Share

บทที่ 341

Author: ไห่ตงชิง
“จ้าวเหอซาน”

จ้าวเสวียนจีจ้องมองไปที่จ้าวเหอซานซึ่งแสดงท่าทีไม่ถ่อมตัวและไม่หยิ่งผยองอย่างเย็นชา แล้วเค้นคำพูดออกมาทีละคำ “ดี ดีมาก!”

“ทักษะทั้งหมดของเจ้าล้วนเป็นข้าที่สอนเจ้ามาเองกับมือ ตอนนี้เจ้ายืนอยู่ตรงหน้าข้า กล่าวถึงเรื่องความยุติธรรมในใจของผู้คนอย่างมั่นอกมั่นใจ? ทำไมเจ้าถึงคิดว่า สิ่งที่เจ้าทำมันคือความยุติธรรม?”

ดวงตาของจ้าวเหอซานควบแน่นเป็นเส้นเดียว ก่อนจะมองไปยังใบหน้าอันแก่ชราของจ้าวเสวียนจี เขาตอบว่า “อะไรคือความยุติธรรม ทุกคนย่อมมีระดับอยู่ในใจอยู่แล้ว”

“ท่านราชเลขากล่าวได้ถูกต้อง ความสามารถทั้งหมดของข้าน้อยนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่ท่านราชเลขาสอนมาจริงๆ แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่ไม่เป็นเช่นนั้น นั่นก็คือความสามารถในการแยกแยะถูกผิด”

“ข้าน้อยรู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด”

จ้าวเสวียนจีหัวเราะด้วยความโกรธจัด “เยี่ยม เยี่ยมจริงๆ นี่สินะที่เขาเรียกว่าพรานเฒ่าถูกเหยี่ยวจิกตา”

ตอนนี้เอง เสียงแหลมสูงก็ดังขึ้นมา ขัดจังหวะการเผชิญหน้าแบบตาต่อตาฟันต่อฟันระหว่างจ้าวเสวียนจีและจ้าวเหอซาน

“องค์รัชทายาทเสด็จ!”

พระที่นั่งไท่เหอมีประตูทั้งหมดแปดบานคู่ สิบหกบานประตู เมื่อเปิดออกพร้อมกันก็จะส
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 342

    “กระหม่อมมีความขัดแย้งกับตระกูลหลง แต่ในท้ายที่สุดก็สามารถนำทหารเข้าไปในจวนตระกูลหลงได้ และค้นพบกับจดหมายที่ตระกูลหลงสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มกบฏได้สำเร็จ”“แม้จะเผชิญหน้ากับหลักฐานที่หักล้างไม่ได้ แต่ตระกูลหลงก็ยังคงปฏิเสธทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ สุดท้ายเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ถูกต้อง พวกเขาก็เริ่มต่อต้านด้วยอาวุธ โชคดีที่ตระกูลเหลยและอีกสองตระกูลคอยให้การสนับสนุน บวกกับความร่วมมือของหน่วยบูรพา ทุกคนในตระกูลหลงจึงถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม”พูดจบ จ้าวเหอซานก็ยกหมัดขึ้นและพูดว่า “ที่กล่าวมาข้างต้นคือเรื่องราวทั้งหมด กระหม่อมไม่ได้ปลอมแปลงหรือปิดบังแต่อย่างใด ทุกสิ่งที่กล่าวมาล้วนเป็นความจริง”หลี่เฉินหัวเราะอย่างเย็นชา ก่อนจะกล่าวกับขุนนางคนอื่นๆ ว่า “ได้ฟังมาหมดแล้ว เช่นนั้นก็มาคุยกันเถอะ ทุกท่านคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้”พระที่นั่งไท่เหอพลันเงียบสนิทแม้แต่คนโง่ก็ยังมองออกว่ามือมืดที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้อยู่ในราชสำนัก อาจจะเป็นท่านราชเลขาหรือจ้าวอ๋องที่ยืนอยู่หัวแถว ไม่ก็องค์รัชทายาทแห่งตำหนักบูรพาที่ยืนอยู่ด้านบนสุดก็ได้ แม้ว่าพวกเขาแต่ละคนจะมีฝ่ายของตนเอง และมีจุดยืน

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 343

    ตำราพิชัยสงครามไม่อาจสู้กับแผนการที่พลิกผันไปมา การปกครอง ไม่ใช่การเมืองคนที่มีเล่ห์เหลี่ยมและมีความคิดที่ลึกซึ้งอาจจะเหมาะกับการเมือง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นนักการเมืองที่มีคุณวุฒิอาจกล่าวได้ว่ากลอุบายกับทักษะทางการเมืองคือองค์ประกอบสำคัญสำหรับนักการเมือง แต่ไม่ใช่ทุกอย่างหลี่อิ๋นหู่ยังขาดประสบการณ์ในการต่อสู้ทางการเมือง เขารู้วิธีวางแผนการบางตามลำพัง เขามีความกล้าที่จะเสี่ยงทุกอย่าง และมีทักษะการแสดงที่จะซ่อนดาบของเขาไว้เบื้องหลังรอยยิ้มของเขา แต่เมื่อยืนอยู่ในพระที่นั่งไท่เหอเข้าจริงๆ โดยมีองค์รัชทายาทสวมเสื้อคลุมสีแดง และยืนถัดจากบัลลังก์มังกรอันรุ่งโรจน์ ก็ทำให้เขารู้สึกกดดันจนหายใจไม่ออก เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มแย่ลง จ้าวเสวียนจีซึ่งยืนดูเหตุการณ์อยู่เฉยๆ จึงเปิดปากพูดขึ้นมา “ฝ่าบาท กระหม่อมมีคำถาม”จ้าวเสวียนจียกมือขึ้น มองไปทางจ้าวเหอซานและถามว่า “เนื่องจากตระกูลหลงได้สมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มกบฏ แล้วเหตุใด อาชญากรรมร้ายแรงอย่างการประหารเก้าชั่วโคตรเช่นนี้ จึงทิ้งหลักฐานไว้ในบ้าน? ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องนี้ก็ถูกรายงานในช่วงหัวหน้าตระกูลอย่างหลงเทียนเต๋อกับคุณช

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 344

    ครึ่งแรกของประโยคนี้ก็ดูปกติ แต่สามคำสุดท้ายนี่สิ ที่ทำให้ทุกคนตกใจ แม้แต่หลี่อิ๋นหู่ก็มองจ้าวเหอซานเหมือนมองคนบ้าตั้งแต่จ้าวเสวียนจีกลายเป็นราชเลขา จนถึงตอนนี้ มีเพียงหลี่เฉินรวมถึงจักรพรรดิองค์ปัจจุบันเท่านั้น ที่สามารถดูถูกเขาในที่สาธารณชนได้ แต่วันนี้ จ้าวเหอซานเป็นคนที่สอง ใบหน้าของจ้าวเหอซานยังคงสงบนิ่ง ราวกับว่าเขาพูดอะไรบางอย่างที่ธรรมดามากเขากล่าวอย่างจริงจังด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “ทุกคนรู้ดีว่าคนปกติจะไม่ทิ้งจดหมายที่สามารถใช้เป็นหลักฐานเช่นนี้เอาไว้ แต่ใครจะพูดได้ว่าสามารถใช้ตรรกะของคนปกติมาคาดเดาตระกูลหลงได้ แค่นี้ก็สมเหตุผลสมผลแล้วไม่ใช่หรือ?” “สมรู้ร่วมคิดกับพวกกบฏ นี่มันอาชญากรรมอะไร? ก่อกบฏ!”“ราชสำนักคือศูนย์รวมของยอดหัวกะทิทั่วทั้งต้าฉิน เหล่าอัจฉริยะชั้นยอดต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ แล้วพวกท่านกล้าก่อกบฏหรือไม่? ไม่ แต่ตระกูลหลงกลับกล้า อาศัยแค่จุดนี้ ก็ไม่สามารถยกตรรกะของคนทั่วไปมาใช้กับตระกูลหลงได้”“ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากจดหมายเหล่านี้ เรายังมีพยานที่เห็นเหตุการณ์ พยานรายงาน รวมถึงตระกูลเหลย ตระกูลเฉียน และตระกูลเจิ้ง ทั้งสามตระกูลนี้ล้วนมีพื้นเพอยู่ใ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 345

    “เช่นนั้นก็ดี หลงไหวอวี้มีส่วนร่วมในการกบฏ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นสหายของเจ้า แต่กฎหมายจะต้องไม่ลำเอียง หน่วยบูรพาจะไปจับกุมเขาทันที เจ้าเข้าใจใช่ไหม?”หลี่อิ๋นหู่กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ฝ่าบาทมิต้องกังวล กระหม่อมถูกโจรกบฏผู้นี้หลอกลวง แน่นอนว่าจะไม่ทำผิดพลาดซ้ำอีก กระหม่อมจะร่วมมือกับคนของหน่วยบูรพาจับกุมคนผู้นั้นด้วยตัวเอง”หลี่เฉินมองหลี่อิ๋นหู่ด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง ยิ่งองค์ชายแปดฉลาดมากเท่าไหร่ ความตั้งใจที่จะฆ่าของหลี่เฉินก็ยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น คนแบบนี้จะเก็บไว้นานไม่ได้ หลี่เฉินสลับสายตามองระหว่างหลี่อิ๋นหู่กับจ้าวเสวียนจี จากนั้นก็กล่าวว่า “ดีมาก จ้าวอ๋องยังรู้จักเหตุผล”“หลังจบการประชุม กรมยุติธรรมทั้งสามฝ่ายจะส่งบุคลากรที่มีความสามารถไปยังมณฑลซีซานทันที เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีตระกูลหลงให้ชัดเจน จากนั้นก็ประกาศให้ใต้หล้าได้ทราบ เพื่อทำหน้าที่เป็นคำเตือนแก่ผู้อื่น”“ประการที่สอง หลังการประชุม หน่วยบูรพาจะไปที่จวนจ้าวอ๋องเพื่อจับกุมหลงไหวอวี้ และนำตัวเขาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะต้องไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ ” ในพระที่นั่งไท่เหอ พายุที่กำลังก่อตัวขึ้นก็ได้สิ้นสุดลงเม

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 346

    หลงไหวอวี้เพิ่งมาถึง และก่อนที่เขาจะมา เขาก็มุ่งความสนใจไปที่การหาข้อมูลขององค์รัชทายาท จ้าวอ๋องและจ้าวเสวียนจี ดังนั้นเขาจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร เขาจึงส่ายหัวอย่างจริงใจเพื่อแสดงว่าเขาไม่รู้ชายชราพูดอย่างสงบว่า “เมื่อเดือนที่แล้ว ที่นี่คือจวนต้วน ซึ่งเป็นบ้านของข้า” เมื่อหลงไหวอวี้ได้ยินสิ่งนี้ ก็ไม่ได้ตอบสนองในทันทีแต่เมื่อคำว่าจวนต้วนสองคำนี้ดังสะท้อนอยู่ในใจของเขา ก็ทำให้เขานึกข้อมูลบางอย่างขึ้นมาได้และทำให้เขาชาไปทั่วทั้งตัว จวนต้วน!มหาอำมาตย์ตงเก๋อ ต้วนจิ่นเจียง!คนผู้นี้กุมอำนาจของกรมยุทธนาการมานานกว่าสิบปี แม้แต่ราชเลขาจ้าวเสวียนจีก็ล้มเหลวในการแทรกแซง สุดท้ายก็ทำได้แค่ประนีประนอมและร่วมมือกันเท่านั้นนายท่านของจวนต้วนจะยังเป็นใครไปได้อีก? ดวงตาของหลงไหวอวี้พลันตกตะลึงคดีของต้วนจิ่นเจียงนั้นทำให้คนทั้งประเทศต่างตกตะลึง จนถึงทุกวันนี้ ผู้คนยังไม่รู้ว่ามหาอำมาตย์ตงเก๋อต้วนจิ่นเจียง ขุนนางคนสำคัญซึ่งกุมอำนาจมหาศาลและเป็นแกนหลักของจักรวรรดิ ล่มสลายและเสียชีวิตในชั่วข้ามคืนได้อย่างไรหลงไหวอวี้รู้ว่ามันต้องเป็นความขัดแย้งที่เต็มไปด้วยความดำมืดและการแย่งชิงอำนาจ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 347

    หลังจากที่ต้วนจิ่นเจียงพูดจบ เขาก็เดินไปยังทางลับก่อน “จะไปหรือไม่ ก็แล้วแต่เจ้า” ตอนนี้เอง เสียงฝีเท้าก็ใกล้เข้ามามากขึ้น หลงไหวอวี้รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เขารู้ว่าต้วนจิ่นเจียงพูดถูก และคนข้างนอกก็มาที่นี่เพื่อฆ่าเขาจริงๆตามที่คาด เขาถูกจ้าวอ๋องทอดทิ้ง หลงไหวอวี้กัดฟัน และเดินตามต้วนจิ่นเจียงเข้าไปในถ้ำลับอันมืดมิด โดยไม่หันกลับมามอง หลังจากที่ทั้งสองเดินเข้าไปแล้ว ทางเดินลับก็ถูกปิดอีกครั้ง และเตียงก็กลับสู่ตำแหน่งเดิม แทบจะในเวลาเดียวกัน ทันทีที่พวกเขาจากไป ประตูห้องก็ถูกเตะเปิดหลี่อิ๋นหู่ซึ่งกลับมาจากการประชุมก็นำหน่วยบูรพาจำนวนมากบุกเข้ามา แต่ภายในห้องกลับว่างเปล่า ผู้นำขององครักษ์เสื้อแพรกวาดสายตามอง แล้วกล่าวเสียงดังว่า “คนล่ะ!?”หลี่อิ๋นหู่ก็ตัวชาเช่นกันเนื่องจากเขาตัดสินใจจะทิ้งหลงไหวอวี้ จึงไม่มีแผนที่จะเฝ้าระวังจริงๆ และไม่คิดจะส่งใครมาย้ายหลงไหวอวี้ล่วงหน้าอีกด้วย แต่สิ่งที่แปลกคือ หลงไหวอวี้กลับละเหยหายไปในอากาศ?เมื่อเห็นสายตาที่ไร้ความปราณีขององครักษ์เสื้อแพรคนนั้น หลี่อิ๋นหู่ก็คว้าคนรับใช้ในบ้านของเขา และกัดฟันพูดว่า “คนล่ะ!?”

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 348

    ซานเป่าเห็นว่าหลี่เฉินค่อนข้างไม่พอใจ เขาจึงรีบพูดขึ้นมาทันทีว่า “บ่าวจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”หลี่เฉินกล่าวเสียงเนิบนาบว่า “วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่า ตอนกลางวันข้าจะไปทานอาหารที่จวนแม่ทัพใหญ่ จากนั้นก็จะกลับมาที่ตำหนักในตอนเย็น และเข้าไปคารวะเสด็จพ่อที่วังหลัง มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ หวังว่าครั้งต่อไปที่ข้าพบเจ้า มันจะเป็นข่าวดี”ใบหน้าของซานเป่าพลันเครียดเกร็ง และพูดทันทีว่า “บ่าวเชื่อฟัง...เพียงแต่ว่าฝ่าบาทจะเสด็จออกจากพระตำหนัก จำเป็นต้องจัดขบวนทหารองค์รักษ์หน้าหลังหรือไม่?” “จัดการไปตามปกติก็พอ” หลี่เฉินกล่าวอย่างสบายๆ ว่า “ข้าไม่ชอบให้ใครติดตามข้ามากเกินไป” หลังจากที่ซานเป่าจากไปแล้ว หลี่เฉินก็เหลือบมองที่วั่นเจียวเจียวแล้วพูดว่า “ไปที่จวนแม่ทัพใหญ่กันเถอะ”หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสองคนในชุดธรรมดาก็เดินออกจากตำหนักบูรพาพร้อมกัน เหล่าหน่วยลับก็เริ่มล้อมรอบทั้งสองในทันที และตามพวกเขาไป เนื่องจากเป็นวันส่งท้ายปีเก่า ผู้คนบนท้องถนนจึงน้อยลง บางครั้งก็มีบางคนที่เร่งรีบกลับไปทำอาหารสำหรับปีใหม่ นอกจากนี้ยังมีเด็กๆ จำนวนมากวิ่งเล่นไปมาโดยสวมเสื้อนวมลายดอกไม้ ซึ่งเพิ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 349

    นี่เป็นจังหวะที่เล็กน้อยมาก เพราะแค่พริบตาเดียวเขาก็กลับมาเป็นปกติ แม้ว่าต้วนจิ่นเจียงจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่การสืบสวนเรื่องโศกนาฏกรรมดังกล่าวก็ยังไม่ยุติลง ซูเจิ้นถิงได้ติดตามเรื่องนี้มาตลอด และด้วยพลังที่หลี่เฉินได้รับจากการงัดข้อกับจ้าวเสวียนจีในราชสำนัก ทำให้ซูเจิ้นถิงค้นพบสิ่งต่างๆ มากมาย“พัวพันมากแค่ไหน?” หลี่เฉินถามอย่างใจเย็น “มากมายพ่ะย่ะค่ะ” แม้แต่ซูเจิ้นถิงก็ยังเผยสีหน้ายากลำบาก เขาเปิดปากพูดว่า “ถ้าเราขุดลึกกว่านี้ ทหารครึ่งหนึ่ง และขุนนางหนึ่งในสามจะต้องหายไป” หลี่เฉินคิ้วกระตุก โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน กลับมีผู้คนมากมายเข้ามาเกี่ยวข้องเรียกได้ว่าทั้งฝ่ายราชสำนักและฝ่ายทหารล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องแทบจะทุกส่วนทันใดนั้นหลี่เฉินก็เข้าใจทันที ว่าเหตุใดเสด็จพ่อถึงสอบสวนคดีนี้ไม่กระจ่างมาหลายปีแล้ว ไม่ใช่ว่าสอบสวนไม่กระจ่าง แต่ไม่สามารถทำให้กระจ่างได้มันพัวพันเป็นวงกว้างเช่นนี้ จะสอบสวนอย่างไร? ถ้าจัดการไม่ดี ก็จะเกิดรัฐประหารหรือการกบฏของทหารเอาได้แม้จะเป็นจักรพรรดิ แต่ก็มีบางสิ่งบางอย่างที่ทำไม่ได้ และต้องหลีกเลี่ยง เรื่องที่แม้แต่จัก

Latest chapter

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1063

    ตามคำอธิบายและเรื่องราวของฮ่องเต้ต้าสิง หลี่เฉินก็เริ่มมองเห็นถึงเบื้องลึกในจิตใจที่แท้จริงของฮ่องเต้พระองค์นี้ สิ่งที่พระองค์ต้องการ คือการสืบทอดราชบัลลังก์โดยไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันถึงรากฐานของบ้านเมือง และขุนนางชั่วอย่างจ้าวเสวียนจี ก็คือประกันภัยอีกชั้นหนึ่งที่พระองค์วางไว้ ตราบใดที่จ้าวเสวียนจียังอยู่ เขาก็จะกระหายอำนาจ และต้องพยายามลดบทบาทของฮ่องเต้แน่นอน แต่การลดบทบาทของฮ่องเต้หาใช่ปัญหาไม่ ขอเพียงฮ่องเต้ยังคงดำรงอยู่ อ๋องแห่งแคว้นย่อมไม่อาจก่อหวอด สถานการณ์ก็จะยังดำเนินต่อไปได้ กล่าวได้ว่า ฮ่องเต้ต้าสิงได้วางหมากไว้สองทาง ทางแรก คือหวังว่าจะมีบุตรผู้หนึ่งสามารถเติบโตขึ้นมาเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ มีสติปัญญาและความสามารถลึกซึ้ง กอบกู้สถานการณ์ได้ แต่เรื่องนี้ยากเกินไป อย่างน้อยในขณะวางแผน ฮ่องเต้ต้าสิงเองก็มองไม่เห็นความหวัง ดังนั้นพระองค์จึงเตรียมทางที่สอง ผลักดันให้เกิดขุนนางชั่วคนหนึ่ง เพื่อรักษาความมั่นคงของการถ่ายโอนอำนาจ แม้ฮ่องเต้จะเป็นเพียงหุ่นเชิด ตราบใดที่ยังเป็นบุตรของฮ่องเต้ต้าสิง แผ่นดินก็จะไม่ล่มสลาย ส่วนอำนาจนั้

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1062

    “เขาวางแผนมาอย่างยาวนาน บัดนี้ลูกกับเขาก็ถึงคราวแตกหัก ต่อให้มิใช่จ้าวเสวียนจี ลูกก็ไม่อาจอยู่อย่างสงบได้อีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” หลี่เฉินเงยหน้าขึ้นอย่างกล้าหาญ จ้องสบสายพระเนตรของฮ่องเต้เบื้องหน้า แม้พระวรกายจะซูบผอมดั่งน้ำมันหมดไส้เทียนใกล้มอด แต่ก็ยังเปี่ยมด้วยพลังสุดท้าย แล้วกล่าวสิ่งที่อยู่ในใจออกไป ฮ่องเต้ต้าสิงทรงฟังด้วยรอยยิ้ม รอจนหลี่เฉินพูดจบจึงเอ่ยว่า “ข้ากล่าวไปแล้ว เขา มิใช่สิ่งที่ควรกังวล” “เจ้าจะฆ่าเขาก็ได้ แต่ไม่ใช่เวลานี้” หลี่เฉินขมวดคิ้ว สีหน้างุนงงยิ่งนัก ฮ่องเต้ต้าสิงทอดถอนใจเบาๆ แล้วตรัสว่า “สามารถเดินมาถึงจุดนี้ เจ้าก็เกินกว่าความคาดหวังเดิมของข้าไปมาก แม้แต่อีกหลายการจัดวางที่ข้าวางไว้แต่แรก ข้าก็ไม่คิดว่าเจ้าจะได้ใช้จริง แต่ก้าวแล้วก้าวเล่า เจ้าก็ผ่านมาได้ทั้งหมด” “เจ้าควรรู้ว่า บางแผนที่ข้าวางไว้นั้น เริ่มตั้งแต่เมื่อครานานมาแล้ว” หลี่เฉินนึกถึงพี่น้องสกุลอู๋ จึงพยักหน้า “พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อทรงวางแผนอย่างลึกซึ้ง ลูกนับถือยิ่งนัก” “รอจนเจ้าได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ เจ้าก็จะเข้าใจเอง” ฮ่องเต้ต้าสิงตรัสเสียงเรียบ “ข้าวางแผนไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เจ้าคิดว่

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1061

    จ้าวหรุ่ยเงยหน้าขึ้น แม้ใบหน้ายังคงซีดเซียวอ่อนแรง แต่กลับมีสีเลือดระเรื่อขึ้นเล็กน้อย “ฝ่าบาท รีบเสด็จเข้าไปเถิด” จ้าวหรุ่ยกล่าวจบ ก็หลีกทางไปด้านข้าง หลี่เฉินจับมือของจ้าวหรุ่ยแน่น แล้วจึงก้าวเข้าไปภายใน จ้าวเสวียนจีตามเข้าไปติดๆ นี่เป็นครั้งแรกที่จ้าวเสวียนจีสนทนากับจ้าวหรุ่ยหลังจากจ้าวหรุ่ยทรยศ “เจ้าคุกเข่าจนฮ่องเต้ทรงฟื้นคืนหรือ?” จ้าวเสวียนจีกล่าวเสียงเรียบ จ้าวหรุ่ยก้มหน้า ไม่กล้ามองจ้าวเสวียนจี เอ่ยเสียงแผ่วเบา “ฮ่องเต้ทรงมีฟ้าคุ้มครองเพคะ” “ข้าไม่คาดคิดเลยจริงๆ” จ้าวเสวียนจีทิ้งประโยคหนึ่งอย่างมีนัย แล้วจึงติดตามหลี่เฉินเข้าไป จ้าวหรุ่ยเม้มริมฝีปาก ก้มหน้าถอยออกจากประตูตำหนักบรรทม ภายในตำหนักเฉียนชิง หลี่เฉินเห็นฮ่องเต้ต้าสิง...ทรงยืนขึ้นแล้ว พระองค์ทรงสวมเสื้อชั้นในสีเหลืองอ่อนที่เพิ่งผลัดเปลี่ยนใหม่ ซึ่งอาจนับเป็นชุดนอนหรือชุดชั้นในก็ได้ หลี่เฉินไม่รู้สึกแปลกตากับฉลองพระองค์ชุดนี้นัก ขณะฮ่องเต้ต้าสิงบรรทมบนเตียง ก็ทรงสวมเช่นนี้ แต่หลังจากเขาข้ามมิติมา ก็เป็นครั้งแรกที่เห็นฮ่องเต้ทรงมีสติและยืนอยู่ “อย่างไรหรือ เห็นข้าแล้ว ถึงกับลืมคำ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1060

    ประโยคเดียวว่าฮ่องเต้ทรงฟื้นแล้วสร้างแรงสะเทือนใจแก่ทุกผู้คนยิ่งกว่าเสียงฟ้าร้องเหนือศีรษะแม้กระทั่งทหารที่ไล่ตามขันทีน้อยมาแต่แรกยังถึงกับตื่นตะลึงถ้อยคำของขันทีน้อยยังไม่ทันจบประโยค เงาร่างสายหนึ่งพลันแวบขึ้นตรงหน้าเขา ซานเป่าได้คว้าตัวเขาไว้แล้ว“เจ้าว่าอะไรนะ?!”ขันทีน้อยผู้นั้นเป็นเพียงขันทีระดับต่ำสุด เคยเห็นซานเป่าจากที่ไกลๆ เท่านั้น หากแต่ความแตกต่างระหว่างฐานะของทั้งสองทำให้เขาไม่เคยมีสิทธิแม้แต่จะกล่าวคำกับซานเป่ายังไม่ทันตั้งสติจากแรงกดดันของซานเป่า ซูเจิ้นถิงและเหล่าขุนนางใหญ่น้อยก็พากันล้อมเขาไว้หมดแล้ว“บ่าว...บ่าวกล่าวว่า...ฮ่อง...ฮ่องเต้ทรงฟื้นแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ขันทีน้อยตัวสั่นระริก พูดติดขัดแทบจับใจความไม่ได้ โชคยังดีที่เขายังจำหน้าที่ของตนเองได้“ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่ง ขอให้องค์รัชทายาทและสำนักราชเลขาเข้าเฝ้าทันที”ซานเป่ากับซูเจิ้นถิงสบตากัน แล้วก็ตัดสินใจได้ทันควัน“ไม่ได้!”จางปี้อู่ตะโกนลั่น “ใครจะรู้ว่านั่นไม่ใช่ราชโองการปลอมล่ะ!”“เจ้าบังอาจแอบอ้างหาบรรพบุรุษงั้นรึ!”ซูเจิ้นถิงสบถกลับด้วยความโกรธ แล้วซัดหมัดหนักเข้าที่ใบหน้าของจางปี้อู่อย่างจังจางปี้

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1059

    “จ้าวเสวียนจี เจ้าทำเรื่องมากมาย วางแผนมานักหนา ท้ายที่สุดแล้วก็เพื่อสิ่งใดกันแน่”หลี่เฉินชี้ไปยังบัลลังก์มังกร ถามว่า “เพื่อจะได้ขึ้นนั่งบนนั้นหรือ”จ้าวเสวียนจีมองตามนิ้วของหลี่เฉินไปยังบัลลังก์มังกร กล่าวอย่างราบเรียบว่า “มิใช่ หากกระหม่อมประสงค์จะขึ้นนั่งบัลลังก์ กระหม่อมสามารถลงมือได้ตั้งแต่เมื่อปีกลายแล้ว แม้แต่ก่อนหน้านั้น กระหม่อมก็ยังมีโอกาสดีกว่านี้อีกมาก จะต้องรอให้ฝ่าบาททรงมีอำนาจมั่นคงก่อนแล้วจึงลงมือไปเพื่ออันใดกันเล่า”“หรือมิใช่เพราะเจ้าคิดว่าควบคุมตัวข้าได้ยาก จึงต้องเสี่ยงเอาดาบเข้าวัดอย่างนั้นหรือ” หลี่เฉินหัวเราะเย็นชาจ้าวเสวียนจีถอนหายใจเบาๆ สีหน้ากลับแฝงด้วยความหดหู่ยิ่งนัก กล่าวว่า “ฝ่าบาท พระองค์มิใช่กระหม่อม ย่อมไม่รู้ความลำบากของกระหม่อม”“บัลลังก์นั้น นั่งแล้วสบายหรือ ไม่เลย”จ้าวเสวียนจีหันหน้ากลับมามองหลี่เฉิน กล่าวว่า “กระหม่อมแทบจะเฝ้าดูฮ่องเต้ขึ้นครองบัลลังก์กับตาตนเอง ตลอดหลายปีมานี้ ในท้ายที่สุด ฮ่องเต้ได้อะไรกลับมาบ้าง”“กระหม่อมชราภาพแล้ว ไม่รู้ว่ายังจะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่ปี อีกทั้งบุตรหลานของกระหม่อมก็สูญสิ้นไร้ร่องรอย หากกระหม่อมขึ้นไปนั่ง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1058

    หลี่เฉินหันขวับกลับมาเผชิญหน้าจ้าวเสวียนจี ดวงตาเย็นเยียบดั่งน้ำแข็งจ้าวเสวียนจีเงยหน้าขึ้น ยืนตัวตรง มาดอ่อนน้อมเมื่อครู่พลันสลาย เหลือเพียงท่วงท่าท้าทายอย่างเปิดเผยหลี่เฉินเอ่ยเรียบเย็น “ข้าเพิ่งรู้ว่า...ขุนนางอาวุโส สูงไม่น้อยเลยทีเดียว”จ้าวเสวียนจีตอบ “กระหม่อม...แค่เคยชินกับการโค้งก้มเท่านั้น แต่ครั้งนี้...กระหม่อมไม่อยากก้มอีกแล้ว”เขายกมือชี้ออกไปทางประตูพระที่นั่งไท่เหอ ก่อนกล่าวว่า “ทหารมีดดาบชั้นยอดจำนวนสามพันนาย บัดนี้อยู่ภายนอกพระที่นั่งไท่เหอเรียบร้อยแล้ว”“กระหม่อมรู้ดีว่า ฝ่าบาทมีปืนไฟ และอาวุธที่ระเบิดเทพต้าฉินทรงพลังยิ่ง หากให้เวลาพัฒนา คงกลายเป็นอาวุธสังหารอันน่าสะพรึงกลัวในอนาคต แต่เวลานี้ ฝ่าบาทมีน้อยเกินไป อีกทั้งในค่ำคืนที่ฝนตกหนักเช่นนี้ อานุภาพของอาวุธไฟก็จะลดลงจนเหลือน้อยนิด”“ที่สำคัญที่สุดก็คือ... ทหารทั้งสามพันนายของกระหม่อม ล้วนเป็นยอดฝีมือระดับแนวหน้าแห่งยุทธภพ สามารถกวาดล้างกองทัพปกติหนึ่งหมื่นนายได้ภายในเวลาอันสั้น”จ้าวเสวียนจีหัวเราะเบาๆ ราวกับได้พลิกไพ่ลับที่เตรียมไว้มาเนิ่นนาน มีความภูมิใจอย่างปิดไม่มิด “ที่สำคัญที่สุดคือ… ทหารสามพันนี้ มิใ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1057

    คำพูดของจ้าวเสวียนจี ได้เผยให้เห็นสถานการณ์ที่น่าอึดอัดที่สุดของหลี่เฉินอย่างหมดเปลือก ไม่มีแม้แต่นิดเดียวที่หลงเหลือให้ปิดบังหลี่เฉินในตอนนี้ แม้จะเป็นองค์รัชทายาท แม้จะทำหน้าที่สำเร็จราชการแทนพระองค์ แต่สิทธิอำนาจในมือของเขา โดยรากแท้แล้วยังคงเป็นสิ่งที่ฮ่องเต้ประทานให้ตราบใดที่หลี่เฉินยังไม่ขึ้นครองราชย์ ไม่ได้สวมชุดมังกร เช่นนั้นเขาก็ไม่อาจครอบครองราชอำนาจแท้จริงได้เลยต่อบรรดาข้าราชการท้องถิ่นแล้ว พวกเขายอมรับแค่สิ่งเดียว...ราชโองการ ยอมรับแค่บุคคลเดียว...ฮ่องเต้นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพายุการเมืองในครั้งนี้ ถึงเรียกได้เพียงว่า "พายุการเมือง" มิใช่การชิงราชสมบัติในสายตาของปวงชนแผ่นดิน สิ่งที่พวกเขาเห็น ก็แค่ความขัดแย้งระหว่างองค์รัชทายาทกับฝ่ายสำนักราชเลขาที่รุนแรงจนถึงขั้นยกทัพใส่กัน มิใช่การกบฏแย่งชิงราชบัลลังก์ของสำนักราชเลขาสองสิ่งนี้...แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงหากหลี่เฉินคือฮ่องเต้จริงๆ การกระทำของจ้าวเสวียนจีทั้งหมดนี้ ก็จะกลายเป็นการชิงบัลลังก์อย่างชัดเจน และจะก่อให้เกิดความโกลาหลไปทั่วทั้งแผ่นดิน ขุนนางในทุกหัวระแหงที่ยังมีความจงรักภักดีและสำนึกในคุณธรรม ย่อมต้องลุ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1056

    “ด้านนอกลมฝนรุนแรง ฝ่าบาททรงเปียกโชกทั้งตัว ดูก็รู้ว่าเส้นทางที่ก้าวเข้ามา ไม่ได้ราบรื่นเลยแม้แต่น้อย”จ้าวเสวียนจีมองหลี่เฉินด้วยแววตาสงบนิ่ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ใบหน้าแลดูใจดีอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ“ลมฝนหนักเช่นนี้ มีใครเล่าจะก้าวเดินได้อย่างสบาย?”หลี่เฉินพลิกมือปิดประตูพระที่นั่ง ลมฝนภายนอกถูกสกัดไว้ทันที ความสงบและอบอุ่นจึงกลับคืนสู่ท้องพระโรงอีกครั้ง“หากเพียงต้องการมุมหนึ่งอันสงบสุข ก็แค่ปิดประตูเท่านั้น ความสงบก็จะอยู่กับเราแล้วไม่ใช่หรือ?”จ้าวเสวียนจีกล่าว “ดี ฝ่าบาทตรัสได้ถูกต้องอย่างยิ่ง”หลี่เฉินย่างเท้าเข้าสู่พระที่นั่งไท่เหอด้วยฝีเท้าหนักแน่น หยุดยืนอยู่เบื้องล่างบัลลังก์ หันไปมองเก้าอี้มังกรแล้วเอ่ยกับจ้าวเสวียนจีข้างกาย “เก้าอี้ตัวนี้ ช่างเย้ายวนใจนักใช่หรือไม่?”จ้าวเสวียนจีก็มองไปยังเก้าอี้มังกรร่วมกับหลี่เฉินเขาไม่ได้ตอบคำถามของหลี่เฉิน กลับกล่าวเพียงว่า “ฝ่าบาท ถอยเถิด”หลี่เฉินหัวเราะเบาๆ ไม่ขยับสายตา ไม่ตอบคำใด“กระหม่อมให้คำมั่น ว่าจะปกป้องฝ่าบาทให้ปลอดภัยไปตลอดชีวิต คำมั่นของกระหม่อมนี้ ฝ่าบาทเชื่อถือได้แน่นอน”หลี่เฉินพยักหน้า “ฟังดูจริงใจดี”

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1055

    หลี่เฉินหันไปมองซูจิ่นพ่าที่อยู่ข้างกาย ยิ้มอ่อนเอ่ยว่า “เจ้าทำให้ข้ารู้สึกประหลาดใจมาก”ซูจิ่นพ่าไม่ได้ตอบ เพียงยอบกายทำความเคารพแบบสตรีผู้สูงศักดิ์อย่างอ่อนช้อยหลี่เฉินหลุดหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันไปกล่าวกับซูเจิ้นถิงว่า “แม่ทัพซู ลูกหลานตระกูลแม่ทัพเสือเจ้าฝีมือ เจ้าช่างมีบุตรีที่ดีนัก”ซูเจิ้นถิงก่อนหน้านี้อยู่หน้าประตูวัง เมื่อเขามาถึงพอดีกับที่ซูจิ่นพ่ากำลังตำหนีขุนนางพวกนั้น ด้วยสัญชาตญาณจึงไม่ได้รีบเข้าไป และการรอเพียงครู่เดียวนี้ ก็ทำให้เขาได้เห็นฝีมือกับสติปัญญาของบุตรสาวตัวเองอย่างชัดเจน นับว่ายอดเยี่ยมอย่างแท้จริง“ฝ่าบาทตรัสเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูเจิ้นถิงยกมือขึ้นคารวะ แล้วหันไปมองจางปี้อู่และขุนนางฝ่ายสำนักราชเลขาที่ใบหน้านิ่งสงบ จากนั้นกล่าวว่า “ฝ่าบาท ที่นี่ขอให้เป็นหน้าที่ของกระหม่อมกับท่านอาจารย์เถิดพ่ะย่ะค่ะ”ทหารย่อมต่อสู้กับทหาร แม่ทัพย่อมรับมือแม่ทัพบุคคลที่หลี่เฉินตั้งใจจะรับมือมาตลอด ไม่ใช่จางปี้อู่ และไม่ใช่ขุนนางทั้งหลายที่อยู่เบื้องหลังเขาเหล่านั้นแต่คือ...จ้าวเสวียนจี“ดี”หลี่เฉินพยักหน้าเบาๆ แล้วหมุนกาย มุ่งหน้าเข้าสู่พระที่นั่งไท่เหอในขณะที่หลี

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status