"อย่าทำมาเป็นรู้ดี....เรื่องของฉันหน่อยเลย!!!"ขุนศึกตะโกนใส่หน้าฉันเสียงดังจนฉันแสบเเก้วหู เขาโกรธฉันแล้ว เขาโกรธฉันจริงๆขึ้นมาแล้ว"อื้อฮือ"ฉันร้องอื้ออึ้งในลำคอมาเมื่อคราวนี้ขุนศึกตะโกนใส่หน้าฉันเสร็จเขาก็ขึ้นคร่อมร่างฉันพร้อมกับจับมือของฉันขึ้นเหนือศีรษะและจัดการก้มหน้าหล่อๆของเขามาซุกไซ้ซอกคอของฉันอย่างรุนแรงจนฉันแสบคอไปหมดฉันพยายามดีดดิ้นตัวให้หลุดจากการจับกุมและการกระทำที่ป่าเถื่อนของเขาแต่มันก็ไม่เป็นผล"พี่ขุน!!!"เสียงแผดดังจนแสบแก้วหูของผู้หญิงดังขึ้นทำให้ฉันตกใจเบิกตาโพลงขึ้นซึ่งขุนศึกเองก็ตกใจไม่ต่างจากฉันเขาหยุดการกระทำและหันไปมองที่ต้นตอของเสียงนั้นทันทีฉันเองก็หันมองตามไปก็พบกับร่างเล็กของผู้หญิงคนหนึ่งที่เธออยู่ในชุดเดรสสีขาวกำลังยืนทำหน้าตาไม่พอใจอยู่ด้านหลังของขุนศึกและยังไม่ทันที่ขุนศึกจะได้ทำอะไรหรือพูดอะไร นามิก็เดินจ้ำอ้าวตรงดิ่งมาหาขุนศึกและจัดการกระชากร่างของขุนศึกให้ลุกออกไปจากร่างของฉันอย่างไว เธอผลักร่างของเขาจนเขาเซถอยหลังเสียหลักไปชนเข้ากับตู้โชว์ด้านหลังเธอไม่สนใจเขาอีกต่อไปแต่กลับตรงดิ่งมาหาฉันแทน "นามิ"ฉันเอ่ยเรียกชื่อเธอเสียงแผ่วเบา เธอก็จ้องฉันเข
คอนโดขุนศึกขณะเดียวกันหลังจากที่เอริวิ่งออกจากห้องของขุนศึกไปแล้วขุนศึก ขุนณรงค์...........พรึบ โพล๊ะ"เลิกบ้าสักที!!!"ผมตะโกนใส่หน้าของนามิพร้อมกับผลักร่างของเธอจนร่างของเธอเซไปด้านหลังและเสียหลักล้มลงนั่งก้นจ้ำเบ้าลงบนโซฟาเสียงดัง"พี่ขุน?"นามิเอ่ยเรียกผมเสียงอ่อนมาพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อคลอแววตาของเธอที่จ้องมองมาที่ผมมันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความโกรธที่แอบซ่อนอยู่ในนั้น ผมก็จ้องเธอกลับไปอย่างนิ่งเฉย"พี่ขุนกล้าทำอย่างนี้กับนามิได้ยังไงกันคะ"เธอเอ่ยถามผมอย่างไม่พอใจพลางยันตัวลุกขึ้นยืนเพื่อมาประจันหน้ากับผม ผมก็หรี่ตามองเธอก่อนจะแค่นหัวเราะออกมา"เธอไม่ได้มีความสำคัญกับฉันมากขนาดนั้น""ที่ฉันทำดีกับเธอก็เพราะใช้เธอเป็นหมากตัวหนึ่งในการเดินเกมส์ของฉันเท่านั้นเอง"ผมเอ่ยออกไปโดยใช้สายตามองเธอด้วยแววตาดูถูกตั้งแต่หัวจรดเท้าเท้าจรดหัว คิดเหรอว่าผู้หญิงที่ยอมผมง่ายขนาดนี้จะทำให้ผมหลงเธอได้น่ะ ผู้หญิงที่ผมหลงมีคนเดียวเท่านั้น ซึ่งมันไม่ใช่เธอ"หมากเดินเกมส์....หมายความว่ายังไงกันคะ?"เธอเอ่ยถามผมกลับมาอย่างสงสัย"ก็อย่างที่พูดไป.....หมากก็คือเบี้ยตัวหนึ่งในกระดาษหมากรุก.....ที่ไม่มีวันเท
"ถ้าแม่ฉันรู้ว่าครอบครัวเธอกำลังตกอับและหวังที่จะมาเกาะครอบครัวฉันเพื่อหวังเอาเงินไปใช้หนี้.....แม่ฉันก็คงจะไม่ยอมให้ฉันหมั้นกับเธอเด็ดขาด"ผมเอ่ยออกไปด้วยท่าทางที่เยาะเย้ยและดูถูกเธอกลับ นามิก็มองหน้าผมด้วยแววตาตกใจที่ผมรู้ความลับเรื่องนี้ของครอบครัวเธอสินะ ผมบอกแล้วว่าผมไม่ไว้ใจผู้หญิงตีสองหน้าคนนี้ "แก!!!"นามิชี้หน้าผมพลางเอ่ยชื่อผมอย่างโกรธจัดปากของเธอสั่นระริกเธอขบฟันกรอดๆแต่ผมก็ทำสีหน้าเย้ยยั้นใส่เธอกลับไป"เธอไม่ต้องเสแสร้งอีกต่อไปแล้ว.....เลิกทำตัวเป็นเด็กสาวใสซื่ออินโนเซ้นท์สักทีเถอะ .....รู้ป่ะว่ามันน่าสมเพช""ยิ่งผู้หญิงที่ผ่านสนามรบกับผู้ชายมาอย่างมากหน้าหลายตาอย่างเธอทำแล้วด้วยเนี่ย.....ยิ่งน่ารังเกียจจนน่าสมเพชสิ้นดีรู้ป่ะ""ไอ้ขุนศึก!!!"นามิเรียกผมเสียงดังอย่างคนที่โมโหถึงขีดสุดที่ผมไปพูดจี้แทงใจดำเธอและพูดดูถูกเธอ เธอง้างมือเล็กของเธอขึ้นหมายจะตบหน้าผม แต่ผมไวกว่าคว้าข้อมือเธอไว้ได้ทันผมก็กระตุกรอยยิ้มเยาะขึ้น "พี่พูดถูกเข้าหน่อยก็ทำโมโหเป็นฟืนเป็นไฟเลยนะจ๊ะน้องนามิ"ผมพูดเสียงหวานพลางทำแววตาเย้ยหยันใส่เธอไป นามิก็ยืนตัวสั่นเทาขบฟันกรอดเสียงดังอย่างโกรธจัด"อ้อแล้วเม
"คุณเอริ?"เสียงทุ้มเข้มเอ่ยเรียกฉันด้วยความสงสัยและไม่แน่ใจในการเอ่ยทักฉัน ฉันที่นั่งก้มหน้าก้มตากอดเข่าร้องไห้อยู่หน้าคอนโดหรูของขุนศึกต้องค่อยๆเงยหน้าที่อาบไปน้ำตาขึ้นไปมองเจ้าของเสียงนั่น ก็ต้องตกใจและแปลกใจกับบุคคลตรงหน้าที่นั่งยองๆลงตรงหน้าฉันอย่างสงสัยว่าเขามาทำอะไรที่นี่ในเวลานี้กันแน่ เขาควรที่จะอยู่ที่บ้านหรือไม่ก็ที่คอนโดเขาสิ"คุณเควิน?"ฉันเอ่ยเรียกชื่อเขาไปด้วยน้ำเสียงแหบแห้งพลางใช้มือที่ถูกมัดอยู่ปาดคราบน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มอยู่อย่างลวกๆฉันหยุดนิ่งจ้องใบหน้าหล่อของคุณเควินอย่างตะลึงที่อยู่ๆเขาก็ยื่นทิชชูมาซับริมฝีปากให้ฉันอย่างอ่อนโยน นัยน์ตาสีน้ำทะเลมองฉันด้วยความอ่อนโยนและมองต่ำลดสายตาไปที่บาดแผลบนใบหน้าฉันเขาก็มีสีหน้าที่เป็นกังวลขึ้นมาทันทีใช่สิ ฉันโดนตบมาหนิ เลือดกบปากเลยด้วยซ้ำ ตอนแรกอาจจะชาไปทั้งหน้าแต่ตอนนี้เริ่มเจ็บปากและปวดแสบเจ็บปวดแก้มทั้งสองข้างขึ้นมาแล้วนะ"ขอบคุณนะคะ"ฉันเอ่ยขอบคุณคุณเควินไปหลังจากที่เขาเช็ดคราบเลือดที่มุมปากให้ฉันเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยที่ฉันหลบสายตาต่ำลงเพราะไม่กล้าสบตาที่มีเสน่ห์และเต็มไปด้วยความลึกซึ้งคู่นั้นของคุณเควิน"ด้วยความเต็มใจค
คุณเควินก็ขึ้นมาบนรถของเขาพอดี เขาก็หันมายิ้มบางๆให้ฉันไปด้วยและคาดเบทส์ไปด้วย พอเสร็จเขาก็สตาร์ทรถและขับรถออกมาจากคอนโดแห่งนั้นโดยตลอดทางฉันนั่งเงียบกริบโดยไม่ส่งเสียงอะไรออกไปเลยคุณเควินก็ดีนะเขาเองก็ไม่ถามอะไรฉัน มีแต่เขาที่หันมามองฉันเป็นระยะๆด้วยความเป็นห่วง ฉันก็หันหน้ามองออกไปยังนอกหน้าต่าง และน้ำตาก็เอ่อคลออีกครั้งกับการกระทำของขุนศึกที่เขาทำกับฉันในวันนี้ เขาทำรุนแรงกับฉันเพราะเขาหึงหวงฉัน หรือเขาแค่หวงก้างกันแน่ ฉันปล่อยใจให้อยู่กับความคิดจนไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางที่คุณดควินจะพาฉันไปมันอยู่ที่ไหน จนกระทั่งเเรงสะกิดที่แขนฉันพร้อมกับเสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกชื่อฉัน ทำให้ฉันเผลอสะดุ้งตกใจและหันไปมองหน้าต้นตอของเสียงและเจ้าของมือที่สะกิดฉันทันที"ถึงแล้วครับ"คุณเควินเอ่ยบอกฉันพร้อมกับยิ้มละมุนให้ฉัรรฉันก็ละสายตาจากเขาและหันไปมองวิวนอกรถก็พบว่ามันคือคอนโดที่คุณเควินพาฉันดูมาเมื่อตอนบ่ายฉันจึงหันกลับไปมองหน้าคุณเควินด้วยความสงสัย เขาก็ยิ้มละมุนให้ฉันก่อนจะตอบฉันมา"ผมคิดว่าถ้าผมพาคถณเอริไปบ้านของผมก็คงจะไม่สมควร....ผมจึงพาคุณเอริมาที่นี่แทนครับ""ขอบคุณนะคะ"ฉันเอ่ยขอบคุณคุณเควินไปอ
คอนโดเควินเช้าวันต่อมา"ป้าแหม่มคะ?"ฉันเอ่ยเรียกชื่อของป้าแหม่มคนที่คุณเควินส่งให้มาดูแลฉันอย่างสงสัยว่าตอนนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่ในห้องครัว"นั่งรอที่โต๊ะอาหารได้เลยนะคะคุณเอริ^_^"ป้าแหม่มหันจากหน้าเคาน์เตอร์ครัวหันมาบอกฉันที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องครัว ฉันก็ยิ้มแหยๆอย่างเกรงใจเธอและเกรงใจคุณเควิน แต่ฉันก็ไม่มีสิทธิ์เลือกมากนักจึงเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ในห้องอาหารที่น่าจะจัดเตรียมไว้ให้คนได้มานั่งกินห้องของคุณเควินค่อนข้างหรูหรา เฟอร์นิเจอร์ก็ดูแพงเหลือเกิน คอนโดห้องนี้มีของเครื่องใช้ครบครันเรียกว่า เพนท์เฮ้าส์เลยก็ว่าได้เพราะมันหรูและใหญ่มากจริงๆ เมื่อคืนนี้ฉันนอนหลับสบายมากเลยล่ะ เอ่อฉันลืมบอกไปว่าห้องคอนโดนี้มีสองห้องนอนเมื่อคืนนี้ป้าแหม่มนอนอีกห้องนอนหนึ่ง ซึ่งเธอดูแลฉันดีมากหายาให้ฉันกิน แถมยังทำแผลให้ฉันอีกตั้งหาก "เจ็บเหมือนกันแหะ"ฉันพูดออกเมื่อเอามือมาจับที่แก้มทั้งสองข้างของตัวเองที่มันบวมและแดงจากการโดนตบเมื่อคืนนี้ เมื่อคืนนี้ยังไม่เจ็บเท่าไหร่ เพราะมันยังชาอยู่ แต่พอเช้านี้ทั้งเจ็บทั้งปวดเลย ปากก็ปวดแสบระบมไปหมดพรึบ"ข้าวต้มหมูร้อนๆมาแล้วค่ะ"เสียงป้าแหม่มเอ่ยออกมาเสียงใสพร
ฉันคิดว่าวันนี้คงจะไม่เจอขุนศึกแน่เพราะพรุ่งนี้ก็จะถึงวันหมั้นของเขากับนามิแล้ว เขาคงไม่มีเวลามายุ่งกับฉันหรอก"คุณจะไปไหนคะ?"ป้าแหม่มที่เธอเดินถือเครื่องดูดฝุ่นออกมาจากห้องนอนที่ฉันนอนเมื่อคืนก็เอ่ยถามฉันขึ้นด้วยความสงสัยที่เธอเห็นว่าฉันกำลังจะออกไปจากห้องนี้"หนูจะกลับไปเอาของที่บ้านนะคะ""และคุณจะกลับมาตอนไหนคะ?""น่าจะไม่เย็นมากค่ะป้า""อ้อคะป้าจะได้บอกคุณเควินถูก""ค่ะป้า....."ฉันพยักหน้ารับรู้คำป้าก่อนจะหันหลังเตรียมจะเดินออกไปยังห้องรับแขกแต่แล้วฉันก็นึกคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงหันกลับไปหาป้าแหม่มอีกครั้งเพื่อจะถามอะไรเธอสักหน่อย"เอ่อป้าคะ?""คะ?""ห้องอีกฝั่งมีคนมาอยู่ไหมคะ?"ฉันถามป้าพร้อมกับยกนิ้วชี้ไปยังห้องที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องที่ฉันอยู่"ก็คุณเควินไงคะ.....เมื่อคืนคุณเควินก็พักที่ห้องนั้นแหละค่ะและดูเหมือนคุณเควินจะมาอยู่ที่นี่ถาวรเลยนะคะ"คำพูดที่ไร้เดียงสาของป้าทำให้ฉันตื่นตกตะลึง หมายความว่าสองห้องนี้เป็นของเขาและเขาก็อยู่ห้องนั้นและไม่ได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านตามที่เขาบอกฉันสินะ"เขาเป็นเจ้าของคอนโดนี้ค่ะคุณ""เป็นเจ้าของคอนโดด้วยหรือคะ?"ฉันเอ่ยออกไปอย่างตกตะลึงพร้อมกับเบิกต
วันต่อมาบ้านเอริ เอริ ฐิติมน......16:30น.พรึบติ๋งฉันวางแก้วน้ำลงตรงถาดวางแก้วและรีบมาดูการแจ้งเตือนอีเมลที่เพิ่งจะถูกส่งมาในไอแพดของฉันทันที เพราะฉันดูซีรีย์ค้างไว้นะ และเกิดหิวน้ำเลยเดินไปหยิบน้ำในครัวมาดื่มแต่แล้วก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนอีเมลพอดีฉันจึงไม่รอช้ารีบเปิดอีเมลเช็คดูทันทีว่าใครส่งมาและก็เป็นไปอย่างที่ฉันคาดหวังไว้ ทำให้ฉันอมยิ้มขึ้นมาเมื่อได้อ่านข้อความจากอีเมลของบริษัทเบสท์เวิร์คแอร์ไลน์สายการบินของประเทศที่จะออกบินไปหลายประเทศมันคือข้อความที่ฉันเฝ้าคอยมา เขาบอกว่าฉันได้ทำงานที่สายการบินเบสท์เวิร์คแอร์ไลน์เรียบร้อยแล้ว อีกสองวันให้เข้าไปรายงานตัว"เย้^_^"ฉันร้องเย้ขึ้นมาอย่างดีใจพร้อมกับลุกขึ้นยืนกระโดดโลดเต้นไปมารอบๆโซฟาตัวแพงกลางห้องนั่งเล่น อย่างนี้ต้องฉลองซะหน่อยแล้วฉันกลับมาอยู่บ้านที่ขุนศึกซื้อให้ และกะว่าจะไม่ไปอยู่ที่คอนโดของคุณเควินอีกแล้ว ไม่ใช่ว่าฉันรังเกียจเขาหรืออะไรหรอกนะ แต่ฉันอยากจะหยุดความสัมพันธ์ของเราสองคนไว้เพียงแค่นี้ ฉันไม่อยากทำลายคนดีๆอย่างคุณเควิน เพราะต่อให้เขาทำดีกับฉันแค่ไหน ฉันก็รู้หัวใจตัวเองดี ว่าฉันไม่สามารถที่จะรักเขาได้ และมันก็ไ
"ผมเกลียดคุณเข้าใจไหม""ไม่จริงคุณไม่ได้เกลียดแก้มหวานคุณรักแก้มหวาน""ไม่งั้นคุณจะมาทำดีกับแก้มหวานทำไม""ที่ผมทำดีกับคุณเพราะผมติดใจในเซ็กส์ของคุณไง....คุณรู้ไหมว่าคุณเป็นผู้หญิงที่เร้าร้อนและร้อนแรงเรื่องบนเตียงมากแค่ไหน"เควินพูดพร้อมกับเดินตรงมาหาแก้มหวาน"ผมไม่เคยมีอะไรกับใครแล้วมีความสุขเท่าคุณ"เควินว่าพร้อมกับใช้ปลายนิ้วเรียวไล้เกี่ยไปตามแขนของแก้มหวานอย่างแผ่วเบา พร้อมกับมองแก้มหวานด้วยแววตาหวานเยิ้ม"ผมก็เลยเล่นตามน้ำคุณถึงแม้ในใจผมมันจะสนแค่ร่างกายคุณแต่นิสัยและสันดานของคุณผมรังเกียจมันเสียด้วยซ้ำ"เควินพูดไปพลางมองไปที่ร่างของแก้มหวานด้วยสายตาดูถูกและเหยียดหยาม"ผมก็นึกว่าคุณจะเล่นๆกับผมแต่ที่ไหนได้คุณคิดจริงจัง"เควินว่าพลางยิ้มหัวเราะออกมาอย่างเรื่องที่เป็นประเด็นสนทนาอยู่ในตอนนี้เป็นเรื่องตลก ทำให้แก้มหวานมองผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่พอใจและน้อยใจไปในตัวเธอคิดว่าเขาจะสนใจและมีความรู้สึกดีๆให้เธอเสียอีก แต่ที่ไหนได้เขากลับไม่ได้มีใจให้เธอเลย "ไม่ต้องมองผมแบบนั้นหรอก.....ผมพูดความจริง""และต่อไปคุณก็ช่วยกรุณารู้จุดยืนของตัวเองด้วยนะ"เควินเอ่ยออกมาปิดท้ายแววตาที่เขามองเธอเวลาพูด
"ไม่ใช่ว่าริเป็นซิงเกิ้ลมัมไม่ได้แต่ริไม่อยากเป็นไม่อยากให้ลูกมีแค่ริที่ทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกันแต่อยากให้ลูกได้รับความรักจากพ่อแท้ๆของเขาและความเอาใจใส่จากพ่อของเขาจริงๆ" "คนที่ไม่เคยขาดพ่อขาดแม่ไม่มีวันเข้าใจหรอกไม่ว่าแม่จะดูแลดีแค่ไหนแต่มันก็ไม่เหมือนความรักที่มีทั้งพ่อและแม่อยู่ครบ" "ริหวังว่าขุนจะเข้าใจนะ....ขุนแค่ทำหน้าที่พ่อของลูกเท่านั้นพอ....." "ริ....." "หรือขุนอยากจะเลือกก็ได้นะระหว่างทำหน้าที่พ่อของลูกหรือจะไม่รับหน้าที่อะไรเลยก็ได้" "ก็ได้ขุนจะเอาแบบที่ริว่าก็ได้"ขุนศึกที่ได้ยินคำขาดจากฉัน เขาก็พูกเสียงเข้มแทรกขึ้นมาทันที "แต่ขุนจะทำให้ริเห็นว่าขุนพร้อมที่จะหยุดและมีแค่ริคนเดียวแล้วจริงๆ"ขุนศึกว่าพร้อมกับทำหน้ามั่นใจว่าเขาจะสามารถทำอย่างที่เขาพูดได้จริงๆ แต่เขาก็พูดแบบนี้ทุกครั้งที่ฉันจับเขาได้ว่าเขาแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นและฉันก็ไว้ใจและเชื่อใจเขามาตลอดและเป็นยังไงล่ะ สุดท้าย ฉันก็เป็นอีโง่เหมือนเดิม เคยยอมเสียศักดิ์ศรีตัวเองแก้ผ้าให้ขุนศึกเอาเพื่อให้เขาเลิกไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น นั่นมันเป็นความคิดเด็กน้อยชะมัด "ทำให้ได้ก่อนค่อยมาว่ากันอีกที..
วันเดียวกัน23:30น.เอริ ฐิติมน......จึกๆๆ"ริ......""หื้ออออ"ฉันครางรับเสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกฉันพร้อมกับแรงสะกิดที่ไหล่ฉันเบาๆฉันที่นั่งขดตัวหลับอยู่บนโซฟาภายในห้องโถงใหญ่ก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาดูเจ้าของเสียงที่ฉันเฝ้ารอเขาจนเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้"ขุน......กี่โมงแล้วเนี่ย?"ฉันขยี้ตาเพื่อไล่ความสะลึมสะลือความงัวเงียให้หายไปพร้อมกับเอ่ยถามขุนศึกไป"เที่ยงคืนกว่าแล้ว....ริมานอนทำไมตรงนี้?"ขุนศึกตอบฉัรพร้อมกับเอ่ยถามฉันกลับ ฉันที่หายจากอาการสะลึมสะลือแล้วแล้วก็ขยับตัวนั่งดีๆและหันไปมองหน้าขุนศึกที่เขานั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับฉันและนั่งข้างๆฉันด้วย"ริมารอขุนนั้นแหละ.....ทำไม่มาซะดึกเลย....หาไม่เจอเหรอ?""เปล่า.....พอดีขุนไปทำธุระมาน่ะ""อ้อ"ฉันพยักหน้าพลางร้องตอบขุนศึกไป แม้ในใจอยากจะถามเขาว่าธุระที่เขาว่าคืออะไร แต่สีหน้าและแววตาของขุนศึกเหมือนไม่อยากบอกให้ฉันรู้ว่าธุระที่เขาพูดถึงคืออะไรถ้าเขาไม่อยากบอก ฉันก็ไม่ควรที่จะถามต่อสินะ เพราะฐานะของฉันกับเขาไม่มีสิทธิ์ซักไซ้จนได้รู้เรื่องส่วนตัวของเขามากไปกว่านี้"ว่าแต่ริมารอขุน......มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า"ขุนศึกถามฉันพร้อมกับจ้องมองฉั
จะปล่อยห้องว่างไวโดยไร้คนอยู่ก็เสียดาย ฉันก็เลยใจอ่อนและยอมมาอยู่ที่นี่ซึ่งฉันคิดว่ามันสะดวกสบายดี บ้านที่ฉันหาในเน็ตก็มองทรุดโทรมและค่าเช่าก็แพง อะไรที่ประหยัดได้ในตอนนี้ฉันก็ควรจะประหยัดและตอนนี้ฉันก็ท้องด้วย ฉันควรจะมีเงินสำรองไว้เลี้ยงลูกของฉันให้เขาอยู่อย่างสุขสบายให้เยอะๆดีกว่าฉันควรจะบอกเรื่องนี้กับขุนศึก......ว่าฉันท้องกับเขา....."ป้าบัวคะ""จ๊ะว่าไงจ๊ะเอริ?"ป้าบัวที่กำลังยกชามกะละมังที่เช็ดตัวคุณหญิงเพิ่งเสร็จหันมาขานรับฉันเงินก้อนใหญ่ฉันก็ให้ขุนศึกไปหมดแล้ว รถก็ขายทิ้ง บ้านก็มาไฟไหม้อีก ค่ารักษาพยาบาลคุณหญิงค่าใช้จ่ายรายเดือนก็สูง โดยเฉพาะค่ากายภาพบำบัดที่ฉันว่าจ้างให้นางพยาบาลที่เป็นคนทำกายภาพบำบัดและศึกษาด้านนี้มาโดยเฉพาะให้มาดูแลคุณหญิงทุกวันโดยทำกายภาพบำบัดให้คุณหญิงเดินได้อีกครั้งและฉันจะทำทุกวิถีทางให้ชีวิตของลูกฉันมีความสุขและสุขสบายที่สุดไม่ให้ลำบากและรู้สึกขาดแบบที่ชีวิตฉันเคยเป็นมา ฉันจะเลี้ยงเขาให้ดีที่สุดเท่าที่สุดของความสามารถของฉัน"ป้าบัวส่งโลเคชั่นให้ขุนหรือยังคะว่าเราอยู่ที่ไหนกัน?"ฉันเอ่ยถามป้าบัวไป ท่านก็ยิ้มบางๆให้ฉัน"ป้ากำลังจะไปส่งโลเคชั่นให้คุณข
"ไม่ว่าฉันจะให้แกทำอะไรแกก็ยอมใช่ไหม?"แก้มหวานเอ่ยถามผมด้วยแววตามีเลศนัยพร้อมยกยิ้มที่มุมปากขึ้น ผมก็จ้องมองเธอนิ่ง และผมก็อยากทำให้เรื่องทุกอย่างมันจบลง วันนี้คุณแม่ผมเกือบจะไม่รอด เพราะผมเป็นตัวต้นเหตุ วันนี้อาจจะโชคดี แต่มันก็คงตะไม่โชคดีทุกครั้งไป "ใช่" "ถ้าฉันให้แกไปตายล่ะ" "มันไม่มากไปเหรอ?"ผมถามเธอไปเสียงเข้ม เรื่องที่ผมและเพื่อนๆทำกับเธอ เธอก็ยังมีชีวิตอยู่และดีด้วยจนถึงทุกวันนี้ไม่ใช่เหรอ "หึ.....ฉันรู้ว่าแกคงไม่กล้าตายหรอก" "งั้น......ฉันขอแลกศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของแกก็ล่ะกันนะ" "ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของฉัน?" "กราบตีนฉันสิ.....แล้วฉันจะเลิกยุ่งกับแม่แกและก็เอริผู้หญิงที่แกบอกว่ารักนักรักหนาด้วย" "ไม่รู้ว่าแกรักเธอยังไงนะถึงได้นอกกายนอกใจเธอนอนกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ตลอดเวลา" "ถ้าฉันเป็นเอริฉันคงไม่เอาผู้ชายเลวๆที่ทำตัวเหมือนหมาตัวผู้ที่ต้องผสมพันธุ์ไปทั่วโดยไม่สนว่าใครเป็นใคร" "แบบแกหรอกนะขุนศึก" "แค่ฉันกราบตีนเธอ.....แค่นี้ก็พอแล้วใช่ไหม?"ผมไม่สนใจคำพูดที่ถากถางของแก้มหวานแต่เอ่ยถามในสิ่งที่จะเป็นตัวหยุดเรื่องนี้กับเธอไป เธอก็ทำหน้าบึ้งตึงนิดหน่อยก่อนจะแสยะยิ้มให้ผม
เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องผมก็ยื่นมือไปกดออดเพื่อเรียกคนในห้องให้รู้ว่ามีคนมาขอพบเธอผมรออยู่ไม่นานและกดออดซ้ำไปแค่ครั้งเดียว ประตูห้องหรูบานตรงหน้าผมก็ค่อยๆถูกเปิดออกจากคนที่อยู่ด้านในของห้องนี้ผมก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองบุคคลที่เป็นคนมาเปิดประตูเธอเป็นผู้หญิงผอมสวยหุ่นดี เธออยู่ในชุดเดรสสั้นสายเดี่ยวสีแดงผมของเธอถูกดัดเป็นลอนใหญ่แล้วปล่อยสยายไปด้านหลังสีหน้าที่เธอจ้องมองมาที่ผมด้วยแววตาสงสัย และเพ่งมองพินิจพิจารณาอย่างสงสัยว่าผมคือใครผมจึงค่อยๆใช้มือดึงฮู้ดที่ปิดหน้าของผมอยู่ให้ออกเพื่อเผยใบหน้าของผมให้เธอคนนี้ได้เห็นอย่างชัดเจนขึ้นและในเมื่อใบหน้าของผมที่ไร้เสื้อฮู้ดปกผิดเปิดเผยแก่คนตรงหน้าเธอก็จ้องมองผมด้วยแววตาตกใจและแปลกใจ ผมก็จ้องมองเธอกลับไปด้วยแววตาเรียบเฉยเมื่อแปดปีก่อน เธอกับผมเราคงจะคุ้นตากันเพราะเราสองเคยมีอะไรกันและแอบเป็นแฟนกันมาก่อนทั้งๆที่ผมเองก็มีแฟนอยู่แล้วผมไม่ได้ตั้งใจจะหลอกเธอ แต่ผมคิดว่าผู้หญิงทั้งมหาลัยก็น่าจะรู้ดีว่าผมมีเจ้าของอยู่แล้ว แต่กลับผิดคาดที่เธอคนนี้ไม่รู้ เธอจึงปล่อยใจรักผมแต่ผมกลับไม่เคยรักเธอ ไม่ว่าเธอจะแสนดีและน่ารักแค่ไหน ผมก็ไม่เคยคิดที่จะรั
ช่วงเย็นวันเดียวกันคอนโด TYขุนศึก ขุนณรงค์......"ขอบคุณสำหรับข้อมูลตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าคอนโดที่แกบอกแล้ว""คอนโดTYชั้นที่สามสิบห้องสามสามสี่ห้าฉันจำได้ล่ะขอบใจแกมากฟิว"ผมเอ่ยบอกฟิวไปในขณะที่สายตาก็ทอดมองเงยหน้าไปยังชั้นบนสุดชั้นที่สามสิบของตึกสูงตระหง่านใจกลางเมืองตรงหน้าของผมในขณะนี้(แกคิดที่จะทำอะไร?)(ตอนนี้เขามีอิทธิพลมากกว่าแกเขาสามารถทำให้แกหายไปโดยไม่มีใครสงสัยได้เลยนะขนาดทำให้ชีวิตของแกพังเขาก็ยังทำได้)(ฉันว่าแกไม่สมควรที่จะประมาทผู้หญิงคนนี้)เสียงปลายสายของฟิวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงห่วงใย ผมจึงละใบหน้าจากตึกสูงตรงหน้าและเอ่ยคุยกับฟิวต่อ"ฉันรู้ขอบใจและขอโทษที่ทำให้ชีวิตของแกต้องมาติดร่างแหพลอยซวยไปกับฉันด้วย"ผมเอ่ยบอกหิวไปอย่างคนที่รู้สึกผิดที่ออกมาจากใจจริงไปของผม(แกไม่ได้ทำอะไรผิดถ้ามันจะผิดก็ผิดกันหมดนี่แหละ)(มันคงจะเป็นเพราะตอนนั้นพวกเรายังเด็กเลยไม่ได้คิดอะไรให้มากกว่านี้เลยทำเรื่องแบบนั้นลงไป)(ฉันไม่มีสิทธิ์โกรธแกหรือแก้มหวานเลยด้วยซ้ำ)"นั่นสิเนอะ....ฉันก็ไม่สมควรที่จะโกรธแก้มหวานด้วยเหมือนกัน"ผมเอ่ยออกมาอย่างคิดนึกตริตรองอย่างที่ฟิวว่าที่จริงถ้าตอนนั้นผมไม่คึกค
"ผมขอโทษครับ""คุณจะมาขอโทษฉันทำไมล่ะค่ะ....ฉันเองต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณสิถึงจะถูก""เดี๋ยวฉันจะโอนจ่ายค่ารักษาให้คุณทีหลังนะคะ....เพราะวันนี้ฉันไม่มรเงินติดตัวเลย"ฉันเอ่ยบอกคุณเควินไปตามความจริง เขาก็มีสีหน้าตกใจและสลดปะปนกันไป"อย่าโอนจ่ายค่ารักษาให้ผมเลยครับ...ขอให้ผมได้ดูแลคุณสักครั้ง""ในฐานะเพื่อนได้ไหมครับ"คุณเควินว่าต่อในเสียงและสีหน้าเชิงขอร้อง ฉันก็มองหน้าเขาอย่างคนคิดหนัก เขาขอช่วยในฐานะเพื่อนถ้าฉันปฏิเสธเพื่อนคนนี้ ก็ควจะเสียมารยาท"ก็ได้ค่ะ....แต่ริขอแค่ความช่วยเหลือจากคุณเควินแค่ครั้วนี้ครั้งเดียวนะคะ....ครั้งต่อไปไม่ต้องแล้วนะคะ....ริเกรงใจ"สิ้นคำพูดฉันคุณเควินก็มีสีหน้าดีใจขึ้นมา"ครับ....ขอบคุณนะครับที่ยอมรับความช่วยเหลือจากผมในครั้งนี้""มีอะไรหรือคะ?"ฉันเอ่ยถามคุณเควินต่อหลังจากที่เขาพูดจบประโยคเขาก็นิ่งไปและมองหน้สฉันอย่างคนอึดอัดใจเหมือนเขาอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่เขาก็เลือกที่จะไม่ยอมพูดมันออกมาฉันจึงเลือกที่จะเป็นฝ่ายถามเอง"ผมดูข่าวเกี่ยวกับไฟไหม้ที่บ้านของคุณและผมก็ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลว่าคุณเข้ามารับการรักษาที่นี่""ผมจึงรีบมา....และก็พบคุณแต่ทางโรงพยาบาลแจ
"แต่คงจะยาก.....เพราะเขามีหลักฐานขนาดนั้น" "และที่สำคัญเขาไม่รับฟังหรอกว่าแม่นายเองก็โดนหลอกเหมือนกัน" "เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงเอริ?" "ก็อย่างที่บอกว่าตอนนี้.....นายกำลังโดนโจมตรีจากคนที่นายเรยไปทำลายชีวิตเขายังไงล่ะ" "นายเกือบทำให้แม่นายต้องมาตายเพราะความเจ้าชู้ของนาย.....ขุนศึก" "และคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่างแม่นายต้องมาซวยต้องมาหมดตัวต้อยมาเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านสร้างมาก็เพราะนาย" "เพราะความเจ้าชู้ของนาย"ฉันพูดเสียงแข็งตะโกนใส่ขุนศึกไปเป็นชุดด้วยแววตาสั่นไหวน้ำตาเอ่อคลอ ขุนศึกก็ทำสีหน้ายอมรับความผิด สีหน้าของเขาซีดลงแววตาของเขาสั่นไหว "ขุนรู้ว่าทุกอย่างมันเป็นเพราะขุน....." "ที่มาทำให้แม่และก็ริเดือดร้อน" "ขุนจะจบเรื่องนี้เอง"ขุนศึกพูดเสียงเข้มแววตาจริงจังและวูบไหว "ผมฝากแม่ด้วยนะครับ" "เดี๋ยวผมมาได้ที่อยู่ใหม่ที่ไหนรบกวนป้าบัวโทรบอกผมด้วยนะครับ"ขุนศึกผละจากรถวีลแชร์เดินไปหยุดตรงหน้าของป้สบัวพร้อมกับเอ่ยบอกป้าบัว "ค่ะได้ค่ะว่าแต่คุณขุนศึกจะไปไหนคะ?"ป้าบัวรับคำขุนศึกและเอ่ยถามเขาต่อ ขุนศึกกฺ็หันกลับมามองหน้าฉัน ด้วยสายตานิ่งเฉย "ไปทำให้เรื่องทุกอย่างมันจบคร