“ท่านได้รับเลือกจากความรักของประชาชนขึ้นโดยมิได้ใช้เงินซื้อใจประชาชนเลยครับ”คิวะตอบผมพลางยื่นเอกสารอีกซองมาให้ผม ผมจึงหยิบซองเอกสารมาจากมือของคิวะมาและเปิดออกดูทันที และก็ปรากฏรูปถ่ายของผู้ชายวัยกลางคนกำลังยืนยิ้มไปด้วยความสุขอยู่ตรงกลางระหว่างกลุ่มผู้คนมากมายที่ไปให้กำลังใจเขาในวันที่เขาชนะการเลือกตั้ง“เขาชื่ออะไร?”ผมถามคิวะไปพลางหยิบรูปอื่นๆดูไปด้วย“ท่านมิซาน มิยาชิตะครับ”คิวะตอบผมมา ผมก็พยักหน้าเข้าใจและสายตาของผมก็ไปสะดุดเข้ากับรูปภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดและเซ็กซี่แต่ใบหน้าของเธอกลับเต็มไปด้วยความทุกข์ ทำไมเธอถึงมีความทุกข์มากขนาดนี้มองจากเสื้อผ้าที่เธอใส่เธอคงจะเรียนอยู่ชั้นมหาวิทยาลัยแล้วหน้าตาก็สวยเข้าขั้นสวยมากปากกระจับเรียวเล็กจมูกโด่งเป็นสันเชิดรั้นอย่างคนถือดีดวงตากลมโตเหมือนตุ๊กตาแววตาเป็นประกายช่างน่าจับจ้อง“ลูกสาวของท่านนายกครับนาย”“คุณหนู โยโกะจัง ซาโยโกะ มิยาชิตะครับอายุ20ปี เธอเพิ่งเดินทางมาจากเมืองไทยเมื่อวานนี้ครับ”คิวะรายงายผมทุกเรื่องที่ผมสงสัยและอยากรู้ ทำให้ผมเงยหน้าจากรูปถ่ายของผู้หญิงที่ชื่อโยโกะไปมองหน้าเขาและยิ้มบางๆให้เขา“ขอบใจ นายเป็น
(ฮะฮัลโหลครับนายน้อย)เสียงทุ้มและสั่นเครือของลูกน้องคนสนิทฝั่งซ้ายของผมเอ่ยตอบกลับมาหลังจากที่ผมรอสายมันอยู่พักหนึ่ง มัวทำอะไรอยู่กว่าจะรับได้(ใครกันเหรอคะ?)เสียงหวานของผู้หญิงไทยเอ่ยสวนขึ้นมาทำให้ผมถึงกับส่ายศีรษะไปมาอย่างนึกรำคาญใจ(เอ่อ...คือเสียงผมน่ะครับนาย)มันโกหกผมเหมือนผมโง่!“จะเสียงใครก็ช่าง งานที่ฉันสั่งแกให้ทำไปถึงไหนแล้ว?”ผมกดเสียงต่ำทำเป็นเข้มและดุดันใส่ไอ้ซาต้าไป เสียงมันล่อกแล่กๆเหมือนกลัวว่าผมจะดุด่ามันและตามด้วยเสียงกุกๆกักๆเหมือนซาต้ามันกำลังเดินไปที่ไหนสักแห่ง“ใกล้ได้เรื่องแล้วครับนาย ตอนนี้ผมกำลังหาข้อมูลอยู่ครับ”เสียงกุกๆกักๆหายไปพร้อมกับเสียงของซาต้าตอบผมกลับมา ทำให้ผมรู้ว่ามันคงจะเดินออกมาจากผู้หญิงคนนั้นเพื่อมาคุยโทรศัพท์กับผม มันจะเดินออกมาเพื่อ?ทั้งๆที่การสนทนาของเราเป็นภาษาญี่ปุ่น“หาข้อมูลอะไร?”ผมถามไอ้ซาต้าไปอย่างทันควัน“ก็หาข้อมูลผู้หญิงของนายยังไงละครับ”ไอ้ซาต้าตอบผมกลับมาด้วยนำ้เสียงภาคภูมิใจ ผมกลอกตามองบนด้วยความเวอร์ของมัน“แล้วไปหากับผู้หญิงกลางคืน?”ผมถามมันไปอย่างสงสัยและรู้ทันมันไปในตัว“เปล่าครับนาย ที่ผมต้องลงทุนเปลืองเนื้อเปลืองตัวก็เพื่อข้อ
คฤหาสน์ มิยาชิตะ15:30น.ต้นฝน ซาโยโกะจัง...พรึบ ตุ๊บ ตั๊บ“หึ!”ฉันหัวเราะขึ้นหลังจากที่จัดการล้มบอดี้การ์ดคนที่สิบของพ่อได้สำเร็จ“เหอะนี่น่ะเหรอบอดี้การ์ดของท่านนายกรัฐมนตรี!”ฉันพูดขึ้นอย่างนึกสมเพชและเริ่มมองหาทางออกและก็พบกับประตูบานเหล็กข้างรั้วอันใหญ่ ฉันยิ้มขึ้นมาอย่างมีความหวัง ถ้าฉันออกไปจากบ้านหลังนี้ได้ชีวิตของฉันก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม!“เห้ย!คุณหนูจะหนีแล้ว!!”เสียงของลูกน้องคุณพ่อเอ่ยขึ้นจากทางด้านหลังฉัน ฉันจึงหันไปมองด้วยความตกใจและรีบวิ่งใส่เกียร์หมาไปยังประตูเหล็กดัดบานนั้นแต่เมื่อไปถึงแกร๊ก ตึงงๆๆๆๆ“ประตูล็อค!!”ฉันพูดขึ้นอย่างหัวเสียและเริ่มมองหาหนทางทางหนีทางอื่นแต่แล้วเมื่อรู้ตัวอีกทีก็รู้ว่าร่างของฉันโดนโอบล้อมไปด้วยชายชุดดำนับร้อยคนซะแล้วสิ“หมดเวลาเล่นสนุกแล้วค่ะคุณหนู”มาม่าซังเดินออกมาจากกลุ่มชายชุดดำมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันด้วยสีหน้าเป็นเชิงดุๆฉันจึงเบะปากใส่ท่านและเดินไปกอดแขนท่านอย่างออดอ้อน“คริๆๆ^_^”ฉันแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อนมาม่าซังก็ส่ายศีรษะไปมาอย่างอ่อนใจในตัวฉันที่ดื้อรั้นแต่ทำไงได้ล่ะก็ฉันไม่อยากอยู่ที่นี้นี่น่า“ไปอาบนำ้แต่งตัวได้แล้วค่ะ เดี๋ยวคุณท่า
“อ้อเหรอคะ”ฉันตอบไปอย่างไร้หางเสียงและนำ้เสียงห้วนๆ ท่านมิซานก็เงียบลงใบหน้าถอดสีแต่ท่านก็ยังคงยิ้มอบอุ่นมาให้ฉันอยู่อย่างนั้น“พ่อดีใจนะที่เราได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ตอนนี้ลูกของพ่อโตเป็นสาวแล้วคงไม่กลัวความมืดแล้วสินะ?”“ไม่ใช่ว่าไม่กลัวหรอกคะ แต่มันชินซะมากกว่า”ฉันตอบเขาไปพร้อมกับยกแขนขึ้นมากอดอก เมื่อนึกถึงความลำบากที่ฉันกับแม่เจอ แม่ฉันจะกลับบ้านดึกๆทุกวันเพราะท่านไปเล่นการพนันที่บ่อนเถื่อนแถวบ้านและจะกลับมาพร้อมกับอาการมึนเมาจากแอลกอฮอล์ทุกวัน “ลูกคงจะลำบากมากสินะ”“หึ!อย่าใช้คำว่าลำบากเลยค่ะ เพราะมันเกินจะบรรยายมาเป็นคำพูดได้!”“พ่อขอโทษ”“หยุดพูดขอโทษสักทีเถอะค่ะ เพราะว่ายังไงฉันก็ไม่มีวันยกโทษให้ผู้ชายที่ทิ้งลูกกับเมียไป!”“โยโกะ”เสียงของท่านมิซานเอ่ยเรียกฉันด้วยนำ้เสียงแผ่วเบา ฉันถอนหายใจและหยิบหูฟังไร้สายขึ้นมาสวมใส่หูทั้งสองข้างพร้อมกับหลับตาลงเพื่อทำให้เขารู้ว่าฉันไม่อยากพูดคุยกับเขา ฉันไม่มีทางยกโทษให้เขาแน่นอน และฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไปรับฉันมาอยู่ที่นี้กับเขาทั้งๆที่เขาหายไปเป็นสิบๆปี แล้ว วันนี้ฉันอยู่ในชุดราตรียาวสีทองอร่ามที่เป็นเกาะอกโชว์เนื้อเนินอกสีขาวอว
“อ้อใช่ครับท่าน”ท่านมิซานหันมายิ้มให้ฉันพร้อมกับตอบคนนั้นไป “ตอนนั้นเจอยังเล็กอยู่เลย พอเจออีกทีโตเป็นสาวสวยซะแล้ว^_^” “ขอบคุณครับท่านซาโอะ” “เดี๋ยวอาจะแนะนำลูกชายอาให้หนูโยโกะจังได้รู้จักนะ” “ไม่ดี”ฉันกำลังจะตอบปฏิเสธท่านซาโอะไปแต่ก็ไม่ทันเพราะเขาหันหลังไปมองหาใครสักคนแล้ว “ไหนซาโนะ?”ท่านซาโอะหันไปถามชายชุดดำที่ยืนกุมมือทั้งสองไว้ด้านหน้าด้วยความเรียบร้อย “ไปคุยโทรศัพท์อยู่ด้านนอกครับนายใหญ่เดี๋ยวนายน้อยคงจะตามเข้ามา”ชายชุดดำตอบท่านซาโอะไป ฉันเมื่อได้ฟังแบบนั้นก็แอบถอนหายใจออกมา เพราะฉันไม่ชอบการจับคู่ของผู้ใหญ่เป็นที่สุด มันโบราณคร่ำครึเกิ๊น “งั้นเดี๋ยวไว้ค่อยไปแนะนำที่โต๊ะทานอาหารก็ได้เนอะ”ท่านซาโอะหันมาบอกฉันกับท่านมิซาน ท่านมิซานก็หันมายิ้มให้ฉัน ฉันจึงต้องจำใจยิ้มให้เขาไปเพราะเดี๋ยวเขาจะหาว่าฉันไม่ทำตัวดีๆ “เชิญข้างในดีกว่าครับท่านเคนโด้ท่านซาโอะ”ท่านมิซานเอ่ยชักชวนท่านทั้งสองด้วยความเคารพท่านทั้งสองก็หันมองหน้ากันและหันมาพยักหน้าให้ท่านมิซานและออกตัวเดินนำหน้าท่านมิซานไปโดนมีชายชุดดำเดินประกบข้างหลังไปติดๆยังกับมาเฟียเลย “ช้าอีกแล้วนะคะริว!”เสียงหวานที่พยายามจะทำให้เสี
“คนไทย?”“ก็ใช่น่ะสิ เห็นเป็นคนญี่ปุ่นเหรอไง ถามแปลกๆ!”ฉันพูดใส่อารมณ์กับเขาและพูดเสียงเข้มให้ดูน่ากลัว“ใครจ้างเธอมาให้ฆ่าฉัน”เขาไม่ได้ขยับตัวแต่เอ่ยถามฉันกลับมาด้วยความสงสัย“เอ่อออ”ฉันอ้ำๆอึ้งๆไม่รู้จะบอกว่าใคร เพราะไม่มีใครจ้างฉันให้มาฆ่าหมอนี่นี่น่า“มันจ้างเธอมาเท่าไหร่?”เขาถามฉันกลับมาพร้อมกับทำท่าทางขยับ ฉันจึงรัดคอเขาให้แน่นขึ้น“โอ้ว ฉันจะหายใจไม่ออกอยู่แล้วเนี่ย!”เขาโวยวายใส่ฉัน“อย่าแตะตัวฉัน!!”ฉันก็โวยใส่เขาทันทีที่มือหนาของเขากำลังจะจับโดนแขนของฉัน และฉันก็ตกใจเผลอปล่อยมือจากคอเขาเพราะฉันกลัวการแตะเนื้อต้องตัวเป็นที่สุดพรึบ“แฮ่กๆๆๆเกือบตายหายใจไม่ออก”เขาบ่นขึ้นและเขาก็จับชายคอเสื้อของเขาให้คลายคอลงฉันจึงรีบใช้มือปัดตามแขนของตัวเองและถูไปมาจนรู้สึกเจ็บแสบ“อะไรจะขนาดนั้นแม่คุณ!”เขาหันมามองการกระทำของฉัน แต่ฉันก็ยังไม่เลิกใช้มือถูไปกับต้นแขนของตัวเอง ท่าทางที่ฉันเป็นมันแสดงออกได้เลยว่าฉันรังเกียจเขามาก“ผมไม่ได้สกปรกซกมกโสโครกขนาดนั้น!”เขาเดินมาประชิดร่างฉันอย่างไว ฉันก็ถอยหลังหนีเขาอย่างไวเช่นกันตามสัญชาตญาณพรึบ“โอ้ย!”ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจและเจ็บปวดเมื่อแผ่นหลังของ
“อ่ะ....ก็ได้แต่ผมไม่มีเงินสดนะแต่ผมจะเซ็นเช็คให้คุณแทน”เขาบอกฉันมาแต่นำ้เสียงของเขาไม่ได้แสดงออกว่ากลัวอะไรเลย“ไม่!”ฉันบอกเขาไปทันควัน กว่าฉันจะเอาเช็คไปขึ้นเงินมีหวังโดนลูกน้องของท่านมิซานจับได้ซะก่อน“อะไรของคุณอีกเนี่ย?”เขาทำน้ำหงุดหงิดใส่ฉัน“ฉันกำลังจะหนีนะคุณ ไม่มีเวลาเอาเช็คของคุณไปขึ้นเงินหรอก!”ฉันโวยใส่เขา“เออจริงด้วย งั้นเอาไงดี?”เขาพูดและเงียบไปสักพักเหมือนเขากำลังจะใช้ความคิด ฉันก็ยืนนิ่งมือยังคงถือรองเท้าส้นตึกจ่อไปที่หน้าของเขาอย่างไม่ลดละ“เอางี้ ผมมีเงินติดตัวอยู่แค่ไม่กี่เยนแต่เงินสดจำนวนที่คุณพูดถึงอยู่ในรถผม เดี๋ยวผมจะเดินไปเอาให้คุณ”เขาบอกฉันหลังจากที่เขาเงียบไปสักพักหนึ่ง“ก็ได้ แต่ถ้านายคิดตุกติกล่ะก็...นายตาย!”“นี่ก็ขู่จังเว้ย!!”เขาโวยใส่หูฉัน หูฉันแทบแตกน่ะไอ้บ้า!!!“ฉันไม่ได้ขู่แต่ฉันทำจริงแน่!”ถ้ามันเป็นปืนจริงๆนะแต่นี่มันเป็นปืนปลอมไง ถ้าหมอนี่รู้ว่าฉันเอาส้นของรองเท้ามาแกล้งทำเป็นปืนเพื่อขู่เขาล่ะก็มีหวังเขาฆ่าฉันทิ้งแน่“อ่ะๆถ้าคุณไม่เชื่อใจผมคุณก็เดินตามผมไปแค่นั้นเอง”“ก็ได้ งั้นนายก็เดินนำไป!”“เค”เขาตอบฉันสั้นๆและถอยหลังห่างจากฉันไป ฉันก็เดินตามเขา
“ให้จูบจริงดิ?”เขาทำหน้าทะเล้นถามฉัน ฉันก็มองหน้าเขา “ไม่จริง!!”ฉันตอบเขาไปและในจังหวะนั้นฉันก็จัดการใช้เข่าของฉันเตะเข้าไปที่ของสงวนของเขาเต็มๆเลย แน่นดีจริงๆเอ้ยไม่ใช่ล่ะ!!! โพล๊ะ แหวกกกก “โอ้ยยยยยย!”เสียงร้องโอดโอยของเขาพร้อมกับร่างสูงที่ทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นอย่างคนที่หมดแรง หน้าตาเหยเกของเขาบ่งบอกได้ว่าเขาเจ็บและจุกมากเพียงใดแต่ทำไมฉันรู้สึกเหมือนเขาจะดึงอะไรขาดไปเพราะฉันได้ยินเสียง “ทีหลังอย่ามาทำทะลึ่งกับฉันอีก ฉันไม่ชอบ!!”ฉันชี้หน้าเขาพลางใส่อารมณ์ในน้ำเสียง เขาก็เงยหน้าเหยเกของเขาขึ้นมามองฉันและเขาก็ค่อยๆเบิกตาทั้งสองข้างของเขาโตขึ้นเรื่อยๆเหมือนคนที่ตกตะลึงเห็นเข้ากับอะไรสักอย่าง “ขาว” “ใหญ่” “ชมพู”นายนั้นพูดออกมาด้วยนำ้เสียงแผ่วเบาพลางทำหน้าเคลิ้มฝันและเขาก็กลืนน้ำลายลงคอดังอึกใหญ่ ฉันก็มองตามสายตาของอีตานั้นมาเรื่อยๆจนมาสะดุดเข้ากับหน้าอกที่ใหญ่โตมโหฬารของตัวเองและฉันก็อ้าปากค้างออกมาด้วยความตกใจ พรึบ “ไอ้บ้า!ไอ้โรคจิต!!” “ไอ้ลามก!!” “ไอ้ไอ้ไอ้!!”ฉันรีบชายเกาะอกขึ้นมาปิดหน้าอกตัวเองและร้องตะโกนด่าเขาไปด้วย เขาที่เหมือนเพิ่งตื่นจากภวังค์หลังจากที่จดจ้อง
“หึ!ผู้ชายแบบผมไม่ได้มีไว้ให้พวกผู้หญิงเลือกแต่มันอยู่ที่ผมจะเลือกใครต่างหากล่ะ”“เลือกใครก็ได้ที่ไม่ใช่ฉัน!!”ฉันว่าพลางจับจ้องนัยสาสีดำของเขาเขาก็จ้องฉันกลับมาเราจ้องตากันอย่างเนิ่นนานโดยที่ไม่มีใครละสายตาออกไปจากกัน“คุณจะเอาแบบนั้นจริงๆเหรอ…ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่หวั่นไหวเวลาอยู่ใกล้ๆผม”เสียงกระเส่าของมิซาโนะคร่ำครวญอยู่ข้างๆหูฉัน“คนนั้นคือฉันย่ะ!!เพราะฉันไม่หวั่นไหวกับนายเลยสักนิ๊ด”ฉันโกหกนิดนึง ไม่หวั่นไหวบ้าอะไรล่ะใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งเวลาที่อยู่ใกล้ๆเขาเนี่ย“แล้ววันหนึ่งคุณจะเสียใจที่คุณไม่ให้ผมเลือกคุณ…เพราะคุณไม่มีสิทธิ์เลือกผม^_^”“ฉันไม่เสียใจหรอกย่ะ!!”ฉันว่าพลางกัดฟันกรอดๆเพราะหมั่นไส้ความมั่นหน้าของอีตาบ้านี่ อีตาซาโนะก็ทำลอยหน้าลอยตาพูดล้อเลียนฉัน ไอ้บ้านี่!มันกวน!“นายมีอะไรดีหนักหนาที่จะทำให้ฉันเสียใจถ้านายไม่เลือกฉันน่ะ?”ฉันถามเขาออกไปทำให้มิซาโนะกระตุกยิ้มมุมปากขึ้นเเละขยับใบหน้าลงมาหาฉันทำให้ฉันรีบเบือนหน้าหนีเพราะกลัวว่าจะโดนเขาจูบ“เพราะลีลาบนเตียงของผมเร้าร้อนมาก^_^”เขาไม่ว่าเปล่าพลางใช้ฟันขบเม้มที่ติ่งหูของฉันเบาๆอี๋สกปรกที่สุด!!“อี๋ๆๆทุเรศ!”ฉันร้องโวยวายพลา
คฤหาสน์ ซานโต้ห้องนอนมิซาโนะ22:30น.“อื้อออออ”ฉันครวญครางขึ้นอีกครั้งเมื่อรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก หรือว่าฉันกำลังโดนผีอำ?“อื้อ”ฉันร้องในลำคอพลางขยับตัวแต่ก็ขยับไม่ได้พอลืมตามาก็มองไม่เห็นอะไรเพราะรอบๆข้างมันมืดไปหมด ฉันจับได้ว่าฉันนอนดิ้นไปดิ้นมาอยู่บนที่นอนที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของและเผลอหลับไป ใช่ฉันหลับแต่ตอนนี้ฉันตื่นแล้ว“อื้อออออ”ฉันดิ้นอีกครั้งแต่ดูเหมือนยิ่งฉันดิ้น ร่างของฉันก็ยิ่งโดนรัดแรงขึ้นแต่เอ๊ะ รัดอย่างงั้นเหรองั้นแสดงว่าฉันไม่ได้โดนผีอำน่ะสิ“อย่าดิ้นได้ไหมคุณ…ผมง่วง”เสียงงัวเงียของซาโนะดังกระซิบที่ข้างหูฉันพร้อมกับแรงกดเบาๆที่แก้มของฉันทำให้ฉันเองที่ก็ง่วงๆสะลึมๆอยู่ก็ตามตื่นทันที ไอ้บ้านี้มันแต๊ะอั๋งฉันอีกแล้วน่ะเว้ยเฮ้ย ครั้งนี้ต้นฝนคนนี้จะไม่ยอม!!!พรึบ ตุ๊บ“โอ้ยยยยยยยย”เสียงร้องโหยหวนของมิซาโนะดังลั่นเมื่อฉันใช้เท้าทั้งสองข้างถีบร่างของอีตาซาโนะให้ออกไปจากตัวฉันอย่างแรงจนทำให้ร่างสูงโปร่งของมิซาโนะตกลงไปจากที่นอนพรึบ“ไอ้บ้า!!!คุณเอาแต่แต๊ะอั๋งฉันจนทำให้ฉันไม่มีค่าอะไรแล้วเนี่ย!!”ฉันเปิดไฟหัวเตียงและโวยใส่เขาทันที ซาโนะที่มีอาการงัวเงียๆอยู่ก็เอาม
“ผมรีบเคลียร์งานหนิครับ หิวไส้จะขาดแล้ว”ซาโนะพูดบอกคุณป้าไปด้วยนำ้เสียงออดอ้อน ทำให้ฉันที่ในปากยังคาบช้อนอยู่ต้องหันไปมองซาโนะที่ตัวโตยังกะควายยังอ้อนแม่เหมือนเด็กๆอยู่อีก“มองไร?”ซาโนะที่รู้ได้ว่ามีฉันกำลังนั่งมองอยู่ก็หันหน้ามามองหน้าฉันและเอ่ยถามฉันมาด้วยน้ำเสียงเเข็งๆเพื่อกลบเกลื่อนความอายน่ะสิ“ทานข้าวเถอะลูก”คุณป้ารีบห้ามทัพทันทีเมื่อฉันไม่ตอบซาโนะแต่กลับยักคิ้วให้เขาอย่างกวนๆทำให้ซาโนะไม่พอใจ“ครับ^_^”ว๊ายเจอลูกแหง่เพิ่มอีกหนึ่งอัตรา^_^คนนั้นคือมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ที่มีนามว่า มิซาโนะ ซานโต้“คริๆๆ”ฉันแอบขำทำให้ซาโนะที่นั่งอยู่ข้างๆเอาเท้าเขามาเขี่ยเท้าฉันอย่างแรงทำให้ฉันแทบจะสำลักข้าวในปากขวับฉันหันไปจะเอาเรื่องซาโนะแต่เขากลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ลอยหน้าลอยตาเคี้ยวข้าวตุ้ยๆเหมือนเด็กสายตาของเขาก็จดจ้องไปที่แม่ของเขา อีตาบ้านี้มันกวน!!“มหาวิทยาลัยเป็นยังไงบ้างหนูโยโกะ โอเคไหม?”เสียงของคุณลุงซาโอะที่นั่งอยู่หัวโต๊ะเอ่ยถามฉันขึ้นหลังจากที่ท่านไม่ได้พูดอะไรเอาแต่นั่งยิ้มมองสองแม่ลูกนั้นออดอ้อนกัน“ก็..”ฉันที่กำลังจะบอกคุณลุงแต่ก็โดนมิซาโนะเอ่ยตัดหน้าฉันไปอย่างไว“เธอจะไปรู้ได้ยังไงกัน
คฤหาสน์ซานโต้….ต้นฝน ซาโยะโกะจัง…..“อื้อออ”ฉันบิดตัวไปมาแล้วค่อยๆลืมตาขึ้นมองไปรอบๆก็พบกับห้องนอนขนาดใหญ่ที่ถูกตกแต่งเป็นโทนสีดำสลับขาวมีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน“ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ?”เสียงนุ่มท่าทางใจดีของใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้นทำให้ฉันหันไปมองเสียงนั้นอย่างไว ก็พบกับหญิงสาวอายุน่าจะเลขห้าแล้วน่ะ เธอกำลังยืนยิ้มให้ฉันอยู่ด้วยท่าทางใจดี“ค่ะ”ฉันตอบเขาไปพลางทำหน้าสงสัยและดูเหมือนเธอจะเข้าใจสีหน้าของฉันน่ะ“ป้าเป็นแม่ของซาโนะน่ะจ๊ะหนูโยโกะ^_^”เธอเอ่ยกลับมาด้วยท่าทางยิ้มแย้มและเป็นมิตร แม่ของซาโนะอย่างนั้นเหรอ“สวัสดีค่ะ^_^”ฉันรีบยกมือไหว้เพื่อสวัสดีเธอแต่เธอก็ยกมือขึ้นมารับไหว้ฉันด้วยท่าทางเก้ๆกังๆน่ะ อ๋อใช่สิเธอเป็นคนญี่ปุ่นหนิหนา เมื่อนึกได้ยังงั้นฉันก็สบัดตัวลุกขึ้นยืนและโค้งตัวเล็กน้อยเพื่อทำการทักทายแบบคนญี่ปุ่น“こんにちは(คนนิจิวะ)”ฉันเอ่ยทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่นเธอไป“こんにちは(คนนิจิวะ)”เธอเองก็โค้งตัวเล็กน้อยและทักทายฉันกลับมาเป็นภาษาญี่ปุ่นเช่นกัน“หนูโยโกะทำตัวสบายๆเลยจ๊ะไม่ต้องเกร็งนะ”แม่ของซาโนะเอ่ยขึ้นพลางเดินเข้ามาหาฉันใบหน้าของเธอเต็ทไปด้วยรอยยิ้มที่ใจดีทำให้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย“หิวรึยั
เอี๊ยดฉันมาจอดหน้าตึกอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งและสอดส่องสายตามองเข้าไปก็พบกับร่างสูงที่คุ้นตาของใครคนหนึ่งกำลังทำหน้าตาเคร่งเครียดเอามือเท้าเอวเขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมที่คอสามเม็ดโชว์รอยสักที่คอเท่ๆของเขาสวมกางเกงผ้าเตื้อดีสีดำทับในอย่างเท่เขายืนอยู่ตรงหน้าชายกลุ่มของชายชุดดำที่กำลังยืนอยู่ข้างหลังของอีตานั้นโดยสายตาของพวกเขามันเต็มไปด้วยความเป็นห่วงปนความเครียดแค้นและยังมีชายชุดดำยืนประกบข้างซาโนะอีกนับสิบคนและที่ทำให้ฉันสะดุดตามากที่สุดก็คือ กลุ่มชายชุดดำอีกกลุ่มหนึ่งจำนวนห้าคนกำลังพากันรุมกระทืบผู้ชายในชุดสูทสีแดงที่นอนอยู่บนพื้นอย่างเอาเป็นเอาตาย“อีตานักเลงเอ้ย!ป่าเถื่อนที่สุด!”ฉันสบถขึ้นพลางจ้องมองอีตานั้นที่เดินไปคร่อมร่างของชายคนนั้นและจับคอเสื้อเขาขึ้นมามองหน้าตัวเองชายคนนั้นก็เหมือนคนที่กำลังจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่และต่อมความเสือกก็เข้ามาทันที ฉันรีบเปิดประตูรถอย่างแผ่วเบาและรีบนั่งย่องๆให้เข้าไปใกล้คนพวกนั้นมากที่สุดเพื่อจะฟังบทสนทนาได้ชัดเจนขึ้น“แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบการค้าผู้หญิง!!”ซาโนะตวาดเสียงดังอย่างดุดันใบหน้าของเขาแสดงถึงความโกรธมากๆใบหน้าที่เคยเป็นสีขาวอมชมพูบัดนี้ได
คฤหาสน์ มิยาชิตะ07:00น.ต้นฝน ซาโยโกะจัง... “ทำไมลูกถึงอยากอยู่ที่นี้แล้วล่ะ?”เสียงที่เต็มไปด้วยความดีใจที่ต้องไม่แสดงออกมามากของท่านมิซานเอ่ยขึ้น ฉันที่กำลังก้มหน้าก้มตากินข้าวอยู่ก็ต้องเงยหน้ากลับไปมองเขา“ก็อยากอยู่แล้ว อยู่ที่นี้สบายดีไม่ต้องทำงาน”ฉันบอกเขาไปและก้มหน้ากินข้าวต่อเพื่อจะไปมหาลัย“อย่างงั้นเหรอลูก ดีแล้วที่หนูชอบพ่อจะได้หมดห่วง”ท่านมิซานเอ่ยขึ้นมาด้วยนำ้เสียงดีใจ “ฉันจะไม่หนีอีกแต่มีข้อแม้”ฉันว่าพลางวางช้อนกับส้อมและเงยหน้าขึ้นไปมองท่านมิซานที่เขาเอาแต่นั่งจ้องหน้าฉัน“ข้อแม้?….อะไรเหรอลูก?”ท่านมิซานเอ่ยถามฉันมาด้วยสีหน้ากังวลใจ ฉันก็จึงกรีดรอยยิ้ม“ฉันไม่เอาบอดี้การ์ดฉันต้องการความเป็นส่วนตัว ขอเงินและการติดต่อกับทุกคนได้เพราะคนอย่างฉันพูดคำไหนคำนั้นคือไม่หนีก็คือไม่หนีถ้าคุณไม่เชื่อคำพูดฉัน”ฉันเว้นระยะและจ้องหน้าเขาพร้อมกับกรีดรอยยิ้มที่ชั่วร้ายที่สุดให้เขาดู“ฉันจะหนีทุกอย่างเมื่อมีโอกาส”“โอเคลูก พ่อเชื่อคำหนูพ่อจะให้ทุกอย่างที่หนูต้องการ”เมื่อท่านนายกพูดเสร็จเขาก็ดีดนิ้วดังเป๊าแล้วสักพักก็มีบอดี้การ์ดชุดดำสามคนเดินถือถาดของอะไรมาก็ไม่รู้ ฉันก็มองมันอย่างสงสัย
คฤหาสน์ ซานโต้มิซาโนะ ซานโต้……“ลูกชาย^_^”เสียงร้องออกมาด้วยความดีใจของผู้หญิงที่ผมรัก ร้องทักผมพร้อมกับผมที่เดินเข้าไปสวมกอดท่านด้วยความคิดถึง“ลมอะไรหอบลูกมาเนี่ยซาโนะ?”แม่ของผมเอ่ยถามผมทันทีที่ท่านผละกอดไปจากผม ผมก็ยิ้มให้ท่าน เพราะตั้งแต่ปลายฟ้าแต่งงานกับไอ้ริวผมก็เข้าไปบริหารงานเองทุกอย่าง งานผมเยอะจนไม่มีเวลากลับบ้านมาหาแม่ของผม ครั้งสุดท้ายที่กลับมาก็เมื่อตอนที่ผมเจอยัยโยโกะครั้งแรกนั้นแหละ “ผมจะกลับมาอยู่ที่นี้แล้วครับ”“อ้าวทำไมล่ะ ทำไมลูกไม่ไปอยู่กับหนูซาโยโกะจังล่ะ?”แม่ผมร้อนใจถามผม ผมก็เอื้อมมือไปจับมือมาผมมากุมไว้ด้วยความเคารพรัก แม่คือผู้หญิงที่แกร่งที่สุดในสายตาผมผมรักท่าน“เธอกลับไปอยู่กับพ่อของเธอแล้วครับ”ผมตอบแม่ไปพลางเดินโอบเอวท่านไปยังห้องนั่งเล่นและพาท่านนั่งลงบนโซฟาตัวแพงและผมก็เอนตัวลงนอนตักแม่ของผม ท่านก็ยื่นมือมาลูบกลุ่มผมของผมอย่างแผ่วเบา“อ้าวหนูโยโกะเธอเข้าใจพ่อของเธอแล้วเหรอ?”“เปล่าหรอกครับแม่ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผู้หญิงนี่เข้าใจยากจริงๆนะครับ”ผมบอกแม่ไปพลางจับมือท่านมาแนบกับแก้มของผมแม่ของผมก็ยิ้มขำ“ชอบหนูซาโยโกะเหรอลูก ถึงอยากจะเข้าใจเธอน่ะ?”“เปล่าน
คฤหาสน์ มิยาชิตะต้นฝน ซาโยโกะจัง...“คุณหนูคะ คุณหนูของมาม่าซัง^_^”เสียงร้องด้วยความดีใจของมาม่าซังเอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นร่างของฉันเดินเข้ามาภายในบ้าน ฉันก็ยิ้มและอ้าแขนรอรับร่างของมาม่าซังที่วิ่งเข้ามาสวมกอดฉันด้วยความคิดถึงพรึบ“คุณหนูของมาม่าซัง คิดถึงจังเลยค่ะ^_^”มาม่าซังผละกอดออกจากฉันแล้วเอ่ยบอกฉันด้วยนำ้เสียงและแววตาที่จริงจัง“หนูก็คิดถึงมาม่าซังค่ะ^_^”ฉันเอ่ยบอกมาม่าซังกลับไปและในทันใดนั้นสายตาของฉันก็ไปสบเข้ากับดวงตาสีนำ้ตาลที่สั่นไหวเขากำลังมองมาที่ฉันและยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ใครคนนั้นก็คือท่านมิซานท่านนายกรัฐมนตรียังไงล่ะ“คุณหนูมาเที่ยวเหรอคะ?”มาม่าซังเอ่ยถามฉัน ฉันก็ละสายตามามองหน้ามาม่าซังและยิ้มกว้างขึ้น“เปล่าหรอกค่ะ หนูจะกลับมาอยู่ที่นี้และหนูก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น!”ฉันพูดออกมาด้วยนำ้เสียงเยือกเย็นและเเข็งกร้าว“ลูกหมายความว่ายังไงโยโกะ?”ท่านมิซานเอ่ยถามฉันด้วยนำ้เสียงสงสัยปนแปลกใจกับคำพูดของฉัน“ผมเอาคุณหนูโยโกะมาคืนท่านครับ”มิซาโนะที่เดินตามหลังฉันมาเอ่ยขึ้น ทำให้ท่านมิซานมีสีหน้าที่ตกใจหนักกว่าเดิม“หมายความว่ายังไงซาโนะ?”ท่านมิซานเอ่ยถามซาโนะซาโนะก็ค่อยๆเดินก้มศี
“ไม่น่ะ ถ้าคุณไม่ขัดใจผมหรือขัดคำสั่งผม”เขาตอบฉันมาพลางยักคิ้วข้างหนึ่งให้ฉัน ฉันก็จิ๊ปากใส่เขาและเอาแผ่นหลังพิงพนักที่นั่งและเอามือขึ้นมากอดอกและมองออกไปนอกเรือและได้ยินเสียงปืนดังถี่รัวแบบไม่มีหยุดพัก เหมือนเกาะนั้นกำลังเกิดสงครามกันอยู่“ที่คุณถูกทำร้ายเป็นแผนของแฟนพี่ปลายฟ้าเหรอคะ?”ฉันที่นึกขึ้นได้ก็รีบหันไปถามซาโนะแต่ในจังหวะนั้นฉันที่หันเร็วและซาโนะก็เกิดจะหันมาหาฉันอีกเหมือนกันทำให้ใบหน้าของเราอยู่ใกล้กันและจมูกชนกันเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวฉันหยุดนิ่งไปเหมือนโดนหยุดเวลา ไม่มีอะไรขยับเคลื่อนไหวมีเพียงแค่ลมหายใจของฉันที่ผ่อนเข้าออกด้วยอาการแปลกๆเพราะหัวใจเต้นรัวเเเรงทำให้ลมหายใจติดขัด“จูบ”ฉันเบิกตาโตขึ้นทั้งสองข้างเมื่อมิซาโนะคนฉวนโอกาสขยับใบหน้าหล่อของเขาเข้ามาหาฉันพร้อมกับกดริมฝีปากนุ่มๆของเขาลงมาแนบชิดกับริมฝีปากของฉัน พรึบ“ไอ้คนฉวยโอกาส นายจูบฉันสี่ครั้งแล้วนะ!!”ฉันผลักร่างของซาโนะให้ออกไปจากฉันอย่างแรงจนร่างของเขาล้มลงไปอยู่บนพื้นเรือและฉันก็ลุกขึ้นยืนชี้หน้าว่าเขาพลางใช้มืออีกข้างถูริมฝีปากของตัวเองไปด้วย ลูกน้องของซาโนะรีบวิ่งเข้าไปพยุงร่างของผู้เป็นนายให้ลุกขึ้นยืน