คอนโดเควินเช้าวันต่อมา"ป้าแหม่มคะ?"ฉันเอ่ยเรียกชื่อของป้าแหม่มคนที่คุณเควินส่งให้มาดูแลฉันอย่างสงสัยว่าตอนนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่ในห้องครัว"นั่งรอที่โต๊ะอาหารได้เลยนะคะคุณเอริ^_^"ป้าแหม่มหันจากหน้าเคาน์เตอร์ครัวหันมาบอกฉันที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องครัว ฉันก็ยิ้มแหยๆอย่างเกรงใจเธอและเกรงใจคุณเควิน แต่ฉันก็ไม่มีสิทธิ์เลือกมากนักจึงเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ในห้องอาหารที่น่าจะจัดเตรียมไว้ให้คนได้มานั่งกินห้องของคุณเควินค่อนข้างหรูหรา เฟอร์นิเจอร์ก็ดูแพงเหลือเกิน คอนโดห้องนี้มีของเครื่องใช้ครบครันเรียกว่า เพนท์เฮ้าส์เลยก็ว่าได้เพราะมันหรูและใหญ่มากจริงๆ เมื่อคืนนี้ฉันนอนหลับสบายมากเลยล่ะ เอ่อฉันลืมบอกไปว่าห้องคอนโดนี้มีสองห้องนอนเมื่อคืนนี้ป้าแหม่มนอนอีกห้องนอนหนึ่ง ซึ่งเธอดูแลฉันดีมากหายาให้ฉันกิน แถมยังทำแผลให้ฉันอีกตั้งหาก "เจ็บเหมือนกันแหะ"ฉันพูดออกเมื่อเอามือมาจับที่แก้มทั้งสองข้างของตัวเองที่มันบวมและแดงจากการโดนตบเมื่อคืนนี้ เมื่อคืนนี้ยังไม่เจ็บเท่าไหร่ เพราะมันยังชาอยู่ แต่พอเช้านี้ทั้งเจ็บทั้งปวดเลย ปากก็ปวดแสบระบมไปหมดพรึบ"ข้าวต้มหมูร้อนๆมาแล้วค่ะ"เสียงป้าแหม่มเอ่ยออกมาเสียงใสพร
ฉันคิดว่าวันนี้คงจะไม่เจอขุนศึกแน่เพราะพรุ่งนี้ก็จะถึงวันหมั้นของเขากับนามิแล้ว เขาคงไม่มีเวลามายุ่งกับฉันหรอก"คุณจะไปไหนคะ?"ป้าแหม่มที่เธอเดินถือเครื่องดูดฝุ่นออกมาจากห้องนอนที่ฉันนอนเมื่อคืนก็เอ่ยถามฉันขึ้นด้วยความสงสัยที่เธอเห็นว่าฉันกำลังจะออกไปจากห้องนี้"หนูจะกลับไปเอาของที่บ้านนะคะ""และคุณจะกลับมาตอนไหนคะ?""น่าจะไม่เย็นมากค่ะป้า""อ้อคะป้าจะได้บอกคุณเควินถูก""ค่ะป้า....."ฉันพยักหน้ารับรู้คำป้าก่อนจะหันหลังเตรียมจะเดินออกไปยังห้องรับแขกแต่แล้วฉันก็นึกคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงหันกลับไปหาป้าแหม่มอีกครั้งเพื่อจะถามอะไรเธอสักหน่อย"เอ่อป้าคะ?""คะ?""ห้องอีกฝั่งมีคนมาอยู่ไหมคะ?"ฉันถามป้าพร้อมกับยกนิ้วชี้ไปยังห้องที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องที่ฉันอยู่"ก็คุณเควินไงคะ.....เมื่อคืนคุณเควินก็พักที่ห้องนั้นแหละค่ะและดูเหมือนคุณเควินจะมาอยู่ที่นี่ถาวรเลยนะคะ"คำพูดที่ไร้เดียงสาของป้าทำให้ฉันตื่นตกตะลึง หมายความว่าสองห้องนี้เป็นของเขาและเขาก็อยู่ห้องนั้นและไม่ได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านตามที่เขาบอกฉันสินะ"เขาเป็นเจ้าของคอนโดนี้ค่ะคุณ""เป็นเจ้าของคอนโดด้วยหรือคะ?"ฉันเอ่ยออกไปอย่างตกตะลึงพร้อมกับเบิกต
วันต่อมาบ้านเอริ เอริ ฐิติมน......16:30น.พรึบติ๋งฉันวางแก้วน้ำลงตรงถาดวางแก้วและรีบมาดูการแจ้งเตือนอีเมลที่เพิ่งจะถูกส่งมาในไอแพดของฉันทันที เพราะฉันดูซีรีย์ค้างไว้นะ และเกิดหิวน้ำเลยเดินไปหยิบน้ำในครัวมาดื่มแต่แล้วก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนอีเมลพอดีฉันจึงไม่รอช้ารีบเปิดอีเมลเช็คดูทันทีว่าใครส่งมาและก็เป็นไปอย่างที่ฉันคาดหวังไว้ ทำให้ฉันอมยิ้มขึ้นมาเมื่อได้อ่านข้อความจากอีเมลของบริษัทเบสท์เวิร์คแอร์ไลน์สายการบินของประเทศที่จะออกบินไปหลายประเทศมันคือข้อความที่ฉันเฝ้าคอยมา เขาบอกว่าฉันได้ทำงานที่สายการบินเบสท์เวิร์คแอร์ไลน์เรียบร้อยแล้ว อีกสองวันให้เข้าไปรายงานตัว"เย้^_^"ฉันร้องเย้ขึ้นมาอย่างดีใจพร้อมกับลุกขึ้นยืนกระโดดโลดเต้นไปมารอบๆโซฟาตัวแพงกลางห้องนั่งเล่น อย่างนี้ต้องฉลองซะหน่อยแล้วฉันกลับมาอยู่บ้านที่ขุนศึกซื้อให้ และกะว่าจะไม่ไปอยู่ที่คอนโดของคุณเควินอีกแล้ว ไม่ใช่ว่าฉันรังเกียจเขาหรืออะไรหรอกนะ แต่ฉันอยากจะหยุดความสัมพันธ์ของเราสองคนไว้เพียงแค่นี้ ฉันไม่อยากทำลายคนดีๆอย่างคุณเควิน เพราะต่อให้เขาทำดีกับฉันแค่ไหน ฉันก็รู้หัวใจตัวเองดี ว่าฉันไม่สามารถที่จะรักเขาได้ และมันก็ไ
"ก๋วยเตี๋ยวมาแล้วจ้า .....เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นแฟนแม่หนูมากินด้วยเลยนะ"คุณลุงเป็นคนยกชามก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟให้ฉัน และก็เอ่ยถามหาแฟนฉัน แฟนฉันที่คุณลุงหมายถึงก็คือขุนศึก เรามักจะมากินก๋วยเตี๋ยวเป็ดที่นี่ด้วยกันเป็นประจำ เพราะมันคือของโปรดฉัน"เขาไม่ค่อยว่างค่ะ.....ขอบคุณนะคะคุณลุง"ฉันตอบคุณลุงไปและเอ่ยขอบคุณคุณลุงที่ยกก๋วยเตี๋ยวมาให้ฉัน คุณลุงก็พยักหน้ารับรู้และไม่ได้ถามอะไรฉันต่อ แกก็ยิ้มบางๆให้ฉันและเดินกลับไปหาคุณป้า ฉันก็หันกลับมามองก๋วยเตี๋ยวชามตรงหน้าของฉันต่อพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปมองที่นั่งฝั่งตรงข้ามของฉันก่อนจะเห็นภาพของขุนศึกซ้อนขึ้นมา เขาที่ไม่ชอบกินถั่วงอกก็จะตักถั่วงอกมาใส่ในชามฉัน และฉันไม่ชอบกินผักบุ้งก็จะตักไปใส่ชามเขาเช่นกัน เรากินกันไปหัวเราะกันไปเรากินที่ร้านนี้ตั้งเเต่เรียนมหาลัยจนทำงานเราก็ยังคงหาเวลามากินเมื่อมีโอกาส เลยทำให้คุณลุงกับคุณป้าจำเราสองคนได้แม่น"ทำไม......ทุกที่ถึงมีแต่ภาพของนาย......?"ฉันพึมพำออกไปก่อนจะส่ายศีรษะไปมาและไล่น้ำตาที่เอ่อคลอที่รอบดวงตาทั้งสองข้างของฉันให้มันไหลย้อนกลับเข้าไปก่อนจะเริ่มปรุงก๋วยเตี๋ยวตามใจชอบและรีบกินมันจนฉันใช้เวลาแค่สิบนา
สามวันต่อมา20:30น.เอริ ฐิติมน........สนามบินเบสท์เวิร์คแอร์ไลน์....."วันนี้น้องเอริทำได้ดีมากนะคะ....ทั้งภาษากิริยาและการบริการถือว่าเป็นระดับมือโปรได้เลย^_^"พี่ฝนเอ่ยชมฉันพร้อมกับยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ฉัน ฉันที่เดินมายืนข้างๆเธอก็อมยิ้มรับคำชมจากเธอ"เป็นเพราะได้พี่ฝนเทรนให้ริมากกว่าค่ะ.....ขอบคุณนะคะที่สอนงานให้ริ"ฉันเอ่ยขอบคุณพี่ฝนไป เธอก็ยิ้มแก้มปริ พี่ฝนคือหัวหน้าแอร์โฮสเตสของฉัน ซึ่งเธอเป็นคนสอนงานให้ฉันว่าฉันต้องทำอะไรบ้าง และชี้แจงรายละเอียดต่างๆให้ฉันฟังซึ่งฉันก็เข้าใจเร็วและจดจำได้ในครั้งเดียวที่เธอสอน และวันนี้ก็เป็นวันแรกที่ฉันได้ลองบินและบริการลูกค้าจริงๆ ถึงจะเป็นระยะทางสั้นๆก็เถอะ ฉันได้เข้ามาสัมภาษณ์งานและอีกสองวันถัดมาก็ได้เข้าทำงานเลย ซึ่งฉันก็แอบแปลกใจอยู่ว่าทำไม ถึงไม่ให้ฉันเป็นแอร์ฝึกหัดไปก่อนแต่ทำไมกลับให้ฉันบินไฟลท์จริงเลย"น้องเอริก็ชมพี่เกินไปจ๊ะ....."พี่ฝนว่าพร้อมกับบิดตัวไปมาอย่างเขินอาย ฉันก็ยิ้มบางๆให้เธอ ฉันพูดออกไปจากใจจริงไม่ได้จะประจบประแจงเธอหรอกนะเธอเป็นคนสอนงานให้ฉันและอธิบายให้ฉันอย่างเข้าใจง่ายและฉันเองก็เป็นคนที่หัวไวอยู่แล้วด้วยฉันว่างาน แ
"ก็ใช่น่ะสิ.....ไม่งั้นนางจะได้เข้าไฟลท์บินเร็วขนาดนี้ได้ไง...ทีคราวฉันนะกว่าจะได้บินจริงก็ต้องไปฝึกหัดในที่จำลองอยู่เป็นเดือนๆ""ใช่ๆๆฉันก็เหมือนกันและดูตารางการบินของนางสิมีแทบจะทุกวันอ่ะ""เห็นว่าฐานเงินเดือนของนางก็ห้าหมื่นอัพนะยะ""ว๊ายได้เยอะจริง.....กว่าฉันจะได้ขนาดนั้นก็ทำงานเข้าปีที่สองพอดี""แค่นั้นยังไม่พอพวกสจ๊วตและโคไพลอตก็ต่างพากันชอบนางน่ะแต่พอรู้ว่านางเป็นแฟนของท่านประธานก็ต่างพากันถอนตัวกันเพียบเพราะกลัวตกงาน""ว๊ายจริงเหรองั้นก็ดีสิฉันจะได้ไม่ต้องไปเป็นศัตรูกับนางไม่ต้องไปแย่งสจ๊วตและโคไพรอตหล่อๆน่ะ""ฉันก็ว่าอย่างงั้นเพราะอย่างเราคงไม่มีบุญวาสนาได้อยู่ในสายตาของท่านประธานหรอก"ฉันที่นั่งอยู่บนฝารองนั่งชักโครกเพื่อฟังบทสนทนาของพวกเธอจนจบ ฉันก็ลุกขึ้นยืนหลังจากที่ได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงของคนสองคนเดินออกไปแล้ว "เป็นแฟนกับท่านประธานเหรอ?.....ข่าวนี่ก็มั่วดีเหมือนกันนะไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ไม่พ้นคนนินทาสินะ"ฉันพึมพำกับตัวเองพลางก้มหน้าล้างมือไปด้วยและไหวไหล่เล็กน้อยอย่างไม่ใส่ใจเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริงอย่างที่พวกเธอเม้าท์มอยเรื่องฉันสักหน่อย เพราะฟังจากการที่เธอบอกรูปร่า
"เธอเอาน้ำอะไร?""ขอเป็นลาเต้เย็นก็ได้"ฉันเอ่ยบอกฟิวไป ฟิวก็พยักหน้ารับรู้ก่อนจะหันไปสั่งพนักงานที่ยืนรอรับออร์เดอร์โต๊ะเราอยู่ ตอนนี้ฉันกับฟิวเราเข้ามานั่งในคาเฟ่แล้วและเราก็เลือกมุมที่อับที่สุดและมุมที่เงียบที่สุดด้วย ซึ่งฉันไม่ใช่คนเลือกนะแต่เป็นฟิวเองที่เลือกฉันก็นั่งมองหน้าฟิวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของฉันอย่างสงสัยและนึกคิดในใจไปต่างๆนาๆจนเหมือนฟิวจะรู้ตัวว่าโดนฉันจ้องอยู่ เขาจึงหันมามองหน้าฉัน และเป็นจังหวะเดียวกับที่พนักงานรับออร์เดอร์เดินกลับไปยังเคาน์เตอร์พอดีสีหน้าที่ฟิวมองฉันมันเต็มไปด้วยความกังวลใจและไม่สบายใจเป็นอย่างมาก สีหน้าที่เคยสดใสของฟิวก็ดูเหมือนคนที่อมทุกข์คิดอะไรอยู่ตลอดเวลา"เธอ.....จำผู้หญิงที่ชื่อแก้มหวานได้ไหม?"ฟิวเอ่ยเปิดประเด็นขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจังและลุ้นกับคำตอบจากฉัน ฉันก็มองหน้าฟิวกลับไปด้วยสายตาจริงจังเช่นกัน เพราะฉันจำเธอคนนี้ได้ไม่เคยลืม"ได้สิ......น้องดาวมหาลัยที่มีคลิปหลุดกับพวกนาย?"ฉันเอ่ยตรงจุดไปเพราะฉันมักจะพูดตรงๆกับฟิวอยู่แล้ว ฟิวเมื่อได้ยินคำตอบจากฉันสีหน้าเขาดูเป็นกังวลหนักกว่าเดิม สีหน้าของเขาดูเครียดมากและวิตกมากเลยนะ"ฉันว่า...เธอกล
"จนกระทั่งตำรวจเข้ามาหาพ่อฉันที่บริษัทและแจ้งข้อหาให้พ่อฉันได้รับรู้.....พ่อถูกจับโดยไม่ได้แตะเงินผิดกฎหมายนั่นเลยสักบาท....""แถมยังต้องมาล้มละลายและหมดตัวอย่างไม่ทันตั้งตัว""และหุ้นส่วนคนนั้นล่ะ?"ฉันเอ่ยถามฟิวไปอย่างสงสัยและลุ้นกับเรื่องของเขาพร้อมกับสงสารและเห็นใจฟิวไปด้วย แล้วขุนศึกรู้เรื่องนี้หรือยัง?"หุ้นส่วนคนนั้นมีแค่รูปร่างหน้าตาแต่ไม่มีตัวตน....ชื่อที่เขาใช้ก็เป็นชื่อปลอมเอกสารปลอมและเขาก็หายตัวไปอย่างลึกลับ.....จนตอนนี้ก็ไม่มีใครหาเขาเจอ""เขาตั้งใจเข้ามาหลอกพ่อนายเหรอ?"ฉันถามฟิวไปอย่างสงสัย ฟิวก็จ้องหน้าฉันนิ่ง แววตาสั่นไหวอย่างคนที่เสียใจและรู้สึกผิดมาก"ตอนแรกฉันก็ยังปะติดปะต่อเรื่องไม่ถูกเท่าไหร่.....จนกระทั่งผู้หญิงที่ชื่อแก้มหวานปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีกครั้ง""มันทำให้ฉันรู้และแน่ใจได้ในทันทีว่าเรื่องบัดซบที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของฉันทั้งหมดมันก็เพราะเธอคนนี้นี่แหละ""เธอกลับมาแก้แค้นทุกคนที่ทำลายชีวิตเธอ.....รวมไปถึงไอ้ขุนเองก็ด้วย""ฉันว่าฉันเจอหนักกว่ามันแล้วนะ.....แต่สู้มันไม่ได้เลย""หมายความว่ายังไงฟิว?"ฉันเอ่ยถามฟิวไปอย่างร้อนรนใจ พอฟิวพูดเรื่องขุนศึกทำให้ฉันกลั
"ยังมีอีกคน"แก้มหวานว่าพร้อมกับตบมือขึ้นสามครั้ง ฉันก็เงยหน้าไปมองเธอและก็มีผู้ชายผมเผ้ารกรุงรังหัวฟูสวมใส่เสื้อผ้าขาดๆเนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบอะไรไม่รู้สีดำฟันของมันดำทุกซี่ หน้าตาเป็นขี้กลากขี้เกลื้อนมันกำลังเดินมาหาฉันด้วยท่าทางที่เหมือนคนไม่เต็มเต็งอย่าบอกนะว่าเป็นคนสติไม่ดีเป็นคนบ้า"ผัวแกก็มีคนบ้าด้วย..ลูกแกต้องเกิดมาเป็นบ้าแน่เลยฮ่าๆๆๆๆๆ"แก้มหวานเอ่ยออกมาพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างสะใจฉันก็กำหมัดแน่นด้วยความคับแค้นใจ และโกรธเธอคนนี้คนที่ฉันไม่เคยคิดที่จะโกรธ แต่ครั้งนี้ฉันโกรธเธอและจะไม่มีวันให้อภัยเธอเด็ดขากเพราะเธอคิดไม่ดีกับลูกของฉัน ฉันไม่ยอม!!!!!"เจ๊ให้พวกผมก่อน.....ผมไม่อยากใช้ของต่อจากไอ้บ้านี้!!"ชายคนหนึ่งที่จับขาฉันยึดไว้หันไปบอกแก้มหวาน"ได้....ไอ้บ้าแกออกมาก่อน!!"แก้มหวานรับคำชายชุดดำก่อนจะหันไปเอ่ยบอกคนบ้า คนบ้าก็เหมือนจะพูดรู้เรื่องและมันก็หยุดอยู่กับที่"ให้พวกกูก่อน....เสร็จแล้วค่อยคิวมึง"ชายคนที่ถือเข็มฉีดยาเอ่ยขึ้น ตอนนี้มันนำยาไปไว้ในเข็มแล้วและมันก็ดันก้นสปริงออกมานิดหน่อยทำให้ตัวยาที่อยู่ด้านบนพุ่งออกมาเล็กน้อยก่อนที่มันจะเดินมาหาฉันพร้อมกับทำส
"เปล่าหรอก......ที่ผู้ชายเขาไม่เลือกเธอมันเป็นเพราะนิสัยของเธอมากกว่าล่ะแก้มหวาน""นิสัยของเธอ.....ลองมองย้อนดูกลับไปว่าอะไรที่เราสองคนไม่เหมือนกัน""นี่แกจะบอกว่านิสัยแกดีกว่าฉันเหรอ?"แก้มหวานกดเสียงต่ำจ้องฉันด้วยแววตาแข็งกร้าวกว่าเดิม เธอพร้อมที่จะประทุอารมณ์ใส่ฉันได้ทุกเมื่อ"ไม่ใช่.....ฉันแค่อยากจะบอกว่าบางทีทัศนคติหรือความชอบความคิดเห็นสองผู้ชายสองคนนั้นไม่ตรงกับเธอ""แต่มาตรงกับฉันมากกว่า"ฉันเอ่ยออกไปอย่างในความคิดฉันจริงๆแต่ดูเหมือนคำพูดของฉันจะทำให้แก้มหวานไม่พอใจฉันเพิ่มขึ้นไปอีกดูจากการจับเส้นผมของฉันดึงก็รู้ได้เพราะว่าเธอดึงมันแรงขึ้นจนฉันรู้สึกเจ็บจี๊ดไปที่ศีรษะนาทีนี้ฉันไม่ควรจะยั่วโมโหแก้มหวาน เพื่อความปลอดภัยของตัวฉันเองและลูกในท้องของฉัน"หึ.....เข้าข้างตัวเองจริงๆนะ.....ถ้าแกไม่ให้ท่าเควินเขาก็ไม่มีวันสนใจแกหรอก""เขาเชื่อฟังฉันและเอาใจฉันมาตลอดแต่พอมีเเกเข้ามายุ่มย่ามในชีวิตของเขา.....เขาก็เปลี่ยนไป""เขาทำตัวห่างเหินกับฉันไม่เหมือนเมื่อก่อน.....เควินชีวิตของเขาไม่เคยได้รู้จักผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษ....เขาเลยไม่รู้ว่าผู้หญิงน่ะมันตอแหล!!!""เหมือนเธอไงเอริ.....ทำตัวใ
ฉันก็มองจ้องเธอเขม่น แววตาสั่นไหวอย่างไม่ไว้ใจเธอ"แกมีผัวอยู่แล้วและยังจะมายุ่งกับผัวคนอื่นอีกทำไม!!"แก้มหวานตะโกนใส่หน้าฉันสีหน้าและแววตาของเธอที่จ้องมองมาที่ฉันเเปรเปลี่ยนไปเป็นแข็งกร้าวและไม่พอใจและเธอก็เอื้อมมือมาจับผมของฉันพร้อมกับออกแรงกระชากจนหน้าฉันหงายไปข้าง"โอ้ย!""เธอพูดเรื่องอะไรแก้มหวาน.....ฉันไม่เคยไปยุ่งกับสามีของใคร"ฉันเอ่ยบอกแก้มหวานไปพร้อมกับน้ำตาแอบเล็ดไปด้วยเพราะฉันรู้สีกเจ็บที่หนังศีรษะมาก เพราะแก้มหวานเธอดึงผมฉันแรงมากแรงเหมือนอยากจะดึงมันให้ขาดออกไปจากหนังศีรษะฉันฉันก็ใช้มือของตัวเองมั้งสองข้างมาจับมือของแก้มหวานที่จับผมฉันไว้ให้เธอปล่อยผมฉันแต่เธอก็ยิ่งกำมันและออกแรงดึงมันให้แรงขึ้นแรงขึ้นและแรงขึ้น"ยังจะมาตีหน้าซื่ออีกเหรอแกนี่มันมารยาสาไถยจริงๆ""ไม่เข้าใจว่าพวกผู้ชายชอบผู้หญิงแบบแกลงไปได้ยังไง"แก้มหวานเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงและแววตาดูถูกฉัน ฉันก็จ้องมองเธอด้วยความงุนงงว่าเธอพูดถึงใครกันและใครกันที่ฉันไปแย่งสามีเขามาเท่าที่ฉันจำได้ ฉันไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนไหนเลยนะ ไม่ว่าจะที่ทำงานหรือที่ไหน"แกแย่งผู้ชายที่ฉันรักไปทั้งสองคน......""และก็เป็นแกที่ท
"ไอ้จอม?"ผมหันไปทันทีที่ได้ยินเสียงที่ผมโคตรจะไม่อยากได้ยิน แต่ก็ต้องได้ยินเพราะพี่ชายต่างแม่ของผมกำลังยืนมองหน้าผมอยู่ด้วยสีหน้าแปลกใจ หน้าตามันโคตรกวนตีน ยิ่งเห็นหน้ามันยิ่งหงุดหงิด ยิ่งหงุดหงิดก็ยิ่งเกลียดมัน "มึงมาทำไม?"ผมถามมันไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบอย่างชัดเจนว่าผมไม่อยากเจอมัน "กูมาหาเอริ..."มันตอบผมมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆเช่นกันแต่หน้าตาโคตรกวนประสาท ผมเกลียดชี้หน้ามันชิบหาย เพราะมันพ่อถึงไม่เคยรักผม "แล้วมึงมาทำอะไรที่นี่หรือว่า....มึงอยู่กับริเหรอ?"มันถามผมมาพลางชี้มาที่ผมด้วยหน้าตาเหมือนหมาสงสัย "เอ่อกูกับริกำลังมีลูกด้วยกัน.....แค่นี้มึงก็ควรจะรู้ได้แล้วนะว่าเลิกยุ่งกับเมียกูสักที"ผมอ่ยบอกไอ้จอมไปเสียงเเข็ง มันก็มองมาที่ผมด้วยสายตาตกใจแต่แวบหนึ่งผมก็เห็นเหมือนสายตาเป็นประกายในดวงตาคู่สวยของมันแต่ผมไม่มั่นใจเพราะเห็นแค่กระพริบตาเดียวเท่านั้น ที่ผมพูดกันท่าแบบนี่ทั้งที่ผมเองก็รู้ตัวดีว่าผมไม่มีสิทธิ์แต่ผมไม่อยากให้เอริคบกับไอ้จอม เพราะไอ้จอมมันก็เจ้าชู้ไม่ต่างจากผม มันน่ะ......เปลี่ยนผู้หญิงบ่อยยิ่งกว่าผมเสียอีก ผมไม่อยากให้ริต้องกลับไปเจ็บแบบที่เคยเจ็บมาอีกแล้ว.....ผ
เธอก็บอกว่าจะไม่แก้แค้นอะไรผมอีกแล้ว แต่ขอสู้คดีให้ถึงที่สุด ถ้าผมแพ้ ผมก็ต้องยอมรับชะตากรรม เธอบอกว่าถือเสียว่าผมชดใช้กรรมให้เธอ ผมก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะผมมั่นใจว่าผมจะไม่แพ้คดีนี้แน่ ผมรีบเดินออกมาจากห้องและเดินไปยังห้องฝั่งตรงข้ามที่เป็นห้องของเควิน ที่ผมเองก็เพิ่งจะรู้ว่าคอนโดนี้เควินเป็นเจ้าของ โดยมันให้เอริอยู่ห้องมันฟรีๆดูก็รู้ว่ามันชอบเอริ และจ้องจะเคลมเธอและที่ผมรู้ไปกว่านั่นอีกคือเควินเป็นลูกชายของผู้ชายที่แก้มหวานแต่งงานด้วยออดดดดดดดดดดดดผมกดออดห้องของเควินอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีใครมาเปิดประตูให้ผมสักที สงสัยมันจะไม่อยู่จริงๆหรือมันจะออกไปกับเอริ"ขอให้แน่ใจหน่อยจะได้หมดห่วง"ผมพูดออกมาอย่างยอมรับชะตากรรมถ้าเอริจะชอบผู้ชายคนนี้ผมก็คงจะไม่มีสิทธิ์ไปขัดขวางอะไรเธอ เพราะผมกับเธอมีหน้าที่เป็นพ่อแม่ของลูกเท่านั้น ส่วนสถานะอย่างอื่นเราก็เป็นเพื่อนกันผมเดินเข้าลิฟต์ไปยังชั้นล่างและเดินมุ่งตรงไปยังเคาน์เตอร์ของประชาสัมพันธ์ที่มีไว้ต้อนรับลูกค้าและดูแลคนที่อยู่ในคอนโคนี้"ผมขอเบอร์คุณเควินหน่อยได้ไหมครับ""พอดีผมมีเรื่องจะคุยกับเขาน่ะครับ"ผมเอ่ยบอกพนักงานผู้หญิงที่ทำหน้าที่ประ
คอนโดเควินห้องของเอริ19:00น.ขุนศึก ขุนณรงค์...."ริไปไหนเหรอครับป้าบัว....มืดแล้วยังไม่เห็นกลับมาเลย?"ผมเอ่ยถามป้าบัวไปในขณะที่ท่านกำลังเก็บจานข้าวที่ผมเพิ่งกินเสร็จอยู่ที่จริงผมนั่งชะเง้อคอมองเอริมาตั้งแต่ที่เห็นเธอแต่งตัวออกไปตั้งแต่ตอนห้าโมงเย็นแล้ว กะว่าเธอไปแค่แปปเดียวก็คงจะกลับเพราะไม่เห็นเธอบอกผมว่าเธอจะไปไหน"เห็นว่าออกไปหาเพื่อนนะคะ....คุณขุนศึกมีอะไรหรือเปล่าคะ?""อ้อเปล่าครับ.....ผมเห็นว่ามันเริ่มมืดแล้ว....."ผมเอ่ยบอกป้าบัวไปอย่างเป็นห่วงสีหน้าเป็นกังวลขึ้นมาเพราะเอริเป็นผู้หญิงและกำลังท้องอยู่ด้วยไม่น่าจะออกไปข้างนอกคนเดียวแบบนี้นะหรือว่าเธอจะออกไปหาเพลงขวัญ"ลองโทรหาดูไหมคะ.....""เดี๋ยวผมโทรเองครับป้า....ขอบคุณมากนะครับ""โอเคค่ะงั้นป้าขอตัวไปดูคุณหญิงก่อนนะคะ""ครับป้า.....เดี๋ยวผมรอริสักพักก็จะเข้าไปดูคุณแม่นะครับ""ค่ะ.....เดี๋ยวป้านอนเฝ้าคุณหญิงเองค่ะ....คุณขุนศึกไปนอนพักผ่อนเถอะค่ะ""ครับ....ขอบคุณมากนะครับ"ผมเอ่ยบอกป้าบัวไปอย่างซาบซึ้งใจที่ท่านดีกับผมและคุณแม่ของผมจากใจจริงท่านไม่คิดที่จะทอดทิ้งผมและคุณแม่......ในความโชคร้ายของผมก็ถือว่ายังมีโชคดีอยู่บ้างที
"กะจะเผาทั้งเป็นแม่ของขุนศึกเลยนะ""เธอร้ายกาจมากมากจนฉันอยากรู้ว่าแก้มหวานแค้นอะไรขุนศึกมากมายขนาดที่จะฆ่าจะแกงกันได้"นามิเอ่ยออกมาอย่างไม่เข้าใจและอยากรู้มากๆ"ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราทั้งสามคนในเมื่อก่อนมันจะเป็นต้นเรื่องที่ทำให้แก้มหวานแค้นฉันขนาดนี้ไหม"ฉันเอ่ยออกไปเสียงแผ่วเบามันถึงเวลาแล้ว ที่ฉันจะต้องไปเผชิญหน้าและถามแก้มหวานตรงๆว่าสิ่งที่เธอทำงไปในตอนนี้ เพราะอยากจะเอาคืนขุนศึกที่เขาทำกับเธอตอนที่เธอเรียนอยู่มหาลัยใช่ไหมเพราะสิ่งที่ขุนศึกไม่ตั้งใจในคราวนั้นแต่กลับทำให้คนที่ถูกกระทำเครียดแค้นเอาเป็นเอาตายขนาดนี้"ฉันขอตัวก่อน"ฉันเอ่ยขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูงนามิก็ลุกขึ้นพรวดพราดตามฉันมาทันทีด้วยความตื่นตกใจ"เธอจะไปไหนไม่เอาหลักฐานแล้วหรือไง""ไม่แล้วล่ะ....ฉันไม่ต้องการมันแล้ว"ฉันเอ่ยบอกนามิไปก่อนจะหยิบกระเป๋าเงินและจำ้อ้าวเดินออกมาจากร้านอาหารนี้อย่างไวตอลดทางเดินฉันหยิบโทรศัพท์ไอโฟนเครื่องแพงของตัวเองขึ้นมากดดูบันทึกรายการบันทึกเสียงฉึก"โอ้ย!!"ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจและความเจ็บปวดที่แล่นแวบเข้ามาที่ก้านคอของฉันฉันจึงรีบเอามือไปคลำดูก็พ
"ฉันเลยเตรียมของมาให้เธอได้พิสูจน์....ว่าฉันไม่โกงเธออย่างแน่นอน"ฉันก็มองหน้านามิอย่างจ้องเขม็งและสงสัยในสิ่งที่เธอพูด เธอเตรียมอะไรมาให้ฉันพิสูจน์"ในรถฉันมีโน้ตบุ๊กอยู่....เธอจะไปดูมันกับฉันไหมล่ะ?"นามิเอ่ยถามฉันมา ฉันก็จ้องเธออย่างไม่วางใจ"ฉันเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆจะไปทำอะไรเธอได้.....?"เธอก็เอ่ยออกมาเสียงใสอย่างรู้ทันความคิดของฉัน"ในนั้นมีหลักฐานทั้งหมดจริงๆใช่ไหม?"ฉันเอ่ยถามนามิไป เธอก็ยกยิ้มที่มุมปากขึ้นอย่างคนที่เหนือกว่าก่อนจะพยักหน้าเป็นคำตอบให้ฉัน"หลักฐานที่แก้มหวานโกงบริษัทของคุณหญิงนฤมิตรจนทำให้ทั้งคุณหญิงและขุนศึกต้องถูกกล่าวหาว่าเป็นคนคดโกง""ใช่...."นามิตอบมาเสียงดังฟังชัด ฉันก็ทำหน้านิ่งเฉยและเอ่ยถามเธอต่อไป"แก้มหวานเป็นคนอยู่เบื้องหลังแผนการทั้งหมด......ทั้งเรื่องที่โยนความผิดว่าคุณหญิงนฤมิตรฟอกเงินที่ผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน""เป็นคนต้นคิดการเทรดเงิน....โดยใช้การเทรดเงินเป็นเบื้องหน้าให้คุณหญิงนฤมิตรตายใจและให้คุณหญิงเปิดบัญชีเป็นชื่อของท่านเพียงคนเดียวและนำเงินที่ฟอกมาทั้งหมดโอนใส่ไปในบัญชีของคุณหญิง"นามิเอ่ยออกมา ฉันก็จ้องมองหน้าเธอด้วยท่าทางนิ่งเฉย ฉันต้องทำ
"เธอเป็นใคร"ฉันเอ่ยถามปลายสายที่เป็นเสียงผู้หญิงออกไปน้ำเสียงของปลายสายฟังดูคุ้นหูฉันมาก (นามิเอง....) "นามิ....เธอมีอะไรกับฉัน" (ฉันมีเรื่องเกี่ยวกับขุนศึกอยากปรึกษาเธอ) "เรื่องอะไร?" (หลักฐานทั้งหมดเกี่ยวกับคดีที่ขุนศึกเจออยู่ในตอนนี้.....ถ้าได้หลักฐานอันนี้ไปเขาพ้นคดีแน่) "แล้วเธอไปเอามาจากไหน?"ฉันเอ่ยถามนามิไป ในใจฉันสงสัยและไม่เข้าใจเธอว่าเธอจะช่วยขุนศึกทำไม ในเมื่อก่อนหน้านี้เรื่องของสองคนนี้จบกันไม่ดีเท่าไหร่ อาจจะมองหน้ากันไม่ติดถึงขั้นเกลียดขี้หน้ากันเลยก็ได้ (ฉันโดนนังแก้มหวานหักหลัง....มันเป็นคนต้นเรื่องทั้งหมด) (ฉันพูดจริงๆเอริ....ตอนนี้ฉันกับแม่กำลังเดือดร้อน....ฉันขอขายหลักฐานของขุนศึกให้เธอในราคาสิบล้านก็ได้) (ฉันกับแม่จะใช้เงินก้อนนี้เป็นก้อนหลบหนีนังแก้มหวาน) (มันราวีชีวิตของฉันกับแม่ไม่เลิกนะเอรินะ) (นังแก้มหวานมันสั่งให้ฉันเข้าไปตีสนิทก้บขุนศึกมันอยู่เบื้องหลังทุกอย่างทั้งเรื่องที่คุณหญิงโดนฟ้องว่าฟอกเงิน....การเทรดหุ้นที่ไม่เอาเงินไปเทรดแต่เอาไปใช้เอง....ตลาดหุ้นที่ผิดกฏหมาย) (นังแก้มหวานมันเป็นคนวางแผน....ฉันมีคลิปวิดีโอในการคุยของฉันกับมันในตอนที่มัน