Share

บทที่ 1002

Author: ไห่ตงชิง
สามวัน

ภายในศาลาว่าการ เกิดเสียงกระซิบกระซาบขึ้นอย่างแผ่วเบา

นับตั้งแต่ที่จ้าวอ๋องหลี่อิ๋นหู่ที่ถูกปลดออกประกาศศึกฉบับที่สอง ใครๆ ก็รู้ว่าราชวงศ์ต้าฉินกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ความขัดแย้งระหว่างจ้าวอ๋ององค์ชายแปด และองค์รัชทายาทได้เดินมาถึงจุดที่ไม่มีทางประนีประนอมอีกต่อไป

และเนื่องจากมณฑลหนานเหอสิงอยู่ใกล้พื้นที่นครบาล มีขุนนางมากมายที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ในเมืองหลวงอย่างลึกซึ้ง ทุกคนล้วนไม่อยากพลาดโอกาสในครั้งนี้

ทว่าการถูกกักตัวไว้เป็นเวลาสามวันนี้ ราวกับเป็นการปิดตายเส้นทางของพวกเขา

ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้พวกเขาเข้าใจได้ทันทีว่าการเปลี่ยนแปลงอำนาจกำลังจะเกิดขึ้นภายในสามวันนี้

ทุกคนต่างรู้ว่าโจวผิงอันถูกส่งตัวมาจากกรมยุติธรรม ให้มาคุมมณฑลหนานเหอสิง โดยที่ตำหนักบูรพาถึงกับยอมเสียสละครั้งใหญ่เพื่อปลดขุนนางคนเก่าที่เคยครองตำแหน่งนี้มาก่อน ซึ่งหมายความว่าโจวผิงอันเป็นขุนนางในเครือข่ายของตำหนักบูรพาโดยสมบูรณ์

การที่เขาใช้วิธีการนี้เพื่อปิดกั้นทุกอย่าง ทำให้ขุนนางเหล่านี้รู้สึกอึดอัดอย่างถึงที่สุด

โจวผิงอันย่อมรู้ดีว่าพวกเขากำลังคิดอะไร แต่เขาก็หาได้ใส่ใจ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1003

    สายลมแห่งทะเลทรายพัดโหม ด่านเย่ว์หยาตระหง่านกลางแผ่นดินแม้ว่าด่านเย่ว์หยาจะมีชื่อเรียกว่าด่าน แต่แท้จริงแล้ว หลังจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องหลายปี มันได้กลายเป็นเมืองชายแดนที่แข็งแกร่งแห่งหนึ่งเมืองแห่งนี้แตกต่างจากเมืองอื่นโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าหญิงหรือชาย ไม่ว่าวัยเยาว์หรือชรา ผู้คนที่นี่ล้วนมีนิสัยแข็งกร้าวสุดขั้ว ทุกครัวเรือนมีอาวุธเก็บซ่อนไว้เป็นเรื่องปกติในยามปกติ พวกเขาคือชาวนา ผู้บุกเบิกดินแดนอันแห้งแล้งกลางพายุทราย แต่เมื่อศึกสงครามมาถึง พวกเขาสามารถสวมเกราะและแปรเปลี่ยนเป็นนักรบได้ในทันที ทุกคนล้วนเป็นทหารที่ผ่านศึกมานับครั้งไม่ถ้วนสงครามที่ยาวนานหลายปี ได้ทำให้เมืองชายแดนแห่งนี้กลายเป็นเมืองที่แท้จริงของทหารทั้งแผ่นดินภายในค่ายทหารของด่านเย่ว์หยาบรรยากาศของค่ายที่เข้มงวดอยู่แล้ว วันนี้กลับยิ่งตึงเครียดเป็นพิเศษ ทหารทุกนายติดดาบยาวไว้ที่เอว ถือหอกไว้ในมือ แววตาแข็งกร้าวไม่มีแม้แต่ร่องรอยของความลังเลภายในกระโจมใหญ่เหล่าแม่ทัพที่มียศตั้งแต่ระดับแม่ทัพร้อยนายขึ้นไป ล้วนถูกเรียกตัวมาประชุมโดยพร้อมเพรียง“แม่ทัพหวัง ผู้บัญชาการมีคำสั่ง ขุนนางทหารทุกนายที่เข้าสู่ค่ายต้อง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1004

    หวังต้าจาวแม้จะบ้าบิ่นเพียงใด แต่ก็ไม่กล้าต่อต้านอู๋ปานซานต่อหน้าผู้อื่นเขารีบเอ่ยขึ้นทันที "ผู้บัญชาการ เข้าใจผิดแล้ว ข้าโง่เขลาเอง ขอผู้บัญชาการโปรดลงโทษด้วย""หลังจากนี้ ข้าจะรับโทษเฆี่ยนสามสิบทีเอง"อู๋ปานซานจ้องหวังต้าจาวเขม็ง หากไม่ใช่เพราะหวังต้าจาวเป็นคนสนิทที่เขาเคยฝึกฝนมาตั้งแต่ยังเป็นองครักษ์ วันนี้แม้แต่เขาก็คงปกป้องหวังต้าจาวไม่ได้แต่เขาก็ไม่ทำเช่นนั้นแน่นอนหวังต้าจาวไม่รู้เรื่องภายในเหล่านี้ รู้เพียงว่าเมื่อได้รับโทษแล้ว ตนเองก็ไม่อาจปฏิเสธได้ ทำได้เพียงพยักหน้ารับคำอู๋ปานซานหันไปมองทหารลาดตระเวนที่หยุดหวังต้าจาวก่อนหน้านี้ ก่อนจะถามว่า "เจ้าชื่ออะไร?"ทหารคนนั้นยืนตรงด้วยความตื่นเต้น ตอบเสียงดัง "ขอรายงานผู้บัญชาการ ข้าชื่อฮั่วชิงหยุน เป็นหัวหน้าหน่วยลาดตระเวนประจำกองค่ายขอรับ!""ดีมาก ฮั่วชิงหยุน นับจากนี้เป็นต้นไป เจ้าคือแม่ทัพร้อยนาย!"อู๋ปานซานตบไหล่ฮั่วชิงหยุนหนักๆ ให้สายตาแห่งการยอมรับ ขณะที่ฮั่วชิงหยุนรู้สึกตื่นเต้นจนร่างสั่นสะท้านจากนั้น อู๋ปานซานหันหลังเดินกลับเข้าไปในกระโจมบัญชาการ โดยมีหวังต้าจาวที่เพิ่งถูกปลดอาวุธ เดินก้มหน้าไร้เรี่ยวแรงตามหลัง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1005

    "คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะยังจำข้าได้" อู๋ชิงชางมองหวังต้าจาวพลางยิ้มหวังต้าจาว ผู้เป็นชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ หยาบกระด้าง แต่ในเวลานี้กลับตื่นเต้นจนเหมือนเด็กน้อย ดวงตาของเขาแดงก่ำ เสียงสั่นเครือขณะกล่าวว่า "ผู้บัญชาการอู๋! เมื่อก่อนข้าเป็นเพียงเด็กเลี้ยงม้าให้ท่าน ท่านยังจำข้าได้หรือ? ท่านเคยชมว่าข้าจูงม้าได้มั่นคงดี"อู๋ชิงชางพยักหน้า "ข้าจำได้ ต่อมาข้าส่งเจ้าเข้ากองรบ ให้เจ้าออกศึกฝึกฝนอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะรับเจ้าเข้ากองทหารองครักษ์ของข้า"หวังต้าจาวสะอื้นเล็กน้อย เอ่ยถามด้วยเสียงสั่นเครือ "ผู้บัญชาการอู๋... ตลอดหลายปีมานี้ ท่านหายไปไหนมา? พี่น้องทุกคนคิดถึงท่านมาก"อู๋ชิงชางเผยสีหน้าปลงตก เขากล่าวว่า "มีหลายเรื่องที่ข้าไม่มีอิสระในการเลือก ข้าไม่สามารถบอกพวกเจ้าได้ แต่ตอนนี้ ไม่ต้องเรียกข้าว่าผู้บัญชาการอู๋อีก ข้าไม่ได้มีตำแหน่งทางทหารใดๆ แม้แต่ยืนอยู่ที่นี่ก็ถือว่าละเมิดกฎระเบียบของกองทัพแล้ว ไม่สมควรได้รับคำเรียกนั้นอีกต่อไป""ท่านพี่ ทรัพย์สมบัติและอำนาจของข้าก็คือของพี่! ใครกล้าบอกว่าพี่ไม่สมควรได้รับ!"อู๋ปานซานกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความศรัทธาและความเคารพอย่

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1006

    "พวกเจ้าให้ความร่วมมือกับจ้าวเสวียนจี คิดจะเปิดประตูด่านเย่ว์หยา คิดว่าข้าไม่รู้หรือ?"คำพูดเยือกเย็นของอู๋ปานซานทำให้บรรยากาศในกระโจมระเบิดขึ้นในทันทีด่านเย่ว์หยาตั้งอยู่ในทำเลพิเศษและมีความสำคัญสูงสุดผู้คนที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือน ล้วนมีความแค้นลึกซึ้งกับแคว้นเหลียวหากไม่มีความแค้นฝังรากลึก พวกเขาคงไม่เลือกอยู่ที่ด่านเย่ว์หยาดังนั้นเมื่อได้ยินว่ามีคนคิดจะเปิดประตูด่านให้แคว้นเหลียวเข้ามา ทุกคนก็แทบคลั่งหากไม่ใช่เพราะอู๋ชิงชางมีอำนาจและบารมีสูงส่ง หากไม่ใช่เพราะอู๋ปานซานมีอำนาจควบคุมอย่างเด็ดขาด กระโจมแห่งนี้คงเกิดจลาจลไปแล้วและหากข่าวนี้แพร่ออกไป ทหารทั้งด่านเย่ว์หยาคงลุกฮือ เกิดการกบฏที่แท้จริงแน่นอนถึงตอนนั้นจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่แย่ที่สุดด้วยเหตุนี้ ตอนนี้จึงเป็นช่วงที่อันตรายที่สุดสำหรับด่านเย่ว์หยา"เงียบให้หมด!"เสียงตวาดของอู๋ชิงชางทำให้ความวุ่นวายภายในกระโจมสงบลงใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเข้มแข็งและกลิ่นอายสังหาร เขามองฟู่ไหวหยวนทั้งสี่คนแล้วกล่าวว่า "ข้ามาจากเมืองหลวง หลักฐานที่พวกเจ้าสมคบกับจ้าวเสวียนจีมีอยู่แน่นหนา และพวกเจ้าจะต้องถูกลงโทษตามก

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1007

    คำว่าฆ่าซะเพียงคำเดียว เปรียบดั่งคำตัดสินประหารชีวิตของฟู่ไหวหยวนและพวกทั้งสี่ฟู่ไหวหยวนทั้งสี่หน้าซีดเผือด เมื่อเห็นองครักษ์ดึงดาบออกจากฝัก พวกเขาก็ตะโกนลั่น "อู๋ปานซาน! อู๋ชิงชาง! พวกเจ้ากล้าหรือ!?""พวกข้ามีทหารใต้บัญชากว่าหมื่นนาย! ก่อนมาที่นี่พวกข้าได้สั่งการไว้แล้ว หากพวกข้าเป็นอะไรไป พวกเขาจะก่อกบฏแน่นอน! ด่านเย่ว์หยาจะต้องปั่นป่วน พวกเจ้าจะรับผิดชอบไหวหรือ!?""ข้ารับผิดชอบเอง"อู๋ชิงชางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา "พวกเจ้าคิดว่าข้าให้พวกเจ้ามาที่ค่ายโดยห้ามพาองครักษ์มา เพราะข้ากลัวพวกเจ้าจะต่อต้านนั้นหรือ? ตอนนี้พวกเขาถูกควบคุมไว้หมดแล้ว""พวกเจ้าคิดว่าตนเองควบคุมอำนาจทหาร แต่ลืมคิดไปว่าด่านเย่ว์หยาเป็นสถานที่เช่นไร หากทหารชั้นผู้น้อยรู้ว่าพวกเจ้ากระทำการทรยศ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่ก่อกบฏเพื่อพวกเจ้า แต่พวกเขาจะเป็นคนแรกที่เข้ามาฉีกเนื้อพวกเจ้าให้เป็นชิ้นๆ!"อู๋ชิงชางหมดความอดทน ตะโกนออกมา "ลงมือเดี๋ยวนี้!"ฟู่ไหวหยวนทั้งสี่ดิ้นรนสุดกำลัง ก่นด่าสาปแช่ง แต่ทุกอย่างจบลงทันทีเมื่อคมดาบฟาดลงมาศีรษะทั้งสี่กลิ้งลงพื้น เลือดอุ่นๆ สาดกระเซ็นไปทั่วกระโจมแม่ทัพบางคนที่ยืนใกล้เกินไป

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1008

    สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่หวังต้าจาว ผู้ที่เป็นคนเอ่ยปากขึ้นมาหวังต้าจาวไม่เคยถูกแม่ทัพนายกองระดับสูงให้ความสนใจมากขนาดนี้มาก่อน เขาเกาหัวเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า "ข้าไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้มากนัก ข้ารู้เพียงแค่ว่า พ่อแม่ของข้าตายหมดแล้ว ไม่มีทางเลือกจึงต้องมาสมัครเป็นทหาร โชคดีที่ถูกเลือกให้เป็นคนจูงม้าให้ผู้บัญชาการอู๋""ผู้บัญชาการอู๋ไม่เคยมองถูกมองแคลนทหารอย่างพวกเรา กลับกัน ท่านให้ความดูแล ให้โอกาสข้าได้ออกรบ ได้สังหารศัตรูเพื่อสร้างความดีความชอบ ทำผิดต้องรับโทษ ทำดีต้องได้รับรางวัล ท่านไม่เคยเอาเปรียบผู้ใด""ส่วนผู้บัญชาการของเราก็ไม่ต่างกัน ข้าเริ่มต้นจากการเป็นเพียงหัวหน้าหมู่ เมื่อสิบเอ็ดปีก่อน ในศึกที่เขาฮูเอ๋อร์ พวกเราแปดพันนายต้องเผชิญหน้ากับทหารชั้นยอดของแคว้นเหลียวจำนวนสามหมื่นนาย ต่อสู้อย่างหนักหน่วงเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน จนกระทั่งแปดพันนายของพวกเราถูกสังหารจนเหลือเพียงสี่สิบหกคน ผู้บัญชาการเป็นคนที่แบกข้าออกมาจากกองศพ หากไม่มีผู้บัญชาการอู๋และผู้บัญชาการ ข้าก็คงไม่มีวันนี้""พวกเจ้าทุกคนที่อยู่ที่นี่ บางคนอาจจะไม่เคยร่วมรบกับผู้บัญชาการอู๋ แต่ข้าขอถามเพียงคำเดียว—มีใค

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1009

    อู๋ชิงชางหยุดชะงักอู๋ปานซานและทั้งขบวนพลอยชะงักไปด้วยเขาหันไปมองอู๋ปานซานที่ยังคงไม่พอใจ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "ปานซาน เจ้าน่าจะรู้ดีว่าความปรารถนาของข้าไม่ได้อยู่ที่ราชสำนัก"อู๋ปานซานพยักหน้ากล่าวว่า "ข้ารู้ว่าพี่ใหญ่ไม่เคยสนใจตำแหน่งขุนนาง ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ยอมใช้ชีวิตอยู่ในศาลบูรพกษัตริย์นานถึงยี่สิบปี""ถูกต้อง"อู๋ชิงชางเงยหน้ามองเส้นขอบฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองซีด พลางกล่าวว่า "ข้าไม่ได้ต้องการอำนาจในราชสำนัก สิ่งที่ข้าปรารถนาคือการอยู่ในสนามรบ ความฝันเดียวของข้าคือได้ออกศึก สังหารศัตรูนับล้าน"ในดวงตาของอู๋ชิงชางเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขากำหมัดแน่นก่อนจะกล่าวต่อ "เจ้ารู้หรือไม่ว่า ช่วงเวลายี่สิบปีในศาลบูรพกษัตริย์ อะไรคือสิ่งที่ข้าทนไม่ได้มากที่สุด?""ไม่ใช่อาหารจืดชืด ไม่ใช่ชีวิตอันแร้นแค้น แต่เป็นเพราะข้าทำได้เพียงจับไม้กวาดแทนที่จะเป็นดาบ ข้าทำได้เพียงกวาดพื้นซ้ำๆ จนข้าจำจำนวนอิฐทุกก้อนในศาลได้ขึ้นใจ แต่ข้ากลับไม่มีโอกาสได้ออกรบ!""แต่หากต้องการบางสิ่ง ก็ต้องยอมเสียบางสิ่ง หากไม่มีองค์จักรพรรดิที่มีหัวใจเช่นเดียวกับข้าในราชสำนัก แม้ข้าจะได้ตำแหน่งคืน

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1010

    "ไม่เป็นไรเพคะ"จ้าวหรุ่ยตอบด้วยเสียงแผ่วเบา ขณะรินน้ำชาอุ่นๆ ให้หลี่เฉิน"องค์ชายดื่มน้ำชาเสียก่อน จะได้สร่างเมา"เมื่อเห็นหลี่เฉินเริ่มจิบชา จ้าวหรุ่ยจึงกล่าวขึ้นว่า "แม่ทัพซูเป็นบุคคลสำคัญที่ตำหนักบูรพาให้ความไว้วางใจ องค์ชายมีธุระต้องพบปะกับเขาบ้างก็เป็นเรื่องที่สมควร"หลี่เฉินดื่มชาจนหมดไปกว่าครึ่งชาม รู้สึกสบายขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า "การเมืองช่างซับซ้อน มันทำให้การแก่งแย่งชิงดีระหว่างผู้คนถูกแสดงออกอย่างถึงที่สุด""เรื่องของอำนาจ ไม่ได้มีเพียงแค่ความสัมพันธ์ของผู้คน มันซับซ้อนกว่านั้นมาก""จะต้องดึงใครเข้าพวก จะต้องกดดันใคร จะต้องสนับสนุนใคร หรือจะต้องเพิกเฉยต่อใคร สิ่งเหล่านี้ต้องคิดอยู่ตลอดเวลา และต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ โดยสรุปแล้ว มันไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า แต่ยังทำให้ใจเหน็ดเหนื่อยยิ่งกว่า"นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่เฉินเผยความในใจบางส่วนต่อจ้าวหรุ่ย จ้าวหรุ่ยตั้งใจฟังอย่างเงียบๆ แม้ว่านางจะเข้าใจเพียงครึ่งหนึ่ง แต่ก็ยังรู้สึกยินดีอย่างยิ่งเพราะนางคิดว่า หากหลี่เฉินยินดีเล่าเรื่องเหล่านี้ให้นางฟัง นั่นย่อมหมายความว่านางเป็นบุคคลที่เขาให้ความไว้วาง

Latest chapter

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1045

    “ฝ่าบาท พะย่ะค่ะ เราคงรักษาแนวไว้ไม่อยู่แล้ว” ซานเป่ามองสถานการณ์ที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ จึงกล่าวกับหลี่เฉินว่า “ไม่สู้พวกเรากลับเข้าไปในศาลบูรพกษัตริย์ แล้วค่อยหาทางใหม่ดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” “ไม่เป็นไร”หลี่เฉินโบกมือเบาๆ เอ่ยว่า “ให้คนที่เหลือถอยกลับมาเถิด” “แต่ว่า…” หลี่เฉินเหลือบตามองซานเป่าหนึ่งแวบ ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “เมื่อใดกันที่เจ้ากลายเป็นผู้ตัดสินใจแทนข้า?” ซานเป่าหน้าตึงไปทันใด รีบก้มตัวยอมรับคำสั่งโดยไม่กล้าเถียงแม้แต่น้อย การรบในสนามยังคงดุเดือดโลหิต เมื่อความแตกต่างด้านจำนวนเพิ่มขึ้นตามอัตราผู้บาดเจ็บและล้มตาย เมื่อกำลังของทั้งสองฝ่ายใกล้ถึงขีดสุด สถานการณ์ก็เปลี่ยนเป็นการสังหารฝ่ายเดียว ขณะนั้นเอง คำสั่งถอยทัพก็ส่งต่อไปยังทุกหน่วย เหล่าทหารต่างรีบหดแนวรับอย่างเป็นระเบียบแม้เป็นการถอย แต่พวกเขายังคงปักหลักรักษาหน้าที่ ไม่มีผู้ใดหลบหนี ไม่แม้แต่จะแตกกระเจิง ทหารรักษาการณ์ที่เคยมีอยู่หลายพันนาย บัดนี้เหลือเพียงไม่กี่ร้อย ทั้งยังล้วนแต่มีบาดแผลติดตัว ดวงตาหลี่เฉินเปล่งประกาย เขาหันไปกล่าวกับซานเป่าข้างกายว่า “ศึกนี้ จงจดชื่อของเหล่าทหารที่เข้าร่วมไว้ทั้งห

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1044

    “แอ๊ว!” เสียงเหยี่ยวกรีดร้องแหลมสูงสะท้านฟ้า ดึงดูดสายตาของผู้คนมากมายในสนามรบ หลี่อิ๋นหู่เงยหน้าขึ้นในทันที เห็นนกเหยี่ยวรูปลักษณ์สง่างามพุ่งโฉบลงมาจากท้องฟ้าที่หม่นมัว ความเร็วของมันรวดเร็วยิ่งนัก เมื่อเห็นเจ้าเหยี่ยวฮ่ายตงชิงตัวนี้ หนังศีรษะของหลี่อิ๋นหู่ก็แทบจะชาเขานึกขึ้นได้ทันทีว่า เมื่อครั้งอดีต องค์หญิงแห่งแคว้นเซียนเคยพระราชทานของขวัญแก่หลี่เฉินสามสิ่ง เจ้าเหยี่ยวฮ่ายตงชิงตัวนี้ก็คือหนึ่งในนั้น“จบสิ้นแล้ว!” หัวใจของหลี่อิ๋นหู่เย็นวาบครึ่งหนึ่งในบัดดล ไม่ว่าเขาจะฝึกเลี้ยงงูเขียวตัวน้อยให้ฉลาดและดุร้ายเพียงใด ก็ไม่อาจฝืนกฎแห่งธรรมชาติได้แมวล่าหนู เหยี่ยวกินงู เป็นกฎของสวรรค์และปฐพียิ่งไปกว่านั้น เจ้าเหยี่ยวตัวนี้คือราชันในหมู่ไห่ตงชิง พลังฝีมือไม่ได้ด้อยกว่างูเขียวน้อยงูเขียวน้อยก็มิใช่สัตว์ธรรมดา เมื่อมันพบว่าศัตรูตามธรรมชาติมาเยือน ก็ตัวแข็งชะงักไปชั่วขณะ แล้วปฏิกิริยาแรกที่เกิดขึ้นคือหนีมันพยายามหาช่องว่างเพื่อมุดหลบ ทว่าบริเวณหน้าประตูศาลบูรพกษัตริย์ พื้นทั้งหมดปูด้วยหินอ่อนอย่างดี ใช้วัสดุชั้นเลิศ ไม่ยอมให้มีแม้เพียงรอยร้าว อย่าว่าแต่งูเลย ห

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1043

    ขณะเปลวไฟลุกโชนทั่วหล้า จ้าวเสวียนจีที่อยู่ในจวนจ้าว ก็ได้รับข่าวในทันที เขาเงยหน้ามองไปทางศาลบูรพกษัตริย์ ราวกับสามารถมองเห็นไอร้อนจากปลายฟ้าที่กำลังพวยพุ่งขึ้น“ท้องพระคลังเป็นอย่างไรบ้าง?” จ้าวเสวียนจีไม่ได้สนใจชีวิตของหลี่อิ๋นหู่หรือทหารกบฏนับหมื่น บางทีในใจของเขา คงรู้อยู่แล้วถึงจุดจบของคนเหล่านั้นเมื่อเทียบกันแล้ว สิ่งที่เขาใส่ใจยิ่งกว่าคือของที่ตนใกล้จะได้ครอบครองเช่นทองคำและเงินขาวในท้องพระคลัง มากพอจะทำให้ใครต่อใครตาลุกวาว“ไม่ราบรื่นนัก” คนสนิทกล่าวเสียงหนักแน่นว่า “แผนการของตำหนักบูรพายังคงเป็นเช่นที่พวกเราคาดไว้ก่อนหน้านี้ มิได้เทกำลังทั้งหมดปกป้องเพียงศาลบูรพกษัตริย์ แต่กลับกระจายกำลังไปยังจุดสำคัญทั่วเมือง ในท้องพระคลัง พวกเขาจัดกำลังทหารชั้นยอดกว่า 3,000 นาย อีกทั้งซูผิงเป่ยก็ได้นำกำลังไปเสริมด้วย ดังนั้นความคืบหน้าจึงไม่เป็นดังหวัง” “กระจายกำลังป้องกันแน่นหนา ไม่มีช่องโหว่” จ้าวเสวียนจีหัวเราะเบาๆ หันไปมองฟู่อวี้จือที่ยืนเงียบข้างๆ แล้วกล่าวว่า “พี่ฟู่ วิธีการเช่นนี้ ท่านคุ้นเคยหรือไม่?” ฟู่อวี้จือตอบเรียบๆ ว่า “ลายมือของซูเจิ้นถิง” กล่าวจบ ฟู

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1042

    ตั้งแต่คลื่นแมลงปรากฏตัว จากนั้นถูกไฟใหญ่เผาวอดวาย แล้วจึงถึงคราที่กงฮุยอวี่เข้าร่วมฆ่าล้าง ทั้งกระบวนความ แม้เล่าจะดูซับซ้อน ทว่าแท้จริงกลับเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาเดียว ความบ้าคลั่งและความตะลึงงันบนใบหน้าหลี่อิ๋นหู่ยังมิทันจางหาย เหล่าผู้เชี่ยวชาญพิษอาคมหลายสิบคนก็ถูกกงฮุยอวี่สังหารสิ้นดั่งเชือดหมู ยืนอยู่ท่ามกลางกองศพที่ระเกะระกะเต็มพื้น กงฮุยอวี่หันกายกลับมา กระบี่คมสามฉื่อในมือหยดเลือดลงเป็นสาย เมื่อรวมกับอาภรณ์ขาวบริสุทธิ์ทั้งร่าง นางผู้นี้ ช่างคู่ควรกับคำว่าไร้เทียมทานในใต้หล้ากงฮุยอวี่เผชิญหน้ากองทัพกบฏ ดวงตาหลุบต่ำ มองไปยังเปลวเพลิงที่ยังลุกไหม้อย่างรุนแรง จากนั้นนางสะบัดแขนเสื้อยาวในฉับพลัน พลังภายในพุ่งทะลัก กระแสแรงกล้าพวยพุ่งขึ้น กงฮุยอวี่แม้มิใช่คู่มือของซานเป่า แต่ด้วยพลังระดับกึ่งเซียนเหยียบแผ่นดิน นางเดินกร่างได้ทั่วหล้าเมื่อนางลงมืออย่างสุดกำลัง มิได้ยั้งมือแม้สักนิด ยิ่งไม่เสียดายพลังภายในเลย ใต้แขนเสื้อขาวดุจหิมะ ลมกรรโชกแรงบังเกิดโดยไร้เหตุอันควร ศพที่อยู่ใกล้รอบกายนางถูกลมพัดจนปลิวกระเด็น แม้แต่ของที่อยู่ห่างออกไป อาวุธ เกราะ ข้าวของบนพื้นก็

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1041

    ฝ่ายตำหนักบูรพา แต่เดิมก็เสียเปรียบด้านจำนวนอย่างสิ้นเชิง พอซูผิงเป่ยเคลื่อนทัพออกไป สถานการณ์ก็พลันตกอยู่ในภาวะที่ย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม หากไม่ใช่เพราะทหารกลุ่มนี้เป็นยอดฝีมือในหมู่ยอดฝีมือ เกรงว่าแต่แรกก็ถล่มทลายไปแล้ว ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้น วงล้อมป้องกันที่พวกเขาจัดตั้งขึ้นก็ยังคงหดแคบลงเรื่อยๆ หลี่เฉินที่ยืนอยู่หน้าเขตประตูศาลบูรพกษัตริย์ ถึงกับสามารถมองเห็นแนวรบที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดเคลื่อนเข้ามาใกล้ตนเองได้อย่างชัดเจน ในขณะที่ซูผิงเป่ยเพิ่งจะออกไป คนชุดดำหลายสิบคนก็ปรากฏตัวขึ้นที่ชายขอบสนามรบทันที ในขณะเดียวกัน ซานเป่าที่เฝ้าอยู่ข้างกายหลี่เฉินก็กล่าวขึ้นว่า “ฝ่าบาท เป็นคนของหมู่บ้านเหมียวลงมือแล้ว” “ดี” หลี่เฉินพยักหน้า ดวงตาเย็นชา ราวกับไม่รู้สึกประหลาดใจแม้แต่น้อย หลังจากที่เขารู้เบื้องหลังของหลี่อิ๋นหู่กับโจวสิงเจี่ย หากยังไม่เตรียมรับมือกับพิษหนอนกู่ ก็สมควรตายแล้ว คนชุดดำหลายสิบคนปรากฏตัวขึ้นโดยไม่มีการลังเลแม้แต่น้อย เริ่มปล่อยพิษหนอนกู่ในทันที เหมือนกับบนเขาจิ่ง แมลงพิษสีดำแน่นขนัดพวยพุ่งออกมาจากทุกทิศทาง แมลงพิษสีดำเหล่านี้ดุจคลื่นทะเลห

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1040

    ซูผิงเป่ยขอร้องด้วยเหตุผลอันสมควรยิ่ง ในฐานะที่หลี่เฉินเป็นศูนย์รวม หากพระองค์ยังคงอยู่ในสนามรบเช่นนี้ ไม่เพียงไม่อาจช่วยสถานการณ์ใดๆ ได้ ยังจะต้องแบ่งกำลังคุ้มกัน จนทำให้ฝ่ายตนซึ่งเสียเปรียบอยู่แล้วตกที่นั่งลำบากยิ่งขึ้น ทว่า หลี่เฉินกลับส่ายหน้าช้าๆ ปฏิเสธคำเสนอของซูผิงเป่ย “ข้าเข้าไปไม่ได้” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซูผิงเป่ยก็ตระหนกทันที แต่ยังไม่ทันกล่าวสิ่งใด หลี่เฉินก็พูดต่อ “หลี่อิ๋นหู่ยังไม่หมดใจคิดจะล้มข้า ข้าอยู่ที่ใด เขาย่อมจ้องจะโจมตีที่นั่น และภายในตำหนักบรรพกษัตริย์ ยังมีฮองเฮา และพระชายาองค์รัชทายาท” คำกล่าวนั้นทำให้ซูผิงเป่ยดั่งถูกสายฟ้าฟาด พระองค์ทำเช่นนี้ ก็เพื่อปกป้องฮองเฮากับพระชายาองค์รัชทายาทที่อยู่ในตำหนักบรรพกษัตริย์นั่นเอง แต่ในแนวรบเบื้องหน้า ด้วยจำนวนพลที่ต่างกันมาก ทหารใต้บังคับบัญชาของซูผิงเป่ยบาดเจ็บล้มตายมหาศาล ความได้เปรียบในสนามรบเริ่มเทไปทางฝ่ายกบฏ ซูผิงเป่ยมองเห็นสถานการณ์ กัดฟันกล่าวว่า “แต่ฝ่าบาท กระหม่อมและทหารที่มีอยู่ไม่อาจต้านทานได้นานนัก ขอพระองค์อนุญาตให้กระหม่อมไปเรียกกำลังเสริม!” “เรียกกำลัง? เจ้าจะไปเรียกจากที่ใด?”

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1039

    ก้มศีรษะลงมิได้คำสั้นๆ เพียงสี่คำ กลับเปี่ยมด้วยบารมีอันกร้าวกร่างและแข็งขืน ราวจะทะลักล้นออกมาทั้งหมดหลี่อิ๋นหู่เป็นคนแรกที่สัมผัสได้ถึงความแกร่งกล้าท้าฟ้าท้าดินจากหลี่เฉินผู้นี้เขากัดฟันแน่น ก่อนจะหัวเราะบ้าคลั่ง “ดี! ดี! ดี!”“เป็นเจ้าเองที่ดื้อด้านไม่รู้จักตาย เช่นนั้นข้า...ก็จะสนองให้เจ้าเอง!”กล่าวจบ หลี่อิ๋นหู่ชูมือขึ้นสูงทันใดนั้น พวกพลธนูด้านหลังของเขาก็ยกธนูขึ้นพร้อมกัน ดึงสายจนตึงซูผิงเป่ยซึ่งกำลังเลือดลมสูบฉีดเห็นดังนั้นจึงคำรามขึ้นว่า “คุ้มกันองค์รัชทายาท!”ทันทีที่สิ้นเสียง กลุ่มทหารนับร้อยพุ่งเข้ามาล้อมหลี่เฉินไว้ตรงกลางแถวหน้าหมอบ แถวกลางก้ม แถวหลังยืนตรง ทหารทุกนายยกโล่ในมือขึ้นกำแพงโล่อันใหญ่โตที่สามารถปกป้องหลี่เฉินทั้งร่างได้ ถูกตั้งขึ้นในพริบตาหลี่อิ๋นหู่จ้องมองไปยังหลี่เฉินผ่านช่องว่างระหว่างฝูงชนสายตาทั้งสองปะทะกันกลางอากาศ ในนัยน์ตาหลี่อิ๋นหู่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและอำมหิต“ปล่อยธนู!”เมื่อคำสั่งนั้นถูกเปล่งออกมา ก็มีแต่เสียง ปึง! ปึง! ปึง! ของสายธนูถูกดึงจนสุดแล้วปล่อยออกลูกธนูนับร้อยนับพันกลายเป็นฝนศร พุ่งข้ามหัวพวกตน โค้งเป็นวิถีพุ่ง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1038

    “หลี่เฉิน!” หลี่อิ๋นหู่รู้สึกว่าตนถูกหลี่เฉินผู้นั้นเหยียดหยามด้วยความสุขุมเยือกเย็นเช่นนั้น ถึงกับโกรธเกรี้ยวขึ้นมาโดยพลัน เขาชี้ไปที่หลี่เฉินจากบนหลังม้าขาว ตะโกนด่าทอด้วยความโมโหว่า “สถานการณ์ถึงขั้นนี้แล้ว เจ้าจะทำตัวเสแสร้งไปเพื่ออะไรอีก?” “เจ้ากับข้าล้วนเป็นสายเลือดเชื้อพระวงศ์เช่นเดียวกัน ข้าก็มิใช่คนไร้เมตตา หากเจ้ายอมสละตำแหน่งราชบัลลังก์แต่โดยดี ข้ายินดีสาบานต่อหน้าฟ้าดิน ว่าจะไว้ชีวิตเจ้า ให้เจ้าได้เสวยสุขชั่วชีวิต แต่หากเจ้ายังดื้อรั้นดันทุรัง...” “หากข้ายังดื้อรั้นดันทุรังเล่า แล้วจะเป็นอย่างไร?” หลี่เฉินถามเสียงเรียบ เมื่อเทียบกับอารมณ์เดือดดาลของหลี่อิ๋นหู่ น้ำเสียงของหลี่เฉินกลับสงบนิ่งดั่งสายน้ำ ราวกับว่าเขาไม่เคยเห็นหลี่อิ๋นหู่อยู่ในสายตาตั้งแต่แรก และก็เพราะความนิ่งเฉยไม่ไหวติงเช่นนี้ ยิ่งทำให้หลี่อิ๋นหู่แค้นแน่นในอก ยังไม่ทันให้หลี่อิ๋นหู่ตอบโต้ หลี่เฉินก็กล่าวขึ้นอีกว่า “วันนี้เจ้ามาที่นี่เพื่อสิ่งใด?” หลี่อิ๋นหู่ชะงักงันไปครู่หนึ่ง เขารู้สึกว่าคำถามนี้ไร้สาระสิ้นดี แต่คำพูดถัดมาของหลี่เฉินกลับทำให้สีหน้าของเขาแข็งค้าง “วันนี้เจ้ามา

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1037

    “ขอองค์รัชทายาทสละราชบัลลังก์!” หน้าประตูศาลบูรพกษัตริย์เนื่องด้วยประตูยังคงปิดแน่นอยู่นาน กองทัพกบฏยิ่งส่งเสียงเกรียวกราวไม่หยุดหลี่อิ๋นหู่ยืนอยู่หน้าทัพ จ้องประตูตำหนักที่ยังไม่เปิด ใบหน้ายิ้มเย้ยเริ่มบิดเบี้ยวอย่างเหี้ยมเกรียม เขายกมือขึ้น กองทัพกบฏนับหมื่นเบื้องหลังพลันหยุดส่งเสียง แล้วเสียงของหลี่อิ๋นหู่ก็ดังขึ้น “องค์รัชทายาท ข้ารู้ว่าท่านฟังอยู่ แม้จะแสร้งทำเป็นหูหนวกตาบอดก็ไร้ประโยชน์!” “วันนั้นท่านตำหนิข้าที่พระที่นั่งสีเจิ้ง ท่านองอาจยิ่งนัก!” “ท่านตราข้าผิด ณ พระที่นั่งไท่เหอ ท่านสูงส่งเหนือหัวผู้ใด!” “แต่วันนี้ ท่านก็มีวันนี้! หดหัวอยู่ในศาลบูรพกษัตริย์ ทำไม ท่านคิดว่าซ่อนตัวอยู่ แล้วจะหลีกหนีสิ่งเหล่านี้ได้หรือ?” “ท่านหนีไม่พ้นหรอก!” “วันนี้ คือวันชำระบัญชีระหว่างเราสอง!” หน้าศาลบูรพกษัตริย์ ซูผิงเป่ยนำกองทัพมาถึงแทบจะต่อท้ายหลี่อิ๋นหู่ทันที ขณะจัดเตรียมการวางกำลัง ซูผิงเป่ยก็ได้ยินทุกถ้อยคำของหลี่อิ๋นหู่อย่างชัดเจน “บัดซบ!” ลูกชายแม่ทัพผู้เปี่ยมฝีมือโทสะระเบิด หยิบธนูขึ้นคิดจะยิงหลี่อิ๋นหู่ทันที ทว่าถูกรองแม่ทัพคว้าตัวไว้แน่น “ท

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status