม่มีความลับ โดยเฉพาะเหตุการณ์วันนี้ที่หลี่อิ๋นหู่ขึ้นไปเดินบนภูเขาจิ่งซานเพื่อขอพร แต่กลับเป็นต้นเหตุทำให้ราษฎรหลายพันคนต้องเสียชีวิตเรื่องนี้ทำให้ทั้งเมืองหลวงปั่นป่วนไปหมดแม้ว่าหลี่ชางหลานจะถูกเรียกตัวมาอย่างเร่งรีบ แต่เขาก็รับรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างองค์รัชทายาทและจ้าวอ๋องได้ขาดสะบั้นลงโดยสิ้นเชิงบัดนี้เมื่อได้ยินชื่อของหลี่อิ๋นหู่จากปากของหลี่เฉิน เขารู้สึกเหมือนมีดเห

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 972

    "เมื่อครั้งกระหม่อมกวาดล้างหมู่บ้านเหมียว ก็เป็นเพียงฐานที่มั่นหลักของตระกูลโจวเท่านั้น ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีหญิงสาวจากตระกูลโจวแต่งงานออกไปมากมายจนยากจะนับได้ บุตรหลานของพวกนางหลายคนต่างก็มีอำนาจในมือ หากโจวสิงเจี่ยเปล่งวาจาเรียกหา พวกมันสามารถรวมกำลังคนจำนวนมากได้ในเวลาอันสั้น อย่างน้อยก็สามารถฟื้นฟูหมู่บ้านตระกูลโจวขึ้นมาใหม่ได้อย่างแน่นอน"ซานเป่าอธิบายอย่างละเอียด แต่สีหน้าของหลี่เฉินกลับไร้ความรู้สึกผ่านไปครู่หนึ่ง หลี่เฉินกล่าวว่า "ปัญหาของเหมียวเจียงเป็นเรื่องใหญ่ ไม่อาจลงมือโดยพลการได้ในตอนนี้ แต่โจวสิงเจี่ยและหลี่อิ๋นหู่ร่วมมือกันสังหารราษฎรไปนับพัน รวมถึงหลี่อิ๋นหู่ยังฆ่าองค์ชายเก้า เรื่องเหล่านี้ไม่มีทางปล่อยผ่านไปได้"น้ำเสียงของหลี่เฉินเรียบเฉย "ถ่ายทอดคำสั่งลงไป ประกาศจับตัวหลี่อิ๋นหู่และโจวสิงเจี่ย หน่วยบูรพาต้องไล่ล่าพวกมันอย่างเต็มกำลัง ผู้ใดพบร่องรอยและรายงานเข้ามาจะได้รับรางวัลใหญ่"ซานเป่าได้ยินดังนั้นก็เอ่ยถาม "แต่ว่าตำแหน่งของจ้าวอ๋อง"การที่ราชสำนักประกาศจับท่านอ๋อง เป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและถือเป็นเรื่องอื้อฉาวของราชวงศ์หลี่เฉินกล่าวเรี

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 971

    ซานเป่ากัดฟันแน่น จำต้องล้มเลิกการไล่ตามหลี่อิ๋นหู่และโจวสิงเจี่ยเขากวาดตามองไปรอบๆ พบว่าฝูงแมลงที่หนาแน่นจนมองแทบไม่เห็นพื้นกำลังเริ่มถอยกลับ ทิ้งไว้เพียงซากศพจำนวนมากนับพันในคลื่นแมลงครั้งนี้ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่โชคดีหรือมีฝีมือพอจะรอดพ้นจากหายนะได้ ส่วนที่เหลือซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ รวมถึงต้าหลี่ซื่อชิง หวังฟู่ย่ง ต่างก็กลายเป็นวิญญาณใต้ฝูงแมลงไปทั้งหมดเมื่อฝูงแมลงสลายไป สิ่งที่เผยออกมาก็คือซากศพที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น ซากศพเหล่านี้ไม่มีเลือดไหลออกมา แต่เนื้อหนังทั้งหมดถูกแมลงกัดแทะจนขาดวิ่นแทบไม่เหลือชิ้นดีที่โชคร้ายที่สุดคงเป็นหวังฟู่ย่ง ศพของเขาตอนนี้เหลือเพียงโครงกระดูกเท่านั้น แม้แต่เศษเนื้อขนาดฝ่ามือก็ไม่เหลือกลิ่นคาวเลือดและกลิ่นเหม็นของแมลงลอยคลุ้งไปทั่วอากาศ ผสานกับภาพของซากศพที่เกลื่อนกลาดอยู่รอบตัว เป็นภาพที่สร้างแรงกระแทกให้จิตใจอย่างรุนแรง ใบหน้าของซานเป่าดำทะมึนจนแทบจะบีบหยดน้ำออกมาได้เขารู้ดีว่าตัวเองกำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่แล้ว…พระที่นั่งสีเจิ้งหลี่เฉินมองดูซากศพของแมลงสีดำที่วางอยู่ตรงหน้า กับซานเป่าที่คุกเข่าอยู่บนพื้นมานานกว่าครึ่งชั่วยาม ใบห

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 970

    ผู้ที่ซุ่มโจมตีมีความชำนาญอย่างยิ่ง ขณะที่เขาจู่โจมออกมาอย่างกะทันหัน ซานเป่าทำได้เพียงบิดร่างหลบเลี่ยงจุดสำคัญ แต่ก็ยังไม่อาจหนีจากฝ่ามือที่พุ่งเข้ากระแทกไหล่ของเขาเสียงกระแทกหนักหน่วงดังขึ้น ท่ามกลางเสียงอุทานของซานเป่า ร่างทั้งสองแยกออกจากกัน ซานเป่าถูกกระแทกจนลอยกระเด็นไปไกลกว่าสิบก้าว เมื่อตกลงสู่พื้นยังต้องถอยหลังอีกสามก้าว แต่ละก้าวหนักแน่นราวขุนเขาถล่ม พื้นดินที่เหยียบย่ำแตกร้าวสะเทือนทันทีที่ซานเป่าตั้งหลักได้ ฝูงแมลงสีดำรอบตัวก็คล้ายได้รับคำสั่ง พวกมันพุ่งโจมตีเข้าใส่เขาอย่างบ้าคลั่งซานเป่าครางเสียงต่ำ พลังภายในพลุ่งพล่านออกจากร่าง ส่งแรงสั่นสะเทือนกระจายออกไป แมลงที่ไต่ขึ้นบนตัวเขาถูกสังหารจนหมดสิ้น ร่วงหล่นลงบนพื้นแต่ก่อนที่เขาจะทันได้หายใจ โลหิตของแมลงที่ถูกฆ่าล่อให้แมลงจำนวนมากยิ่งกว่าถาโถมเข้ามาอีกครั้ง ซานเป่ารู้ว่าสถานการณ์นี้ไม่อาจปล่อยให้ยืดเยื้อ เขากลืนลมหายใจลงคอ พลังลมปราณรวมศูนย์ในปาก ก่อนจะเปล่งเสียงร้องกึกก้องเสียงคำรามแหลมสูงดั่งระเบิดเสียง สร้างคลื่นพลังที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า คลื่นพลังกระจายออกไปทุกทิศทาง แมลงทุกตัวที่อยู่ในรัศมีของคลื่นพลังสั่นสะ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status