แชร์

บทที่ 109

ผู้เขียน: ไห่ตงชิง
หลังจากทานอาหารเสร็จ หลี่เฉินก็โบกมือให้นางกำนัลรับใช้ถอยออกไป

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับจ้าวหรุ่ย เมื่อเห็นการกระทำของหลี่เฉิน นางก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

นางหน้าแดงเล็กน้อย และพูดกับหลี่เฉินที่เดินมาหาตัวเองเสียงเบาว่า “ฝ่าบาท วันนี้หม่อมฉันไม่สามารถรับใช้ฝ่าบาทได้”

หลี่เฉินได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึงเล็กน้อย

ไม่ควรเป็นแบบนี้สิ

กลางวันสั่งสอนจ้าวหรุ่ย จากนั้นก็มอบผลประโยชน์ให้กับครอบครัวของนาง แล้วเหตุใดตอนนี้ นางถึงยังกระบิดกระบวนอยู่?

ถ้าว่ากันตามเหตุผลแล้ว นางควรจะถวายตัวเพื่อแสดงความขอบคุณมิใช่หรือ?

“ประจำเดือนของหม่อมฉันมา...”

จ้าวหรุ่ยก้มหน้าลงและบอกความจริง

หลี่เฉินสีหน้าอึมครึม รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่แดงระเรื่อ และริมฝีปากสีแดงอวบอิ่มที่น่าดึงดูดของจ้าวหรุ่ย ทันใดนั้นหลี่เฉินก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา

บางครั้งคนเราก็ไม่จำเป็นต้องใช้เส้นทางที่ถูกต้อง...

หลี่เฉินโน้มตัวลงไปกระซิบบางอย่างที่ข้างหูของจ้าวหรุ่ย

ดวงตาของจ้าวหรุ่ยเบิกกว้างขึ้น เมื่อคิดตามคำพูดของหลี่เฉิน ใบหน้าที่แดงอยู่แล้วก็แดงก่ำขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ในที่สุดก็ย้อมหูอันงดงามจนแดงฉาน น
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 110

    ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลิวซือฉุนแต่งกายด้วยชุดธรรมดาโดยไม่แต่งหน้าใดๆ เดินทางมาที่พระที่นั่งสีเจิ้งเพื่อเข้าเฝ้าหลี่เฉิน“หม่อมฉันหลิวซือฉุน ถวายบังคมองค์รัชทายาท ทรงพระเจริญพันปี”หลิวซือฉุนยังคงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยนางคิดว่าหลี่เฉินจะสอบถามตัวเองเกี่ยวกับความคืบหน้าของการขนย้ายเกลือในช่วงที่ผ่านมาในความเป็นจริงแล้ว ความคืบหน้าของธุรกิจนี้ไม่ค่อยราบรื่นนักตั้งแต่สมัยโบราณ นี่เป็นครั้งแรกที่เอกชนจะเข้ามาแทรกแซงธุรกิจที่ทางการผูกขาด แม้จะมีลายพระหัตถ์ขององค์รัชทายาท แต่นางก็ยังประสบปัญหามากมายในรายละเอียดต่างๆหลิวซือฉุนเข้าใจเหตุผลที่ว่าพบพญายมดีกว่าพบผีรับใช้[footnoteRef:1] ดังนั้นจึงไม่พึ่งพาลายพระหัตถ์ขององค์รัชทายาทในการจัดการสิ่งต่างๆ เมื่อพบข้อต่อบางอย่างที่ต้องเปิดออก ควรให้เงินก็ให้ ควรมอบผู้หญิงก็ให้ ตราบใดที่ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ หลิวซือฉุนก็ไม่สนใจวิธีการ [1: พบพญายมดีกว่าพบผีรับใช้ หมายถึง คนเป็นลูกน้องรับมือยากกว่าหัวหน้า] แต่ถึงอย่างนั้น หลิวซือฉุนก็ยังพบกับความยากลำบากเป็นอย่างมาก ขณะที่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ก็มีคำสั่งเรียกเข้าเฝ้าของหลี่เฉินหลี่เฉินมอ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 111

    “เฉินทง”หลี่เฉินตะโกนเรียกในไม่ช้า เฉินทงก็เข้ามาในพระที่นั่งสีเจิ้ง และทำความเคารพหลี่เฉิน“ถวายบังคมองค์รัชทายาท ทรงพระเจริญพันปี”“เฉินทงเป็นรองผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพรแห่งหน่วยบูรพา ในขณะที่เจ้ามองหาสิ่งนี้ หากต้องการความช่วยเหลือหรือผู้ช่วย ก็สามารถติดต่อเฉินทงได้โดยตรง”เมื่อพูดกับหลิวซือฉุนเสร็จ หลี่เฉินก็หันมาอธิบายกับเฉินทงว่า “สิ่งนี้สำคัญมาก เจ้ากับองครักษ์เสื้อแพร จะต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่”เฉินทงกำหมัดคารวะ แล้วพูดว่า “กระหม่อมรับพระราชดำรัสสั่ง!”มันเทศแดงปลูกง่าย ให้ผลผลิตสูง ซึ่งส่วนใหญ่สามารถเป็นอาหารหลักแทนข้าวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติติดต่อกันหลายปี และความอดอยากทั่วทั้งประเทศเช่นนี้ สิ่งนี้มีรสชาติอร่อยกว่ารากหญ้าหรือเปลือกไม้อย่างแน่นอนเมื่อแพร่หลายแล้ว ปัญหาการขาดแคลนอาหารที่รบกวนจักรวรรดิต้าฉินมานานหลายร้อยปี ก็สามารถแก้ไขได้ในตอนแรกหลี่เฉินแค่อยากจะลองดูเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าหลิวซือฉุนจะนำความหวังอันริบหรี่มาสู่เขาได้จริงๆเมื่อก้อนหินขนาดใหญ่ในใจร่วงหายไป หลี่เฉินก็อารมณ์ดีขึ้นมาเมื่อเห็นว่าหลี่เฉินอารมณ์ดี

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 112

    ซานเป่าวิ่งพรวดพราดเข้ามาในพระที่นั่ง คุกเข่าเสียงดังแล้วโขกหัวเหมือนนก “องค์รัชทายาทโปรดระงับโทสะ องค์รัชทายาทโปรดระงับโทสะ”หลี่เฉินเพิกเฉยต่อหลิวซือฉุนที่หวาดกลัว เขาลุกขึ้นยืนและเดินไปหาซานเป่า ดวงตาของเขาเย็นเฉียบราวกับมีด“ทหาร!”หลี่เฉินกัดฟันตะโกนออกมา นอกพระที่นั่ง องครักษ์เสื้อแพรสองนายก็เดินถือดาบเข้ามาหลี่เฉินชักดาบที่ข้างเอวขององครักษ์เสื้อแพรหนึ่งนายโดยไม่พูดไม่จา และพาดดาบไปที่คอของซานเป่า“ซานเป่า ข้าเห็นว่าเจ้าคงเหนื่อยกับการมีชีวิตจริงๆ!”ดาบซิ่วชุนขององครักษ์เสื้อแพร ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฆ่าคนโดยเฉพาะ ใบดาบเย็นยะเยือกและคมกริบสุดขีด ซานเป่ารู้สึกได้ว่าใบดาบนั่นได้บาดคอของตัวเองแต่ซานเป่าไม่กล้าขยับ เขาแค่พูดด้วยสีหน้าวิงวอนว่า “ถ้าฝ่าบาทอยากให้บ่าวคนนี้ตาย บ่าวก็ไม่กล้าอยู่ แต่ได้โปรดให้บ่าวตายโดยทราบสาเหตุด้วย บ่าวปฏิบัติตามพระราชดำรัสสั่งของฝ่าบาททุกอย่าง จัดการงานอย่างระมัดระวัดด้วยความรับผิดชอบ ไม่กล้าดูหมิ่นหรือหลอกลวงฝ่าบาทแต่อย่างใด ชีวิตบ่าวที่ต่ำต้อยไม่มีอะไรเลย แต่ฝ่าบาททรงมีเกียรติยิ่งนัก มีเรื่องอันใดที่ทำให้ฝ่าบาททรงพิโรธขึ้นมาเช่นนี้?”ซานเป่าสม

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 113

    กล่าวจบ ซานเป่าก็โขกหัวข้างๆ เท้าของหลี่เฉินอย่างแรง หลี่เฉินโกรธจัดและหัวเราะออกมา เขาใช้เท้าเตะซานเป่าจนกลิ้งหลุนๆ ไปกับพื้นซานเป่าไม่กล้าขัดขืนและไม่กล้าดิ้นรน เขารีบลุกขึ้นมาคุกเข่าตามเดิม โดยรักษาท่าทางที่นอบน้อมและถ่อมตัวที่สุด“เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นก็ถือว่าเป็นการตายที่ยุติธรรมแล้ว มา บั่นหัวไอ้ตัวไร้ประโยชน์นี่ให้ข้า!”คำพูดของหลี่เฉิน ทำให้องครักษ์เสื้อแพรไม่กล้าไม่ทำตาม ในขณะที่จะลงมืออยู่นั้น จู่ๆ ซานเป่ากลับพูดเสียงสั่นขึ้นมาว่า “ฝ่าบาท บ่าวยินดีที่จะตายเพื่อบรรเทาความพิโรธของฝ่าบาท แต่ได้โปรดให้โอกาสบ่าวได้ไถ่โทษของบ่าวด้วย!”“สำหรับมณฑลซีซานนั้นสถานการณ์มีความซับซ้อน ตอนนี้ บ่าวสงสัยว่าการล่มสลายของหน่วยบูรพาสาขานั้นกับกลุ่มกบฏ อาจจะเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นหรือแม้แต่กองทัพในมณฑลซีซานอย่างแยกไม่ออก เมื่อประกอบกับสถานการณ์ในปัจจุบันของราชสำนัก ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นแผนการสมรู้ร่วมคิดครั้งใหญ่”ซานเป่ากล่าว ขณะโขกหัวเหมือนโขกกระเทียม น้ำเสียงของเขาดูโศกเศร้า “บ่าวไม่เสียดายที่ต้องตาย แต่ทนไม่ได้ที่จะเห็นพวกโจรเหล่านี้ สมคบกันก่อความเดือดร้อนให้แก่

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 114

    เมื่อเห็นดวงตาที่ลุกเป็นไฟบนใบหน้าที่เย็นชาของหลี่เฉิน หลิวซือฉุนก็ตกใจนางคุ้นเคยกับดวงตาเหล่านี้ดีเพราะเวลาที่พวกผู้ชายมองนาง ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีสายตาเช่นนี้เพียงแต่ไม่มีผู้ชายคนไหนเข้มแข็งและมีอำนาจเท่ากับองค์รัชทายาท และอีกฝ่ายก็ไม่คิดที่จะอำพรางความรู้สึกเลยแม้แต่น้อยหลิวซือฉุนกัดฟันแน่น นางเดินเข้าไปหาหลี่เฉินทีละก้าวหลี่เฉินยกมือขึ้น และดึงหลิวซือฉุนเข้ามาในอ้อมแขนแล้วให้นางนั่งลงหลิวซือฉุนต้องการจะต่อต้านตามสัญชาตญาณแต่กลับถูกหลี่เฉินกอดไว้แน่นบั้นท้ายที่อวบอิ่มและเด้งดึ๋งของหลิวซือฉุน กดทับลงบนหน้าตักของตัวเอง ทำให้หลี่เฉินรู้สึกราวกับว่ามีน้ำมันราดบนกองไฟ ทันใดนั้นเปลวไฟที่ดูเหมือนจะมอดดับ ก็ลุกโชนขึ้นมาโดยพลัน“อย่าต่อต้าน”หลี่เฉินกล่าวเสียงกระซิบ “เจ้าก็รู้ ว่าเจ้าต่อต้านข้าไม่ได้”หลิวซือฉุนหายใจถี่ในส่วนที่บอบบางที่สุดของร่างกายผู้หญิง รู้สึกได้ถึงรูปร่างของหลี่เฉินอย่างชัดเจนซึ่งการสัมผัสแบบนี้ เกินกว่าขอบเขตของความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงที่สังคมอนุญาต ทำให้หลิวซือฉุนกลายเป็นคนโง่งมไปชั่วขณะ“องค์รัชทายาท ไม่ได้เพคะ ”ในความลนลาน หลิวซือฉุนก็ทำไ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 115

    ทั่วทั้งห้องโถงพลันเงียบงันพวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คำพูดของกวางกงกลับรุนแรงแบบที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อนคนสนิทคนหนึ่งของซานเป่ายกมือขึ้นแล้วก็พูดว่า “ขอแค่กวางกงสั่ง ข้าก็พร้อมที่จะตาย แต่กวางกง มันเกิดอะไรขึ้นหรือขอรับ?”ซานเป่ายกมือแตะรอยเลือดที่คอของเขาอย่างช้าๆ แล้วกัดฟันพูดว่า “เมื่อครู่ ข้าเกือบจะถูกองค์รัชทายาทตัดหัว!”“เป็นเพราะการแบ่งแยกมณฑลซีซาน ทำให้ยุทธการที่สำคัญต้องล่าช้า และตอนนี้ สามอำเภอของมณฑลซีซาน ก็ถูกยึดครองโดยพวกกบฏ”เมื่อประโยคนี้หลุดออกมา ก็สร้างความตื่นตกใจให้กับคนทั้งห้องคำว่า “กบฏ” นั้น แม้จะคิดในใจก็รู้สึกตกใจและหวาดกลัวอยู่ดี มีบางคนทำเช่นนั้นจริงๆ หรือ ซานเป่ากวาดสายตาที่มืดมนของเขารอบหนึ่ง ก่อนจะยืนขึ้นแล้วพูดว่า “ทุกคน ยกเว้นผู้ที่ต้องอยู่ที่สำนักงานใหญ่ คนอื่นๆ ทั้งหมดจะติดตามข้าไปมณฑลซีซาน ครั้งนี้องค์รัชทายาททรงพิโรธมาก แม้ว่าทั้งมณฑลซีซานจะนองเลือด พวกเราก็ต้องสอบสวนเรื่องนี้ให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นข้าจะต้องตาย และพวกเจ้าทุกคนก็จะไม่มีใครรอด”ด้วยบารมีที่ซานเป่าสะสมมาหลายปี ยอดฝีมือขององครักษ์เสื้อแพรต่างก็กำหมัดแล้วตะโกนว่า “น้อมรับคำสั่

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 116

    “เรื่องนี้ ข้าอนุมัติ”หลังจากผ่านไปนาน จนหลิวซือฉุนแทบจะหมดหวัง ในที่สุดก็ได้ยินเสียงเหมือนเสียงสวรรค์“ข้าจะแจ้งให้ผู้บัญชาการป้องกันชายฝั่งทราบ และให้ความช่วยเหลือแก่พวกเจ้า แต่ไม่อาจป่าวประกาศไปทั่วได้”“เจ้าเป็นประชาชน จึงไม่ทราบความร้ายแรงของราชสำนัก เมื่อเพลิงไหม้เกิดขึ้น คนแรกที่ถูกทำลายคือครอบครัวหลิวของเจ้า ดังนั้นก็รับผิดชอบกันเอาเอง”หลิวซือฉุนข่มความดีใจแล้วกล่าวว่า “หม่อมฉันทราบถึงความร้ายแรงดี และจะไม่พูดมากเพคะ”หลี่เฉินกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ข้ารู้ว่าที่เจ้าขอขนส่งทางทะเล อีกจุดประสงค์หนึ่งน่าจะเป็น การนำบางสิ่งที่ทางราชสำนักไม่อนุญาต ผลกำไรของสินค้าลักลอบนำเข้าเหล่านี้ สูงมากพอที่จะทำให้พ่อค้าคนใดคนหนึ่งยินดีรับความเสี่ยง”คำพูดของหลี่เฉินทำให้หลิวซือฉุนตัวสั่นเล็กน้อย แต่เขาไม่ฟังคำอธิบายของนาง หลี่เฉินพูดต่อไปว่า “แต่ข้าไม่สนใจ หากไม่ให้พวกเจ้ากินเนื้อเสียบ้าง แล้วพวกเจ้าจะยอมตายเพื่อข้าได้อย่างไร”“จำเอาไว้ว่า ข้าไม่ยึดติดกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้าเรื่องที่ข้าบอกให้พวกเจ้าทำ แล้วพวกเจ้าก็ดีแต่พูด ข้าจะลืมความรู้สึกในคืนนี้”หลิวซือฉุนรู้สึกฝาดอยู่ในใจ สำหรับ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 117

    ในยุคนี้ สตรีในครอบครัวไม่สามารถพบแขกได้อย่างง่ายดาย จนกว่าพวกนางจะออกมาจากเรือนส่วนตัวแม้จะเป็นญาติผู้ใหญ่มาก็เช่นกันดังนั้นตั้งแต่สมัยโบราณจึงมีคำกล่าวที่ว่า “รออยู่ในห้องส่วนตัว” หรือ “ไม่ออกนอกประตูใหญ่ ไม่ล่วงข้ามประตูสอง”ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าซูจิ่นพ่าเป็นบุตรสาวของแม่ทัพใหญ่ ใครก็ตามที่บุกเข้ามาโดยใช้กำลัง พวกเขาจะถูกผู้คุ้มกันของจวนแม่ทัพใหญ่โยนออกไปแต่สถานะของหลี่เฉินนั้นสูงศักดิ์มาก ยิ่งไปกว่านั้นเขายังหมั้นหมายกับซูจิ่นพ่า จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปขวางจวนแม่ทัพใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ หลี่เฉินเดินประมาณหนึ่งเค่อ จึงจะเดินออกจากสวนดอกไม้ด้านหลัง และมาถึงเรือนส่วนตัวของซูจิ่นพ่าแม้จะบอกว่าเป็นเรือนส่วนตัว แต่จริงๆ แล้วมันเป็นลานเล็กๆ ที่มีเอกลักษณ์มากกว่าภายในลานมีภูเขาจำลอง ลำธาร มีศาลาและระเบียงทางเดิน แม้เรือนแห่งนี้จะถูกแยกออกมา ก็ยังถือได้ว่าเป็นบ้านหรูที่คนธรรมดาไม่สามารถเข้าถึงได้ก่อนที่หลี่เฉินจะเข้ามา เขาได้ยินเสียงฉินดังมาจากลานบ้านเสียงฉินดังอย่างเร่งเร้า ราวกับลูกปัดตกลงบนจานหยก ดุจเสียงกีบม้าโจนทะยาน ทุกจังหวะทุกท่วงทำนองเพลง ดึงความรู้สึกกล้าหาญของ

บทล่าสุด

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 822

    หลี่เฉินยกถ้วยชาขึ้นจิบ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าคิดถึงหนิงอ๋อง?”ซานเป่ายิ้มพลางกล่าวว่า “องค์ชายทรงเฉลียวฉลาด ปัญหาเช่นนี้จะมีหรือที่พระองค์จะมองไม่ออก? เกรงว่าในวันที่มีการหารือในราชสำนัก พระองค์คงวางแผนการในแต่ละก้าวไว้อย่างชัดเจนแล้ว เย่ลู่เสินเสวียนจะเก่งกาจเพียงใด มีอะไรที่ฟ้าประทานมาในวันเกิดของเขาก็ตาม แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าองค์ชาย กลับไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวลเลย”“ประจบสอพลอ”หลี่เฉินหัวเราะดุเบาๆ ก่อนกล่าวต่อ “คนที่ไม่ฉลาดจะพูดอะไรก็พูดตามใจ ไม่ดูสถานการณ์หรือคู่สนทนา สุดท้ายคำพูดเหล่านั้นก็นำภัยมาสู่ตนเอง”“คนที่ฉลาดจะรู้จักอ่านสถานการณ์ มองออกแต่ไม่พูดออกมา เพื่อปกป้องตัวเองไว้ก่อน”“แต่คนที่ฉลาดกว่านั้น จะรู้ว่าควรพูดอะไรเมื่อใด บางครั้งพูดในสิ่งที่ดูเหมือนไม่ควรพูด แต่กลับได้ผลดีอย่างไม่น่าเชื่อ เหอคุนเป็นเพียงขุนนางระดับล่าง แต่กล้าพูดถึงการใช้ประโยชน์จากหนิงอ๋อง หากเรื่องนี้แพร่ออกไป คงไม่มีอ๋องแห่งแคว้นใดปล่อยให้เขามีชีวิตรอดได้”ซานเป่าเอ่ยด้วยเสียงเบา “หน้าที่ของคนเป็นข้ารับใช้ ย่อมต้องช่วยรับมือกับคมดาบและศรลอบแทนนายของตน”หลี่เฉินไ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 821

    “ในใต้หล้านี้ อ๋องแห่งแคว้นที่มีมากมาย แต่ในบรรดานั้น ผู้ที่ทรงอำนาจที่สุดหาใช่ใครอื่นไม่ หนึ่งคือเหวินอ๋องแห่งเจียงหนาน ผู้ที่ร่ำรวยมหาศาล ครอบครองดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ และอีกหนึ่งคือหนิงอ๋อง ซึ่งครอบครองดินแดนกันฉ่าน อันใกล้ด่านเย่ว์หยา มีทัพเสินอู่เว่ยเต็มกำลังสองหมื่นหกพันนายประจำการ”“ทัพเสินอู่เว่ยนี้ เป็นผลงานที่จักรพรรดิองค์ก่อนทุ่มเทพระทัยสร้างขึ้นมา ราชสำนักเองก็ลงทุนไปมหาศาล กล่าวได้ว่าเป็นทัพรบพิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบห้าสิบปีของแคว้นต้าฉิน”“เมื่อครั้งจักรพรรดิทรงใช้สิทธิ์ควบคุมทัพเสินอู่เว่ยเป็นข้อแลกเปลี่ยน ให้หนิงอ๋องไปยังดินแดนกันฉ่านที่แร้นแค้น ในเวลานั้นผู้คนต่างสงสัยว่าเหตุใดพระองค์ถึงยอมปล่อยกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดออกไป แต่บัดนี้เมื่อมองย้อนกลับไป เห็นได้ชัดว่า ฟ้าดินลิขิตไว้แล้ว แม้หนิงอ๋องจะมีอำนาจ แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน เขากลับกลายเป็นกำลังสำคัญที่ราชสำนักต้องพึ่งพา และเขาเองก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะต้องทุ่มเททุกสิ่งเพื่อต่อสู้กับกองทัพแคว้นเหลียว”หลี่เฉินพยักหน้า กล่าวต่อว่า “ข้าจำเรื่องนั้นได้อยู่บ้าง หนิงอ๋องนั้นกล้าหาญ เมื่อถึงวัยก็ถูกจักรพรรดิองค์ก่อ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 820

    "ด่านเย่ว์หยาของพวกเจ้า มีสักกี่คนที่ไว้วางใจได้บ้าง?"หลี่เฉินทบทวนคำพูดนี้ซ้ำไปมา ก่อนหัวเราะเย็นคำพูดนี้ หากออกมาจากปากคนอื่น เขาอาจไม่ใส่ใจแต่เมื่อเซียวเทียนหนาน ซึ่งเป็นขุนนางระดับสูงของแคว้นเหลียวกล่าวออกมาโดยตรง นั่นหมายความว่าด่านเย่ว์หยามีปัญหายิ่งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัยเขาก้มมองเหอคุนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นพระที่นั่งซีเจิ้ง ก่อนเอ่ยว่า "ดี เจ้าทำงานได้ดีมาก เซียวเทียนหนานยังมีประโยชน์ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาตัดสะพาน"สายลับที่มีประสิทธิภาพเพียงคนเดียว สามารถสร้างความได้เปรียบมากกว่ากองทัพนับพันดูตัวอย่างจากจ้าวเสวียนจีเพียงจ้าวเสวียนจีคนเดียวก็ทำให้โชคชะตาของจักรวรรดิต้าฉินถดถอยไปไม่ต่ำกว่าห้าสิบปีแม้เซียวเทียนหนานจะไม่สามารถเทียบชั้นกับจ้าวเสวียนจีได้ในแง่ของอิทธิพลหรือฝีมือในแคว้นเหลียว แต่โอกาสในการวางสายลับเช่นนี้ถือว่าหาได้ยากอย่างยิ่งดังนั้น บุคคลนี้ต้องเก็บไว้ เพื่อใช้ล่อปลาตัวใหญ่เหอคุนยิ้มด้วยความยินดี เมื่อได้ยินคำชมจากหลี่เฉิน ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงประจบ "ทุกสิ่งล้วนเกิดจากพระปรีชาสามารถขององค์ชาย…""คำประจบสอพลอเช่นนี้ ข้าไม่อยากฟัง"หลี่เฉินโบกมือ กล่าว

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 819

    "หรือก็คือ ตอนนี้ข้าไม่มีประโยชน์ต่อพวกเจ้าอีกแล้วสินะ"เซียวเทียนหนานจ้องเหอคุนเขม็ง สังเกตทุกอิริยาบถบนใบหน้าของอีกฝ่าย พร้อมกล่าวต่อ "ถ้าจะฆ่าหรือลงโทษก็เอาเถอะ ข้าขัดขืนไม่ได้อยู่แล้ว"เหอคุนจ้องเซียวเทียนหนานนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งจริงอยู่ หากพิจารณาถึงคุณค่า ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการกำจัดเซียวเทียนหนานแต่หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่ ใบหน้าของเหอคุนก็กลับมาพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นตามเดิม"สหายเซียว ทำไมถึงพูดเช่นนั้นเล่า? สหายเซียวช่างใจกว้างนัก บอกข้อมูลสำคัญมากมายให้ผู้แซ่เหอทราบ ผู้แซ่เหอจะเป็นคนไร้สัจจะได้อย่างไร? หรือว่าในสายตาของสหายเซียว ผู้แซ่เหอช่างต่ำช้าและไร้ยางอายถึงเพียงนี้?"เซียวเทียนหนานชะงัก ก่อนถามด้วยความประหลาดใจ "เจ้าไม่ฆ่าข้า?""ผู้แซ่เหอชอบผูกมิตร"ทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ เซียวเทียนหนานแทบอยากจะอาเจียนเขาสาบานว่า สองประโยคที่เขาไม่อยากได้ยินที่สุดในชีวิตคือ หนึ่งคือ ภรรยาเจ้าคลอดลูกสาวให้ตน และสองคือ ใครก็ตามที่บอกว่าชอบผูกมิตรนับจากนี้ ถ้าเขาได้ยินอีก เขาจะซัดอีกฝ่ายไม่ยั้ง"ในเมื่อเป็นสหายกัน ผู้แซ่เหอจะฆ่าสหายของตัวเองได้อย่างไร?"เหอคุนกล

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 818

    เมื่อคำพูดของเหอคุนสิ้นสุดลง เซียวเทียนหนานก็รีบลากเขาไปยังตรอกข้างๆเหอคุนรู้สึกงุนงงไปชั่วขณะเขาเกือบคิดว่าเซียวเทียนหนานคงจะทนแรงกดดันไม่ไหวและต้องการปะทะกับเขาแต่เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เขาไม่รู้อะไรเลยเหอคุนรู้ดีว่างานสำคัญที่สุดของเขาคือการล้วงข้อมูลจากขุนนางแคว้นเหลียว ดังนั้นเขาแทบไม่ได้กลับไปที่ตำหนักบูรพา แต่เลือกดักรออยู่หน้าจุดพักแรมกลัวว่าจะพลาดโอกาสสำคัญเสียงวุ่นวายที่เกิดขึ้นในจุดพักแรมก่อนหน้านี้ เหอคุนก็พอจะทราบเขาคิดจะกลับไปรายงานตำหนักบูรพา แต่เมื่อเห็นองครักษ์เสื้อแพรจำนวนมากตั้งกำแพงป้องกันไว้รอบพื้นที่ เขาก็ไม่ได้เร่งรีบในเมื่อทุกคนรู้กันดีว่าหน่วยบูรพาเป็นเสมือนสุนัขรับใช้ขององค์รัชทายาท เขาจึงแน่ใจว่าไม่องค์รัชทายาทก็หน่วยบูรพาย่อมรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว หรือไม่ก็อาจเป็นฝีมือขององค์รัชทายาทเองเซียวเทียนหนานมองเหอคุนด้วยแววตาแข็งกร้าว ก่อนกัดฟันกล่าวว่า "พวกเจ้าร้ายกาจนัก!""พวกข้าต้องใช้เวลาในการเก็บข้อมูล แต่พวกเจ้ากลับฆ่าสือเซวียนเหว่ยเพื่อส่งคำเตือนถึงข้าใช่หรือไม่!?"หัวใจของเหอคุนกระตุกวูบสือเซวียนเหว่ยตายแล้วอย่างนั้นหรือ?ต้องเพิ่ง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 817

    เย่ลู่เสินเสวียนมองเซียวเทียนหนานด้วยสีหน้าเรียบเฉยเขาไม่ได้สงสัยในตัวเซียวเทียนหนาน แต่รู้สึกว่าชายผู้นี้ดูเหมือนจะหวาดกลัวจนเสียสติ และพูดจาไร้สาระไม่หยุด"แจ้งเขาทำไม? ข้ายังต้องขออนุญาตเขาด้วยหรือ...""จำเป็นต้องแจ้งเขาจริงๆ!"แต่ทันทีที่พูดไปได้ครึ่งประโยค เย่ลู่เสินเสวียนก็คิดได้เพราะที่นี่คือดินแดนของต้าฉิน การเดินทางจากเมืองหลวงไปยังด่านเย่ว์หยาต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบถึงสิบห้าวัน เส้นทางที่ยาวนานเช่นนี้ มีโอกาสเกิดเหตุไม่คาดฝันได้ตลอดเวลาที่สำคัญที่สุดคือ เวลาสิบถึงสิบห้าวันนี้ อาจเพียงพอให้หลี่เฉินเสียใจหากหลี่เฉิน ผู้ที่กล้าเสี่ยงทุกอย่างตัดสินใจบ้าระห่ำขึ้นมา และพยายามกักตัวเขาไว้ในต้าฉิน ทุกอย่างจะพังทลายในดินแดนต้าฉิน ผู้เดียวที่สามารถต่อกรกับหลี่เฉินได้อย่างเท่าเทียม ก็คือผู้อาวุโสจ้าวดังนั้น หากได้รับการสนับสนุนจากจ้าวเสวียนจี การเดินทางครั้งนี้จะราบรื่นขึ้นมากเมื่อคิดได้เช่นนี้ เย่ลู่เสินเสวียนมองเซียวเทียนหนานด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปชายไร้ค่านี่ แม้จะเป็นคนของหว่านเหยียนไจ๋เต้า แต่ในช่วงเวลาวิกฤต ก็ยังมีประโยชน์อยู่บ้างอย่างน้อยคำแนะนำนี้ก็ไม่ได้เสียเ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 816

    "แคว้นเหลียวไม่เคยถูกหยามเกียรติขนาดนี้ ข้าเองก็เช่นกัน!"เย่ลู่เสินเสวียนกล่าวอย่างเดือดดาล "ความแค้นนี้ต้องชำระ! แต่ไม่ใช่ตอนนี้!"ก่อนเดินทางมาจักรวรรดิต้าฉิน เย่ลู่เสินเสวียนได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหลี่เฉินจากหลายแหล่งเขารู้ว่าจุดเด่นที่สุดของหลี่เฉิน คือการที่เขาไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ทั่วไปราวกับว่ามุมมองและวิธีการแก้ปัญหาของหลี่เฉิน แตกต่างจากคนธรรมดาโดยสิ้นเชิงคนเช่นนี้ถือว่าน่ากลัวอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อเขายืนอยู่ในตำแหน่งสูงสุดที่สามารถควบคุมจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ได้ ก็ยิ่งทำให้รับมือได้ยากแม้เย่ลู่เสินเสวียนจะประเมินหลี่เฉินไว้สูงแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ การกระทำของหลี่เฉินยังคงเกินกว่าที่เขาคาดคิดคนผู้นี้ช่างกล้าเกินไป เขาทำได้ทุกอย่างจริงๆเมื่อความคิดนี้แวบขึ้นในหัว เย่ลู่เสินเสวียนก็รู้ทันทีว่า เขาไม่อยากอยู่ในเมืองหลวงอีกต่อไปในมุมมองของเขา หากจะล้างแค้นหรือตอบโต้ ต้องรอให้เขาออกจากจักรวรรดิต้าฉิน ผ่านด่านเย่ว์หยา และกลับถึงแคว้นเหลียวเสียก่อน เมื่อถึงแคว้นเหลียว เขาจึงจะสามารถเหยียบต้าฉินและหลี่เฉินไว้ใต้เท้าได้อย่างแท้จริงแต่การปะทะกับหลี่เฉินในเมืองหลวงเป็นเรื่องที่ไร

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 815

    ในโลกนี้ ยังมีสตรีที่ทำให้ข้าหลงใหลได้ถึงเพียงนี้ด้วยสถานะของเย่ลู่เสินเสวียน เขาสามารถเรียกหญิงใดที่เขาหมายตาให้มาอยู่ต่อหน้า และไล่กลับไปตามใจได้โดยเฉพาะในแคว้นเหลียว ซึ่งมีวัฒนธรรมที่เปรียบสตรีดุจเสื้อผ้าที่สามารถเปลี่ยนใหม่ได้ตามใจชอบแม้แต่ภรรยาของขุนนาง ก็สามารถเรียกให้มาร่วมเตียงด้วยได้ขุนนางเหล่านั้นไม่สามารถปฏิเสธ และยังต้องถือว่าเป็นเกียรตินี่คือกฎของทุ่งหญ้าซึ่งอาศัยหลักการปลาใหญ่กินปลาเล็ก ผู้แข็งแกร่งย่อมครอบครองทุกสิ่งในแคว้นเหลียว เรื่องผู้หญิงยิ่งเป็นเช่นนั้นแต่เย่ลู่เสินเสวียนรู้ดีว่า สตรีที่เขาได้เห็นเมื่อครู่ ไม่ใช่ใครที่เขาจะได้มาครอบครองง่ายๆและเพราะเหตุนี้เอง นางจึงมีคุณค่าที่ทำให้เขาใฝ่ฝัน"องค์รัชทายาท"ชายกลางคนเดินกลับมายืนต่อหน้าเย่ลู่เสินเสวียน พร้อมยกมือขึ้นคำนับ น้ำเสียงหนักแน่นบาดแผลบริเวณฝ่ามือของเขาแม้ดูน่าสยดสยอง แต่เขากลับไม่แสดงอาการเจ็บปวดใดๆจากท่าทีที่แสดงออก ชัดเจนว่าเขาแตกต่างจากคนอื่นๆ ไม่ได้แสดงความยำเกรงเย่ลู่เสินเสวียนมากนักเย่ลู่เสินเสวียนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ "เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น?""นักฆ่าหญิงผู้นั้น ฆ่าอ๋อง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 814

    แม้เย่ลู่เสินเสวียนจะมีการปกป้อง แต่ขุนนางคนอื่นๆ กลับไม่ได้โชคดีเช่นนั้นมีบางคนถูกแรงระเบิดซัดกระเด็นไปโดยตรง คนหนึ่งศีรษะกระแทกเสา เลือดพุ่งออกจากจมูกและปาก ก่อนร่างจะกระตุกสองครั้งแล้วนิ่งไปอีกสองคนถูกแรงระเบิดเหวี่ยงออกไปนอกหน้าต่าง ร่วงลงบนซากปรักหักพัง ไม่มีเสียงตอบสนองอีกเลยเย่ลู่เสินเสวียนเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงสิ่งแรกที่เขาคิดคือ หลี่เฉินต้องการฆ่าปิดปากเขาบ้าไปแล้วหรือ!? เขากล้าทำได้อย่างไร!?"ความตกใจและความโกรธที่ท่วมท้นทำให้ใบหน้าของเย่ลู่เสินเสวียนบิดเบี้ยว"เกิดอะไรขึ้นกันแน่!?"เย่ลู่เสินเสวียนตะโกนด้วยเสียงต่ำ แม้ฝุ่นควันจะเกาะเต็มตัว แต่เขาไม่สนใจ"องค์รัชทายาท มียอดฝีมือบุกเข้ามา"ชายชราผู้ค้อมตัวเอ่ยคนคนนี้เป็นคนเดียวกับที่ปกป้องเย่ลู่กู่จ้านฉีในวันนั้นมุมปากของเย่ลู่เสินเสวียนกระตุก สายตาเต็มไปด้วยความเย็นชาเขาคิดไม่ออกว่าทำไมไม่ว่ามองจากมุมไหน หลี่เฉินไม่ควรจะลงมือกับเขาในเวลานี้นี่เป็นเหตุผลที่เขากล้าปรากฏตัวในเมืองหลวง และแม้กระทั่งยั่วยุหลี่เฉินด้วยเย่ลู่เสินเสวียนไม่ใช่คนโง่ หากไม่มีความมั่นใจ เขาย่อมไม่เสี่ยงชีวิตเช่นนี้เว้นแ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status