พอกลับมาถึงห้องอันดารันก็เห็นเจียอีจัดแจงของใช้แยกประเภทอย่างเป็นระเบียบ “นี่อย่าลืมล้างมือตั้งแต่กลับมาผมยังไม่เห็นคุณล้างมือเลยนะ” เจียอีพูดในขณะที่มือยังไม่หยุดหยิบจับนู่นนี่“มือฉันสะอาดจะตาย”“นี่คุณคงไม่รู้จักโควิดสินะ” แม้อันดารันไม่พูดอะไรออกมาเจียอีก็พอจะรู้ว่าเจ้าตัวคงไม่รู้อะไรจริงๆนั่นแหละนอกจากจะอวยตัวเองไปวันๆเหมือนนกหงส์หยก“เป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่งติดผ่านอากาศเมื่อกี้คุณก็เห็นว่าคนส่วนใหญ่สวมแมสกันหมดมีเพียงแค่ไม่กี่คนที่ไม่ได้สวมโควิดติดกันทางอากาศหายใจการสัมผัสเพราะฉะนั้นก่อนจะหยิบจับอะไรไปไหนมาไหนต้องล้างมือและเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำก่อนก็ดี” “ทำยังกะว่าโลกจะแตกยังงั้นแหละ”“ก็อาจจะเห็นทางยุโรปและบางประเทศติดกันจนโรงพยาบาลไม่มีเตียงให้คนไข้อีกทั้งยังต้องสวมชุด PPE ชุดเหมือนอยู่ในอวกาศ”“ขนาดนั้นเลย?”“ประเทศเรายังดียังไม่ได้ระบาดขนาดนั้นแต่ผมดูแล้วว่าคงอีกไม่นานระบาดหนักแน่ผมเลยทยอยตุนของข้าวสารอาหารแห้งพวกน้ำดื่มยาแมสอะไรพวกนี้มาสักพักละ”อันดารันมาจากโลกที่รัฐบาลเคยผ่านการระบาดอย่างหนักของโรคติดต่อชนิดหนึ่งมาก่อนก่อนที่รัฐบาลจะจัดตั้งโครงการจับคู่ไข่กับอสุจิขึ้นมาเพ
อั๊ก อีกฝ่ายลงไปนอนกุมท้องหน้าดำหน้าเขียวอยู่กับพื้น สีหน้าทุรนทุรายเป็นที่สุด“ถึงฉันจะทุรนทุรายจากการฮีทแค่ไหนก็ไม่หน้ามืดตามัวขอร้องแกหรอกย่ะอย่าหวังว่าจะได้แอ้ม” อันดารันพูดเสร็จก็เดินข้ามอีกฝ่ายไปยังห้องครัวรื้อหาของกินอย่างสบายใจเฉิบใกล้ช่วงฮีทแล้วต้องบำรุงสักหน่อยเพราะโลกเดิมเป็นโอเมก้าที่เคร่งครัดเรื่องอาหารการกินรวมไปถึงครีมสารพัดเน้นการบำรุงภายในสู่ภายนอกแม้อาร์ชินคนรักจะเป็นเบต้าไม่รับรู้ถึงกลิ่นฟีโรโมนใดๆแต่ก็ช่วยปลอบประโลมเขาจนผ่านสภาวะฮีทมาได้แม้ว่าอาร์ชินกับเขาจะมีความเข้ากับไข่และอสุจิต่ำมากก็ไม่สำคัญอันดารันคิดว่าทั้งชั่วชีวิตของเขาไม่มีใครจะรักและเข้าใจเขาไปมากกว่าอาร์ชินอีกแล้วแต่พอนึกถึงตอนที่อีกฝ่ายถูกดาเมียนลากออกไปลางสังหรณ์อันเฉียบคมบอกเขาว่าระหว่างดาเมียนและอาร์ชินจะต้องเป็นคู่ที่มีการเข้ากันของไข่และอสุจิสูงอย่างแน่นอนอาร์ชินเปรียบเสมือนภูเขาลูกใหญ่ที่คอยเป็นที่กำบังรวมไปถึงเป็นที่พักพิงโอเมก้าที่หยิ่งทะนงภายนอกแข็งกร้าวแต่ความจริงเป็นเพียงเปลือกหนาที่อันดารันสร้างขึ้นมาปกป้องตัวตนที่อ่อนแอและบอบบางของตัวเองเขารู้สึกสะใจทุกครั้งที่ได้เห็นใบหน้าบิดเบี้ยวของผู้
คืนนี้เป็นคืนแรกที่พวกเขาสองคนต้องนอนด้วยกันแต่ว่านะดูเหมือนคุณสรพงษ์จะเข้าใจอะไรผิดไปนี่คือห้องของเขาส่วนคุณสรพงษ์น่ะคนมาขออยู่อาศัยแท้ๆกลับนอนตีพุงตากลมกระดิกตีนอยู่บนเตียงสบายใจเฉิบไม่รู้สึกเกรงอกเกรงใจเลยสักนิด“นี่คุณสรพงษ์โน้นที่นอนของคุณอยู่ข้างล่าง” เจียอีชี้ไปยังฟูกที่นอนที่เขาปูให้เรียบร้อยอยู่ตรงข้างล่างเตียง“เรื่องอะไร”“เรื่องอะไรอีกล่ะนี่ห้องผมและผมก็ไม่ใช่สุภาพบุรุษพอที่จะให้คุณมานอนบนเตียงส่วนผมนอนข้างล่างหรอกนะ”“เป็นเรื่องที่นายควรจะทำไม่ใช่เหรอไง”“ฮะ”“เรื่องอะไรฉันจะต้องนอนที่พื้นแบบนั้นด้วยปวดหลังตาย!” “ลงมาเดี๋ยวนี้เลยนะ”“ก็บอกว่าไม่ไงหูหนวกหรือไง”“ลงมาเดี๋ยวนี้เลย” เจียอีฉุดกระชากลากถูอีกฝ่ายลงมาจากเตียงอย่างทุลักทุเล “อะแกจะลากฉันแบบนี้ไม่ได้นะโอ๊ย!” อันดารันร้องเสียงหลงออกมาเสียงดังเจียอีจึงหยุดการกระทำของตัวเองทันที“ปะเป็นอะไรไป”“ก็เจ็บแขนน่ะสิฉันต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ก็เพราะใครไอ้บ้า” อันดารันลูบแขนตัวเองด้านขวาป้อยๆเหมือนหางตาจะมีหยาดน้ำตาซึมออกมาเจ็บปวดไปจนถึงกระดูกคำนี้ไม่เกินจริง “จะเจ็บจริงเหรอ” อันดารันหันขวับเมื่อได้ยินคำถามโง่ๆแบบนั้น“เจ็บจ
“ดิ้นให้ตายยังไงก็ไม่หลุดหรอก” ลมหายใจร้อนเป่ารดที่ใบหูขาวทำเอาคนใต้ร่างขนลุกซู่ “อื้อเจ็บซี้ด” แขนขวาที่หักก็ถูกอีกฝ่ายกดเอาไว้เช่นกันอันดารันเจ็บจนน้ำตาซึมหางตาเปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาเจียอีเงยหน้าขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียงร้องพร้อมกับคลายวงแขนออกพลันสายตาหยุดชะงักกับหน้าตาเหยเกของอีกฝ่ายมันไม่ได้ดูน่าสงสารแต่มันดูน่ากลั่นแกล้งเข้าไปอีกจิตใต้สำนึกของชายที่โสดมายาวนานอย่างเจียอีจู่ๆก็มีภาพคุณสรพงษ์ร่ำไห้น้ำตาไหลร้องแทบขาดใจโดยร่างบางโยกคลอนไปตามแรงกระแทกเสียงครวญครางกระเส่าที่ดังออกมาจากริมฝีบางไม่หยุด“เชี่ย!” เจียอีสะบัดหน้าอย่างแรงเพื่อไล่ภาพอกุศลนั้นออกไปแต่สีหน้าคล้ายเว้าวอนของคนใต้ร่างทำเอาเจียอีตกอยู่ในภวังค์ “ทำหน้าแบบนี้หมายความว่าไง” “อะไร!”“อย่าไปทำหน้าแบบนี้ให้ใครเห็นอีกเข้าใจไหม”“เฮอะ! เบต้ากระจอกอย่างแกอย่าใฝ่สูงให้มากโอเมก้าอันดับหนึ่งอย่างฉะ—”เสียงถูกกลืนคงไปในลำคออย่างรวดเร็วรู้ตัวอีกทีริมฝีปากของเขาก็แนบชิดสนิทกับอีกฝ่ายจนไม่เหลือช่องว่างอันดารันตะลึงจนสองตาเบิกกว้างแทบจะถลนออกมาอันดารันเบี่ยงหน้าหนีสุดกำลังแต่กลับถูกล็อกไว้ด้วยฝ่ามือหนาตรึงหน้าไว้ไม่ให้หันหนีไ
“ไม่แน่ที่คุณถูกทิ้งแบบนี้อาจเป็นเพราะนิสัยแย่ๆของคุณก็ได้” ประโยคนี้เหมือนค้อนปอนด์ที่ทุบหัวอันดารันเข้าอย่างจังเขารู้ดีว่าตัวเองนิสัยแย่แต่ไม่เคยมีใครหน้าไหนกล้าว่าเขาต่อหน้าแบบนี้มาก่อนแม้แต่พี่สะใภ้อย่างไลลาแม้จะเป็นไม้เบื่อไม้เบากันจิกกันพอหอมปากหอมคอแต่ก็ไม่เคยเจ็บใจขนาดนี้มาก่อนไหนจะยัยดาเมียนหยุมหัวกันมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งคำพูดคำด่าที่สาดโคลนใส่กันก็ไม่เคยระคายผิวและแทงเข้าในใจเหมือนคำพูดของคนตรงหน้าเลยสักนิดแม้แต่พ่อของเขาอย่างอาคเนย์ที่เอาแต่ด่าลูกชายโอเมก้าว่าเสเพลไม่เป็นโล้เป็นพายก็ไม่ได้ตกผลึกเท่ากับคำพูดของผู้ชายตรงหน้าคนธรรมดาที่พบเจอกันได้ไม่กี่วันแต่คำพูดกลับมีผลต่อความรู้สึกมากนัก“ฉันนิสัยเสียแล้วไงแกชนฉันแกต้องรับผิดชอบ” คางเล็กถูกบีบจนใบหน้าบู้บี้ไปหมด“ผมบอกแล้วไงว่าให้พูดให้ดี”“อ่อยอันน่ะ” “ปล่อยนะปล่อยแน่แต่ต้องทำโทษให้เข็ดหลาบโทษของคุณมีสองกระทงกระทงแรกกินเหลือกระทงที่สองพูดคำหยาบถ้าไม่มีใครสอนคุณได้ผมจะสอนคุณเอง” อันดารันตกใจที่ถูกอีกฝ่ายอุ้มร่างพาดบ่ามาตรงโซฟาเจียอีอุ้มอีกฝ่ายแล้ววางร่างคว่ำพาดหน้าขาเหมือนเด็ก“จะทำอะไร” อันดารันถามเสียงแข็ง“ทำโทษไง”เพีย
โอเมก้าหลงยุคอย่างอันดารันเริ่มเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับผู้คนที่นี่อย่างรวดเร็วประการแรกหากเขาสวมผ้าพันคอมนุษย์ร่างยักษ์ตรงหน้าไม่มีวันให้เขาก้าวเท้าออกจากห้องไปช็อปปิ้งเป็นอันขาดและเป็นอย่างแรกที่อันดารันต้องทำตัวให้ชินแต่มันก็คงจะไม่ใช่เร็วๆนี้อย่างแน่นอนปลอกคอเปรียบเสมือนอวัยวะที่ 33 ของโอเมก้าใส่ตั้งแต่ตื่นยันนอนจะให้ไม่ใส่เลยก็ออกจะรู้สึกแปลกๆ “นี่คุณจะเดินกุมต้นคออะไรนักหนา”“ก็มันระแวงนี่” “ระแวงอะไรของคุณ” “ก็—” เมื่อเห็นสายตารวมถึงใบหน้าสุดกวนถามออกมาแบบนั้นอันดารันก็พูดไม่ออกจะว่าไงดีล่ะแบบว่ากลัวเจออัลฟ่าที่กำลังรัทแบบนั้นน่ะเหรอหรือว่ากลัวตัวเองจะถูกทำพันธะโดยไม่ยินยอม “จะพูดไม่พูด” เจียอีกอดอกมองอีกฝ่ายที่มัวแต่ทำตัวแปลกประหลาดพร้อมเดินกุมคอตัวเองไปด้วยความหวาดระแวง“ต้นคอคุณเป็นอะไรปวดเจ็บหรือยังไง” “เปล่า”“เปล่าแล้วเดินกุมทำไมงั้นก็ส่งมือมา”“อะไร”“ก็จะจับไว้แบบนี้แหละจะได้ไม่ต้องเดินกุมคอแบบนั้นอีก” อันดารันทำตัวไม่ถูกเมื่ออีกฝ่ายยื่นมือมากุมมือซ้ายเอาไว้สองมือสอดประสานกันจับจูงกันไป“อีกอย่างคนเยอะคุณจะได้ไม่หลง”“อ้อ” “สวมแมสดีๆอย่างดึงลงคนยิ่งเยอะอยู่ด้วย
ไอ้คำว่าไม่เท่าไหร่ก็คงจะเหมือนวลีที่ผู้หญิงชอบพูดกันว่าไม่มีอะไรจะใส่นั่นละมั้งโอ้โฮเสื้อผ้ากางเกงหลากสีที่คุณเขาเทออกมาจากกระสอบน่ะเต็มพื้นห้องแทบไม่มีทางเดินส่วนเงินสามร้อยที่เหลือคุณเขาก็แทบจะพุ่งตัวไปร้านขายครีมก็ถือว่าไม่เกินงบละนะบอกว่าจะให้พันนึงก็พันนึงจริงๆอย่างน้อยก็ไม่รบเร้าอยากได้เหมือนเมื่อก่อน“ต้องซักก่อนนะก่อนจะเอามาใส่นะคลุกฝุ่นขนาดนั้นไม่รู้ว่าคนใส่ก่อนหน้าเป็นอะไรมาบ้าง”“รู้แล้วละน่าก็ต้องแยกซักก่อนไม่ใช่เหรอไง”“ว่าแต่ทำไมเสื้อผ้าพวกนี้คนขายไปรับมาจากไหนทำไมมันถูกจังขายถูกแบบนี้แล้วได้กำไรเหรอ” “ได้สิถ้าไม่ได้เค้าจะขายเหรอ”“เอ๊ะ!”“ผมไม่ได้จะกวนคุณแต่เค้าได้กำไรจริงๆบางคนไปรับมาจากจีนหรือบางคนเค้าก็เอามาชั่งกิโลขายแบบเสื้อผ้าที่ไม่ใช้ทิ้งไปเปล่าๆก็เสียดายใช่ป่ะ”“จีนนี่คือที่ไหนอะ” อันดารันคือแม้ภายนอกจะเหมือนผู้ใหญ่แต่ว่าข้างในความรู้ประสบการณ์เกี่ยวกับโลกใบนี้คือศูนย์ “นี่คุณไม่มีรู้จักประเทศรอบๆเลยเหรอไงอย่างน้อยก็น่าจะเคยเรียนมาบ้างประวัติศาสตร์เอยโลกของเราเอยอะไรพวกนี้อ่ะ”“ก็ที่ที่ฉันอยู่มันไม่มีไทยหรือจีนไงเดอะยาร์นเดอะฮาวน์มันมีในแผนที่โลกนายไหม” “นี่
“ฉันอยากจะขายเสื้อผ้า” “เอาจริงเหรอคุณ”“ก็จริงนะสิอีกอย่างมันเป็นงานขายที่ลูกค้าต้องเป็นฝ่ายเข้าหา” “เข้าใจคิดแต่คุณอย่าลืมว่าลูกค้าจะเดินเข้าร้านหรือไม่อยู่ที่การจัดร้านเลือกวางสินค้าด้วยตลาดนัดที่เราเดินผ่านเมื่อกี้มีร้านเสื้อผ้าตั้งหลายร้านแฟชั่นพวกนี้มาไวไปไวไม่เหมาะที่จะลงไปแย่งตลาดด้วยขายเป็นแนวที่คุณชอบจะดีกว่า “แนวที่ฉันชอบงั้นเหรอ” อันดารันครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะยิ้มกริ่มเมื่อนึกไอเดียอะไรดีๆออก อันดารันเดิมเป็นคนคิดไวทำไวพอบอกว่าจะทำจะขายก็ปุบปับลงมือทำทันทีจนเจียอีเองก็ตั้งตัวไม่ทันเหมือนเป้าหมายมีไว้พุ่งชนแต่สำหรับชายหนุ่มที่ผ่านการทำงานมาหลากหลายรูปแบบก็กลัวว่าอีกฝ่าย ‘จะมั่นใจไร้สติ’ การจะลงทุนทำอะไรสักอย่างเราไม่สามารถจะมองที่ผลลัพธ์ได้เพียงอย่างเดียวแน่ล่ะ! ขายของใครก็อยากจะได้กำไรกันทั้งนั้นไหนจะเงินลงทุนแต่อย่างว่าเราไม่ควรจะลงทุนอะไรในสิ่งที่เรายังไม่รู้จักดีพอยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้พอเห็นสีหน้าของคุณเขาแล้วก็แอบหวั่นใจเล็กๆเอาจริงเหรอวะ! เอ้าขายก็ขายลองดูสักตั้งแม้ว่าวิกฤตการณ์ของโควิดจะยังไม่รุนแรงงานอีเว้นท์งานเปิดท้ายขายของรวมไปถึงตลาดนัดต่างๆก็ยังคงมีเหมื
“ถ้าวันหนึ่งฉันหายไป”“ชู่!”“แล้วยังไงผมจะตามหาคุณ”“แล้วถ้าฉันไม่กลับมา”“ผมก็จะรอ…รอจนกว่าคุณจะกลับมา” ดวงตากลมโตคล้ายกับมีน้ำตาเอ่อล้นอยู่ในนั้นสายตาที่มักจะตวัดจิกกัดเขาอยู่บ่อยๆบ้างก็บ่งบอกอารมณ์ในตอนนั้นๆของเจ้าตัวบ้างก็มักจะกลอกตาใส่เขาอย่างเซ็งๆตอนนี้คล้ายกับมีความเปราะบางซ่อนอยู่ในดวงตาคู่นั้นสายตาที่มองเขาอย่างอาลัยอาวรณ์ความรู้สึกหลากหลายที่ไม่ปริปากพูดออกมาแต่มันสามารถรับรู้ได้ด้วยใจว่ากันว่าดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจนั้นไม่เกินจริงเจียอีเอื้อมมือไปลูบหัวให้อันดารันที่วันนี้เปิดเผยมุมอ่อนแอให้เขาได้เห็นออกมาซึ่งมันไม่ง่ายเลยคนที่เคยวางตัวแข็งกระด้างใบหน้าเฉยชาเคลือบด้วยความเย่อหยิ่งแต่ภายในบอบบางคล้ายกับจะพังทลายได้ทุกเมื่อจะคือคนคนเดียวกัน “คุณไปไหนไม่ได้หรอก”“นายรู้ได้ไง” เจียอีใช้นิ้วถูไถใต้จมูกของตัวเองก่อนจะเอื้อมไปใต้หมอนหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงกล่องหนึ่งออกมาด้วยความประหม่า“คุณนี่น้าตอนแรกกะจะเซอร์ไพร้แบบรอผมรวยผมพร้อมมากกว่านี้จะมอบให้คุณช่างเถอะ”เจียอีเปิดกล่องออกอย่างช้าๆก่อนจะเห็นแหวนทองคำขาวประดับเพชรสามเม็ดเรียงต่อกันส่องแสงแวววาว “แค่สวมมันไว้คุณก็ไปที่ไหนไ
ช่วงนี้อันดารันโหมงานจนแทบไม่พักจริง ๆ อย่างที่ผู้จัดการส่วนตัวแซวเอาไว้ไม่ผิด มีหลายอย่างมากมายในชีวิตที่ต้องใช้เงินโดยเฉพาะปัจจัยสี่ เขามีแพลนเอาไว้ในหัวเต็มไปหมด แล้วอีกอย่างเพราะตัวเองหาเงินได้ด้วยตัวเอง แถมยังหาได้มาก และเก็บเร็วกว่าอีกคนเป็นไหน ๆ เขารู้ดีว่ายังไงผู้ชายคนนี้จะต้องทำให้เขาสบายแน่ ๆ ในวันหนึ่ง แต่วันนั้นที่ว่าไม่รู้จะมาถึงเมื่อไหร่นี่สิ… แถมเจ้าหมอนี่ยังลีลา ไม่ยอมบอกอะไรออกมาง่าย ๆ ตอนนี้ทำงานอะไร ที่ไหน อย่างไร ไม่เคยให้เขาได้รับรู้ ความคิดมากมายวิ่งวนอยู่ในหัว มีเพียงการนอนหลับเท่านั้นที่เหมือนจะให้สมองได้พักผ่อน ไม่ต้องคอยคิดนั่นนี่จนปวดหัว “อื้อ” อันดารันลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าเจียอีเพิ่งอุ้มเขาเข้ามาวางบนเตียง“ทำไมไม่ปลุกฉัน”“เอาน่าผมเห็นคุณนอนหลับสนิทขนาดนั้นเลยไม่อยากปลุกจะอาบน้ำไหม”“อือ” อันดารันร่างกายรุมๆคล้ายเป็นไข้ก่อนจะพลิกตัวลงจากเตียงอย่างเชื่องช้า “เป็นอะไร”“เหนื่อยอยากแช่น้ำ” เมื่อเห็นสีหน้าหนักใจของอีกฝ่ายอันดารันก็สะบัดหน้าแรงๆก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจัดการตัวเองเขาลืมไปที่ห้องนี้ไม่มีอ่างอาบน้ำร่างกายไม่ได้แช่น้ำอุ่นมานานขนาดไหนแล
“โธ่เว้ย!” เมื่ออยู่ภายในรถตู้ศราวุธทิ้งตัวลงกับเบาะอย่างแรง ก่อนจะกดปิดเครื่องเมื่อเห็นเบอร์โทรอีกฝ่าย “นี่ก็โง่จริง กลายเป็นสร้างซีนให้ไอ้หมอนั่นไปซะได้ ฝากไว้ก่อนเถอะ มึงพลาดเมื่อไหร่กูจะกระชากมึงลงมาเอง” ตอนนี้ศราวุธเองก็ทำอะไรมากไม่ได้ งานคู่ที่มีเข้ามาทำให้เขาไม่สามารถสร้างข่าวอะไรปั่นป่วนแก่อีกฝ่ายได้ เพราะตัวเองก็โดนหางเลขไปด้วย เป็นช่วงที่น้ำขึ้นให้รีบตัก แถมยังมีแฟนคลับจับจิ้นอีก “แม่งมากับดวงจริง ๆ” ชลดาที่นั่งจดอยู่ในไอแพดเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะเอ่ยเตือน “วันพรุ่งนี้มีงานที่ไอคอนบ่าย 3 โมง ไม่เลทนะวุธ งานนี้แค่ชั่วโมงเดียว 2 ทุ่มมีงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เดอะมอลล์ เดี๋ยวพี่จะจัดรถไปรับ”“อือ”“ช่วงนี้ก็งดปาร์ตี้พวกนั้นอะไรไปก่อนเพราะงานรัดตัวอีกอย่างช่วงนี้วุธกำลังอยู่ในกระแสเข้าใจไหมวุธ”“แล้วผมจะทำอะไรได้” “แล้วมีงานอะไรที่ไม่อยากทำหรือเปล่าพี่ลิสต์มาให้เราเลือก” ศราวุธบอกปัดอย่างไม่ใส่ใจ “แล้วแต่พี่แล้วกันช่วงนี้ผมเซ็งๆพอดี” “งั้นพี่รับหมดเลยนะ” ชลดาเอ่ยอย่างยินดี แต่อย่างน้อยชลดาก็ยังหนักใจ งานพวกนี้เวลาไม่มาก แต่อย่างละคร ซีรีส์นี่ถ่ายทำกั
เสียงพิธีก่อนเอ่ยทักทายบรรดาแฟนคลับและนักข่าวที่รอเก็บภาพบรรยากาศภายในงานอันดารันเป่าปากเรียกความมั่นใจให้ตัวเองก่อนจะเดินขึ้นไปยังบนเวทีเขาไม่ลืมยกมือไหว้พิธีกรรวมไปถึงบรรดาแฟนคลับที่นั่งอยู่ตรงด้านหน้าเวทีอย่างล้นหลามเอาจริงๆส่วนใหญ่เป็นมัมหมีของศราวุธพออีกฝ่ายเก้าท้าวขึ้นมาบนเวทีเสียงกรี๊ดดังกระหึ่มแถมเจ้าตัวยังทำทีเป็นยกนิ้วชี้มาแตะริมฝีปากให้เงียบชู่! เออหากมองอย่างไม่มีอคติศราวุธก็หล่อเหลาจริงๆแถมยังขี้เล่นเป็นกันเองกับแฟนคลับสุดๆก่อนพิธีกรจะเอ่ยสัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟตัวต่อตัว “เป็นไงบ้างครับเอ้…แต่ว่าฉายาในโลกออนไลน์ของคุณคือโอเมก้าอันดับหนึ่งใช่ไหมครับเพราะรู้มาก่อนหรือเปล่าครับถึงได้ใช้ชื่อนี้”อันดารันยิ้มก่อนจะตอบ “พอดีเป็นความชอบส่วนตัวนะครับอีกทั้งนวนิยายแนวนี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายบนโลกอินเทอร์เน็ตอยู่ด้วย”“แต่เหมาะกับคุณมากจริงไหมเอ่ย” พิธีก่อนจ่อไมค์ไปยังหน้าเวทีคอยเอนเตอร์เทนแฟนคลับที่อยู่ข้างล่างด้วย “จริงงงงงงง” แฟนๆช่วยกันเปล่งเสียงคอนเฟิร์มอันดารันค้อมหัวให้เล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขอบคุณ“ว่าแต่บทนี้เป็นการพลิกบทบาทแฟนตาซีบทแรกของคุณหรือเปล่าครับคุณศราวุธการทำ
ใบหน้าของนักแสดงน้องใหม่ดูอิ่มเอิบไม่เหมือนตอนที่ถ่ายทำอยู่ในกองเลยสักนิดจนผู้จัดการสาวสองอย่างแซนดี้อดแซวไม่ได้เมื่อเดินตามอีกฝ่ายมาถึงห้องแต่งหน้าวันนี้นักแสดงหลักอย่างอันดารันศราวุธและนักแสดงหลักคนอื่นๆออกงานร่วมกันซึ่ง Pilots ที่ได้ถ่ายไปก่อนหน้าได้รับการตอบรับการอย่างล้นหลามรวมไปถึงแฟนๆนิยายเรื่องนี้ก็เช่นกันเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมของคุณนักเขียน FALLIN รวมไปถึงนักเขียนบทละครชื่อดังก็เป็นส่วนหนึ่งทำให้ซีรีส์เรื่องนี้เป็นที่ตั้งตารอคอยและคาดหวังว่าจะออกมาตรงใจโดยเฉพาะพระนายในเรื่องบลีฟรวมไปถึงเสื้อผ้าหน้าผมของโอเมก้าที่สวมบทโดยอันดารันจึงต้องสวมปลอกคอเป็นเสื้อผ้าที่ออกแบบโดยห้องเสื้อชื่อดัง JEANSSHOW แซนดี้ปลีกตัวไปดูชุดก่อนจะฝากให้พี่ๆช่างแต่งหน้าแปลงโฉมให้ตัวเอกของเรื่อง“โอ้โหน้องรันผิวอิ่มเอิบแต่งนิดแต่งหน่อยก็ปั๊วะเลยพี่ล่ะอิจฉาจริง” โซเฟียช่างแต่งหน้าเอ่ยแซวดาราน้องใหม่ที่กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงสุดๆในตอนนี้“ก็นะ…ได้น้ำดีกินอิ่มนอนหลับก็งี้แหละ” สองสาวผู้จัดการเอ่ยปากแซวสองแง่สองง่ามกันอย่างสนุกปากแต่บรรยากาศกลับตึงเครียดเมื่อนักแสดงอีกคนก้าวเท้าเข้ามาในห้องแต่งตัว“ถอย”
“เหนื่อยเหรอคุณ”“อืม…เมื่อก่อนฉันไม่เคยรู้คุณค่าในส่ิงที่ตัวเองมีมักจะคิดเปรียบเทียบนั่นนี่อยู่ตลอดแต่พอมาใช้ชีวิตที่นี่สิ่งที่ฉันมีมันไม่ได้แย่เลยสักนิดบางครั้งปัญหามันก็เกิดจากการที่ฉันเรียกร้องมากเกินไปต่างหากที่นั่นฉันมีบ้านมีเงินมีคนใช้ไม่ต้องคิดอะไรมากมายไม่ต้องเปลืองสมองในการใช้ชีวิตแต่ละวันแต่ฉันก็ยังไม่พอใจอยู่ดีนายรู้ไหม…ฉันมักจะคิดว่าพ่อรักลูกไม่เท่ากันแต่ต่อให้ฉันจะทำตัวเหลวแหลกยังไงก็ไม่เคยตัดเงินในบัญชีไม่เคยไล่ออกจากบ้านมีบ้างที่บ่นก่นด่าสาดเสียเทเสียแต่ก็เป็นฉันอีกแหละที่ก่อปัญหาให้เขาต้องแก้ไขเทียบกับชีวิตในตอนนี้ต่างกันสุดๆฉันเพิ่งรู้ว่าเงินมันหายากขนาดไหนจะใช้เงินก็ต้องคิดหน้าคิดหลังไม่สามารถใช้เงินเติมเต็มความปรารถนาได้อย่างแต่ก่อนทำงานเหมือนวัวเหมือนควายแต่ค่าตอบแทนยังไม่พอจะซื้อของที่อยากได้แต่ช่างเถอะ…แค่ฉันยังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้ก็ยังดีกว่าตายล่ะนะ”“นายยิ้มอะไร” เจียอีบีบจมูกเชิดรั้นนั้นอย่างอดไม่ได้“ก็ยิ้มที่คุณดูมีความคิดขึ้นดูโตขึ้นมากกว่าที่เจอกันตอนแรกเสียอีกตอนนั้นคุณโวยวายใหญ่โตบ่นทุกอย่างที่เห็นบ่นทุกอย่างที่ใช้ตอนนั้นคุณยังถามหาอ่างจากุชชีในคอนโดผมอย
“ผมพูดจริง อยากทำให้มันดีสมกับตำแหน่งโอเมก้าอันดับหนึ่งของคุณ” อันดารันเงียบก่อนจะเอ่ย“โอเมก้าอันดับหนึ่งนั้นจะมีค่าอะไรถ้าฉันต้องยืนอยู่เพียงลำพัง” เจียอีชะงักก่อนจะเงยหน้ามาจุมพิตหน้าท้องขาวนั้นผ่านเสื้อยืดตัวบางแถมยังเป็นเสื้อของเขาอีกด้วย “อีกอย่างมันก็เป็นแค่ชื่อไอดีโอเมก้ามีจริงที่ไหนกันตอนแรกนายว่าฉันเพี้ยนไม่ใช่เหรอทำไมตอนนี้นายจริงจัง” “สงสัยติดเชื้อบ้าจากคุณ”“แกสิบ้า”“อ๊ะ” “เป็นหมาหรือไง” อันดารันลูบหน้าท้องของตัวเองป้อยๆงับลงมาได้ “ไหนเล่ามาสิไปก่อเรื่องอะไรไว้”“อะไร”“พี่แซนดี้เล่าให้ผมฟังหมดแล้วคุณนี่มันแสบจริงๆเลยนะ”“ฉันก็แค่ปกป้องตัวเองแสบเสิบอะไรแล้วไอ้หมอนั่นยังโดนน้อยไปด้วยซ้ำ” “ผมรู้แต่ว่าคุณต้องดูแลตัวเองดีๆคุณก็รู้ว่าครอบครัวนั้นมีอิทธิพลขนาดไหน” เจียอีพูดพร้อมกับเกลี่ยแก้มใสนั้นอย่างเอ็นดูสายตาที่อีกฝ่ายกำลังจ้องมองมาทำเอาอันดารันทำตัวไม่ถูกก่อนจะหันหน้าหนีหลบหลีกสายตาที่แสดงความเป็นห่วงเป็นใยออกมาจนเขารู้สึกได้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะที่ได้สบตาคู่นั้น “รู้แล้วน่า”“รู้แล้วน่าของคุณนี่คืออะไรรู้แล้วแต่ยังทำ?”“ก็แค่ปกป้องตัวเอง”“เอาเถอะครั้งนี้ถือว่าแล้
อันดารันรวมไปถึงสต๊าฟคนอื่นๆกลับกรุงเทพฯตั้งแต่รับประทานมื้อเช้าของโรงแรมเสร็จต้องขอบคุณ SMS จากผู้หวังดีเมื่อวานที่ทำให้นักแสดงน้องใหม่ไม่ตกเป็นข่าวฉาวตั้งแต่ซีรีส์ยังไม่ฉายรวมไปถึงโดนแบล็กเมล์ยอมเป็นทาสกามให้กับคนพรรค์นั้นแต่อย่างว่าให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัวในเมื่อศราวุธชอบใช้แผนชั่วในการโจมตีคนอื่นเขาเลยรับหน้าที่เป็นผู้ลงทัณฑ์สั่งสอนให้เจ้าตัวได้รู้เสียบ้างแต่ก็ยังพอมีขอบเขตอยู่นิดนึงเพราะการถูกข่มขืนโดยที่ไม่มีสติไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีและเป็นสิ่งที่เพื่อนมนุษย์ควรกระทำต่อกันเพราะเป็นกองถ่ายซีรีส์เลยหาอุปกรณ์ได้ไม่ยาก อันดารันและพรรคพวกเลยจัดฉากปั่นหัวให้ศราวุธได้บทเรียนเสียบ้างจะแจ้งความก็ไม่ได้จะเอาเรื่องกับทางโรงแรมก็ไม่ได้อีกเพราะไม่ว่ายังไงเมื่อเรื่องไปถึงนักข่าวตัวศราวุธเองมีแต่เสียกับเสียบางทีเงินก็ไม่หนักพอที่จะปิดปากคนทำให้เรื่องชั่วช้าที่ได้ทำเอาไว้แดงออกมาอีกครั้ง อันดารันยิ้มเยาะและต้องขอบคุณตู้โทรศัพท์สาธารณะที่มีอยู่ทั่วทุกมุมจังหวัดถึงเวลาปั่นหัวคืนบ้างแล้วไอ้เรื่องที่คลิปที่ว่าก็ไม่มีจริงหรอกอี๋! ใครจะอยากเห็นร่างกายหมอนั่นกันเงินก็ไม่อยากได้ที่อยากได้คือคว
แม้หลัง ๆ การถ่ายทำจะไม่ราบรื่นสักเท่าไหร่ เพราะดูเหมือนพระนายจะไม่ได้รักกันหวานเชื่อมเหมือนที่บทให้มาน่ะสิ แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี วันนี้เป็นวันเลี้ยงฉลองปิดกล้องของเรื่อง “รักครั้งใหม่ของโอเมก้า” ส่วนในรายละเอียดอย่างฟีโรโมน การทำรัง รวมไปถึงช่วงฮีท อันดารันเองก็ได้เอ่ยพูดคุยกับคนเขียนบทหลายครั้งจนทุกอย่างลงตัว เพราะคุณนุชคนเขียนบทเองยังคิดไม่ตกในบางส่วน พอได้มาพูดคุยกับนายเอกของเรื่องที่บอกว่าได้อ่านนิยายประเภทนี้มาพอสมควรจึงสามารถถ่ายทอดสิ่งที่โอเมก้าต้องพบเจอมาได้หมด แถมยังตรงใจเธอสุด ๆ อีกด้วย คืนนี้เป็นงานเลี้ยงปิดกล้องทางทีมงานได้เช่าห้องจัดงานของโรงแรมเอาไว้พร้อมกับกำชับเรื่องความเป็นส่วนตัวของนักแสดง “วุธพี่ขอวันนี้อย่าก่อเรื่องอีกเลย”“ผมรู้แล้วน่า”“ปิดกล้องแล้วก็ยังต้องร่วมงานอื่นๆกันอีกช่องก็กำลังจะดันด้วยอย่าทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่”“ผมชักอยากจะรู้ว่าเด็กใคร! ดูท่าพี่จะเกรงใจมันมากนะ”“จะเด็กใครก็ช่างเถอะทำหน้าที่ของตัวเองจบๆกันไปไม่ดีเหรอ”“พี่ไม่ใช่ผมก็พูดได้ซิ”“เอาเถอะถือว่าพี่ขอนะวุธ” ชลดาพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องพักไปแต่เธอก็มั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่สนคำร้องขอของเธอ