สองวันต่อมาบนเครื่องบิน ของเบทส์เวิร์คแอร์ไลน์.....เอริ ฐิติมน......พรึบ"พี่เอริคะ?""จ๊ะ?"ฉันหันไปขานรับน้องแอร์โฮสเตสที่เธอได้ไฟลท์บินเดียวกับฉันอย่างสงสัย เธอก็มองสายตาต่ำลงมาที่แก้วกาแฟในมือฉันด้วยสีหน้าสงสัย"เมื่อกี้ผู้โดยสารสั่งน้ำส้มไม่ใช่หรือคะ?"ทิพย์เอ่ยขึ้น ทำให้ฉันที่เผลอใจลอยจึงนึกขึ้นได้ว่าผู้โดยสารท่านนี้สั่งน้ำส้มคั้นจริงๆไม่ใช่กาแฟร้อน"ต้องขอโทษด้วยนะคะ"ฉันหันมาเอ่ยขอโทษผู้โดยสารที่เธอเป็นผู้หญิงอายุสามสิบต้นๆแต่งตัวดูดีมีฐานะ เธอก็ใจดีนะยิ้มแย้มให้ฉันก่อนจะตอบฉันมาว่าไม่เป็นไร"ไม่เป็นไรค่ะ....งั้นฉันเอากาแฟแทนก็ได้ค่ะ""แต่"ฉันกำลังจะแย้งผู้โดยสารแต่เธอก็ยิ้มหวานให้ฉันก่อนจะยื่นมือมาแย่งแก้วกาแฟไปจากฉัน ฉันจึงต้องยอมให้เธอ"ขอโทษอีกครั้งนะคะ""ไม่เป็นไรเลยค่ะ.....อย่าคิดมากเลยค่ะ"เธอบอกฉันเสียงใส ฉันก็โค้งตัวให้เธออย่างเคารพก่อนจะหันมาหาทิพย์แอร์โฮสเตสที่เธออายุน้อยกว่าฉันก็จริงแต่เธอทำงานมาก่อนฉันน่ะ"พี่ขอบคุณที่เตือนสติพี่"ฉันเอ่ยขอบคุณเธอจากใจจริง เธอก็ยิ้มบางๆให้ฉันก่อนจะพยักหน้าให้ฉันอย่างรับคำขอบคุณ และเราสองคนก็หันไปแยกย้ายบริการเครื่องดื่มให้ผู้โดยสารก
"มาทำอะไรที่นี่เหรอแม่หนู?"เสียงทุ้มแหบแห้งของคุณลุงคนขับแท็กซี่เอ่ยขึ้นอย่างสงสัย ฉันจึงละสายตาที่กำลังทำคอชะเง้อชะแง้มองเข้าไปในบ้านหันกลับมามองคุณลุงแทน"พอดีป้าของหนูทำงานอยู่ในบ้านหลังนี้นะคะ""อ้อ.....คงจะออกไปหมดแล้วล่ะข่าวใหญ่โตว่าคุณนายเศรษฐีบ้านนี้โดนยึดทรัพย์ยึดบ้านคงไม่มีใครทำงานกับคนที่ไม่มีเงินจ้างหรอก"คุณลุงว่าพร้อมกับทำมือชี้นิ้วเข้าไปในบ้าน ฉันนี่หน้าถอดสีลงเลย เมื่อได้ยินคุณลุงพูดแบบนี้ แสดงว่ามันคือเรื่องจริงสินะ ฉันผิดเองที่ไม่กล้าพอที่จะเปิดข่าวฟัง เพราะฉันรับไม่ได้ "แล้วเจ้าของบ้านล่ะค่ะเขาไปอยู่ไหนกัน?"ฉันเอ่ยถามคุณลุงไปอย่างสงสัย และรอลุ้นกับคำตอบที่จะได้รับ"ในคุกน่ะสิ....โกงชาวบ้านชาวเมืองไปขนาดนั้นคนแบบนี้ไม่ต้องออกมาจะดีมากที่จริงไม่สมควรติดคุกด้วยซ้ำ!""น่าจะโดนสั่งให้ตายไปเลย!!"คุณลุงพูดเสียงเข้มอย่างโกรธจัดและคับแค้นใจอย่างคนที่จงเกลียดจงชังคนบ้านนี้ ฉันจึงเงียบปากลงและไม่กล้าถามอะไรลุงต่อ จึงบอกให้เขาพาฉันไปจากที่นี่ ตอนที่รถแท็กซี่ขับผ่านหน้าบ้านก็มีเอกสารสีขาวติดไว้ที่ประตูรั้วมากมายหลายแผ่นซึ่งฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือเอกสารอะไร อาจจะเป็นเอกสา
ย้อนกลับไปเมื่อสามวันก่อน วันงานหมั้นของขุนศึกและนามิสถานที่จัดงานหมั้น โรงแรมPQหรูระดับห้าดาว08:40น."ทำไมป่านนี้แล้วตาขุนศึกยังไม่มาอีก?"คุณหญิงนฤมิตรที่อยู่ในชุดราตรีสีขาวลูกไม้สวยสง่าเดินกระวนกระวายพลางถือโทรศัพท์ในมือเพื่อกดโทรหาลูกชายของเธอไปด้วยอย่างร้อนรนใจเพราะอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าวิธีการหมั้นก็จะเริ่มขึ้นแล้ว แต่กลับไร้เงาของเจ้าบ่าวอย่างขุนศึก ที่เธอเองก็ติดต่อเขาไม่ได้ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงเวลานี้ เพราะขุนณรงค์ปิดเครื่องยิ่งทำให้คุณหญิงนฤมิตรร้อนรนใจจนอยู่ไม่เป็นสุขและนั่งไม่ติดต้องเดินไปมาอย่างกระวนกระวายใจอยู่ภายในห้องรับรองที่ทางโรงแรมจัดหาไว้ให้งานหมั้นของขุนณรงค์และนามิกาถูกจัดขึ้นกลางโรมแรมหรูหราระดับห้าดาวและจัดงานหรูหราสมฐานะของคนทั้งสองตระกูลแขกในงานก็มีแต่คนใหญ่คนโตนักธุรกิจเซเลบและพวกคุณหญิงคุณนายที่เป็นพรรคพวกของคุณหญิงนฤมิตร อาหารขึ้นโต๊ะของงานก็เป็นอาหารฝรั่งเศสและอิตาเลียนพร้อมกับมีพนักงานคอยดูแลบริการทุกโต๊ะเป็นอย่างดี"พี่ขุนยังไม่มาอีกเหรอคะคุณหญิงป้า?"เสียงหวานใสที่ทำหน้าตาใสซื่ออย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวของนามิกาเดินยกชายกระโปรงชุดราตรียาวของตัวเองเดิน
เพราะเขาได้ประกาศกับเธออย่างชัดเจนแล้วว่า เขาไม่ต้องการหมั้นกับเธอ แต่สิ่งที่เธอกลัวมากที่สุด ก็คือขุนณรงค์จะมาแฉเธอและแม่ของเธอว่าเป็นคนรวยจอมปลอมน่ะสิที่คุณหญิงนฤมิตรยังคงจัดงานหมั้นต่อเพราะขุนณรงค์ยังไม่ได้มาบอกคุณหญิงแน่ๆเธอจึงใจชื้นขึ้นมา ไม่งั้นเธอกับแม่ของเธอตัองอับอายมากแน่ที่ครอบครัวของเธอกลายเป็นบุคคลล้มละลาย"อ้อเปล่าจ๊ะ....ตาขุนนี่น่ะก็แต่งตัวช้าซะเหลือเกินป้าว่าป้าไปตามหน่อยดีกว่า"คุณหญิงนฤมิตรหาข้ออ้างเพื่อจะไปโทรศัพท์หาขุนณรงค์อีกครั้งและทำให้นามิไม่ต้องสงสัยว่าขุนณรงค์ยังไม่มาที่งาน"อ้อได้ค่ะ....นามิว่าก็จะไปให้พี่ช่างแต่งหน้าเติมหน้าซะหน่อย""จ้างั้นเดี๋ยวถ้าตาขุนเสร็จแล้วป้าจะให้คนไปตามหนูนะจ๊ะ""ค่ะ"นามิกาพูดจบเธอก็ยิ้มหวานอย่างไร้เดียงสาให้คุณหญิงนฤมิตรก่อนจะหันหลังและเดินออกไปจากห้องนี้ เมื่อนามิกาไปแล้ว คุณหญิงนฤมิตรก็เดินออกมาจากห้องรับรองพร้อมกับกดโทรศัพท์เครื่องหรูของเธอโทรหาขุนณรงค์ไปด้วยแต่ก็เหมือนเดิม ไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้ เธอก้มหน้าก้มตาเดินไปตามทางเดินของชั้นนี้พร้อมกับยกโทรศัพท์แนบหูไปและบ่นไปตลอดทางจนกระทั่งเธอต้องหยุดชะงักฝีเท้าลงเมื่อเธอ
กลับปัจจุบัน บ้านเอริ15:30น.เอริ ฐิติมน.......ออดดดดดดดดด"ใครมากดกริ่งหน้าบ้านนะ?"ฉันเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย พร้อมกับหยุดการทำแซนวิชทูน่าของฉันลงและเดินเช็ดมือออกมาจากห้องครัวเพื่อจะเดินไปดูว่าใครกันที่มากดกริ่งหน้าบ้านฉัน"ป้าบัว?"ฉันพึมพำขึ้นเมื่อจอมอนิเตอร์ที่หน้าบ้านฉันกำลังฉายภาพหญิงสูงอายุที่คุ้นตาฉันเป็นผู้คนกริ่ง ฉันจึงกดปุ่มเปิดประตูให้คนที่อยู่นอกรั้วได้เข้ามาภายในตัวบ้านของฉันประตูรั้วหน้าบ้านสองบานของฉันค่อยๆเปิดออกพร้อมกับร่างท้วมที่แสนคุ้นตาฉันและอีกร่างหนึ่งที่เป็นบางร่างเธอที่การแต่งกายของเธอเหมือนกับสวมใส่ชุดของป้าบัวและยิ่งฉันเห็นหน้าเธอคนนั้นฉันชัดขึ้นฉันถึงกับอึ้งและตกใจ เพราะผู้หญิงที่เคยสวยสง่าบัดนี้ได้ดูทรุมโทรมจนน่าสงสาร ฉันยืนรอที่บันไดหน้าบ้านไม่นานป้าบัวและคุณหญิงนฤมิตรก็เดินมาถึงตรงหน้าฉัน"สวัสดีค่ะป้าบัว.....สวัสดีค่ะคุณหญิง"ฉันยกมือไหว้สวัสดีป้าบัวและหันไปยกมือไหว้สวัสดีคุณหญิงนฤมิตร แต่เธอไม่ได้ยกมือรับไหว้ฉัน เธอกลับมามองไปทางอื่นซึ่งฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรเลยหันกลับมาหาป้าบัวแทน"เข้าบ้านก่อนจ๊ะป้า""จ๊ะๆ.....เชิญค่ะคุณหญิง"ป้าบัวเอ่ยรับคำฉันและหันไปเอ่ยเ
"แล้วที่นี่ใครจะช่วยขุนศึกคะหรือเขาต้องติดคุกจริงๆ?"ฉันเอ่ยถามป้าบัวไปอย่างสงสัยป้าบัวก็จ้องหน้าฉันก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาอย่างวิตก"ตำรวจต้องสอบปากคำคุณขุนศึกอีกหลายวัน....ถึงเขาจะยอมรับผิดแทนแม่ของเขาไปแล้วแต่ถ้าไม่มีหลักฐานว่าคุณขุนศึกมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆเขาคงจะได้ประกันตัวมาสู้คดี"ป้าบัวเอ่ยออกมาก่อนจะยื่นมือมาจับมือฉันไปกุมไว้"เอริ.....ช่วยคุณขุนศึกด้วยนะ.....พรุ่งนี้ถ้าเขาให้ประกันตัวเอริไปเดินเรื่องให้ป้าทีนะ""ป้าพอจะมีเงินเก็บอยู่บ้าน...."ป้าบัวว่าพร้อมกับยื่นมือไปหยิบสมุดบัญชีธนาคารที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของท่านส่งมาให้ฉันฉันก็ทำสีหน้าลำบากใจก่อนจะยื่นมือไปรับสมุดบัญชีมาจากป้าบัวและเปิดดูยอดเงินในบัญชีก่อนจะพบว่า มีเงินในบัญชีอยู่ทั้งหมดสามแสนบาทฉันจึงเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าป้าบัวด้วยแววตาวิตก ป้าบัวก็จ้องมองหน้าฉันด้วยแววตาสั่นไหว"ทำไมเอริ?"ป้าบัวเอ่ยถามฉันด้วยสีหน้าร้อนรนใจ"เงินแค่นี้ประกันตัวขุนไม่ได้หรอกค่ะป้า.....คดีใหญ่แบบนี้เงินประกันต้องไม่ต่ำกว่าสิบล้าน"ฉันเอ่ยบอกป้าบัวไปตามความจริง ท่านเมื่อได้ยินคำพูดของฉันก็ถึงกับหน้าถอดสีถอยหลังจนเกือบจะล้ม แต่ฉันพุ
วันเดียวกัน17:30น.โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังห้องคุณหมอเอริ ฐิติมน......"ผลตรวจของคนไข้ออกแล้วนะครับ....."คุณหมอว่าเสียงอ่อนโยนก่อนจะยื่นกระดาษสี่เหลี่ยมมาให้ฉัน ฉันก็มองหน้าคุณหมอที่สีหน้าของเขาดูไม่สู้ดีนักก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกระดาษสี่เหลี่ยมตรงหน้าของฉันมาอ่านดู"คนไข้เส้นเลือดในสมองแตกเพราะเกิดจากความเครียด"เสียงของคุณหมอทำให้ฉันต้องเงยหน้าจากแผ่นกระดาษไปมองหน้าเขาก่อนจะเงยมองเหนือไปที่ศีรษะของหมอที่กำลังฉายสมองของคุณหญิงนฤมิตรให้ฉันดูอยู่ในจอสี่เหลี่ยมก่อนจะชี้จุดอธิบายให้ฉันฟัง"คาดว่าคนไข้น่าจะเครียดสะสมจนสมองรับไม่ไหวจนทำให้เส้นเลือดในสมองแตกผสมกับพักผ่อนไม่เพียงพอครับ""แล้วเราจะทำยังไงคะคุณหมอพอจะมีวิธีรักษาไหมคะ?"ฉันเอ่ยถามคุณหมอไปอย่างร้อนรนใจสีหน้าวิตกกังวล คุณหมอจึงคลี่ยิ้มบางๆให้ฉัน"มีครับแต่ผลข้างเคียงการจากผ่าตัดที่จะตามมาอาจทำให้คนไข้เป็นอัมพาตครึ่งตัวแต่ไม่ต้อวกังวลไปนะครับเพราะตรงนี้เราทำการบำบัดได้ครับ.....เพราะตำแหน่งของเส้นเลือดที่แตกมันไปทับจุดสำคัญอย่างการสั่งการของสมองครับ""แค่ถ้าเลือกไม่ผ่าตัด.....คนไข้อาจจะเสียชีวิตได้ครับ"คุณหมออธิบายต่อ ฉันก็พยักหน้าเข้
ฉันรอหน้าห้องผ่าตัดสองชั่วโมงเต็มๆคุณหมอก็ออกมารายงานผลว่าคุณหญิงปลอดภัย และส่วตัวเธอไปรักษาที่ห้อวพักฟื้นเรียบร้อยแล้ว ทั้งฉันและป้าบัวจึงพากันโล่งใจ "เอริกลับบ้านก็ได้น่ะเดี๋ยวป้าเฝ้าคุณหญิงเอง"ป้าบัวหันมาเอ่ยบอกฉันที่ยืนมองป้าบัวจัดการห่มผ้าห่มให้คุณหญิงที่นอนหลับอย่างไม่ได้สติอยู่บนเตียงคนไข้"ไม่เป็นไรค่ะ.....ริลางานไว้แล้ว....ริว่าคนที่ควรจะกลับไปพักผ่อนคือป้าบัวนะคะ"ฉันเอ่ยบอกป้าบัวไปพลางมองท่านด้วยสายตาห่วงใย ท่านก็คลี่ยิ้มให้ฉันอย่างภูมิใจ ฉันจึงมองหน้าท่านอย่างสงสัยว่าทำไมท่านถึงมองฉันด้วยสายตาแบบนั้น"ทำไมป้สบัวมองริแบบนั้นล่ะค่ะ?""ป้าดีใจนะที่เอริไม่ถือโทษโกรธคุณหญิงถึงแม้ท่านจะไม่เคยดีกับเราเลยสักครั้งแถมยังขัดขวางความรักของเรากับคุณขุนศึกอีก""ริเข้าใจค่ะว่าคุณหญิงท่านคงจะห่วงใยขุนศึกก็คงอยากจะให้ขุนสึกคู่ควรกับผู้หญิงที่คู่ควรกับเขาไม่ใช่ริที่เป็นเด็กกำพร้าไม่มีหัวนอนปลายเท้า"ฉันพูดไปตามความจริง ที่ออกมาจากใจแต่ฉันไม่ได้พูดเยาะเย้ยหรือถากถางตัวเองน่ะ แต่มันคือความจริงที่ติดตัวฉันมาตลอด ฉันควรจะเข้าใจไม่ใช่ไปน้อยใจกับมัน"เราเป็นคนดีจริงๆเอริ"ป้าบัวเอ่ยออกมาพร้อมกับน้ำ
"ยังมีอีกคน"แก้มหวานว่าพร้อมกับตบมือขึ้นสามครั้ง ฉันก็เงยหน้าไปมองเธอและก็มีผู้ชายผมเผ้ารกรุงรังหัวฟูสวมใส่เสื้อผ้าขาดๆเนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบอะไรไม่รู้สีดำฟันของมันดำทุกซี่ หน้าตาเป็นขี้กลากขี้เกลื้อนมันกำลังเดินมาหาฉันด้วยท่าทางที่เหมือนคนไม่เต็มเต็งอย่าบอกนะว่าเป็นคนสติไม่ดีเป็นคนบ้า"ผัวแกก็มีคนบ้าด้วย..ลูกแกต้องเกิดมาเป็นบ้าแน่เลยฮ่าๆๆๆๆๆ"แก้มหวานเอ่ยออกมาพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างสะใจฉันก็กำหมัดแน่นด้วยความคับแค้นใจ และโกรธเธอคนนี้คนที่ฉันไม่เคยคิดที่จะโกรธ แต่ครั้งนี้ฉันโกรธเธอและจะไม่มีวันให้อภัยเธอเด็ดขากเพราะเธอคิดไม่ดีกับลูกของฉัน ฉันไม่ยอม!!!!!"เจ๊ให้พวกผมก่อน.....ผมไม่อยากใช้ของต่อจากไอ้บ้านี้!!"ชายคนหนึ่งที่จับขาฉันยึดไว้หันไปบอกแก้มหวาน"ได้....ไอ้บ้าแกออกมาก่อน!!"แก้มหวานรับคำชายชุดดำก่อนจะหันไปเอ่ยบอกคนบ้า คนบ้าก็เหมือนจะพูดรู้เรื่องและมันก็หยุดอยู่กับที่"ให้พวกกูก่อน....เสร็จแล้วค่อยคิวมึง"ชายคนที่ถือเข็มฉีดยาเอ่ยขึ้น ตอนนี้มันนำยาไปไว้ในเข็มแล้วและมันก็ดันก้นสปริงออกมานิดหน่อยทำให้ตัวยาที่อยู่ด้านบนพุ่งออกมาเล็กน้อยก่อนที่มันจะเดินมาหาฉันพร้อมกับทำส
"เปล่าหรอก......ที่ผู้ชายเขาไม่เลือกเธอมันเป็นเพราะนิสัยของเธอมากกว่าล่ะแก้มหวาน""นิสัยของเธอ.....ลองมองย้อนดูกลับไปว่าอะไรที่เราสองคนไม่เหมือนกัน""นี่แกจะบอกว่านิสัยแกดีกว่าฉันเหรอ?"แก้มหวานกดเสียงต่ำจ้องฉันด้วยแววตาแข็งกร้าวกว่าเดิม เธอพร้อมที่จะประทุอารมณ์ใส่ฉันได้ทุกเมื่อ"ไม่ใช่.....ฉันแค่อยากจะบอกว่าบางทีทัศนคติหรือความชอบความคิดเห็นสองผู้ชายสองคนนั้นไม่ตรงกับเธอ""แต่มาตรงกับฉันมากกว่า"ฉันเอ่ยออกไปอย่างในความคิดฉันจริงๆแต่ดูเหมือนคำพูดของฉันจะทำให้แก้มหวานไม่พอใจฉันเพิ่มขึ้นไปอีกดูจากการจับเส้นผมของฉันดึงก็รู้ได้เพราะว่าเธอดึงมันแรงขึ้นจนฉันรู้สึกเจ็บจี๊ดไปที่ศีรษะนาทีนี้ฉันไม่ควรจะยั่วโมโหแก้มหวาน เพื่อความปลอดภัยของตัวฉันเองและลูกในท้องของฉัน"หึ.....เข้าข้างตัวเองจริงๆนะ.....ถ้าแกไม่ให้ท่าเควินเขาก็ไม่มีวันสนใจแกหรอก""เขาเชื่อฟังฉันและเอาใจฉันมาตลอดแต่พอมีเเกเข้ามายุ่มย่ามในชีวิตของเขา.....เขาก็เปลี่ยนไป""เขาทำตัวห่างเหินกับฉันไม่เหมือนเมื่อก่อน.....เควินชีวิตของเขาไม่เคยได้รู้จักผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษ....เขาเลยไม่รู้ว่าผู้หญิงน่ะมันตอแหล!!!""เหมือนเธอไงเอริ.....ทำตัวใ
ฉันก็มองจ้องเธอเขม่น แววตาสั่นไหวอย่างไม่ไว้ใจเธอ"แกมีผัวอยู่แล้วและยังจะมายุ่งกับผัวคนอื่นอีกทำไม!!"แก้มหวานตะโกนใส่หน้าฉันสีหน้าและแววตาของเธอที่จ้องมองมาที่ฉันเเปรเปลี่ยนไปเป็นแข็งกร้าวและไม่พอใจและเธอก็เอื้อมมือมาจับผมของฉันพร้อมกับออกแรงกระชากจนหน้าฉันหงายไปข้าง"โอ้ย!""เธอพูดเรื่องอะไรแก้มหวาน.....ฉันไม่เคยไปยุ่งกับสามีของใคร"ฉันเอ่ยบอกแก้มหวานไปพร้อมกับน้ำตาแอบเล็ดไปด้วยเพราะฉันรู้สีกเจ็บที่หนังศีรษะมาก เพราะแก้มหวานเธอดึงผมฉันแรงมากแรงเหมือนอยากจะดึงมันให้ขาดออกไปจากหนังศีรษะฉันฉันก็ใช้มือของตัวเองมั้งสองข้างมาจับมือของแก้มหวานที่จับผมฉันไว้ให้เธอปล่อยผมฉันแต่เธอก็ยิ่งกำมันและออกแรงดึงมันให้แรงขึ้นแรงขึ้นและแรงขึ้น"ยังจะมาตีหน้าซื่ออีกเหรอแกนี่มันมารยาสาไถยจริงๆ""ไม่เข้าใจว่าพวกผู้ชายชอบผู้หญิงแบบแกลงไปได้ยังไง"แก้มหวานเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงและแววตาดูถูกฉัน ฉันก็จ้องมองเธอด้วยความงุนงงว่าเธอพูดถึงใครกันและใครกันที่ฉันไปแย่งสามีเขามาเท่าที่ฉันจำได้ ฉันไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนไหนเลยนะ ไม่ว่าจะที่ทำงานหรือที่ไหน"แกแย่งผู้ชายที่ฉันรักไปทั้งสองคน......""และก็เป็นแกที่ท
"ไอ้จอม?"ผมหันไปทันทีที่ได้ยินเสียงที่ผมโคตรจะไม่อยากได้ยิน แต่ก็ต้องได้ยินเพราะพี่ชายต่างแม่ของผมกำลังยืนมองหน้าผมอยู่ด้วยสีหน้าแปลกใจ หน้าตามันโคตรกวนตีน ยิ่งเห็นหน้ามันยิ่งหงุดหงิด ยิ่งหงุดหงิดก็ยิ่งเกลียดมัน "มึงมาทำไม?"ผมถามมันไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบอย่างชัดเจนว่าผมไม่อยากเจอมัน "กูมาหาเอริ..."มันตอบผมมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆเช่นกันแต่หน้าตาโคตรกวนประสาท ผมเกลียดชี้หน้ามันชิบหาย เพราะมันพ่อถึงไม่เคยรักผม "แล้วมึงมาทำอะไรที่นี่หรือว่า....มึงอยู่กับริเหรอ?"มันถามผมมาพลางชี้มาที่ผมด้วยหน้าตาเหมือนหมาสงสัย "เอ่อกูกับริกำลังมีลูกด้วยกัน.....แค่นี้มึงก็ควรจะรู้ได้แล้วนะว่าเลิกยุ่งกับเมียกูสักที"ผมอ่ยบอกไอ้จอมไปเสียงเเข็ง มันก็มองมาที่ผมด้วยสายตาตกใจแต่แวบหนึ่งผมก็เห็นเหมือนสายตาเป็นประกายในดวงตาคู่สวยของมันแต่ผมไม่มั่นใจเพราะเห็นแค่กระพริบตาเดียวเท่านั้น ที่ผมพูดกันท่าแบบนี่ทั้งที่ผมเองก็รู้ตัวดีว่าผมไม่มีสิทธิ์แต่ผมไม่อยากให้เอริคบกับไอ้จอม เพราะไอ้จอมมันก็เจ้าชู้ไม่ต่างจากผม มันน่ะ......เปลี่ยนผู้หญิงบ่อยยิ่งกว่าผมเสียอีก ผมไม่อยากให้ริต้องกลับไปเจ็บแบบที่เคยเจ็บมาอีกแล้ว.....ผ
เธอก็บอกว่าจะไม่แก้แค้นอะไรผมอีกแล้ว แต่ขอสู้คดีให้ถึงที่สุด ถ้าผมแพ้ ผมก็ต้องยอมรับชะตากรรม เธอบอกว่าถือเสียว่าผมชดใช้กรรมให้เธอ ผมก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะผมมั่นใจว่าผมจะไม่แพ้คดีนี้แน่ ผมรีบเดินออกมาจากห้องและเดินไปยังห้องฝั่งตรงข้ามที่เป็นห้องของเควิน ที่ผมเองก็เพิ่งจะรู้ว่าคอนโดนี้เควินเป็นเจ้าของ โดยมันให้เอริอยู่ห้องมันฟรีๆดูก็รู้ว่ามันชอบเอริ และจ้องจะเคลมเธอและที่ผมรู้ไปกว่านั่นอีกคือเควินเป็นลูกชายของผู้ชายที่แก้มหวานแต่งงานด้วยออดดดดดดดดดดดดผมกดออดห้องของเควินอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีใครมาเปิดประตูให้ผมสักที สงสัยมันจะไม่อยู่จริงๆหรือมันจะออกไปกับเอริ"ขอให้แน่ใจหน่อยจะได้หมดห่วง"ผมพูดออกมาอย่างยอมรับชะตากรรมถ้าเอริจะชอบผู้ชายคนนี้ผมก็คงจะไม่มีสิทธิ์ไปขัดขวางอะไรเธอ เพราะผมกับเธอมีหน้าที่เป็นพ่อแม่ของลูกเท่านั้น ส่วนสถานะอย่างอื่นเราก็เป็นเพื่อนกันผมเดินเข้าลิฟต์ไปยังชั้นล่างและเดินมุ่งตรงไปยังเคาน์เตอร์ของประชาสัมพันธ์ที่มีไว้ต้อนรับลูกค้าและดูแลคนที่อยู่ในคอนโคนี้"ผมขอเบอร์คุณเควินหน่อยได้ไหมครับ""พอดีผมมีเรื่องจะคุยกับเขาน่ะครับ"ผมเอ่ยบอกพนักงานผู้หญิงที่ทำหน้าที่ประ
คอนโดเควินห้องของเอริ19:00น.ขุนศึก ขุนณรงค์...."ริไปไหนเหรอครับป้าบัว....มืดแล้วยังไม่เห็นกลับมาเลย?"ผมเอ่ยถามป้าบัวไปในขณะที่ท่านกำลังเก็บจานข้าวที่ผมเพิ่งกินเสร็จอยู่ที่จริงผมนั่งชะเง้อคอมองเอริมาตั้งแต่ที่เห็นเธอแต่งตัวออกไปตั้งแต่ตอนห้าโมงเย็นแล้ว กะว่าเธอไปแค่แปปเดียวก็คงจะกลับเพราะไม่เห็นเธอบอกผมว่าเธอจะไปไหน"เห็นว่าออกไปหาเพื่อนนะคะ....คุณขุนศึกมีอะไรหรือเปล่าคะ?""อ้อเปล่าครับ.....ผมเห็นว่ามันเริ่มมืดแล้ว....."ผมเอ่ยบอกป้าบัวไปอย่างเป็นห่วงสีหน้าเป็นกังวลขึ้นมาเพราะเอริเป็นผู้หญิงและกำลังท้องอยู่ด้วยไม่น่าจะออกไปข้างนอกคนเดียวแบบนี้นะหรือว่าเธอจะออกไปหาเพลงขวัญ"ลองโทรหาดูไหมคะ.....""เดี๋ยวผมโทรเองครับป้า....ขอบคุณมากนะครับ""โอเคค่ะงั้นป้าขอตัวไปดูคุณหญิงก่อนนะคะ""ครับป้า.....เดี๋ยวผมรอริสักพักก็จะเข้าไปดูคุณแม่นะครับ""ค่ะ.....เดี๋ยวป้านอนเฝ้าคุณหญิงเองค่ะ....คุณขุนศึกไปนอนพักผ่อนเถอะค่ะ""ครับ....ขอบคุณมากนะครับ"ผมเอ่ยบอกป้าบัวไปอย่างซาบซึ้งใจที่ท่านดีกับผมและคุณแม่ของผมจากใจจริงท่านไม่คิดที่จะทอดทิ้งผมและคุณแม่......ในความโชคร้ายของผมก็ถือว่ายังมีโชคดีอยู่บ้างที
"กะจะเผาทั้งเป็นแม่ของขุนศึกเลยนะ""เธอร้ายกาจมากมากจนฉันอยากรู้ว่าแก้มหวานแค้นอะไรขุนศึกมากมายขนาดที่จะฆ่าจะแกงกันได้"นามิเอ่ยออกมาอย่างไม่เข้าใจและอยากรู้มากๆ"ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราทั้งสามคนในเมื่อก่อนมันจะเป็นต้นเรื่องที่ทำให้แก้มหวานแค้นฉันขนาดนี้ไหม"ฉันเอ่ยออกไปเสียงแผ่วเบามันถึงเวลาแล้ว ที่ฉันจะต้องไปเผชิญหน้าและถามแก้มหวานตรงๆว่าสิ่งที่เธอทำงไปในตอนนี้ เพราะอยากจะเอาคืนขุนศึกที่เขาทำกับเธอตอนที่เธอเรียนอยู่มหาลัยใช่ไหมเพราะสิ่งที่ขุนศึกไม่ตั้งใจในคราวนั้นแต่กลับทำให้คนที่ถูกกระทำเครียดแค้นเอาเป็นเอาตายขนาดนี้"ฉันขอตัวก่อน"ฉันเอ่ยขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูงนามิก็ลุกขึ้นพรวดพราดตามฉันมาทันทีด้วยความตื่นตกใจ"เธอจะไปไหนไม่เอาหลักฐานแล้วหรือไง""ไม่แล้วล่ะ....ฉันไม่ต้องการมันแล้ว"ฉันเอ่ยบอกนามิไปก่อนจะหยิบกระเป๋าเงินและจำ้อ้าวเดินออกมาจากร้านอาหารนี้อย่างไวตอลดทางเดินฉันหยิบโทรศัพท์ไอโฟนเครื่องแพงของตัวเองขึ้นมากดดูบันทึกรายการบันทึกเสียงฉึก"โอ้ย!!"ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจและความเจ็บปวดที่แล่นแวบเข้ามาที่ก้านคอของฉันฉันจึงรีบเอามือไปคลำดูก็พ
"ฉันเลยเตรียมของมาให้เธอได้พิสูจน์....ว่าฉันไม่โกงเธออย่างแน่นอน"ฉันก็มองหน้านามิอย่างจ้องเขม็งและสงสัยในสิ่งที่เธอพูด เธอเตรียมอะไรมาให้ฉันพิสูจน์"ในรถฉันมีโน้ตบุ๊กอยู่....เธอจะไปดูมันกับฉันไหมล่ะ?"นามิเอ่ยถามฉันมา ฉันก็จ้องเธออย่างไม่วางใจ"ฉันเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆจะไปทำอะไรเธอได้.....?"เธอก็เอ่ยออกมาเสียงใสอย่างรู้ทันความคิดของฉัน"ในนั้นมีหลักฐานทั้งหมดจริงๆใช่ไหม?"ฉันเอ่ยถามนามิไป เธอก็ยกยิ้มที่มุมปากขึ้นอย่างคนที่เหนือกว่าก่อนจะพยักหน้าเป็นคำตอบให้ฉัน"หลักฐานที่แก้มหวานโกงบริษัทของคุณหญิงนฤมิตรจนทำให้ทั้งคุณหญิงและขุนศึกต้องถูกกล่าวหาว่าเป็นคนคดโกง""ใช่...."นามิตอบมาเสียงดังฟังชัด ฉันก็ทำหน้านิ่งเฉยและเอ่ยถามเธอต่อไป"แก้มหวานเป็นคนอยู่เบื้องหลังแผนการทั้งหมด......ทั้งเรื่องที่โยนความผิดว่าคุณหญิงนฤมิตรฟอกเงินที่ผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน""เป็นคนต้นคิดการเทรดเงิน....โดยใช้การเทรดเงินเป็นเบื้องหน้าให้คุณหญิงนฤมิตรตายใจและให้คุณหญิงเปิดบัญชีเป็นชื่อของท่านเพียงคนเดียวและนำเงินที่ฟอกมาทั้งหมดโอนใส่ไปในบัญชีของคุณหญิง"นามิเอ่ยออกมา ฉันก็จ้องมองหน้าเธอด้วยท่าทางนิ่งเฉย ฉันต้องทำ
"เธอเป็นใคร"ฉันเอ่ยถามปลายสายที่เป็นเสียงผู้หญิงออกไปน้ำเสียงของปลายสายฟังดูคุ้นหูฉันมาก (นามิเอง....) "นามิ....เธอมีอะไรกับฉัน" (ฉันมีเรื่องเกี่ยวกับขุนศึกอยากปรึกษาเธอ) "เรื่องอะไร?" (หลักฐานทั้งหมดเกี่ยวกับคดีที่ขุนศึกเจออยู่ในตอนนี้.....ถ้าได้หลักฐานอันนี้ไปเขาพ้นคดีแน่) "แล้วเธอไปเอามาจากไหน?"ฉันเอ่ยถามนามิไป ในใจฉันสงสัยและไม่เข้าใจเธอว่าเธอจะช่วยขุนศึกทำไม ในเมื่อก่อนหน้านี้เรื่องของสองคนนี้จบกันไม่ดีเท่าไหร่ อาจจะมองหน้ากันไม่ติดถึงขั้นเกลียดขี้หน้ากันเลยก็ได้ (ฉันโดนนังแก้มหวานหักหลัง....มันเป็นคนต้นเรื่องทั้งหมด) (ฉันพูดจริงๆเอริ....ตอนนี้ฉันกับแม่กำลังเดือดร้อน....ฉันขอขายหลักฐานของขุนศึกให้เธอในราคาสิบล้านก็ได้) (ฉันกับแม่จะใช้เงินก้อนนี้เป็นก้อนหลบหนีนังแก้มหวาน) (มันราวีชีวิตของฉันกับแม่ไม่เลิกนะเอรินะ) (นังแก้มหวานมันสั่งให้ฉันเข้าไปตีสนิทก้บขุนศึกมันอยู่เบื้องหลังทุกอย่างทั้งเรื่องที่คุณหญิงโดนฟ้องว่าฟอกเงิน....การเทรดหุ้นที่ไม่เอาเงินไปเทรดแต่เอาไปใช้เอง....ตลาดหุ้นที่ผิดกฏหมาย) (นังแก้มหวานมันเป็นคนวางแผน....ฉันมีคลิปวิดีโอในการคุยของฉันกับมันในตอนที่มัน