“เด็กๆ เห็นว่าวันมะรืนจะไปเที่ยวที่ไหนกันเหรอลูก น้องปราย จะพาหนูกานไปเที่ยวไหน ไปค้างหรือ ไปแล้วกลับเลยล่ะลูก” นายอลงกตหันมาถามบุตรสาว“ปรายว่าจะค้างค่ะพ่อ พากานไปเที่ยวอ่างเก็บน้ำที่ปราจีนบุรี แต่จะแวะที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรก่อน ไปโรงเกลือ ขากลับว่าจะแวะวังน้ำเขียวด้วยค่ะ ปรายขออนุญาตพ่อกับแม่เลยนะคะ ปรายขอใช้รถกระบะสี่ประตูด้วยค่ะ” หญิงสาวหันไปบอกผู้เป็นพ่อและแม่“แล้วจะไปพักยังไง ปลอดภัยไหม ไปกับใครบ้าง ไปกี่วัน” นางกรกนก ยิงคำถามรัวๆ“เอ่อ.....ปรายว่า”“ผมไปด้วยครับคุณน้า คิดว่าแวะเที่ยวที่โรงพยาบาลเจ้าพระยา อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา ที่โรงเกลือพวกเราอาจใช้เวลานานหน่อย เลยคิดว่าจะพักที่อรัญประเทศสักหนึ่งคืน หลังจากนั้นก็วกกลับมาที่วังน้ำเขียว ถ้าเพลินหน่อยก็อาจพักที่วังน้ำเขียวสักสองคืนครับ” ตะวันชิงตอบคำถามยังไม่ทันที่ปรายลดาจะพูดต่อ ตะวันก็พูดไปหมดแล้ว เอาอีกแล้วนี่มารู้โปรแกรมการท่องเที่ยวของเราได้ยังกันนี่ แต่ก็ช่างเถอะ ไหนๆ เธอก็ว่าเขาไว้เยอะ คราวนี้ถ้าเขาจะไปด้วยก็ไม่เป็นไร“ใช่คะพ่อ แม่ ตามที่พี่ตะวันพูดเลยค่ะ” หญิงสาวเออออไปกับเขา“อ้าว...ตกลงตะวันไปด้วยเหรอลูก ดี
“น้องปราย ลองหาดูหน่อยว่ามีรีสอร์ทไหม โรงแรมก็ได้ เอาที่สะดวก สะอาด ปลอดภัย พี่ว่าเราต้องค้างคืนแล้วล่ะ ถ้าทุกคนอยากเดินดูทุกที่ ตะวันกับน้องกานเคยมาที่นี่ไหมครับ” ประภาษเอ่ยถามสองพี่น้อง“ยังไม่เคยเลยครับ เอาจริงๆ ภาคตะวันออกนี่อยู่ใกล้กรุงเทพฯแค่นี้เอง ผมไม่ค่อยเคยมาเลย ที่ไปบ่อยคือ ระยอง ไม่ก็จันทบุรี แต่ก็ไม่บ่อยมาก หนึ่งปีไปครั้ง ยิ่งช่วงพ่อเสีย พวกเรายิ่งไม่ได้ไหนกันเลย” ตะวันพูดและหันมองผ่านกระจกเลยไปหาคนนั่งข้างหลัง ที่กำลังก้มหน้าดูโทรศัพท์ เพื่อหาดูที่พักสำหรับคืนนี้“น้องปรายเจอหรือยัง รึว่าเราจะเข้าไปเดินดูของก่อน แล้วค่อยออกมาหาที่พักทีหลัง”“ไม่เอาดีกว่าพี่ภาษ หาเลยดีกว่า เพราะถ้าเราไปเดินก่อน กว่าจะออกมาเดี๋ยวค่ำ เราจะไม่มีเวลาดูห้องพักนะคะ เวลาเดินดูแล้วต้องเดินให้สุดค่ะ ปรายว่าปรายจะหาดูชุดเดรสฮาวายมือสอง ที่นี่มีเยอะมาก ช่วงนี้ลูกค้าชอบชุดฮาวายกัน ปรายจะเอาไปขายในเพจค่ะ”“แหม....ที่มาเนี้ย มีจุดประสงค์นี่เอง พี่ว่าแล้วทำไมถึงเลือกรถกระบะ จะมาขนของไปขายนี่เอง”ประภาษแซวหญิงสาว เขาชอบที่ปรายลดาเป็นแบบนี้ ชอบค้าขาย ฐานะที่บ้านของเธอไม่ต้องทำอะไรก็ได้ แต่ปรายลดา ชอบทำชอบ
“อีกนานไหมคุณนาย พี่หิวข้าวแล้ว นี่ใกล้เที่ยงแล้วนะ” ประภาษทำหน้าเบื่อ เมื่อเห็นปรายลดากำลังจะรื้อกระสอบผ้าใบใหม่ หลังจากที่รื้อมาแล้วสามกระสอบ “นี่พวกเราหลงกลน้องปรายอีกแล้วเหรอเนี้ย” ประภาษเริ่มบ่น เมื่อเห็นกานดาราเริ่มที่จาม“พี่ภาษดูซิคะ ผ้าดีๆ ทั้งนั้น ราคาก็ดีมาก พี่ภาษพาพี่ตะวัน กับกานไปหาอะไรกินก่อนได้เลย ไม่ต้องห่วงปราย ไม่เหนื่อยเลยค่ะ แถวนี้มีร้านกาแฟ ร้านอาหารสะอาด อร่อยด้วย ปรายอยู่ได้ค่ะ กานเธอไม่ต้องห่วงฉัน เหลืออีกไม่มาก รีบไปกินข้าวเลยนะ นั่งให้สบายใจ พี่ภาษฝากพาพี่ตะวันกับกาน ไปดูกระเป๋าด้วยนะคะ ร้านที่ปรายเคยไป ไม่ต้องห่วงค่ะทุกคน” หญิงสาวก้มหน้าก้มตาเลือกผ้าต่อ หลังจากที่เลือกมาแล้ว 3 กระสอบ เธอมีความสุขมาก ฮาวายสวยๆ ทั้งนั้นตั้งแต่เข้ามาในตลาด หญิงสาวไม่ไปไหนเลย เธออยู่ที่ร้านนี้ที่เดียว ตั้งใจคัดผ้า ด้วยท่าทางคล่องแคล่ว แนะนำกานดาราบ้าง เมื่อเธอถาม"เอาไว้กลับบ้านก่อน แล้วจะบอกรายละเอียดทีหลัง แต่ตอนนี้ปรายขอคัดผ้าก่อนนะ"“ทุกคนไปหาข้าวกินก่อนกันเลยค่ะไม่ต้องห่วงปราย ปรายไม่ไปไหนแล้วจะอยู่คัดผ้าตรงนี้ จนกว่าจะหมด หญิงสาวย้ำกับทุกๆ คน อีกครั้ง พี่ภาษพาพี่ตะวัน กั
“น้องปราย น้องกาน ครับ เหลืออีกกี่วันที่จะต้องไปฝึกงาน"อยู่ๆ ประภาษก็ถามขึ้นระหว่างนั่งรถไปวังน้ำเขียว ของน้องปรายนี่ไปใต้ 3 เดือนใช่ไหม?“ใช่ค่ะพี่ภาษ อีก 5 วันค่ะ นับวันนี้ด้วย พรุ่งนี้กลับบ้าน วันมะรืนปลายต้องเดินทางแล้วค่ะ จะแวะไปนอนกับพี่ปราณ รุ่งเช้าอีกวันก็เข้าที่หน่วยฝึกงานเลยค่ะ”“ของกานฝึกงานที่บริษัท พี่ตะวันค่ะ ฝึกแค่ 3 เดือนเหมือนกันกับปราย โชคดีที่อยู่ใกล้บ้านค่ะ”“น้องกานยังดีกว่า น้องปรายนะครับ ไม่น่าห่วงเท่าไร เพราะพักที่บ้าน ฝึกงานที่บริษัทของตะวัน แต่น้องปรายนี่ซิ ทะลึ่งไปเลือกที่ฝึกเสียไกล มันน่าตีจริงๆ เลย แล้วน้องปรายจะเดินทางยังไง จากบ้านเรา ไปถึงโน้น อย่าบอกนะว่าจะขับรถไปเอง หรือว่าพ่อกับแม่อนุญาตแล้ว” ประภาษมองผ่านกระจกหลัง เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ“พี่นี่สงสัยมากเลยนะว่า ทำไมพ่อกับแม่ยอมให้เรียนสาขานี้ เนี้ยเห็นไหม ไปฝึกงานก็ไกล แถมต้องเข้าไปอยู่ในป่าตั้ง 1 เดือน มันจะไว้ใจใครได้บ้าง เปลี่ยนไม่ได้เหรอน้องปราย นี่พี่เป็นห่วงนะถึงได้บ่น อย่าเพิ่งรำคาญพี่นะ พี่บ่นแทนพ่อกับแม่ปรายนั่นแหละ เขาห่วงมากรู้ไหม แต่เขาห้ามเราไม่ได้” ประภาษพูดเสียยืดยาว กับเรื่องที่ปรายลดาต
“เป็นยังไงกันบ้างเด็กๆ ไปเที่ยวกันสนุกไหม” นางดุจเดือนเอ่ยขึ้นเมื่อทุกคนพร้อมหน้ากัน เพื่อรับประทานอาหารค่ำ ที่โต๊ะอาหารบ้านหลังใหญ่ นางสังเกตว่า หลังจากที่ลูกชายของนางกลับจากไปเที่ยวครั้งนี้ เขามีสีหน้าวิตกกังวลอะไรบางอย่าง คนอื่นอาจไม่ได้สังเกตุ แต่นางเป็นแม่ นางเลี้ยงของนางมา ทำไมจะไม่รู้ นิสัยลูกชายเป็นยังไง“สนุกมากเลยค่ะแม่ ที่ตลาดโรงเกลือปรายได้ผ้ามือสองมาเยอะเลยค่ะ แต่คาดว่าน่าจะยังไม่ทำอะไร เพราะพรุ่งนี้ปรายต้องเข้ากรุงเทพฯ แล้ว คงต้องรอให้ปรายฝึกงานเสร็จ ถึงจะได้กลับมาจัดการกับผ้า กานดารา” ตอบคำถามมารดาก่อนใคร“แล้วเตรียมของรึยังลูก พรุ่งนี้จะออกเดินทางกี่โมง หนูจะแวะนอนที่หอก่อนใช่ไหม โทรหาพี่ปราณแล้วหรือยัง หนูจะแวะนอนกับพี่ปราณเขาก่อนใช่ไหม” นายอลงกต ถามบุตรสาว ท่าทางสบายๆ“แม่เตรียมของที่จะฝากไปให้พี่ปราณเขาแล้วนะลูก พรุ่งนี้ก็เอาขึ้นรถได้เลย แล้วเรื่องรถพร้อมแล้วใช่ไหม ดูดีๆ นะลูก ดูน้ำดูน้ำมันให้ดี ค่อยๆ ขับไป ไม่ต้องรีบ” นางกรกนกพูดกับลูกสาวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ นางและสามีมั่นใจในตัวลูกสาว ปรายลดาเดินทางบ่อย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกสาวคนเล็กของนาง เดินทางด้วยรถยนต์คนเดียว
“ปรายเป็นยังไงบ้าง จะเดินทางวันไหน มากันกี่คน เห็นแม่บอกว่าคุณตะวัน พี่ภาษ น้องกานมาด้วยใช่ไหม พี่จะได้เตรียมห้องไว้รอ อยากนอนที่บ้านพัก หรือที่บ้านในเมืองดี ในเมืองก็จะสะดวกหน่อย ที่บ้านพักก็ตามอัตภาพ”ปราณลดา โทรหาน้องสาว เธอดีใจมากที่น้องสาวมีเพื่อนช่วยขับรถมาส่ง จริงๆ น้องสาวเธอเคยเดินทางด้วยการขับรถมาเองมาหาเธอแล้วหลายครั้ง พ่อแม่และตัวเธอก็เป็นห่วงทุกครั้ง แต่น้องสาวเธอก็เดินทางด้วยความระมัดระวัง และปลอดภัยตลอด น้องปรายขับรถเก่ง และกล้าตัดสินใจ ต่างกับตัวเธอ ไม่ชอบขับรถ และไม่ค่อยชอบเดินทางไกล เธอกับน้องสาวนิสัยไม่เหมือนกันเลย ถึงแม้ว่าจะเป็นพี่น้องกันและหน้าตาจะคล้ายกันมากก็ตาม“ปรายอยากนอนที่บ้านพักมากกว่าค่ะพี่ปราณ ไปอยู่อีกหลายวันกว่าจะได้ฝึกงาน มีโอกาสค่อยเข้าไปเที่ยวในเมืองก็ได้ค่ะ สองห้องนะคะพี่ปราณ พี่ภาษพี่ตะวัน ปรายกับกาน ไม่ต้องเตรียมอะไรมากหรอกค่ะ พวกเราอยู่ง่ายกินง่าย”“ได้จ๊ะ พอดีกว่าปรายจะมาถึง พี่ธานินคงกลับมาแล้ว จะได้พบกัน งั้นแค่นี้นะปราย พี่ไม่กวนแล้ว เดินทางปลอดภัยตลอดเส้นทางนะน้องรัก”“ขอบคุณมากค่ะพี่ปราณ ไว้เจอกันนะคะ ไว้ออกเดินทางแล้วปรายจะโทรหาอีกครั้งค่
"อย่าคิดมากน่าเกรียง มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจากัน ปล่อยไปก่อนสักพัก ทำไมแกไม่คิดว่ะ ว่าช่วงที่แกเข้าป่า อะไรๆ มันอาจจะดีขึ้นก็ได้ ตั้งใจทำงานเถอะ บางทีมันอาจมีอะไรๆ ดีขึ้นก็ได้ ตอนนี้ก็ปล่อยกัญญาไปก่อน เขาก็ไปอยู่กับแม่เขาไม่ใช่เหรอ ไม่ได้ไปอยู่ที่อื่นสักหน่อย แกต้องให้เวลาและหัดปล่อยวางเสียบ้าง ขืนคิดอยู่แบบนี้ตายพอดี ไม่มีกะจิตกะใจทำงานหรอก งานสำคัญน่ะเว้ยเกรียง ถ้าไม่มีงานแกจะอยู่ยังไง เรียนมาก็ตั้งเยอะ ปัญหาแค่นี้เอง"เกรียงไกรกำลังใจดีขึ้นเมื่อได้รับคำปลอบใจจากเพื่อนสนิท แต่ในหัวเขาก็มีแต่เรื่องของกัญญา สองสามเดือนมานี่ กัญญาหงุดหงิดใส่เขาเกือบทุกวัน อารมณ์ฉุนเฉียว เขาทำอะไรก็ผิดไปหมด เธอบอกว่าเขาขี้หึง ควบคุมเธอตลอด ไม่ให้ออกไปเที่ยวไหน แค่งานเธอก็ปวดหัวมากพอแล้ว ยังมาเจอเขาหึงหวงอีก ทะเลาะกันทุกวัน กัญญาบอกว่าช่วงที่เขาเข้าป่าเธอขอไปอยู่บ้านกับแม่ ไว้ให้เขาออกจากป่าแล้วถึงจะกลับมาอยู่ด้วยกันอีกสัปดาห์เดียวเขาต้องเข้าป่าแล้ว เขายอมรับว่าเขาห่วงกัญญามาก งานที่กัญญาทำต้องพบปะเจอผู้คนมากหน้าหลายตา แต่เขาซิต้องอยู่แต่ในป่า กัญญาหน้าตาสวย เขากลัวใจเธอ เขาพยายามไม่คิดมาก แต่มันก็อดคิดไม่
หนุ่มสาวทั้งสี่คน ตะวัน ประภาษ ปรายลดา กานดารา เดินทางถึงที่หมายตั้งแต่กลางดึกของเมื่อคืน ธานินทร์มารอรับทุกคนที่บ้านพักของปราณลดาตั้งแต่เช้าแล้ว ธานินทร์และปราณลดา เตรียมอาหารไว้รอต้อนรับน้องๆ มากมาย สองพี่น้องปรายลดา และปราณลดา ไม่ได้พบหน้ากันนานมาก ส่วนมากคุยกันผ่านโทรศัพท์ตลอดบ้านที่ปราณลดาอยู่ เป็นบ้านส่วนตัวที่ธานินทร์และหญิงสาว ร่วมกันสร้างเพื่อที่จะได้มาอยู่ด้วยกันหลังแต่งงาน เธอชอบที่นี่มาก เหตุผลแรกที่เธอเลือกสอบบรรจุมาสอนที่จังหวัดนี้เพราะธานินทร์ ธานินทร์อายุมากกว่าปราณลดา 4ปี ญาตพี่น้องของธานินทร์เอ็นดูเธอมาก อาจเป็นเพราะเธอเป็นคนที่เข้ากับคนง่าย ใจดีใจเย็น ทำกับข้าวเก่ง มีความเป็นแม่บ้านแม่เรือน นิสัยดีเรียบร้อยอ่อนหวาน ต่างกันปรายลดามากจริงๆ แล้วธานินทร์และปราณลดามีกำหนดเวลาว่าจะต้องขึ้นไปที่นครนายก เพื่อไปเยี่ยมพ่อกับแม่ของหญิงสาว และพูดจาสู่ขอ หาฤกษ์แต่งงาน หลังจากที่ปรายลดาฝึกงานเสร็จทุกคนตื่นเช้ามาพร้อมกันที่โต๊ะอาหาร เจ้าบ้านธานินทร์และปราณลดา จัดเตรียมอาหารใต้ไว้มากมาย"พี่ปราณ ปรายขอโทษนะคะที่มาตรงกับที่พี่ปราณจะขึ้นไปหาพ่อกับแม่พอดี จริงๆ พี่ปราณกับพี่ธานินทร
ปรายยังไงเนี้ย ตกลงเขาจะมาซื้อของหรือทักมาหาปรายเฉยๆ เอาดีๆ กานงงแล้วนะ วิเคราะห์จากคำพูดที่เขาพิมพ์มา กานว่าเขาไม่ได้มาซื้อของหรอก กานเข้าไปส่องไอจีเขาแล้ว เอฟซีเขาเพียบ สวยๆทั้งนั้น กานไม่เชื่อว่าเขาไม่มีคนคุย เขาไปกดถูกใจสาวๆเพียบเลย มีแต่คนสวยๆ แล้วปรายไปรู้จักเขาได้ยังไง ตั้งแต่เมื่อไหร่เขาเป็นรุ่นพี่ของปราย เพิ่งจบไปปีที่ผ่านมา เรียนคณะเดียวกัน ตอนที่พี่เขาเรียนเขาก็เข้าวงการแล้ว เราทำกิจกรรมด้วยกัน พี่เขามีแฟนแล้ว ไม่นานก็เลิกกันไป เป็นผู้ชายที่เจ้าชู้มาก จีบดะ ยกเว้นปราย ปรายจะคุยแค่งาน จบเรื่องงานก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย ตอนที่ปรายขายของในเพท พี่เขาเข้ามาทัก กดถูกใจในไอจีเวลาเราลงรูป นี่ห่างไปนานนะ เพิ่งจะมากดถูกใจ ที่ปรายตื่นเต้นเพราะ เพื่อนพี่เขามาสั่งชุดฮาวายกับปราย นี่ไงดูซิ เขาออเดอร์มาหลายชุดมาก ไม่มีอะไรหรอก เขาแค่ทักมาบอกว่าเพื่อนเขาอยากดูรูปชุดฮาวาย เรายังไม่ได้ซักไง แต่ปรายได้เบอร์เพื่อนเขาแล้วนะ ต่อไปนี่ก็จะติดต่อกับเพื่อนเขา ไม่ต้องผ่านพี่ผู้ชายแล้ว สบายใจได้เลย ไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้ปรายบอกพี่ตะวันเอง ปรายเห็นหน้าพี่ตะวันแล้วเมื่อกี้ รู้ว่าจะต้องทำยังไง นี่ถ้า
"กินน้ำเต้าหู้แล้วคิดถึงที่บ้านปรายเนาะ ที่เราออกไปช่วยลุงกับป้าขายน้ำเต้าหู้ กานว่าที่บ้านปรายอร่อยกว่าเยอะเลยนะ หรือเราชินทางโน้น กานว่าจะซื้อของไปฝากป้ากับลุงสักหน่อย แต่คิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรดี"" ปรายซื้อผ้าถุงมาฝากป้า กางเกงเลมาฝากลุง จริงๆ กานไม่ต้องซื้อหรอก หรือแล้วแต่กานล่ะกัน เผื่ออยากให้ ไว้เราค่อยหาดูพรุ่งนี้ก็ได้ หลังจากกลับจากโรงงาน""ทุกคนครับ เดี๋ยวภาษจะเข้ามานะครับ เขาเข้ามาธุระเรื่องกาแฟที่กรุงเทพฯ ผมเลยชวนเขามาพักบ้านเรา พอดีเลยจะได้กลับพร้อมกันวันมะรืน เราก็จะได้คืนรถภาษด้วย ดีเหมือนกันนะครับ แม่ ผมจะได้ดูแบบบ้านกับเขาเลย เดี๋ยวให้ภาษนอนห้องเดียวผมเลยล่ะกันนะครับ""แล้วพี่ภาษมารถอะไรคะพี่ตะวัน" ปรายลดาถามชายหนุ่ม"มากับเพื่อนครับ เขาเห็นว่าเราจะกลับบ้านกันวันมะรืนก็เลยจะกลับด้วย ผมรบกวนแม่เตรียมที่นอนให้ภาษด้วยนะครับ พวกชุดเครื่องนอน ผ้าเช็ดตัว" "เดี๋ยวกานไปเตรียมให้ก็ได้ค่ะ จะได้ไม่ลำบากแม่ขึ้นลง ปรายไปช่วยกานหน่อยนะ "สองสาวขึ้นไปข้างบนอีกครั้ง เพื่อเตรียมที่นอนให้ประภาษ "เดี๋ยวเราไปเอาผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม หมอน ผ้าเช็ดตัวก่อนนะ ตู้เก็บผ้าอยู่ที่ห้องอีกห้
แม่ขา พี่ตะวันโทรมาแล้วค่ะ น่าจะถึงแล้ว เดี๋ยวกานออกไปเปิดประตูเองนะคะแม่ กานดารารีบวิ่งออกไปหน้าบ้้าน เพื่อเปิดประตูให้พี่ชายและปรายลดา เธอคิดถึงทั้งสองคนเลยสวัสดีค่ะพี่ตะวัน ไม่ได้เจอพี่ตะวัน หนึ่งเดือนเต็ม ๆ ดูมีความสุขมากเลยนะคะ หน้าตาอิ่มเอิบมาก อ้วนขึ้นไหมคะเนี้ย กานดาราทักทายพี่ชายของเธอ ทำไม ดูพี่อ้วนขึ้นเหรอน้องกาน ช่างสังเกตุนะเรานี่จริงอย่างที่น้องสาวเขาทัก เขาน้ำหนักขึ้นสามกิโล นั่งๆนอนๆ เฝ้าสาว คงเป็นเพราะสบายใจด้วยล่ะ ธรรมดาของคนมีความสุขไปๆช่วยพี่ขนของก่อน เดี๋ยวค่อยคุยกันปรายเป็นไงบ้าง นี่คล้ำลงนะเนี้ย ใช่ไหม พี่ตะวันอ้วนขึ้น ปรายผอมลง สลับกัน คิดถึงเพื่อนจังเลย ไหนของฝาก กานดาราแหย่เพื่อนเล่นๆ กานเฝ้ารอของฝากจากทางใต้ นี่รอตั้งแต่เช้าแล้วรู้ไหม พี่ตะวันขับรถช้าหรือเปล่านะสบายดี กานก็เหมือนเดิมเลยนะ ของฝากอยู่ในกระเป๋า มีเพียบเลย ปรายไปเจอร้านผ้าฮาวายด้วย ได้มาฝากกานหลายชุดเลย พี่ตะวันไม่ได้ขับรถช้าหรอก เราแวะซื้อของกินบ่อย รถไม่เยอะด้วยแหละ เลยมาแบบสบายๆสองสาวรีบขนของเข้าบ้านก่อนเถอะครับ เดี๋ยวค่อยคุยกัน ตะวันบอกสองสาว เมื่อเห็นว่าทั้งคู่เริ่มที่จะคุยกันยาวสว
ใครมากดออดหน้าบ้าน น้องกานไปดูหน่อยลูก" "ได้ค่ะแม่ เดี๋ยวกานไปดูเอง ไม่น่าจะเป็นคนที่รู้จักนะคะ กดกริ่งรัวๆ แบบนี้""นี่ตะวันอยู่ไหม ทำไมพี่โทรหาแล้วเขาไม่รับสายเลย เขาอยู่ที่นี่ไหม น้องกาน เปิดประตูให้พี่หน่อย" "สวัสดีค่ะพิ่กิ่งกาญณ์ มีธุระอะไรเหรอคะ พี่ตะวันไม่อยู่หรอกค่ะ ไปทำงานที่ใต้ หลายวันแล้วมีอะไรไหมคะ ฝากกานไว้ก็ได้นะคะ อีกหลายวันค่ะ กว่าพี่ตะวันจะกลับ" "ตะวันไปทำงานที่ไหนคะ มีที่อยู่ไหม จังหวัดอะไร แล้วนอกจากเบอร์เดิม ตะวันมีเบอร์อื่นอีกไหมคะ น้องกาน นี่น้องกานจะใจดำ ไม่ให้พี่เข้าไปสวัสดีคุณแม่เลยเหรอคะ พี่เหนื่อยแล้วก็ร้อนมาก ""ขอพี่เข้าไปไหว้คุณแม่หน่อยนะคะ แป๊ปเดียว ทำยังกับว่าบ้านนี้พี่ไม่เคยมางั้นแหละ""ไม่ต้องลำบากหรอกนะหนูกิ่งกาญณ์ พอดีพวกเราจะออกไปธุระข้างนอกกัน ไม่สะดวกเลยจ๊ะ""สวัสดีค่ะคุณแม่ แหม.....กิ่งมาผิดวันใช่ไหมคะ คุณแม่สบายดีนะคะ กิ่งคิดถึงทุกคนเลยนะคะ โดยเฉพาะตะวัน เขาคงงอนกิ่งนะคะ กิ่งโทรไปเข้าไม่รับสายกิ่งเลย ไม่เป็นไร วันหลังเดี๋ยวมาใหม่นะคะคุณแม่ น้องกาน" กิ่งกาญณ์จำต้องถอยกลับไปก่อน เอาเถอะไว้เธอติดต่อตะวันได้ เธอก็ต้องมาที่นี่อยู่วันยังค่ำ ทำไมเ
"แม่ขา....พรุ่งนี้ปรายจะได้กลับบ้านแล้วนะคะ ดีใจที่สุดเลย ปรายมีเรื่องจะเล่าให้แม่ฟังเยอะแยะเลยค่ะ ปรายคิดถึงพ่อกับแม่มากเลย แต่เล่าตอนนี้ไม่สะดวก ไว้ปรายถึงบ้านแล้วจะเล่าให้ฟังนะคะ ถ้าไม่มีพี่ตะวันอยู่ด้วย มีหวังปรายไม่รอดแน่ๆ ค่ะแม่ ได้ค่ะ แล้วเจอกันนะคะ สวัสดีค่ะ ฝากความคิดถึงพ่อด้วย ปรายรักพ่อกับแม่นะคะ""พี่ตะวันคะ ปรายเก็บของเสร็จหมดแล้ว เราขนขึ้นรถเลยดีไหมคะ พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องขนให้เหนื่อย หรือพี่ตะวันว่าไงแล้วแต่พี่เลยนะคะ ""ได้เลยครับน้องปราย ของพี่ก็เก็บเสร็จหมดแล้ว เราขนขึ้นรถ จัดเรียงเลยล่ะกัน พรุ่งนี้จะได้ไม่ยุ่งมาก""มาค่ะส่งมาเลยเดี๋ยวปรายยกไปให้ พี่ตะวันขึ้นข้างบนรถนะคะ เดี๋ยวปรายส่งกระเป๋าให้เองค่ะ แล้วพี่ตะวันจะแวะบ้านไหมคะ หรือจะเลยไปนครนายกกับปรายเลย" "น้องปรายว่ายังไงล่ะครับ แนะนำพี่หน่อย" ตะวันหันมาหาปรายลดา เขาอยากรู้ว่าเธอคิดยังไง"ปรายอยากให้พี่ตะวันแวะหาคุณป้า กันกานค่ะ พี่มาอยู่ที่นี่กับปรายหลายวัน เผื่อคุณป้ากับกานคิดถึง และอยากคุยด้วย ปรายแวะได้ค่ะ หรือให้ปรายขับรถกลับเองก็ได้ เพราะยังไง ปรายก็ต้องแวะส่งรถบ้านพี่ภาษอยู่แล้ว ไว้ให้พี่ภาษขับไปส่งปรายที่บ้
“น้องปรายครับ พรุ่งนี้เตรียมตัวนะครับ พี่จะพาไปกินข้าวกลางวันและข้าวเย็นในเมือง พี่จะไปหาซื้อของฝากด้วย วันที่เรากลับบ้านจะได้ไม่ฉุกละหุกมาก”“ของฝากใครบ้างเหรอคะพี่ตะวัน เยอะไหมคะ”“แม่ น้องกาน บ้านน้องปรายทุกคนเลย บ้านภาษด้วย พี่อยากให้น้องปรายช่วยเลือกให้หน่อยครับ พี่ไม่ค่อยถนัดเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรไปฝากใคร แต่พี่อยากซื้อ”“ได้เลยค่ะ เดี๋ยวปรายตากผ้าแป๊ปนะคะพี่ตะวัน”“ไปครับพี่ช่วย จะได้เสร็จเร็วๆ”“ปรายตากเองได้ค่ะพี่ มีแต่ของปรายทั้งนั้นเลย ปรายลดาดึงตะกร้าผ้าไว้” เธอไม่อยากให้เขาช่วย เพราะมีแต่เสื้อผ้าของเธอ ชุดชั้นในก็เยอะ มันน่าอาย“มาเถอะน่าน้องปราย พี่จะตากเสื้อกับกางเกง ให้ ที่เหลือน้องปรายก็ตากเอง โอเคไหมครับ รีบเถอะ ออกไปช้า จะหาซื้อของไม่ทัน เดี๋ยวมืดค่ำพอดี ทางเข้าเมืองเปลี่ยว เราไม่ใช่คนพื้นที่ต้องระมัดระวังตัว”“ก็ได้ค่ะ ตากก็ตาก ก็ดีเหมือนกันจะได้เสร็จเร็วๆ ”สองหนุ่มสาวช่วยกันตากผ้า เสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินทางเข้าเมือง ระหว่างทางบ้านปราณลดา ไปในเมือง ค่อนข้างจะสงบเงียบ ข้างทางมีสวนปาล์ม และป่ายางพาราหนาตา“น้องปรายเห็นรถที่ตามหลังเรามาไหมครับ”"เห็นค่ะพี่ต
“ครรชิต ว่างไหม เราอยากคุยด้วย” เกรียงไกรดักรอครรชิตหลายวัน แต่ไม่สบโอกาสสักที วันนี้เขามาทำงานแต่เช้า เพื่อที่จะให้ครรชิตช่วยเหลือเรื่องที่เกิดขึ้นในป่า"ว่าไงเกรียง มีอะไรเหรอ ขอโทษนะ ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลย ต้องเตรียมข้อมูลสอนน้องนักศึกษา นี่อีกไม่กี่วัน น้องๆ ก็จะกลับกันแล้ว งานเราเยอะมากไไครรชิต เราอยากขอร้องเรื่องที่เกิดขึ้น นายช่วยเราอีกครั้งได้ไหม เราไม่อยากให้กัญญารู้ นายช่วยยืนยันกับหัวหน้าได้ไหมว่ามันไม่จริง ถ้านายไม่ช่วยเรา เราแย่แน่ๆ" เกรียงไกรตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ“เกรียง เราเคยเตือนนายแล้วใช่ไหม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราช่วยนายปกปิดเรื่องบ้าๆ ของนาย ทำไมว่ะ นายไม่เข็ดเลยเหรอ กี่ครั้งแล้ว เราช่วยนายตลอดเลยนะ รู้ไหมว่าเราเริ่มที่จะเบื่อแล้ว ไม่ใช้ธุระอะไรของเราเลย”“น่า ครรชิต ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้ว มีนายคนเดียวที่ช่วยเราได้ ถ้าโดนสอบ นายต้องบอกว่าไม่รู้ไม่เห็นนะ เด็กพวกนั้นไม่กล้าพูดอะไรหรอก เราอยากให้เรื่องมันเงียบเหมือนทุกครั้ง นายจะไปรู้อะไร เด็กพวกนั้นมันให้ท่าเราเอง ถ้ามันไม่ให้ท่าเรา ใครจะไปกล้า แล้วอีกอย่างเราก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหายสักหน่อย แค่จับมือถือแขน ไม่เห็น
ตะวันเดินวนไปวนมาหน้าห้องนอนของปรายลดา ทำไมนอนนานจัง ไม่ตื่นสักที เขาเตรียมข้าวเช้าไว้ให้ตั้งแต่ 8 โมง นี่เกือบ 10 โมง หญิงสาวยังไม่ตื่นเลย เป็นอะไรหรือเปล่านะ จะเคาะก็กลัวจะเป็นการรบกวน เขาเข้าใจว่าเธอไม่ค่อยได้นอน แต่...มันเป็นการนอนที่นานเกินไปแล้วปรายลดาไม่ได้ล็อคประตูห้องนอน เขาลองใช้มือผลักเบาๆ แอร์ในห้องเย็นฉ่ำ หญิงสาวยังคงนอนอยู่บนเตียง ห่มผ้าเรียบร้อย นอนนิ่งเงียบมาก ตะวันพยายามไม่ให้เกิดเสียงดัง เขาเดินเข้าไปดูเธอข้างเตียง หลับสนิทจริงๆ นอนหายใจเป็นจังหวะ เขาเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากของเธอ เพราะกลัวว่าจะไม่สบาย ตัวไม่ร้อนไม่มีไข้ เขาค่อยสบายใจหน่อย งั้นปล่อยให้นอนต่อดีกว่า อีกสักพักคงตื่นเองแหละ คงจะเพลียและเหนื่อยสะสม เมื่อคืนคงเหนื่อยมากเลยลืมล็อคประตู เขาปล่อยให้เธอนอนต่อ ส่วนตัวเขาออกมาด้านนอก นั่งทำงานของเขาต่อไปเงียบๆคนบนเตียงตื่นได้สักพักแล้ว แต่ปวดเมื่อยตามตัว เลยยังไม่อยากลุก จริงๆ แล้วเธอนอนลืมตา แต่พอเห็นประตูเปิดขยับ เลยแกล้งหลับต่อ นึกตำหนิตัวเองที่ลืมล็อคประตู อาจเป็นเพราะว่าเธอรู้สึกปลอดภัย ตลอดเวลาที่อยู่ในป่าเธอนอนไม่เต็มที่เลย เพราะระแวงกลัวว่าจะเกิดอันตรา
“เป็นไงบ้างทุกคน เรียบร้อยดีไหม” ครรชิตกลับมาจากประชุมหลังจากที่เขาหายไปเกือบ 1 ชั่วโมงเต็มๆ ส่วนตัวเขาชอบน้องๆ กลุ่มนี้มาก ไม่เรื่องมาก แข็งแรง นิสัยดีกันทุกคน แถมฉลาดมาก“มาค่ะพี่ครรชิต กินข้าวกันเถอะค่ะ พวกเราทำเต็มที่เลยนะคะ ข้าวกำลังพอดีเลยค่ะหอมมาก” ทุกคนร่วมวงกินข้าวป่ากันอย่างเอร็ดอร่อย ไม่มีใครพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเลยเขานับถือในนับใจของปรายลดามาก ขนาดมีเรื่องขนาดนี้ ก็ยังเข้มแข็ง ไม่ปริ่ปากโวยวายแม้แต่คำเดียว โชคดีที่เขาได้เข้าร่วมภาระกิจลับ ที่บางคนเท่านั้นที่จะรู้ ภารกิจสอดแนม ทำให้เขารู้เห็นการณ์ที่เกิดขึ้นกับปรายลดาเมื่อวาน เป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องหยุดการเดินป่าในครั้งนี้ เขาดีใจที่จะได้กลับออกไปที่หน่วย ภารกิจลาดระเวนถือว่าเสร็จสิ้น น้องๆ จะได้ออกไปฝึกงานแยกย้ายกันไปตามหน่วยต่างๆเขาแปลกใจว่าทำไมกลุ่มของปรายลดา ยังได้ฝึกงานอยู่ที่หน่วยของเขาตามเดิม ซึ่งยังต้องเจอกับเกรียงไกรอยู่ดี แต่ช่างเถอะมันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เขาก็ทำตามหน้าที่และจะดูแลพวกน้องๆ ให้ปลอดภัย และไห้ความรู้มากที่สุด แค่นั้นก็พอหลังจากที่กินข้าวกันเสร็จเรียบร้อย ทั้งกลุ่มนั่งพักผ่อนกันที่หน้ากองไฟ คืนนี