๙เธอจะดีหรือร้ายตั้งแต่วันนั้นก็ผ่านมากว่าหนึ่งสัปดาห์ทว่ากองทัพยังไม่ได้เดินหน้าอย่างที่บอกกับหมอตฤณเหตุก็เนื่องมาจากงานเยอะแทบไม่มีเวลากระดิกตัวณชาเองก็ไม่ต่างกันเธอต้องจัดเตรียมเอกสารทั้งนัดลูกค้าให้เจ้านายไหนจะติดต่องานกับแผนกอื่น วันเสาร์อาทิตย์ที่เคยได้หยุดอยู่บ้านก็จำต้องลุกจากที่นอนเพื่อมาทำงานกระทั่งวันนี้ที่งานทั้งหมดสิ้นสุดลงผ่านสัปดาห์นรกไปแล้วร่างบางก็ถอนหายใจด้วยความเหนื่อย อยากลาออกใจจะขาดแต่ก็ทำไม่ได้เพราะมีมารดาถือแส้ยืนรออยู่บ้านไหนจะเงินที่ต้องกินต้องใช้อีก คนเราอยู่ได้เพราะเงินจริงๆช่วงที่ผ่านมาณชายุ่งจนแทบไม่ได้คุยกับคุณหมอแต่เขาก็ขยันโทรหาไม่มีขาดจนรู้สึกผิดกับชายหนุ่ม ครั้งนี้ก็เช่นกันที่โทรมาแต่เช้า“ค่ะพี่ตฤณ”‘ถึงที่ทำงานรึยังครับ’มองนาฬิกาก็โคลงศีรษะเล็กน้อยก่อนจะอมยิ้ม โทรมาเวลาเดิมเหมือนทุกวันราวกับว่าตั้งเวลาสำหรับโทรหาเธอไว้อย่างนั้นแหละ“ถึงแล้วค่ะ พี่ตฤณถึงรึยังคะ” ณชาคงไม่รู้ว่าคำถามเพียงประโยคเดียวก็สามารถทำให้คุณหมอสุดฮอตของโรงพยาบาลยิ้มออกมาได้‘ถึงนานแล้วครับ พี่กำลังจะไปตรวจคนไข้’ “อ๋อ ถ้าอย่างนั้นพี่ตฤณตรวจคนไข้เถอะค่ะ ป้อนไม่กวนแล้ว” ขณะ
๑๐ทวงคืนบนรถยนต์คันหรูมีเพียงความอึดอัด ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาอีกหลังจบประโยคของปลายฟ้าณชาเหม่อมองข้างนอกแต่ใจกลับล่องลอยกลับไปยังอดีตที่ขื่นขม ในขณะที่เธอเป็นนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งคณะนิเทศศาสตร์มหาวิทยาลัยแห่งเดียวกับกองทัพและปลายฟ้าทว่าแทบไม่เคยเห็นสองคนนั้นเลย หากไม่ใช่ตนพยายามเข้าไปในวงโคจรของกองทัพเอง“เสียดายถ้าเราว่างจะชวนทัพไปกินข้าวด้วยกันสักหน่อย” คนข้างหลังเขยิบไปใกล้กองทัพมากขึ้นพลางถามด้วยใบหน้าแสนเสียดายณชาแอบมองแล้วเบ้ปากไม่ให้ทั้งสองคนเห็น“เอาไว้คราวหน้าดีไหม เราจะไปหาทัพถึงที่ทำงานเลย”ร่างบางที่เงียบมานานก็ได้โอกาสเปิดปากพูดด้วยใบหน้าเหนือกว่า“ช่วงนี้พี่ทัพงานยุ่งมากเลยค่ะคงไม่ค่อยมีเวลาให้พี่ปลายเท่าไหร่ หรือถ้าจะมาก็โทรถามป้อนก่อนนะคะจะได้ดูตารางงานพี่ทัพให้ว่าว่างหรือเปล่า”ปลายฟ้าหันมามองแววตาสงสัยแต่ไม่ได้ถามออกไปจนณชาต้องไขความกระจ่าง“ตายแล้ว พี่ปลายคงยังไม่รู้ว่าตอนนี้ป้อนเป็นเลขาให้พี่ทัพน่ะค่ะ”กองทัพมองสองสาวที่แม้น้ำเสียงจะราบเรียบแต่วาจากลับเชือดเฉือนกันจนกลัวว่าจะมีการฆาตกรรมเกิดขึ้นบนรถคันนี้“อ๋อ จริงเหรอคะ ดีใจด้วยแล้วกันนะแต่ก็แค่เลขาแหละค่ะคงไ
๑๑อย่าไปได้ไหมกองทัพมาถึงที่ทำงานแต่เช้าทว่าไม่ทันเลขาสาวซึ่งนั่งที่ประจำหัวหมุนกับงานจนไม่ได้เอ่ยทักทายเจ้านาย เข้ามาภายในห้องร่างสูงก็เห็นแซนด์วิชขนาดเล็กสี่ชิ้นวางไว้บนจาน ข้างกันนั้นมีกาแฟดำของโปรดทำเอาใบหน้าคมหลุดยิ้มออกมาคาดว่าคงไม่ใช่ฝีมือของณชาแน่นอนเธอทำอาหารเป็นเสียที่ไหน เข้าครัวทีไรก็สร้างความพินาศเมื่อนั้นจึงโดนขอร้องให้นั่งรออยู่เฉยๆร่างสูงหยิบแซนด์วิชขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อย ที่เขาไม่ร่วมโต๊ะกับครอบครัวก็เพราะจำได้ว่าหญิงสาวจะนำแซนด์วิชมาให้นั่นแหละ มีแววเชื่อฟังตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นอะไรกันด้วยซ้ำ ชายหนุ่มนั่งกินจนหมดดื่มด่ำความอร่อยกระทั่งถึงเวลางานจึงเร่งมือเพื่อให้ทันเวลาไม่ต่างกับณชาที่ต้องไปประชุมกับฝ่ายอื่นแล้วนำสรุปมาให้กองทัพอ่าน จากเคยคิดว่าผ่านสัปดาห์วุ่นวายมาแล้วกลับไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะสัปดาห์นี้ก็วุ่นวายไม่แพ้กัน แต่ดีหน่อยวันเสาร์อาทิตย์ได้หยุดจึงตั้งหน้าตั้งตารอจนอยากไปหมุนพระอาทิตย์ให้เดินเร็วกว่านี้หลังประชุมเสร็จเลขาสาวก็เดินกลับมาประจำโต๊ะตัวเองพลางถอนหายใจด้วยความเหนื่อย การประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียดจนเธอกดดันไปด้วยดีที่ผ่านไปอย่างราบรื่นไม่
๑๒วันวานยังหวานอยู่จริงหรือแสงตะวันทาบทับขอบฟ้าทว่ากลับส่องไม่ถึงห้องพักภายในคอนโดหรูเพราะมีผ้าม่านทึบบดบังแสงแดดจนไม่อาจสาดเข้าไปรบกวนบุคคลที่กำลังนอนบนเตียงได้ ร่างบางพลิกตัวมาอีกทางเพราะรู้สึกเมื่อยก่อนจะสัมผัสได้ถึงลมหายใจซึ่งเป่ารดหน้าผากอยู่ สติที่หายไปเริ่มกลับมาอีกครั้ง..หรือว่าจะเป็นดวงตากลมโตลืมขึ้นด้วยความดีใจทว่าต้องเศร้าสลดเมื่อคนที่คิดกับคนในความจริงเป็นคนละคนกัน“ทัพ”ไม่ใช่เตชิตกลับเป็นกองทัพที่นอนอยู่บนเตียงกับเธอตั้งแต่เมื่อคืน..เมื่อได้อยู่ใกล้กันขนาดนี้จึงอดสำรวจใบหน้าคมอีกครั้งไม่ได้ หากถามว่ารู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็คงตอบว่านานมาแล้ว ครั้งยังเป็นเด็กอนุบาล ตอนนั้นผู้ชายคนนี้อ้วนกลมหน้าเต็มมักจะมีขนมอยู่ติดมือเสมอ เขามีรอยยิ้มน่ามองแต่ไม่ได้ครอบครองใจของเธอเพราะชายหนุ่มผู้เป็นดังรักแรกคือพณณกรเพื่อนสนิทของกองทัพปลายฟ้าพยายามเข้าหารักแรกก่อนจะได้เขามาครอบครอง โลกทุกอย่างเป็นสีชมพูกระทั่งเกิดปัญหาครอบครัวขึ้นชีวิตของเธอพังครืนภายในคืนเดียว รีบสะบัดหัวไล่ความคิดในอดีตก่อนจะฉีกยิ้มยกมือขึ้นมาสัมผัสใบหน้าคมที่หล่อบาดใจใครจะคิดว่าโตขึ้นจะหล่อเหลาขนาดนี้ หล่อ รว
๑๓เราและนายการทำงานไม่ใช่เรื่องน่าอึดอัดสำหรับกองทัพแต่คนที่ทำให้บรรยากาศเป็นแบบนั้นคือณชา เขาเพียรง้อด้วยคำพูดก็แล้ว ทั้งสั่งดอกไม้มาให้ถึงโต๊ะทำงานผู้คนเห็นต่างฮือฮาแต่ร่างบางกลับไม่สนใจ เธอนำดอกไม้จัดใส่แจกันเอามาไว้ในห้องของเขาแทน ใจแข็งจนหมดมุกจะง้อแล้วในขณะที่ร่างสูงเอาแต่มองแผ่นหลังบางของเลขาโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเรียกความสนใจ เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์บ้านจึงต้องรับอย่างเสียไม่ได้“ครับ” ดวงตาคมเลื่อนจากณชามองเอกสารตรงหน้า‘วันนี้รีบกลับนะลูก อย่าลืมนะว่ามีงานวันเกิดพ่อ’กลัวว่าลูกชายตัวดีจะทำงานจนลืมวันลืมคืนจึงต้องโทรมาย้ำอีกรอบกองทัพตอบรับมารดาเสียงนุ่ม“รับทราบครับไม่ลืมแน่นอน”เพียงเท่านั้นคุณเปมิกาก็บอกลูกให้ตั้งใจทำงานแล้ววางสายปล่อยให้กองทัพทำงานต่อไปแต่ท่านไม่รู้เลยว่างานไม่เข้าหัวผู้บริหารหนุ่มสักนิดเพราะเอาแต่จ้องคุณเลขาทั้งวันจนไม่เป็นอันทำอะไร ด้วยความอัดอั้นใจทนไม่ไหวอีกทั้งพรุ่งนี้ก็วันเสาร์แล้วคงไม่ได้เจอหน้าต้องรีบเคลียร์ให้จบ“ป้อนเอาเอกสารประชุมครั้งที่แล้วมาให้พี่หน่อย” กดโทรศัพท์สั่งงานให้คนข้างนอกเข้ามาหาตนซึ่งณชาก็สามารถแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ เธอหย
๑๔ใกล้ชิดเช้าวันเสาร์ที่แสนสดใสของใครหลายคนกลายเป็นเช้าที่แสนน่าเบื่อของนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์อย่างนักรบ เขาโดนแม่ปลุกแต่เช้าเพื่ออาบน้ำแต่งตัวรอต้อนรับลูกสาวของเพื่อนว่าที่คู่หมั้นในอนาคตอันใกล้ของตน“แม่ไม่ให้ผมใส่ทักซิโดเลยล่ะ” มองคุณเปมิกาที่สาละวนเลือกชุดให้จึงเอ่ยประชดจนโดนสายตาค้อนจำต้องหยิบเสื้อยืดใกล้ตัวมาสวม“ไม่เอาสิรบเสื้อยืดมันธรรมดาไป เอาเป็นเชิ้ตดีไหม”“โหยแม่ ทางการไปรึเปล่าเดี๋ยวเขาก็หาว่าขายลูกหรอก”ไม่ผิดไปจากความจริงเท่าไหร่นัก เธอห่วงนักรบมากกว่าบุตรชายคนโตที่ไม่ค่อยมีข่าวเรื่องผู้หญิงสักเท่าไหร่ต่างจากน้องโดยสิ้นเชิงนักรบถือเป็นเสือตัวพ่อก็ไม่ผิดนัก ผ่านผู้หญิงมาไม่รู้กี่คนต่อกี่คนจนต้องพาไปตรวจเลือดดีที่ลูกชายบอกว่าตรวจก่อนหน้านั้นแล้วผลเลือดปกติไม่มีเชื้อHIVแต่อย่างใดจึงพอโล่งใจได้บ้าง อย่างน้อยก็รู้จักป้องกัน“พูดมากจริง แม่ให้ใส่อะไรก็ใส่เถอะ”..บัญชาขนาดนี้ใครจะกล้าปฏิเสธนักรบถอดเสื้อยืดออกแล้วเปลี่ยนเป็นเชิ้ตแขนยาวสีครีมก่อนพับแขนขึ้นมาถึงศอก‘เหมือนใส่ชุดนักศึกษาไม่มีผิด’บ่นในใจแต่ก็ยิ้มให้มารดากระทั่งท่านจัดแต่งทรงผมให้เรียบร้อย“แม่ ทำไมลูกแม่หล่
๑๕ถ้าเธอไม่รู้สึกคณะทัวร์ที่มีผู้ร่วมทริปทั้งหมดสี่คนนัดรวมพลกันเวลาแปดนาฬิกาจุดหมายแรกคือวัดเขาตะเกียบ โดยผู้ออกไอเดียคือคุณศลิษาเพราะต้องการเริ่มต้นวันด้วยการมาไหว้พระทว่าตอนนี้อยากเปลี่ยนความคิด ดูจากขั้นบันไดที่ต้องขึ้นก็ท้อจนอยากรออยู่ข้างล่างกองทัพเดินตามคุณแม่ทั้งสองก่อนจะแอบจับมือณชาจนอีกฝ่ายหันมามองอย่างตกใจพยายามสะบัดมือออก“เดี๋ยวแม่เห็นค่ะ” กระซิบแผ่วเบาแล้วทำตาดุใส่แต่คนตัวโตก็ดื้อเกินกว่าจะยอมทำตาม เขายังคงจับมือเล็กอย่างนั้นกระทั่งถึงยังลานไหว้พระจึงจำยอมปล่อยร่างบางเดินเข้าไปไหว้พระหลังจากนั้นจึงไปถ่ายรูปวิวข้างบนที่มองเห็นทิวทัศน์โดยรอบ กองทัพเดินถือขวดน้ำมายื่นให้เห็นใบหน้าหวานมีเหงื่อจึงใช้กระดาษทิชชูเช็ดให้ ณชาแอบหันไปมองมารดาที่เดินเคาะระฆังก็ถอนหายใจโล่งอก“พี่ทัพอย่าใกล้มากสิคะ” เอ็ดเสียงเบาขยับหนีแต่กองทัพไม่ยอมจับเอวเล็กให้เข้ามาใกล้ก่อนจะก้มลงมองใบหน้าหวาน“ทำไมพี่จะทำไม่ได้ ก็ในเมื่อระหว่างเรา..”ร่างบางยกมือขึ้นปิดปากไม่ให้ชายหนุ่มเอ่ยต่อจากนั้นก่อนจับมือเขาออกจากเอวของตน“นี่มันในวัดนะคะ เกรงใจพระเกรงใจเจ้าบ้างสิ”ใบหน้าคมยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วค่อยเว้
๑๖ท้องฟ้าสงบณชาเดินเข้ามาภายในรีสอร์ตด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง เมื่อสักครู่เธอพึ่งทำร้ายหมอตฤณไปอย่างเลือดเย็นในขณะที่อีกฝ่ายมีเพียงคำปลอบโยนทั้งที่แววตากลับแหลกสลายไปพร้อมคำบอกเลิก ไม่เคยคิดว่าตนเองจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ตฤณขอแต่งงานส่วนเธอบอกเลิก ใบหน้าหวานก้มมองพื้นถอนหายใจแล้วเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา เสียใจที่ทำลายคนดีๆ ไปและส่วนหนึ่งก็โล่งเพราะไม่ต้องทำให้เขาถลำลึกมากกว่านี้ มือเล็กยกขึ้นเสียบคีย์การ์ดเปิดประตูห้องก่อนตกใจเพราะมีแรงผลักจากข้างหลังให้เธอเข้าห้องแล้วปิดลงอย่างรวดเร็วไฟข้างในเปิดสว่างทันทีเผยให้เห็นใบหน้าคมของคนคุ้นเคยจ้องมองมาอย่างเอาเรื่อง กลิ่นแอลกอฮอล์จากกายสูงทำเอาต้องย่นจมูกแล้วถอยหลังออกห่าง“เมื่อกี้ไปไหนมา”ขาเล็กก้าวถอยกองทัพก็ก้าวเข้าหาคว้าแขนเรียวปะทะแผงอกกดเสียงต่ำถามย้ำ“ปล่อยก่อนค่ะ พี่ทัพกำลังเมานะ” มองเข้าไปในดวงตาคมรู้สึกถึงภัยกำลังจะมาหาตนเองพยายามยันอกเขาไว้ไม่ให้ใกล้ไปมากกว่านี้ แต่ดูท่าอีกฝ่ายจะไม่ให้ความร่วมมือเลยกองทัพก้าวเข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งดันร่างเล็กติดผนังกักขังเอาไว้ด้วยแขนแกร่ง“ไปกับแฟนเป็นยังไงบ้างล่ะ คงมีความสุขมากใช่ไหม” ใบหน้าทั
ตอนพิเศษ...หนีเที่ยวงานแต่งระหว่างกองทัพและณชาจัดขึ้นอย่างใหญ่โตขัดกับความต้องการของทั้งสองที่อยากได้แบบเรียบง่าย ทว่าหน้าที่การงานไม่เอื้ออำนวยในเมื่อเจ้าบ่าวเป็นถึงคณะกรรมการของบริษัทมีคนนับหน้าถือตา ทั้งยังคู่ค้าที่ติดต่อกันมานานหากจะไม่เชิญก็กระไรอยู่“เฮ้ยไอ้เอิร์ธ มึงกลับมาแล้วเหรอวะ” ขณะที่ยืนรอต้อนรับแขกที่ด้านหน้างานดวงตาคมก็เห็นเพื่อนสนิทใส่สูทผูกไทด์ผมที่เคยรุงรังหรือหนวดเคราครึ้มก็ถูกจัดการจนกลับมาหล่อเกินหน้าเกินเจ้าของงาน สองหนุ่มก่อนกันเนื่องจากไม่พบกันเกือบสามปีครึ่ง“กูแค่มางานแต่งมึง เดี๋ยวก็บินกลับแล้ว” กองทัพแทบจะปรบมือให้ในความทุ่มเทของอีกฝ่ายเพราะขนาดน้องแท้ๆ ยังปฏิเสธจะมาร่วมงานแต่งของพี่มันเลย“ดีใจที่มึงมา งานนี้ขอซองหนักๆ” ตบบ่าหนาเต็มแรงไปหนึ่งที“ได้ เดี๋ยวกูขอไปซื้อหินมาใส่ซองก่อนแล้วกัน” รั้งไว้แทบไม่ทันเพราะดูเหมือนสัตวแพทย์หนุ่มจะทำจริงอย่างที่ว่า ณชามองพี่ชายทั้งสองพลางอมยิ้มมีความสุข กระทั่งพณณกรหันมาหาน้องสาวคนสนิท“ลงเอยกับมันสักทีนะเรา หลังจากร้องไห้มานาน” จะเอื้อมมือขึ้นไปลูบศีรษะเจ้าสาวก็โดนเจ้าบ่าวจับมือเอาไว้ก่อน“ตามองมืออย่าต้องครับ เจ้าสาวก
สุขสันต์วันปีใหม่ เทศกาลที่หลายคนรอคอยมาถึงอีกครั้งแม้ประเทศจะไม่ใช่เมืองหนาวทว่าประชาชนส่วนใหญ่ก็ทำตัวให้กลมกลืนได้อย่างไม่น่าเชื่อเมื่อออกมาจากบ้านแล้วเจอผู้คนสวมเสื้อแขนยาวท่ามกลางแดดร้อนกว่าสามสิบสามองศา การคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาไม่น่าเชื่อถืออีกครั้ง เมื่อประกาศว่าจะหนาวจนปากสั่นแต่สิ่งที่ได้รับคือร้อนตับแทบแตก ยิ่งทำงานกลางแดดด้วยแล้วแม้จะโบกครีมกันแดดทับด้วยสเปรย์มาหนามากแค่ไหน เพียงเหงื่อไหลก็ดูเหมือนว่ามันจะหลุดออกโดยง่ายไม่เหมือนกับที่โฆษณาเอาไว้สักนิด “พักกองค่ะ” เสียงช่างภาพดังขึ้นพร้อมปาดเหงื่อที่ไหลออกมาตามไรผม วันนี้ออกมาถ่ายรูปพรีเวดดิงที่สวนสาธารณะในยามที่พระอาทิตย์ตรงศีรษะเหตุผลเพราะคุณเจ้าสาวและคุณเจ้าบ่าวมีเวลาจำกัด เสร็จจากนี่ก็ต้องไปแจกการ์ด ไหนจะต้องบินไปต่างประเทศเพื่อเชิญบรรดาเพื่อนสนิทแทบหาเวลาให้ช่างภาพไม่ได้ จนต้องเลือกเอายามพระอาทิตย์ส่องแสงแรงกล้าที่สุด “แค่สิบนาทีได้ไหมคะ บ่ายสองพวกเราต้องไปจิบน้ำชากับท่านผู้ว่าจังหวัดสุพรรณ” ฝ่ายเจ้าสาวในชุดกระโปรงยาวเฟื้อยตะโกนบอกจนต้องกัดฟันตอบรับ “ได้ค่
ตอนพิเศษ...หวานใจของนายไข่ตุ๋น เคยคิดหลายครั้งว่าหากวันนี้มาถึงเธอจะเป็นอย่างไร วันที่เพื่อนคนสนิทอย่างตฤณ..แต่งงาน ณัชชาเดินเข้ามาภายในโรงแรมด้วยหัวใจหนักอึ้งขาทั้งสองแทบก้าวไม่ออกอันที่จริงมันเป็นมานานนับตั้งแต่วันที่ได้รับการ์ดจากเจ้าบ่าวแล้ว ใบหน้าคมมีรอยยิ้มประดับดวงตาก็ส่องประกายเจิดจ้าอย่างน่าอิจฉา วันนี้เธออยู่ในชุดเดรสแขนตุ๊กตาสีชมพูยาวเพียงเข่า เพราะไม่ค่อยมีเวลาไปซื้อชุดจึงต้องขอยืมจากน้องสาวมาใส่ก่อน ใบหน้าหวานยังคงมีแว่นตาบดบังและผมยาวก็ปล่อยสยายกลางหลัง ริมฝีปากอวบอิ่มเคลือบด้วยลิปกลอสสีชมพูวาว ใบหน้าที่เคยไร้สีดูสดใสขึ้นมาเล็กน้อยเพราะได้น้องสาวช่วยเพิ่มสีสันให้ทว่าก็ยังคงจืดจางเมื่อรวมกับคนหมู่มาก มือเล็กเซ็นในสมุดอวยพรบ่าวสาวแล้วหย่อนซองลงในกล่องก่อนหยิบของชำร่วยเป็นพวงกุญแจรูปหัวใจสองดวงคล้องกัน เก็บมันลงกระเป๋าทันทีแล้วก้าวเข้าไปภายในงานพยายามสูดลมหายใจเรียกกำลังให้ตนแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อเห็นคู่บ่าวสาวยืนอยู่หน้าแบ๊กดร็อปในจังหวะที่เจ้าบ่าวช่วยเช็ดเหงื่อให้เจ้าสาวด้วยความอ่อนโยน หัวใจสั่นไหวจนอยากจะหันหลังออก
ตอนพิเศษหมอตฤณกับต้นหนาว นาฬิกาบ่งบอกเวลาตีสามทว่าชายหนุ่มที่อยู่ภายในผับยังคงนั่งดื่มเหล้าราวเป็นน้ำเปล่าไม่รู้สึกระคายคอสักนิด พนักงานหันมองหน้ากันไปมาไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรจนกระทั่งผู้จัดการเดินไปแจ้งลูกค้าหน้าใหม่ให้รู้ว่าร้านปิดแล้วเขาจึงวางเงินเอาไว้พร้อมเดินเซออกไปทางประตู “รถอยู่ไหน” ร่างสูงพยายามเพ่งมองรถยนต์ของตนเอง หลับตาลืมตาอยู่หลายครั้งเพราะดูอย่างไรก็มองอะไรไม่ชัดสักอย่าง แถมรู้สึกเหมือนศีรษะเอนไปเอียงมาพยายามทำให้หัวตั้งตรงด้วยการเอนไปทางด้านขวาก่อนจะพบว่าไม่ตรงเลยสักนิด เขาจึงลองเอนหัวมาทางด้านซ้ายแทน ก็ไม่ตรงอีกถ้าอย่างนั้นควรทำอย่างไรดีถึงจะมองตรงได้ คุณหมอหนุ่มตัดสินใจล้มตัวลงนอนบนพื้นเพราะทนความหนักของศีรษะไม่ไหว “อ่า ตรงแล้ว” ใบหน้าคมยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะรู้สึกพะอืดพะอมจนต้องรีบลุกขึ้นนั่งแล้วโก่งคออาเจียนเต็มที่โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้กำลังนั่งอยู่หน้าลานจอดรถของผับที่ตนเองมาตั้งแต่สามทุ่ม เมื่อรู้สึกโล่งจึงล้มตัวนอนที่เดิมมือหนาคว้าสะเปะสะปะก่อนจะสัมผัสได้ถึงขนนุ่มนิ่มก็คว้าเข้าไปกอดคลายหนาวทันที ไม่รู้ส
ตอนพิเศษ...รักเธอได้ยินไหมเด็กหญิงหุ่นอวบเดินเข้ามาภายในโรงเรียนด้วยท่าทีมั่นอกมั่นใจ เธอรวบรวมกำลังใจเพื่อที่วันนี้จะได้ทำภารกิจอันสำคัญอากาศยามเช้าแสนจะสดใสราวทุกอย่างเปิดสว่างให้กับความรักของเธอ ณชารู้จักความรักครั้งแรกคือสิ่งที่เรียกว่า ‘ขนม’ เธอหลงรักมันอย่างถอนตัวไม่ขึ้นแต่ก็มักจะโดนเพื่อนล้อว่าตัวอ้วน กินแต่ของหวานฟันผุ กระทั่งได้รู้จัก ‘พี่ทัพ’ ผู้ชายที่ทำให้คำว่ารักของเธอเปลี่ยนไป‘อร่อยก็กินสิ เดี๋ยวพี่กินเป็นเพื่อน’จากที่เคยคิดจะลดของหวานณชาก็ยิ้มร่าหยิบเค้กชิ้นโตขึ้นมากินอย่างมีความสุข ผู้ชายตรงหน้าเธอมีหุ่นที่ไม่ต่างกันมากนัก แววตาของเขาทอประกายความสุขและนั่นเองทำให้เด็กหญิงที่ไม่ประสาเรื่องความรักหัวใจเต้นแรงจนต้องเดินไปถามมารดา“แม่ขา ป้อนหัวใจเต้นเร็วมากเลย แม่จับดู ป้อนจะตายไหมคะ” จับมือคุณแม่มาไว้ที่หัวใจเพื่อรับรู้อัตราการเต้นคุณศลิษาหัวเราะบุตรสาวก่อนจะลูบศีรษะน้อยๆ“ไม่ตายหรอกค่ะ อาการแบบนี้เขาเรียกว่าตกหลุมรัก”ตอนนั้นเธอไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร แต่มักจะเกิดขึ้นเมื่อได้สบตากับพี่กองทัพเสมอและเมื่อโตขึ้นเธอจึงได้เข้าใจคำว่าตกหลุมรักที่คุณแม่บอกเด็กหญิงชวนพี่ชาย
ตอนพิเศษ...เมื่ออดีตมือหนาเลื่อนขึ้นไปปิดน้ำที่ไหลรดกายก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวพันบริเวณเอวไม่ลืมหยิบผ้าขนหนูพื้นเล็กเช็ดศีรษะที่ชุ่มไปด้วยน้ำ ใบหน้าคมเข้มหล่อเกินวัยทำเอาสาวหลายคนใจละลายมานักต่อนัก ดวงตาเรียวยาวเพียงแค่ปรายตามองก็พานให้หัวใจสั่นไหว จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากเรียวราวอิสตรีเพียงเท่านี้ก็ทำให้กองทัพ วิจิตรประภากลายเป็นหนุ่มหล่อที่ถูกกล่าวขานไปทั่วมหาวิทยาลัย“อื้อ ทัพ ตื่นเร็วจัง” สาวสวยหุ่นเพรียวลุกขึ้นจากที่นอนคว้าเสื้อคลุมมาสวมทับปกปิดร่างกายของตนเองจากสายตาคมกริบที่ทำให้หัวใจสั่นไหวทุกครั้งที่มอง“ผมมีเรียนเช้า คุณนอนต่อเถอะ” คนตัวเล็กกว่าเดินเข้ามากอดเขย่งปลายเท้าขึ้นจุมพิตปลายคางอย่างน่ารักจนอดใจไม่ไหวต้องคว้ามากอด เธอน่ารักขี้อ้อนจนเขายอมทำทุกอย่างขอแค่ได้มาครอบครอง ยอมแม้กระทั่ง..เป็นชู้..“อือ ตอนเย็นเจอกันนะคะ” ใบหน้าหวานยิ้มจนตาเป็นสระอิ ความน่ารักนี้ที่เขาหลงใหล รอยยิ้มแสนหวานที่มักมอบให้ ชอบเหลือเกิน ชอบจนไม่อาจจะตัดใจได้ทั้งที่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนของเพื่อนสนิท เพื่อนที่เป็นทั้งญาติไม่อาจจะตัดกันขาด“เดี๋ยวเราจะทำของที่ทัพอยากกินไว้รอ” เธอเดินมาส่งเขาท
ตอนพิเศษ...วันฮาโลวีนเทศกาลส่งท้ายเดือนตุลาคมที่กำลังฮิตในประเทศคือวันฮาโลวีน เด็กนักเรียนวัยอนุบาลและประถมต่างจัดเต็มมาในชุดผีน้อยแสนน่ารักหรือบางคนพ่อแม่ก็จัดให้เกินคำว่าน่ารักจนเพื่อนร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวและวันฮาโลวีนก็กำลังเป็นประเด็นฮอตให้หมู่นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ถกเถียงกัน นักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งต้องไปเข้าค่ายที่ต่างจังหวัดซึ่งงบประมาณที่เขียนขอไปกับทางคณะไม่เพียงพอ จึงต้องช่วยกันเปิดหมวกหาเงินโดยใช้เทศกาลของต่างประเทศให้เป็นประโยชน์โดยการจับเพื่อนในคณะมาแต่งชุดผีเพื่อขอรับบริจาคกระจายไปตามจุดต่างๆ ที่มีคนพลุกพล่านกองทัพเดินลงจากอาคารเรียนด้วยใบหน้าราบเรียบ เขาไม่มีแผนจะไปที่ไหนต่อนอกจากบ้านของตนเอง ง่วงเกินกว่าจะออกไปกินลมชมวิวข้างนอกตามคำชักชวนของเพื่อนร่วมคณะ เมื่อคืนเขานั่งอ่านรายงานเพื่อจะมาพรีเซนต์จะแทบไม่ได้นอนขณะเดินไปที่รถกลับมีผู้หญิงนุ่งชุดไทยวิ่งตัดหน้าจนคนตัวสูงสะดุ้ง“แฮ่!” ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดกำลังแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ ทำเอาจากความหวาดกลัวแปรเปลี่ยนเป็นความรำคาญทันทีเมื่อรู้ว่าเธอคือใคร“เล่นบ้าอะไร สนุกมากเหรอ” ไม่ได้ตวาดเสียงดังแต่ประโยคนั้นก็ทำร้ายจิตใ
๒๘รักจะอยู่กับเราไปนิรันดร์ย้อนกลับไปสามชั่วโมงที่แล้วณชาเดินเข้ามาภายในสนามบินสุวรรณภูมิด้วยใบหน้าเรียบเฉย เธอต้องบินไปอิตาลีอันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนหรอกเพราะขอวีซ่าไว้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเพียงแค่ไม่ได้บอกใครเท่านั้น เธอมีกำหนดไปแค่หนึ่งสัปดาห์เพราะต้องไปถ่ายรูปงานแต่งให้เพื่อนสนิทถือโอกาสไปเที่ยวเพื่อพักผ่อนจิตใจหลังต้องทำงานหนักเพราะกองทัพมาหลายเดือนห้าเดือนที่เธอกลับมาอยู่ประเทศไทยเขาสม่ำเสมอตลอด เช้ามาหาเย็นมารับประทานอาหารด้วยบางครั้งก็ไปนั่งเฝ้าที่ร้านขนมของแม่ยามเธอไปทำงาน หรือหากออกกองกับพ่อกองทัพก็จะแวะไปหาอ้างว่าซื้อของมาให้คุณพิชาภพแต่ทุกคนก็รู้ดีว่าแท้จริงแล้วเป็นของใครเขาแสนดีขนาดนี้จนเธอเริ่มอ่อนไหว ใครจะไปทานทนได้ไหนจะมารดาที่เล่าเรื่องชายหนุ่มให้ฟังว่าซื่อสัตย์เพียงใดใจดวงนี้ก็อ่อนยวบลงทันที ทว่าเมื่อคิดถึงเรื่องที่เขาเคยทำก็อดใจแข็งขึ้นมาไม่ได้ อยู่คนเดียวก็มีความสุขดีอยู่แล้วจึงเลิกคิดเรื่องของกองทัพร่างบางเช็กอินเสร็จก็เดินไปยังร้านกาแฟเดี๋ยวนี้เธอค่อนข้างเสพติดคาเฟอีนต้องดื่มทุกวันไม่อย่างนั้นจะรู้สึกไม่สดชื่น ระหว่างที่เดินออกจากร้านสายตาก็บังเอิญเ
๒๗ไม่ยอมแพ้ณชานั่งทำงานอยู่ภายในร้านกาแฟของมารดา ยกแก้วคาปูชิโนขึ้นจิบแล้วเร่งแต่งรูปภาพให้ทางผู้ว่าจ้างอย่างขะมักเขม้นแต่แล้วก็นึกถึงเรื่องที่เพิ่งได้รู้จากปากของต้นหนาวน้องสาวของปลายฟ้า..จริงแค่ไหนกันนะใบหน้าหวานครุ่นคิดอย่างสับสนจำได้ว่ายามค่ำคืนกองทัพมักจะออกไปข้างนอกโดยอ้างเหตุผลร้อยแปดจนเธอหลงเชื่ออย่างสนิทใจว่าเขามีธุระและเพิ่งได้รู้ทีหลังว่าธุระของเขาก็คือการไปอยู่กับปลายฟ้า หัวใจของเธอแทบจะขาดออกจากกัน มันปวดหนึบหายใจแทบไม่ออกเมื่อได้รู้ความจริงจากที่เคยคิดว่าเขารักความรู้สึกก็แปรเปลี่ยนไป ทุกวันที่อยู่ด้วยกันณชาต้องแสร้งทำเหมือนไม่เจ็บทั้งที่อดระแวงไม่ได้ว่าชายหนุ่มจะไปหาอดีตคนรักอีกเมื่อไหร่ แม้จะบอกตัวเองว่าเวลาที่เหลือขอเก็บเกี่ยวความสุขครั้งสุดท้ายเอาไว้แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ได้มีเพียงความสุขเท่านั้นทว่ามันแฝงไปด้วยความเจ็บปวดที่บาดลึกลงไปในใจทุกวันณชาเลือกจะเดินออกมาจากชีวิตของเขาตัดขาดการติดต่อทุกช่องทางบินไปรักษาแผลใจไกลถึงต่างประเทศ ไปยังสถานที่เรียน ไปเจอเพื่อน รู้จักคนใหม่ๆ หญิงสาวลงเรียนถ่ายภาพอย่างจริงจังตามความชอบของตน รู้สึกสนุกจนลืมเรื่องทุกข์ใจเปิดโ