๑๕ถ้าเธอไม่รู้สึกคณะทัวร์ที่มีผู้ร่วมทริปทั้งหมดสี่คนนัดรวมพลกันเวลาแปดนาฬิกาจุดหมายแรกคือวัดเขาตะเกียบ โดยผู้ออกไอเดียคือคุณศลิษาเพราะต้องการเริ่มต้นวันด้วยการมาไหว้พระทว่าตอนนี้อยากเปลี่ยนความคิด ดูจากขั้นบันไดที่ต้องขึ้นก็ท้อจนอยากรออยู่ข้างล่างกองทัพเดินตามคุณแม่ทั้งสองก่อนจะแอบจับมือณชาจนอีกฝ่ายหันมามองอย่างตกใจพยายามสะบัดมือออก“เดี๋ยวแม่เห็นค่ะ” กระซิบแผ่วเบาแล้วทำตาดุใส่แต่คนตัวโตก็ดื้อเกินกว่าจะยอมทำตาม เขายังคงจับมือเล็กอย่างนั้นกระทั่งถึงยังลานไหว้พระจึงจำยอมปล่อยร่างบางเดินเข้าไปไหว้พระหลังจากนั้นจึงไปถ่ายรูปวิวข้างบนที่มองเห็นทิวทัศน์โดยรอบ กองทัพเดินถือขวดน้ำมายื่นให้เห็นใบหน้าหวานมีเหงื่อจึงใช้กระดาษทิชชูเช็ดให้ ณชาแอบหันไปมองมารดาที่เดินเคาะระฆังก็ถอนหายใจโล่งอก“พี่ทัพอย่าใกล้มากสิคะ” เอ็ดเสียงเบาขยับหนีแต่กองทัพไม่ยอมจับเอวเล็กให้เข้ามาใกล้ก่อนจะก้มลงมองใบหน้าหวาน“ทำไมพี่จะทำไม่ได้ ก็ในเมื่อระหว่างเรา..”ร่างบางยกมือขึ้นปิดปากไม่ให้ชายหนุ่มเอ่ยต่อจากนั้นก่อนจับมือเขาออกจากเอวของตน“นี่มันในวัดนะคะ เกรงใจพระเกรงใจเจ้าบ้างสิ”ใบหน้าคมยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วค่อยเว้
๑๖ท้องฟ้าสงบณชาเดินเข้ามาภายในรีสอร์ตด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง เมื่อสักครู่เธอพึ่งทำร้ายหมอตฤณไปอย่างเลือดเย็นในขณะที่อีกฝ่ายมีเพียงคำปลอบโยนทั้งที่แววตากลับแหลกสลายไปพร้อมคำบอกเลิก ไม่เคยคิดว่าตนเองจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ตฤณขอแต่งงานส่วนเธอบอกเลิก ใบหน้าหวานก้มมองพื้นถอนหายใจแล้วเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา เสียใจที่ทำลายคนดีๆ ไปและส่วนหนึ่งก็โล่งเพราะไม่ต้องทำให้เขาถลำลึกมากกว่านี้ มือเล็กยกขึ้นเสียบคีย์การ์ดเปิดประตูห้องก่อนตกใจเพราะมีแรงผลักจากข้างหลังให้เธอเข้าห้องแล้วปิดลงอย่างรวดเร็วไฟข้างในเปิดสว่างทันทีเผยให้เห็นใบหน้าคมของคนคุ้นเคยจ้องมองมาอย่างเอาเรื่อง กลิ่นแอลกอฮอล์จากกายสูงทำเอาต้องย่นจมูกแล้วถอยหลังออกห่าง“เมื่อกี้ไปไหนมา”ขาเล็กก้าวถอยกองทัพก็ก้าวเข้าหาคว้าแขนเรียวปะทะแผงอกกดเสียงต่ำถามย้ำ“ปล่อยก่อนค่ะ พี่ทัพกำลังเมานะ” มองเข้าไปในดวงตาคมรู้สึกถึงภัยกำลังจะมาหาตนเองพยายามยันอกเขาไว้ไม่ให้ใกล้ไปมากกว่านี้ แต่ดูท่าอีกฝ่ายจะไม่ให้ความร่วมมือเลยกองทัพก้าวเข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งดันร่างเล็กติดผนังกักขังเอาไว้ด้วยแขนแกร่ง“ไปกับแฟนเป็นยังไงบ้างล่ะ คงมีความสุขมากใช่ไหม” ใบหน้าทั
๑๗พายุกำลังจะมาเวลาผ่านไปสองเดือนอย่างรวดเร็วและเลขาสาวก็เหลือเวลาทำงานกับเขาเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น เธอพยายามใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดคือการไปคอนโดของกองทัพทุกเย็น นอกจากอยากเห็นหน้าเขาแล้วอีกเหตุผลก็เพื่อดูแลแคคตัสของตน เฝ้าว่าวันใดมันถึงจะออกดอกให้ได้ชื่นชมและคนที่ได้กำไรก็มีแต่ร่างสูงเพราะเห็นคนตัวเล็กในสายตาทุกวันอย่างเช่นวันนี้เมื่อถึงเวลาเลิกงานก็ขับรถมายังคอนโดทันที โดยมีณชาขับรถตามหลังก่อนจะชวนกันซื้อวัตถุดิบเพื่อทำอาหารสำหรับมื้อเย็น แน่นอนว่าคนที่ต้องโชว์ฝีมือคือกองทัพเพราะหากให้หญิงสาวเป็นคนทำกลัวว่าจะกลายเป็นอาหารมื้อสุดท้ายเสียก่อน“น้องต้นของคุณแม่” เปิดประตูเข้าห้องร่างบางก็ตรงไปยังต้นแคคตัสทันที ทิ้งให้เจ้าของห้องถือของไปยังโซนครัวเพื่อทำอาหารเพียงลำพังณชาเปิดทีวีแล้วดูกระถางแคคตัสซึ่งวางไว้บนโต๊ะเล็กหน้าโซฟา นั่งดูรายการเพลงแล้วเปลี่ยนเป็นสารคดีชื่อดังดูไม่นานก็เบื่อ จึงเปิดช่องอื่นหยุดที่รายการกว่าจะเป็นหมอมือเล็กหยุดชะงักนึกถึงคนที่หายไปจากชีวิตราวไม่เคยรู้จักกันพี่ตฤณ..ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างเคยส่งข้อความไปหาเขาทว่าอีกฝ่ายกลับตอบมาเพียงสั้นๆ ว่ากำลังยุ่งและไม
๑๘ระหว่างเราคืออะไรเช้าวันอังคารที่แสนน่าเบื่อณชาเดินลงจากห้องด้วยใบหน้าเหนื่อยหน่าย วันแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมออีกเพียงสองสัปดาห์เธอก็สิ้นสุดสัญญาการเป็นเลขาให้กองทัพเสียแล้ว คิดแล้วก็รู้สึกเสียดายที่จะไม่ได้เห็นอีกฝ่ายทั้งวันทว่าไม่ได้เศร้าโศกเพราะอย่างไรก็เจอกันแทบทุกเย็นและวันเสาร์อาทิตย์ก็มักจะไปค้างคอนโดของชายหนุ่มเป็นประจำอยู่แล้วใบหน้าหวานระบายยิ้มด้วยความสุขนึกถึงคืนวันหยุดที่ตนเองตกอยู่ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่น เขาไม่ได้ล่วงเกินเธอมากไปกว่าจูบเลยสักครั้ง อดภูมิใจในตัวของชายที่รักไม่ได้แต่อีกใจก็คิดว่าหรือเขาไม่รักจึงไม่ยอมทำอะไรเสียทีความรู้สึกที่พัฒนาขึ้นสวนทางกับสถานะที่ยังคงอยู่จุดเดิม..พี่น้องเขาไม่ได้เอ่ยขออย่างชัดเจนแม้เธอจะรอคอยอยู่ทุกวันก็ตาม ณชาไม่กล้าพูดก่อนด้วยความกลัวที่ซ่อนในใจว่าชายหนุ่มจะไม่ตอบตกลง“หน้ามุ่ยเชียวลูกสาวแม่”ณชาเดินมานั่งเก้าอี้ตัวประจำยังห้องอาหารซึ่งมีคุณศลิษารออยู่ก่อนหน้าแล้ว ท่านกำลังรับประทานอาหารเช้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ยังง่วงอยู่เลยค่ะ วันนี้ไม่ไปทำงานดีไหมคะ” ถามด้วยสีหน้าไม่จริงจังนักเพราะรู้ดีว่าทำอย่างนั้นเจ้านายได้มาตามถึงบ้าน
๑๙ไม่เคยสำคัญใบหน้าหวานหันไปตามแรงตบอย่างไม่คาดคิดในขณะที่คนทำเองก็อึ้งไม่ต่างกัน ราวเวลาหยุดไปชั่วครู่หัวใจของคนโดนกระทำเจ็บจนไม่อาจหายใจต่อได้ เธอค่อยๆหันหน้ามองกองทัพอย่างช้าๆ น้ำตาไหลลงมาเป็นสายพร้อมแววตาเสียใจจนคนมองรู้สึกผิดทำท่าจะเดินเข้าไปหาแต่ติดที่ประคองปลายฟ้าเอาไว้จึงไม่อาจทำอะไรได้มากกว่ายืนมองหัวใจที่โดนกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่ามันยังคงเต้นบอกว่ารักเขาไม่เปลี่ยนกระทั่งวันนี้ก็ยังคงบอกว่ารักกองทัพแต่ดูท่าคงเป็นตนที่คิดไปคนเดียว เขาไม่มีแม้เศษเสี้ยวความรู้สึกดีๆมอบให้แก่กันเลย มองร่างสูงประคองกอดปลายฟ้าไม่คิดจะยื่นมือเข้ามาหาก็เข้าใจทุกอย่างแล้วคนไม่ใช่ทำอย่างไรก็ไม่ใช่“ป้อน..พี่ขอโทษ”ต้องได้ยินคำนี้ไปอีกกี่ครั้ง เขาต้องพร่ำขอโทษอีกกี่ทีแค่ทำดีกับเธอมันยากมานักหรือ แรงจากมือของกองทัพที่กระทบใบหน้าของตนชาจนไม่รู้สึกอะไรเพราะความเจ็บมันเกิดที่หัวใจจนไม่เผื่อแผ่ไปส่วนอื่นของร่างกายดวงตากลมโตมองผู้ชายที่รักไม่วางตาก่อนจะก้มลงหยิบกระเป๋าของตนเดินออกจากห้องไร้ซึ่งคำพูดหรือประโยคบอกลากองทัพอยากวิ่งตามไปแต่ติดที่ผู้หญิงในอ้อมกอดยังคงไม่ได้สติจำต้องตัดใจคิดว่าดูแลปลายฟ้าก่อนค่อย
๒๐ที่รู้สึกคือไม่รู้สึกณชาสูดลมหายใจเข้าปอดพยายามเช็ดน้ำตาของตนแล้วลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากดโทรออกหาพี่สาวคนสนิทในที่ทำงานพร้อมบอกว่าจะขอลาหนึ่งวันรู้ว่าไม่ควรเพราะยังมีงานคั่งค้างแต่ก็ไม่สามารถไปทำงานในสภาพนี้ได้หลังจากวางสายก็ออกไปเอาชุดเข้ามาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าพอให้ดูดีขึ้นเล็กน้อย ทว่าดวงตาก็ยังบวมปูดใบหน้าซีดเซียวจนรู้สึกสงสารคนในกระจกเหลือเกินพอจัดการตนเองเรียบร้อยก็เขียนโน้ตขอบคุณตฤณที่ให้อาศัยห้องหนึ่งคืน ที่ร้องขอมากับเขาเพราะรู้ดีว่าคนเป็นสุภาพบุรุษอย่างคุณหมอคงหาวิธีเพื่อไม่ให้เธอเสียหายซึ่งก็จริงเพราะชายหนุ่มพาเพื่อนผู้หญิงมานอนกับเธอ“ขอบคุณนะคะพี่ตฤณ”ออกจากห้องมาได้ก็พึมพำขอบคุณด้วยความซึ้งใจแล้วลงไปข้างล่างฝากกุญแจไว้ให้เจ้าของห้องแล้วกลับไปเอารถยนต์ของตนซึ่งจอดไว้ผับชื่อดังที่เข้าไปเมื่อคืนและขับกลับบ้าน ป่านนี้คงไม่มีใครอยู่ไม่ต้องทนเห็นสภาพน่าอนาถของลูกสาวคนเล็กเป็นดังที่คาดเอาไว้เพราะบ้านพิบูลกนกไร้เจ้าของบ้านมีเพียงแม่บ้านที่ทำความสะอาดอย่างแข็งขันณชาจึงรีบเดินขึ้นห้องไม่สบตากับใครแม้จะได้ยินเสียงเรียกก็ไม่อาจขานตอบเดินแกมวิ่งเข้าห้องอย่างรวดเร็วเมื่
๒๑สิ้นสุดกันทีเวลาที่เหลือทั้งสองคนใช้อย่างคุ้มค่าด้วยการตัวติดกันแทบจะตลอด กองทัพยังคงมีความสุขโดยไม่รู้เลยว่าภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มของณชากำลังซ่อนการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวเอาไว้ เหลืออีกเพียงสองวันการทำงานที่บริษัท วิจิตรจำกัด (มหาชน) ก็จะสิ้นสุดลงแล้ว ทางแผนกพากันนัดเลี้ยงส่งน้องสาวแม้จะอยู่ด้วยกันไม่นานก็ตามงานเลี้ยงเป็นไปอย่างเรียบง่ายโดยจองห้องคาราโอเกะวีไอพีเอาไว้สำหรับเลี้ยงส่ง แต่ละคนผลัดเปลี่ยนขึ้นไปร้องเพลงอย่างสนุกสนาน“งานเลี้ยงครั้งนี้ต้องขอขอบคุณหัวหน้าแผนกอย่างคุณกองทัพที่ออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้นะคะ เอาทุกคน หนึ่ง สอง สาม ขอบคุณค่ะ”แต่ละคนยกมือไหว้หัวหน้ากันจนคนหัวโต๊ะต้องยกมือบอกให้พอแล้วหัวเราะร่วน“ไม่เป็นไรครับ เชิญตามสบาย”เขาแค่อยากจัดงานเลี้ยงให้ณชาเท่านั้นซึ่งการใช้ข้ออ้างนี้ก็ดูเข้าท่ามากที่สุดชายหนุ่มหันไปมองร่างบางที่นั่งใกล้ๆ กำลังร้องเพลงคลอไปด้วยพลางปรบมืออย่างมีความสุข แค่เห็นรอยยิ้มหวานก็เพียงพอแล้วยังไม่ทันจะได้ทำอะไรเสียงโทรศัพท์ก็สั่นจนต้องเอาออกจากกระเป๋ากางเกงลุกขึ้นเดินเลี่ยงไปรับสายเมื่อโชว์เบอร์ของปลายฟ้ายังไม่ทันที่คนโทรมาจะได้สวัสดีกองทัพก
๒๒เธออยู่ที่ไหนปลายฟ้าถูกย้ายเข้าไปที่ห้องพักพิเศษโดยมีกองทัพดูแลอยู่ทั้งคืนกระทั่งเช้าพยาบาลพิเศษเข้ารับช่วงต่อชายหนุ่มจึงได้เวลาไปพักบ้าง อีกทั้งยังต้องเข้าบริษัทแต่เช้าเพราะมีเอกสารให้เซ็นกองเป็นตั้ง ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายขณะกลับไปยังรถยนต์ของตนเองไม่รู้ณชาเอากุญแจรถให้ตอนไหนแต่เมื่อตื่นขึ้นมาในห้องพักก็พบว่ามันถูกวางไว้บนโต๊ะแล้วขับออกไปขณะมองเวลาที่ข้อมือเป็นเวลาตีห้า คาดว่าป่านนี้ร่างบางอาจจะยังหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียงกว้างคิดแล้วก็อยากไปถึงคอนโดให้เร็วเพื่อสวมกอดหญิงที่ตนรักให้ชื่นใจโดยไม่รู้เลยว่าอาจจะพบเพียงความว่างเปล่าร่างสูงเปิดประตูให้เบาที่สุดเพราะกลัวรบกวนการนอนของคนภายในห้อง เขาเปิดตู้เย็นรินน้ำใส่แก้วดื่มดับกระหายแล้วจึงเข้าห้องนอนหวังพักสักงีบค่อยออกไปทำงานทว่าเมื่อมองบนเตียงกว้างกลับไม่พบร่างเล็กที่เคยกกกอดคิ้วหนาขมวดเข้าหากันทันทีเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงกดโทรออกหาหญิงสาวทว่ากลับไม่สามารถติดต่อได้“หายไปไหนนะ หรือว่าจะกลับบ้าน” แวบหนึ่งภายในใจวูบโหวงขึ้นมาทันที ความกลัวพุ่งเข้าชนจนขายาวก้าวไปที่ตู้เสื้อผ้าเปิดดูอย่างรวดเร็วก่อนจะผ่องผ่อ
ตอนพิเศษ...หนีเที่ยวงานแต่งระหว่างกองทัพและณชาจัดขึ้นอย่างใหญ่โตขัดกับความต้องการของทั้งสองที่อยากได้แบบเรียบง่าย ทว่าหน้าที่การงานไม่เอื้ออำนวยในเมื่อเจ้าบ่าวเป็นถึงคณะกรรมการของบริษัทมีคนนับหน้าถือตา ทั้งยังคู่ค้าที่ติดต่อกันมานานหากจะไม่เชิญก็กระไรอยู่“เฮ้ยไอ้เอิร์ธ มึงกลับมาแล้วเหรอวะ” ขณะที่ยืนรอต้อนรับแขกที่ด้านหน้างานดวงตาคมก็เห็นเพื่อนสนิทใส่สูทผูกไทด์ผมที่เคยรุงรังหรือหนวดเคราครึ้มก็ถูกจัดการจนกลับมาหล่อเกินหน้าเกินเจ้าของงาน สองหนุ่มก่อนกันเนื่องจากไม่พบกันเกือบสามปีครึ่ง“กูแค่มางานแต่งมึง เดี๋ยวก็บินกลับแล้ว” กองทัพแทบจะปรบมือให้ในความทุ่มเทของอีกฝ่ายเพราะขนาดน้องแท้ๆ ยังปฏิเสธจะมาร่วมงานแต่งของพี่มันเลย“ดีใจที่มึงมา งานนี้ขอซองหนักๆ” ตบบ่าหนาเต็มแรงไปหนึ่งที“ได้ เดี๋ยวกูขอไปซื้อหินมาใส่ซองก่อนแล้วกัน” รั้งไว้แทบไม่ทันเพราะดูเหมือนสัตวแพทย์หนุ่มจะทำจริงอย่างที่ว่า ณชามองพี่ชายทั้งสองพลางอมยิ้มมีความสุข กระทั่งพณณกรหันมาหาน้องสาวคนสนิท“ลงเอยกับมันสักทีนะเรา หลังจากร้องไห้มานาน” จะเอื้อมมือขึ้นไปลูบศีรษะเจ้าสาวก็โดนเจ้าบ่าวจับมือเอาไว้ก่อน“ตามองมืออย่าต้องครับ เจ้าสาวก
สุขสันต์วันปีใหม่ เทศกาลที่หลายคนรอคอยมาถึงอีกครั้งแม้ประเทศจะไม่ใช่เมืองหนาวทว่าประชาชนส่วนใหญ่ก็ทำตัวให้กลมกลืนได้อย่างไม่น่าเชื่อเมื่อออกมาจากบ้านแล้วเจอผู้คนสวมเสื้อแขนยาวท่ามกลางแดดร้อนกว่าสามสิบสามองศา การคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาไม่น่าเชื่อถืออีกครั้ง เมื่อประกาศว่าจะหนาวจนปากสั่นแต่สิ่งที่ได้รับคือร้อนตับแทบแตก ยิ่งทำงานกลางแดดด้วยแล้วแม้จะโบกครีมกันแดดทับด้วยสเปรย์มาหนามากแค่ไหน เพียงเหงื่อไหลก็ดูเหมือนว่ามันจะหลุดออกโดยง่ายไม่เหมือนกับที่โฆษณาเอาไว้สักนิด “พักกองค่ะ” เสียงช่างภาพดังขึ้นพร้อมปาดเหงื่อที่ไหลออกมาตามไรผม วันนี้ออกมาถ่ายรูปพรีเวดดิงที่สวนสาธารณะในยามที่พระอาทิตย์ตรงศีรษะเหตุผลเพราะคุณเจ้าสาวและคุณเจ้าบ่าวมีเวลาจำกัด เสร็จจากนี่ก็ต้องไปแจกการ์ด ไหนจะต้องบินไปต่างประเทศเพื่อเชิญบรรดาเพื่อนสนิทแทบหาเวลาให้ช่างภาพไม่ได้ จนต้องเลือกเอายามพระอาทิตย์ส่องแสงแรงกล้าที่สุด “แค่สิบนาทีได้ไหมคะ บ่ายสองพวกเราต้องไปจิบน้ำชากับท่านผู้ว่าจังหวัดสุพรรณ” ฝ่ายเจ้าสาวในชุดกระโปรงยาวเฟื้อยตะโกนบอกจนต้องกัดฟันตอบรับ “ได้ค่
ตอนพิเศษ...หวานใจของนายไข่ตุ๋น เคยคิดหลายครั้งว่าหากวันนี้มาถึงเธอจะเป็นอย่างไร วันที่เพื่อนคนสนิทอย่างตฤณ..แต่งงาน ณัชชาเดินเข้ามาภายในโรงแรมด้วยหัวใจหนักอึ้งขาทั้งสองแทบก้าวไม่ออกอันที่จริงมันเป็นมานานนับตั้งแต่วันที่ได้รับการ์ดจากเจ้าบ่าวแล้ว ใบหน้าคมมีรอยยิ้มประดับดวงตาก็ส่องประกายเจิดจ้าอย่างน่าอิจฉา วันนี้เธออยู่ในชุดเดรสแขนตุ๊กตาสีชมพูยาวเพียงเข่า เพราะไม่ค่อยมีเวลาไปซื้อชุดจึงต้องขอยืมจากน้องสาวมาใส่ก่อน ใบหน้าหวานยังคงมีแว่นตาบดบังและผมยาวก็ปล่อยสยายกลางหลัง ริมฝีปากอวบอิ่มเคลือบด้วยลิปกลอสสีชมพูวาว ใบหน้าที่เคยไร้สีดูสดใสขึ้นมาเล็กน้อยเพราะได้น้องสาวช่วยเพิ่มสีสันให้ทว่าก็ยังคงจืดจางเมื่อรวมกับคนหมู่มาก มือเล็กเซ็นในสมุดอวยพรบ่าวสาวแล้วหย่อนซองลงในกล่องก่อนหยิบของชำร่วยเป็นพวงกุญแจรูปหัวใจสองดวงคล้องกัน เก็บมันลงกระเป๋าทันทีแล้วก้าวเข้าไปภายในงานพยายามสูดลมหายใจเรียกกำลังให้ตนแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อเห็นคู่บ่าวสาวยืนอยู่หน้าแบ๊กดร็อปในจังหวะที่เจ้าบ่าวช่วยเช็ดเหงื่อให้เจ้าสาวด้วยความอ่อนโยน หัวใจสั่นไหวจนอยากจะหันหลังออก
ตอนพิเศษหมอตฤณกับต้นหนาว นาฬิกาบ่งบอกเวลาตีสามทว่าชายหนุ่มที่อยู่ภายในผับยังคงนั่งดื่มเหล้าราวเป็นน้ำเปล่าไม่รู้สึกระคายคอสักนิด พนักงานหันมองหน้ากันไปมาไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรจนกระทั่งผู้จัดการเดินไปแจ้งลูกค้าหน้าใหม่ให้รู้ว่าร้านปิดแล้วเขาจึงวางเงินเอาไว้พร้อมเดินเซออกไปทางประตู “รถอยู่ไหน” ร่างสูงพยายามเพ่งมองรถยนต์ของตนเอง หลับตาลืมตาอยู่หลายครั้งเพราะดูอย่างไรก็มองอะไรไม่ชัดสักอย่าง แถมรู้สึกเหมือนศีรษะเอนไปเอียงมาพยายามทำให้หัวตั้งตรงด้วยการเอนไปทางด้านขวาก่อนจะพบว่าไม่ตรงเลยสักนิด เขาจึงลองเอนหัวมาทางด้านซ้ายแทน ก็ไม่ตรงอีกถ้าอย่างนั้นควรทำอย่างไรดีถึงจะมองตรงได้ คุณหมอหนุ่มตัดสินใจล้มตัวลงนอนบนพื้นเพราะทนความหนักของศีรษะไม่ไหว “อ่า ตรงแล้ว” ใบหน้าคมยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะรู้สึกพะอืดพะอมจนต้องรีบลุกขึ้นนั่งแล้วโก่งคออาเจียนเต็มที่โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้กำลังนั่งอยู่หน้าลานจอดรถของผับที่ตนเองมาตั้งแต่สามทุ่ม เมื่อรู้สึกโล่งจึงล้มตัวนอนที่เดิมมือหนาคว้าสะเปะสะปะก่อนจะสัมผัสได้ถึงขนนุ่มนิ่มก็คว้าเข้าไปกอดคลายหนาวทันที ไม่รู้ส
ตอนพิเศษ...รักเธอได้ยินไหมเด็กหญิงหุ่นอวบเดินเข้ามาภายในโรงเรียนด้วยท่าทีมั่นอกมั่นใจ เธอรวบรวมกำลังใจเพื่อที่วันนี้จะได้ทำภารกิจอันสำคัญอากาศยามเช้าแสนจะสดใสราวทุกอย่างเปิดสว่างให้กับความรักของเธอ ณชารู้จักความรักครั้งแรกคือสิ่งที่เรียกว่า ‘ขนม’ เธอหลงรักมันอย่างถอนตัวไม่ขึ้นแต่ก็มักจะโดนเพื่อนล้อว่าตัวอ้วน กินแต่ของหวานฟันผุ กระทั่งได้รู้จัก ‘พี่ทัพ’ ผู้ชายที่ทำให้คำว่ารักของเธอเปลี่ยนไป‘อร่อยก็กินสิ เดี๋ยวพี่กินเป็นเพื่อน’จากที่เคยคิดจะลดของหวานณชาก็ยิ้มร่าหยิบเค้กชิ้นโตขึ้นมากินอย่างมีความสุข ผู้ชายตรงหน้าเธอมีหุ่นที่ไม่ต่างกันมากนัก แววตาของเขาทอประกายความสุขและนั่นเองทำให้เด็กหญิงที่ไม่ประสาเรื่องความรักหัวใจเต้นแรงจนต้องเดินไปถามมารดา“แม่ขา ป้อนหัวใจเต้นเร็วมากเลย แม่จับดู ป้อนจะตายไหมคะ” จับมือคุณแม่มาไว้ที่หัวใจเพื่อรับรู้อัตราการเต้นคุณศลิษาหัวเราะบุตรสาวก่อนจะลูบศีรษะน้อยๆ“ไม่ตายหรอกค่ะ อาการแบบนี้เขาเรียกว่าตกหลุมรัก”ตอนนั้นเธอไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร แต่มักจะเกิดขึ้นเมื่อได้สบตากับพี่กองทัพเสมอและเมื่อโตขึ้นเธอจึงได้เข้าใจคำว่าตกหลุมรักที่คุณแม่บอกเด็กหญิงชวนพี่ชาย
ตอนพิเศษ...เมื่ออดีตมือหนาเลื่อนขึ้นไปปิดน้ำที่ไหลรดกายก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวพันบริเวณเอวไม่ลืมหยิบผ้าขนหนูพื้นเล็กเช็ดศีรษะที่ชุ่มไปด้วยน้ำ ใบหน้าคมเข้มหล่อเกินวัยทำเอาสาวหลายคนใจละลายมานักต่อนัก ดวงตาเรียวยาวเพียงแค่ปรายตามองก็พานให้หัวใจสั่นไหว จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากเรียวราวอิสตรีเพียงเท่านี้ก็ทำให้กองทัพ วิจิตรประภากลายเป็นหนุ่มหล่อที่ถูกกล่าวขานไปทั่วมหาวิทยาลัย“อื้อ ทัพ ตื่นเร็วจัง” สาวสวยหุ่นเพรียวลุกขึ้นจากที่นอนคว้าเสื้อคลุมมาสวมทับปกปิดร่างกายของตนเองจากสายตาคมกริบที่ทำให้หัวใจสั่นไหวทุกครั้งที่มอง“ผมมีเรียนเช้า คุณนอนต่อเถอะ” คนตัวเล็กกว่าเดินเข้ามากอดเขย่งปลายเท้าขึ้นจุมพิตปลายคางอย่างน่ารักจนอดใจไม่ไหวต้องคว้ามากอด เธอน่ารักขี้อ้อนจนเขายอมทำทุกอย่างขอแค่ได้มาครอบครอง ยอมแม้กระทั่ง..เป็นชู้..“อือ ตอนเย็นเจอกันนะคะ” ใบหน้าหวานยิ้มจนตาเป็นสระอิ ความน่ารักนี้ที่เขาหลงใหล รอยยิ้มแสนหวานที่มักมอบให้ ชอบเหลือเกิน ชอบจนไม่อาจจะตัดใจได้ทั้งที่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนของเพื่อนสนิท เพื่อนที่เป็นทั้งญาติไม่อาจจะตัดกันขาด“เดี๋ยวเราจะทำของที่ทัพอยากกินไว้รอ” เธอเดินมาส่งเขาท
ตอนพิเศษ...วันฮาโลวีนเทศกาลส่งท้ายเดือนตุลาคมที่กำลังฮิตในประเทศคือวันฮาโลวีน เด็กนักเรียนวัยอนุบาลและประถมต่างจัดเต็มมาในชุดผีน้อยแสนน่ารักหรือบางคนพ่อแม่ก็จัดให้เกินคำว่าน่ารักจนเพื่อนร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวและวันฮาโลวีนก็กำลังเป็นประเด็นฮอตให้หมู่นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ถกเถียงกัน นักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งต้องไปเข้าค่ายที่ต่างจังหวัดซึ่งงบประมาณที่เขียนขอไปกับทางคณะไม่เพียงพอ จึงต้องช่วยกันเปิดหมวกหาเงินโดยใช้เทศกาลของต่างประเทศให้เป็นประโยชน์โดยการจับเพื่อนในคณะมาแต่งชุดผีเพื่อขอรับบริจาคกระจายไปตามจุดต่างๆ ที่มีคนพลุกพล่านกองทัพเดินลงจากอาคารเรียนด้วยใบหน้าราบเรียบ เขาไม่มีแผนจะไปที่ไหนต่อนอกจากบ้านของตนเอง ง่วงเกินกว่าจะออกไปกินลมชมวิวข้างนอกตามคำชักชวนของเพื่อนร่วมคณะ เมื่อคืนเขานั่งอ่านรายงานเพื่อจะมาพรีเซนต์จะแทบไม่ได้นอนขณะเดินไปที่รถกลับมีผู้หญิงนุ่งชุดไทยวิ่งตัดหน้าจนคนตัวสูงสะดุ้ง“แฮ่!” ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดกำลังแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ ทำเอาจากความหวาดกลัวแปรเปลี่ยนเป็นความรำคาญทันทีเมื่อรู้ว่าเธอคือใคร“เล่นบ้าอะไร สนุกมากเหรอ” ไม่ได้ตวาดเสียงดังแต่ประโยคนั้นก็ทำร้ายจิตใ
๒๘รักจะอยู่กับเราไปนิรันดร์ย้อนกลับไปสามชั่วโมงที่แล้วณชาเดินเข้ามาภายในสนามบินสุวรรณภูมิด้วยใบหน้าเรียบเฉย เธอต้องบินไปอิตาลีอันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนหรอกเพราะขอวีซ่าไว้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเพียงแค่ไม่ได้บอกใครเท่านั้น เธอมีกำหนดไปแค่หนึ่งสัปดาห์เพราะต้องไปถ่ายรูปงานแต่งให้เพื่อนสนิทถือโอกาสไปเที่ยวเพื่อพักผ่อนจิตใจหลังต้องทำงานหนักเพราะกองทัพมาหลายเดือนห้าเดือนที่เธอกลับมาอยู่ประเทศไทยเขาสม่ำเสมอตลอด เช้ามาหาเย็นมารับประทานอาหารด้วยบางครั้งก็ไปนั่งเฝ้าที่ร้านขนมของแม่ยามเธอไปทำงาน หรือหากออกกองกับพ่อกองทัพก็จะแวะไปหาอ้างว่าซื้อของมาให้คุณพิชาภพแต่ทุกคนก็รู้ดีว่าแท้จริงแล้วเป็นของใครเขาแสนดีขนาดนี้จนเธอเริ่มอ่อนไหว ใครจะไปทานทนได้ไหนจะมารดาที่เล่าเรื่องชายหนุ่มให้ฟังว่าซื่อสัตย์เพียงใดใจดวงนี้ก็อ่อนยวบลงทันที ทว่าเมื่อคิดถึงเรื่องที่เขาเคยทำก็อดใจแข็งขึ้นมาไม่ได้ อยู่คนเดียวก็มีความสุขดีอยู่แล้วจึงเลิกคิดเรื่องของกองทัพร่างบางเช็กอินเสร็จก็เดินไปยังร้านกาแฟเดี๋ยวนี้เธอค่อนข้างเสพติดคาเฟอีนต้องดื่มทุกวันไม่อย่างนั้นจะรู้สึกไม่สดชื่น ระหว่างที่เดินออกจากร้านสายตาก็บังเอิญเ
๒๗ไม่ยอมแพ้ณชานั่งทำงานอยู่ภายในร้านกาแฟของมารดา ยกแก้วคาปูชิโนขึ้นจิบแล้วเร่งแต่งรูปภาพให้ทางผู้ว่าจ้างอย่างขะมักเขม้นแต่แล้วก็นึกถึงเรื่องที่เพิ่งได้รู้จากปากของต้นหนาวน้องสาวของปลายฟ้า..จริงแค่ไหนกันนะใบหน้าหวานครุ่นคิดอย่างสับสนจำได้ว่ายามค่ำคืนกองทัพมักจะออกไปข้างนอกโดยอ้างเหตุผลร้อยแปดจนเธอหลงเชื่ออย่างสนิทใจว่าเขามีธุระและเพิ่งได้รู้ทีหลังว่าธุระของเขาก็คือการไปอยู่กับปลายฟ้า หัวใจของเธอแทบจะขาดออกจากกัน มันปวดหนึบหายใจแทบไม่ออกเมื่อได้รู้ความจริงจากที่เคยคิดว่าเขารักความรู้สึกก็แปรเปลี่ยนไป ทุกวันที่อยู่ด้วยกันณชาต้องแสร้งทำเหมือนไม่เจ็บทั้งที่อดระแวงไม่ได้ว่าชายหนุ่มจะไปหาอดีตคนรักอีกเมื่อไหร่ แม้จะบอกตัวเองว่าเวลาที่เหลือขอเก็บเกี่ยวความสุขครั้งสุดท้ายเอาไว้แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ได้มีเพียงความสุขเท่านั้นทว่ามันแฝงไปด้วยความเจ็บปวดที่บาดลึกลงไปในใจทุกวันณชาเลือกจะเดินออกมาจากชีวิตของเขาตัดขาดการติดต่อทุกช่องทางบินไปรักษาแผลใจไกลถึงต่างประเทศ ไปยังสถานที่เรียน ไปเจอเพื่อน รู้จักคนใหม่ๆ หญิงสาวลงเรียนถ่ายภาพอย่างจริงจังตามความชอบของตน รู้สึกสนุกจนลืมเรื่องทุกข์ใจเปิดโ