Share

บทที่ 18

Author: หลางเทียนเป๋ายุ๋น
เขาร้อนใจราวกับมีไฟลนก้น แต่วีซ่ากับตั๋วเครื่องบินไม่ใช่สิ่งที่ทำแล้วจะเสร็จได้ในทันที

กว่าเขาจะเหยียบย่างเข้ามาในดินแดนของนอร์เวย์ ทั้งติดต่อสถานทูตกับทางตำรวจเพื่อตามหาอันหนิง ก็กินเวลาเข้าไปแล้วสามวัน

เผยซือเหนียนเคาประตูคอนโด ตะโกนเรียกชื่อ "อันหนิง" แล้วบุกเข้าไปทันที แต่กลับถูกเจ้าของบ้านที่กำลังทำความสะอาดอยู่ห้ามเอาไว้ก่อน เขาพูดด้วยความระแวง "คุณเป็นใคร?"

"ผมมาหาอันหนิง" เขาพูดเสร็จ ก็ตระหนักได้ว่าเธอใช้ชื่อภาษาอังกฤษที่นี่ ก็รีบอธิบายใหม่อีกรอบ "เธอเป็นภรรยาของผม พวกเราเข้าใจผิดกันนิดหน่อย ผมก็เลยมาเพื่อปรับความเข้าใจกับเธอ"

เจ้าของบ้านโบกมือทันที "ที่นี่ไม่มีคนที่คุณกำลังตามหาหรอก"

"เธอชื่ออันหนิง ชื่อภาษาอังกฤษคือNING"

เจ้าของบ้านยังพูดอีก "ผู้เช่าของผมชื่อเซี่ยงหยวน ไม่ใช่คนที่คุณกำลังพูดถึง คุณมาหาผิดคนแล้ว"

เซี่ยงหยวน?

เผยซือเหนียนตกอยู่ในภาวะไปต่อไม่ถูก

"คุณแน่ใจนะครับว่าไม่ได้จำชื่อผิด?"

เจ้าของบ้านเริ่มอารมณ์เสีย "ถ้าคุณไม่เชื่อก็ช่างเถอะ"

ขณะพูด ก็เตรียมจะปิดประตูไป

เผยซือเหนียนไม่ยอมปล่อยเบาะแสตรงหน้าไปง่ายๆ ก็ควักธนบัตรออกมาแล้วไล่ถามต่อ "คิดซะว่านี่เป็
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 19

    กระดาษที่อยุ่บนพื้นพวกนั้นเป็นกระดาษชนิดเดียวกับที่อันหนิงเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้เขา เขาเอาสมุดเล่มที่เธอใช้ไม่หมดย้ายจากห้องหนังสือมาห้องนอน จากนั้นก็นั่งเขียนหามรุ่งหามค่ำติดต่อกันอยู่หลายวันเวลาไร้ซึ่งความหมายในขณะนี้แม่ของเผยซือเหนียนพูดทั้งน้ำตา "อันหนิงไม่ได้อยากเจอลูกแล้ว ต่อให้ลูกเขียนจดหมายขอโทษจนล้นห้องมันจะไปมีประโชน์อะไร? ลูกต้องพูดคำพวกนี้กับเธอด้วยตัวของลูกเอง"เผยซือเหนียนครุ่นคิดอย่างจริงจังนิดหน่อย ยอมรับว่าที่แม่พูดนั้นมีเหตุผล แต่เขาจมอยู่ใต้ตมโคลน จนไม่สามารถออกมาได้แล้ว เขาช้อนดวงตาแดงก่ำขึ้น แล้วพูดอย่างยืนหยัด "เธอจะต้องรู้แน่ ขอแค่ผมเขียนพวกนี้ให้หมด เธอก็จะให้อภัยผม ใช่แล้ว ผมต้องจริงใจให้มาก..."เสียงของเขาแหบแห้ง ทว่ากลับแฝงไว้ด้วยความบ้าคลั่งที่ผิดปกติ ดวงตาก็เป็นประกายแปลกประหลาด พูดได้ครึ่งนึง จู่ๆ ก็ลุกขึ้นแย่งสมุดกลับไป แล้วใช้มือสั่นเทาของเขาเขียนลงไปในสมุด เขาเขียนไปพร้อมกับพูดพึมพำ"อันหนิง ฉันผิดไปแล้ว เธอจะให้อภัยฉันใช่ไหม? ถ้าฉันเขียนจนหมดสมุดเล่มนี้ เธอก็จะต้องกลับมายกโทษให้ฉันแน่ ขอโทษนะ..."เผยซือเหนียนพร่ำประโยคเหล่านี้อย่างไม่รู้จักเหน็ด

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 20

    สติของเขาถูกบดขยี้ด้วยความสิ้นหวังที่ไร้ซึ่งขอบเขตมานานแล้ว กระทั่งปลายสายให้ที่อยู่ในประเทศมาแบบคลุมเครือ จึงวางสายไปพร้อมกับรอยยิ้มอันขมขื่นไม่ได้เหนือความคาดหมาย คนๆ นี้หลอกเขาแต่เขาไม่ได้ไล่บี้ เพราะไม่มีเรี่ยวแรงอีกต่อไปหลังจากวันนั้น สายที่โทรเข้ามาทำนองนี้ก็มีมาต่อเนื่องไม่หยุดทุกคนล้วนเจออันหนิงในที่ใดที่หนึ่ง จากนั้นก็ขอเงินรางวัลจากเผยซือเหนียนไม่มากก็น้อยทั้งที่เขาก็รู้ว่าในบรรดากลุ่มคนเหล่านั้นมีมิจฉาชีพตั้งไม่รู้เท่าไหร่ แต่ก็ยังโอนเงินให้เหมือนเดิม นั่นก็เพื่อคว้าความหวังอันริบหรี่เอาไว้เงินรางวัลที่ว่าสุดท้ายก็กลายเป็นแค่ก้อนหินที่จมลงไปในทะเล โดยไม่มีแม้แต่ละอองน้ำสะเด็ดขึ้นมาแต่เผยซือเหนียนก็หาได้สนใจไม่ ตอนนี้เขาได้แต่อาศัยความคิดนี้เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ต่อไปวันๆ ต่อให้จะมีคนบอกว่าต้องการนัดคุย เขาก็ยังไปตามนัดยังมีผู้หญิงบางส่วนที่ใช้วิธีนี้เพื่อเข้าหาเขา แต่ละคนแต่งตัวสวยอวดสัดส่วนเต็มที่เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ทั้งยังพูดกับเขาแบบเปิดเผยว่า "คุณเผย ฉันยังมีเพื่อนๆ อีกมากมาย ถ้าคืนไหนที่คุณรู้สึกเหงา พวกเราจะช่วยคลายเหงาได้ทุกเมื่อ"กลายเป็นว่าวิ

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 21

    อดพูดไม่ได้เลยว่า ท่าทางของเผยซือเหนียนในวิดีโอดูแล้วติดตามาก ต่อให้เป็นต่างชาติที่ฟังภาษาของเขาไม่รู้เรื่อง แต่ก็ยังสัมผัสได้ถูกความสิ้นหวังจากบนสีหน้าของเขาและซับไตเติ้ล"ไม่หรอก" อันหนิงโอบกอดเจ้าเหมียว ทอดตาลงต่ำแล้วพูด "เราทุกคนต่างก็เกิดมาตัวคนเดียว ไม่มีใครจำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่นเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตต่อไป ถ้าเขาละทิ้งชีวิตตัวเองด้วยเหตุผลนี้จริงๆ นั่นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ จะให้คนอื่นเสียสละตัวเองเพื่อทำตามที่เขาขอก็คงไม่ได้หรอก"เธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว ต่อให้เผยซือเหนียนมายืนร้องไห้ต่อหน้า เธอก็ไม่มีทางกลับไปลิซ่าเองก็ยิ้มน้อยๆ "งั้้นก็ดี เธออยู่ที่นี่ให้สบายใจดีกว่า ช่วงนี้ในป่ามีพายุหิมะ ถนนในเมืองทุกสายที่ตัดผ่านที่นี่ถูกปิดไปหมด ต่อให้มีคนเข้าใจผิดว่าพวกเธอคือคนเดียวกัน ก็ไม่มีโอกาสได้ติดต่อไปรายงานพวกเขาแน่"ในหัวใจของอันหนิงผุดความอบอุ่นขึ้นมา เธอลองชิมคุกกี้ที่เพิ่งอบมาได้ไม่นาน แล้วพูดพร้อมกับขอบตาแดงระเรื่อ "ขอบคุณนะ คุกกี้อร่อยมาก จริงๆ นะ"วันเวลาผ่านไปไวเหมือนสายน้ำไหล ไม่นานก็มาถึงคืนคริสมาสต์อีฟ นี่เป็นวันสำคัญของชาวเมือง หนุ่มสาวจำนวนมากที่ไปทำงานต่าง

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 1

    นี่เป็นแผนที่เธอสร้างให้ตัวเองในอนาคตเธอจะไปจากที่นี่โดยสมบูรณ์อันหนิงถาม "ขอโทษนะคะ ฉันไปเปลี่ยนชื่อพาสปอร์ตตอนนี้ได้เลยไหมคะ?""ได้ค่ะ นี่เป็นเอกสารรับรองการเปลี่ยนชื่อของคุณ คุณถือไปที่ช่องเปลี่ยนชื่อพาสปอร์ตชั้นล่างได้เลยค่ะ"อันหนิงเปลี่ยนชื่อพาสปอร์ตด้วยระยะเวลาที่รวดเร็วที่สุดแต่เอกสารอื่นๆ ทั้งวุฒิการศึกษา ทะเบียนบ้าน เธอยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อถึงยังไงซะ อีกหนึ่งอาทิตย์ให้หลังเธอก็จะไปจากที่นี่พร้อมกับพาสปอร์ตเล่มใหม่อยู่แล้ว งั้นก็ทิ้งตัวตนในอดีตไว้ที่นี่ตลอดกาลก็แล้วกัน เพราะเธอไม่ต้องการมันอีกแล้วเธอถือพาสปอร์ตเล่มใหม่ออกจากโถงสำนักงาน ฝั่งตรงข้ามก็คือแลนมาร์คของเมือง Hบนหน้าจอยักษ์เป็นตึกสูงระฟ้า กำลังฉายบทสัมภาษณ์พิเศษของเผยซือเหนียน ซีอีโอของเชิ่งซื่อกรุ๊ปพิธีกรสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวเล็กๆ ของเขา ก็ถามยิ้มๆ ว่า "ประธานเผย ดิฉันสังเกตว่าคุณเอาแต่จับๆ ลูบๆ แหวนที่นิ้วอยู่ตลอดเวลา แต่ว่า...ก็ดูหมือนจะเป็นแค่แหวนธรรมดาๆ ทั่วไปนะคะ มีอะไรพิเศษหรือเปล่าคะ?"เผยซือเหนียนยิ้มอย่างอ่อนโยน ยกมือขึ้นชูให้เธอดู "นี่เป็นแหวนแต่งงานของผม""อ๊ะ? ขอโทษค่ะ ฉันนึกว่าระดับคุณ

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 2

    "ฉันถอดออกมาแล้ว""นี่มันเป็นแหวนที่ฉันทำขึ้นเอง เป็นเครื่องยืนยันถึงความรักของเราเลยนะ เธอถอดมันทำไม?"อันหนิงบอกปัด "ช่วงนี้ฉันอ้วนขึ้น ใส่แล้วมันแน่น"เผยซือเหนียนได้ยินแบบนั้น ก็สีหน้าดีขึ้นหน่อย เขากลับมายิ้มบางๆ "งั้นวันหลังฉันเอาไปปรับขนาดที่ร้านทำเครื่องประดับ""ค่อยว่ากันแล้วกัน""จริงสิ อะไรอยู่บนโต๊ะ?"เผยซือเหนียนชี้ไปยังกล่องใส่เครื่องประดับที่แสนประณีตซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ ด้วยความตื่นเต้น "อาหนิง ของขวัญที่เธอซื้อให้ฉันหรอ?"อันหนิงพยักหน้า "ใช่"ข้างในนั้น บรรจุเงินก้อนเล็กๆ เอาไว้เธอหลอมแหวนแต่งงานของพวกเขา แล้วใส่มันไว้ข้างในทว่าเผยซือเหนียนกลับดีใจมาก "วันนี้เป็นวันอะไรหรือไง? อาหนิงถึงเป็นฝ่ายซื้อของขวัญให้ฉัน?"หัวใจของอันหนิงเย็นวาบขึ้นมาอีกครั้ง"วันนี้...เป็นวันครบรอบวันแต่งงานของเรา"สีหน้าของเผยซือเหนียนย่ำแย่ลงในเสี้ยววินาทีเขาโอ๋อันหนิงในเชิงเอาใจ "ขอโทษน้าอาหนิง ช่วงนี้ฉันงานยุ่งมากจริงๆ ไม่งั้นคืนนี้เราออกไปกินข้าวกันดีไหม? ฉันจะจองร้านอาหารเดี๋ยวนี้...""ไม่ต้องหรอก ฉันกินมาแล้ว""งั้นฉันพาเธอไปดูวิวกลางคืน? ไปเดินเล่นริมแม่น้ำดีไหม?""ฉัน

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 3

    เผยซือเหนียนลนลานทันที เขารีบขึ้นหน้าเข้ามาดูสถานการณ์ "อาหนิง เป็นอะไร?"อันหนิงอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะกลับมาหายใจได้สะดวกเธอไม่อาจเข้าใจทำไมเผยซือเหนียนที่รักเธอมากมายขนาดนั้นถึงได้นอกใจได้ลงคอเขาไม่กลัวว่าเธอจะรู้หรอ?หรือจะบอกว่า เขาคิดว่าตัวเองสามารถปกปิดได้ดี มีปัญญาจะซ่อนเร้นความจริงนี้จากเธอได้ตลอดไป?ลมในยามค่ำคืนพัดเข้ามาหนึ่งระลอก ช่วยให้ความคิดของอันหนิงกระจ่างแจ้งมากขึ้นเผยซือเหนียนถามเธอ "ไม่เป็นไรนะอาหนิง? ถ้าไม่สบายฉันจะพาไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย""ไม่ต้องหรอก สงสัยว่ามื้อค่ำอาจจะกินของเน่าๆ เข้าไป""งั้นพรุ่งนี้เธอมาหาฉันที่บริษัท แล้วเรากินข้าวด้วยกัน"อันหนิงแค่นหัวเราะเสียงเย็นจะให้ไปดูนายกับหลินจิ้งแสดงจินตลีลาในห้องทำงานกันหรือไง?จู่ๆ เธอก็นึกอยากลองใจเขาขึ้นมา"ก็ได้ งั้นพรุ่งนี้เช้าฉันไปบริษัทกับนาย นั่งทำงานกับนาย จากนั้นกินข้าวด้วยกัน พอตอนเย็นเราค่อยกลับบ้านพร้อมกัน"เผยซือเหนียนไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะตกลง สีหน้าก็เริ่มแสดงความหนักใจ "แต่ช่วงนี้งานฉันยุ่งมาก อาจจะอยู่กับเธอไม่ได้ตลอดเวลา""งั้นนายก็ทำงานของนายไป ฉันจะนั่

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 4

    หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ ทั้งสองคนก็ไปบริษัทพร้อมกันแต่อันหนิงขยะแขยงเบาะข้างคนขับเกินจะควบคุม จึงดึงดันไปนั่งเบาะหลัง"ฉันเมารถ นั่งเบาะหลังยังดีหน่อย เพราะเปิดหน้าต่างได้ลม"เผยซือเหนียนจึงไม่ได้บังคับเธอต่อ "เอางั้นก็ได้ ฉันจะพยายามขับให้นุ่มหน่อย"เมื่อถึงหน้าประตูบริษัท เผยซือเหนียนก็วิ่งเหยาะๆมาเปิดประตูรถให้เธอเมื่ออันหนิงลงจากรถ ก็ถูกจับตามองโดยเหล่าพนักงานที่กำลังเข้างานกันในเวลาคับขันอีกครั้งมีผู้บริหารระดับสูงสามสี่คนวิ่งเหยาะๆ เข้ามา แล้วประจบ "คุณนายมาด้วยหรอครับ? ประธานเผยพร่ำบ่นให้ฟังทุกวันว่าคุณนายชอบดื่มชานม ผมก็เลยไปซื้อมาให้ครับ"อีกคนก็พูดขึ้นว่า "ขนมผมก็ไปซื้อมาด้วย เพราะคุณนายชอบมินิเค้ก"เผยซือเหนียนด่ากึ่งเล่น "พวกคุณอย่าขุนเพิ่มเชียว ตอนนี้อาหนิงก็อ้วนขึ้นนิดหน่อย จนแหวนแต่งงานยังใส่ไม่เข้าแล้ว""ประธานเผยพูดผิดแล้วครับ ดูยังไงคุณนายก็ผอมมาก ถ้าใส่แหวนไม่ได้ แสดงว่าปัญหาอยู่ที่แหวน โดนน้ำแล้วหดแหงๆ!""ไปไกลๆ จะประจบสอพลอก็ให้มันเนียนหน่อย นี่จะออกนอกหน้าไปไหม? เงินที่ไหนโดนน้ำแล้วหด!""นายนั่นแหละไม่เก็ท ประธานเผยรักคุณนายขนาดนี้ ขอแค่คุณนายแฮปปี้

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 5

    อันหนิงพูด "เพื่อนของฉันคนนึง พาสปอร์ตหายน่ะ เลยถามฉันว่าจะทำใหม่ยังไง"เผยซือเหนียนรีบสาวเท้าไปสองก้าว แล้วกอดเธอแน่น "ตกใจหมดเลย ฉันก็นึกว่าเธอจะไปต่างประเทศ แล้วไม่พาฉันไปด้วย"อันหนิงเบี่ยงหน้าหนีอยากจะอ้วกบนตัวของเขามีกลิ่นคาวๆ เลี่ยนๆ อบอวลไปทั่วผสมปะเปกับกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงเผยซือเหนียนลูบหลังให้ฉันอย่างปวดใจ "พวกนั้นให้เธอกินอะไรอีก? เมื่อกี้ฉันเพิ่งจะสั่งไปหยกๆ ว่าสองสามวันนี้เธอท้องไส้ไม่ดี ให้ดูแลเธอดีๆ...รอเดี๋ยวนะ ฉันจะไปจัดการพวกนั้นให้หมด!"คราวนี้อันหนิงออกแรงทั้งหมดที่มีผลักเขาออก"คุณอยากจะจัดการใครก็เชิญ แต่อย่าเอาแต่พูดว่าทำเพื่อฉันจะได้ไหม?!"เผยซือเหนียนถูกเธอระเบิดใส่กระทันหันจนทำอะไรไม่ถูก "อาหนิง เธอโกรธฉันหรอ? เพราะวันนี้ฉันยุ่งกับงานทั้งวันจนไม่มีเวลาอยู่กับเธอใช่ไหม?"เขาว่า "งั้นเอางี้ พรุ่งนี้ฉันจะเลื่อนงานทั้งหมดออกไป แล้วจะอยู่กับเธอคนเดียว โอเคไหม?"อันหนิงโมโหจนหัวเราะออกมา"อยู่กับฉันคนเดียว?""ใช่ กับเธอคนเดียว"อันหนิงสูดหายใจเข้าลึก แล้วพ่นออกมาทีละคำ "หวังว่านายจะทำได้อย่างที่พูด"ตกเย็นวันนี้ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อยู่ๆ ก็มีฝนตก

Latest chapter

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 21

    อดพูดไม่ได้เลยว่า ท่าทางของเผยซือเหนียนในวิดีโอดูแล้วติดตามาก ต่อให้เป็นต่างชาติที่ฟังภาษาของเขาไม่รู้เรื่อง แต่ก็ยังสัมผัสได้ถูกความสิ้นหวังจากบนสีหน้าของเขาและซับไตเติ้ล"ไม่หรอก" อันหนิงโอบกอดเจ้าเหมียว ทอดตาลงต่ำแล้วพูด "เราทุกคนต่างก็เกิดมาตัวคนเดียว ไม่มีใครจำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่นเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตต่อไป ถ้าเขาละทิ้งชีวิตตัวเองด้วยเหตุผลนี้จริงๆ นั่นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ จะให้คนอื่นเสียสละตัวเองเพื่อทำตามที่เขาขอก็คงไม่ได้หรอก"เธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว ต่อให้เผยซือเหนียนมายืนร้องไห้ต่อหน้า เธอก็ไม่มีทางกลับไปลิซ่าเองก็ยิ้มน้อยๆ "งั้้นก็ดี เธออยู่ที่นี่ให้สบายใจดีกว่า ช่วงนี้ในป่ามีพายุหิมะ ถนนในเมืองทุกสายที่ตัดผ่านที่นี่ถูกปิดไปหมด ต่อให้มีคนเข้าใจผิดว่าพวกเธอคือคนเดียวกัน ก็ไม่มีโอกาสได้ติดต่อไปรายงานพวกเขาแน่"ในหัวใจของอันหนิงผุดความอบอุ่นขึ้นมา เธอลองชิมคุกกี้ที่เพิ่งอบมาได้ไม่นาน แล้วพูดพร้อมกับขอบตาแดงระเรื่อ "ขอบคุณนะ คุกกี้อร่อยมาก จริงๆ นะ"วันเวลาผ่านไปไวเหมือนสายน้ำไหล ไม่นานก็มาถึงคืนคริสมาสต์อีฟ นี่เป็นวันสำคัญของชาวเมือง หนุ่มสาวจำนวนมากที่ไปทำงานต่าง

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 20

    สติของเขาถูกบดขยี้ด้วยความสิ้นหวังที่ไร้ซึ่งขอบเขตมานานแล้ว กระทั่งปลายสายให้ที่อยู่ในประเทศมาแบบคลุมเครือ จึงวางสายไปพร้อมกับรอยยิ้มอันขมขื่นไม่ได้เหนือความคาดหมาย คนๆ นี้หลอกเขาแต่เขาไม่ได้ไล่บี้ เพราะไม่มีเรี่ยวแรงอีกต่อไปหลังจากวันนั้น สายที่โทรเข้ามาทำนองนี้ก็มีมาต่อเนื่องไม่หยุดทุกคนล้วนเจออันหนิงในที่ใดที่หนึ่ง จากนั้นก็ขอเงินรางวัลจากเผยซือเหนียนไม่มากก็น้อยทั้งที่เขาก็รู้ว่าในบรรดากลุ่มคนเหล่านั้นมีมิจฉาชีพตั้งไม่รู้เท่าไหร่ แต่ก็ยังโอนเงินให้เหมือนเดิม นั่นก็เพื่อคว้าความหวังอันริบหรี่เอาไว้เงินรางวัลที่ว่าสุดท้ายก็กลายเป็นแค่ก้อนหินที่จมลงไปในทะเล โดยไม่มีแม้แต่ละอองน้ำสะเด็ดขึ้นมาแต่เผยซือเหนียนก็หาได้สนใจไม่ ตอนนี้เขาได้แต่อาศัยความคิดนี้เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ต่อไปวันๆ ต่อให้จะมีคนบอกว่าต้องการนัดคุย เขาก็ยังไปตามนัดยังมีผู้หญิงบางส่วนที่ใช้วิธีนี้เพื่อเข้าหาเขา แต่ละคนแต่งตัวสวยอวดสัดส่วนเต็มที่เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ทั้งยังพูดกับเขาแบบเปิดเผยว่า "คุณเผย ฉันยังมีเพื่อนๆ อีกมากมาย ถ้าคืนไหนที่คุณรู้สึกเหงา พวกเราจะช่วยคลายเหงาได้ทุกเมื่อ"กลายเป็นว่าวิ

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 19

    กระดาษที่อยุ่บนพื้นพวกนั้นเป็นกระดาษชนิดเดียวกับที่อันหนิงเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้เขา เขาเอาสมุดเล่มที่เธอใช้ไม่หมดย้ายจากห้องหนังสือมาห้องนอน จากนั้นก็นั่งเขียนหามรุ่งหามค่ำติดต่อกันอยู่หลายวันเวลาไร้ซึ่งความหมายในขณะนี้แม่ของเผยซือเหนียนพูดทั้งน้ำตา "อันหนิงไม่ได้อยากเจอลูกแล้ว ต่อให้ลูกเขียนจดหมายขอโทษจนล้นห้องมันจะไปมีประโชน์อะไร? ลูกต้องพูดคำพวกนี้กับเธอด้วยตัวของลูกเอง"เผยซือเหนียนครุ่นคิดอย่างจริงจังนิดหน่อย ยอมรับว่าที่แม่พูดนั้นมีเหตุผล แต่เขาจมอยู่ใต้ตมโคลน จนไม่สามารถออกมาได้แล้ว เขาช้อนดวงตาแดงก่ำขึ้น แล้วพูดอย่างยืนหยัด "เธอจะต้องรู้แน่ ขอแค่ผมเขียนพวกนี้ให้หมด เธอก็จะให้อภัยผม ใช่แล้ว ผมต้องจริงใจให้มาก..."เสียงของเขาแหบแห้ง ทว่ากลับแฝงไว้ด้วยความบ้าคลั่งที่ผิดปกติ ดวงตาก็เป็นประกายแปลกประหลาด พูดได้ครึ่งนึง จู่ๆ ก็ลุกขึ้นแย่งสมุดกลับไป แล้วใช้มือสั่นเทาของเขาเขียนลงไปในสมุด เขาเขียนไปพร้อมกับพูดพึมพำ"อันหนิง ฉันผิดไปแล้ว เธอจะให้อภัยฉันใช่ไหม? ถ้าฉันเขียนจนหมดสมุดเล่มนี้ เธอก็จะต้องกลับมายกโทษให้ฉันแน่ ขอโทษนะ..."เผยซือเหนียนพร่ำประโยคเหล่านี้อย่างไม่รู้จักเหน็ด

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 18

    เขาร้อนใจราวกับมีไฟลนก้น แต่วีซ่ากับตั๋วเครื่องบินไม่ใช่สิ่งที่ทำแล้วจะเสร็จได้ในทันทีกว่าเขาจะเหยียบย่างเข้ามาในดินแดนของนอร์เวย์ ทั้งติดต่อสถานทูตกับทางตำรวจเพื่อตามหาอันหนิง ก็กินเวลาเข้าไปแล้วสามวันเผยซือเหนียนเคาประตูคอนโด ตะโกนเรียกชื่อ "อันหนิง" แล้วบุกเข้าไปทันที แต่กลับถูกเจ้าของบ้านที่กำลังทำความสะอาดอยู่ห้ามเอาไว้ก่อน เขาพูดด้วยความระแวง "คุณเป็นใคร?""ผมมาหาอันหนิง" เขาพูดเสร็จ ก็ตระหนักได้ว่าเธอใช้ชื่อภาษาอังกฤษที่นี่ ก็รีบอธิบายใหม่อีกรอบ "เธอเป็นภรรยาของผม พวกเราเข้าใจผิดกันนิดหน่อย ผมก็เลยมาเพื่อปรับความเข้าใจกับเธอ"เจ้าของบ้านโบกมือทันที "ที่นี่ไม่มีคนที่คุณกำลังตามหาหรอก""เธอชื่ออันหนิง ชื่อภาษาอังกฤษคือNING"เจ้าของบ้านยังพูดอีก "ผู้เช่าของผมชื่อเซี่ยงหยวน ไม่ใช่คนที่คุณกำลังพูดถึง คุณมาหาผิดคนแล้ว"เซี่ยงหยวน?เผยซือเหนียนตกอยู่ในภาวะไปต่อไม่ถูก"คุณแน่ใจนะครับว่าไม่ได้จำชื่อผิด?"เจ้าของบ้านเริ่มอารมณ์เสีย "ถ้าคุณไม่เชื่อก็ช่างเถอะ"ขณะพูด ก็เตรียมจะปิดประตูไปเผยซือเหนียนไม่ยอมปล่อยเบาะแสตรงหน้าไปง่ายๆ ก็ควักธนบัตรออกมาแล้วไล่ถามต่อ "คิดซะว่านี่เป็

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 17

    ป้าคนนึงทีเพิ่งหย่ากับสามีที่นอกใจมาหมาดๆ เกลียดพวกเมียน้อยจนเข้าไส้ ก็เดินขึ้นไปขวางทางเธอ แล้วด่ากราด "อายุก็แค่นี้ริอาจทำเรื่องต่ำทราม จะเป็นเมียน้อยทำบ้านเค้าแตกให้ได้เลย? ถุย พวกสันดานเมียน้อย!"หลินจิ้งเห็นว่าเธอเป็นแค่คนแปลกหน้าแต่มาด่าตัวเอง ก็ด่ากลับอย่างไม่ยอมแพ้ "นี่ป้า สภาพนี้คงอยากจะเป็นเมียน้อยแต่ไม่มีปัญญามากกว่ามั้ง มาด่าฉันเป็นเมียน้อย คงไม่ใช่ว่าตัวเองเอาผัวไม่อยู่ เลยโดนทิ้งมาหรอกนะ?""ถุย ก็ยังดีกว่าแกที่แก้ผ้าโดนเขาไล่ตะเพิดออกมาล่ะวะ!" ป้าโมโหจนยื่นมือออกมากระชากเธอสถานการณ์กลายเป็นวุ่นวายขึ้นมาทันทีป้าคนนั้นอาศัยอยู่แถวนี้ ไม่นานก็เรียกรวมพลเพื่อนๆ มารุมด่าหลินจิ้ง ว่าเป็นเมียน้อยหน้าด้าน ส่วนคนอื่นๆ ที่มามุงดูดราม่านี้ ก็เรียกทุกคนเข้ามาดูเพิ่ม จนไม่นานก็รวมคนได้จำนวนมากเสียงเอะอะดังใหญ่โตจนคนในวิลล่ายังได้ยิน แต่เผยซือเหนียนกลับเพิกเฉย ขังตัวเองไว้ในโลกส่วนตัวไม่ยอมออกมาไม่ว่าหลินจิ้งจะปากจัดยังไง ก็ไม่อาจด่าสู้กับคนจำนวนมากขนาดนี้ได้ เธอโมโหจนร้องไห้ อยากจะปิดหน้าแล้ววิ่งหนีออกไปจากวง แต่ก็เกือบถูกพวกหื่มกามยื่นมือมาแตะอั๋งอีก"ไสหัวไป! อย่ามาแตะตัว

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 16

    "เธอไม่มีสิทธิ์วิจารณ์อันหนิง ที่สำคัญเธอเองก็หวังให้รูปมันจะถูกแชร์ออกไปเหมือนกันล่ะสิท่า? เธอถ่ายหน้าฉันชัดขนาดนั้น แต่กลับบังคับตัวเองไม่ให้เขากล้อง อย่านึกว่าฉันไม่รู้ เธอคิดจะอาศัยวิธีนี้เพื่อไต่เต้าอยู่แล้วล่ะสิท่า?"เวลานี้สติสัมปรัชชัญญะของเขาแจ่มแจ้งซะยิ่งกว่าอะไร แต่มันก็สายไปแล้วหลินจิ้งยังอยากจะแก้ต่าง แต่เขาเกลียดชังเธอซะยิ่งกว่าอะไร ไม่คิดจะให้โอกาสอีกแม้แต่นิดเดียว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหารปภ.ของวิลล่า แล้วออกคำสั่ง "ลากตัวคนที่ไม่สมควรเสนอหน้าอยู่ที่นี่ออกไป"รปภ.ของวิลล่าคอยเฝ้ายามอยู่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง หลังจากออกคำสั่งเสร็จก็รีบมาทันทีหลินจิ้งไม่ยอมไปกับพวกเขา ยังพยายามดิ้นรนขัดขืน "ซือเหนียน คุณเป็นคนเรียกฉันมา ตอนนี้คุณจะให้ฉันไป ฉันก็จะไป แต่คุณจะทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้..."เผยซือเหนียนหันหลังให้เธอแล้วเดินเข้าไปในบ้าน เขาทิ้งประโยคนึงโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมา "อย่าให้ฉันเห็นหน้าเธออีก""ซือเหนียน..."หลินจิ้งถูกลากออกจากประตูของวิลล่าไปทั้งอย่างนั้น เธอมองประตูเหล็กแกะสลักปิดลงต่อหน้าต่อตา ราวกับว่าชีวิตของคุณนายไฮโซได้ออกห่างจากตัวเองไปไกลทุกที เธอเริ่มตะโกน

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 15

    หลินจิ้งเข้าใจความหมายของเขาผิดมหันต์ ก็โผเข้าสู่อ้อมกอดเขาด้วยรอยยิ้ม "แบบนี้มันก็ยิ่งเร้าใจน่ะสิ? ซือเหนียน เรามา...กรี๊ด! ทำอะไรของคุณ!"เธอพูดได้ครึ่งเดียว ก็ถูกเผยซือเหนียนที่สุดจะเหลือทนกระชากชุดนอนออกจากตัวเผยซือเหนียนเพิกเฉยต่อเสียงกรีดร้องของใบหู กระทั่งชุดโปรงถูกโยนลงบนพื้นอย่างสมบูรณ์แล้วถึงได้หยุดการกระทำลง โดยที่เขาไม่ได้มองหลินจิ้งเลยตั้งแต่ต้นจนจบบรรดาคนรับใช้แค่มาทำงานแลกเงินเท่านั้น ใครจะมาอยากดูเหตุการณ์แบบนี้ ต่างก็พากันซอยเท้าหนีไปยังสวนหลังบ้านด้วยความเร็วหลินจิ้งหน้าถอดสีในตอนแรก แต่จนกระทั่งบริเวณนั้นไม่มีใครแล้ว ก็ยิ้มอย่างมั่นใจว่าตัวเองเข้าใจถูก "แหม ทำอย่างกับเค้าไม่เก็ทความต้องการของพี่อย่างงั้นแหละ ทำไมต้องรุนแรงแบบนี้ด้วยล่ะ"หล่อนพูดพลางแนบตัวเข้าไปในอ้อมกอดของเผยซือเหนียน โดยไม่คิดจะปิดบังความคิดอ่านของตัวเองแม้แต่น้อยที่พวกเขาสองคนมาคบหากันได้ก็เพราะเรื่องบนเตียง ไม่ได้มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด จึงไม่จำเป็นต้องเหนียมอาย ตราบใดที่เธอให้ความสนุกกับเขา ก็จะได้เงินจำนวนมากส่วนที่เขาจะเห็นเธอเป็นแค่ของเล่นไม่ใช่คนรักนั้น ก็ไม่มีความหมาย

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 14

    [พี่อันหนิง พี่ก็รู้จักเผยซือเหนียนคนนี้ดี เขาน่ะเป็นพวกยึดติดกับรักครั้งเก่า แล้วก็ไม่ค่อยแสดงออก ตราบใดที่พี่ยินดี เขาก็พร้อมจะเลี้ยงดูพี่ได้ตลอดไป แต่ฉันคิดว่าเรื่องบอกเรื่องพูดกันให้เคลียร์ไปเลยจะดีกว่า][ความรักมันไม่มีมาก่อนมาหลังหรอก แต่สิ่งที่ฉันต้องการก็คือหวังว่าคนที่เขาจะได้เจอก่อนก็คือฉัน ตอนนี้พวกพี่ก็แค่เพื่อนร่วมชั้นที่รู้จักกันดีกว่าคนแปลกหน้าใช่ไหมล่ะ ผู้หญิงน่ะต้องรู้จักแต่งหน้าแต่งตัว ไม่งั้นวันๆ เอาแต่หน้าสด สภาพโทรมๆ ผู้ชายที่ไหนเห็นแบบนี้แล้วจะอยากกลับบ้านกัน?][แน่นอนว่าสาวแรกรุ่นคงไม่มีอะไรจะสู้ได้ แต่ก็เราก็ยังรู้จักตัวเองดีกว่าพวกสาวรุ่นใหญ่ที่หนังเหี่ยวขึ้นทุกวันแต่ก็ยังไม่วายเอาตัวเองไปประชันกับพวกสาวๆ นะ วันนี้เผยซือเหนียนชมว่าฉันสวยอีกแล้วด้วยสิ][ทาด๊าา~ นี่เป็นสร้อยที่เผยซือเหนียนให้ฉัน เขาออกแบบเองกับมือเชียว][พี่อันหนิง พี่น่าจะเข้าใจฉันใช่ไหม? พวกเรารักกันด้วยใจจริง ขอแค่พี่เห็นด้วยกับเรา บ้านหลังนั้นก็จะยกให้พี่เป็นค่าปลอบขวัญหลังหย่า เพราะเผยซือเหนียนจะต้องซื้อหลังใหม่ให้ฉันอยู่แล้ว]……ข้อความเนื้อหาทำนองนี้ถูกส่งมามากมาย แต่ละข้อความนั้นไม่

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 13

    เผยซือเหนียนเห็นว่าไม่ว่าจะทำยังไงทนายก็ไม่หลงกล เขาก้มหน้าลงแสดงจุดยืนอีกครั้ง "งั้นเราก็คงไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก ไม่ว่าคุณจะปรินท์มาเท่าไหร่ ผมก็ไม่มีทางเซ็น ส่วนจะไปฟ้องกับทางศาล ก็แล้วแต่คุณ"เขาไม่เชื่อว่าถึงเวลานั้นอันหนิงจะไม่ปรากฎตัวที่ศาล ก่อนถึงเวลานั้น เขาจะต้องคิดทุกวิถีทางเพื่อขอร้องให้เธอยอมให้อภัยพวกเขารักกันมานานตั้งหลายปี มีความทรงจำร่วมกันมากมายตั้งไม่รู้เท่าไหร่ ถ้าได้เจอกันอีกยังไงก็ต้องใจอ่อน ตราบใดที่เขายืนหยัดที่จะไม่หย่า สักวันนึงเธอจะต้องเปลี่ยนใจกลับมาหาเขาแน่ทนายได้เตรียมรับมือสำหรับเหตุการณ์นี้มาแล้ว เขาเริ่มร่ายกฎหมายให้เผยซือเหนียนฟัง"คุณเผย ที่จริงคุณอันไม่จำเป็นต้องฟ้องร้องเลยก็ได้ นี่เป็นแค่แผนสำรองในกรณีที่เลือกไม่ได้ก็เท่านั้น ถ้าเป็นไปได้ เธอยังหวังว่าจะจบกับคุณโดยดี อย่างเช่นแยกกันอยู่สองปี ก็สามารถดำเนินการทางกฎหมายได้แล้ว ศาลจะตัดสินให้หย่าด้วยเหตุผลที่ทั้งคู่ไม่ได้รักกันแล้ว"ทั้งหมดนี้อันหนิงศึกษามาล่วงหน้า หลังจากตัดสินใจว่าจะยุติความสัมพันธ์นี้ เธอก็ใช้ความได้เปรียบจากอิสระในการออกไปไหนมาไหน พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น พร้อมทั

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status