เจนเมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเช้าก็ต้องแปลกใจที่ตัวเองมานอนอยู่ที่บ้าน และที่สำคัญเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ด้วย เธอจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้เพียงเลือนลางเท่านั้น พยายามนึกทบทวนและเดินลงมาหาน้ำดื่ม หางตาก็ไปสะดุดกับชายแปลกหน้าที่นอนอยู่บนโซฟาบ้านตน
“อ๊าย แกเป็นใครเข้ามาในบ้านชั้นได้ยังไง” เจมส์สะดุ้งตื่นเพราะเสียงร้องของหญิงสาว ก่อนจะรีบอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟัง “ผมเป็นผู้ช่วยคุณเอริค ที่พาคุณมาส่งบ้านเมื่อคืนไงครับ คุณพอจะจำได้มั้ย”เจนพยายามนึกภาพตามก็เห็นว่าเป็นความจริงตามที่เขาพูด “แล้วทำไมเสื้อผ้าชั้นถึงได้….” “เมื่อคืนคุณอ้วกผมก็เลยจำเป็นต้องเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าให้” “อีตาบ้า!! นายฉวยโอกาสหรอ” “ป่าวนะครับตอนเปลี่ยนผมก็ไม่ได้มอง หรือจะให้ผมปล่อยให้คุณนอนจมกองอ้วกแบบนั้น ก็เลยต้องอยู่รออธิบายให้คุณฟังนี่ไงครับ ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ”เจมส์บ่น “แล้วชั้นจะมั่นใจได้ยังไงว่าคุณไม่ได้ล่วงเกินชั้น” “แล้วคุณเจ็บปวดตรงไหนมั้ยล่ะครับ ถ้าไม่มั่นใจไปตรวจที่โรงพยาบาลตอนนี้เลยก็ได้”เขาพูดพลางจะดึงแขนเธอให้ไปด้วยกัน “ไม่ต้อง ชั้นจะลองเชื่อคุณดูซักครั้ง ยังไงก็ขอบคุณคุณด้วยแล้วกันที่มาส่ง เอางี้เดี๋ยววันนี้ชั้นเลี้ยงขนมตอบแทนคุณ ร้านเบเกอรี่ของชั้นอยู่ตรงนี้เอง” “ไม่เป็นไรครับ แค่คุณเข้าใจก็พอแล้ว ผมไม่รบกวนแล้วขอตัวก่อนครับ” พูดจบเขาก็เดินออกจากบ้านเธอไปทันที “ผู้หญิงอะไรตบหัวแล้วจะลูบหลัง หึ แต่ก็น่ารักดี”เขาพึมพำกับตัวเอง ดีที่วันนี้เป็นวันหยุดไม่งั้น เอริคได้โทรตามเขายิกๆแน่ เกวลินเมื่อตื่นขึ้นมาในช่วงสายก็นึกทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนว่าตนกลับมานอนอยู่บนเตียงตัวเองได้ยังไง ความทรงจำที่เลือนลางบอกว่าเอริคเป็นคนอุ้มเธอขึ้นมา คิดได้ดังนั้นเธอจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวลงไปหาเขาข้างล่าง “พี่เอริคเมื่อคืนพี่พาเกลกลับบ้านหรอคะ” “อืม” “พี่ไปเจอเกลที่นั่นได้ยังไงคะ” “แทนที่จะมาถามพี่ ถามตัวเองก่อนมั้ยว่าทำไมถึงไปดื่มจนเมาเละเทะขนาดนั้น” “เกลไม่ได้เมานะคะจำได้ว่าดื่มนิดเดียวเอง ยัยเจนต่างหากที่ดื่มเยอะ แต่ทำไมถึงมึนหัวจนจำไม่ได้ขนาดนั้นก็ไม่รู้ ตายแล้ว!!!ยัยเจน ยัยเจนจะเป็นยังไงบ้างคะเนี่ย” “ยังจะมัวห่วงคนอื่นอีก พี่ให้เจมส์พาไปส่งบ้านตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ห่วงตัวเองก่อนมั้ย ถ้าเมื่อคืนพี่ไม่ไปที่นั่นป่านนี้ไม่รู้ไปนอนกับไอ้หนุ่มที่ไหนก็ไม่รู้” “พี่เอริค!!!เกลไม่ใช่คนใจง่ายนะคะ”เธอขึ้นเสียงใส่เขา “ไม่ใช่คนใจง่าย แต่เป็นคนซื่อบื้อให้เขาหลอกวางยายังไม่รู้ตัวอีก”เอริคขึ้นเสียงใส่เธอบ้าง “เมื่อคืนเกลโดนวางยาหรอคะ”เธอพูดเสียงอ่อนลง “เกลแค่อยากไปดื่มกับเพื่อน ไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”เธอพูดด้วยน้ำเสียงและแววตาเศร้า เอริคเมื่อเห็นแววตาเศร้าของเธอก็ใจอ่อนยอมสงบสติอารมณ์พูดกับเธอดีๆ “ไม่ต้องคิดมากแล้ว เมื่อคืนยังโชคดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ต่อไปพี่ขอสั่งห้ามไม่ให้ไปที่แบบนั้นเองอีก ถ้าจะไปต้องมีพี่ไปด้วย” “แล้วพี่เอริคมีสิทธิ์อะไรมาห้ามเกลคะ”เธอถามเขาด้วยเสียงดื้อรัั้น “หรือจะให้พี่โทรบอกน้ามาลา” “ไม่เอาค่ะ เกลตกลงก็ได้” “หึ ก็แค่นี้ อ่ะน้ำผึ้งมะนาวแก้แฮงท์” “ขอบคุณค่ะ แต่ว่าเมื่อคืนเกลไม่ได้…ล่วงเกินพี่ใช่มั้ยคะ”อยู่ดีๆภาพที่เขากับเธอจูบกันก็ผุดขึ้นมาในหัวของเธอ “คิดว่าไงล่ะ”เขาถามเธอกวนๆ “ไม่น่ามีอะไรมั๊งคะ อิอิ เนอะ พี่เอริคดูเป็นสุภาพบุรุษจะตาย”เธอทำเป็นยิ้มและหัวเราะกลบเกลื่อน “อยากให้ทวนความจำให้มั้ยล่ะ”เขาแกล้งแหย่เธอ “ไม่ดีกว่าค่ะ เกลว่าเกลไปทำอาหารให้พี่ทานดีกว่านะคะ เที่ยงนี้ทานสเต๊กดีกว่าเนอะ วันก่อนเกลซื้อเนื้อมาไว้ นั่งรอซักครู่ใหญ่ๆนะคะ หรือพี่เอริคจะไปนั่งอ่านหนังสือหรือทำงานรอก็ได้ เสร็จแล้วเดี๋ยวเกลไปเรียกค่ะ”เธอพยายามเบี่ยงเบนความสนใจไม่อยากให้เขารื้อฟื้นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้ฟัง เพราะภาพจำเลือนลางที่ค่อยๆผุดขึ้นมาในหัวของเธอตอนนี้ทำให้พอจะนึกขึ้นได้ว่าพวกเขาจูบกันไปหลายรอบตั้งแต่บนรถ จนถึงห้องนอน ถ้าเขาพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกเกรงว่าเธอจะอายจนทำตัวไม่ถูก “ข้าวเสร็จแล้วค่ะ พี่เอริคมาทานข้าวได้แล้วค่ะ” “….”เอริคไม่ตอบแต่เดินมานั่งตรงที่นั่งประจำของตัวเอง “เอาน้ำอะไรคะเกลไปหยิบมาให้” “เป๊บซี่” “ไม่ได้ค่ะ คุณป้าบอกว่าพี่เอริคเป็นโรคกระเพราะให้ดื่มน้ำอัดลมไม่ได้ แล้วก็ต้องทานข้าวให้เป็นเวลาด้วย”เธอดุเขา “แล้วจะถามทำไม อยากให้ดื่มอะไรก็หยิบมา”เขาไม่เพียงไม่ขัดแต่ตามใจเธอด้วย “นี่ค่ะน้ำเปล่า” “ขอบใจ” “อร่อยมั้ยคะ” “ทานได้ ไม่แย่”ใจจริงเขาอยากจะชมว่าอร่อยมาก แต่ต้องเก็บอาการกลัวเธอได้ใจ “ชิ”เธอย่นจมูกใส่เขาแล่วก้มหน้าทานอาหารต่อ ทำเอาคนตรงหน้ายิ้มให้กับความน่ารักของเธอ “บ่ายนี้อยากออกไปเที่ยวไหนมั้ย”เอริคถามหญิงสาวหลังทานข้าวเสร็จ “ไปหาเจนได้มั้ยคะ”เธอถามแบบไม่แน่ใจในคำตอบที่จะได้รับนัก เพราะเธอพึ่งสร้างเรื่องไป “คือเกลอยากไปดูเจนว่าเป็นไงบ้าง พาพี่เอริคไปทานไอศครีมด้วย ไอศครีมร้านเจนอร่อยมากๆเลยนะคะ”เธอพยายามหลอกล่อเขาด้วยของกิน “พี่ไม่ใช่เด็ก” “หรือจะให้เกลไปเองก็ได้”เธอยื่นข้อเสนอ “พี่พาไป ไปแต่งตัว”เขารีบตอบ เกวลินไม่รอช้ารีบไปแต่งตัวเพราะกลัวคนตัวโตจะเปลี่ยนใจก่อน เอริคใช้เวลาขับรถเกือบชั่วโมงก็ถึงร้านของเจน ทั้งคู่เดินเข้ามาในร้านพร้อมกัน ทำเอาลูกค้าในร้านต่างจ้องมองมาที่ทั้งสองคนกันใหญ่ “เจนเค้ามองอะไรกัน”เกวลินกระซิบถามเพื่อนรัก “ก็พ่อเทพบุตรสุดหล่อของแกดึงดูดขนาดนี้ แล้วนี่ยังไงทำไมถึงมาด้วยกัน” “ชั้นขอให้เค้าพามา จะมาถามเรื่องเมื่อคืนว่าแกเป็นไงบ้าง”ทั้งคู่กระซิบกระซาบกัน ก่อนที่เกวลินจะแนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน “สวัสดีค่ะพี่เอริค เจนนะคะยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” “ครับ” “เกลพาพี่เค้าไปนั่งตรงนั้นไป จะได้ไม่พลุกพล่านเดี๋ยวชั้นเอาขนมไปให้” “พี่เอริคไปนั่งรอก่อนนะคะ เดี๋ยวเกลตามไป ฝากกระเป๋าด้วยค่ะ”เธอยื่นกระเป๋าถือใบเล็กให้ชายหนุ่ม เขาก็รับมาอย่างว่าง่ายแล้วเดินไปนั่งรอเธอที่โต๊ะ เอริคไม่เคยทำแบบนี้ให้ผู้หญิงคนไหนมาก่อนแต่กับเธอคนที่เจอกันแค่ไม่กี่วัน ทำไมถึงยอมทำอะไรตามใจเธอไปหมด ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยสนใจใยดีเธอเลยด้วยซ้ำ ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งสับสนในตัวเอง “นี่ยัยเจนเมื่อคืนแกเป็นไงบ้าง ปลอดภัยดีใช่มั้ย”เกวลินถามเพื่อนหลังทั้งคู่ลากกันเข้ามาหลังร้าน “ชั้นปลอดภัยดีแต่ก็จำอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แล้วแกล่ะโอเคมั้ย” “โอเค แต่ชั้นกำลังคิดว่าเมื่อคืนชั้นน่าจะจูบพี่เอริค” “ห๊ะ แกจูบเค้า”เจนลืมตัวร้องเสียงดัง “ชู่ เบาๆ คือภาพมันดูเลือนลาง แต่พี่เอริคเค้าก็ไม่ได้บอกอะไรชั้นนะ ตอนนี้ชั้นทำตัวไม่ถูกจะเข้าหน้าเค้าไม่ติดอยู่แล้ว” “นี่ขนาดเข้าหน้าไม่ติดยังตัวติดกันขนาดนี้ ถ้าเข้าหน้าติดไม่สิงร่างกันเลยหรอ”เจนแซวเพื่อน “ยัยเจน ชั้นจริงจังนะ ที่เห็นเนี่ยก็แค่กลบเกลื่อนแกล้งๆลืม” “แกก็กลบเกลื่อนต่อไปไม่เห็นต้องคิดมากเลย เดี๋ยวซักพักก็ลืมไปเอง” “นี่มันจูบแรกของชั้นนะโว้ยแก” “จูบแรกให้คู่หมั้นก็ถูกต้องแล้ว ไปๆอย่าคิดมาก เดี๋ยวพี่เอริคของแกรอนานจะโกรธเอาได้”เธอรีบผลักเพื่อนให้ถือไอศครีมไปเสิร์ฟให้ชายหนุ่มวันนี้เป็นวันจันทร์และเป็นวันแรกที่เกวลินต้องไปทำงานในฐานะเลขาของเอริค เธอตื่นเต้นและประหม่าพอสมควร หลังแต่งตัวเสร็จเธอเดินมาคุยกับตัวเองหน้ากระจกบานใหญ่เพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง“สู้ๆยัยเกล แกมันคนเก่ง ทำได้อยู่แล้ว”วันนี้เกวลินแต่งตัวนานกว่าปกติเพราะมัวแต่ตรวจเช็คความเรียบร้อยจึงไม่ได้ลงมาทำข้าวเช้าให้ เอริคทาน เมื่อเช็คความเรียบร้อยทั้งเสื้อผ้า หน้า ผมจนมั่นใจแล้ว เธอจึงรีบลงมาข้างล่างก็เห็นเอริคนั่งรอที่โซฟาอยู่ก่อนแล้ว วันนี้เกวลินมาในลุคชุดสูทแขนยาวกระโปรงสั้น สไตล์เกาหลี ดูเรียบหรูและน่ารักในคราวเดียวกัน เอริคที่นั่งรออยู่ถึงตะลึงในความสวยของหญิงสาวไปพักใหญ่ เขาคิดในใจว่าบทจะแต่งตัวเป็นทางการก็ดูดีไม่เบา“พี่เอริคไปกันได้รึยังคะ”“ไปสิ”เขาตอบกลับเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉยทั้งที่ภายในใจตื่นเต้นไม้แพ้เกวลินเลย“วันนี้เกลขอโทษนะคะ ไม่ได้ลงมาทำอาหารเช้าให้ทานเลย ตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ”“ตื่นเต้นทำไม แค่มาทำงาน”“ก็เกลตื่นเต้นนี่คะ”“กลัวทำไม่ได้”เขาเลิกคิ้วถามเธอ“ป่าวซักหน่อย คนอย่างเกวลินไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้”“ดี จะคอยดู ถ้าไม่ไหวก็บอกจะได้ส่งกลับบ้าน”“ไม่มีทาง”เธอตอบเขาด้วยน้ำเ
เอริค : หนุ่มลูกครึ่งไทย-อังกฤษ หน้าตาหล่อเหลา ตาคม คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน สูง 190 เซนติเมตร นักธุรกิจหนุ่มหล่อไฟแรงมาดนิ่ง ประธานบริษัทของธุรกิจทางด้าน IT วัย 31 ปีพึ่งได้รับรางวัลนักธุรกิจดีเด่นแห่งปีไปหมาดๆ เอริคไม่เคยครบใครจริงจังเลยซักคน แม้ว่าจะมีข่าวซุบซิบกับดาราและสาวๆในแวดวงไฮโซอยู่เรื่อยๆก็ตาม หากแต่เป็นสาวๆที่เป็นฝ่ายเข้าหาเขาเอง เพราะความหล่อและความรวยของเขา แต่เขาไม่เคยคิดจะมีความรักเพราะเขาถือว่าความรักเป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จในหน้าที่การงานของเขาเกวลิน (เกล) : สาวน้อยแสนสวย ตาโตสูง 165 เซนติเมตรวัย 23 ปี ภายนอกดูขี้เล่น ซุกซน แต่จริงๆแล้วเป็นคนหวงตัว จิตใจดี โอบอ้อมอารีย์กับทุกคน เธอเป็นสาวนักเรียนนอก พึ่งเรียนจบและเดินทางกลับประเทศเมื่อเดือนที่แล้ว เป็นลูกสาวของเพื่อนรักแม่เอริค และเป็นคู่หมั้นในวัยเด็กของ เอริค เป็นว่าที่สะใภ้ที่แม่พระเอกหมายตาไว้ เพราะความสวย น่ารัก สดใสและนิสัยที่ดี ทำงานเก่ง คนแบบนี้ถึงจะเอาผู้ชายอย่างเอริคอยู่คุณนายแอนนา : แม่ของเอริควัย 55 ปี ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่อังกฤษกับสามี ชีวิตดีมีความสุขทุกอย่าง มีเรื่องเดียวที่ทำให้เธอเป็นกังวลคือเรื
“นายครับ คืนนี้มีงานประมูลเพชรการกุศลสนใจจะเข้าร่วมมั้ยครับ”เจมส์ผู้ช่วยส่วนตัวถามเอริค“ไปสิ”เอริคตอบเสียงเรียบ“คุณนิต้าที่กำลังเป็นข่าวกับนายอยู่ตอนนี้ก็ไปร่วมงานนี้ด้วยนะครับ ผมเกรงว่าคุณแอนนาจะไม่พอใจเอานะครับ”“ดี งั้นนัดนิต้าให้เข้างานพร้อมกัน”“นายถ้าเป็นข่าวจะเป็นเรื่องใหญ่เอานะครับ เดี๋ยวคุณแอนนาจะไม่พอใจนะครับ”“นั่นแหละสิิ่งที่ผมต้องการ แม่จะได้เลิกจับคู่ผมกับยายหมูอ้วนซักที”“คุณเกวลินเธอไม่อ้วนแล้วนะครับนาย รูปที่คุณแอนนาส่งมาให้ล่าสุดเธอสวยมากๆเลยนะครับ”“นายชอบก็จีบเอาสิ”เอริคก็ยังตอบลูกน้องแบบไม่สนใจใยดีอะไร“แต่เธอเป็นคู่หมั้นนายนะครับ”“คู่หมั้นที่แม่เลือกเองน่ะสิ ผมไม่ได้เห็นด้วยซักหน่อย”ในวัยเด็กแอนนาแม่ของเอริคและแม่ของเกวลินเป็นเพื่อนรักกัน สองครอบครัวหมั้นหมายลูกๆให้กันตั้งแต่พวกเขายังเป็นเด็ก ในตอนนั้นเอริคไม่เคยเห็นด้วยกับการหมั้นหมายนี้เลย เพราะเขาไม่ชอบ เกวลินเป็นที่สุด เด็กอะไรกินเก่งแถมยังขี้แยอีกต่างหาก พวกเขาเจอกันล่าสุดตอนเอริคอายุ 21 ปีซึ่งในตอนนั้นเกวลินอายุเพียง 13 ขวบภาพจำของเขาที่มีต่อเธอจึงไม่ค่อยดีนัก ยิ่งพอรู้ว่าจนถึงตอนนี้แม่ของเขาก็ยังไม่ละค
“นายครับ อาทิตย์หน้าคุณเกวลินจะกลับมาแล้วนะครับ คุณแอนนากำชับว่านายต้องไปรับเธอด้วยตัวเองนะครับ”“เออ รู้แล้ว ตกลงเป็นลูกน้องใครกันแน่วะ แม่หรือผม”“ลูกน้องนายสิครับ”“อืม รู้ตัวก็ดีนึกว่าโดนแม่ซื้อตัวไปแล้วหายใจเข้า หายใจออกก็มีแต่คุณแอนนา”เอริคนึกย้อนไปเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนที่ผู้เป็นแม่ยื่นข้อเสนอให้เขาใช้เวลากับเกวลินครึ่งปี หากครบกำหนดแล้วทั้งคู่ไม่รักไม่ชอบกันจริง เธอจะไม่บังคับเขาอีกต่อไป และมีข้อแม้ว่าระหว่างที่เกวลินอยู่ที่บ้านเขา ห้ามทำตัวไม่ดีกับน้อง ต้องให้เกียรติเธอทั้งที่บ้านและที่ทำงาน เอริคเองก็ยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดอย่างว่าง่าย เพราะเขาคิดว่ายังไงก็ไม่มีทางตดหลุมรักยัยเด็กอ้วนขี้แยคนนั้นแน่นอน“หึ ใครจะไปรักเธอลงยัยเกวลิน”เอริคพึมพำกับตัวเอง“นายว่าอะไรนะครับ”เจมส์ถามเขาเพราะได้ยินไม่ถนัด“ป่าว ไม่มีอะไร ไปทำงานต่อได้แล้ว”“ครับ”เจมส์รับคำก่อนจะขอตัวเดินออกจากห้องไปภาพจำของเอริคที่มีต่อเกวลินคือเป็นยัยเด็กอ้วน กินเก่ง ขี้แยสุดๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบเอามากๆ จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงจับคู่ให้เขากับเธอ ทั้งที่ดูไม่มีอะไรเข้ากันได้เลย อี
“นายครับผมเอากระเป๋าคุณเกวลินไปเก็บข้างบนเรียบร้อยแล้วถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ”เจมส์แจ้งผู้เป็นนายที่ตอนนี้นั่งเล่นที่โซฟากับเกวลินอยู่“อืม ขอบใจ หิวยังไปกินข้าวจะได้พักผ่อน”เขาตอบรับลูกน้องสั้นๆก่อนหันไปตามเกวลินที่นั่งอยู่ที่โซฟาฝั่งตรงข้าม“ก็ดีเหมือนกันค่ะ”เอริคเดินนำเกวลินมาที่โต๊ะอาหาร “นั่งสิ”เขาผายมือเชิญเธอนั่งก่อนที่ตัวเองจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม“ป้าพิศ ตักข้าวครับ อ้อลืมแนะนำนี่ป้าพิศแม่บ้านของที่นี่ ส่วนนี่เกวลิน…”“สวัสดีค่ะ เรียกเกลเฉยๆก็ได้นะคะ”เธอทักทายแม่บ้านด้วยรอยยิ้มและท่าทางเป็นกันเอง“สวัสดีค่ะคุณเกล คุณเกลสวยมากๆเลยนะคะ สมกับเป็นคู่หมั้นของคุณเอริคเลยค่ะ เหมาะสมกันยังกับกิ่งทองใบหยก”ป้าพิศพูดตามภาพที่เห็น“ป้าพิศ”เอริคปราม“ค่ะๆไม่พูดแล้วค่ะ เชิญคุณๆทานข้าวตามสบายเลยค่ะ ป้าขอตัวก่อน”ป้าพิศพูดด้วยรอยยิ้มก่อนเดินออกไป“คุณป้าเค้าไปไหนคะ”เกวลินถามด้วยความสงสัยหลังเห็นป้าพิศถือกระเป๋าเดินออกจากบ้านไป“กลับบ้าน”“ห๊ะ กลับบ้าน!!!”เกวลินอุทานด้วยความตกใจ“เสียงดังทำไม นี่มันทุ่มนึงแล้วก็ต้องกลับมั้ย?”“แล้วปกติบ้านหลังนี้พี่เอริคอยู่กับใครคะ”“คนเ
หลังเดินออกมาจากร้านเสื้อผ้าเอริคก็ตัดสินใจถามเกวลินอีกครั้ง“อยากกินอะไร”“……”เกวลินไม่ตอบ“เกลพี่ถามว่าอยากกินอะไร อย่าดื้อ”เขาทำเสียงดุเธอ เธอไม่ตอบแต่ชี้ไปที่ร้านสเต๊ก ก่อนจะเดินนำหน้าเขาเข้าไปในร้าน เอริคได้แต่ถอนหายใจให้กับความดื้อรั้นของเธอ เกวลินจากที่น้อยใจอยู่เมื่ออาหารเข้าปากก็ยิ้มแย้มแจ่มใสเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับก่อนหน้านี้เลย เอริคที่นั่งสังเกตุอาการของเธออยู่ก็พลอยโล่งใจไปด้วยที่บรรยากาศไม่แย่อย่างที่คิด“เอาของหวานมั้ย”“ได้หรอคะ”เกวลินถามเขาด้วยน้ำเสียงดีใจเอริคไม่ตอบแต่ยักคิ้วให้เธอเป็นการตอบรับแทน“เกลอยากกินบิงซูได้มั้ยคะ ไม่ได้กินนานมากแล้ว”“ไปสิ”เขาตอบรับแบบไม่ต้องคิดตลอดเย็นวันนั้นเขาตามใจเธอทุกอย่าง อยากทำอะไรหรือทานอะไรก็ไม่ขัดสักคำ จนกลับมาถึงบ้าน “ขอบคุณนะคะสำหรับวันนี้”“เป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว ไม่ต้องขอบคุณ”“เอ่อ…เกลว่าเรามาทำข้อตกลงในการอยู่ร่วมกันดีมั้ยคะ หกเดือนนี้เราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข”เกวลินตัดสินใจบอกชายหนุ่มหลังจากคิดเรื่องนี้มาทั้งคืน“ในฐานะที่พี่เอริคเป็นเจ้าของบ้านเกลให้พี่บอกเงื่อนไขของพี่ก่อนเลยค่ะ”เกวลินบอกชายหนุ่มหลังจากที่วิ่
“ยัยเกลมาได้ไง ไหนว่าจะกลับอาทิตย์หน้าไง”เจนหันไปกอดเพื่อนรักด้วยความดีใจ“เลื่อนไฟล์ทน่ะ ก็เลยมาเซอร์ไพร์ส คิดถึงแกมากๆเลย”“คิดถึงเหมือนกัน ไปหาที่นั่งในสวนกัน เดี๋ยวทำของอร่อยไปให้ทาน”ร้านเบอเกอรี่ของเจนเป็นร้านที่ร่มรื่นมากบรรยากาศภายในร้านเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ มองไปทางไหนก็สดชื่นสบายตา “เจนแล้วตอนนี้แกพักที่ไหน”“นี่ไงบ้านชั้น”เจนชี้ไปที่บ้านสีขาวที่อยู่ติดกับร้าน“บ้านน่ารักจัง เดี๋ยววันหลังแวะมาเล่นด้วยบ่อยๆ”“ว่าแต่แกเถอะไปอยู่ที่บ้านพี่เค้าเป็นไงบ้าง พี่เขาน่ากลัวรึป่าว”“แกก็พูดไปเรื่อยคนนะไม่ใช่ผี ชั้นว่าโอเคกว่าที่คิดไว้ตอนแรกเยอะเลย”“ยังไงไหนเล่าซิ”“ก็ตอนแรกที่ชั้นเล่าให้แกฟังว่าเค้าดูไม่น่าคบ ใจร้าย เอาแต่ใจ แต่พอเจอกันจริงๆก็ไม่เป็นแบบนั้นนะ ไม่รู้สิอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก”“แกคงไม่ได้ตกหลุมรักเค้าแล้วนะ”เจนแซวเพื่อน เกวลินตีแขนเพื่อนรักเบาๆ“บ้า!!! พึ่งเจอกันได้สามวันเอง ชั้นใจง่ายขนาดนั้นหรอ อีกอย่างที่มาก็เพื่อให้แม่กับคุณป้าแอนนาสบายใจแค่นั้น อย่างอื่นไม่ได้คิด”“ชั้นจะคอยดู หนุ่มหล่อสาวสวยอยู่บ้านหลังเดียวกัน เดี๋ยวผีก็ผลักเข้าสักวัน แต่แกระวังไว้หน
ชายหนุ่มคนที่วางยาสองสาวเมื่อเห็นพวกเธอลุกออกจากโต๊ะก็ชวนเพื่อนเดินตามพวกเธอมาไม่ห่าง “ให้พี่ไปส่งมั้ยจ๊ะคนสวย ดูท่าจะกลับเองไม่ไหวแล้ว”เขาเดินมาหาสองสาวที่ตอนนี้เริ่มมึนหัวจากฤทธิ์ยา ทันทีที่พวกเขากำลังจะเดินเข้าไปประคองสองสาวก็มีมือของเอริคและเจมส์ผลักพวกเขาออกทันที ก่อนจะเข้าไปประคองพวกเธอไว้แทน เอริคดึงเกวลินเข้ามาไว้ในอ้อมอก ส่วนเจมส์ก็ทำหน้าที่ประคองเจนไว้แบบงงๆ“พวกมึงเป็นใครวะมายุ่งเรื่องของผัวเมียเค้าทำไม”“ผัวเมียหรอ กูคู่หมั้นเธอโว้ย ส่วนมึงจะให้กูแจ้งตำรวจข้อหาวางยามั้ย ถ้าไม่อยากเดือดร้อนรีบไสหัวไปซะ ไม่งั้น…”สิ้นคำพูดของเอริคการ์ดของร้านก็เดินตรงเข้ามาหาคนที่วางยาเกวลิน “ทางนี้ฝากด้วย”เขาหันไปบอกการ์ดอีกครั้ง“ครับคุณเอริค”“พี่เอริค เกลมึนหัว”“สมควร!!!”“นายครับผู้หญิงคนนี้ผมต้องไปส่งที่ไหน”“เดี๋ยวส่งที่อยู่ให้ในกระเป๋าน่าจะมีกุญแจบ้านอยู่ ถ้าไม่มีก็นอนบ้านนายไปก่อน”“เอ่อ นาย นายครับ เฮ้อ…เวรกรรมอะไรของเราวะเนี่ยต้องมาดูแลคนไม่รู้จักกันเนี่ย คุณครับไปขึ้นรถผมพาไปส่งบ้าน”ทางด้านของเกวลินตอนนี้แทบเดินไม่ไหวมีแต่บ่นว่ามึนหัว จนเอริคทนไม่ไหวอุ้มร่างบางขึ้นรีบเดินกลับร
วันนี้เป็นวันจันทร์และเป็นวันแรกที่เกวลินต้องไปทำงานในฐานะเลขาของเอริค เธอตื่นเต้นและประหม่าพอสมควร หลังแต่งตัวเสร็จเธอเดินมาคุยกับตัวเองหน้ากระจกบานใหญ่เพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง“สู้ๆยัยเกล แกมันคนเก่ง ทำได้อยู่แล้ว”วันนี้เกวลินแต่งตัวนานกว่าปกติเพราะมัวแต่ตรวจเช็คความเรียบร้อยจึงไม่ได้ลงมาทำข้าวเช้าให้ เอริคทาน เมื่อเช็คความเรียบร้อยทั้งเสื้อผ้า หน้า ผมจนมั่นใจแล้ว เธอจึงรีบลงมาข้างล่างก็เห็นเอริคนั่งรอที่โซฟาอยู่ก่อนแล้ว วันนี้เกวลินมาในลุคชุดสูทแขนยาวกระโปรงสั้น สไตล์เกาหลี ดูเรียบหรูและน่ารักในคราวเดียวกัน เอริคที่นั่งรออยู่ถึงตะลึงในความสวยของหญิงสาวไปพักใหญ่ เขาคิดในใจว่าบทจะแต่งตัวเป็นทางการก็ดูดีไม่เบา“พี่เอริคไปกันได้รึยังคะ”“ไปสิ”เขาตอบกลับเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉยทั้งที่ภายในใจตื่นเต้นไม้แพ้เกวลินเลย“วันนี้เกลขอโทษนะคะ ไม่ได้ลงมาทำอาหารเช้าให้ทานเลย ตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ”“ตื่นเต้นทำไม แค่มาทำงาน”“ก็เกลตื่นเต้นนี่คะ”“กลัวทำไม่ได้”เขาเลิกคิ้วถามเธอ“ป่าวซักหน่อย คนอย่างเกวลินไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้”“ดี จะคอยดู ถ้าไม่ไหวก็บอกจะได้ส่งกลับบ้าน”“ไม่มีทาง”เธอตอบเขาด้วยน้ำเ
เจนเมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเช้าก็ต้องแปลกใจที่ตัวเองมานอนอยู่ที่บ้าน และที่สำคัญเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ด้วย เธอจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้เพียงเลือนลางเท่านั้น พยายามนึกทบทวนและเดินลงมาหาน้ำดื่ม หางตาก็ไปสะดุดกับชายแปลกหน้าที่นอนอยู่บนโซฟาบ้านตน “อ๊าย แกเป็นใครเข้ามาในบ้านชั้นได้ยังไง”เจมส์สะดุ้งตื่นเพราะเสียงร้องของหญิงสาว ก่อนจะรีบอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟัง“ผมเป็นผู้ช่วยคุณเอริค ที่พาคุณมาส่งบ้านเมื่อคืนไงครับ คุณพอจะจำได้มั้ย”เจนพยายามนึกภาพตามก็เห็นว่าเป็นความจริงตามที่เขาพูด “แล้วทำไมเสื้อผ้าชั้นถึงได้….”“เมื่อคืนคุณอ้วกผมก็เลยจำเป็นต้องเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าให้”“อีตาบ้า!! นายฉวยโอกาสหรอ”“ป่าวนะครับตอนเปลี่ยนผมก็ไม่ได้มอง หรือจะให้ผมปล่อยให้คุณนอนจมกองอ้วกแบบนั้น ก็เลยต้องอยู่รออธิบายให้คุณฟังนี่ไงครับ ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ”เจมส์บ่น“แล้วชั้นจะมั่นใจได้ยังไงว่าคุณไม่ได้ล่วงเกินชั้น”“แล้วคุณเจ็บปวดตรงไหนมั้ยล่ะครับ ถ้าไม่มั่นใจไปตรวจที่โรงพยาบาลตอนนี้เลยก็ได้”เขาพูดพลางจะดึงแขนเธอให้ไปด้วยกัน“ไม่ต้อง ชั้นจะลองเชื่อคุณดูซักครั้ง ยังไงก็ขอบคุณคุณด้วยแล้วกันที่มาส
ชายหนุ่มคนที่วางยาสองสาวเมื่อเห็นพวกเธอลุกออกจากโต๊ะก็ชวนเพื่อนเดินตามพวกเธอมาไม่ห่าง “ให้พี่ไปส่งมั้ยจ๊ะคนสวย ดูท่าจะกลับเองไม่ไหวแล้ว”เขาเดินมาหาสองสาวที่ตอนนี้เริ่มมึนหัวจากฤทธิ์ยา ทันทีที่พวกเขากำลังจะเดินเข้าไปประคองสองสาวก็มีมือของเอริคและเจมส์ผลักพวกเขาออกทันที ก่อนจะเข้าไปประคองพวกเธอไว้แทน เอริคดึงเกวลินเข้ามาไว้ในอ้อมอก ส่วนเจมส์ก็ทำหน้าที่ประคองเจนไว้แบบงงๆ“พวกมึงเป็นใครวะมายุ่งเรื่องของผัวเมียเค้าทำไม”“ผัวเมียหรอ กูคู่หมั้นเธอโว้ย ส่วนมึงจะให้กูแจ้งตำรวจข้อหาวางยามั้ย ถ้าไม่อยากเดือดร้อนรีบไสหัวไปซะ ไม่งั้น…”สิ้นคำพูดของเอริคการ์ดของร้านก็เดินตรงเข้ามาหาคนที่วางยาเกวลิน “ทางนี้ฝากด้วย”เขาหันไปบอกการ์ดอีกครั้ง“ครับคุณเอริค”“พี่เอริค เกลมึนหัว”“สมควร!!!”“นายครับผู้หญิงคนนี้ผมต้องไปส่งที่ไหน”“เดี๋ยวส่งที่อยู่ให้ในกระเป๋าน่าจะมีกุญแจบ้านอยู่ ถ้าไม่มีก็นอนบ้านนายไปก่อน”“เอ่อ นาย นายครับ เฮ้อ…เวรกรรมอะไรของเราวะเนี่ยต้องมาดูแลคนไม่รู้จักกันเนี่ย คุณครับไปขึ้นรถผมพาไปส่งบ้าน”ทางด้านของเกวลินตอนนี้แทบเดินไม่ไหวมีแต่บ่นว่ามึนหัว จนเอริคทนไม่ไหวอุ้มร่างบางขึ้นรีบเดินกลับร
“ยัยเกลมาได้ไง ไหนว่าจะกลับอาทิตย์หน้าไง”เจนหันไปกอดเพื่อนรักด้วยความดีใจ“เลื่อนไฟล์ทน่ะ ก็เลยมาเซอร์ไพร์ส คิดถึงแกมากๆเลย”“คิดถึงเหมือนกัน ไปหาที่นั่งในสวนกัน เดี๋ยวทำของอร่อยไปให้ทาน”ร้านเบอเกอรี่ของเจนเป็นร้านที่ร่มรื่นมากบรรยากาศภายในร้านเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ มองไปทางไหนก็สดชื่นสบายตา “เจนแล้วตอนนี้แกพักที่ไหน”“นี่ไงบ้านชั้น”เจนชี้ไปที่บ้านสีขาวที่อยู่ติดกับร้าน“บ้านน่ารักจัง เดี๋ยววันหลังแวะมาเล่นด้วยบ่อยๆ”“ว่าแต่แกเถอะไปอยู่ที่บ้านพี่เค้าเป็นไงบ้าง พี่เขาน่ากลัวรึป่าว”“แกก็พูดไปเรื่อยคนนะไม่ใช่ผี ชั้นว่าโอเคกว่าที่คิดไว้ตอนแรกเยอะเลย”“ยังไงไหนเล่าซิ”“ก็ตอนแรกที่ชั้นเล่าให้แกฟังว่าเค้าดูไม่น่าคบ ใจร้าย เอาแต่ใจ แต่พอเจอกันจริงๆก็ไม่เป็นแบบนั้นนะ ไม่รู้สิอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก”“แกคงไม่ได้ตกหลุมรักเค้าแล้วนะ”เจนแซวเพื่อน เกวลินตีแขนเพื่อนรักเบาๆ“บ้า!!! พึ่งเจอกันได้สามวันเอง ชั้นใจง่ายขนาดนั้นหรอ อีกอย่างที่มาก็เพื่อให้แม่กับคุณป้าแอนนาสบายใจแค่นั้น อย่างอื่นไม่ได้คิด”“ชั้นจะคอยดู หนุ่มหล่อสาวสวยอยู่บ้านหลังเดียวกัน เดี๋ยวผีก็ผลักเข้าสักวัน แต่แกระวังไว้หน
หลังเดินออกมาจากร้านเสื้อผ้าเอริคก็ตัดสินใจถามเกวลินอีกครั้ง“อยากกินอะไร”“……”เกวลินไม่ตอบ“เกลพี่ถามว่าอยากกินอะไร อย่าดื้อ”เขาทำเสียงดุเธอ เธอไม่ตอบแต่ชี้ไปที่ร้านสเต๊ก ก่อนจะเดินนำหน้าเขาเข้าไปในร้าน เอริคได้แต่ถอนหายใจให้กับความดื้อรั้นของเธอ เกวลินจากที่น้อยใจอยู่เมื่ออาหารเข้าปากก็ยิ้มแย้มแจ่มใสเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับก่อนหน้านี้เลย เอริคที่นั่งสังเกตุอาการของเธออยู่ก็พลอยโล่งใจไปด้วยที่บรรยากาศไม่แย่อย่างที่คิด“เอาของหวานมั้ย”“ได้หรอคะ”เกวลินถามเขาด้วยน้ำเสียงดีใจเอริคไม่ตอบแต่ยักคิ้วให้เธอเป็นการตอบรับแทน“เกลอยากกินบิงซูได้มั้ยคะ ไม่ได้กินนานมากแล้ว”“ไปสิ”เขาตอบรับแบบไม่ต้องคิดตลอดเย็นวันนั้นเขาตามใจเธอทุกอย่าง อยากทำอะไรหรือทานอะไรก็ไม่ขัดสักคำ จนกลับมาถึงบ้าน “ขอบคุณนะคะสำหรับวันนี้”“เป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว ไม่ต้องขอบคุณ”“เอ่อ…เกลว่าเรามาทำข้อตกลงในการอยู่ร่วมกันดีมั้ยคะ หกเดือนนี้เราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข”เกวลินตัดสินใจบอกชายหนุ่มหลังจากคิดเรื่องนี้มาทั้งคืน“ในฐานะที่พี่เอริคเป็นเจ้าของบ้านเกลให้พี่บอกเงื่อนไขของพี่ก่อนเลยค่ะ”เกวลินบอกชายหนุ่มหลังจากที่วิ่
“นายครับผมเอากระเป๋าคุณเกวลินไปเก็บข้างบนเรียบร้อยแล้วถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ”เจมส์แจ้งผู้เป็นนายที่ตอนนี้นั่งเล่นที่โซฟากับเกวลินอยู่“อืม ขอบใจ หิวยังไปกินข้าวจะได้พักผ่อน”เขาตอบรับลูกน้องสั้นๆก่อนหันไปตามเกวลินที่นั่งอยู่ที่โซฟาฝั่งตรงข้าม“ก็ดีเหมือนกันค่ะ”เอริคเดินนำเกวลินมาที่โต๊ะอาหาร “นั่งสิ”เขาผายมือเชิญเธอนั่งก่อนที่ตัวเองจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม“ป้าพิศ ตักข้าวครับ อ้อลืมแนะนำนี่ป้าพิศแม่บ้านของที่นี่ ส่วนนี่เกวลิน…”“สวัสดีค่ะ เรียกเกลเฉยๆก็ได้นะคะ”เธอทักทายแม่บ้านด้วยรอยยิ้มและท่าทางเป็นกันเอง“สวัสดีค่ะคุณเกล คุณเกลสวยมากๆเลยนะคะ สมกับเป็นคู่หมั้นของคุณเอริคเลยค่ะ เหมาะสมกันยังกับกิ่งทองใบหยก”ป้าพิศพูดตามภาพที่เห็น“ป้าพิศ”เอริคปราม“ค่ะๆไม่พูดแล้วค่ะ เชิญคุณๆทานข้าวตามสบายเลยค่ะ ป้าขอตัวก่อน”ป้าพิศพูดด้วยรอยยิ้มก่อนเดินออกไป“คุณป้าเค้าไปไหนคะ”เกวลินถามด้วยความสงสัยหลังเห็นป้าพิศถือกระเป๋าเดินออกจากบ้านไป“กลับบ้าน”“ห๊ะ กลับบ้าน!!!”เกวลินอุทานด้วยความตกใจ“เสียงดังทำไม นี่มันทุ่มนึงแล้วก็ต้องกลับมั้ย?”“แล้วปกติบ้านหลังนี้พี่เอริคอยู่กับใครคะ”“คนเ
“นายครับ อาทิตย์หน้าคุณเกวลินจะกลับมาแล้วนะครับ คุณแอนนากำชับว่านายต้องไปรับเธอด้วยตัวเองนะครับ”“เออ รู้แล้ว ตกลงเป็นลูกน้องใครกันแน่วะ แม่หรือผม”“ลูกน้องนายสิครับ”“อืม รู้ตัวก็ดีนึกว่าโดนแม่ซื้อตัวไปแล้วหายใจเข้า หายใจออกก็มีแต่คุณแอนนา”เอริคนึกย้อนไปเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนที่ผู้เป็นแม่ยื่นข้อเสนอให้เขาใช้เวลากับเกวลินครึ่งปี หากครบกำหนดแล้วทั้งคู่ไม่รักไม่ชอบกันจริง เธอจะไม่บังคับเขาอีกต่อไป และมีข้อแม้ว่าระหว่างที่เกวลินอยู่ที่บ้านเขา ห้ามทำตัวไม่ดีกับน้อง ต้องให้เกียรติเธอทั้งที่บ้านและที่ทำงาน เอริคเองก็ยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดอย่างว่าง่าย เพราะเขาคิดว่ายังไงก็ไม่มีทางตดหลุมรักยัยเด็กอ้วนขี้แยคนนั้นแน่นอน“หึ ใครจะไปรักเธอลงยัยเกวลิน”เอริคพึมพำกับตัวเอง“นายว่าอะไรนะครับ”เจมส์ถามเขาเพราะได้ยินไม่ถนัด“ป่าว ไม่มีอะไร ไปทำงานต่อได้แล้ว”“ครับ”เจมส์รับคำก่อนจะขอตัวเดินออกจากห้องไปภาพจำของเอริคที่มีต่อเกวลินคือเป็นยัยเด็กอ้วน กินเก่ง ขี้แยสุดๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบเอามากๆ จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงจับคู่ให้เขากับเธอ ทั้งที่ดูไม่มีอะไรเข้ากันได้เลย อี
“นายครับ คืนนี้มีงานประมูลเพชรการกุศลสนใจจะเข้าร่วมมั้ยครับ”เจมส์ผู้ช่วยส่วนตัวถามเอริค“ไปสิ”เอริคตอบเสียงเรียบ“คุณนิต้าที่กำลังเป็นข่าวกับนายอยู่ตอนนี้ก็ไปร่วมงานนี้ด้วยนะครับ ผมเกรงว่าคุณแอนนาจะไม่พอใจเอานะครับ”“ดี งั้นนัดนิต้าให้เข้างานพร้อมกัน”“นายถ้าเป็นข่าวจะเป็นเรื่องใหญ่เอานะครับ เดี๋ยวคุณแอนนาจะไม่พอใจนะครับ”“นั่นแหละสิิ่งที่ผมต้องการ แม่จะได้เลิกจับคู่ผมกับยายหมูอ้วนซักที”“คุณเกวลินเธอไม่อ้วนแล้วนะครับนาย รูปที่คุณแอนนาส่งมาให้ล่าสุดเธอสวยมากๆเลยนะครับ”“นายชอบก็จีบเอาสิ”เอริคก็ยังตอบลูกน้องแบบไม่สนใจใยดีอะไร“แต่เธอเป็นคู่หมั้นนายนะครับ”“คู่หมั้นที่แม่เลือกเองน่ะสิ ผมไม่ได้เห็นด้วยซักหน่อย”ในวัยเด็กแอนนาแม่ของเอริคและแม่ของเกวลินเป็นเพื่อนรักกัน สองครอบครัวหมั้นหมายลูกๆให้กันตั้งแต่พวกเขายังเป็นเด็ก ในตอนนั้นเอริคไม่เคยเห็นด้วยกับการหมั้นหมายนี้เลย เพราะเขาไม่ชอบ เกวลินเป็นที่สุด เด็กอะไรกินเก่งแถมยังขี้แยอีกต่างหาก พวกเขาเจอกันล่าสุดตอนเอริคอายุ 21 ปีซึ่งในตอนนั้นเกวลินอายุเพียง 13 ขวบภาพจำของเขาที่มีต่อเธอจึงไม่ค่อยดีนัก ยิ่งพอรู้ว่าจนถึงตอนนี้แม่ของเขาก็ยังไม่ละค
เอริค : หนุ่มลูกครึ่งไทย-อังกฤษ หน้าตาหล่อเหลา ตาคม คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน สูง 190 เซนติเมตร นักธุรกิจหนุ่มหล่อไฟแรงมาดนิ่ง ประธานบริษัทของธุรกิจทางด้าน IT วัย 31 ปีพึ่งได้รับรางวัลนักธุรกิจดีเด่นแห่งปีไปหมาดๆ เอริคไม่เคยครบใครจริงจังเลยซักคน แม้ว่าจะมีข่าวซุบซิบกับดาราและสาวๆในแวดวงไฮโซอยู่เรื่อยๆก็ตาม หากแต่เป็นสาวๆที่เป็นฝ่ายเข้าหาเขาเอง เพราะความหล่อและความรวยของเขา แต่เขาไม่เคยคิดจะมีความรักเพราะเขาถือว่าความรักเป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จในหน้าที่การงานของเขาเกวลิน (เกล) : สาวน้อยแสนสวย ตาโตสูง 165 เซนติเมตรวัย 23 ปี ภายนอกดูขี้เล่น ซุกซน แต่จริงๆแล้วเป็นคนหวงตัว จิตใจดี โอบอ้อมอารีย์กับทุกคน เธอเป็นสาวนักเรียนนอก พึ่งเรียนจบและเดินทางกลับประเทศเมื่อเดือนที่แล้ว เป็นลูกสาวของเพื่อนรักแม่เอริค และเป็นคู่หมั้นในวัยเด็กของ เอริค เป็นว่าที่สะใภ้ที่แม่พระเอกหมายตาไว้ เพราะความสวย น่ารัก สดใสและนิสัยที่ดี ทำงานเก่ง คนแบบนี้ถึงจะเอาผู้ชายอย่างเอริคอยู่คุณนายแอนนา : แม่ของเอริควัย 55 ปี ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่อังกฤษกับสามี ชีวิตดีมีความสุขทุกอย่าง มีเรื่องเดียวที่ทำให้เธอเป็นกังวลคือเรื