วันต่อมาบ้านเอริ เอริ ฐิติมน......16:30น.พรึบติ๋งฉันวางแก้วน้ำลงตรงถาดวางแก้วและรีบมาดูการแจ้งเตือนอีเมลที่เพิ่งจะถูกส่งมาในไอแพดของฉันทันที เพราะฉันดูซีรีย์ค้างไว้นะ และเกิดหิวน้ำเลยเดินไปหยิบน้ำในครัวมาดื่มแต่แล้วก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนอีเมลพอดีฉันจึงไม่รอช้ารีบเปิดอีเมลเช็คดูทันทีว่าใครส่งมาและก็เป็นไปอย่างที่ฉันคาดหวังไว้ ทำให้ฉันอมยิ้มขึ้นมาเมื่อได้อ่านข้อความจากอีเมลของบริษัทเบสท์เวิร์คแอร์ไลน์สายการบินของประเทศที่จะออกบินไปหลายประเทศมันคือข้อความที่ฉันเฝ้าคอยมา เขาบอกว่าฉันได้ทำงานที่สายการบินเบสท์เวิร์คแอร์ไลน์เรียบร้อยแล้ว อีกสองวันให้เข้าไปรายงานตัว"เย้^_^"ฉันร้องเย้ขึ้นมาอย่างดีใจพร้อมกับลุกขึ้นยืนกระโดดโลดเต้นไปมารอบๆโซฟาตัวแพงกลางห้องนั่งเล่น อย่างนี้ต้องฉลองซะหน่อยแล้วฉันกลับมาอยู่บ้านที่ขุนศึกซื้อให้ และกะว่าจะไม่ไปอยู่ที่คอนโดของคุณเควินอีกแล้ว ไม่ใช่ว่าฉันรังเกียจเขาหรืออะไรหรอกนะ แต่ฉันอยากจะหยุดความสัมพันธ์ของเราสองคนไว้เพียงแค่นี้ ฉันไม่อยากทำลายคนดีๆอย่างคุณเควิน เพราะต่อให้เขาทำดีกับฉันแค่ไหน ฉันก็รู้หัวใจตัวเองดี ว่าฉันไม่สามารถที่จะรักเขาได้ และมันก็ไ
"ก๋วยเตี๋ยวมาแล้วจ้า .....เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นแฟนแม่หนูมากินด้วยเลยนะ"คุณลุงเป็นคนยกชามก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟให้ฉัน และก็เอ่ยถามหาแฟนฉัน แฟนฉันที่คุณลุงหมายถึงก็คือขุนศึก เรามักจะมากินก๋วยเตี๋ยวเป็ดที่นี่ด้วยกันเป็นประจำ เพราะมันคือของโปรดฉัน"เขาไม่ค่อยว่างค่ะ.....ขอบคุณนะคะคุณลุง"ฉันตอบคุณลุงไปและเอ่ยขอบคุณคุณลุงที่ยกก๋วยเตี๋ยวมาให้ฉัน คุณลุงก็พยักหน้ารับรู้และไม่ได้ถามอะไรฉันต่อ แกก็ยิ้มบางๆให้ฉันและเดินกลับไปหาคุณป้า ฉันก็หันกลับมามองก๋วยเตี๋ยวชามตรงหน้าของฉันต่อพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปมองที่นั่งฝั่งตรงข้ามของฉันก่อนจะเห็นภาพของขุนศึกซ้อนขึ้นมา เขาที่ไม่ชอบกินถั่วงอกก็จะตักถั่วงอกมาใส่ในชามฉัน และฉันไม่ชอบกินผักบุ้งก็จะตักไปใส่ชามเขาเช่นกัน เรากินกันไปหัวเราะกันไปเรากินที่ร้านนี้ตั้งเเต่เรียนมหาลัยจนทำงานเราก็ยังคงหาเวลามากินเมื่อมีโอกาส เลยทำให้คุณลุงกับคุณป้าจำเราสองคนได้แม่น"ทำไม......ทุกที่ถึงมีแต่ภาพของนาย......?"ฉันพึมพำออกไปก่อนจะส่ายศีรษะไปมาและไล่น้ำตาที่เอ่อคลอที่รอบดวงตาทั้งสองข้างของฉันให้มันไหลย้อนกลับเข้าไปก่อนจะเริ่มปรุงก๋วยเตี๋ยวตามใจชอบและรีบกินมันจนฉันใช้เวลาแค่สิบนา
สามวันต่อมา20:30น.เอริ ฐิติมน........สนามบินเบสท์เวิร์คแอร์ไลน์....."วันนี้น้องเอริทำได้ดีมากนะคะ....ทั้งภาษากิริยาและการบริการถือว่าเป็นระดับมือโปรได้เลย^_^"พี่ฝนเอ่ยชมฉันพร้อมกับยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ฉัน ฉันที่เดินมายืนข้างๆเธอก็อมยิ้มรับคำชมจากเธอ"เป็นเพราะได้พี่ฝนเทรนให้ริมากกว่าค่ะ.....ขอบคุณนะคะที่สอนงานให้ริ"ฉันเอ่ยขอบคุณพี่ฝนไป เธอก็ยิ้มแก้มปริ พี่ฝนคือหัวหน้าแอร์โฮสเตสของฉัน ซึ่งเธอเป็นคนสอนงานให้ฉันว่าฉันต้องทำอะไรบ้าง และชี้แจงรายละเอียดต่างๆให้ฉันฟังซึ่งฉันก็เข้าใจเร็วและจดจำได้ในครั้งเดียวที่เธอสอน และวันนี้ก็เป็นวันแรกที่ฉันได้ลองบินและบริการลูกค้าจริงๆ ถึงจะเป็นระยะทางสั้นๆก็เถอะ ฉันได้เข้ามาสัมภาษณ์งานและอีกสองวันถัดมาก็ได้เข้าทำงานเลย ซึ่งฉันก็แอบแปลกใจอยู่ว่าทำไม ถึงไม่ให้ฉันเป็นแอร์ฝึกหัดไปก่อนแต่ทำไมกลับให้ฉันบินไฟลท์จริงเลย"น้องเอริก็ชมพี่เกินไปจ๊ะ....."พี่ฝนว่าพร้อมกับบิดตัวไปมาอย่างเขินอาย ฉันก็ยิ้มบางๆให้เธอ ฉันพูดออกไปจากใจจริงไม่ได้จะประจบประแจงเธอหรอกนะเธอเป็นคนสอนงานให้ฉันและอธิบายให้ฉันอย่างเข้าใจง่ายและฉันเองก็เป็นคนที่หัวไวอยู่แล้วด้วยฉันว่างาน แ
"ก็ใช่น่ะสิ.....ไม่งั้นนางจะได้เข้าไฟลท์บินเร็วขนาดนี้ได้ไง...ทีคราวฉันนะกว่าจะได้บินจริงก็ต้องไปฝึกหัดในที่จำลองอยู่เป็นเดือนๆ""ใช่ๆๆฉันก็เหมือนกันและดูตารางการบินของนางสิมีแทบจะทุกวันอ่ะ""เห็นว่าฐานเงินเดือนของนางก็ห้าหมื่นอัพนะยะ""ว๊ายได้เยอะจริง.....กว่าฉันจะได้ขนาดนั้นก็ทำงานเข้าปีที่สองพอดี""แค่นั้นยังไม่พอพวกสจ๊วตและโคไพลอตก็ต่างพากันชอบนางน่ะแต่พอรู้ว่านางเป็นแฟนของท่านประธานก็ต่างพากันถอนตัวกันเพียบเพราะกลัวตกงาน""ว๊ายจริงเหรองั้นก็ดีสิฉันจะได้ไม่ต้องไปเป็นศัตรูกับนางไม่ต้องไปแย่งสจ๊วตและโคไพรอตหล่อๆน่ะ""ฉันก็ว่าอย่างงั้นเพราะอย่างเราคงไม่มีบุญวาสนาได้อยู่ในสายตาของท่านประธานหรอก"ฉันที่นั่งอยู่บนฝารองนั่งชักโครกเพื่อฟังบทสนทนาของพวกเธอจนจบ ฉันก็ลุกขึ้นยืนหลังจากที่ได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงของคนสองคนเดินออกไปแล้ว "เป็นแฟนกับท่านประธานเหรอ?.....ข่าวนี่ก็มั่วดีเหมือนกันนะไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ไม่พ้นคนนินทาสินะ"ฉันพึมพำกับตัวเองพลางก้มหน้าล้างมือไปด้วยและไหวไหล่เล็กน้อยอย่างไม่ใส่ใจเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริงอย่างที่พวกเธอเม้าท์มอยเรื่องฉันสักหน่อย เพราะฟังจากการที่เธอบอกรูปร่า
"เธอเอาน้ำอะไร?""ขอเป็นลาเต้เย็นก็ได้"ฉันเอ่ยบอกฟิวไป ฟิวก็พยักหน้ารับรู้ก่อนจะหันไปสั่งพนักงานที่ยืนรอรับออร์เดอร์โต๊ะเราอยู่ ตอนนี้ฉันกับฟิวเราเข้ามานั่งในคาเฟ่แล้วและเราก็เลือกมุมที่อับที่สุดและมุมที่เงียบที่สุดด้วย ซึ่งฉันไม่ใช่คนเลือกนะแต่เป็นฟิวเองที่เลือกฉันก็นั่งมองหน้าฟิวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของฉันอย่างสงสัยและนึกคิดในใจไปต่างๆนาๆจนเหมือนฟิวจะรู้ตัวว่าโดนฉันจ้องอยู่ เขาจึงหันมามองหน้าฉัน และเป็นจังหวะเดียวกับที่พนักงานรับออร์เดอร์เดินกลับไปยังเคาน์เตอร์พอดีสีหน้าที่ฟิวมองฉันมันเต็มไปด้วยความกังวลใจและไม่สบายใจเป็นอย่างมาก สีหน้าที่เคยสดใสของฟิวก็ดูเหมือนคนที่อมทุกข์คิดอะไรอยู่ตลอดเวลา"เธอ.....จำผู้หญิงที่ชื่อแก้มหวานได้ไหม?"ฟิวเอ่ยเปิดประเด็นขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจังและลุ้นกับคำตอบจากฉัน ฉันก็มองหน้าฟิวกลับไปด้วยสายตาจริงจังเช่นกัน เพราะฉันจำเธอคนนี้ได้ไม่เคยลืม"ได้สิ......น้องดาวมหาลัยที่มีคลิปหลุดกับพวกนาย?"ฉันเอ่ยตรงจุดไปเพราะฉันมักจะพูดตรงๆกับฟิวอยู่แล้ว ฟิวเมื่อได้ยินคำตอบจากฉันสีหน้าเขาดูเป็นกังวลหนักกว่าเดิม สีหน้าของเขาดูเครียดมากและวิตกมากเลยนะ"ฉันว่า...เธอกล
"จนกระทั่งตำรวจเข้ามาหาพ่อฉันที่บริษัทและแจ้งข้อหาให้พ่อฉันได้รับรู้.....พ่อถูกจับโดยไม่ได้แตะเงินผิดกฎหมายนั่นเลยสักบาท....""แถมยังต้องมาล้มละลายและหมดตัวอย่างไม่ทันตั้งตัว""และหุ้นส่วนคนนั้นล่ะ?"ฉันเอ่ยถามฟิวไปอย่างสงสัยและลุ้นกับเรื่องของเขาพร้อมกับสงสารและเห็นใจฟิวไปด้วย แล้วขุนศึกรู้เรื่องนี้หรือยัง?"หุ้นส่วนคนนั้นมีแค่รูปร่างหน้าตาแต่ไม่มีตัวตน....ชื่อที่เขาใช้ก็เป็นชื่อปลอมเอกสารปลอมและเขาก็หายตัวไปอย่างลึกลับ.....จนตอนนี้ก็ไม่มีใครหาเขาเจอ""เขาตั้งใจเข้ามาหลอกพ่อนายเหรอ?"ฉันถามฟิวไปอย่างสงสัย ฟิวก็จ้องหน้าฉันนิ่ง แววตาสั่นไหวอย่างคนที่เสียใจและรู้สึกผิดมาก"ตอนแรกฉันก็ยังปะติดปะต่อเรื่องไม่ถูกเท่าไหร่.....จนกระทั่งผู้หญิงที่ชื่อแก้มหวานปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีกครั้ง""มันทำให้ฉันรู้และแน่ใจได้ในทันทีว่าเรื่องบัดซบที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของฉันทั้งหมดมันก็เพราะเธอคนนี้นี่แหละ""เธอกลับมาแก้แค้นทุกคนที่ทำลายชีวิตเธอ.....รวมไปถึงไอ้ขุนเองก็ด้วย""ฉันว่าฉันเจอหนักกว่ามันแล้วนะ.....แต่สู้มันไม่ได้เลย""หมายความว่ายังไงฟิว?"ฉันเอ่ยถามฟิวไปอย่างร้อนรนใจ พอฟิวพูดเรื่องขุนศึกทำให้ฉันกลั
สองวันต่อมาบนเครื่องบิน ของเบทส์เวิร์คแอร์ไลน์.....เอริ ฐิติมน......พรึบ"พี่เอริคะ?""จ๊ะ?"ฉันหันไปขานรับน้องแอร์โฮสเตสที่เธอได้ไฟลท์บินเดียวกับฉันอย่างสงสัย เธอก็มองสายตาต่ำลงมาที่แก้วกาแฟในมือฉันด้วยสีหน้าสงสัย"เมื่อกี้ผู้โดยสารสั่งน้ำส้มไม่ใช่หรือคะ?"ทิพย์เอ่ยขึ้น ทำให้ฉันที่เผลอใจลอยจึงนึกขึ้นได้ว่าผู้โดยสารท่านนี้สั่งน้ำส้มคั้นจริงๆไม่ใช่กาแฟร้อน"ต้องขอโทษด้วยนะคะ"ฉันหันมาเอ่ยขอโทษผู้โดยสารที่เธอเป็นผู้หญิงอายุสามสิบต้นๆแต่งตัวดูดีมีฐานะ เธอก็ใจดีนะยิ้มแย้มให้ฉันก่อนจะตอบฉันมาว่าไม่เป็นไร"ไม่เป็นไรค่ะ....งั้นฉันเอากาแฟแทนก็ได้ค่ะ""แต่"ฉันกำลังจะแย้งผู้โดยสารแต่เธอก็ยิ้มหวานให้ฉันก่อนจะยื่นมือมาแย่งแก้วกาแฟไปจากฉัน ฉันจึงต้องยอมให้เธอ"ขอโทษอีกครั้งนะคะ""ไม่เป็นไรเลยค่ะ.....อย่าคิดมากเลยค่ะ"เธอบอกฉันเสียงใส ฉันก็โค้งตัวให้เธออย่างเคารพก่อนจะหันมาหาทิพย์แอร์โฮสเตสที่เธออายุน้อยกว่าฉันก็จริงแต่เธอทำงานมาก่อนฉันน่ะ"พี่ขอบคุณที่เตือนสติพี่"ฉันเอ่ยขอบคุณเธอจากใจจริง เธอก็ยิ้มบางๆให้ฉันก่อนจะพยักหน้าให้ฉันอย่างรับคำขอบคุณ และเราสองคนก็หันไปแยกย้ายบริการเครื่องดื่มให้ผู้โดยสารก
"มาทำอะไรที่นี่เหรอแม่หนู?"เสียงทุ้มแหบแห้งของคุณลุงคนขับแท็กซี่เอ่ยขึ้นอย่างสงสัย ฉันจึงละสายตาที่กำลังทำคอชะเง้อชะแง้มองเข้าไปในบ้านหันกลับมามองคุณลุงแทน"พอดีป้าของหนูทำงานอยู่ในบ้านหลังนี้นะคะ""อ้อ.....คงจะออกไปหมดแล้วล่ะข่าวใหญ่โตว่าคุณนายเศรษฐีบ้านนี้โดนยึดทรัพย์ยึดบ้านคงไม่มีใครทำงานกับคนที่ไม่มีเงินจ้างหรอก"คุณลุงว่าพร้อมกับทำมือชี้นิ้วเข้าไปในบ้าน ฉันนี่หน้าถอดสีลงเลย เมื่อได้ยินคุณลุงพูดแบบนี้ แสดงว่ามันคือเรื่องจริงสินะ ฉันผิดเองที่ไม่กล้าพอที่จะเปิดข่าวฟัง เพราะฉันรับไม่ได้ "แล้วเจ้าของบ้านล่ะค่ะเขาไปอยู่ไหนกัน?"ฉันเอ่ยถามคุณลุงไปอย่างสงสัย และรอลุ้นกับคำตอบที่จะได้รับ"ในคุกน่ะสิ....โกงชาวบ้านชาวเมืองไปขนาดนั้นคนแบบนี้ไม่ต้องออกมาจะดีมากที่จริงไม่สมควรติดคุกด้วยซ้ำ!""น่าจะโดนสั่งให้ตายไปเลย!!"คุณลุงพูดเสียงเข้มอย่างโกรธจัดและคับแค้นใจอย่างคนที่จงเกลียดจงชังคนบ้านนี้ ฉันจึงเงียบปากลงและไม่กล้าถามอะไรลุงต่อ จึงบอกให้เขาพาฉันไปจากที่นี่ ตอนที่รถแท็กซี่ขับผ่านหน้าบ้านก็มีเอกสารสีขาวติดไว้ที่ประตูรั้วมากมายหลายแผ่นซึ่งฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือเอกสารอะไร อาจจะเป็นเอกสา
"ผมเกลียดคุณเข้าใจไหม""ไม่จริงคุณไม่ได้เกลียดแก้มหวานคุณรักแก้มหวาน""ไม่งั้นคุณจะมาทำดีกับแก้มหวานทำไม""ที่ผมทำดีกับคุณเพราะผมติดใจในเซ็กส์ของคุณไง....คุณรู้ไหมว่าคุณเป็นผู้หญิงที่เร้าร้อนและร้อนแรงเรื่องบนเตียงมากแค่ไหน"เควินพูดพร้อมกับเดินตรงมาหาแก้มหวาน"ผมไม่เคยมีอะไรกับใครแล้วมีความสุขเท่าคุณ"เควินว่าพร้อมกับใช้ปลายนิ้วเรียวไล้เกี่ยไปตามแขนของแก้มหวานอย่างแผ่วเบา พร้อมกับมองแก้มหวานด้วยแววตาหวานเยิ้ม"ผมก็เลยเล่นตามน้ำคุณถึงแม้ในใจผมมันจะสนแค่ร่างกายคุณแต่นิสัยและสันดานของคุณผมรังเกียจมันเสียด้วยซ้ำ"เควินพูดไปพลางมองไปที่ร่างของแก้มหวานด้วยสายตาดูถูกและเหยียดหยาม"ผมก็นึกว่าคุณจะเล่นๆกับผมแต่ที่ไหนได้คุณคิดจริงจัง"เควินว่าพลางยิ้มหัวเราะออกมาอย่างเรื่องที่เป็นประเด็นสนทนาอยู่ในตอนนี้เป็นเรื่องตลก ทำให้แก้มหวานมองผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่พอใจและน้อยใจไปในตัวเธอคิดว่าเขาจะสนใจและมีความรู้สึกดีๆให้เธอเสียอีก แต่ที่ไหนได้เขากลับไม่ได้มีใจให้เธอเลย "ไม่ต้องมองผมแบบนั้นหรอก.....ผมพูดความจริง""และต่อไปคุณก็ช่วยกรุณารู้จุดยืนของตัวเองด้วยนะ"เควินเอ่ยออกมาปิดท้ายแววตาที่เขามองเธอเวลาพูด
"ไม่ใช่ว่าริเป็นซิงเกิ้ลมัมไม่ได้แต่ริไม่อยากเป็นไม่อยากให้ลูกมีแค่ริที่ทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกันแต่อยากให้ลูกได้รับความรักจากพ่อแท้ๆของเขาและความเอาใจใส่จากพ่อของเขาจริงๆ" "คนที่ไม่เคยขาดพ่อขาดแม่ไม่มีวันเข้าใจหรอกไม่ว่าแม่จะดูแลดีแค่ไหนแต่มันก็ไม่เหมือนความรักที่มีทั้งพ่อและแม่อยู่ครบ" "ริหวังว่าขุนจะเข้าใจนะ....ขุนแค่ทำหน้าที่พ่อของลูกเท่านั้นพอ....." "ริ....." "หรือขุนอยากจะเลือกก็ได้นะระหว่างทำหน้าที่พ่อของลูกหรือจะไม่รับหน้าที่อะไรเลยก็ได้" "ก็ได้ขุนจะเอาแบบที่ริว่าก็ได้"ขุนศึกที่ได้ยินคำขาดจากฉัน เขาก็พูกเสียงเข้มแทรกขึ้นมาทันที "แต่ขุนจะทำให้ริเห็นว่าขุนพร้อมที่จะหยุดและมีแค่ริคนเดียวแล้วจริงๆ"ขุนศึกว่าพร้อมกับทำหน้ามั่นใจว่าเขาจะสามารถทำอย่างที่เขาพูดได้จริงๆ แต่เขาก็พูดแบบนี้ทุกครั้งที่ฉันจับเขาได้ว่าเขาแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นและฉันก็ไว้ใจและเชื่อใจเขามาตลอดและเป็นยังไงล่ะ สุดท้าย ฉันก็เป็นอีโง่เหมือนเดิม เคยยอมเสียศักดิ์ศรีตัวเองแก้ผ้าให้ขุนศึกเอาเพื่อให้เขาเลิกไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น นั่นมันเป็นความคิดเด็กน้อยชะมัด "ทำให้ได้ก่อนค่อยมาว่ากันอีกที..
วันเดียวกัน23:30น.เอริ ฐิติมน......จึกๆๆ"ริ......""หื้ออออ"ฉันครางรับเสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกฉันพร้อมกับแรงสะกิดที่ไหล่ฉันเบาๆฉันที่นั่งขดตัวหลับอยู่บนโซฟาภายในห้องโถงใหญ่ก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาดูเจ้าของเสียงที่ฉันเฝ้ารอเขาจนเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้"ขุน......กี่โมงแล้วเนี่ย?"ฉันขยี้ตาเพื่อไล่ความสะลึมสะลือความงัวเงียให้หายไปพร้อมกับเอ่ยถามขุนศึกไป"เที่ยงคืนกว่าแล้ว....ริมานอนทำไมตรงนี้?"ขุนศึกตอบฉัรพร้อมกับเอ่ยถามฉันกลับ ฉันที่หายจากอาการสะลึมสะลือแล้วแล้วก็ขยับตัวนั่งดีๆและหันไปมองหน้าขุนศึกที่เขานั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับฉันและนั่งข้างๆฉันด้วย"ริมารอขุนนั้นแหละ.....ทำไม่มาซะดึกเลย....หาไม่เจอเหรอ?""เปล่า.....พอดีขุนไปทำธุระมาน่ะ""อ้อ"ฉันพยักหน้าพลางร้องตอบขุนศึกไป แม้ในใจอยากจะถามเขาว่าธุระที่เขาว่าคืออะไร แต่สีหน้าและแววตาของขุนศึกเหมือนไม่อยากบอกให้ฉันรู้ว่าธุระที่เขาพูดถึงคืออะไรถ้าเขาไม่อยากบอก ฉันก็ไม่ควรที่จะถามต่อสินะ เพราะฐานะของฉันกับเขาไม่มีสิทธิ์ซักไซ้จนได้รู้เรื่องส่วนตัวของเขามากไปกว่านี้"ว่าแต่ริมารอขุน......มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า"ขุนศึกถามฉันพร้อมกับจ้องมองฉั
จะปล่อยห้องว่างไวโดยไร้คนอยู่ก็เสียดาย ฉันก็เลยใจอ่อนและยอมมาอยู่ที่นี่ซึ่งฉันคิดว่ามันสะดวกสบายดี บ้านที่ฉันหาในเน็ตก็มองทรุดโทรมและค่าเช่าก็แพง อะไรที่ประหยัดได้ในตอนนี้ฉันก็ควรจะประหยัดและตอนนี้ฉันก็ท้องด้วย ฉันควรจะมีเงินสำรองไว้เลี้ยงลูกของฉันให้เขาอยู่อย่างสุขสบายให้เยอะๆดีกว่าฉันควรจะบอกเรื่องนี้กับขุนศึก......ว่าฉันท้องกับเขา....."ป้าบัวคะ""จ๊ะว่าไงจ๊ะเอริ?"ป้าบัวที่กำลังยกชามกะละมังที่เช็ดตัวคุณหญิงเพิ่งเสร็จหันมาขานรับฉันเงินก้อนใหญ่ฉันก็ให้ขุนศึกไปหมดแล้ว รถก็ขายทิ้ง บ้านก็มาไฟไหม้อีก ค่ารักษาพยาบาลคุณหญิงค่าใช้จ่ายรายเดือนก็สูง โดยเฉพาะค่ากายภาพบำบัดที่ฉันว่าจ้างให้นางพยาบาลที่เป็นคนทำกายภาพบำบัดและศึกษาด้านนี้มาโดยเฉพาะให้มาดูแลคุณหญิงทุกวันโดยทำกายภาพบำบัดให้คุณหญิงเดินได้อีกครั้งและฉันจะทำทุกวิถีทางให้ชีวิตของลูกฉันมีความสุขและสุขสบายที่สุดไม่ให้ลำบากและรู้สึกขาดแบบที่ชีวิตฉันเคยเป็นมา ฉันจะเลี้ยงเขาให้ดีที่สุดเท่าที่สุดของความสามารถของฉัน"ป้าบัวส่งโลเคชั่นให้ขุนหรือยังคะว่าเราอยู่ที่ไหนกัน?"ฉันเอ่ยถามป้าบัวไป ท่านก็ยิ้มบางๆให้ฉัน"ป้ากำลังจะไปส่งโลเคชั่นให้คุณข
"ไม่ว่าฉันจะให้แกทำอะไรแกก็ยอมใช่ไหม?"แก้มหวานเอ่ยถามผมด้วยแววตามีเลศนัยพร้อมยกยิ้มที่มุมปากขึ้น ผมก็จ้องมองเธอนิ่ง และผมก็อยากทำให้เรื่องทุกอย่างมันจบลง วันนี้คุณแม่ผมเกือบจะไม่รอด เพราะผมเป็นตัวต้นเหตุ วันนี้อาจจะโชคดี แต่มันก็คงตะไม่โชคดีทุกครั้งไป "ใช่" "ถ้าฉันให้แกไปตายล่ะ" "มันไม่มากไปเหรอ?"ผมถามเธอไปเสียงเข้ม เรื่องที่ผมและเพื่อนๆทำกับเธอ เธอก็ยังมีชีวิตอยู่และดีด้วยจนถึงทุกวันนี้ไม่ใช่เหรอ "หึ.....ฉันรู้ว่าแกคงไม่กล้าตายหรอก" "งั้น......ฉันขอแลกศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของแกก็ล่ะกันนะ" "ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของฉัน?" "กราบตีนฉันสิ.....แล้วฉันจะเลิกยุ่งกับแม่แกและก็เอริผู้หญิงที่แกบอกว่ารักนักรักหนาด้วย" "ไม่รู้ว่าแกรักเธอยังไงนะถึงได้นอกกายนอกใจเธอนอนกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ตลอดเวลา" "ถ้าฉันเป็นเอริฉันคงไม่เอาผู้ชายเลวๆที่ทำตัวเหมือนหมาตัวผู้ที่ต้องผสมพันธุ์ไปทั่วโดยไม่สนว่าใครเป็นใคร" "แบบแกหรอกนะขุนศึก" "แค่ฉันกราบตีนเธอ.....แค่นี้ก็พอแล้วใช่ไหม?"ผมไม่สนใจคำพูดที่ถากถางของแก้มหวานแต่เอ่ยถามในสิ่งที่จะเป็นตัวหยุดเรื่องนี้กับเธอไป เธอก็ทำหน้าบึ้งตึงนิดหน่อยก่อนจะแสยะยิ้มให้ผม
เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องผมก็ยื่นมือไปกดออดเพื่อเรียกคนในห้องให้รู้ว่ามีคนมาขอพบเธอผมรออยู่ไม่นานและกดออดซ้ำไปแค่ครั้งเดียว ประตูห้องหรูบานตรงหน้าผมก็ค่อยๆถูกเปิดออกจากคนที่อยู่ด้านในของห้องนี้ผมก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองบุคคลที่เป็นคนมาเปิดประตูเธอเป็นผู้หญิงผอมสวยหุ่นดี เธออยู่ในชุดเดรสสั้นสายเดี่ยวสีแดงผมของเธอถูกดัดเป็นลอนใหญ่แล้วปล่อยสยายไปด้านหลังสีหน้าที่เธอจ้องมองมาที่ผมด้วยแววตาสงสัย และเพ่งมองพินิจพิจารณาอย่างสงสัยว่าผมคือใครผมจึงค่อยๆใช้มือดึงฮู้ดที่ปิดหน้าของผมอยู่ให้ออกเพื่อเผยใบหน้าของผมให้เธอคนนี้ได้เห็นอย่างชัดเจนขึ้นและในเมื่อใบหน้าของผมที่ไร้เสื้อฮู้ดปกผิดเปิดเผยแก่คนตรงหน้าเธอก็จ้องมองผมด้วยแววตาตกใจและแปลกใจ ผมก็จ้องมองเธอกลับไปด้วยแววตาเรียบเฉยเมื่อแปดปีก่อน เธอกับผมเราคงจะคุ้นตากันเพราะเราสองเคยมีอะไรกันและแอบเป็นแฟนกันมาก่อนทั้งๆที่ผมเองก็มีแฟนอยู่แล้วผมไม่ได้ตั้งใจจะหลอกเธอ แต่ผมคิดว่าผู้หญิงทั้งมหาลัยก็น่าจะรู้ดีว่าผมมีเจ้าของอยู่แล้ว แต่กลับผิดคาดที่เธอคนนี้ไม่รู้ เธอจึงปล่อยใจรักผมแต่ผมกลับไม่เคยรักเธอ ไม่ว่าเธอจะแสนดีและน่ารักแค่ไหน ผมก็ไม่เคยคิดที่จะรั
ช่วงเย็นวันเดียวกันคอนโด TYขุนศึก ขุนณรงค์......"ขอบคุณสำหรับข้อมูลตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าคอนโดที่แกบอกแล้ว""คอนโดTYชั้นที่สามสิบห้องสามสามสี่ห้าฉันจำได้ล่ะขอบใจแกมากฟิว"ผมเอ่ยบอกฟิวไปในขณะที่สายตาก็ทอดมองเงยหน้าไปยังชั้นบนสุดชั้นที่สามสิบของตึกสูงตระหง่านใจกลางเมืองตรงหน้าของผมในขณะนี้(แกคิดที่จะทำอะไร?)(ตอนนี้เขามีอิทธิพลมากกว่าแกเขาสามารถทำให้แกหายไปโดยไม่มีใครสงสัยได้เลยนะขนาดทำให้ชีวิตของแกพังเขาก็ยังทำได้)(ฉันว่าแกไม่สมควรที่จะประมาทผู้หญิงคนนี้)เสียงปลายสายของฟิวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงห่วงใย ผมจึงละใบหน้าจากตึกสูงตรงหน้าและเอ่ยคุยกับฟิวต่อ"ฉันรู้ขอบใจและขอโทษที่ทำให้ชีวิตของแกต้องมาติดร่างแหพลอยซวยไปกับฉันด้วย"ผมเอ่ยบอกหิวไปอย่างคนที่รู้สึกผิดที่ออกมาจากใจจริงไปของผม(แกไม่ได้ทำอะไรผิดถ้ามันจะผิดก็ผิดกันหมดนี่แหละ)(มันคงจะเป็นเพราะตอนนั้นพวกเรายังเด็กเลยไม่ได้คิดอะไรให้มากกว่านี้เลยทำเรื่องแบบนั้นลงไป)(ฉันไม่มีสิทธิ์โกรธแกหรือแก้มหวานเลยด้วยซ้ำ)"นั่นสิเนอะ....ฉันก็ไม่สมควรที่จะโกรธแก้มหวานด้วยเหมือนกัน"ผมเอ่ยออกมาอย่างคิดนึกตริตรองอย่างที่ฟิวว่าที่จริงถ้าตอนนั้นผมไม่คึกค
"ผมขอโทษครับ""คุณจะมาขอโทษฉันทำไมล่ะค่ะ....ฉันเองต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณสิถึงจะถูก""เดี๋ยวฉันจะโอนจ่ายค่ารักษาให้คุณทีหลังนะคะ....เพราะวันนี้ฉันไม่มรเงินติดตัวเลย"ฉันเอ่ยบอกคุณเควินไปตามความจริง เขาก็มีสีหน้าตกใจและสลดปะปนกันไป"อย่าโอนจ่ายค่ารักษาให้ผมเลยครับ...ขอให้ผมได้ดูแลคุณสักครั้ง""ในฐานะเพื่อนได้ไหมครับ"คุณเควินว่าต่อในเสียงและสีหน้าเชิงขอร้อง ฉันก็มองหน้าเขาอย่างคนคิดหนัก เขาขอช่วยในฐานะเพื่อนถ้าฉันปฏิเสธเพื่อนคนนี้ ก็ควจะเสียมารยาท"ก็ได้ค่ะ....แต่ริขอแค่ความช่วยเหลือจากคุณเควินแค่ครั้วนี้ครั้งเดียวนะคะ....ครั้งต่อไปไม่ต้องแล้วนะคะ....ริเกรงใจ"สิ้นคำพูดฉันคุณเควินก็มีสีหน้าดีใจขึ้นมา"ครับ....ขอบคุณนะครับที่ยอมรับความช่วยเหลือจากผมในครั้งนี้""มีอะไรหรือคะ?"ฉันเอ่ยถามคุณเควินต่อหลังจากที่เขาพูดจบประโยคเขาก็นิ่งไปและมองหน้สฉันอย่างคนอึดอัดใจเหมือนเขาอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่เขาก็เลือกที่จะไม่ยอมพูดมันออกมาฉันจึงเลือกที่จะเป็นฝ่ายถามเอง"ผมดูข่าวเกี่ยวกับไฟไหม้ที่บ้านของคุณและผมก็ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลว่าคุณเข้ามารับการรักษาที่นี่""ผมจึงรีบมา....และก็พบคุณแต่ทางโรงพยาบาลแจ
"แต่คงจะยาก.....เพราะเขามีหลักฐานขนาดนั้น" "และที่สำคัญเขาไม่รับฟังหรอกว่าแม่นายเองก็โดนหลอกเหมือนกัน" "เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงเอริ?" "ก็อย่างที่บอกว่าตอนนี้.....นายกำลังโดนโจมตรีจากคนที่นายเรยไปทำลายชีวิตเขายังไงล่ะ" "นายเกือบทำให้แม่นายต้องมาตายเพราะความเจ้าชู้ของนาย.....ขุนศึก" "และคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่างแม่นายต้องมาซวยต้องมาหมดตัวต้อยมาเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านสร้างมาก็เพราะนาย" "เพราะความเจ้าชู้ของนาย"ฉันพูดเสียงแข็งตะโกนใส่ขุนศึกไปเป็นชุดด้วยแววตาสั่นไหวน้ำตาเอ่อคลอ ขุนศึกก็ทำสีหน้ายอมรับความผิด สีหน้าของเขาซีดลงแววตาของเขาสั่นไหว "ขุนรู้ว่าทุกอย่างมันเป็นเพราะขุน....." "ที่มาทำให้แม่และก็ริเดือดร้อน" "ขุนจะจบเรื่องนี้เอง"ขุนศึกพูดเสียงเข้มแววตาจริงจังและวูบไหว "ผมฝากแม่ด้วยนะครับ" "เดี๋ยวผมมาได้ที่อยู่ใหม่ที่ไหนรบกวนป้าบัวโทรบอกผมด้วยนะครับ"ขุนศึกผละจากรถวีลแชร์เดินไปหยุดตรงหน้าของป้สบัวพร้อมกับเอ่ยบอกป้าบัว "ค่ะได้ค่ะว่าแต่คุณขุนศึกจะไปไหนคะ?"ป้าบัวรับคำขุนศึกและเอ่ยถามเขาต่อ ขุนศึกกฺ็หันกลับมามองหน้าฉัน ด้วยสายตานิ่งเฉย "ไปทำให้เรื่องทุกอย่างมันจบคร