หลังจากจัดการทำแผลให้ไซโคลนเสร็จพวกเขาก็พากันมานั่งริมสระเพื่อเปิดใจกันสองคน ส่วนเพื่อนอีกสามคนนั้นไม่ได้อยู่ตั้งแต่เกิดเรื่องในห้อง Shower แล้ว ฮิลล์นั่งอัดบุหรี่เข้าปอดให้นิโคตินช่วยสงบอารมณ์ของตนแบบนั้นเงียบๆ โดยมีไซโคลนนั่งจิบวิสกี้เป็นเพื่อน"ฟังดูเรื่องของมึงกับไอ้โปมันก็ไปต่อไม่ได้อยู่ดี มึงจะหาเรื่องมันทำไมอีก" ไซโคลนหยิบบุหรี่ติดไฟแล้วพ่นควันออกมา"อือ..." ชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ ทำเพียงแค่ตอบเงียบๆ แล้วอัดนิโคตินเข้าร่างกายต่อไป"แล้วมึงจะเอาไงต่อ" เขาเหลือบมองเพื่อนตนเองที่หน้าตาปูดบวมจากฤทธิ์หมัดของไอ้อาโป หมัดมึงก็หนักใช้ได้นี่อาโป ชายหนุ่มคิดในใจ"ไม่รู้ว่ะ แต่กูไม่ยอมหยุดแค่นี้แน่! ซี้ดดส์" ฮิลล์ยกมือขึ้นแตะมุมปากที่มีเลือดซึมออกมา"นี่มึงจะยังไม่หยุดอีกเหรอ ตอนนี้มึงมีมาร์คแล้วนะ" เขาเตือนสติเพื่อที่ยังคงดื้อดึงฝืนดันทุรัง"มาร์คก็อยู่ส่วนมาร์คสิ ทำไมต้องดึงเขาเข้ามายุ่ง เรื่องนี้เป็นเรื่องของกูกับมันเท่านั้น" ฮิลล์พูดอย่างเอาแต่ใจ"มันคงยอมให้มึงเอาอีกหรอก" นี่มันยังคิดว่าไอ้โปจะยอมอยู่อีกเหรอ ได้ข่าวว่าเอกสารมันผ่านหมดแล้วเหลือแค่กำหนดวันไป มันคงจะอยู่ให้มึงเอาเปรียบอีก
พลั่ก! โครม! จบประโยคร่างของอาโปถูกเท้าข้างหนึ่งถีบเข้าที่ยอดอกจนตัวกระเด็นล้มลงกับพื้นห้องทันทีอื้อออ จุก...ชายหนุ่มจุกจนตัวงอ"แค่นี้ยังน้อยไปกับสิ่งที่มึงพ่นออกมา แค่ไอ้นั่นมันจะตกงานมันทำให้มึงใจกล้าขนาดนี้เลยยังงั้นเหรอ!" ฮิลล์ยืนกัดฟันกรอดมองร่างที่คุดคู้อยู่บนพื้นห้อง ใช่! เขาเป็นคนทำเอง เขาเป็นคนสั่งให้คนไปจ้างงานและพังงานของไอ้ตฤณเอง มันจะได้รู้บ้างว่าใครกันแน่ที่ใหญ่ ถ้าไม่ติดว่าพ่อของตนปรามไว้ไอ้นั่นมันเจอหนักกว่านี้แน่ เสือกมายุ่งกับของของเขาเองช่วยไม่ได้!"แค่กๆ...มึงมันเหี้ย!" อาโปที่หายจุกลุกขึ้นมาต่อว่าอีกครั้ง เขาเกลียดการไม่มีเหตุผลแบบนี้ที่สุด เมื่อก่อนกูรักมึงไปได้ยังไงกัน"ถ้ามึงไม่หยุดต่อไปตีนกูจะไปอยู่บนปากมึง!" เขาไม่ชอบที่มันปกป้องคนอื่น"เอาเลยสิ ตอนนี้กูก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน หรือว่ามึงจะฆ่ากูเลยก็ได้นะ คนใหญ่คนโตแบบพวกมึงคงมีปัญญาทำให้เรื่องเงียบอยู่แล้ว!" อาโปที่พึ่งพยุงร่างของตนลุกยืนได้ตะโกนท้าทายอีกฝ่ายด้วยอารมณ์โมโหเปรี๊ยะ!"รักมันมากใช่ไหม! ถ้ารักมันมากก็อย่าหวังเลยว่ากูจะปล่อยให้พวกมึงเสวยสุขด้วยกันแบบสงบๆ" ชายหนุ่มกระชากร่างของอีกฝ่ายโยนลงโซฟากว้า
บนคอนโดสูงกลางใจเมืองปรากฏร่างชายผู้หนึ่งนอนนิ่งอยู่บนเตียง สายตาคมคู่ที่ไม่เคยกลัวใครบัดนี้หม่นแสงดูว่างเปล่าราวกับรูปปั้นที่ไม่มีชีวิต เขาปล่อยให้นายแพทย์ซึ่งก็คือน้าของตนล้างและเย็บแผลบริเวณมือข้างขวาที่กำลังบวมอักเสบเนื่องจากไม่ได้รับการดูแลดีพอ"ทำไมฮิลล์ปล่อยให้มันอักเสบขนาดนี้ลูก" น้าเมทนีผู้ซึ่งกำลังเย็บฝีเข็มสุดท้ายถามขึ้น หลานชายคนนี้มีความรู้เรื่องการดูแลรักษาแผลดีกว่าใครทำไมถึงได้ปล่อยให้แผลของตัวเองเกิดการอักเสบได้ถึงขนาดนี้"ไม่ตายหรอกครับ ไกลหัวใจเยอะ" ชายหนุ่มตอบเรียบๆ สายตาเอาแต่จ้องมองไปข้างหน้าอย่างไม่มีจุดหมาย"ทะเลาะกับแฟนเหรอเรา" ผู้ผ่านโลกมาก่อนถามเมื่อเห็นอาการของหลานชายตัวดี ถ้าไซโคลนไม่โทรมาบอกตนก็คงไม่รู้ว่าหลานอาการหนักแบบนี้"...." แฟนงั้นเหรอ ไม่ใช่แฟนเสียด้วยสิ ชายหนุ่มเงียบด้วยไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้"อาการหนักนะเรา น้าจัดยาไว้ให้แล้วอย่าลืมกินนะ รู้ใช่ไหมว่าต้องกินยาตัวไหนตอนไหนบ้าง" เมทนีบอกหลานชายระหว่างทำความสะอาดอุปกรณ์การแพทย์ของตนแล้วเก็บลงกระเป๋าเครื่องมือ"รู้ครับ น้าไม่ต้องห่วงฮิลล์หรอก ฝากบอกตาแก่นั่นด้วยว่าลูกคนนี้ได้พ่อมาเยอะหายแล้วจะกลับไ
....ด้านอาโป....ชายหนุ่มซึ่งดูซูบผอมกว่าปกติกำลังทยอยเก็บเสื้อผ้าของข้าวของตนเองลงกล่อง บ้างก็ลงกระเป๋าลากใบใหญ่ ตอนนี้เอกสารของเขาผ่านหมดแล้ว เหลือเพียงเตรียมตัวเดินทางในไม่กี่วัน บทจะผ่านก็ผ่านง่ายเหลือเกิน บทจะไม่ผ่านก็ยุ่งยากสุดเหลือ ทั้งๆ ที่ตนเป็นบุตรบุญธรรมแต่ทำไมสถานทูตถึงขอเอกสารโน้นนี่นั่นจนเกินจำเป็น ถ้าไม่ได้พี่ตฤณเขาคงช้าไปอีกหลายเดือน"ความจริงพี่ไม่ต้องมาช่วยโปหรอก ของโปนิดเดียวเอง ของที่ไม่ได้ใช้ก็น่าจะยกให้คนอื่น คงไม่ได้กลับมาแล้วล่ะ" ประโยคหลังเหมือนชายหนุ่มพูดกับตัวเองเสียมากกว่า"ฮึ...พี่อยากให้โปเสร็จเร็วๆ จะได้ไปกินข้าวกัน ดูสิผอมไปหมดแล้ว" ชายหนุ่มจับคนน้องหมุนไปรอบๆ ก่อนหน้านี้อีกฝ่ายยังพอมีน้ำมีนวลแต่ตอนนี้เสื้อที่เคยพอดีตัวยังหลวมโพรก"อย่าบอกแม่นะพี่ตฤณ" อาโปเอ่ยปากขอร้อง"พี่รู้หน่า ไม่ต้องห่วง" มือแกร่งยกขึ้นลูบหัวอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดู น่ารักขนาดนี้ใครมันกล้ามาทำร้ายกันนะ (ฮิลล์ค่ะพี่มันชื่อฮิลล์คนที่มันแกล้งพี่ไงคะ แต่ตอนนี้มันกำลังนอนเป็นซากอยู่ค่ะ ไรท์เอง ฟ้องซะเลยหมั่นไส้ =.,=)"อื้อ..." อาโปยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนหันกลับไปเก็บของต่อ จากนี้ชีวิตของเขาจะ
....สนามบิน....ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของดวงตาคู่สวยที่ถูกเสริมเสน่ห์ด้วยขี้แมลงวันเม็ดเล็กตรงหางตาข้างซ้ายซึ่งยังคงดึงดูดความสนใจจากผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาได้อย่างดี เขาสวมกางเกงยีนฟอกสีซีด รองเท้าผ้าใบสีขาว เสื้อแขนยาวสีครีมยืนโบกมือไปมาให้คนที่มารอรับ เวลาล่วงเลยมาเกินกว่าสามปีที่อาโปไม่ได้กลับมาเหยียบแผ่นดินเกิดของตนเองแม้แต่ครั้งเดียว ชายหนุ่มหลบไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศเสียนานจนคนทางนี้คิดว่าเจ้าตัวจะไม่กลับมาแล้วเสียอีก"สวัสดีครับพี่ตฤณ สวัสดีครับคุณขุนเขา" อาโปยกมือขึ้นทำความเคารพบุคคลที่มารอรับ"เรียกพี่เถอะ เรียกลุงมันดูแปลกๆ" ชายหนุ่มสูงวัยเอ่ยบอก"ถ้ากระดากปากไม่ต้องเรียกหรอกโป คนแก่ก็เงี๊ยะเพ้อ" ชายหนุ่มข้างๆ ขุนเขาเอ่ยแกมหยอก"ได้สิครับพี่ขุน" อาโปหัวเราะร่า "หยุดแกล้งน้องได้แล้วคุณขุน ป่ะโปไปกันเถอะคุณป้ารออยู่ที่บ้าน" ตฤณตีแขนคนรักของตนเบาๆ ก่อนเดินไปช่วยคนน้องเข็นรถขนกระเป๋าออกไปยังรถตู้ที่จอดรอไว้อยู่ก่อนแล้วอาโปกวาดสายตามองไปรอบๆ ระหว่างก้าวเดินเพื่อดูว่าที่นี่มีอะไรแตกต่างจากเมื่อสามปีก่อนหรือไม่ ตอนนั้นเขาไม่แม้แต่จะทันได้ซึมซับบรรยากาศของสนามบินเฉกเช่นวันนี้สักเท่
....Apo's talk....นี่เป็นครั้งแรกที่ผมกลับมาเหยียบแผ่นดินเกิดนับตั้งแต่จากไปเมื่อสามปีก่อน ตอนนั้นผมจากไปด้วยหัวใจที่บอบช้ำ แต่ครั้งนี้ผมกลับมาด้วยจิตใจที่แข็งแกร่งกว่าเดิมหลายสิบเท่า สาเหตุที่กลับมาครั้งนี้เพราะแม่ผมป่วยเลยเลือกกลับมารักษาที่นี่ ชั่งใจดูแล้วให้แม่กลับมารักษาตัวที่ไทยคงดีกว่า อีกอย่างได้กลับมาบ้านอาจทำให้สุขภาพจิตและสุขภาพกายท่านแข็งแรงขึ้น จะได้อยู่กับผมไปนานๆฟอดด"หวัดดีครับแม่" ผมเดินเข้าไปกอดและหอมแก้มของแม่ทันทีที่ได้พบหน้า ผมไม่ได้เจอแม่มาประมาณสามเดือนเนื่องจากให้ท่านกับแด๊ดเดินทางมาก่อน ส่วนตัวผมนั้นอยู่จัดการเรื่องต่างๆ เสร็จแล้วถึงได้ตามมา มาครั้งนี้ผมตั้งใจมาลองดูลาดเลาก่อนหากทางนี้มีช่องทางมากกว่าอาจกลับมาอยู่ที่นี่ถาวร "ไหนดูซิ แม่ไม่อยู่ผอมลงหรือเปล่า" แม่ผมจับผมหมุนตัวไปรอบๆ "ผอมอะไรกัน ดูสิแก้มโปเพิ่มขึ้นอีกแล้ว" "ก็เอาแต่กินของไม่มีประโยชน์น่ะสิ ไปดูไปแม่เตรียมของที่หนูชอบไว้เต็มเลย""แม่อ่ะ!...บอกแล้วไงอย่าเรียกแบบนั้น" "เอ้อ...แต่เดี๋ยวรอก่อนก็ได้ ไต้ฝุ่นกับรุยบอกว่าจะมาหาลูก เดี๋ยวค่อยกินพร้อมกันดีกว่าเนาะ"ผมกับไต้ฝุ่นปรับความเข้าใจกันก่อนผ
ร่างหนาเดินเซเข้ามายังอ่างล้างหน้าในห้องน้ำชายของสถานบันเทิงที่ตนมีหุ้นอยู่ ชายหนุ่มอุตส่าห์ลงทุนใช้เหล้าพรมลงบนตัวเพื่อจะได้สมจริงมากยิ่งขึ้น เขาพิงเคาน์เตอร์อ่างล้างมือรอฟังเสียงคนที่กำลังใช้ห้องน้ำอยู่สักครู่ ก่อนจะทำทีทรุดฟุบลงกับพื้น น่าอายชะมัดคนแบบเขาต้องมาแสดงละครเพื่อเรียกร้องความสนใจจากใครบางคน แต่ก็ยอมเพราะในตอนนี้เขาเองก็ยังหาวิธีอื่นไม่ออกเพื่อจะได้อยู่กับมึงอาโปอาโปเดินออกมาจากห้องน้ำก่อนสายตาจะไปสะดุดกับร่างบนพื้นที่กำลังนั่งโดยใช้หลังพิงเคาน์เตอร์ล้างมือไว้ ดวงตาทรงเสน่ห์คู่สวยเหลือบมองร่างหนาที่กองอยู่กับพื้นก่อนจะใช้เท้าเตะเบาๆ มุกเดิมๆ หน่าฮิลล์กูไม่ได้ใสซื่อไม่ทันคนเหมือนแต่ก่อนแล้ว"ลุกขึ้นเถอะ ที่นี่มีแค่กูกับมึง ไม่ต้องแสดง" ร่างที่ยืนค้ำเอ่ยขึ้น"....""ถ้ายังไม่ลุก กูไปล่ะนะ" ชายหนุ่มหันหลังเดินออกไปตามคำพูดพรึ่บ! หมับ!จู่ๆ ร่างบนพื้นก็เด้งตัวลุกขึ้นยืนก่อนคว้าแขนดึงผู้ที่กำลังหันหลังเดินจากไปเข้าหาตัวจนเจ้าของร่างนั้นเซถลาเข้าหาอกแกร่งของอีกฝ่าย"ได้เจอกันทั้งทีจะไปอย่างนี้จริงๆ เหรอ" ใบหน้าคมเกยคางกับไหล่มนของคนในอ้อมแขน"ปล่อย" อาโปพยายามสลัดตัวออกจากกรง
"เขินแล้วเล่นแรงอ่ะมึง" ไซโคลนโวยวายลูบหัวตนเองป้อยๆ"เขยิบไป!" ฮิลล์ดันร่างของเพื่อนขยับไปให้ห่างออกไปจากอาโปอีก ถึงแม้จะรู้ว่าไซโคลนไม่ได้คิดเกินเลยกับอีกฝ่าย แต่ก็ไม่ชอบใจอยู่ดี เออ! ขายอมรับเขาหวงมันและไม่คิดจะปิดปังความรู้สึกแล้วด้วย"ถ้ามึงแซวอีกกูกลับนะ บอกตรงๆ กูไม่ชอบ ไอ้ฮิลล์มันมีแฟนแล้วให้เกียรติแฟนมันหน่อย" อาโปบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง เรื่องของเขากับฮิลล์มันจบไปแล้ว และมันไม่ควรถูกขุดขึ้นมาอีกฮิลล์นั่งมองคนพูดด้วยสายตาละห้อย มึงตัดกูออกจากชีวิตจริงๆ ด้วย สามปีที่ผ่านมาชีวิตกูมีอะไรเกิดขึ้นบ้างมันไม่มีอะไรเข้าหูมึงหน่อยเหรอะวะ"โทษทีวะ กูสนุกปากมากไปหน่อย" ไซโคลนเอ่ยขอโทษ ก็จริงของมันตรงที่เรื่องไอ้ฮิลล์กับมันจบกันไปนานแล้ว และเรื่องนั้นก็คงจะเป็นแผลในใจของมันอยู่ เขาไม่ทันคิดข้อนี้ไปจริงๆ"อือ" อาโปพยักหน้าตอบรับคำขอโทษจากอีกฝ่าย"มึงพูดเรื่องจริงทำไมต้องขอโทษด้วย" คนที่นังฟังแทรกขึ้นหน้าตาเฉย"มึงหยุดดิ๊! เสียอารมณ์ฉิบหายกูกลับล่ะ" อาโปลุกขึ้นพรวดเดินออกไปหลังจบประโยค บ้าเอ้ย! เป็นอะไรกันไปหมดวะไอ้พวกนี้หมั่บ!ข้อมือของคนที่กำลังจะเดินลงบันไดถูกคว้าไว้ด้วยกรงนิ้วแกร่งก่อ
ผมยืนมองสารวัตรสไนเปอร์ที่ยังทำหน้านิ่ง ไม่แสดงออกอะไรทั้งนั้นวันนี้เขามาตรวจตราร้านของผม แต่พอเข้ามาก็ทำหน้านิ่ง ขรึม ชีวิตนี้เขารู้จักหาความสนุกให้ตัวเองบ้างหรือเปล่าวะ?“หึ…” ผมกระตุกยิ้ม ก่อนจะยกแก้วเหล้าในมือขึ้นกระดก รสขมปร่าของแอลกอฮอล์ไหลลงคอ แต่มันกลับไม่ช่วยให้ความร้อนในอกผมหายไปเลยสักนิดท่าทางของเขามันเหมือนท่านหิงสาจริงๆ น่าจับกระแทกลงเตียงให้รู้แล้วรู้รอด!ผมเม้มริมฝีปากแน่น ความคิดชั่วร้ายเริ่มแล่นเข้ามาในหัว เล่นตัวนักใช่ไหม? คอยดูเถอะ! จะกำราบให้ครางเหมือนหมาเลยเชียว! ไม่อยากยอมรับดีๆ งั้นเหรอ? ได้! เดี๋ยวจะทำให้ยอมเอง!สายตาของผมยังคงจับจ้องไปที่ร่างของคุณสารวัตร เขายังคงวางมาดเข้ม หน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เหอะ! ผมดูออกนะว่าตั้งแต่ที่เราได้อยู่ใกล้กันมากขึ้น เขาเริ่มเสียอาการไปหลายรอบแล้วไม่เป็นไร…จะเล่นให้สุดแล้วหยุดที่เตียงเลยคอยดู!แต่ก่อนไปพ่อจะ ‘กิน’ ให้เบื่อก่อน ไม่งั้นถ้าพวกไอ้ฮิลล์ ไอ้ไต้ฝุ่น ไอ้รุยรู้ คงโดนล้อตายห่า!แค่คิดภาพพวกมันเอามาล้อก็อยากจะจับเขาลากเข้าห้องเดี๋ยวนี้เลย!…สไนเปอร์ Talk…ผมรับรู้ได้ถึงสายตาที่มองมาอย่างจงใจจากอีกฝั่งของห้อ
"ขอโทษครับ ผมไม่ชอบโคแก่" ตฤณบอกชายมีอายุในชุดภูมิฐาน จริงๆ อีกฝ่ายไม่ได้ดูมีอายุขนาดนั้น กลับกันหากไม่ทราบอายุที่แท้จริงอาจคิดได้ว่าบุคคลนี้แก่กว่าตนเพียงไม่กี่ปีขุนเขาหรี่ตามองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างพินิจ จากประสบการณ์ชีวิตที่สั่งสมมาทำให้ตนคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายน่าใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมาก่อนแน่นอน เพราะท่าทางมั่นใจและนิสัยที่เถรตรงแบบนี้คงไม่อาจพบได้ทั่วไปในนิสัยคนไทย'หน้าตาก็ดี แต่ไม่น่าเป็นคนไร้มารยาทเสียเลย' ชายผู้ผ่านช่วงวัยกลางคนมาแล้วคิดในใจ เขาเพียงแค่พยายามใกล้ชิดไอ้หนุ่มนี่เพื่อจะดัดนิสัยอวดดีของลูกตนเอง ไม่วายอีกฝ่ายกลับคิดว่าเขาจริงจังกับมันเสียเหลือเกินได้นี่"เข้าใจนะครับลุง ผมขอตัว!" ตฤณยกร่างของตนเองขึ้นจากเก้าอี้กลางร้านอาหารสุดหรูที่อีกฝ่ายนัดมาดินเนอร์ เขาไม่อยากโดนมองว่าเป็นเด็กเสี่ยน่ะสิ ถึงได้ปฏิเสธความรู้สึกที่คุณขุนเขา อัศวเทวกุล ประธานบริษัทยายักษ์ใหญ่ของประเทศหยิบยื่นให้ ใครจะมองว่าตนโง่ก็ช่างเถอะ ของเล่นไฮโซใครจะเป็นก็เป็นไม่ใช่ผมแน่นอน"สองล้านต่อเดือนพอไหมครับ" ชายมีอายุยื่นเช็กที่เพิ่งเขียนตัวเลขลงไปมาหน้าตนเองตฤณหรี่มองไปยังเช็กใบนั้นพลางคิดในใจ นี่สินะ
ใบหน้าคมมีสีหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นว่าคนรักของตนหยิบของที่ตนเองก็ลืมไปแล้วว่ายังมีอยู่ออกมา ไอ้นั่นมันเหมือนหนามสะกิดใจเขาทุกครั้งที่ได้เห็น ให้ตายสิ! พยายามจะลืมมันแล้วเชียว"ฮิลล์มึงเป็นอะไร" อาโปเอ่ยถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายสีหน้าไม่ค่อยดีคนถูกถามไม่ตอบคำถามเพียงแต่ดึงถามเข้าไปสวมกอดแน่นราวกับกลัวอีกฝ่ายหายไป อาโปยกแขนขึ้นลูบหลังคนตัวโตกว่า ความอบอุ่นจากฝ่ามือถูกส่งไปปลอบประโลมหัวใจที่กำลังเต้นหวีดหวิวให้กลับมาเต้นปกติดังเดิม"บอกกูได้หรือยัง ว่ามึงเป็นอะไร" อาโปเอ่ยถามอีกครั้งหลังเห็นว่าฮิลล์สงบลงบ้างแล้ว ตอนนี้เขากำลังนอนเกยอีกฝ่ายอยู่บนเตียงกว้าง ยืนนานๆ มันก็เมื่อยไหมล่ะ ตนจึงพาฮิลล์มานอนสบายๆ บนเตียงดีกว่า คงต้องปล่อยให้พี่ตฤณกับลุงขุนเขารอกันไปก่อน นี่เขาติดนิสัยไม่ดีแบบนี้มาจากฮิลล์เมื่อไหร่กันไม่เพียงอีกฝ่ายไม่ตอบคำถาม ชายหนุ่มยังเอื้อมมือดึงต้นคอของคนถามลงมาดูใกล้ตัวเอง ก่อนนิ้วแกร่งจะลูบไล้รอยจางของแผลเป็นที่แทบจะมองไม่เห็นบนต้นคอขาวเนียนของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา"กูไม่เป็นอะไรแล้ว" อาโปยกมือของตนขึ้นกุมมือที่กำลังลูบไล้คอของตน เขาพอจะเดาได้ลางๆ ว่าที่อีกฝ่ายมีอาการแบบนี้เพราะเหตุ
ร่างหนายืนมองรอยสักบนอกข้างซ้ายในกระจกด้วยความภูมิใจ ใต้รอยสักรูปรอยฟันนั้นมีตัวอักษรซึ่งอ่านได้ว่า 'Hill belong to Apo ' สลักสักลงบนผิวหน้างอย่างวิจิตร มันต้องสวยอยู่แล้วสิ ช่างสักคนนี้ไอ้รุยแนะนำมาด้วยตัวเอง 'คนอย่างรุยทุกอย่างต้องดีที่สุด' เขาเลยเชื่อใจในฝีมือช่างคนนี้"มึงจะยืนเก๊กอีกนานไหม เร็วๆ กูหิว" อาโปที่ยืนรออีกฝ่ายแต่งตัวส่ายหัวทำหน้าระอา มันยืนเลือกเสื้อถอดและใส่ใส่และถอดอยู่แบบนี้มานับสิบตัวจนตอนนี้พื้นห้องเต็มไปด้วยเสื้อที่ถูกมันถอด"กินกูรองท้องก่อนไหม" ร่างสูงหน้ากระจกมองอีกฝ่ายผ่านกระจกด้วยดวงตากะลิ้มกะเหลี่ย"กินตีนกูนี่" อาโปใช้เท้าถีบตูดแน่นของอีกฝ่ายแล้วเดินหนีไปอีกห้อง ตอนนี้พวกตนย้ายมาอยู่ด้วยกันได้เกือบจะครบปีแล้ว โดยอาโปเป็นฝ่ายย้ายมาอยู่กับอีกฝ่าย กะแหงล่ะ คนรักสบายแบบมันคงไม่ยอมย้ายไปอยู่ห้องเล็กเท่ารูหนูของตนเป็นแน่หมั่บ!"มาโดนทำโทษซะดีๆ ใครสอนให้ใช้เท้ากับผัว" ฮิลล์ตามมาบังคับกอดอีกฝ่ายจากทางด้านหลัง"อื้อ~ ไปแต่งตัวให้เสร็จก่อนกูหิว" อาโปพยายามแกะแขนล่ำที่พันธนาการร่างของตนเองไว้ ชายหนุ่มพยายามเบี่ยงหลบใบหน้าที่กำลังวุ่นวายกับลำคอของตน"กินของคาวกูก่อน
คนในรถที่กดข้อความหาเพื่อนตนเองเห็นร่างคุ้นตากึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางตน ชายหนุ่มจึงรีบเปิดประตูรถออกไปด้วยความเป็นห่วง ร่างสูงของฮิลล์รีบวิ่งไปหาร่างที่กำลังมุ่งหน้ามาทางตนเอง ร่างบางกว่าโผเข้ากอดร่างหนาทันทีเมื่อทั้งคนมาบรรจบกัน ในระหว่างที่วิ่งมาอาโปมั่นใจแล้วว่าตนเองไม่อยากเสียฮิลล์ไปมากแค่ไหน ต่อจากนี้ตนจะวางอคติลงแล้วลองเริ่มใหม่กับไอ้หมอนี่สักครั้งวะ ถ้าจะเจ็บอีกก็ให้มันรู้ไป"เป็นอะไร! เกิดอะไรขึ้น! ใครทำอะไรมึง!" ฮิลล์เอ่ยถามพลางลูบหลังคนในอ้อมแขนด้วยความเป็นห่วง ไอ้สองคนนั่นทำอะไรที่รักของเขากันแน่ หรือว่าเป็นคนอื่นที่ทำ ไหนใครหน้าไหนมันกล้ากูจะกระทืบให้จมตีนคอยดู! กล้าทำได้ไงอาโปออกจะน่าทนุถนอมขนาดนี้ (ขออนุญาติมองบน =..=)"ไม่มีใครทำทั้งนั้น กูขอโทษที่งี่เง่าใส่มึง" อาโปกระชับแขนที่กอดอีกฝ่ายแน่น"ใครพูดอะไรให้มึงฟัง" คนตัวโตกว่าถามขณะลูบหลังปลอบอีกฝ่าย"..." ร่างในอ้อมกอดส่ายหัวไปมาแทนคำตอบ"ไอ้พวกนั้นพูดอะไรไม่ต้องไปฟังมันหรอกไร้สาระ" น่าตับไอ้สองนั่นมากระทืบจริงเชียว ดูสิอาโปของเขาเสียขวัญหมดแล้ว"อื้อ กลับกันเถอะ" อาโปดันตัวออกจากอีกฝ่าย"กลับไปไหนคอนโดมึงหรือคอยโดกู" ฮิลล
อาโปมานั่งกร่อยกินเหล้าฟังเพลงอยู่ที่ร้านของเพื่อน เขากับฮิลล์ไม่ได้ติดต่อกันมาเกือบอาทิตย์ มีแต่ไอ้ฮิลล์ที่ข้อความมาเตือนให้เขากินข้าว แต่เขาทำเพียวแค่เปิดข้อความอ่านไม่ตอบกลับไป"พวกมึงทะเลาะอะไรกัน" ไต้ฝุ่นถามอาโปที่วันนี้มันมานั่งกินเหล้าที่ร้านของตน"เปล่า" อาโปบอกขณะยกแก้วกระดกวิสกี้เข้าปาก"หึ...เชื่อได้มาก" ไซโคลนแค่นหัวเราะกับคำตอบของอีกฝ่าย"มึงก็เพลาๆ ลงบ้าง ไอ้ฮิลล์มันยอมมึงขนาดนี้แล้ว" ไต้ฝุ่นเอ่ย ขนาดเขาเองยังแปลกใจที่เพื่อนของตนยอมอีกฝ่ายมากขนาดนี้ ไอ้อาโปบอกว่าไม่อยากให้มันมาเจอ ไอ้ฮิลล์ก็ไม่มาแต่เลือกที่จะส่งข้อความมาถามตนทุกห้านาที ไอ้อาโปคงไม่รู้ว่าช่วงอาทิตย์ที่ผ่ามาพวกตนต้องลำบากแค่ไหน ไอ้ฮิลล์มันเอาแต่โทรจิกให้พวกตนสับเปลี่ยนกันไปเฝ้าไอ้คนที่กำลังนั่งกระดกเหล้าอยู่นี่ ได้โปรดดีกันเถอะกูขอร้อง กูเหนื่อย!"แล้วมึงจะพูดถึงคนตายทำไม!" อาโปกระแทกแก้วลงบนโต๊ะ"ถ้ามันตายขึ้นมามึงนั่นแหละที่จะเสียใจ" ไซโคลนเอ่ย ชายหนุ่มเอนตัวพิงพนักโซฟายกเท้าขึ้นมาไขว่ห้างก่อนจะพูดต่อ"มึงเห็นแผลที่มือมันไหม รู้ไหมมันได้มายังไง" อาโปขมวดคิ้วกับคำถามที่ส่งมาจากไซโคลน"ก็อุบัติเหตุไม่ใช่เห
ฮิลล์ขับรถตรงมายังโรงพยาบาลที่มาร์คถํกส่งตัวมาหลังจสกได้รับสายจากผู้จัดการของอ่กฝ่าย พ่อแม่ของมาร์คที่อยู่อเมริกาคงยังไม่รู้เรื่อง รอให้ตนไปถึงก่อนแล้วกันค่อยโทรบอก มาร์คทำงานอยู่ที่นี่คนเดียวไม่มีญานิพี่น้องที่ไหน นั่นจึงเป็นเหตุที่เขาไมาสามารถปฏิเสธคำขอพี่จูดี้ได้ หากจะนับตอนนี้ที่เมืองไทยคงมีเขาเพียงแค่คนเดียวที่จะเรียกว่าญาติได้หลังจากจอดรถเสร็จผมรีบเดินมองหาห้องฉุกเฉินทันที เพราะก่อนหน้านี้จูดี้บอกว่ามาร์คถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินในสภาพไม่มีสติ ผมเองก็ร้อนใจเป็นห่วงอีกฝ่ายเช่นกัน"มาร์คเป็นไงบ้างครับพี่หวาน" ผมถามผู้ช่วยของพี่จู้ดี้ที่กำลังเดินไปมาหน้าห้องฉุกเฉิน"พี่ไม่รู้เหมือนกัน หมอเอาน้องมาร์คเข้าไปนานแล้วยังไม่ออกมาเลย" อีกฝ่ายตอบด้วยสีหน้ากังวล"มาร์คตกลงมาสูงเลยเหรอครับ""ประมาณตึกสองชั้นค่ะน้องฮิลล์ นั่งร้านมันต่อไม่ดีน้องมาร์คเลยเสียหลักตกลงมาโดนเบาะลมแล้วก็สลบไปเลย" คนชื่อหวานเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังฮิลล์อยู่ทำธุระที่โรงพยาบาลจนมาร์คถูกย้ายเข้าห้องพิเศษ โชคดีที่อีกฝ่ายตกลงบนเบาะลมนิรภัยคอเลยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หมอเลยใส่เฝือกอ่อนช่วยพยุงคอไว้ แต่ที่หนักคงเป็นแขนที
....Apo's talk....ผมกำลังนั่งหน้ามุ่ยในรถรอไอ้คนที่ไปลากผมออกมาจากบริษัทที่กำลังเดินผิวปากมาอย่างอารมณ์ดี ตั้งแต่วันนั้นไอ้ฮิลล์ก็ก้อร่อก้อติกผมไม่ห่างจนบางทีผมเองก็รำคาญ'มึงไม่มีงานทำหรือไง''มี...แต่กูใช้เงินทำงาน' ผู้มีใบหน้ากวนอวัยวะเบื้องล่างไหวไหล่ขึ้นนั่นแหละครับความน่าหมั่นไส้ของมัน ตอนนี้จะว่าไปผมเองก็เริ่มชินกับนิสัยแบบนี้ของมันเสียแล้ว เมื่อก่อนมันไม่ได้เป็นคนแบบนี้นะ ฮิลล์คนก่อนประหยัดถ้อยประหยัดคำเสียเหลือเกิน แต่ตอนนี้เนี่ยสิมันพูดกวนจนผมต้องบอกให้มันหยุดบ้าง แรกๆ มันมานั่งเฝ้าชวนผมช่วงเที่ยงแต่ผมก็ยังไม่ยอมไปไหนกับมัน หลังๆ มันเลยเริ่มมาปักหลักนานขึ้นแล้วก่อกวนทุกคนไปหมดจนพี่ตฤณต้อฃขอร้องให้ผมเอามันออกจากออฟฟิศ'เฮ้ย! ใกล้ไป หน้าอ่ะออกห่างๆ หน่อย' ฮิลล์ที่ขยับกรอบแว่นสายตาของมันแล้วหรี่ตามอง บอกน้องนักศึกษาฝึกงานชายที่ผมกำลังสอนงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์'เฮ้ยๆ มืออ่ะ ไม่ต้องขนาดนั้นเว้ย' ฮิลล์ที่บอกตั้มที่กำลังช่วยผมจัดพร็อพถ่ายงาน'ไม่ได้ๆ มึงอ่ะไปถ่ายแทน' ฮิลล์ที่จัดแจงลากผมออกมา แล้วจับน้องนักศึกษาฝึกงานชายเข้าไปในเซ็ตเพื่อเป็นหุ่นถ่ายเครื่องประดับร่วมกับนายแบบอีกคนแ
ฮิลล์นั่งมองอีกฝ่ายทานอาหารเงียบๆ แค่เห็นคนตรงหน้าทานอย่างเอร็ดอร่อยเขาก็อิ่มอกอิ่มใจจนความอยากอาหารหายไปหมดสิ้น"แล้วมึงไม่กินไง๊" อาโปที่เห็นอีกฝ่ายไม่เตะอาหารในจานตัวเองทานเลยถามขึ้น เอ๊ะ! หรือมันใส่ยาอะไรให้กูกินหรือเปล่า"ฮึ๊ เห็นมึงกินได้กูก็มีความสุขแล้ว" ชายหนุ่มยิ้มตอบ"แหวะ! จะอ้วก ได้โปรดกลับมาเป็นฮิลล์คนเดิมเถอะกูขอร้อง" อาโปวางมีดและส้อมที่กำลังหันสเต๊กลงทันที ชายหนุ่มคว้าแก้วน้ำขึ้นมาดื่มล้างปาก "ก็บอกแล้วไงถ้าเป็นเด็กดี กูก็จำดีกับมึงแค่คนเดียวตลอดไป" ชายหนุ่มส่งสายตาจริงจังให้อีกฝ่าย เมื่อคืนเขาไม่ได้พูดไปงั้นๆ เขาหมายความตามที่พูดจริงๆ "…" อาโปจ้องลึกเข้าไปยังสายตาอีกฝ่าย นี่เขาเชื่อมันได้จริงๆ ใช่ไหม ถ้าเชื่อแล้วมันจะไม่ทรยศความรู้สึกที่เขาให้ไปใช่หรือไม่"มึงไม่ต้องเชื่อกูตอนนี้หรอกนะ ขอแค่อย่าปิดกั้นกูก็พอ" ฮิลล์เอื้อมมือของตนไปกุมมืออีกฝ่ายไว้เมื่อเห็นแววแห่งความลังเลที่ปรากฏในดวงตาคู่สวย"มือมึงไปโดนอะไรมา" อาโปสังเกตเห็นรอยแผลเป็นกลางฝ่ามือที่ลากเฉียงผ่านตั้งแต่ฝ่ามืออีกด้านยาวจนถึงโคนนิ้วชี้ของอีกฝ่าย เขาจำได้เมื่อก่อนมันไม่เคยมีแผลนี้"อุบัติเหตุน่ะ" ชายหนุ่