รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 26 - เผชิญหน้า(ศิลา)ผมรีบโทรหา เมื่อเห็นว่าด็อจมันตอบแชตกลับมา กะด่ามันเต็มที่ แต่พอเห็นสีหน้าที่ดูไม่ค่อยดี ผมเลยด่ามันไม่ลง เลยถามออกไปเพราะผมรู้สึกห่วงมัน เหมือนมันมีเรื่องไม่สบายใจ ซึ่งผมไม่รู้ว่าพ่อคุยอะไรกับมัน ทั้งที่ก่อนหน้านั้น มันยังดูดีกว่านี้...ผมเลยเลือกที่จะเล่นกีต้าร์แล้วร้องเพลงให้มันฟัง ด็อจชอบขอให้ผมเล่นอยู่บ่อยครั้ง แล้วผมก็เล่นให้มันฟังนั่นแหละ ทั้งที่ผมไม่ค่อยเล่นโชว์ใคร แต่มันเป็นเมียไงก็เลยยอม…ยอมมันคนเดียว แล้วก็เพราะคำ ๆ เดียวคือ รัก มันขออะไรผมก็ให้ได้ถ้าไม่เกินแรงที่ให้ทำ"ด็อจ กูมีไรจะถาม""หื้ม?"เมื่อร้องเพลงจบ ผมก็ยังเห็นแววตาของมันที่ยังมีความเศร้าอยู่ จึงเรียกมันกะว่าจะทำให้มันยิ้ม"กูหล่อไหม?""ถุย...โว๊ะ!!"ที่ผมถามออกไปก็แค่อยากให้มันมีให้ ได้ยินคำถามของผมถึงกับสะบัดเสียงใส่และทำท่าถุยน้ำลายเลยครับ ฮ่าฮ่าฮ่า"กูล้อเล่น! เห็นมึงหน้าเศร้า ๆ ...กูรักมึงนะด็อจ มีอะไรไม่สบายใจมึงสามารถคุยกับกูได้ทุกเรื่องนะ” ผมเข้าโหมดจริงจัง เพราะแม้มันจะยังยิ้มแต่แววตาของมันไม่ได้ยิ้มตามสักนิด“กูไม่เป็นไรหรอกน่า...งั้นเดี๋ยวกูขอไปอ
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 27 – ทัก(ศิลา)“พร้อมไหมมึง” ไอ้เงินล้านมันถามผม...ถ้าผมจะตอบว่าไม่พร้อมได้ปะละ? คงโดนส้นตีนไอ้เงินล้านเล่น ๆ อะ“ก็คงต้องพร้อม” ผมตอบไอ้เงินล้านออกไป บอกเลยไม่มั่นใจสักนิดว่าจะชนะ ก็ผมน่ะมันไม่เคยลงแข่งจริงจังกับใคร นี่ครั้งแรกเลยก็ว่าได้ มีแค่ความชินสนามเพราะมาบิดบ่อย“มั่นใจหน่อยดิวะ...มึงฝีมือดีจะตาย” ไอ้เงินล้านมันก็ยังพูดพร่ำต่อไป แล้วแต่มึงเถอะเพื่อน กูมีหน้าที่แข่งให้มึง“คู่แข่งก็ดูไม่ธรรมดานะเว้ย” ไอ้เงินล้านมันพูดพร้อมกับหันไปมองคู่แข่งที่ยืนอยู่ห่างออกไปไม่ไกล“อ้าวไอ้ห่า แล้วแม่งก็มาพูดให้กูใจแป้ว” “แต่มึงก็เก่งกูเชื่อว่ามึงทำได้”“ไอ้ส้นตีนหมา” หมั่นไส้ครับด่าแม่งเลยแหละ เผื่อผมจะคลายความเครียดลงได้บ้าง“ด่ากูทำเหี้ยไรเนี้ย” แล้วมันก็หันหน้ามาโวยผม“ด่ามึงแล้วก็รู้สึกไม่เครียดไง จะได้ชนะเอารางวัลมาให้มึง” ผมรีบแถ ทั้งที่ก็หลอกด่ามันนั่นแหละ“กูยอมวันนี้เท่านั้นแหละ ถ้าด่ากูวันอื่นนะ จะถีบโครมไปกลางสนาม” ไอ้เงินล้านมันพูดอย่างหัวเสีย ซึ่งผมก็แทบอยากจะหัวเราะลั่นกับท่าทางของมันตอนนี้ หมดกันทรงโจรโดนใจของสาว ๆ“คนของมึงสวยนะ” ผมเห
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 28-ปากร้าย(ศิลา)ผมเงยหน้าขึ้น ละสายตาจากหน้าจอมือถือ มองไปตามเสียงที่ทักขึ้น เป็นคนที่ผมไม่อยากจะเจอเลยตั้งแต่วันนั้นที่มันทำผมแทบคลั่ง"..........." ผมปิดหน้าจอยัดใส่กระเป๋ากางเกง แล้วหยัดยืนให้เต็มความสูง มองหน้าคนที่มาใหม่ด้วยสายตานิ่งเฉย"ทำไมมองหน้าแบบนั้น อย่างกับเราไม่เคยรู้จักกัน"ผมไม่สนใจคำพูดเหล่านั้น กะพริบตาลงหนึ่งทีแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ กะจะเดินเลี่ยงออกมา เพราะว่าผมไม่อยากคุยด้วย หากอยู่นานผมกลัวว่าจะอดใจไม่ไหว...กลัวตบเข้าให้!"...........""เย็นชาจังเลยนะ""อย่ามายุ่ง!"ผมสะบัดมือออกเมื่อคนมาใหม่คว้าจับมือผมไว้ แล้วหันไปตะเบ็งเสียงหนักพูดขึ้น ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังสั่นอยู่ข้างใน เมื่อได้เจอหน้ากันอีกครั้ง แต่มันอยู่ในสถานะที่ไม่เหมือนกัน"ทำไมล่ะศิลา..." คนมาใหม่ที่ผมไม่อยากเจอพูดขึ้น พร้อมกับมายืนดักหน้าผมไว้"ต้องให้พูดว่างั้น!?" ผมถอยหลังหนึ่งก้าว ยืนให้ห่างเพราะผมไม่อยากเข้าใกล้ให้เป็นเสนียดลมหายใจ"ไม่ต้องก็ได้....ศิลาสบายดีใช่ไหม?" ยังมีหน้ามาถามผมอีก"ก็เห็นอยู่ว่ายังไม่ตาย" ผมตอบแบบไม่อยากตอบ"ปากร้ายจังเลยนะ" เธอเ
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 29 - แค่ของเก่า"ทำบ้าอะไรของเธอ!" ผมตวาดเสียงลั่นเมื่อก้อยแตะจูบปากผม แต่ก่อนผมอาจจะชอบที่เธอทำแบบนี้ แต่นี่ไม่เหมือนเดิม ตั้งแต่ที่เธอเดินจากผมไปเพื่อไปหาคนที่มีมากกว่า เธอมันคนเห็นแก่ตัว!!"อะไรกัน ทำอย่างกับไม่เคยไปได้ศิลา" ก้อยว่าขึ้นหน้าตาย เหมือนกับเธอไม่รู้สึกอะไรกับการที่ทำแบบนี้ ทั้งที่เธอก็มีคนของเธอที่ควงมา ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่าแค่คนคุยหรือคนจริงของเธอกันแน่ เมื่อมารู้ทีหลังว่าระหว่างที่ผมกับเธอคบกันเธอร่านและแรดแค่ไหน"อย่ามาใกล้ แล้วอย่ามาใช้คำพูดแบบนี้กับผม" ผมขยับหนึ่งก้าวถอยหลังให้ห่างจากก้อย เมื่อเธอนั้นยืนฉีกยิ้มมา"ดูห่างเหินจังเลยนะศิลา" เธอก็ขยับขาตามมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาเช่นเดิม ซึ่งตอนนี้ผมไม่อยากใกล้ผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว ไม่โกรธ ไม่เกลียด แต่ไม่อยากเฉียดเข้าไปใกล้!"ก้อย!" ผมตวาดเสียงดัง เมื่อก้อยเริ่มกรีดปลายนิ้วลงแผงอกของผม ซึ่งเธอก็เหมือนจะดูเสียหน้าเล็กน้อย แต่ก็ปรับสีหน้าให้ดูมั่นใจในแบบผู้หญิงมั่นเหมือนเดิม"ดุจัง""ถ้ายังไม่หยุดวุ่นวาย อย่าหาว่าไม่เตือน" ผมกัดฟันพูดอย่างข่มอารมณ์"ศิลา ศิลา...ใจเย็นนะมึง กูว่ามึงไปเปลี่ยนช
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 30-รื้อฟื้นได้เวลาแข่งขันผมลงไปยังสนาม รอบด้านที่มีผู้คนมากมายจ้องมองมายังผมและคู่แข่งเป็นสายตาเดียวกัน งานนี้ไอ้เงินล้านมันตั้งความหวังไว้กับผมมาก ด้วยเงินเดิมพันที่ค่อนข้างสูงและยังมีของแถมที่แสนโสมมมาเพิ่มอีก ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่ได้อยากของแถมเน่า ๆ นั้นอยู่แล้ว ที่ลงแข่งก็เพราะเพื่อนขอร้องเสียงสัญญาณดังขึ้นทำให้ผมเริ่มออกตัวด้วยความเร็ว คู่แข่งก็ไม่ธรรมดา บิดโคตรเก่งและชั้นเชิงก็มีมาก ผมที่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้ก็ต้องทำให้สุดฝีมือ จนผมบิดแซงคู่แข่งขึ้นมา จังหวะการโค้งที่ดูจะเหนือชั้นของผมทำให้เริ่มทิ้งห่างคู่แข่งพอควร แต่ก็ไว้ใจไม่ได้ปึก!!(เฮ้ย!)นั่นไงแม่งเล่นผมให้แล้ว ดีที่ผมทรงตัวบังคับรถได้แล้วไปต่อได้อย่างสบาย ไอ้ห่านี่ขี้โกง ผมรีบบิดในจังหวะสุดท้าย เพราะอีกไม่กี่เมตรก็ถึงเส้นชัย ผมกับคู่แข่งสลับกันแซงไปมาอย่างไม่มีใครยอมใครและในที่สุดผมมั่นใจว่าเข้าเส้นชัยก่อนมันแน่นอน แม้จะดูผิวเผินจนเหมือนเราสองคนเข้าเส้นชัยพร้อมกันก็ตาม กล้องจับภาพข้างสนามมี และตอนนี้ก็กำลังรีเพลย์ภาพอยู่ แน่ชัดว่าผมเข้าก่อน และผลคือไอ้เงินล้านได้เดิมพันนี้ไปครอบครองพร้อมของ
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 31-ตัวช่วยปึง!!(“โถ ๆ จุ๊ ๆ น่าสงสารเธอจริง ๆ”) เสียงใครวะ แม่งตอนนี้ผมแทบเสียการควบคุมตัวเองไปหมดแล้ว เพราะสารที่ก้อยเอามาตอนนี้มันเข้าสู่ร่างกายของผมโดยการสูดดมก้อยผละห่างจากผมเมื่อได้ยินเสียงปริศนาดังมาทางประตู ที่ตอนนี้มีใครบางคนที่ผมไม่รู้จักยืนพิงขอบประตู แล้วจ้องมองหน้าก้อยอย่างดูแคลน“ริกะ”“ขอบใจที่ยังจำฉันได้”เธอชื่อริกะ แล้วแม่งริกะไหนวะ ผู้หญิงที่มาใหม่เธอมีรูปหน้าคล้ายกับคนญี่ปุ่น จากชื่อแล้วคงจะเป็นลูกครึ่ง ร่างกายของผมตอนนี้ไม่ต่างไปจากคนเมา สติที่ผมมีพยายามต่อต้านกับสารที่สูดดมเข้าไป ความต้องการของผมมันเริ่มเพิ่มมากขึ้น แต่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อย“แกเข้ามาในนี้ได้ยังไง?” ก้อยถามผู้หญิงที่ชื่อริกะด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ ผมได้แต่ยืนมองผู้หญิงสองคนจ้องมองหน้ากัน แล้วมันจะไม่มีใครช่วยอะไรผมเลยหรือไงวะ!“เดินเข้ามาสิ ถามอะไรโง่ ๆ แค่หน้าโง่ก็พอแล้วมั้งสมองหัดมีซะบ้าง” “นังริกะ!!” ก้อยเดินเข้าไปใกล้ พร้อมกับง้างมือจะตบผู้หญิงคนนั้น ซึ่งผมก็ยืนมองอย่างไม่อาย ตอนนี้ความอายไม่มีแล้วครับ รู้แค่ผมต้องปลดปล่อยอารมณ์เท่านั้น “กลัวลืมชื่อฉันหรือ
(ยังไม่ตื่น)(ด็อจ)วันต่อมาเวลา 11.15 น.ผมมากับพ่อตามที่นัดกันไว้ ทั้งที่ก็ไม่ได้เต็มใจมา แต่รับปากพ่อไว้แล้วไงเลยต้องแบกสังขารมา พ่อพาผมเดินเข้ามาในร้านอาหารจีน เมื่อบอกกับพนักงานเสร็จก็เดินตามมายังอีกห้องหนึ่งที่ค่อนข้างส่วนตัว"ผมไปห้องน้ำแป๊บนะพ่อ" "อืม อย่านานนะด็อจ เดี๋ยวเพื่อนพ่อมา" "ครับ"ผมบอกไว้ทั้งที่ก็ไม่ได้ปวดฉี่หรืออะไรหรอก แค่รู้สึกอยากเดินให้ผ่อนคลายเท่านั้นเดินไปตามทางเดินออกมาทางเดิม แต่เลี้ยวซ้ายตามป้ายที่ชี้ไปยังห้องน้ำ ผมเข้ามานั่งคุดคู้อยู่ในห้องน้ำด้วยหัวใจที่คิดถึงใครอีกคน ที่ผมไม่ได้นอนกอดนอนดม “จะเป็นยังไงบ้างวะ ไม่โทรหากูเลยนะมึง ไอ้ผัวเวร”ผมปิดฝาชักโครกไว้แล้วนั่งลง ล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดเข้าแอปพลิเคชันสีเขียว เข้าแชทของไอ้ศิลา“ส่งมาตอนไหนวะ ตาย ๆ มันจะฆ่าเอาไหมวะเนี้ย ไม่ได้ตอบไลน์มันเลยตั้งแต่เมื่อวาน”ผมถึงกับเบิกตาโตเลยครับเมื่อเห็นว่าศิลามันส่งข้อความมาขอกำลังใจ มันบอกจะลงแข่งรถครั้งแรก แต่ผมแม่งดันไม่ได้จับโทรศัพท์มือถือเลยเมื่อวาน เพราะมัวอยู่แต่กับพ่อจนลืมไปสนิท เข้ามาในห้องนอนก็ดึกเข้านอนเลยผมรีบต่อสายหามันทันที นั่งรออยู่นานจ
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 33-คนดี(ศิลา)"ตื่นแล้วเหรอ""....."ผมงัวเงียตื่นมาด้วยอาการที่ไม่เต็มร้อย เสียงของผู้หญิงที่ทักในตอนนี้ที่ไม่รู้ว่าเวลาเท่าไหร่ ทำให้ผมอึ้งและตกใจ ร่างกายของผมที่ไร้เสื้อผ้านั่นยิ่งทำให้หัวของผมมึนไปหมด"อะไร? ทำไมมองหน้าฉันแบบนั้น" เธอถามผมในขณะที่เดินนวยนาดเข้านั่งลงข้างเตียงผมนั่งจ้องมองหน้าผู้หญิงสวยที่อยู่ตรงหน้า มองแล้วก็นึกว่าทำไมเธอถึงได้มาอยู่ในนี้ ผมกวาดสายตามองโดยรอบ ห้องนอนที่ไม่ใช่บ้านผมแน่ ๆ และที่นี่ก็ยังคงเป็นสนามแข่งของไอ้เงินล้าน มันมีห้องนอนซึ่งแต่ก่อนผมก็เคยมานอน"มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?" ผมถามเสียงแข็ง"พูดกับคนที่ช่วยเหลือคุณได้ไม่ไพเราะเลยนะคะ" เธอย้อนผมหน้าตาย เหมือนเธอไม่ได้สะทกสะท้านอะไรสักนิด"อะไร?""จำไม่ได้เหรอคะ ว่าเมื่อวานเราสองคน...." เธอจ้องหน้าผมแล้วพูดอมยิ้ม คำพูดที่ทำให้ผมเริ่มประมวลภาพหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้น"เวรเอ๊ย!!" ภาพทุกอย่างไหลเข้ามาในหัวของผมภายในเวลาไม่กี่วินาทีที่มองหน้าเธอ"เสียงดัง ริกะตกใจหมดเลยค่ะ" เธอแสร้งทำเป็นตกใจวางมือทาบอก "แล้วนั่นจะไปไหนคะ""เรื่องของผม" ผมรีบลงจากเตียงนอน เดินไปหาเสื้อผ้ามาใ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 16(ริวจิน)“ทำไมเงินในบัญชีหายไป 20,000” อีเมียคนที่หนึ่งของผมถาม ชำเลืองมองหางตา “เอาไปทำบุญเลี้ยงเด็กที่บ้านเด็กกำพร้า” ผมก้มหน้าตอบแบบขอทีไปที กดจิ้มเกมเล่นแบบไม่สบตา“แล้วทำไมไม่บอกแต่ทีแรก” อีเมียคนที่สองก็แทรกต่อ ตอนนี้เหมือนผมกำลังอยู่ท่ามกลางขุมนรกยังไงไม่รู้ สายตาเมียทั้งคู่จ้องมาที่ผมเป็นตาเดียวเลยครับ“บอกก็กลัวอะดิ” ผมตอบแบบหน้าด้าน ๆ ทั้งที่ก็แอบหวั่น ๆ อยู่ข้างใน คือเกรงใจเมียนะครับไม่ได้กลัวเลยสักนิด“เอาเงินไปเลี้ยงเด็กหมดแล้วตัวเองจะกินอะไร” เมียคนที่สองถามอีกครั้ง คนนี้ไม่อ่อนหวานกับผมสักนิด “เดือนนี้จะกินอะไร แชตไม่ให้ยืมนะบอกก่อนเลย” เมียคนที่หนึ่งของผมพูดขึ้นอีกครั้ง คนนี้พูดเสียงหวานหน่อย เธอเป็นคนเรียบร้อยน่ารักครับ“ก็กินเด็กสิ ไม่เห็นจะยุ่งยากอะไรเลย”((ไอ้ริว!!))ให้คำตอบเมียทั้งสองจบ จากนั้นก็วิ่งสิครับ จะอยู่ทำไมให้โดนทุบ...เพราะเด็กที่ผมหมายถึงพวกเธอสองคนเข้าใจดีวันนี้ผมไม่ได้ไปไหน เพราะเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ ก็เลยนั่งกระดกเบียร์เย็น ๆ ให้เพลิดเพลินใจอยู่ในห้อง“ทำไมต้องกินมันทุกเย็นด้วยริว ไอ้เบียร์เนี้ยมันมีดีอะไร มันเปลืองรู้
สามรักสามหัวใจตอนที่ 15"ป๊าอยากมีเมียน้อย" ผมพูดขึ้น ตอนนี้นั่งเล่นและคุยกันอยู่ห้องกระจกที่ป๊าทำไว้สำหรับดูหนัง ร้องเพลงคาราโอเกะหรือสังสรรค์"เดี๋ยวก็ได้โดนสองเมียมึงทุบหรอก" แล้วป๊าก็ทำสีหน้าเหมือนหนักอกหนักใจ แล้วผมพูดผิดตรงไหน แค่บอกอยากมีเมียน้อยเองนะ"ทุบทำไมริวแค่อยากมีเมียน้อย" แล้วผมก็ถามย้ำ"แค่คิดป๊าก็เห็นอนาคตมึงละริว" แล้วป๊าก็ตอบผมพร้อมกับจ้องหน้า"ริวผิดอะไร แค่บอกว่าอยากมีเมียน้อย" จากนั้นผมก็เริ่มถกเถียง ตอนนี้สีหน้าของป๊าคือแบบว่ากำลังด่าผมอยู่แน่ ๆ จะด่าทำไมผมว่าก็ไม่ได้พูดอะไรผิดสักหน่อย"ยัง ยังไม่รู้สึกอีก ริอาจจะมีเมียน้อย แค่เมียสองคนตอนนี้เลี้ยงให้รอดก่อนไหมไอ้ลูกชาย" ป๊าก็เริ่มจะบานปลายไปกันใหญ่ แถมยังตบหัวผมแทบทิ่มกับโต๊ะอีก"ตบริวทำไมป๊า ก็ถึงบอกไงว่าอยากมีเมียน้อยเนี้ย ทำไมป๊าไม่เข้าใจริวเลย...แค่นี้ก็ไม่รู้เรื่อง ไปหาแชตกับดอลลี่ดีกว่า" พอแล้วครับพูดยังไงก็ไม่เข้าใจผมเลย เดินขึ้นบ้านไปหาแชตกับดอลลี่สบายหูกว่าเยอะ ดีไม่ดีได้ออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงให้ตัวเองอีกต่างหาก"ไอ้ริวมันด่ากูโง่ทางอ้อมปะวะด็อจ" เสียงของป๊าดังตามหลัง"ไม่รู้สินะ😁" อันนี้เสียงพ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 14“ลูกแบบริวนี่แหละ โคตรสีสันของชีวิต...เราขึ้นห้องกันดีกว่า ปล่อยป๊าไว้นี่แหละ” แล้วผมก็จับมือเมียทั้งสองขึ้นห้องกัน ส่วนป๊านั้นก็อีกเดี๋ยวคงขึ้นห้องไปหาพ่อละมั้งสองเดือนผ่านไป"มานี่สิทั้งสามคน" ป๊าเรียกเมื่อเห็นพวกผมเดินมาจากสวนหลังบ้าน พาสาว ๆ ไปเดินเล่นจะได้คุ้นเคยเวลามาอยู่ที่นี่ มองไปเห็นสีหน้าของพ่อที่ดูกังวล แม้กระทั่งป๊าก็ไม่ต่างกัน ผมเดาออกว่าพวกท่านคิดเรื่องอะไรอยู่ ก็คงไม่พ้นเรื่องของผมกับเมียทั้งสอง ที่ได้มาครองคู่ใช้ชีวิตกันแบบบังเอิญสามคนผัวเมีย แม้ว่ามันจะผ่านมาร่วมสองเดือนแล้ว แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้คลี่คลาย ทางบ้านของแชตกับดอลลี่ยังไม่รู้เรื่องราวของลูก มีเพียงป๊ากับพ่อเท่านั้นที่รับรู้ และตอนนี้เหมือนพวกผม จะต้องถูกเคลียร์เรื่องราวแล้วล่ะ จากท่าทางของป๊าที่เป็นตอนนี้มันบ่งบอก"มีอะไรเหรอคะป๊า" เป็นดอลลี่ที่ถามขึ้น สรรพนามเปลี่ยนไป เมื่อป๊ากับพ่อบอกให้เรียกตามผม เพราะยังไงก็ตัดสินใจอยู่ด้วยกันแล้ว"จะอยู่กันแบบนี้จริงเหรอ?" พ่อถามแทนครับ"อยู่ไม่ได้เหรอ?" ผมย้อนถามคืน ก็อยู่กันมาตั้งหลายเดือนแล้ว พ่อก็นะไม่น่าถาม"ไอ้ได้มันก็ได้ แต่แบบนี้มันมีใคร
สามรักสามหัวใจตอนที่ 13“ต้องมีฉันด้วย!”“เฮ้อ”ผมถึงกับถอนหายใจเลยครับ เมื่อดอลลี่เธอตะเบ็งเสียงแข็งข่มใส่ ยังไงก็ต้องไปแพ็คคู่ให้ได้ใช่ไหม?“เออ รับผิดชอบทั้งสองคนนั่นแหละ” ผมตบปากรับคำเสร็จ ก็เดินเข้าห้องน้ำเลยครับ แล้วจะบอกกับพ่อยังไงล่ะทีนี้ ลูกชายสุดหล่อแบบผม มีเมียทั้งทีได้มาแพ็คคู่ซะงั้น โคตรล้ำเลยครับเมื่อพวกเราเคลียร์อะไรกันลงตัว จากที่เหมือนจะยากแต่ก็ดันง่ายดาย แรก ๆ ผมโคตรจะวุ่นวายมาก ไม่กล้าที่จะบอกป๊ากับพ่อเรื่องที่ผมก่อขึ้น จนตอนนี้ทุกอย่างมันดีขึ้น ผมกับแชตและดอลลี่เหมือนเราสามคนจะเข้ากันได้ดี แชตก็ไปทำงานกับผมอยู่แล้ว ส่วนดอลลี่แน่นอนว่าเธอเป็นลูกค้าของบริษัท ไม่ได้ยากเลยกับการที่จะทำงานหรือว่าติดต่อกันตอนนี้ผมกับพวกเธอเราตกลงคบกันเป็นที่เรียบร้อย อยู่ด้วยกันมาเกือบเดือนแล้ว และวันนี้ผมคิดว่าคงต้องบอกให้ป๊ากับพ่อได้รับรู้ ไม่อยากจะอยู่แบบหลบซ่อนแล้วล่ะ เพราะยังไงสักวันป๊ากับพ่อก็ต้องรู้อยู่ดี วันนี้ตอนเย็นเลยตั้งใจว่าจะพาไปแนะนำกับที่บ้าน ซึ่งผมก็ได้คุยกับพวกเธอไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้นัดกันออกไปทำสวยอยู่ บางทีผมก็แอบคิดว่าพวกเธอจะไปแอบกินกันเองลับหลังผมไหม ซึ่งผมยอ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 12“โอ๊ย!! โยนมาได้ หมาตัวไหนวะ” เสียงคนเมาทำเอาผมรีบดีดตัวลุกจากแชต แล้วยื่นมือให้เธอจับลุก“ดอลลี่เป็นไงบ้าง” แชตรีบวิ่งเข้าไปประคองดอลลี่ให้ลุกยืน ผมว่าแชตคงเอาดอลลี่ไม่ไหวหรอก เมาเละเทะซะขนาดนั้น งานนี้ต้องพระเอกมาแล้วล่ะ“มา ริวช่วยเพราะแชตคงพาดอลลี่กลับไม่ไหว ไปริวจะไปส่ง” ผมพูดอาสา“ดี!! ไปดวลกันที่ห้องเลยจะได้จบ ๆ ตัดสินกันไปเลย” คนเมาก็ยังพูดต่อ ชี้มั่วซั่วไปหมดหลงทิศทาง จนผมกับแชตต้องถอนหายใจแรงอย่างระอา“ขอบใจนะริว”“ได้เสมอแหละ ริวทำเพราะแชตหรอกนะ ไม่ใช่ทำเพราะใคร”“ปากหวานเชียวนะ”“เมื่อกี้ก็ลองแล้ว น่าจะรู้รสชาติดี”“ไม่คุยกับริวแล้ว...รถแชตอยู่ทางนั้น”แชตดูเขินอาย เพราะจากการอมยิ้มผมว่าใช่ เธอหลบสายตาที่ผมจ้องมอง ก่อนจะบ่ายเบี่ยงเฉไฉไปเรื่องอื่นจากนั้นผมก็อาสาขับรถพาพวกเธอมาส่งที่พัก มันเป็นคอนโดที่อยู่ไม่ไกลมากนักจากร้านที่ผมนัดกับเพื่อน ประคองพาดอลลี่ขึ้นมายังชั้นที่พวกเธออยู่ เพราะถ้าให้แชตแบกมาคนเดียวมีหวังไม่รอด ผมสงสารแชตที่ต้องมาเจอตัวภาระแบบนี้จริง ๆ เลยครับ“ขอบใจนะริว ขอโทษด้วยนะที่ทำให้เสียเวลา” แชตเธอพูดขึ้น เมื่อผมแบกดอลลี่มาส่งที่ห้
สามรักสามหัวใจตอนที่ 11“รู้จักกันเหรอ?” ป๊าถามขึ้นเมื่อเดินไปนั่งเก้าอี้ประจำตำแหน่ง ที่แย่งผมอะ เพราะปกติผมจะนั่งทุกวัน แต่วันนี้เว้นให้ชั่วโมงหนึ่งละกัน“รู้จักสิป๊า รู้จักดีเลยล่ะ ใช่ไหมครับแชต” ผมลากเก้าอี้มานั่งข้างแชต แล้วตอบป๊าไป สายตาจ้องมองแค่แชตเท่านั้น ส่วนป๊าผมไม่ได้สนใจมาก ไม่ได้พิศวาสเท่าผู้หญิงตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว“ให้มันน้อย ๆ หน่อยริว นี่ที่ทำงาน”“แล้วไง”ป๊าพูดขึ้นซึ่งผมก็ไม่รู้หรอก ป๊าจะมีสีหน้ายังไง เพราะตอนนี้ผมอยากมองแค่แชตคนเดียว“หน้าป๊าอยู่นี่ริว สนใจก็ที่เป็นพ่อบังเกิดเกล้ามึงสักแป๊บได้ไหม?” น้ำเสียงเริ่มจะกริ้วแล้ว ฉะนั้นผมควรจะทำตาม“ก็ได้ อย่าคุยนานนะริวอยากทำงานละ” มันก็แค่ข้ออ้างอะนะ ที่จริงอยากจะจีบสาวให้ติดมากกว่า อุตส่าห์ฟ้าเข้าข้างขนาดนี้ ต้องรีบทำคะแนน เพราะเดี๋ยวยัยดอลลี่ปากจัดจะแซงซะก่อน“แนะนำตัว” ป๊าสั่งเสียงเข้ม จากนั้นแชตก็เริ่มแนะนำตัวไปเรื่อย ๆ ส่วนผมก็นั่งมองเธอ ปากกระจับเล็ก ๆ ที่ขยับเวลาพูดมันดูน่าหลงใหล ยิ่งมองก็ยิ่งไม่อยากละสายตาไปไหน แชตดูน่ารักอ่อนหวาน ทั้งท่าทาง แววตา ทุกอย่างที่อยู่บนตัวเธอ มันทำให้ผมไม่อาจจะละสายตามองได้เลย
สามรักสามหัวใจตอนที่ 10วันนี้ผมตื่นแต่เช้าโดยที่ไม่ต้องให้พ่อปลุก อาบน้ำแต่งตัวอย่างรู้หน้าที่ บางทีการที่ได้เริ่มชอบใคร มันก็ทำให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ไม่ยาก เพราะว่าอยากจะทำให้คนที่เราชอบปลื้มใจก๊อก ก๊อก ก๊อก(ริวตื่นยัง)“เสร็จแล้วพ่อ” ผมยืนหน้ากระจกแล้วใส่สูท แล้วตะโกนตอบพ่อออกไป“พ่อฝันแน่เลยว่ะริว นี่ริวจริงปะ? หรือว่าตัวห่าอะไรสิงลูกพ่อกันแน่” ดูสิคำพูดคำจาร้ายกาจจริง ๆ แค่ผมตื่นเช้าและตื่นเอง มันน่าแปลกใจตรงไหนกัน“เยอะแล้วพ่อ ริวก็โตพอแล้วไหม ตื่นเองก็ได้เถอะ” แก้ตัวหน้าหล่อ ๆ ก็เท่าที่เหมือนจะรู้ตัว ก็มีแต่พ่อที่ปลุกตลอด ฮ่าฮ่าฮ่า“เหรอริว ตื่นเองก็ได้งั้นเหรอ” เสียงแบบไม่เชื่อสักนิด ดูทำหน้าทำตาเข้า บางทีพ่อก็กวนเหมือนกันนะ“เออพ่อ ริวว่าริวกำลังมีความรัก” ผมคิดได้เลยพูดออกไป เพราะไม่เคยปิดบังสิ่งที่ผมเป็นกับป๊าและพ่อสักครั้ง ทุกอย่างผมจะเล่าและขอคำปรึกษาจากพ่อ เพราะบางอย่างผมก็คิดเองไม่ได้ มันคิดไม่ออก“หืม? ริวมีความรักเหรอ” พ่อมองหน้าผม แล้วทำสีหน้าเหมือนไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่ ก็แหงแหละผมบอกตลอดว่าเกลียดผู้หญิง ก็ยากที่พ่อจะเชื่อจริงไหม?“จริงนะพ่อ ริวรู้สึกว่าริวช
สามรักสามหัวใจตอนที่ 9“ป๊า”“อะไร?”ผมกับป๊านั่งทานมื้อเที่ยงกันที่ร้านไม่ไกลจากที่ทำงาน เพราะเผื่อเวลาเดินทางรถจะไม่ติดมาก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ภาพเมื่อเช้ามันหวนเข้ามาในความคิด ภาพที่มันยังติดตาของผมอยู่ ใบหน้าของแม่ผู้ให้กำเนิดที่ผมได้เห็นชัดเจน เธอแตกต่างจากคนในรูปที่ผมเห็นอยู่บ่อยครั้งเมื่อตอนเด็ก นึกอยากรู้อะไรเกี่ยวกับเธอ เพราะสีหน้าและแววตาที่เธอมองก่อนจะเดินจากไป มันเหมือนมีอะไรที่เธอเก็บซ่อนเอาไว้ เหมือนเธอกำลังทุกข์ใจ มีเรื่องให้กังวล อะไรประมาณนั้น แววตาเธอมันดูเศร้าหมอง“ป๊าไม่เคยรู้ข่าวของคุณริกะบ้างเลยเหรอ ตลอดเวลาที่ผ่านมา” ผมเงยก้มหน้าถาม ไม่กล้าที่จะมองหน้าป๊า กลัวว่าสายตาที่ได้จ้องป๊าจะฉายแววอ่อนแอให้เห็น“ถามทำไม?” ป๊าทำหน้าเหมือนกังวล แล้วถามผมทันที“ริวก็แค่อยากรู้”“ถ้ารู้แล้วมันทำให้ริวเจ็บปวด ป๊าไม่โอเค”ผมบอกป๊าแต่ว่าเหมือนป๊าจะไม่ค่อยอยากพูดเท่าไหร่ รู้ดีว่าป๊าคงไม่อยากให้ผมเศร้า แค่ตอนนี้มันอยากรู้บ้าง ไม่ได้คิดอะไรมากหรอกครับ แล้วก็ไม่เสียใจด้วย“ริวโอเค แค่อยากรู้เฉย ๆ”“ป๊าก็ไม่รู้มากหรอก รู้แค่ว่าเธอติดคุกตอนพ่อกับยอนมินมันสุมหัวกันแจ้งจับ ที่ตอนนั้นเธอ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 8“งั้นสรุปตามนี้นะคะคุณศิลา ส่วนเรื่องสัญญาซื้อขายคุณร่างมาได้เลยค่ะ”“ครับ ขอบคุณมากนะครับที่ยังวางใจในสินค้าของทางเรา”ผมได้ยินเสียงป๊ากับคุณวาสนา คุยกันเหมือนทุกอย่างเสร็จสิ้นดีแล้ว จึงละสายตาที่จ้องกับดอลลี่ไปมองทางผู้ใหญ่ทั้งสองคน ป๊าลุกยืนจับมือกับคุณวาสนา ผมก็เลยลุกตามและยิ้มให้คุณวาสนาเช่นกันตามมารยาท“งั้นขอตัวกลับก่อนนะคะ”“เดี๋ยวผมเดินไปส่ง”“ขอบคุณค่ะ”จากนั้นผมกับป๊าก็เดินลงไปส่งผู้หญิงทั้งสองคน ป๊ากับคุณวาสนาเดินคุยกัน ส่วนผมกับดอลลี่จ้องจะกัดกัน“หน้าอย่างนายเนี้ยนะลูกเจ้าของโรงงานใหญ่ขนาดนี้” ดอลลี่เธอเอนตัวเข้าหาแล้วกัดฟันพูดใส่ผม หน้าอย่างผมนี่แหละ มันไม่เหมาะจะเป็นลูกเจ้าของโรงงานใหญ่แบบนี้เหรอไง“แล้วหน้าอย่างเธอเนี้ยเหรอเป็นลูกคุณวาสนา เจ้าของบริษัทส่งออก ท่าทางนอกคอกฉิบหาย” ได้ทีก็ต้องเอาคืนสิ จะให้เธอว่าผมฝ่ายเดียวได้ไง เก่งกับผู้หญิงมีใครให้มากกว่าผมไหม?“ไอ้โหยก!”“ยัยกะหรี่”“อยากตายจริง ๆ ใช่ไหม?”“เธอสิอยากตายจริง ๆ ใช่ไหม?”“ดอลลี่ไปกลับบ้านกัน...ฉันขอตัวก่อนนะคะคุณศิลา” เสียงของคุณวาสนาทำให้ผมกับดอลลี่รีบปรับท่าทาง และสีหน้าให้เป็นป