เวลาประมาณตีห้า เช้านี้ที่เขาใหญ่อากาศดีมาก สดชื่นที่สุดเท่าที่เคยได้เจอมาในรอบหลายปี ตะวันตื่นก่อนประภาษ เขาได้ยินเสียงกุกกักนอกเต้นท์ เลยออกมาดู เจอปรายลดา ในชุดนอนผ้าสำลีแขนขายาวสีเหลืองสดทั้งตัว มีหมวกไหมพรมสีเหลือง มีที่ครอบหูสีเหลือง ถุงเท้าเหลือง กำลังสาละวนทำอาหารเช้า น้องสาวเขาน่าจะยังไม่ตื่น เพราะเห็นปรายลดาง่วนอยู่คนเดียว เขาไม่ลืมที่จะหยิบกล้องถ่ายรูป ถ่ายขณะที่หญิงสาวทำอาหาร คนอะไรใส่สีเหลืองทั้งตัว"อ้าวพี่ตะวัน สวัสดียามเช้าที่หนาวเหน็บค่ะ ทำไมตื่นเช้าจังคะ ปรายกำลังจะทำต้มข้าวต้มเครื่องค่ะ มีขนมปัง ใส้กรอก ไข่ดาว แฮม กาแฟ นม พี่ตะวันรับอะไรดีคะ เดี๋ยวปรายจัดการให้ กำลังหอมเลยค่ะ "หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามองคนที่กำลังถือกล้องถ่ายรูป เห็นเขาเข้ามาถ่ายรูปอาหารบนโต๊ะที่เธอทำไว้"ขอบคุณครับน้องปราย ชายหนุ่มพูดสั้นๆ" เมื่อรับแก้วกาแฟจากปรายลดาเขาตั้งใจถ่ายวีดีโอ ในขณะที่เธอทำอาหาร เขาไม่ได้ตั้งใจถ่ายรูปอาหารที่ทำเสร็จแล้วสักหน่อย"น้องปรายครับเงยหน้าหน่อย พี่ขอถ่ายไว้ให้แม่กับน้องกานดูหน่อยนะครับ""ได้เลยค่ะพี่ตะวัน ตามสบายค่ะ "หญิงสาวตักข้าวต้มเครื่องใส่ถ้วย ไปวางไว้บนโต๊ะ ส
ที่นี่เป็นไร่องุ่น มีรีสอร์ทตกแต่งสวยมาก ร้านกาแฟ ร้านอาหาร เขาอนุญาติให้เราเก็บองุ่นในสวนได้ด้วยนะคะ กลางคืนมีงานรอบกองไฟ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมงานได้ฟรีค่ะ หลังจากเก็บองุ่นในไร่แล้ว ปรายกับกานดูแล้วค่ะ ราคาดีมาก เพราะพี่ภาษจ่าย" ปรายลดาแจงรายละเอียดให้ทุกคนรับทราบ"ปรายจองห้องไว้สองห้องนะคะ ปรายกับการมีชุดไม่พอ คิดว่าจะไปหาซื้อที่ตลาดแถวนี้ใส่ไปก่อนคะ ต้องรบกวนไปส่งพวกเราด้วย""แหม...น้องปรายพี่ไม่ลืมหรอกน่า ย้ำจริง" ประภาษรีบพูด"แต่พี่ว่าเราควรเช็คอินก่อนนะ ไปดูห้องก่อนว่าเป็นยังไง หรือไม่แน่ที่รีสอร์ทอาจมีเสื้อผ้าขายด้วยก็ได้นะ เหมือนพี่คุ้นๆ ว่าเขามีพวกงานของกลุ่มแม่่บ้านมาจำหน่าย พวกผ้าทอ ผ้าฝ้าย ผ้าถุง น้องปรายชอบไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวถึงแล้วค่อยไปดูนะครับ" ตะวันพูดเสริมขึ้นมา"จริงเหรอคะ ดีจริง ถ้ามีปรายว่าปรายได้ผ้าถุงอีกแน่เลยค่ะ "หญิงสาวพูดพรางยิ้มอย่างถูกใจใกล้ถึงรีสอร์ท มีรถกอล์ฟคันใหญ่ พานักท่องเที่ยวสี่ห้าคน ขับช้าๆ สวนทางมา ตะวันตาไม่ฝาดแน่ กิ่งกาล เสี่ยทรงศักดิ์ ผู้หญิงอีกคนเขาจำได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทของกิ่งกาล ส่วนผู้ชายอีกสองคนรูปร่างสูงใหญ่ นั่งข้างหลังนั่น เข้าใจว
“เสี่ยคะ เสร็จแล้วค่ะ ขอโทษนะคะที่ให้รอนานเลย แหม....ก็เมื่อคืนกิ่งแทบไม่ได้นอนเลยนี่คะ เสี่ยใช้งานกิ่งมากเกินไป ช้ำไปทั้งตัวแล้วค่ะ” กิ่งกาลแต่งตัวเสร็จแล้วเดินเข้าไปหาเสี่ยทรงศักดิ์ที่โซฟานั่งลงบนโซฟาเดียวกับเสี่ย ไปทานข้าวเช้ากันเถอะค่ะ เสร็จแล้วเราจะได้เดินทาง“คุณกิ่งไม่ต้องกลัวนะครับ ผมสัญญาว่าจะตามใจคุณกิ่งทุกอย่าง อยากได้อะไร บอกผมมาเลยนะครับ รู้ไหม คุณทำให้ผมหลงหนักมาก ผมอยากจะพาคุณไปด้วยกันทุกที่เลย ไม่อยากห่างแม้สักนาทีเดียว คุณทำให้ผมติดใจ รู้ไหมครับ”กิ่งกาลโอบรอบคอเสี่ยทรงศักดิ์ เบียดตัวเข้าไปหาเขา “อย่าว่าแต่เสี่ยเลยค่ะที่อยากอยู่ใกล้ๆ กิ่ง เองก็เหมือนกันค่ะ ไม่อยากห่างเสี่ยเลย เวลาอยู่กับเสื่ยกิ่งรู้สึกได้ว่า กิ่งปลอดภัย และอบอุ่นมากค่ะ” ทั้งน้ำเสียง ท่าทางออดอ้อนขนาดนั้น เป็นใครก็หลงไปกับคำหวานของเธอ“ไปกันเถอะครับ ผมก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน ทานข้าวเสร็จเราจะได้เข้ากรุงเทพฯ เตรียมตัวไปเชียงรายกัน”เสี่ยทรงศักดิ์ประคองกิ่งกาลออกจากห้อง ตรงไปที่ห้องอาหาร หญิงสาวควงแขนเสี่ย ชุดที่เธอใส่เป็นเดรสสีน้ำเข้มแขนกุด คว้านคอลึก เผยให้เห็นทรวงอกอวบที่แทบจะโผล่ออกจากเสื้อ เธอเลือกช
“กาน ฉันอยากพาเธอไปเที่ยวอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดาที่ปราจีนบุรี ไปกันสองคน ไม่ต้องให้พี่ตะวันตามไปได้ไหม คือฉันอยากไปกับเธอสองคน เราจะได้อิสระและสนุกตามประสาของเรามากกว่านี้ เธอเข้าใจฉันไหม กาน เธออย่าว่าฉันนะ จริงๆ ฉันไม่ได้รังเกียจพี่ตะวัน แต่มันเหมือนเราไม่อิสระ”"ปรายลดาตัดสินใจพูดกับกานดาราตรงๆ" เมื่อกลับจากเข้าใหญ่ จริงๆ เธอไม่ถูกชะตากับพี่ชายเพื่อนสักเท่าไหร่หรอก แต่ทำไมทุกครั้งที่ไปไหน หรือทำอะไรก็ตาม จะต้องมีพี่ชายเพื่อนเข้ามาเสมอ เธออยากจะพากานดาราไปเที่ยวแบบสนุกสนาน เฮฮาตามประสา สาวๆ บ้าง แล้วเธอก็ไม่ได้พาเพื่อนไปเหลวไหลที่ไหนเสียหน่อย“ว่าไงกานดารา” หญิงสาวเรียกเพื่อนเต็มยศ หญิงสาวก็กลัวเพื่อนจะเสียใจเหมือนกัน ที่เธอพูดถึงพี่ชายของเพื่อนตรงๆ แต่เธอก็อยากบอกเพื่อนว่าเธอคิดแบบนี้ ขอแค่ครั้งเดียว เพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน เธอก็ต้องไปฝึกงานแล้ว เดี๋ยวจะเสียโอกาส ใจหญิงสาวอยากพาเพื่อนไปเที่ยวทุกที่เลย เธอสงสารเพื่อน เห็นกานดารามีความสุข สนุกสนาน ก็ดีใจ“ปรายไม่ต้องคิดมากนะ กานเข้าใจ เข้าใจทุกคนเลย แต่กานอยากให้ปรายรู้ไว้นะว่า ที่พี่ตะวันเป็นแบบนั้น เพราะพี่ตะวันต้องดูแลครอบครัว
“วันนี้เราไปวิ่งกันเถอะนะกาน ตั้งแต่ไปเขาใหญ่ไม่ได้ออกกำลังกายเลย ปรายว่ากานใส่รองเท้าปรายได้นะ ลองดู คู่นี้มันสั้นไปหน่อย ปรายซื้อมายังไม่เคยใส่เลย เจ้ารองเท้าคู่นี้มันน่าจะเจอเจ้าของแล้ว ไปกันเถอะเดี๋ยวค่ำ เผื่อวิ่งเสร็จเร็วจะได้ไปช่วยคุณป้ากับแม่ทำอาหาร”สองสาวใส่ชุดออกกำลังกาย ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นของปรายลดา หญิงสาวชอบชุดออกกำลังกายมาก ซื้อทีก็หลายสี วันนี้สองสาวเลือกใส่เป็นกางเกงขาสั้น เสื้อแขนสั้น ปกติปรายลดาจะไม่ใส่แบบขาสั้น แต่วันนี้มีเพื่อนใส่ทำให้มั่นใจ ไม่ค่อยเขินเท่าไร หญิงสาวเห็นว่าวิ่งกันแค่สองคน เกือบค่ำแล้วและไม่มีคน ที่สำคัญวันนี้พี่ชายกานดาราไม่มาวิ่ง เพราะเธอเห็นเขาทำงาน น่าจะยุ่งๆ ถ้ามีคนอื่นเธอก็ไม่กล้าใส่ขาสั้น แขนกุดเพราะชุดมันแนบเนื้อมาก เผยให้เห็นรูปร่าง “พี่ตะวันไม่มาวิ่งแน่นะกาน”“ไม่มาหรอก พี่ตะวันติดงาน ทำงานตั้งแต่เช้าแล้ว ช่วงนี้ใกล้สินเดือน ยุ่งแบบนี้ทุกเดือน ทำไมปรายเขินเหรือ”“ใช่ซิ ปรายไม่ค่อยใส่ชุดสั้นแบบนี้ต่อหน้าใคร ส่วนมากที่ใส่ก็คือเป็นเสื้อแขนยาว ขายาว ชุดสั้นมัดรัดรูปเกินไป แต่ถ้าออกกำลังกายในห้อง ก็กล้าใส่ ใส่ไปยิมก็ไม่กล้า อาย”“แต่กานคิดว่ามั
“น้องปรายน้องกานว่างไหมลูก ออกไปรับคุณอาเกริก อายุรี ตาภาษให้แม่หน่อย รู้สึกว่าจะมีของมาเยอะเลยลูก” นางกรกนก บอกสองสาว"ได้เลยค่ะแม่ เดี๋ยวปรายกับกานไปรับเองค่ะ ป่ะ...กานไปช่วยคุณอากับพี่ภาษถือของกัน "“สวัสดีค่ะอาเกริก อายุรี พี่ภาษ พอดีแม่กับคุณป้าติดพันเตรียมอาหารค่ะ ปรายกับกานเลยออกมารับ เห็นว่ามีของมาเยอะ ส่งมาค่ะปรายกับกานช่วยถิอ”“สวัสดีลูกน้องปราย แหม....ไม่เจอกันนานสวยขึ้นมากเลยนะลูก อ้าวแล้วนี่ใครล่ะ อานึกว่าเป็นน้องปราณเสียอีกหน้าตาสวยจริง” นางยุรีทักทายสองสาว“อ้อ...ปรายลืมไปค่ะกานดารา นี่คุณอาเกริก อายุรี คุณพ่อและคุณแม่ของพี่ภาษ กานเป็นลูกสาวคุณป้าดุจเดือน เป็นเพื่อนสนิทของแม่กับพ่อ สมัยกาลนานค่ะอา ส่วนพี่ภาษรู้จักกันแล้วเนาะ”“สวัสดีค่ะคุณอาเกริก คุณอายุรี” กานดารา ยกมือไหว้ทั้งสามคน อย่างอ่อนน้อม ยิ้มเลยไปให้คนตัวใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างๆ นายเกริกและนางยุรี" น้องกานสบายดีนะครับ" ประภาษทักทายกานดาราด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม“สบายดีค่ะพี่ภาษ ส่งของมาค่ะ เดี๋ยวกานกับปรายช่วยถือ” หญิงสาวรับของจากชายหนุ่ม ดูเขาถือของรุงรังเต็มไม้เต็มมือไปหมดๆ“โห...กาน เราได้กินขนมที่อร่อ
“เด็กๆ เห็นว่าวันมะรืนจะไปเที่ยวที่ไหนกันเหรอลูก น้องปราย จะพาหนูกานไปเที่ยวไหน ไปค้างหรือ ไปแล้วกลับเลยล่ะลูก” นายอลงกตหันมาถามบุตรสาว“ปรายว่าจะค้างค่ะพ่อ พากานไปเที่ยวอ่างเก็บน้ำที่ปราจีนบุรี แต่จะแวะที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรก่อน ไปโรงเกลือ ขากลับว่าจะแวะวังน้ำเขียวด้วยค่ะ ปรายขออนุญาตพ่อกับแม่เลยนะคะ ปรายขอใช้รถกระบะสี่ประตูด้วยค่ะ” หญิงสาวหันไปบอกผู้เป็นพ่อและแม่“แล้วจะไปพักยังไง ปลอดภัยไหม ไปกับใครบ้าง ไปกี่วัน” นางกรกนก ยิงคำถามรัวๆ“เอ่อ.....ปรายว่า”“ผมไปด้วยครับคุณน้า คิดว่าแวะเที่ยวที่โรงพยาบาลเจ้าพระยา อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา ที่โรงเกลือพวกเราอาจใช้เวลานานหน่อย เลยคิดว่าจะพักที่อรัญประเทศสักหนึ่งคืน หลังจากนั้นก็วกกลับมาที่วังน้ำเขียว ถ้าเพลินหน่อยก็อาจพักที่วังน้ำเขียวสักสองคืนครับ” ตะวันชิงตอบคำถามยังไม่ทันที่ปรายลดาจะพูดต่อ ตะวันก็พูดไปหมดแล้ว เอาอีกแล้วนี่มารู้โปรแกรมการท่องเที่ยวของเราได้ยังกันนี่ แต่ก็ช่างเถอะ ไหนๆ เธอก็ว่าเขาไว้เยอะ คราวนี้ถ้าเขาจะไปด้วยก็ไม่เป็นไร“ใช่คะพ่อ แม่ ตามที่พี่ตะวันพูดเลยค่ะ” หญิงสาวเออออไปกับเขา“อ้าว...ตกลงตะวันไปด้วยเหรอลูก ดี
“น้องปราย ลองหาดูหน่อยว่ามีรีสอร์ทไหม โรงแรมก็ได้ เอาที่สะดวก สะอาด ปลอดภัย พี่ว่าเราต้องค้างคืนแล้วล่ะ ถ้าทุกคนอยากเดินดูทุกที่ ตะวันกับน้องกานเคยมาที่นี่ไหมครับ” ประภาษเอ่ยถามสองพี่น้อง“ยังไม่เคยเลยครับ เอาจริงๆ ภาคตะวันออกนี่อยู่ใกล้กรุงเทพฯแค่นี้เอง ผมไม่ค่อยเคยมาเลย ที่ไปบ่อยคือ ระยอง ไม่ก็จันทบุรี แต่ก็ไม่บ่อยมาก หนึ่งปีไปครั้ง ยิ่งช่วงพ่อเสีย พวกเรายิ่งไม่ได้ไหนกันเลย” ตะวันพูดและหันมองผ่านกระจกเลยไปหาคนนั่งข้างหลัง ที่กำลังก้มหน้าดูโทรศัพท์ เพื่อหาดูที่พักสำหรับคืนนี้“น้องปรายเจอหรือยัง รึว่าเราจะเข้าไปเดินดูของก่อน แล้วค่อยออกมาหาที่พักทีหลัง”“ไม่เอาดีกว่าพี่ภาษ หาเลยดีกว่า เพราะถ้าเราไปเดินก่อน กว่าจะออกมาเดี๋ยวค่ำ เราจะไม่มีเวลาดูห้องพักนะคะ เวลาเดินดูแล้วต้องเดินให้สุดค่ะ ปรายว่าปรายจะหาดูชุดเดรสฮาวายมือสอง ที่นี่มีเยอะมาก ช่วงนี้ลูกค้าชอบชุดฮาวายกัน ปรายจะเอาไปขายในเพจค่ะ”“แหม....ที่มาเนี้ย มีจุดประสงค์นี่เอง พี่ว่าแล้วทำไมถึงเลือกรถกระบะ จะมาขนของไปขายนี่เอง”ประภาษแซวหญิงสาว เขาชอบที่ปรายลดาเป็นแบบนี้ ชอบค้าขาย ฐานะที่บ้านของเธอไม่ต้องทำอะไรก็ได้ แต่ปรายลดา ชอบทำชอบ
“น้องปรายครับ พรุ่งนี้เตรียมตัวนะครับ พี่จะพาไปกินข้าวกลางวันและข้าวเย็นในเมือง พี่จะไปหาซื้อของฝากด้วย วันที่เรากลับบ้านจะได้ไม่ฉุกละหุกมาก”“ของฝากใครบ้างเหรอคะพี่ตะวัน เยอะไหมคะ”“แม่ น้องกาน บ้านน้องปรายทุกคนเลย บ้านภาษด้วย พี่อยากให้น้องปรายช่วยเลือกให้หน่อยครับ พี่ไม่ค่อยถนัดเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรไปฝากใคร แต่พี่อยากซื้อ”“ได้เลยค่ะ เดี๋ยวปรายตากผ้าแป๊ปนะคะพี่ตะวัน”“ไปครับพี่ช่วย จะได้เสร็จเร็วๆ”“ปรายตากเองได้ค่ะพี่ มีแต่ของปรายทั้งนั้นเลย ปรายลดาดึงตะกร้าผ้าไว้” เธอไม่อยากให้เขาช่วย เพราะมีแต่เสื้อผ้าของเธอ ชุดชั้นในก็เยอะ มันน่าอาย“มาเถอะน่าน้องปราย พี่จะตากเสื้อกับกางเกง ให้ ที่เหลือน้องปรายก็ตากเอง โอเคไหมครับ รีบเถอะ ออกไปช้า จะหาซื้อของไม่ทัน เดี๋ยวมืดค่ำพอดี ทางเข้าเมืองเปลี่ยว เราไม่ใช่คนพื้นที่ต้องระมัดระวังตัว”“ก็ได้ค่ะ ตากก็ตาก ก็ดีเหมือนกันจะได้เสร็จเร็วๆ ”สองหนุ่มสาวช่วยกันตากผ้า เสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินทางเข้าเมือง ระหว่างทางบ้านปราณลดา ไปในเมือง ค่อนข้างจะสงบเงียบ ข้างทางมีสวนปาล์ม และป่ายางพาราหนาตา“น้องปรายเห็นรถที่ตามหลังเรามาไหมครับ”"เห็นค่ะพี่ต
“ครรชิต ว่างไหม เราอยากคุยด้วย” เกรียงไกรดักรอครรชิตหลายวัน แต่ไม่สบโอกาสสักที วันนี้เขามาทำงานแต่เช้า เพื่อที่จะให้ครรชิตช่วยเหลือเรื่องที่เกิดขึ้นในป่า"ว่าไงเกรียง มีอะไรเหรอ ขอโทษนะ ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลย ต้องเตรียมข้อมูลสอนน้องนักศึกษา นี่อีกไม่กี่วัน น้องๆ ก็จะกลับกันแล้ว งานเราเยอะมากไไครรชิต เราอยากขอร้องเรื่องที่เกิดขึ้น นายช่วยเราอีกครั้งได้ไหม เราไม่อยากให้กัญญารู้ นายช่วยยืนยันกับหัวหน้าได้ไหมว่ามันไม่จริง ถ้านายไม่ช่วยเรา เราแย่แน่ๆ" เกรียงไกรตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ“เกรียง เราเคยเตือนนายแล้วใช่ไหม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราช่วยนายปกปิดเรื่องบ้าๆ ของนาย ทำไมว่ะ นายไม่เข็ดเลยเหรอ กี่ครั้งแล้ว เราช่วยนายตลอดเลยนะ รู้ไหมว่าเราเริ่มที่จะเบื่อแล้ว ไม่ใช้ธุระอะไรของเราเลย”“น่า ครรชิต ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้ว มีนายคนเดียวที่ช่วยเราได้ ถ้าโดนสอบ นายต้องบอกว่าไม่รู้ไม่เห็นนะ เด็กพวกนั้นไม่กล้าพูดอะไรหรอก เราอยากให้เรื่องมันเงียบเหมือนทุกครั้ง นายจะไปรู้อะไร เด็กพวกนั้นมันให้ท่าเราเอง ถ้ามันไม่ให้ท่าเรา ใครจะไปกล้า แล้วอีกอย่างเราก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหายสักหน่อย แค่จับมือถือแขน ไม่เห็น
ตะวันเดินวนไปวนมาหน้าห้องนอนของปรายลดา ทำไมนอนนานจัง ไม่ตื่นสักที เขาเตรียมข้าวเช้าไว้ให้ตั้งแต่ 8 โมง นี่เกือบ 10 โมง หญิงสาวยังไม่ตื่นเลย เป็นอะไรหรือเปล่านะ จะเคาะก็กลัวจะเป็นการรบกวน เขาเข้าใจว่าเธอไม่ค่อยได้นอน แต่...มันเป็นการนอนที่นานเกินไปแล้วปรายลดาไม่ได้ล็อคประตูห้องนอน เขาลองใช้มือผลักเบาๆ แอร์ในห้องเย็นฉ่ำ หญิงสาวยังคงนอนอยู่บนเตียง ห่มผ้าเรียบร้อย นอนนิ่งเงียบมาก ตะวันพยายามไม่ให้เกิดเสียงดัง เขาเดินเข้าไปดูเธอข้างเตียง หลับสนิทจริงๆ นอนหายใจเป็นจังหวะ เขาเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากของเธอ เพราะกลัวว่าจะไม่สบาย ตัวไม่ร้อนไม่มีไข้ เขาค่อยสบายใจหน่อย งั้นปล่อยให้นอนต่อดีกว่า อีกสักพักคงตื่นเองแหละ คงจะเพลียและเหนื่อยสะสม เมื่อคืนคงเหนื่อยมากเลยลืมล็อคประตู เขาปล่อยให้เธอนอนต่อ ส่วนตัวเขาออกมาด้านนอก นั่งทำงานของเขาต่อไปเงียบๆคนบนเตียงตื่นได้สักพักแล้ว แต่ปวดเมื่อยตามตัว เลยยังไม่อยากลุก จริงๆ แล้วเธอนอนลืมตา แต่พอเห็นประตูเปิดขยับ เลยแกล้งหลับต่อ นึกตำหนิตัวเองที่ลืมล็อคประตู อาจเป็นเพราะว่าเธอรู้สึกปลอดภัย ตลอดเวลาที่อยู่ในป่าเธอนอนไม่เต็มที่เลย เพราะระแวงกลัวว่าจะเกิดอันตรา
“เป็นไงบ้างทุกคน เรียบร้อยดีไหม” ครรชิตกลับมาจากประชุมหลังจากที่เขาหายไปเกือบ 1 ชั่วโมงเต็มๆ ส่วนตัวเขาชอบน้องๆ กลุ่มนี้มาก ไม่เรื่องมาก แข็งแรง นิสัยดีกันทุกคน แถมฉลาดมาก“มาค่ะพี่ครรชิต กินข้าวกันเถอะค่ะ พวกเราทำเต็มที่เลยนะคะ ข้าวกำลังพอดีเลยค่ะหอมมาก” ทุกคนร่วมวงกินข้าวป่ากันอย่างเอร็ดอร่อย ไม่มีใครพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเลยเขานับถือในนับใจของปรายลดามาก ขนาดมีเรื่องขนาดนี้ ก็ยังเข้มแข็ง ไม่ปริ่ปากโวยวายแม้แต่คำเดียว โชคดีที่เขาได้เข้าร่วมภาระกิจลับ ที่บางคนเท่านั้นที่จะรู้ ภารกิจสอดแนม ทำให้เขารู้เห็นการณ์ที่เกิดขึ้นกับปรายลดาเมื่อวาน เป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องหยุดการเดินป่าในครั้งนี้ เขาดีใจที่จะได้กลับออกไปที่หน่วย ภารกิจลาดระเวนถือว่าเสร็จสิ้น น้องๆ จะได้ออกไปฝึกงานแยกย้ายกันไปตามหน่วยต่างๆเขาแปลกใจว่าทำไมกลุ่มของปรายลดา ยังได้ฝึกงานอยู่ที่หน่วยของเขาตามเดิม ซึ่งยังต้องเจอกับเกรียงไกรอยู่ดี แต่ช่างเถอะมันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เขาก็ทำตามหน้าที่และจะดูแลพวกน้องๆ ให้ปลอดภัย และไห้ความรู้มากที่สุด แค่นั้นก็พอหลังจากที่กินข้าวกันเสร็จเรียบร้อย ทั้งกลุ่มนั่งพักผ่อนกันที่หน้ากองไฟ คืนนี
“เป็นยังไงครับน้องปราย กางเต้นท์ได้ไหม มาครับพี่ช่วย” เกรียงไกรที่เพิ่งว่างจากการประชุม รีบเดินตรงลิ่วมาหาปรายลดา เขาจับตามองเธอตลอดเวลา คอยหาโอกาสเข้ามาพูดคุย เธอไม่ได้อยู่กลุ่มของเกรียงไกร“ขอบคุณค่ะพี่เกรียงไกร ไม่เป็นไรค่ะ ปรายจัดการกับเพื่อนเองได้ค่ะ พี่ครรชิตก็ดูแลอยู่ ขอบคุณมากนะคะ เชิญพี่เกรียงไกรตามสบายเลยค่ะ มีหลายคนที่ยังกางเต้นท์ไม่คล่อง ทางด้านโน้นค่ะพี่ ปรายขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวจะมืดเสียก่อน” หญิงสาวพูดแล้วผละจากเขาไปหาเพื่อน จัดการใช้มีดถางหญ้า รอบบริเวณที่จะกางเต้นท์ โดยไม่ได้สนใจเขาอีกเลยนั่นทำให้เกรียงไกรรู้สึกว่าเสียหน้ามาก ไม่ใช่แค่ปรายลดาที่อยู่ตรงนั้น น้องฝึกงานอีก ทั้งกลุ่มก็รวมตัวกันอยู่ตรงนั้นด้วย เขาสู้อุตสาห์แวะมาเพื่อจะช่วยเหลือหญิงสาว กลับได้รับการปฏิเสษ วันนี้เป็นวันที่ 7 แล้ว เขาไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดเธอเลย และเธอก็เหมือนจะรู้ตัว คอยหลบหลีกเขาได้ตลอดเวลา และเพื่อนเขาก็เหมือนจะเข้าข้างเด็กกลุ่มนี้ เขาสงสัยว่าทำไมแทนที่ปรายลดา จะต้องอยู่กลุ่มที่เขาต้องดูแล แต่กลับกลายเป็นครรชิต ที่ต้องมาดูแลกลุ่มนี้แทน ช่างเถอะ เขาไม่สนใจหรอก ต้องมีโอกาสสักวันเขาเริ่มที่จะส
“น้องปรายรับนี่ไว้นะครับ พี่อยากให้ใส่ติดตัวไว้ตลอด พระองค์นี้พี่นับถือมาก น้องปรายเข้าไปอยู่ในป่า ท่านจะได้คุ้มครองน้องปราย และก่อนนอนอย่าลืมสวดมนต์ พี่อวยพรขอให้น้องปรายปลอดภัยตลอดเวลาที่ฝึกงานนะครับ” เสียงเขาสั่นนิดหน่อย ทั้งที่พยายามบังคับตัวเองแล้วก็ตาม“ขอบคุณมากค่ะพี่ตะวัน นี่ดีนะคะที่พ่อให้มา ไม่เป็นสร้อยเหมือนของพี่ เป็นแค่องค์พระเฉยๆ ถ้าเป็นสร้อยเหมือนของพี่ตะวัน มีหวังปรายหนักคอแน่เลยค่ะ” หญิงสาวสวมสร้อยทันทีที่รับมาจากมือชายหนุ่ม“ไว้ปรายกลับออกมาแล้ว ปรายจะคืนให้นะคะจะรักษาไว้อย่างดีเลย” เธอยกมือไหว้ ขอบคุณเขาอีกครั้ง“รักษาไว้ดีๆ นะ น้องปราย เห็นไหม มีแต่คนห่วงเรา ดูแลรักษาตัวเองให้ดี ทุกคนรอน้องปรายกลับออกมา อย่างปลอดภัยนะ แต่พี่ว่าเราแข็งแรงอยู่แล้ว ไม่น่าห่วงหรอก ใช่ไหม” ประภาษตบบ่าหญิงสาวเบาๆ“รับทราบค่ะพี่ภาษ ปรายจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดค่ะ "ไม่ใช่แค่คำพูด สายตาเธอก็แน่วแน่มากหญิงสาวเข้าไปกอดปราณลดา “ปรายจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดนะคะพี่ปราณ ไม่ต้องห่วงนะคะ”“พี่ปราณคนนี้เชื่อมั่นในตัวน้องสาวของพี่เสมอ คนเก่งของพี่” เธอลูบหัวน้องสาวเบาๆ“ปรายอย่าเพิ่งไป ขอกอดหน่อย" กาน
“พี่ๆ คะ ปรายเข้าไปรายงานตัวก่อนนะคะ กานปรายไปก่อนนะ ปรายลดาใส่ชุดนักศึกษา เสื้อนักศึกษาสีขาว กระโปรงยาวมากจีบยาวรอบตัว มัดผมด้วยโบว์สีขาว สดใสมากๆ ปรายลดาเดินเข้าไปพร้อมกับเพื่อนๆ ที่มาฝึกงานด้วยกัน ดูแล้วไม่น่าเป็นห่วงมากนัก ผู้หญิงหลายคน รวมๆ กับผู้ชายด้วย ก็น่าสนุกเลยล่ะ” เจ้าตัวตื่นเต้นไม่น้อยแต่คนที่มาส่งบางคนนี่ซิ ไม่ได้สดใสเลย เหมือนหมาเหงา ประภาษสะกิดตะวัน นี่ตะวัน ทำหน้าดีๆ หน่อย น้องผมไปฝึกงานนะ ไม่ได้ไปเป็นอะไรสักหน่อย รอลุ้นว่าจะกี่วัน ภาวนาซิ“สวัสดีครับพี่ธานินทร์ ขอโทษนะครับยังอยู่ในห้องประชุมอยู่เลย เตรียมรับน้องครับ เดี๋ยวเสร็จแล้วอีกสักพักผมออกไปนะครับพี่”เกรียงไกรวางสายจากธานินทร์ วันนี้เขายุ่งมาก ยุ่งมาเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว งานยุ่งๆ ทำให้เขาลืมเรื่องที่มีปัญหากับกัญญาไปได้บ้างเขาได้ยินข่าวแว่วๆ มา เรื่องของการพาน้องฝึกงาน ทุกคนเดาๆ กันอยู่ว่าระยะเวลาจะลดลง หรือจะเพื่มขึ้น เขาภาวนาขอให้ลดลงด้วยเถอะ ถ้าเป็นอย่างที่เขาคิด เขาจะตั้งใจทำงานให้เต็มที่เลยนักศึกษาฝึกงานปีนี้ค่อนข้างเยอะ ทั้งหญิงและชายเกือบจะเท่าๆ กัน บางทีเขาก็แปลกใจมาก ทำไมเด็กผู้หญิงสมัยนี้ชอบที่จะเรี
ที่บ้านพักของธานินทร์และปราณลดา รับประทานอาหารเย็นกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกคนต่างแยกย้ายกันเข้าห้องนอนพักผ่อน ประภาษกับตะวันพักห้องเดียวกันสองหนุ่มผลัดเปลี่ยนกันขับรถจากนครนายกจนถึงใต้ ทั้งสองขอตัวพักผ่อนเลย เพราะมีความรู้สึกว่าเพลีย นานๆ ทั้งสองคนได้มีโอกาสขับรถไกลๆ แบบนี้ ทำให้มีอาการเหนื่อยล้า"ภาษผมมีเรื่องปรึกษา" ตะวันเอนตัวลงนอนไปแล้ว ลุกขึ้นนั่งหันหน้าไปพูดกับประภาษที่กำลังออกมาจากห้องน้ำ จริงๆ เขานอนแล้ว แต่ก็นอนไม่หลับ เพราะมัวคิดถึงแต่เรื่องของปรายลดา"มีอะไรเหรอตะวันว่ามาเลย ถ้าผมเดาไม่ผิด เรื่องน้องปรายรึเปล่า มีอะไรล่ะ""ผมคิดว่าถ้าน้องปรายฝึกงานแค่ 1หรือ 2 สัปดาห์ ผมจะอยู่รอน้องปรายที่นี่ ให้คุณกับน้องกานกลับบ้านไปก่อน ผมจะขอยืมรถไว้ใช้ก่อนได้ไหม เดี๋ยวผมจองตั๋วเครื่องบินให้คุณกับน้องกานกลับบ้านเอง ผมไม่อยากให้ขับรถกลับ เพราะถ้าขับรถกลับคุณต้องขับคนเดียว น้องกานช่วยไม่ได้หรอก เพิ่งขับรถเป็น" ตะวันพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง"ห่ะ...เอาจริงเหรอตะวัน นี่ผมนึกว่าพูดเล่นๆ นะนี่ นี่จริงจังใช่ไหม ผมเองไม่มีปัญหาหรอก แต่คนอื่นล่ะเขาจะคิดยังไง พี่ธานินทร์ ปราณ ไหนจะทางบ้านเรา
หนุ่มสาวทั้งสี่คน ตะวัน ประภาษ ปรายลดา กานดารา เดินทางถึงที่หมายตั้งแต่กลางดึกของเมื่อคืน ธานินทร์มารอรับทุกคนที่บ้านพักของปราณลดาตั้งแต่เช้าแล้ว ธานินทร์และปราณลดา เตรียมอาหารไว้รอต้อนรับน้องๆ มากมาย สองพี่น้องปรายลดา และปราณลดา ไม่ได้พบหน้ากันนานมาก ส่วนมากคุยกันผ่านโทรศัพท์ตลอดบ้านที่ปราณลดาอยู่ เป็นบ้านส่วนตัวที่ธานินทร์และหญิงสาว ร่วมกันสร้างเพื่อที่จะได้มาอยู่ด้วยกันหลังแต่งงาน เธอชอบที่นี่มาก เหตุผลแรกที่เธอเลือกสอบบรรจุมาสอนที่จังหวัดนี้เพราะธานินทร์ ธานินทร์อายุมากกว่าปราณลดา 4ปี ญาตพี่น้องของธานินทร์เอ็นดูเธอมาก อาจเป็นเพราะเธอเป็นคนที่เข้ากับคนง่าย ใจดีใจเย็น ทำกับข้าวเก่ง มีความเป็นแม่บ้านแม่เรือน นิสัยดีเรียบร้อยอ่อนหวาน ต่างกันปรายลดามากจริงๆ แล้วธานินทร์และปราณลดามีกำหนดเวลาว่าจะต้องขึ้นไปที่นครนายก เพื่อไปเยี่ยมพ่อกับแม่ของหญิงสาว และพูดจาสู่ขอ หาฤกษ์แต่งงาน หลังจากที่ปรายลดาฝึกงานเสร็จทุกคนตื่นเช้ามาพร้อมกันที่โต๊ะอาหาร เจ้าบ้านธานินทร์และปราณลดา จัดเตรียมอาหารใต้ไว้มากมาย"พี่ปราณ ปรายขอโทษนะคะที่มาตรงกับที่พี่ปราณจะขึ้นไปหาพ่อกับแม่พอดี จริงๆ พี่ปราณกับพี่ธานินทร