โรงพยาบาลเอกชนห้องพิเศษ 2145.เอริ ฐิติมน......"เข้าไปสิ...."ฉันเอ่ยบอกขุนศึกไปพลางเปิดประตูห้องพักให้เขาไปด้วย เขาที่เดินตามหลังฉันมาอย่างเงียบๆได้มองหน้าฉันสลับกับประตูห้องพักของโรงพยาบาลเอกชนก่อนจะเหลือบหางตาไปมองที่ปลายชื่อของผู้ป่วยที่ทางโรงพยาบาลและทุกห้องจะต้องมีติดไว้ในขณะนี้เรามาถึงโรงพยาบาลที่คุณหญิงนฤมิตรเข้าพักรักษาตัวอยู่ ตลอดทางที่เราเดินมาขุนศึกกับฉันเราไม่ได้พูดคุยอะไรกัน เขาก็เลือกที่จะเดินตามฉันมาอย่างสงสัย แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ถามอะไรฉันมากเช่นกัน"คุณแม่เป็นอะไร?"ขุนศึกเอ่ยถามฉันเสียงสั่น แววตาสั่นไหวอย่างเห็นได้ชัดและเขาก็ไม่รอที่จะฟังคำตอบจากฉันเขาพุ่งตัวตรงเข้าไปในประตูด้านในของห้องพักห้องพิเศษนี่ทันที ฉันก็มองตามแผ่นหลังของเขาที่เขาวิ่งเข้าไปด้านในเลยก่อนจะปิดประตูและเดินตามหลังเขาไปอย่างช้าๆฉันเดินเข้าไปหาป้าบัวที่ท่านยืนมองขุนศึกอยู่ด้วยท่าทางสงสารและเห็นใจขุนศึก ขุนศึกเดินมุ่งตรงเข้าไปหาร่างของคุณหญิงนฤมิตรที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงผู้ป่วยอย่างไร้สติเขาเข้าไปจับมือแม่ของเขาและเอ่ยเรียกแม่ของเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ"คุณแม่ครับ.....คุณแม่เป็นอะไรครับ?"ขุน
"แต่ฉันก็แอบเชื่อใจตัวเองนะ....ว่าเธอจะไม่ทรยศฉัน"ขุนศึกเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังและมีความหวัง ฉันที่ได้ยินเขาพูดแบบนั้นจึงต้องหันกลับไปมองหน้าเขาอย่างตกใจ"อย่าเลย.....อย่ามองฉันเป็นคนดีเลยนะ.....เพราะฉันไม่ใช่คนดีอย่างที่นายคิดหรอก""แต่เธอก็เลือกที่จะช่วยชีวิตแม่ของฉัน""เป็นใครใครก็ต้องช่วยเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์นั้น"ฉันตอบเขาไปพร้อมกับจ้องมองเข้าไปนัยน์ตาคู่คมสวยของขุนศึกที่เขาจ้องมองฉันด้วยแววตาอ่อนโยนเหมือนตอนที่เรายังคบกัน"แต่เธอก็ไม่จำเป็นก็ได้หนิเพราะทั้งฉันและแม่ของฉันทำไม่ดีไว้กับเธอตั้งมากมาย"ขุนศึกแย้งต่อ ฉันจึงละสายตาจากดวงตาของเขาเพราะกลัวตัวเองจะใจอ่อน"อาจเป็นเพราะฉันมีจิตใต้สำนึกที่ดีอยู่มั้ง....."ฉันตอบเขาไป ขุนศึกเองก็เงียบไปเหมือนกัน ฉันจึงหันกลับมามองเขาว่าทำไมเขาถึงเงียบไป ก็พบว่าเขาเงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้า ด้วยแววตาที่เศร้าหมอง"นี้คงจะเป็นบทลงโทษของฟ้าสินะที่มอบให้คนอย่างฉัน.....""ทำไมนายถึงคิดว่าเป็นบทลงโทษจากฟ้าล่ะ....นายทำผิดอะไรไว้หรือไง?""ฉันคิดไม่ดีกับพ่อฉันต่อว่าพ่อฉันมันเป็นลูกเนรคุณ""ถ้านายเป็นลูกเณรคุณแล้วคนแบบไหนล่ะที่เป็นลูกที่ไม่เณรคุณน่ะ...
09.00น.หลายวันต่อมา.....บ้านเอริ เอริ ฐิติมน.......พรึบ"เรื่องพยาบาลพิเศษนายไม่ต้องเป็นกังวลนะฉันจะจัดการทุกอย่างเอง"ฉันเอ่ยบอกขุนศึกขึ้นในขณะที่เราทั้งสามคน ฉันป้าบัวและขุนศึกจัดการร่างของคุณหญิงนฤมิตรให้นอนลงบนเตียงนอนคิงไซส์ในห้องนอนรับแขกที่บ้านของฉันที่ขุนศึกเป็นคนซื้อให้นั่นแหละ"ว่าจริงๆไม่ต้องให้พยาบาลมาดูแลก็ได้.....ป้าดูแลคุณหญิงได้อีกอย่างป้าไม่ค่อยไว้ใจคนอื่นด้วย"ป้าบัวที่ยืนอยู่ข้างขุนศึกเอ่ยแย้งขึ้น ฉันกับขุนศึกก็หันมองหน้ากันก่อนที่เราจะหันไปมองหน้าป้าบัว "ป้าจะไหวเหรอครับ?"ขุนศึกเอ่ยถามป้าบัวด้วยสีหน้าเป็นกังวล ฉันเองก็เห็นด้วยกับขุนศึกนะเพราะการดูแลคนป่วยติดเตียงไม่ใช่เรื่องง่ายและอีกอย่าง ป้าบัวก็อายุมากแล้วด้วย"ไหวสิ.....ป้าดูแลคุณหญิงมาเกือบทั้งชีวิตของป้าจะให้ป้าดูแลต่อไปจวบจนสิ้นชีวิตของป้า....ป้าก็ดูแลได้""ขอบคุณนะครับที่ป้าดีกับผมและคุณแม่ของผม"ขุนศึกเอ่ยออกมาอย่างซาบซึ้งใจ ฉันรู้สึกว่าตั้งแต่เขาเจอมรสุมชีวิตเขามองจะโตเป็นเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะนะ เห็นอกเห็นใจคนอื่นและมองเทคแคร์คนอื่นมากกว่าตัวเองขึ้นเยอะเลยนะ"คุณหญิงและคุณผู้ชายมีบุญคุณกับป้ามากค่ะคุณขุนศ
"ขอบคุณเธอด้วยนะ....."เสียงทุ้มอ่อนนุ่มของคนที่คุ้นหูทำให้ฉันที่ยืนมองอะไรอย่างใจลอยต้องหันกลับไปมองต้นเสียงนั้น ก็พบว่าขุนศึกนั้นเองที่ยืนมองฉันอยู่ด้วยแววตาลึกซึ้งและอ่อนโยนฉันก็วางแก้วน้ำที่ดื่มเสร็จแล้วลงไปในซิงค์ล้างจานและหันกลับไปมองหน้าขุนศึกด้วยแววตาล่อกแล่กอย่างส่อพิรุธว่าฉันรู้สึกดีที่เขาพูดดีๆแบบนี้กับฉัน"สำหรับทุกเรื่อง""ไม่ต้องขอบคุณหรอก....ถือซะว่าเราหายกัน"ฉันบอกเขาไปพลางยิ้มบางๆให้เขา ขุนศึกก็มองหน้าฉันอย่างงงๆที่ฉันบอกเขาว่าหายกัน"ก็นายเคยช่วยฉันไม่ให้ฉันถูกไล่ออกจากมหาลัยเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมไง....และตอนนี้นายเดือดร้อนจะให้ฉันนิ่งเฉยได้ยังไง""อ้อและนี่"ฉันว่าต่อพร้อมกับหยิบเช็คเงินสดยื่นส่งไปตรงหน้าของขุนศึก ขุนศึกก็มองหน้าฉันสลับกับเช็คเงินสดอย่างสงสัย ฉันก็จัดการยัดเช็คเงินสดใส่มือเขาไป"เอาไปจ่ายเงินรายเดือนที่นายค้างจ่ายพวกพนักงานทั้งหมดนะพวกเขาจะได้ไม่ต้องมาฟ้องร้องนายอีก"ฉันเอ่ยออกไป ขุนศึกก็มองหน้าฉันด้วยสีหน้าที่ยากจะรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรก่อนที่เขาจะเปิดเช็คเงินสดในมือเขาดูเขาก็ยิ่งทำสีหน้าตกใจและแปลกใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับฉัน ใช่เขาคงจะตกใจกับ
"เพื่ออะไรอ่ะริ.....ขุนงงไปหมดแล้ว""เธอมาทำดีกับฉันเพื่ออะไร""ทั้งๆที่ฉันไม่เคยทำดีกับเธอเลย""ฉันบอกไปแล้วไง.....ว่าฉันไม่อยากมีหนี้ติดค้างกับนายอีกแล้ว"ฉันพูดเสียงเรียบก่อนจะเอื้อมมือมาแกะมือของขุนศึกที่โอบเอวฉันอยู่ให้คลายออกไปจากร่างของฉันเมื่อฉันได้รับอิสระแล้วฉันก็หันไปเผชิญหน้ากับเขาพร้อมกับจ้องมองเขาด้วยสายตาเรียบเฉย ราวกับไม่ได้คิดอะไรกับเขาอีกแล้ว"และขอให้นายคืนอิสระภาพให้ฉัน....ให้ฉันได้ออกไปจากวงจรอุบาทที่นายยัดเยียดให้ฉันสักที"ฉันพูดบอกเขาไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง แววตาที่ขุนศึกมองฉันมันสั่นไหวเล็กน้อย"ฉันคิดว่าการที่ฉันช่วยเหลือนายขนาดนี้......นายคงจะไม่ใจดำกับฉันมากไปนะ""เพราะตอนนี้เรายังกลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้......แต่ถ้านายปฏิเสธคำร้องขอจากฉันเราก็อาจจะไม่ได้อยู่ในสถานะไหนกันอีกเลย"ฉันพูดด้วยสีหน้าเข้มขรึมแววตาเรียบเฉยอย่างคนที่พูดจริงและทำจริง จนขุนศึกมีสีหน้าที่คิดหนัก "ก็ได้......ฉันจะคืนอิสระให้เธอตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเราไม่มีข้อผูกมัดเรื่องบนเตียงและก็เงินที่ฉันให้เธออีกแล้ว""ฉันจะไม่พูดและไม่ทวงมันอีก....ถือว่าเราหายกัน"ขุนศึกพูดออกมาเสียงหนักแน่น
"วันนี้มีคนออกมายืนส่งด้วย"คุณลุงเอ่ยแซวฉันทันทีที่ฉันเปิดประตูรถแท็กซี่เบาะหลังขึ้นมานั่งบนรถของแก ฉันก็หันไปมองตามที่สายตาของลุงจ้องมองก็พบว่าขุนศึกยืนอยู่หน้าบ้านฉันตรงทางเข้าบ้านคนที่ลุงหมายถึงก็คงจะเป็นเขานี่แหละ "พอดีที่บ้านของเพื่อนเขามีปัญหานิดหน่อยนะคะเขาเลยมาอยู่กับหนูสักระยะ"ฉันเอ่ยบอกลุงไป ลุงแกก็พยักหน้าเข้าใจแต่ก็แอบยิ้มกริ่ม "ดูเหมือนเขาจะไม่ได้มองหนูเป็นแค่เพื่อนนะ"ลุงคนขับแท็กซี่พูดทิ้งท้ายก่อนจะใส่เกียร์และขับรถออกมาจากบ้านของฉันโดยที่ฉันแอบหันหลังไปชะเง้อมองขุนศึกที่เขายังคงยืนอยู่ที่เดิมจนรถแท็กซี่แล่นออกมาจนพ้นบ้านของฉันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฉันถึงจะหันตัวกลับมานั่งตามเดิมและปล่อยให้ใจคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ฉันควรจะดีใจสิ ที่ฉันพูดบอกขุนศึกและขอจบสถานะแบบนั้นกับเขาไปได้เสียทีเป็นแค่เพื่อนกันในตอนนี้ดีกว่าถ้าฉันปล่อยให้อารมณ์และอะไรๆระหว่างเรามันแย่ไปกว่านี้ บางที เราสองคนอาจจะมองหน้ากันไม่ติดและไม่สามารถที่จะกลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้อีกเลยก็ได้นะ........บ้านเอริ หลังจากที่ฐิติมนไปทำงานแล้วห้องนอนคุณหญิงนฤมิตรขุนศึก ขุนณรงค์......"ป้าบัวไปพักผ่อนเถ
วันต่อมา09:00น.สนามบิน เบสท์เวิร์คแอร์ไลน์......เอริ ฐิติมน........"วันนี้เป็นอะไรนะ?"ฉันเอ่ยพึมพำกับตัวเองขึ้นหลังจากที่เดินกลับไปยังห้องด้านหลังของตัวเครื่องบินเพื่อจะไปจัดการทำความสะอาดอุปกรณ์ของใช้ของผู้โดยสารและจะได้เลิกงานกลับบ้านแต่วันนี้ที่ฉันบ่นขึ้นมาเพราะรู้สึกวิงเวียนศีรษะและรู้สึกพะอืดพะอมยังไงไม่รู้อาการแปลกๆ พอเวลาเครื่องบินเเลนด์ดิ้งก็เวียนศีรษะเกือบเซล้มดีที่น้องแอร์โฮสเตสที่มีเที่ยวบินเดียวกันพยุงร่างไว้ได้ทัน ฉันจึงไม่หงายหลังล้มตึงหัวกระแทกพื้นไปเสียก่อน"วันนี้พี่เอริไม่สบายหรือเปล่าคะ....มองหน้าตาดูซีดๆนะคะ"เสียงของน้องน้ำฝนเอ่ยขึ้นหลังจากที่เธอเพิ่งจะเดินกลับมาจากการทำความสะอาดห้องที่นั่งผู้โดยสารเสร็จแล้วฉันก็ละสายตาจากจานแก้วที่ฉันกำลังล้างอยู่ในซิงค์ไปมองหน้าเธอ"อืมพี่ก็รู้สึกเหมือนจะไม่สบายเหมือนกันนะ...รู้สึกแปลกๆ"ฉันตอบน้ำฝนไป เธอก็มองฉันด้วยสายตาเป็นห่วง ฉันกับเธอเราเพิ่งจะเคยทำงานด้วยกันแค่สองครั้งแต่แปลกทำไมเธอดีกับฉันจัง ไม่สิ ไม่ใช่แค่เธอที่ดีกับฉัน แต่ทุกคนเลยต่างหากล่ะที่ดีกับฉันน่ะ ดีจนฉันอดที่จะแปลกใจไม่ได้หรืออาจจะเป็นเพราะฉันอาจจะมองโลกในแ
โรงพยาบาลเอกชน Q3ชั่วโมงต่อมาห้องพักผู้ป่วยVVIPเอริ ฐิติมน....."อื้อออ"ฉันเริ่มบิดตัวไม่มาอย่างเมื่อยล้าและอ่อนเพลีย รู้สึกหนักศีรษะและยังมึนๆอยู่บ้าง ฉันจึงยกแขนขึ้นมากุมศีรษะตัวเองก่อนจะค่อยๆลืมตาตื่น เพราะครั้งสุดท้ายก่อนที่ฉันจะหมดสติไป ฉันจำได้ว่าฉันหมดสติที่หน้าสนามบินเบสท์เวิร์คแอร์ไลน์หนิและตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน มองไปทางไหนก็เป็นสีขาวไปหมด รวมถึงผ้าห่มที่ห่มร่างกายฉันอยู่ด้วยก็ยังเป็นสีขาวบริสุทธิ์"โรงพยาบาลเหรอ?"ฉันพึมพำออกมาก่อนจะรู้ได้เมื่อสายตามองไปสำรวจรอบห้องแล้วก็พบว่าที่นี่มันคือโรงพยาบาลและชุดที่ฉันใส่อยู่ก็เป็นชุดของโรงพยาบาลอีกด้วยว่าแต่ใครกันที่พาฉันมาโรงพยาบาลนะพรึบฉันพยายามขยับตัวเพื่อจะยันกายลุกขึ้นนั่งแต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงทุ้มนุ่มของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาอย่างตกใจ"คุณเอริจะไปไหนครับ"เสียงตกใจเอ่ยเสียงดังก่อนที่ร่างสูงโปร่งของหนุ่มลูกครึ่งจะวิ่งถลามาอย่างรวดเร็วเพื่อมาประคองร่างกายช่วยฉันกลัวว่าฉันจะตกเตียง"คุณเควิน?"ฉันเอ่ยชื่อคุณเควินไปพลางมองหน้าเขาไปอย่างสงสัยที่เห็นว่าเขาอยู่ที่นี่ งั้นแสดงว่าคนที่พาฉันมาโรงพยาบาลก็คือเขาน่ะสิ"อยากไ
"ผมเกลียดคุณเข้าใจไหม""ไม่จริงคุณไม่ได้เกลียดแก้มหวานคุณรักแก้มหวาน""ไม่งั้นคุณจะมาทำดีกับแก้มหวานทำไม""ที่ผมทำดีกับคุณเพราะผมติดใจในเซ็กส์ของคุณไง....คุณรู้ไหมว่าคุณเป็นผู้หญิงที่เร้าร้อนและร้อนแรงเรื่องบนเตียงมากแค่ไหน"เควินพูดพร้อมกับเดินตรงมาหาแก้มหวาน"ผมไม่เคยมีอะไรกับใครแล้วมีความสุขเท่าคุณ"เควินว่าพร้อมกับใช้ปลายนิ้วเรียวไล้เกี่ยไปตามแขนของแก้มหวานอย่างแผ่วเบา พร้อมกับมองแก้มหวานด้วยแววตาหวานเยิ้ม"ผมก็เลยเล่นตามน้ำคุณถึงแม้ในใจผมมันจะสนแค่ร่างกายคุณแต่นิสัยและสันดานของคุณผมรังเกียจมันเสียด้วยซ้ำ"เควินพูดไปพลางมองไปที่ร่างของแก้มหวานด้วยสายตาดูถูกและเหยียดหยาม"ผมก็นึกว่าคุณจะเล่นๆกับผมแต่ที่ไหนได้คุณคิดจริงจัง"เควินว่าพลางยิ้มหัวเราะออกมาอย่างเรื่องที่เป็นประเด็นสนทนาอยู่ในตอนนี้เป็นเรื่องตลก ทำให้แก้มหวานมองผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่พอใจและน้อยใจไปในตัวเธอคิดว่าเขาจะสนใจและมีความรู้สึกดีๆให้เธอเสียอีก แต่ที่ไหนได้เขากลับไม่ได้มีใจให้เธอเลย "ไม่ต้องมองผมแบบนั้นหรอก.....ผมพูดความจริง""และต่อไปคุณก็ช่วยกรุณารู้จุดยืนของตัวเองด้วยนะ"เควินเอ่ยออกมาปิดท้ายแววตาที่เขามองเธอเวลาพูด
"ไม่ใช่ว่าริเป็นซิงเกิ้ลมัมไม่ได้แต่ริไม่อยากเป็นไม่อยากให้ลูกมีแค่ริที่ทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกันแต่อยากให้ลูกได้รับความรักจากพ่อแท้ๆของเขาและความเอาใจใส่จากพ่อของเขาจริงๆ" "คนที่ไม่เคยขาดพ่อขาดแม่ไม่มีวันเข้าใจหรอกไม่ว่าแม่จะดูแลดีแค่ไหนแต่มันก็ไม่เหมือนความรักที่มีทั้งพ่อและแม่อยู่ครบ" "ริหวังว่าขุนจะเข้าใจนะ....ขุนแค่ทำหน้าที่พ่อของลูกเท่านั้นพอ....." "ริ....." "หรือขุนอยากจะเลือกก็ได้นะระหว่างทำหน้าที่พ่อของลูกหรือจะไม่รับหน้าที่อะไรเลยก็ได้" "ก็ได้ขุนจะเอาแบบที่ริว่าก็ได้"ขุนศึกที่ได้ยินคำขาดจากฉัน เขาก็พูกเสียงเข้มแทรกขึ้นมาทันที "แต่ขุนจะทำให้ริเห็นว่าขุนพร้อมที่จะหยุดและมีแค่ริคนเดียวแล้วจริงๆ"ขุนศึกว่าพร้อมกับทำหน้ามั่นใจว่าเขาจะสามารถทำอย่างที่เขาพูดได้จริงๆ แต่เขาก็พูดแบบนี้ทุกครั้งที่ฉันจับเขาได้ว่าเขาแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นและฉันก็ไว้ใจและเชื่อใจเขามาตลอดและเป็นยังไงล่ะ สุดท้าย ฉันก็เป็นอีโง่เหมือนเดิม เคยยอมเสียศักดิ์ศรีตัวเองแก้ผ้าให้ขุนศึกเอาเพื่อให้เขาเลิกไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น นั่นมันเป็นความคิดเด็กน้อยชะมัด "ทำให้ได้ก่อนค่อยมาว่ากันอีกที..
วันเดียวกัน23:30น.เอริ ฐิติมน......จึกๆๆ"ริ......""หื้ออออ"ฉันครางรับเสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกฉันพร้อมกับแรงสะกิดที่ไหล่ฉันเบาๆฉันที่นั่งขดตัวหลับอยู่บนโซฟาภายในห้องโถงใหญ่ก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาดูเจ้าของเสียงที่ฉันเฝ้ารอเขาจนเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้"ขุน......กี่โมงแล้วเนี่ย?"ฉันขยี้ตาเพื่อไล่ความสะลึมสะลือความงัวเงียให้หายไปพร้อมกับเอ่ยถามขุนศึกไป"เที่ยงคืนกว่าแล้ว....ริมานอนทำไมตรงนี้?"ขุนศึกตอบฉัรพร้อมกับเอ่ยถามฉันกลับ ฉันที่หายจากอาการสะลึมสะลือแล้วแล้วก็ขยับตัวนั่งดีๆและหันไปมองหน้าขุนศึกที่เขานั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับฉันและนั่งข้างๆฉันด้วย"ริมารอขุนนั้นแหละ.....ทำไม่มาซะดึกเลย....หาไม่เจอเหรอ?""เปล่า.....พอดีขุนไปทำธุระมาน่ะ""อ้อ"ฉันพยักหน้าพลางร้องตอบขุนศึกไป แม้ในใจอยากจะถามเขาว่าธุระที่เขาว่าคืออะไร แต่สีหน้าและแววตาของขุนศึกเหมือนไม่อยากบอกให้ฉันรู้ว่าธุระที่เขาพูดถึงคืออะไรถ้าเขาไม่อยากบอก ฉันก็ไม่ควรที่จะถามต่อสินะ เพราะฐานะของฉันกับเขาไม่มีสิทธิ์ซักไซ้จนได้รู้เรื่องส่วนตัวของเขามากไปกว่านี้"ว่าแต่ริมารอขุน......มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า"ขุนศึกถามฉันพร้อมกับจ้องมองฉั
จะปล่อยห้องว่างไวโดยไร้คนอยู่ก็เสียดาย ฉันก็เลยใจอ่อนและยอมมาอยู่ที่นี่ซึ่งฉันคิดว่ามันสะดวกสบายดี บ้านที่ฉันหาในเน็ตก็มองทรุดโทรมและค่าเช่าก็แพง อะไรที่ประหยัดได้ในตอนนี้ฉันก็ควรจะประหยัดและตอนนี้ฉันก็ท้องด้วย ฉันควรจะมีเงินสำรองไว้เลี้ยงลูกของฉันให้เขาอยู่อย่างสุขสบายให้เยอะๆดีกว่าฉันควรจะบอกเรื่องนี้กับขุนศึก......ว่าฉันท้องกับเขา....."ป้าบัวคะ""จ๊ะว่าไงจ๊ะเอริ?"ป้าบัวที่กำลังยกชามกะละมังที่เช็ดตัวคุณหญิงเพิ่งเสร็จหันมาขานรับฉันเงินก้อนใหญ่ฉันก็ให้ขุนศึกไปหมดแล้ว รถก็ขายทิ้ง บ้านก็มาไฟไหม้อีก ค่ารักษาพยาบาลคุณหญิงค่าใช้จ่ายรายเดือนก็สูง โดยเฉพาะค่ากายภาพบำบัดที่ฉันว่าจ้างให้นางพยาบาลที่เป็นคนทำกายภาพบำบัดและศึกษาด้านนี้มาโดยเฉพาะให้มาดูแลคุณหญิงทุกวันโดยทำกายภาพบำบัดให้คุณหญิงเดินได้อีกครั้งและฉันจะทำทุกวิถีทางให้ชีวิตของลูกฉันมีความสุขและสุขสบายที่สุดไม่ให้ลำบากและรู้สึกขาดแบบที่ชีวิตฉันเคยเป็นมา ฉันจะเลี้ยงเขาให้ดีที่สุดเท่าที่สุดของความสามารถของฉัน"ป้าบัวส่งโลเคชั่นให้ขุนหรือยังคะว่าเราอยู่ที่ไหนกัน?"ฉันเอ่ยถามป้าบัวไป ท่านก็ยิ้มบางๆให้ฉัน"ป้ากำลังจะไปส่งโลเคชั่นให้คุณข
"ไม่ว่าฉันจะให้แกทำอะไรแกก็ยอมใช่ไหม?"แก้มหวานเอ่ยถามผมด้วยแววตามีเลศนัยพร้อมยกยิ้มที่มุมปากขึ้น ผมก็จ้องมองเธอนิ่ง และผมก็อยากทำให้เรื่องทุกอย่างมันจบลง วันนี้คุณแม่ผมเกือบจะไม่รอด เพราะผมเป็นตัวต้นเหตุ วันนี้อาจจะโชคดี แต่มันก็คงตะไม่โชคดีทุกครั้งไป "ใช่" "ถ้าฉันให้แกไปตายล่ะ" "มันไม่มากไปเหรอ?"ผมถามเธอไปเสียงเข้ม เรื่องที่ผมและเพื่อนๆทำกับเธอ เธอก็ยังมีชีวิตอยู่และดีด้วยจนถึงทุกวันนี้ไม่ใช่เหรอ "หึ.....ฉันรู้ว่าแกคงไม่กล้าตายหรอก" "งั้น......ฉันขอแลกศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของแกก็ล่ะกันนะ" "ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของฉัน?" "กราบตีนฉันสิ.....แล้วฉันจะเลิกยุ่งกับแม่แกและก็เอริผู้หญิงที่แกบอกว่ารักนักรักหนาด้วย" "ไม่รู้ว่าแกรักเธอยังไงนะถึงได้นอกกายนอกใจเธอนอนกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ตลอดเวลา" "ถ้าฉันเป็นเอริฉันคงไม่เอาผู้ชายเลวๆที่ทำตัวเหมือนหมาตัวผู้ที่ต้องผสมพันธุ์ไปทั่วโดยไม่สนว่าใครเป็นใคร" "แบบแกหรอกนะขุนศึก" "แค่ฉันกราบตีนเธอ.....แค่นี้ก็พอแล้วใช่ไหม?"ผมไม่สนใจคำพูดที่ถากถางของแก้มหวานแต่เอ่ยถามในสิ่งที่จะเป็นตัวหยุดเรื่องนี้กับเธอไป เธอก็ทำหน้าบึ้งตึงนิดหน่อยก่อนจะแสยะยิ้มให้ผม
เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องผมก็ยื่นมือไปกดออดเพื่อเรียกคนในห้องให้รู้ว่ามีคนมาขอพบเธอผมรออยู่ไม่นานและกดออดซ้ำไปแค่ครั้งเดียว ประตูห้องหรูบานตรงหน้าผมก็ค่อยๆถูกเปิดออกจากคนที่อยู่ด้านในของห้องนี้ผมก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองบุคคลที่เป็นคนมาเปิดประตูเธอเป็นผู้หญิงผอมสวยหุ่นดี เธออยู่ในชุดเดรสสั้นสายเดี่ยวสีแดงผมของเธอถูกดัดเป็นลอนใหญ่แล้วปล่อยสยายไปด้านหลังสีหน้าที่เธอจ้องมองมาที่ผมด้วยแววตาสงสัย และเพ่งมองพินิจพิจารณาอย่างสงสัยว่าผมคือใครผมจึงค่อยๆใช้มือดึงฮู้ดที่ปิดหน้าของผมอยู่ให้ออกเพื่อเผยใบหน้าของผมให้เธอคนนี้ได้เห็นอย่างชัดเจนขึ้นและในเมื่อใบหน้าของผมที่ไร้เสื้อฮู้ดปกผิดเปิดเผยแก่คนตรงหน้าเธอก็จ้องมองผมด้วยแววตาตกใจและแปลกใจ ผมก็จ้องมองเธอกลับไปด้วยแววตาเรียบเฉยเมื่อแปดปีก่อน เธอกับผมเราคงจะคุ้นตากันเพราะเราสองเคยมีอะไรกันและแอบเป็นแฟนกันมาก่อนทั้งๆที่ผมเองก็มีแฟนอยู่แล้วผมไม่ได้ตั้งใจจะหลอกเธอ แต่ผมคิดว่าผู้หญิงทั้งมหาลัยก็น่าจะรู้ดีว่าผมมีเจ้าของอยู่แล้ว แต่กลับผิดคาดที่เธอคนนี้ไม่รู้ เธอจึงปล่อยใจรักผมแต่ผมกลับไม่เคยรักเธอ ไม่ว่าเธอจะแสนดีและน่ารักแค่ไหน ผมก็ไม่เคยคิดที่จะรั
ช่วงเย็นวันเดียวกันคอนโด TYขุนศึก ขุนณรงค์......"ขอบคุณสำหรับข้อมูลตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าคอนโดที่แกบอกแล้ว""คอนโดTYชั้นที่สามสิบห้องสามสามสี่ห้าฉันจำได้ล่ะขอบใจแกมากฟิว"ผมเอ่ยบอกฟิวไปในขณะที่สายตาก็ทอดมองเงยหน้าไปยังชั้นบนสุดชั้นที่สามสิบของตึกสูงตระหง่านใจกลางเมืองตรงหน้าของผมในขณะนี้(แกคิดที่จะทำอะไร?)(ตอนนี้เขามีอิทธิพลมากกว่าแกเขาสามารถทำให้แกหายไปโดยไม่มีใครสงสัยได้เลยนะขนาดทำให้ชีวิตของแกพังเขาก็ยังทำได้)(ฉันว่าแกไม่สมควรที่จะประมาทผู้หญิงคนนี้)เสียงปลายสายของฟิวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงห่วงใย ผมจึงละใบหน้าจากตึกสูงตรงหน้าและเอ่ยคุยกับฟิวต่อ"ฉันรู้ขอบใจและขอโทษที่ทำให้ชีวิตของแกต้องมาติดร่างแหพลอยซวยไปกับฉันด้วย"ผมเอ่ยบอกหิวไปอย่างคนที่รู้สึกผิดที่ออกมาจากใจจริงไปของผม(แกไม่ได้ทำอะไรผิดถ้ามันจะผิดก็ผิดกันหมดนี่แหละ)(มันคงจะเป็นเพราะตอนนั้นพวกเรายังเด็กเลยไม่ได้คิดอะไรให้มากกว่านี้เลยทำเรื่องแบบนั้นลงไป)(ฉันไม่มีสิทธิ์โกรธแกหรือแก้มหวานเลยด้วยซ้ำ)"นั่นสิเนอะ....ฉันก็ไม่สมควรที่จะโกรธแก้มหวานด้วยเหมือนกัน"ผมเอ่ยออกมาอย่างคิดนึกตริตรองอย่างที่ฟิวว่าที่จริงถ้าตอนนั้นผมไม่คึกค
"ผมขอโทษครับ""คุณจะมาขอโทษฉันทำไมล่ะค่ะ....ฉันเองต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณสิถึงจะถูก""เดี๋ยวฉันจะโอนจ่ายค่ารักษาให้คุณทีหลังนะคะ....เพราะวันนี้ฉันไม่มรเงินติดตัวเลย"ฉันเอ่ยบอกคุณเควินไปตามความจริง เขาก็มีสีหน้าตกใจและสลดปะปนกันไป"อย่าโอนจ่ายค่ารักษาให้ผมเลยครับ...ขอให้ผมได้ดูแลคุณสักครั้ง""ในฐานะเพื่อนได้ไหมครับ"คุณเควินว่าต่อในเสียงและสีหน้าเชิงขอร้อง ฉันก็มองหน้าเขาอย่างคนคิดหนัก เขาขอช่วยในฐานะเพื่อนถ้าฉันปฏิเสธเพื่อนคนนี้ ก็ควจะเสียมารยาท"ก็ได้ค่ะ....แต่ริขอแค่ความช่วยเหลือจากคุณเควินแค่ครั้วนี้ครั้งเดียวนะคะ....ครั้งต่อไปไม่ต้องแล้วนะคะ....ริเกรงใจ"สิ้นคำพูดฉันคุณเควินก็มีสีหน้าดีใจขึ้นมา"ครับ....ขอบคุณนะครับที่ยอมรับความช่วยเหลือจากผมในครั้งนี้""มีอะไรหรือคะ?"ฉันเอ่ยถามคุณเควินต่อหลังจากที่เขาพูดจบประโยคเขาก็นิ่งไปและมองหน้สฉันอย่างคนอึดอัดใจเหมือนเขาอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่เขาก็เลือกที่จะไม่ยอมพูดมันออกมาฉันจึงเลือกที่จะเป็นฝ่ายถามเอง"ผมดูข่าวเกี่ยวกับไฟไหม้ที่บ้านของคุณและผมก็ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลว่าคุณเข้ามารับการรักษาที่นี่""ผมจึงรีบมา....และก็พบคุณแต่ทางโรงพยาบาลแจ
"แต่คงจะยาก.....เพราะเขามีหลักฐานขนาดนั้น" "และที่สำคัญเขาไม่รับฟังหรอกว่าแม่นายเองก็โดนหลอกเหมือนกัน" "เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงเอริ?" "ก็อย่างที่บอกว่าตอนนี้.....นายกำลังโดนโจมตรีจากคนที่นายเรยไปทำลายชีวิตเขายังไงล่ะ" "นายเกือบทำให้แม่นายต้องมาตายเพราะความเจ้าชู้ของนาย.....ขุนศึก" "และคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่างแม่นายต้องมาซวยต้องมาหมดตัวต้อยมาเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านสร้างมาก็เพราะนาย" "เพราะความเจ้าชู้ของนาย"ฉันพูดเสียงแข็งตะโกนใส่ขุนศึกไปเป็นชุดด้วยแววตาสั่นไหวน้ำตาเอ่อคลอ ขุนศึกก็ทำสีหน้ายอมรับความผิด สีหน้าของเขาซีดลงแววตาของเขาสั่นไหว "ขุนรู้ว่าทุกอย่างมันเป็นเพราะขุน....." "ที่มาทำให้แม่และก็ริเดือดร้อน" "ขุนจะจบเรื่องนี้เอง"ขุนศึกพูดเสียงเข้มแววตาจริงจังและวูบไหว "ผมฝากแม่ด้วยนะครับ" "เดี๋ยวผมมาได้ที่อยู่ใหม่ที่ไหนรบกวนป้าบัวโทรบอกผมด้วยนะครับ"ขุนศึกผละจากรถวีลแชร์เดินไปหยุดตรงหน้าของป้สบัวพร้อมกับเอ่ยบอกป้าบัว "ค่ะได้ค่ะว่าแต่คุณขุนศึกจะไปไหนคะ?"ป้าบัวรับคำขุนศึกและเอ่ยถามเขาต่อ ขุนศึกกฺ็หันกลับมามองหน้าฉัน ด้วยสายตานิ่งเฉย "ไปทำให้เรื่องทุกอย่างมันจบคร