เจ้านายมาดเข้มพาหล่อนนั่งรถออกมาดูพื้นที่ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ เขาอธิบายถึงโครงการให้ฟังอย่างละเอียดถี่ยิบ ชี้ให้ดูโน่นนั่นนี่ จอมขวัญได้แต่พยักหน้ารับฟังเหมือนเดิม มือก็จดเลคเชอร์เป็นระวิง จะถามกลับไปบ้างบางครั้งคราวเมื่อเขา หันมาถามว่ามีอะไรสงสัยไหม จอมขวัญจึงจำเป็นต้องถามออกไปเดี๋ยวจะหาว่าหล่อน ไม่มีประสิทธิภาพในหน้าที่ ไม่ประสีประสาในการทำงานวันเสาร์ซึ่งก็เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ที่หล่อนรอคอยมานาน ตลอดเจ็ดวันที่ผ่านมา เล่นเอาหล่อนแทบไม่อยากทำอะไร หลังจากเลิกงาน กลับเข้าที่พักได้ก็กระโดดขึ้นเตียง แทบไม่อยากอาบน้ำอาบท่าก่อนเข้านอนด้วยซ้ำไป ก็เจ้านายของหล่อนน่ะสิ เขาเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนกันนะ ทำงานหามรุ่งหามค่ำ เช้าก็ต้องตื่นตั้งแต่ไก่โห่และออกไปทำงานพร้อมกันเนื่องจากต้องมาทานกาแฟฝีมือหล่อนก่อนที่จะออกไปยังสำนักงาน แถมบางวันที่หล่อนเข้านอนไปแล้ว ก็ยังไม่เห็นมีวี่แววว่า เจ้านายจะกลับเข้ามาที่พัก กลับกลายเป็นหล่อนเสียอีกที่สบาย ไปทำงานเช้าเย็นก็กลับตามเวลา แต่ถึงอย่างนั้นก็เหนื่อยเสียจนไม่อยากทำอะไรแล้วเคยตื่นแต่เช้าอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น จอมขวัญลุกจากที่นอนลายกระต่ายหมายจันทร์ผืนเดิมที่
“อ๊ะ! ไม่นะคะ เอ่อคือ..ฉันไม่มีชุดว่ายน้ำ ไม่อยากเล่นน้ำตอนนี้ แล้ว...” จอมขวัญขืนตัวเอาไว้สุดฤทธิ์ เมื่อชายหนุ่มออกแรงจูงมือหล่อนให้ไปขอบสระหวังจะให้หล่อนลงไปในน้ำให้ได้ ปากพยายามปฏิเสธเขาสารพัดเหตุผล แต่ไหนเลยจะสู้กำลังช้างสารของเขาได้“ไม่เห็นเป็นไรเลยใส่ชุดนี้ก็ได้ ผมไม่ว่าหรอก” พูดจบก็หันมาทำตาคมหวานซึ้งใส่หล่อน อ๊าย..อย่านะ..อย่ามาทำสายตา อย่างนี้นะ..รู้ไหมใจมันจะละลายอยู่แล้ว.. ความคิดทั้งหมดทั้งมวลพลันสะดุดหยุดไว้เพียงเท่านั้นเมื่อจอมขวัญรู้สึกว่าน้ำในสระ มันรอคอยอยู่แล้วอย่างยินดีที่จะให้หล่อนลงไปหามัน มวลน้ำพวกนั้นต่างพากันพุ่งเข้าสู่จมูก ปาก เรียกง่าย ๆ ก็ ตั้งแต่หัวจรดเท้าทำเอาเธอเสียขวัญตกใจกลัวสุดขีด“อึก!..อึกกกก!” จอมขวัญพยายามใช้แขนขา ถีบตัวกวัดแกว่งสะเปะสะปะไปทั่ว ดิ้นรนกระเสือกกระสนราวกับลูกหมาตกน้ำ ดูน่าเวทนายิ่งนักเมื่อรู้สึกว่าขาหยั่งไม่ถึงพื้นสักที“ชะ..ชะ..ช่วยด้วย!” จอมขวัญกัดฟันถีบตัวขึ้นเหนือน้ำ ร้องขอความช่วยเหลือเมื่อคิดว่าตัวเองคงไม่รอดแน่แล้ว ตัวต้นเหตุไปอยู่ไหนนะทำไมไม่มาช่วยหล่อน หรือเขาจะฆ่าหล่อนโทษฐานที่บังอาจทำอะไรให้เขาไม่พอใจหลายต่อหลายครั้งที่ผ่า
และ..อย่างอดใจไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว กลิ่นสาบสาวช่างหอมตลบ อบอวลอะไรเช่นนี้ ชายหนุ่มดึงร่างแน่งน้อยเข้าสู่วงแขนกว้างแนบแน่น จมูกโด่งเป็นสันค่อย ๆ เฉียดเข้าใกล้กับแก้มนวลใสหอมกรุ่นช้า ๆ ทันใดนั้น..จังหวะการเต้นของหัวใจของทั้งสองฝ่ายก็เริ่มเต้นรัวเร็วขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะจอมขวัญซึ่งตอนนี้รู้สึกเหมือนลมหายใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ พลางหายใจติด ๆ ขัด ๆ ราวกับคนขาดออกซิเจน พร้อมกับอาการสั่นสะท้าน ใบหน้าอันหล่อเหลาหมดจดของมัฆวัฒน์ค่อย ๆ เคลื่อนต่ำลงมาเรื่อย ๆ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มส่อแววเอาจริงเอาจัง ทำให้หล่อนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจับใจ จนตัวแข็งราวกับก้อนหินขยับเขยื้อนกายไปไหนไม่ได้เลยลมหายใจร้อนผะผ่าวกระทบมาที่แก้มนวลเนียนช้า ๆ คล้ายยั่วเย้า เหมือนจะ..จะ..จูบ จอมขวัญหลับตาปี๋ เมื่อรับรู้โดยสัญชาตญาณว่าเขาจะทำอะไร..แต่สติหล่อนกลับดับวูบไป ราวกับปิดสวิตช์ไฟ ดูเหมือนว่า..สวรรค์ที่รอคอยอยู่ตรงหน้าเมื่อสักครู่ มลายหายไปในพริบตา เมื่อฝ่ายหญิงหมดสติตัวอ่อนพับไปเสียแล้ว เป็นลมหรือนี่..ฮึ..ช่างไร้เดียงสาอะไรเช่นนี้ นี่ขนาดยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย ก็ถึงกับเป็นลมเป็นแล้งไปซะแล้ว เฮ้อ!..มัฆวัฒน์ขบกรามกรอด ๆ เมื่อเห็น
“ตื่นแล้วหรือ ทานข้าวต้มก่อนสิ คุณยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เช้าแล้วนี่” ไม่พูดเปล่าคนตัวสูง หันมาจับตัวหญิงสาวให้หลังชิดหัวเตียงอย่างง่ายดาย พลางหยิบถ้วยข้าวต้มไว้ในอุ้งมือใหญ่ มือข้างที่ว่างก็ตักข้าวต้มขึ้นเป่า ก่อนจะยื่นช้อนมาจ่อที่ปากหล่อน พลางเลิกคิ้วถาม บังคับให้คนป่วยอ้าปากรับอาหารจากเขาแต่โดยดี จอมขวัญค่อนข้างมึนงง กับกิริยาท่าทางทุก ๆ อย่างนับตั้งแต่เจ้านายหนุ่มก้าวเข้ามาในห้องส่วนตัวของเธอแล้ว นี่เขาเป็นอะไรของเขาเนี่ย..อยู่ดี ๆ มาใจดีกับหล่อนอย่างนี้ทำไมกัน..ถ้ารู้สึกผิดที่ทำให้หล่อนจมน้ำล่ะก็ ไม่เป็นไรหรอก ไม่ถือสา เพราะเขาอาจจะไม่รู้จริง ๆ ว่าหล่อนว่ายน้ำไม่เป็น“เอ้า..อ้าปากสิ มองอยู่ได้..กินซะผมอุตส่าห์ต้มเองกับมือเลยนะ” หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อรู้สึกตัวว่ามองหน้าหล่อ ๆ นั้นอยู่เป็นนานเมื่อได้ยินเสียงทุ้ม สั่งแกมขู่ จึงยอมอ้าปากให้ข้าวต้มอุ่น ๆ เข้าปากจากฝีมือการเป่าและป้อนของเขาอย่างลืมตัว“อือ..ไม่เป็นไรค่ะ..ฉันทานเองได้” ปฏิเสธแถมส่ายหน้าพัลวัน เมื่อเขายื่นช้อนข้าวมาอีก“ไม่เป็นไรเหมือนกัน เพื่อเป็นการไถ่โทษที่ทำให้คุณจมน้ำอย่าปฏิเสธเลยนะ ผมรู้สึกผิดน่ะ” ชายหนุ่มท
“ก็ได้ ๆ เอาล่ะ ถ้ามั่นใจว่าไหว แล้วแต่ก็แล้วกัน ถ้าไข้กลับคืนมาอย่ามาโทษผมนะ” พูดจบชายหนุ่มก็ก้มลงตักข้าวต้มเข้าปากไม่สนใจหล่อนอีก จอมขวัญเบะปากใส่คนตรงหน้า อย่างนึกหมั่นไส้ แต่เขาไม่เห็นหรอก แล้วก็เลื่อนข้าวต้มชามที่เหลือมาทานอย่างเอร็ดอร่อย ไม่สนใจคนตรงหน้าเหมือนกัน เจ้านายกับเลขาเข้ามาถึงสำนักงาน เมื่อประมาณแปดโมงเศษ ๆ มัฆวัฒน์เข้าไปในสำนักงานได้สักพักก็ออกไป..โดยบอกว่ามีนัดกับลูกค้าที่กรุงเทพฯ หล่อนไม่ต้องตามไปด้วยนัยว่าไม่สำคัญมาก เขาสามารถไปคนเดียวได้..“ยุ่งอยู่หรือครับ หน้ามุ่ยเชียว” เสียงนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเสียงของแก้วกล้า พักหลัง ๆ เขามักจะเข้ามาทักทายหล่อนเป็นประจำ คงเห็นว่าไม่มีเพื่อนกระมังจึงสงเคราะห์ให้โดยการ เข้ามาคุยเวลาที่เจ้านายออกไปติดต่องานด้านนอกโดยไม่ได้พ่วงเอาหล่อนไปด้วย“เปล่าหรอกค่ะ แต่ก็..นิดหน่อยเท่านั้นเองค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้ ไปทานข้าวที่ร้านผมนะครับ ตั้งแต่วันนั้นเรายังไม่มีโอกาสไปทานข้าวที่ร้านผมด้วยกันเลยสักครั้ง จะชวนทีไร ก็เห็นแต่เจ้านายทำหน้ายักษ์ใส่ทุกที วันนี้ถือโอกาสที่ท่านไม่อยู่ คุณจอมให้เกียรติไปทานข้าวกับผมสักมื้อนะครับ”“คุณมัฆวัฒน์
“เฮ้อ!” จอมขวัญถึงกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ที่แท้ก็เจ้านายหล่อนนั่นเอง น้ำเสียงแหบ ฟังดูแปร่งปร่า อย่างไรพิกลอยู่เหมือนคนเป็นหวัด“ไปทานข้าวมาค่ะ”“ไปกับใคร?”“จะไปกับใครทำไมต้องคอยรายงานคุณด้วยหรือคะเจ้านาย” เมื่อได้ยินคำถามด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวของอีกฝ่ายทำให้ลูกน้องถึงกับฉุนกึกขึ้นมาไม่ได้ เขาเป็นเจ้านายหล่อนนะ ไม่ได้เป็นผู้ปกครองเสียหน่อย ที่จะต้องให้รายงานทุกอย่าง ว่าไปไหนมาไหนกับใคร ไปทำอะไรมาบ้าง“ผมเคยบอกคุณว่าแก้วกล้าอาจจะมีคนของเขาอยู่แล้ว” เอ๊ะ! นี่แสดงว่าเขาเห็นหล่อนเดินมากับแก้วกล้า แล้วจะมาถามทำไม ว่าไปไหนกับใคร“แล้วทำไมเหรอคะ ก็ในเมื่อเขายังไม่ได้แสดงออกมาว่าเขามีเจ้าของแล้ว ฉันก็มีสิทธิ์ไม่ใช่หรือคะ?” จอมขวัญสังเกตเห็นว่าเขาเลิกคิ้วดกหนาขึ้นสูง พร้อมกันนั้นก็ขมวดเข้าหากัน ตามด้วยแววตาตัดพ้อ แกมเยาะหยัน และอย่างไม่ทันตั้งตัวมือใหญ่ทั้งสองข้าง ก็คว้าหมับเข้าที่ไหล่บอบบางออกแรงบีบเบา ๆ แล้วพูดกับหล่อน“ทำไมจอมขวัญ ฮึ..ทำไมทีกับผม คุณถึงทำตัวเหินห่าง ระวังตัวไม่เข้าใกล้ อยู่ไกลเท่าไหร่ยิ่งดี แต่กับแก้วกล้าคุณหัวเราะได้ แล้วก็ยิ้มให้อย่างมีความสุข หึ..รังเกียจผมมากนักห
ชายหนุ่มปรารภคนเดียวในใจ ภายในห้องพักส่วนตัว พลางลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ทั้ง ๆ ที่รู้สึกเหมือนจะไม่สบายอย่างไรอย่างนั้น แต่ก็พยายามฝืนตัวเองเพื่อจะลุกไปอาบน้ำอาบท่า เผื่อว่าบางทีจะดีขึ้น อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์นั่นแน่ ซึ่งเขาก็ห่างหายไม่ได้ดื่มหนักอย่างนี้มานาน แต่ก็ดีเหมือนกัน ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่กล้าที่จะทำอะไรอย่างเมื่อคืนลงไปแน่..มัฆวัฒน์ นึกขอบคุณน้ำเมาที่ทำให้เขารู้ซึ้งถึงหัวใจตัวเอง เขาเพียรหาคำตอบมานาน ว่าทำไมต้องคอยเป็นห่วงเป็นใย คอยเอาอกเอาใจ และคอยหวงเวลาที่เห็นหล่อนไปกับใครคนอื่น ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเอามากมายขนาดนี้ มีผู้หญิงสวยฐานะทางการเงินและสังคมมากกว่าเจ้าหล่อนเยอะแยะ ทำไมเขาไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่มาสนใจกับสาวน้อยแสนซื่อคนนั้น หน้าตาก็ธรรมดา หรือจะเป็นเพราะแววตาสดใสไร้เดียงสานั่น และริมฝีปากบางที่เขารู้แต่เพียงผู้เดียวว่าหวานปานใด มันทำให้เขาหลงจนหัวปักหัวปำอย่างนี้ อยากเป็นเจ้าของ อยากจับจองไว้ไม่ให้ใครหน้าไหนมาเข้าใกล้แม้แต่ปลายเส้นผมด้วยซ้ำรัก..รักสินะ..ที่ทำให้เขาเป็นอย่างนี้ ..จะไม่รอช้าอีกต่อไปแล้ว ..เมื่อได้ข้อสรุปในใจแล้ว มัฆวัฒน์ ถึงกับปณิธานกับต
จอมขวัญรู้สึกว่าแก้มทั้งสองข้างร้อนผ่าวขึ้นมาแทบจะทันที และมันคงแดงไปถึงไหนต่อไหนไปแล้วแน่ ๆ นี่เธอน่าจะโกรธเขาและแสดงออกว่าไม่พอใจอย่างที่ควรจะเป็นไม่ใช่หรือ แต่แล้วทำไมถึงยืนทื่อ บื้อใบ้อยู่อย่างนี้ ยังมีหน้าปล่อยให้เขากกกอดได้สบายใจเฉิบ อย่างนี้อยู่อีกล่ะ ดิ้นสิ..ขยับออกห่างจากอกอุ่น ๆ นี่สิ นิ่งอยู่ทำไมจอมขวัญ เธอไม่อายคนที่เขาอาจจะเดินผ่านไปผ่านมาบ้างหรือ? จิตใต้สำนึกมันสั่งให้หล่อนทำแต่ทำไมมันยากนักล่ะ ทำไมขยับตัวไม่ได้เลย.. หน้าเขากับหล่อนอยู่ห่างแค่คืบ จนรู้สึกถึงลมหายใจของกันและกัน และไม่ทันที่จะพูดอะไรออกไปใบหน้าหล่อเหลานั่นก็ค่อย ๆ ก้มลงมาที่แก้มบางใสของหล่อนอย่างฉกฉวยโอกาส“อ๊าย..อย่านะ เดี๋ยวคนมาเห็นเข้านะคะ”“อ๋อ..ที่แท้ก็อายนี่เอง ถ้าอย่างนั้นเราเข้าไปในบ้านกันดีกว่านะ”“งั้นก็ปล่อยก่อนสิคะ ถ้าอยู่อย่างนี้จะเดินไปได้ยังไง” จอมขวัญใช้ไม้อ่อนเข้าว่า เมื่อไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะยอมคลายอ้อมแขนง่าย ๆ พลางเอามือทั้งสองข้างยันอกแข็ง ๆ เอาไว้หวังว่ามันจะช่วยกั้นไม่ให้ร่างกายบางส่วนของหล่อนแนบชิดกับเขาให้มากที่สุด หลังจากที่โดน พลิกร่างให้หันมาเผชิญหน้ากันจังๆ แล้ว“ไม่เห็นต้องเด
เสียงเปิดและปิดประตูอย่างแผ่วเบา สักพักเตียงอีกฝั่งก็ยวบลงช้า ๆ ตามด้วยมือใหญ่เรียวยาวค่อยๆ สอดมาใต้หมอนเอื้อมมาคว้าไหล่บอบบางของเมียสาวที่ตอนนี้นอนหันหลังให้ พลางออกแรงแกมบังคับให้พลิกมาทางเขาอย่างเบามือ“จะรีบนอนไปไหนล่ะครับ ฮึ” เสียงพึมพำ ทำให้หล่อนลืมตาขึ้นมามอง พร้อมกับส่งสายตาขุ่นขวางกลับไปให้“ง่วงแล้ว..คนจะนอนมาปลุกทำไมเนี่ย ทำไมไม่ไปนอนกับคนอื่นโน่น” ชายหนุ่มหัวเราะหึ ๆ อย่างเป็นสุข กลับจ้องมองตอบดวงตาเขียวปั๊ดที่ส่งมาอย่างไม่เกรงกลัว“งอนหรือนี่ คุณหึงผมใช่ไหม ดีใจจัง นึกว่ามีแต่ผมเท่านั้นที่คอยแต่จะหึงหวงคุณอยู่ฝ่ายเดียว” ไม่พูดเปล่า ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงคลอเคลียอยู่แถวข้างแก้ม และเลยไปตามซอกคอขาวละมุน ลมหายใจอุ่นร้อนจากปลายจมูกโด่งทำเอาใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ร่างสูงค่อย ๆ ดันตัวเองให้แนบชิดกับร่างเล็กน่ากอดให้เอนนอนราบลงไปกับเตียงนอนหนานุ่มช้าเนิบอย่างใจเย็น“คุณ..เอ่อ..คุณมาร์คคะ คือว่า..จอม”“อะไรอีกครับที่รัก จะหาข้ออ้างอะไรอีก เมื่อสองสามวันก่อนคุณก็บอกว่าเป็นรอบเดือน แล้วคราวนี้คุณจะบอกว่าเป็นอะไรอีกครับ..ฮึ” จอมขวัญแทบจมลงไปกับเตียงนอนหนานุ่ม เมื่อร่างที่ใหญ่กว่าทิ้งตัว
แม้ในใจจะรู้สึกโล่ง แต่อีกใจหนึ่งกลับอดเป็นห่วงเขาไม่ได้ เท้าบางจึงเดินออกมาหาที่ห้องนั่งเล่นด้านนอก เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ ด้วย ร่างสูงนอนเหยียดยาวทอดกายไปกับโซฟา เปิดทีวีค้างไว้ คงหลับไปแล้ว ฮึ..รอไม่ไหวล่ะสิ คงเพลียจากงานเมื่อกลางวันที่เขาต้องรับบทหนักกว่าหล่อนมากก็ไหนจะคอยต้อนรับญาติ ๆ ทางมารดาเขา ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และไหนจะเพื่อนฝูงสมัยเรียน เพื่อนร่วมธุรกิจอีก จอมขวัญนั่งลงกับพื้นข้างโซฟาที่มีคนตัวสูงนอนอย่างสบายใจ พลางยื่นปลายนิ้วไปเขี่ยตรงต้นแขน กะว่าจะปลุกให้เข้าไปนอนที่เตียงนอนเสียหน่อย เพราะดูจากที่เขานอนอยู่คงไม่สบายเท่าใดนัก“อืมม์..ไม่ต้องมาสะกิดเลย คืนนี้ยกให้ ผมไม่มีแรงจะทำอะไรแล้วง่วง..” พูดจบเจ้าบ่าวก็ลุกขึ้น เดินโซซัดโซเซกลับมาล้มตัวลงนอนที่เตียงกว้างด้านในอย่างงอน ๆ จอมขวัญย่นจมูก อย่างนึกหมั่นไส้ แลบลิ้นแถมไปให้ด้วย เฮอะ..ผู้ชายอะไรงอนก็เป็นด้วยตลกชะมัด แต่ก็น่ารักไปอีกแบบเมื่อคนอย่างเขาทำ ฮิ ๆ หญิงสาวก้าวขึ้นเตียงนอนใหญ่หนานุ่ม อย่างแผ่วเบา ด้วยเกรงว่าคนข้าง ๆ จะตื่น ก่อนจะตะแคงมองสามีที่น่ารักยิ่งนักเมื่อยามหลับ โน้มใบหน้าบางใส ไปจุ๊บราตรีสวัสดิ์ ให้
งานวิวาห์ระหว่าง นายมัฆวัฒน์ ก้องกังวาลไกล นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงกับเลขาสาวนางสาวจอมขวัญ มงคลเกียรติ ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูใจกลางกรุงเมืองหลวง เป็นวันที่ทั้งสองรอคอยว่าจะให้มีวันนี้ นับตั้งแต่ผ่านช่วงปีใหม่มาแล้วร่วมสองเดือน ซึ่งฝ่ายเจ้าบ่าว บ่นอิดออดว่าทำไมฤกษ์ที่มารดาเจ้าสาวหาให้ ถึงได้ล่าช้านัก ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขาต้องทรมานขนาดไหนที่ต้องทนรอให้ถึงวันนี้อย่างใจจดใจจ่อเพียงใด“วันนี้คุณสวยจัง” เจ้าบ่าวกระซิบข้างใบหูเล็กของเจ้าสาว อย่างเอาใจ เมื่อทั้งหล่อนและเขาออกมายืนต้อนรับแขกเหรื่อหน้าประตูทางเข้าห้องจัดเลี้ยง ที่ถูกจัดขึ้นอย่างวิจิตร ตระการตา เจ้าสาวของเขาอยู่ในชุดสีขาวบริสุทธิ์ ผมยาวสลวยถูกเกล้าขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าขาวใส ที่ตอนนี้ถูกตกแต่งด้วยเครื่องสำอางบางเบา เท่านั้นก็ช่วยให้หล่อนสวยใสไร้ที่ติจนเขาต้องเอ่ยปากชมออกมา“ไม่ต้องมาพูดเอาใจหรอกน่า..ยังไง ๆ ก็รับผิดชอบในตัวคุณอยู่แล้วล่ะค่ะ” จอมขวัญตอบกลับไป พลางยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ แถมแลบลิ้นแบบเด็ก ๆ ส่งไปให้เจ้าบ่าวของหล่อน ที่วันนี้เขาก็ดูหล่อสมาร์ตกว่าใคร ๆ ในงานเหมือนกัน ถึงแม้ว่าเวลาธรรมดา เขาก็ดูดีไม่มีที่ติอยู่แล้ว“แน่นอน
บ่อยครั้งเข้าต้นน้ำถึงกับร้องครางออกมาอย่างลืมตัวเมื่อหญิงสาวเริ่มตอบสนองเขาอย่างเต็มใจ ลำแขนเรียวเล็กเลื่อนขึ้นมาโอบรอบคอแข็งแรงของเขาไว้อย่างต้องการที่ยึดเหนี่ยวเมื่อชายหนุ่มถอนริมฝีปากออก ล้อมดาวถึงกับหายใจหอบเล็กน้อย ก้มหน้ามุดเข้าไปหาความอบอุ่นในอ้อมอกเขาอย่างเอียงอาย ไม่พูดไม่จา“ ดูเหมือนว่า เราจะเกิดมาคู่กันเสียแล้วสิ..คุณว่าไหม”“ บ้าน่ะสิ คนบ้า! พาฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้นะ”“ อ๋อ..อยากให้ถึงที่บ้านเร็ว ๆ จะได้ฟ้องทุกคนงั้นสิ คราวนี้ถ้าคุณไม่ฟ้องจริง ๆ ผมจะเป็นฝ่ายบอกกับทุกคนเองเลยเป็นไง ว่าเรารู้สึกยังไงต่อกัน” “ อี๋..ใครไปมีความรู้สึกอะไรกับคุณกันล่ะแล้วก็ห้ามบอกเรื่อง..เรื่องนี้กับใครเป็นอันขาด!”“ อะไรนะเรื่องจูบนี่น่ะหรือ ที่ห้ามบอกฮ่า ๆ”“ นี่คุณ!ฉันไม่ตลกด้วยหรอกนะ” หญิงสาวตวาดแว๊ดใส่ชายหนุ่มใบหน้าแดงก่ำด้วยความขัดเขินปนขุ่นเคืองเป็นกำลัง ต้นน้ำหัวเราะให้กับความไร้เดียงสาของหล่อนนัก ดวงหน้าขาวใสที่ออกเป็นสีแดงจาง ๆ แล้วตอนนี้ พร้อมด้วยการค้อน แสดงความเป็นธรรมชาติที่ไม่ได้เสแสร้งแต่อย่างใด มันช่างถูกใจนัก สงสัยว่าเขาจะต้องไปเกี่ยวดองกับตระกูลไฮโซอีกคนเสียแล้วสิ เฮ้อ!“
แสงแดดยามเช้าส่งลงมายังสวนผลไม้ ทำให้บรรยากาศตอนนี้ช่างรื่นรมย์เหลือเกิน ล้อมดาวชอบบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติอย่างนี้ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หญิงสาวออกมาช่วยคนงานเก็บผลส้มอย่างเพลิดเพลิน จนไม่รู้ว่าได้เดินลึกเข้าไปในไร่อย่างไม่รู้ตัว พลางเขย่งเท้าเพื่อที่จะปลิดผลส้มที่อยู่สูงเกินมือจะเอื้อมถึง จึงมองหาบันไดที่คนงานเขามักจะใช้กันเมื่อเก็บลูกที่อยู่สูงขึ้นไป“ ทำอะไรน่ะ! เดี๋ยวก็ตกลงมาหรอก!” เพราะเสียงเข้มดุนั้นทีเดียวเล่นเอาเธอสะดุ้งตกใจ และไม่ทันตั้งตัวขณะที่ล้อมดาว ก้มลงไปมองยังเสียงเข้มดุคล้ายรำคาญเต็มทน สาวต่างถิ่นจึงตัดสินใจก้าวขาลงมา แต่กลับก้าวพลาด ทำให้ร่างของหล่อนร่วงจากบันไดทันที!“ ว๊ายยย!!” ตุ๊บ!! “ โอ้ย!..”“ เฮ้ย! ว่าแล้วเชียวต้องเป็นแบบนี้พูดยังไม่ทันขาดคำเลย โธ่เอ๊ย!ลุกไหวไหมล่ะทีนี้”“ ไม่ต้องมายุ่งเลยคนใจร้าย เมื่อไหร่จะหยุดแกล้งฉันเสียที ที่ผ่านมายังไม่พอใจอีกหรือ” คนอะไร ไม่อยากมองหน้าเลย ใบหน้าที่ดุดัน นัยน์ตาที่แฝงไปด้วยความร้ายกาจ ทั้งปาก ทั้งจมูก หล่อนเกลียดนัก ทำไมจะต้องมาเจอคนอย่างเขาด้วยนะ แล้วทำไมต้องมายุ่มย่ามกับหล่อนด้วยไม่เข้าใจเลยจริง ๆ“ พูดอะไรของคุณเนี่ย
“ คุณเข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง นี่อย่าบอกนะว่า..คุณจะมาแก้แค้นเรื่องเมื่อวาน แล้วที่..ที่คุณทำกับฉันเมื่อวานยังไม่พอใจอีกเหรอ คน..คนไม่ดี..คนพาล ออกไปนะ ออกไป! ฉันเกลียดคุณ คนบ้า! ฮือ ๆ ฉันจะฟ้องทุกคนเลยคอยดู ฮือ ๆ ที่คุณกล้าทำกับฉันแบบนี้ ฮือ ๆ”เมื่อได้สติหญิงสาวก็กระโดดผลุงลงจากเตียง วิ่งไปหลบชิดกำแพงห้อง ราวกับว่ามันจะช่วยหล่อนได้กระนั้น พลางชี้หน้าด่าคนที่บังอาจเข้ามาในห้องที่หล่อนนอนอยู่ พูดไปร้องไห้ไป อย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้นน้ำลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มองจ้องไปยังหญิงสาวที่บัดนี้ตัวสั่นงันงกอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง ปากก็พร่ำว่าเขา พูดไปร้องไห้ไปอย่างกับเด็ก เอะอะก็จะฟ้องคนโน้นคนนี้ ก็เอาสิ ลองดูว่าจะทำอย่างที่พูดได้หรือเปล่า“ ก็เอาสิ ฟ้องก็ฟ้องเลย คราวนี้ล่ะเขาจะได้รู้กัน ว่าเราน่ะ..มีความลับต่อกันอยู่หึ ๆ” ชายหนุ่มกอดอก พูดเนิบ ๆ อย่างใจเย็น มองตอบกลับไปยังใบหน้าขาวสะอาดที่บัดนี้เปื้อนไปด้วยน้ำตา อย่างท้าทาย ก่อนจะเดินออกจากห้องมาหน้าตาเฉย หากในใจกลับอดรู้สึกสงสารเจ้าของใบหน้าที่ดูหวาดระแวง วิตกกังวล ใบหน้าอ่อนใสค่อนข้างแดงก่ำจะเพราะพิษไข้ หรือจากที่โ
บนโต๊ะอาหารมื้อเช้าของวันใหม่ สมาชิกในครอบครัว นั่งพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหาร จะขาดก็แต่ล้อมดาวที่ไม่ยอมออกมาทานข้าว ผู้เป็นมารดารู้สึกแปลกใจนักเมื่อไม่เห็นเพื่อนของลูกสาวมาร่วมโต๊ะอาหารในเช้านี้“ อ้าว! หนูจอม เพื่อนเราเขาไม่ทานข้าวด้วยกันเหรอลูก ไม่สบายหรือเปล่าเมื่อวานตอนเย็น แม่เห็นหน้าซีด ๆ อยู่”“ จอมถามแล้วค่ะแม่ ล้อมเขาบอกว่าไม่ค่อยหิว เมื่อคืนบ่นว่านอนไม่หลับด้วย รู้สึกมึนหัวนิดหน่อย สงสัยยังปรับตัวไม่ทัน ก็เลยขอนอนต่อ นี่ก็กะว่าจะเอาข้าวต้มไปให้เขาทานเสียหน่อย”“ อืม อย่างนั้นเหรอจ๊ะ สงสัยคงแปลกที่ แถมยังเปลี่ยนเวลากะทันหัน ถือยาไปเผื่อด้วยก็แล้วกันนะลูก”“ ค่ะแม่ แหม..รู้สึกว่าแม่เราเนี่ยเอาใจใส่ยัยคุณหนูล้อมเป็นพิเศษเลยนะเนี่ย” ปากพูดไป แต่สายตากลับหันมามองตาพี่ชาย เหมือนต้องการสื่อความหมายอะไรบางอย่างกับต้นน้ำมากกว่า ทางด้านพี่ชายหลบตาน้องสาวรีบเสใบหน้าไปอีกทาง ทำเป็นไม่สนใจกับสายตาจ้องจับพิรุธของผู้เป็นน้องสาวที่ส่งมาอย่างมีเลศนัยนั่น แต่ใจก็อดนึกไปถึงหญิงสาวที่แอบหลบอยู่ในห้องไม่ให้เห็นหน้าตั้งแต่เมื่อวานเย็นแล้ว หึ..หลบได้หลบไป อยากรู้นัก จะทำแบบนี้ไปได้สักกี่น้ำ ยัง
“ ทำไมต้องบอกด้วยล่ะคะ คุณก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจดี” หญิงสาวยังบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมตอบแต่โดยดี“ อยากได้ยินจากปากคุณมากกว่า น่านะ.. บอกผมมาสักครั้งหนึ่งเถอะนะ คนดี ไม่อย่างนั้นจะจูบอวดชาวบ้านเขาเดี๋ยวนี้เลยเป็นไง”“ รัก..สิคะ ถ้าไม่..รัก..ไม่ยอมตกลงแต่งด้วยหรอก” จอมขวัญรีบตอบกลับไปทันทีด้วยเกรงว่าเขาจะทำอย่างที่พูดจริง ๆ“ อืมม์..ชื่นใจจัง..งั้น..ให้รางวัลแก่เด็กดีหน่อยเป็นไร” ไม่พูดเปล่าร่างสูงก็โน้มหน้าลงมาหมายตาไว้ที่ปากเล็กจิ้มลิ้มนั้น แต่ก็พลาดเมื่อเจ้าหล่อนดิ้น หลุดไปเสียก่อน หนีไปได้อีกแล้วนะ หลบได้หลบไป แต่งเมื่อไหร่ล่ะก็..น่าดูเมื่อได้หลับเต็มอิ่มแล้ว ก็รู้สึกสบายตัวขึ้นมาเป็นกำลัง ล้อมดาวบิดขี้เกียจ อ้าปากหาวเต็มที่เมื่ออยู่ในห้องพักเพียงลำพัง ไปไหนกันหมดนะ บนบ้านก็ว่างเปล่า อ้อ! ลืมไป ยัยจอมจุ้นกับพี่ชายหล่อนบอกว่าจะออกไปสวนส้มนี่นา ล้อมดาวยืนงงอยู่เป็นครู่เมื่อค่อย ๆ ลำดับเหตุการณ์ ก่อนที่จะหลับสนิทเพราะเพลียจากการเดินทาง หญิงสาวที่สวมเพียงเสื้อกล้ามสีขาวสะอาดตา เน้นทรวดทรงองเอว เป็นอย่างดี เพราะแจ๊กเก็ตตัวโปรดถูกถอดเก็บไว้ในห้องแล้ว แปลกแฮะหน้านี้เป็นฤดูหนาวไม่ใช่หรือ แต่ทำ
สงสัยคนบ้านนี้เขาได้รับการอบรมสั่งสอนมาดีมากเลยนะถึงไหว้ได้อย่างงดงามทั้งพี่ทั้งน้อง กิริยาก็น่ารักน่ามอง ผู้เป็นมารดาลอบมองสำรวจหญิงสาวหน้าตาสะสวยหมดจดแลดูเกลี้ยงเกลาผู้นี้อย่างนึกเอ็นดู หลังจากทักทายกันพอเป็นพิธี ผู้อาวุโสทั้งสองก็ชักชวนให้เก็บสัมภาระ ซึ่งเจ้าของบ้านได้จัดแจงพาไปยังห้องพัก แม้ว่าบ้านจะดูไม่ใหญ่โต เหมือนกับบ้านคนรวยร้อยล้านพันล้าน แต่ภายในก็แลดูกว้างขวางน่าอยู่ จัดพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว ซึ่งล้อมดาวขอนอนกับจอมขวัญเพื่อที่ว่าจะได้นอนคุยกันให้ฉ่ำปอดไปเลย จอมขวัญก็รีบตอบรับแทบจะทันที ส่วนว่าที่เจ้าบ่าวของหล่อนกลับทำหน้ายักษ์ใส่ราวกับไม่พอใจกระนั้น แต่จอมขวัญไม่สนใจทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวไปเสีย เมื่อเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้วหัวหน้าครอบครัวก็ให้ออกมาร่วมรับประทานอาหาร โดยวันนี้สามพ่อครัวช่วยกันทำอาหารคนละอย่างสองอย่าง อวดฝีมือกันเต็มที่“ เป็นไงบ้างจ๊ะบ้านป้า พออยู่ได้ไหม” ผู้เป็นป้าหันมาถามล้อมดาว อย่างให้ความสนใจจนออกนอกหน้า ทำไมแม่ต้องไปสนใจยัยเด็กขี้วีน คนนี้ด้วยนะ แถมยังซุ่มซ่ามอีกต่างหาก ต้นน้ำนึกเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียว“ สบายมากค่ะ ล้อมไม่เรื่อ