1 เดือนต่อมาอยู่ๆ แทนไทก็มีอาการแปลกๆ อาเจียนจนหมดเรี่ยวหมดแรง ได้กลิ่นอะไรไม่ได้เลย ทั้งกลิ่นน้ำหอมจากตัวบอดี้การ์ด หรือแม้แต่อาหาร แต่กลับติดกลิ่นกายของพรพระพายตรัยคุณกลับคอนโดมิเนียมไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อไม่ให้มีกลิ่นน้ำหอมติดตัว แล้วกลับมาดูอาการของเจ้านายหนุ่ม ที่ตอนนี้นั่งหมดสภาพอยู่ในห้องน้ำ โดยมีพรพระพายคอยดูแลอยู่ข้างๆ"พายพาคุณแทนออกมานั่งพักข้างนอกก่อนเถอะ" ตรัยคุณเอ่ยบอก"ไอ้เดย์มึงอย่าเข้ามา แค่นี้กูก็หมดแรงแล้ว" แทนไทเอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของตรัยคุณ ด้วยรู้สึกขยาดกลิ่นน้ำหอมบนตัวของบอดี้การ์ดของเขา"ผมไปอาบน้ำมาใหม่แล้วครับ ไม่ได้ฉีดน้ำหอมมา" ตรัยคุณบอก"มึงค่อยๆ เดินเข้ามา" แทนไทบอกทั้งที่ยังซบหน้าอยู่กับเนินอกของพรพระพาย"เหม็นไหมครับ" ตรัยคุณค่อยๆ ก้าวเท้าเข้าใกล้มาเฟียหนุ่ม แทนไทก็ทำจมูกฟุดฟิดสูดดมกลิ่นกายของเขา"เออ ค่อยดีขึ้นมาหน่อย พายมาใกล้ๆ พี่ มึงไปโยนทิ้งได้เลยนะกูว่าหมดอายุแน่ๆ น้ำหอมพวกมึง" แทนไทเอ่ยขึ้นขณะที่ตรัยคุณพยุงเขาออกจากห้องน้ำ แต่ก็ไม่ยอมให้พรพระพายอยู่ห่างตัว"ผมพึ่งซื้อมา" ตรัยคุณว่า น้ำหอมขวดนี้เขาพึ่งซื้อมาเมื่อสองวันก่อนนี้เอง"ง
ตรัยคุณนำมะม่วงไปล้าง แล้วมานั่งปอกที่โต๊ะเตรียมอาหารกลางห้องครัว ยลดาก็ทำกะปิหวานอยู่หน้าเตา คอยชำเลืองตามองร่างเล็กเป็นระยะ"จะมองอะไรนักหนา ปอกมะม่วงไปสิ" ยลดารู้สึกว่ากำลังถูกจ้องมอง และเมื่อเธอหันมาก็จริงอย่างที่รู้สึก"เออ ดุฉิบ" ตรัยคุณว่า แล้วนั่งปอกมะม่วงต่อจนเสร็จ"นี่ไปทำมะม่วงกะปิหวานกันท่าไหน อีกคนหัวปูด อีกคนก็จมูกแดงอย่างกับโดนผึ้งต่อย" ป้าแช่มเอ่ยถามเมื่อเห็นหน้าตรัยคุณกับยลดา ที่ยกจานมะม่วงกับถ้วยกะปิหวานมาให้แทนไท"เห๊อะ!/เห๊อะ!" ทั้งสองคนไม่ได้ตอบ ต่างหันมองหน้ากันและสะบัดหนีไปคนละทาง"ป้าแช่มคะ วันนี้ยูมิต้องขอโทษด้วยนะคะที่อยู่ช่วยงานป้าแช่มไม่ได้" ยลดาเดินเข้ามากอดป้าแช่ม เอ่ยบอกเสียงอ้อน"ไม่เป็นไรหรอก แม่บ้านเยอะแยะ พอใส่ชุดนักเรียนก็น่ารักไปอีกแบบนะเนี่ย""ขอบคุณค่ะ แต่ชุดนี้คงใส่แค่ไปสมัครเรียน เพราะถ้าเปิดเทอมก็ต้องใส่เครื่องแบบของโรงเรียน""แล้วนี่จะไปสมัครเรียนยังไง""ยูมิเดินไปหน้าปากซอยแล้วค่อยต่อรถเมล์ไปค่ะ แค่ต่อเดียวก็ถึงแล้ว""แต่กว่าจะเดินถึงหน้าปากซอย เหงื่อท่วมตัวพอดี ไม่ให้ใครไปส่ง""ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ แล้วยูมิเกรงใจด้วย ยูมิเป็นแค่คนอาศัย ไม่อยาก
"รู้ชื่อจริงยูมิได้ไง" ยลดาเอ่ยถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาพูดชื่อจริงของเธอออดมา ทั้งที่เธอไม่เคยบอกใคร"ฉันรู้มากกว่าชื่อจริงเธออีก" ตรัยคุณตอบโดยไม่ได้หันมามองหน้าเธอ"คงสืบเรื่องของยูมิมาแล้วสินะ""...คิดจะกลับไปหาแม่บ้างไหม" เขาถามเธอหลังจากที่นั่งเงียบมาสักพัก"ไม่ ถ้าพี่พายไม่ไล่ยูมิ ยูมิก็จะไม่ไปไหน" เด็กสาวยืนกรานเสียงหนักแน่น"แล้วไม่คิดจะไปอยู่กับพ่อบ้างเหรอ บางทีถ้าเธอได้อยู่กับพ่อชีวิตของเธออาจจะดีกว่านี้ก็ได้""จะให้ยูมิไปอยู่กับพ่อได้ยังไง ยูมิยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหน้าตาของเขาเป็นยังไง แต่ถึงจะรู้ว่าใครเป็นพ่อ ยูมิก็ไม่ไปอยู่กับเขาหรอก เขาทิ้งยูมิไปตั้งแต่ยูมิอยู่ในท้อง เขาไม่เคยต้องการยูมิ" ยลดาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ"แล้วถ้าเขามีเหตุผลที่จะต้องกลับไปอยู่ญี่ปุ่นล่ะ""เหตุผลเหรอ คนที่ทิ้งลูกตัวเองไปโดยไม่เคยกลับมาสนใจใยดี เขาจะมีเหตุผลอะไร นอกจากเขาไม่เคยต้องการยูมิ เขาไม่ได้ตั้งใจให้ยูมิเกิดมา""เธอรู้ได้ยังไงว่าเขาไม่เคยสนใจ ไม่เคยต้องการเธอ""นายพูดแบบนี้หมายความว่าไง นายไปรู้อะไรมา""เปล่า ฉันแค่สมมติ""แต่ฉันว่านายต้องรู้" ยลดาคาดคั้น มั่นใจว่าเขาต้องรู้เรื่องพ่อของเธอ
"ลงซิ" เขาบอกเมื่อขับรถมาจอดที่ร้านโจ๊กหน้าปากซอย และลงจากรถไป"เดี๋ยวยูมิไม่ทันรถเมล์" ยลดาเดินตามเขามาที่โต๊ะ แล้วเอ่ยบอก"นั่งลง กินเสร็จเดี๋ยวไปส่ง ป้า โจ๊กหมูใส่ไข่สอง" เขาบอก แล้วนั่งเท้าคางเอามือปิดหน้าไว้"เป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า" ยลดายื่นมือไปแตะที่หน้าผากของเขา"เป็นห่วงฉันเหรอ" มือใหญ่คว้ามือของยูมิไว้ แล้วเอ่ยถาม"ปล่อยสิ จะจับทำไม" ยลดาพยายามดึงมือออกจากการเกาะกุมของเขา แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อย"ฉันถาม ว่าเป็นห่วงฉันเหรอ" เสียงทุ้มถามจริงจังพร้อมทั้งมองใบหน้าของเธอที่เป็นสีชมพูระเรื่อ"ก็เห็นเหมือนเพลียๆ เหนื่อยๆ ก็เลยถาม""ขอพักสายตาสักสิบนาที เธอกินก่อนเลยนะ" เขาบอกก่อนจะฟุบหน้าไปกับโต๊ะ โดยที่ยังจับมือของเธอไว้ไม่ยอมปล่อยเพียงไม่นานโจ๊กร้อนๆ หอมกรุ่นก็ถูกนำมาวางบนโต๊ะ เด็กสาวตักโจ๊กขึ้นมาเป่าๆล่ความร้อน ก่อนจะส่งเข้าปาก ถึงจะจับช้อนไม่ถนัด เพราะมือขวาของเธอยังถูกตรัยคุณจับไว้ แต่เธอก็ปล่อยให้เขาได้พักสายตา"นี่ สิบนาทีแล้วนะ" เมื่อครบสิบนาทีตามที่เขาบอก เธอจึงเอ่ยเรียก"อื้อ...วันนั้นยังเรียกฉันพี่อยู่เลย ทำไมวันนี้ถึงไม่เรียก" ตรัยคุณงัวเงียลืมตาขึ้นมา แล้วเอ่ยถามเธอ"ก
#ตรัยคุณหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ที่ต้องทำงานแทนเจ้านายที่มีอาการแพ้ท้องแทนเมีย งานทุกอย่างจึงถูกโยนมาที่ผมทั้งหมด แม้แต่เวลากินข้าวยังแทบไม่มี นอนก็แทบจะไม่ได้นอนโดยปกติผมกับคุณแทนจะแบ่งงานกันทำ จึงทำให้สามารถจัดสรรเวลาได้ แต่ตอนนี้นี่สิรอบๆ ตัวของผมมีแต่งาน แล้วก็งาน กลางวันเข้าบริษัทนี้ออกบริษัทนู้น ก็บริษัทในเครือแทนไท คอร์ปอเรชั่น มีเป็นสิบๆ บริษัท ไหนจะสถานบันเทิงอีกที่ต้องเข้าไปตรวจบัญชีทุกคืนแต่ตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์มันทำให้ผมได้รู้ใจตัวเอง ผมคิดถึงใบหน้าจิ้มลิ้ม ปากเล็กๆ แต่เถียงเก่งเป็นบ้า ผมคิดถึงเธอขณะที่กำลังนั่งตรวจบัญชีของผับ แล้วก็นั่งคิดถึงเธอไปด้วย หมวยเด็กนั่งดริ้งที่ผมเคยมีอะไรด้วย วันนี้เธอใส่ชุดสีแดงเกาะอกสุดเซ็กซี่ เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วเหล้า เธอก็เข้ามายั่วผมตามสไตล์ของเธอ"เฮียไม่เห็นลงไปข้างล่างบ้างเลย หมวยคิดถึ๊กคิดถึงเฮีย" เธอเดินเข้ามานั่งบนตักของผม เรียวแขนกอดรัดรอบลำคอของผมไว้ พูดออดอ้อนเสียงหวาน"ฉันต้องทำงาน" ผมบอกเสียงเรียบ"งานคงเยอะหน้าดู เฮียคงเครียด ให้หมวยช่วยคลายเครียดให้นะคะ" เธอจับมือของผมให้ไปจับหน้าอกใหญ่ผมก็จัดการรั้งชุดของเธอลงมา สองเต้าใหญ่ ก
ในระหว่างที่ขับรถไปส่งเธอที่โรงเรียน เมื่อได้มองใบหน้าของเธอ มันทำให้ผมอดใจไม่ได้จริงๆ ที่จะรั้งเธอเข้ามาจูบ เธอดูงง นิ่งอึ้ง คล้ายๆวิญญาณหลุดออกจากร่างไปชั่วขณะ ใบหน้าของเธอแดงซ่าน ตอนแรกผมนึกว่าเธอจะโวยวายลั่นรถ หรือไม่ก็ชกหน้าผมแบบวันนั้น แต่เธอกลับนั่งนิ่ง เปลี่ยนเป็นคนละคน เมื่อเห็นเธอนิ่งผมก็เลยได้ใจ จูบเธอไปอีกรอบก่อนที่เธอจะเดินเข้าโรงเรียนวันนี้งานยุ่งมาก ผมอยากไปรับเธอที่โรงเรียน แต่งานเจ้ากรรมก็ไม่มีทีท่าว่าจะหมดสักที จนเวลาล่วงเลยเกือบห้าโมงเย็น ผมเคลียร์งานแฟ้มสุดท้ายเสร็จ ผมก็รีบออกไปทันทีใจผมคิดว่าเธอคงกลับบ้านไปแล้ว แต่เพื่อความแน่ใจผมจึงขับรถตรงไปยังหน้าโรงเรียนของเธอ เธอกำลังเดินข้ามถนนเพื่อไปป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้าม ผมรีบเหยียบคันเร่งขับไปยูเทิร์นรถ แล้วมาจอดข้างทางใกล้ๆ กับป้ายรถเมล์ เธอมัวแต่นั่งเล่นสมาร์ทโฟน ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง ผมจึงเดินเข้าไปหาเธอ#ตรัยคุณ จบหลังเลิกเรียนยลดาออกมารอตรัยคุณหน้าโรงเรียน เวลาผ่านไปจนเกือบห้าโมงเย็นเขาก็ไม่มา เธอจึงตัดสินใจเดินไปที่ป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามโรงเรียน ระหว่างรอรถเมล์เธอก็หยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย"รอฉันเหรอ
"นี่ ทำไมต้องมากอดคอด้วย มันหนัก" ตรัยคุณใช้เรียวแขนโอบรอบลำคอของยลดาไว้"เดี๋ยวเธอหลง ต้องเดินใกล้ๆ กัน""ยูมิไม่ใช่เด็กแล้วนะ" เด็กสาวบอกเขาอย่างเอือมระอาคนหน้ามึนตรัยคุณไม่สนใจเสียงใสๆ ของเธอ เขาเดินกอดคอเธอจนมาถึงร้านไอศกรีม"เลือกได้ยัง" ยลดาเลือกไอศกรีมไม่ได้สักทีจนเขาต้องเอ่ยถาม"ใจเย็นๆ สิ ยูมิขอดูราคาก่อน ทำไมมันมีแต่แพงๆ ไม่มีถ้วยละยี่สิบบาทบ้างเหรอ" ยลดาเอาเมนูไอศกรีมบังหน้า แล้วเอ่ยถามตรัยคุณเสียงกระซิบ พลางชำเลืองตามองพนักงานที่ยืนรอรับออเดอร์"ยัยบ๊อง เลือกมาเลยชอบอันไหน เร็วๆ พนักงานรออยู่" ตรัยคุณยิ้มขำใช้เมนูตีไปที่หน้าผากเหม่งของเด็กสาว"แค่นี้ก็ต้องใช้ความรุนแรง เลือกให้หน่อย เลือกไม่ถูก" ยลดาลูบหน้าผากตัวเองป่อยๆ"เอาอันนี้ครับ" ตรัยคุณชี้บอกพนักงาน พนักงานก็จดออเดอร์แล้วเดินออกไป"ไหน สั่งอันไหน...หู้ยยย ตั้งสามร้อยกว่าบาทแหนะ" ยลดาทำตาโตเท่าไข่ห่าน เมื่อเขาชี้ให้ดูไอศกรีมที่สั่งไป"ติดอาชิมาหรือไง ไอ้หู้ยๆ เนี่ย ถ้าคิดว่ามันแพงก็กินให้หมด""ชิ! นี่นาย...อื้อ...ตีปากยูมิทำไม" ตรัยคุณใช้ปลายมือตีปากเล็กที่ช่างเจรจา ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น"ปีนเกลียวจนเคยตัว เ
"เลือกเลยชอบตัวไหน" ตรัยคุณพาเด็กสาวมาหยุดยืนอยู่หน้าร้านเสื้อผ้าสำหรับวัยรุ่น"ไม่เอาหรอก น่าจะแพง" ยลดาปฏิเสธทันที ด้วยรู้ดีว่าเสื้อผ้าในห้างสรรพสินค้ามีราคาสูงกว่าร้านข้างนอก หรือตามตลาดนัด"ฉันมีเงินจ่าย ชอบตัวไหนก็หยิบมา""ไม่เป็นไร ยูมิจ่ายเอง เมื่อเช้าพี่เดย์ให้มา ยูมิยังไม่ได้ใช้เลย""ไปเลือก ให้เวลาชั่วโมงหนึ่ง เดี๋ยวต้องเข้าไปเช็คของที่ผับ""เรากลับกันเลยก็ได้" ยลดาบอก เมื่อเขามีงาน เธอก็ไม่อยากทำให้เขาเสียเวลากับเธอ"ไป เลือก ชุด" เขาเน้นย้ำทีละคำ เธอจึงจำใจเดินไปเลือกเสื้อผ้าไม่ถึงสิบห้านาที ยลดาก็กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเขา เขาละสายตาจากสมาร์ตโฟนเครื่องหรู มองหน้าเธอ"ทำไมเร็ว ไหนล่ะชุด""ยูมิไม่เอาแล้ว แต่ละตัวเป็นพันเลย""ไปเลือกมาสิบชุด ถ้าไม่ได้วันนี้ก็ไม่ต้องกลับ" เขาพูดเสียงดังออกคำสั่ง"ก็ได้ ไม่เห็นต้องดุเลย" ยลดาว่า ก่อนจะเดินไปเลือกเสื้อผ้า จนเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง"เสร็จแล้ว ครบสิบชุดพอดีเป๊ะ""อืม" ตรัยคุณลุกขึ้นเดินไปที่เคาน์เตอร์สำหรับจ่ายเงิน"ทั้งหมดหนึ่งหมื่นแปดพันเก้าร้อยบาทค่ะ" พนักงานงานแจ้งราคา เขาจึงยื่นบัตรเครดิตให้พนักงาน ยลดาตาโตเมื่อได้ยินราคา"อยาก
"ผมว่าเฮียกับผมเตรียมตัวเป็นลูกที่ถูกลืมได้เลย ดูท่าแล้วป๊ากับม๊าจะเห่อลูกสาวคนใหม่" บอลพูดขึ้น เมื่อพ่อกับแม่เอาแต่คุยกับมะปรางอย่างถูกอกถูกใจ"มะปรางมาหาม๊าลูก ม๊าจะสอนให้มะปรางดูลายทอง" มะปรางเดินไปหาแม่ของบาสอย่างว่าง่าย พร้อมที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่พวกท่านพร่ำสอนด้วยความเต็มใจ"ป๊าถูกใจลูกสะใภ้คนนี้นะ พามาหาป๊ากับม๊าบ่อยๆ มาเรียนรู้งานร้านทอง ต่อไปร้านนี้ก็ต้องเป็นของบาส เพราะบาสเป็นคนสร้างมันขึ้นมา""ป๊าพูดแบบนี้เดี๋ยวบอลมันก็น้อยใจแย่""ไม่เลยเฮีย ผมไม่มีความรู้สึกนั้นเลย""บอลมันจะชอบน่ะสิ จะได้มีคนมาคอยดูแลแทน ทุกวันนี้ทำหน้าเหมือนโดนบังคับ อยากแต่จะไปเปิดร้านอะไหล่รถบิ๊กไบค์อะไรของมัน""พร้อมเมื่อไรก็บอกล่ะ เฮียจะลงทุนให้""ไม่ต้องเลยเฮีย แค่เปอร์เซ็นต์จากกำไรร้านทองก็พอแล้ว ตอนนี้ผมแค่รอให้เฮียกลับมาดูแลร้านทองนี่แหละ ผมจะได้โบยบินไปตามความฝันผมเสียที""คงต้องรอให้มะปรางเรียนจบก่อน""อีกตั้งสี่ปีไม่ใช่เหรอเฮีย ผมแก่พอดี""ก็ให้มะปรางมาเรียนรู้กับม๊า หลังเลิกเรียนถ้าว่างก็มาร้าน ทำให้เคยชิน เพราะยังไงอนาคตก็ต้องดูแลกิจการกันเอง ป๊าจะได้พาม๊าเที่ยวรอบโลกเสียที ถ้ารอให้แก่กว่านี
"พรุ่งนี้ไปหาป๊ากับม๊าเฮียนะ ไปนอนค้างสักคืน" บาสเอ่ยบอกเมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากพึ่งอาบน้ำเสร็จ"มันไม่เร็วไปเหรอคะ" มะปรางกำลังนอนเล่นเกมอยู่บนเตียง เธอรีบวางสมาร์ตโฟนลงบนเตียงแล้วลุกขึ้นมานั่งที่ปลายเตียง แสดงความกังวลออกมาให้เห็น"เฮียไม่เห็นรู้สึกเลยว่ามันเร็ว เราคบกันมาเกือบปีแล้วนะ""แล้วป๊ากับม๊าเฮียจะชอบปรางไหม ปรางไม่มีอะไรเลย แล้วพวกท่านจะคิดว่าปรางเป็นเด็กใจแตกหรือเปล่าที่ปรางมาอยู่กับเฮียแบบนี้ ปรางว่ารอให้ปรางเรียนจบก่อนดีไหม ปราง...." มะปรางคิดไปต่างๆ นานาด้วยความกลัวว่าพ่อแม่สามีจะไม่ชอบเธอ"ปราง ปรางฟังเฮียนะ ป๊ากับม๊าเฮียรู้เรื่องของเราแล้ว เฮียเล่าเรื่องปรางให้พวกท่านฟังแล้ว แล้วพวกท่านก็เป็นคนให้เฮียพาปรางไปหาเอง" บาสประคองกรอบหน้าของมะปรางให้มองมาที่หน้าของเขา เอ่ยบอกเสียงหนักแน่น"ทำไมเฮียไม่บอกปรางก่อนว่าเฮียเล่าเรื่องปรางให้ป๊ากับม๊าของเฮียฟัง ปรางกลัวว่าพวกท่านจะไม่ชอบปราง""ทำไมเป็นคนคิดมากแบบนี้" บาสรั้งมะปรางเข้ามากอดพลางลูบศีรษะทุยอย่างอ่อนโยน"..........""อย่าคิดมาก ปรางก็เป็นปราง ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรทั้งนั้น อยู่กับเฮียเป็นยังไง อยู่ต่อหน้าป๊าม๊าก็
"อื้ม...เฮียโทรมามีอะไรหรือเปล่า...ซี๊ดดด" บาสกดรับทันทีที่เห็นเจ้าของสายที่โทรเข้ามาขัดจังหวะ ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะมีเรื่องด่วน"เชี้ยบาส! แล้วมึงจะรับทำเชี้ยอะไร" เสียงของเดย์ตะโกนกลับมาตามสาย จนบาสต้องยกสมาร์ตโฟนออกห่างหู"หูแทบแตก...อ๊า...แต่ตอนนี้เฮียจะแตกแล้ว...เสียวหัวมากเบบี๋...อื้มมม"บาสครางเสียงกระเส่าเมื่อมะปรางยังคงตั้งหน้าตั้งตาดูดดุนเน้นๆไปที่ปลายหัวหยัก สลับไล้เลียไปตามเส้นสองสลึงตั้งแต่โครนจรดปลาย"อื้อ..." เสียงเล็กครางประท้วงเมื่อบาสอัดกระแทกเอวส่งแก่นกายใหญ่เข้าปากรัวเร็วเมื่อใกล้ถึงฝั่งฝัน"โอ้ววว...ซี๊ดดด...เฮียจะแตกแล้ว...เบบี๋...อ๊า...อ๊าสสสสส"บาสเกร็งกระตุกไปทุกส่วนเมื่อปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นเข้าปากมะปรางหมดทุกหยาดหยด เขาทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาหายใจหอบเหนื่อย ก่อนจะผงกหัวมองมะปรางที่นั่งอยู่หว่างขา ที่กำลังใช้หลังมือเช็ดคราบน้ำรักที่ไหลออกมาบางส่วน"มันยังแข็งอยู่เลย" มะปรางจ้องมองไปที่แก่นกายใหญ่พลางใช้นิ้วจิ้มไปมา มันก็เด้งสู้มือของเธอ"โอ้ววว...มะปราง...ซี๊ดดด...อ๊า" บาสร้องครางลั่นเมื่อมะปรางขึ้นมานั่งทับแล้วจับท่อนเอ็นใหญ่ดันเข้าไปในช่องทางรัก"อื้อออ...ของเฮ
"ตื่นได้แล้ว ไม่ไปโรงเรียนหรือไง" บาสใช้ปลายจมูกโด่งคลอเคลียไปตามกรอบหน้าของมะปราง"อื้ออออ กี่โมงแล้วคะ" มะปรางหลับตาถามพลางซุกหน้าเข้าหาอกแกร่ง"เจ็ดโมงแล้ว""ขอนอนอีกครึ่งชั่วโมงได้ไหม""ก็ได้ งั้นเฮียไปอาบน้ำก่อน" บาสบอกพลางจะลุกจากเตียง แต่มะปรางก็ตวัดแขนโอบกอดเขาไว้"ไม่เอา ปรางอยากนอนกอดเฮีย""อย่าอ้อนเยอะ แค่นี้ก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว" พูดจบบาสก็ก้มลงไปหอมแก้มป่องหนักๆ"ปรางอยากให้เฮียหลงปรางเยอะๆ เฮียจะได้ไม่ทิ้งปราง""คิดมากนะเรา เฮียไม่มีทางทิ้งมะปรางหรอก เฮียต่างหากที่ต้องเป็นคนกลัว""กลัวอะไรคะ""กลัวว่าถ้าสักวันมะปรางเจอคนที่ถูกใจ ที่อายุไล่เลี่ยกัน มะปรางก็จะเปลี่ยนใจไปจากเฮีย""ว่าแต่ปรางคิดมาก เฮียคิดมากยิ่งกว่าปรางอีก เฮียเป็นคนให้ชีวิตใหม่กับปราง ปรางก็จะตอบแทนเฮียด้วยความรักทั้งหมดของปราง เฮียเคยฟังเพลงนี้ไหม...อายุเป็นเพียง แค่สายลมผ่านพัดไป เธออย่าคิดมากได้ไหมความรักเป็นเรื่องของหัวใจ ไม่ใช่เรื่องใดไม่ต้องคิดอะไร อายุเป็นเพียง แค่สายลมผ่านพัดไป" (#เพลงเด็กกว่าแล้วไง AB Normal)"สงสัยวันนี้มะปรางคงไม่ได้ไปโรงเรียนแล้วล่ะ ส่วนเฮียก็คงต้องโทรไปลางาน""ทำไมล่ะคะ""เห
บาสดูดเลียน้ำหวานที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากดอกไม้งาม แล้วสอดนิ้วแกร่งเข้าไปให้ลึกกว่าเดิม แล้วรีบชักนิ้วเข้าออกเร็วขึ้น มือหนาเลื่อนขึ้นไปบีบขยำนวดคลึงเต้าใหญ่พลางใช้ปลายนิ้วสะกิดยอดปทุมถัน"อ๊ายยยยยยยย"ร่างเล็กเกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำหวานสีใสออกมาอีกครั้ง นอนตาลอยตัวเบาหวิว หายใจหอบหนัก"ขอเฮียเข้าไปในตัวมะปรางนะครับ" บาสบอกหลังจากชักนิ้วออกจากร่องรักแล้วส่งเข้าปาก ดูดเลียน้ำหวานตามซอกนิ้ว แล้วแทรกกายเข้าไปอยู่กลางหว่างขา จับท่อนเอ็นร้อนถูไถขึ้นลงกับร่องรักที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำหวานสีใส แล้วก้มลงไปประกบจูบริมฝีปากอิ่มพลางสอดลิ้นร้อนไปเกาะเกี่ยวลิ้นเล็ก มะปรางพยายามจูบตอบอย่างเงอะงะไม่เป็นประสาบาสค่อยๆ กดปลายหัวหยักสอดใส่เข้าไปในร่องรักทีละนิด พร้อมทั้งจูบปลุกเร่าให้เธอเคลิบเคล้มไปกับรสจูบแสนเร่าร้อนของเขา จนสามารถเข้าไปในตัวเธอได้ครึ่งลำ แต่ก็ต้องหยุดชะงักกับเยื่อบางๆ ที่ขวางทางรักบาสกอดจูบแลกลิ้น มือทั้งสองข้างบีบนวดขยำลูบไล้ไปทั่วเรือนร่าง ปลุกเร้าอารมณ์ให้ร่างเล็ก ก่อนจะถอดถอนแก่นกายใหญ่ออกมาเกือบสุดปลายหัวหยัก แล้วกดกระแทกเข้าไปใหม่ ให้ผ่านเยื่อพรหมจรรย์เข้าไปได้"อื้อออออออ" เสียงเล็
"ทำไมมันใหญ่จ้นล้นมือแบบนี้ นี่นมเด็กสิบแปดจริงไหมเนี่ย" บาสนวดคลึงสองเต้าใหญ่พลางพิจารณาขนาด ปากก็เอื้อนเอ่ยพึมพำ ตาก็จ้องไม่กะพริบ แล้วก็อดใจไม่ไหวรีบก้มลงเอาปากงาบงับยอดปทุมถันแล้วดูดแรงๆ"อื้ออออ ฮะ...เฮียอย่า" เสียงใสห้ามปนเสียงคราง พลางแหงนหน้ากัดริมฝีปากตัวเอง มือที่เคยทุบตีก็อ่อนแรงลงเอาดื้อๆ จนเปลี่ยนไปใช้เล็บจิกที่ไหล่แกร่งของเขาแทน บาสช้อนตามองใบหน้าจิ้มลิ้ม ที่ขณะนี้ช่างดูเซ็กซี่ยิ่งนักบาสดูดยอดปทุมถันสลับซ้ายขวา พลางลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้ง แล้วผละริมฝีปากจากเต้าใหญ่ จูบไล้ลงมาเรื่อยๆ ตามหน้าท้องแบนราบมาหยุดตรงกลางกายความเป็นสาว ก่อนจะยกเรียวขาข้างหนึ่งขึ้นพาดบ่าแล้วซุกหน้าเข้าหาดอกไม้งามเรียวลิ้นตวัดสัมผัสกลีบดอกไม้อันอวบอูม แล้วแยงลิ้นร้อนชอนไชไปตามรอยแยก"ฮะ...เฮีย...ยะ...หยุดเถอะ...ฮึก...ฮึก" บาสหยุดชะงักลงเมื่อหยดน้ำตาร่วงหล่นลงมาตรงหน้าผากเขาพอดี เขาจับขาเรียวลงจากบ่า แล้วหยัดกายลุกขึ้นยืน"ทำไม มะปรางรังเกียจสัมผัสจากเฮียหรือไง ถึงไม่ยอมให้เฮียทำ" บาสเอ่ยถามชิดพวงแก้มด้วยน้ำเสียงแหบพร่า แล้วจูบซับน้ำตาให้เธอ"เปล่าค่ะ แต่ปรางกลัว กลัวว่าจะมองหน้าเฮียไม่ติดถ
"ทำไมห้องถึงมืดแบบนี้วะ...มะปราง!!...ทำไมถึงไม่เปิดไฟ...มะปราง!!...หายไปไหน" บาสเปิดประตูห้องเข้ามา แต่พบว่าห้องอยู่ในความมืดมิด เขาจึงเรียกขานหามะปราง แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา"ทุ่มกว่าแล้ว หายไปไหน" บาสบ่นพึมพำกับตัวเอง เมื่อไม่พบมะปรางอยู่ในห้อง"หรือว่า..." เมื่อนึกได้ว่ามะปรางหายไปไหน เขาก็รีบหยิบหมวกกันน็อคกับกุญแจรถแล้วออกจากห้องไปทันที"เฮีย! เดี๋ยวสิเฮีย เฮีย!" มะปรางร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆ บาสก็เข้ามายื้อยุดฉุดกระชากให้เธอเดินออกไปนอกร้าน ท่ามกลางสายตางุนงงของพนักงานคนอื่นๆ และลูกค้าที่กำลังนั่งรับประทานอาหาร"....." บาสลากมะปรางออกมายังหน้าร้าน เขามองเธอด้วยใบหน้าบึ้งตึงที่บ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจสุดๆ"เฮียลากปรางออกมาทำไม ปรางจะทำงาน" มะปรางสลัดแขนออกจากการเกาะกุม แต่บาสก็ยังคงจับไว้แน่นไม่ยอมปล่อย"ใครให้มาทำ" บาสถามด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธ"ปรางก็ทำอยู่ทุกวัน""เมื่อวานเฮียบอกปรางว่าไง""บอก? บอกอะไร""เฮียจะเป็นคนดูแลมะปรางเอง""แล้ว?""เฮียจะเป็นคนดูแลมะปรางในทุกๆ เรื่อง คำว่าดูแลของเฮียคือ เฮียจะเป็นคนดูแลทั้งค่าเรียน ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง เฮียจะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด มะปรางไ
"ดึกแล้ว ค่อยจัดของพรุ่งนี้ก็ได้ มะปรางเข้าไปอาบน้ำก่อน จะได้นอนพัก พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนแต่เช้า" บาสบอกเมื่อเข้ามายังห้องพักส่วนตัวของเขา"แล้วจะให้ปรางนอนที่ไหนเหรอคะ" มะปรางมองไปรอบๆ ห้องนอน เพราะเท่าที่สังเกตตั้งแต่ย่างกายเข้ามาในห้องพักของเขา ห้องนี้น่าจะมีแค่ห้องนอนเดียว"ก็บนเตียงในห้องนี้" บาสบอกพร้อมทั้งปรายตามองไปที่เตียง"แล้วพี่บาสจะนอนที่ไหน ให้ปรางไปนอนโซฟาข้างนอกก็ได้นะคะ""ก็นอนด้วยกันบนเตียงนี้แหละ เตียงออกจะกว้าง""เออ...ปรางนอนดิ้นมากๆ ปรางกลัวว่าจะทำให้เฮียนอนไม่หลับ""ไปอาบน้ำ แล้วมานอนบนเตียงนี้ เดี๋ยวนี้""แต่...""ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ไปอาบน้ำ เฮียง่วงแล้ว" พูดจบบาสก็เดินหยิบผ้าเช็ดตัวส่งให้มะปราง และหยิบของตัวเองแล้วเดินออกไปอาบน้ำยังห้องน้ำด้านนอกมะปรางที่อยู่ในชุดเสื้อยืดตัวใหญ่กับกางเกงขาสั้น เธอชะงักไปเล็กน้อยเมื่อออกมาจากห้องน้ำแล้วเจอบาสนั่งพิงหัวเตียงเล่น สมาร์ตโฟน เขาไม่ได้ใส่เสื้อ ใส่เพียงกางเกงนอนขายาว เผยให้เห็นรอยสักบนตัวของเขาอย่างชัดเจน"ปิดไฟ แล้วมานอนสิ""แล้วจะให้ปรางนอนตรงไหน""ตรงนี้" บาสบอกพลางตบเตียงตรงที่ว่างข้างๆ"เร็วสิ เฮียง่วงแล้
"ฉันเรียกค่าเลี้ยงดูยัยมะปรางหนึ่งล้านบาท นี่ยังถือว่าไม่คุ้มทะ...""ตกลงหนึ่งล้านบาท ต่อไปนี้ชีวิตมะปรางเป็นของผม พวกคุณห้ามมายุ่งกับชีวิตของมะปรางอีก""ได้สิ พวกฉันจะไม่มายุ่งกับมันอีก""พรุ่งนี้สิบโมงเช้ามารับเงินสดหนึ่งล้านบาทได้เลย""ตกลง พรุ่งนี้สิบโมงฉันจะมารับเงินที่นี่ แล้วอย่าคิดที่จะพายังมะปรางหนีล่ะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ...นี่ก็ยืนเมามึนไม่เลิก กลับบ้าน" แม่ของมะปรางพูดจบก็ลากผัวขี้เมากลับบ้านทันที"มะปราง" บาสเรียกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา"ปรางขอตัว" มะปรางปัดมือของบาสออกจากตัว เดินอย่างคนไร้ซึ่งเรี่ยวแรง"มะปรางจะไปไหน เดี๋ยวเฮียไปส่ง" บาสถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อมะปรางเดินเหมือนคนไร้จุดหมาย"ปราง...ปรางอยากกลับห้อง ปรางปวดหัว วันนี้ปรางคงไปทำงานไม่ไหวแล้ว" พอตั้งสติได้ เธอก็หันหลังกลับเพื่อจะเดินเข้าหอพัก"เฮียไม่อยากให้ปรางอยู่คนเดียว""แต่ปรางอยากอยู่คนเดียว" พูดจบปรางก็เดินกลับเข้าไปในหอพักทันทีวันรุ่งขึ้น 10.00 น."ไหนล่ะเงิน" แม่ของมะปรางถามทันทีที่บาสกับมะปรางเดินมาถึงจุดที่นัดหมาย พวกเขามากันพร้อมหน้า พ่อ แม่ และปาร์ค"แล้วผมจะมั่นใจได้ยังไงว่าพวกคุณจะไม่กลับมายุ่งเก