สามวันผ่านไปได้มั้ง หลังจากที่อีแจงโดนทำโทษไปในเช้าวันนั้น ไม่ต้องถามว่าหนักหนาเพียงใด เพราะน่าจะรู้ว่าไอ้หมายิมมันบ้าแค่ไหน"แจง" ไอ้หมายิมมันเรียกฉัน ซึ่งฉันนั้นกำลังดูซีรี่ส์เกาหลี และกินมาม่ากระปุก ส่วนมันนั่งดูลายเส้นของทองพร้อมกับจดยอดอะไรไม่รู้ อีแจงไม่ได้สนใจ สนใจแต่ซีรี่ส์"ว่า" มันเรียกฉันก็ขาน แต่ประสาทสัมผัสทุกอย่างของฉันไม่ได้รู้หรอกว่ามันพูดอะไรมาบ้าง"...กันนะ" อะไรไม่รู้ อีแจงเข้าใจแค่คำว่ากันนะ ซึ่งน่าจะเป็นการชวนไปกินข้าวที่ไหนสักแห่ง แบบหลาย ๆ วันที่ผ่านมา"อืม" ฉันที่ไม่เคยขัดอะไรได้สักอย่างก็เลยตอบไปแค่ 'อืม' สั้น ๆ แค่นั้น เพราะตอนนี้พระเอกของเรื่องกำลังทำฉันฟิน ก็พระเอกกำลังขอนางเอกแต่งงานท่ามกลางร้านอาหารหรูโคตรน่าอิจฉา"มึงตกลงแล้วนะ ห้ามคืนคำ""อืม" แล้วอีแจงก็ 'อืม' อีกตามเคย"คืนนี้เดินทางเลย ที่บ้านของเราสองคนไปจัดเตรียมสถานที่และทุก ๆ อย่างไว้แล้ว" ไอ้หมายิมมันพูดแต่เดี๋ยวนะ! อะไรคือที่บ้านเราสองคนวะ ฉันกด stop ความฟินแล้วหันไปมองหน้ามันทันที"ที่บ้านเราจัดเตรียมสถานที่อะไรเหรอยิม" ฉันถามพลางตักมาม่าเข้าปาก"เมื่อกี้ที่มึงตอบว่าอืม มึงได้ยินกูถามว่าอะไร
"แม่แจงจ๋านี่สอนแต่อะไรดี ๆ ให้ลูกจำเนอะ" ไอ้หมายิมมันกระซิบที่ข้างหูฉันน้ำเสียงของมันบ่งบอกถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมากฉันหันไปยิ้มเจื่อน ๆ ให้มัน"จัสจ๋า เรียกแบบนั้นไม่ได้แล้วนะคะเพราะตอนนี้คุณลุงเขาสติดีแล้วค่ะ" ฉันรีบแก้ต่างกับลูกรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ยังไงไม่รู้ ถึงจะโดนบ่อย แต่ก็ไม่เคยชิน"งั้นเรียกพ่อยิมจ๋าได้ไหมจ๊ะ"เอิ่มมมมมไม่เจอกันแค่ไม่กี่วันทำไมลูกอีแจงช่างเจรจานักล่ะ มีจ๊ะ มีจ๋า"เอ่อ..." อีแจงอ้ำอึ้ง ควรพูดอะไรต่อดี"ก็ยายแจ๋มบอกว่าลุงยิมจะมาเป็นพ่อ ต่อไปให้เรียกพ่อยิม จัสก็เลยเติมจ๋า เหมือนที่เรียกแม่แจงไงจ๊ะ" จัสมินอธิบาย ทำให้ฉันนึกถึงตัวการของเรื่องขึ้นมาทันทีถ้ายายแจ๋มไม่ตกลง งานนี้ไม่มีทางเกิด ฉันต้องการเคลียร์กับยายแจ๋ม"จ้ะ เอาที่จัสสบายใจเลยนะลูก แต่ตอนนี้ยายแจ๋มอยู่ไหนจ๊ะ บอกแม่แจงหน่อยซิ แม่แจงคิดถึงยายแจ๋มมาก" หลอกถามลูกคือเรื่องปกติของอีแจง"ยายแจ๋มอยู่ในครัวจ้ะ" จ๊ะจ๋านี่มาหมดเลยลูกสาวฉัน เฮ้อ... น่ารักเหมือนแม่จริง ๆ"งั้นแม่แจงขอไปหายายแจ๋มก่อนนะจ๊ะ หนูอยู่กับพ่อยิมของหนูไปก่อนนะ" ฉันหอมที่แก้มทั้งสองข้างของลูกสาว"เดี๋ยวมานะ" ฉันหันไปบอกไอ้ว่าที่เจ้าบ
"ในที่สุดอีแจงก็ได้ไอ้ยิมเป็นผัว" ไอ้ภามมันยกยิ้มพอใจ"กว่าจะได้มาเป็นผัวตีกันแทบตาย" ไอ้นายว่า"แต่หลังจากนี้คงไม่มีเพื่อนแดกเหล้า" ไอ้พีคโอดครวญ"กูไง" ฉันเสนอตัวทันใด"เฮอะ ผัวมึงได้แดกหัวพวกกูเรียงตัว" แล้วพวกมันก็พูดพร้อมเพรียงกัน"ผัวกูไม่ใจร้ายขนาดน้าน..." ฉันลากเสียง"ไอ้ยิมแหละโคตรร้าย หวงฉิบหายเมียขี้เมา เวลาเอาไม่เหม็นเหล้ารึไง" ไอ้ภามมันด่าฉันหรือด่าไอ้หมายิมวะ"มึงจะด่าผัวกูไม่ได้นะ" อีแจงออกโรงป้องผัว"แหม่ะ พอจะแต่งกันปุ๊บ ก็ป้องกันปั๊บ อะไรจะขนาดนั้นหวงผัวเกิ้น" ไอ้เคแฟนไอ้ภามเอ่ยแซวบ้าง"หวงผัวผิดตรงไหนคะ" ฉันเลิกคิ้วสูง ทำท่ามั่นอกมั่นใจ"ผิดตรงน่าหมั่นไส้ไง" แพทตอบและยิ้ม"สรุปคืนนี้เมากันนะ" ฉันออกปากชวนเพื่อนด้วยความตั้งอกตั้งใจ ก็ฉันไม่ได้แตะเหล้ามานานมาก ๆ มันหลายวันแล้วนะ ฉันก็แค่อยากจะลื่นคอบ้าง"เมาค_ยกูไหมไอ้สัส" เสียงไอ้ยิมดังขึ้นและแก้มทั้งสองข้างของฉันก็ถูกบีบพร้อมการบังคับให้แหงนหน้าขึ้นทำให้เห็นหน้าโหด ๆ ของผัวปากหมา"คำพูดคำจาไม่น่ารักเอาซะเล้ย" ฉันสลัดหน้าออกจากมือมัน แล้วก็แกล้งส่ายหัวไปมา"มึงอยากโดนงัดไหมแจง เดี๋ยวก็โดนกูแบกขึ้นห้อง" ผัวฉันพูดแล้ว
“สาม!”“!” สามแล้วก็วิ่งสิ อีแจงจะยืนให้มันฉีกทึ้งชุดทิ้งเหรอ อย่าได้คิดจ้า แจงวางแผนไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว ยังไงก็ไม่พลาดจ้า คืนนี้อีแจงจะแรด มีผัวแล้วก็แรดได้ ไม่งั้นจะอายเพื่อนส่วนผัวนั้น งานจบค่อยเคลียร์ ผัวเคลียร์ง่าย ไม่ยากหรอก แค่นอนให้มันย่ำยี แกล้งกลัวมัน มันก็ได้ใจให้อภัยแล้วเห็นไหม แผนนี้เจ๋ง ไม่มีใครฉลาดเท่าอีแจงอีกแล้วสำหรับเรื่องหนีเที่ยว เรื่องแรด เรื่องแต่งตัวโป๊ คริคริ“ว้าว แต่งยังไม่ทันข้ามคืนไอ้ยิมยอมมึงขนาดนี้เลยเหรอวะแจง” เป็นไอ้ภามที่ร้องทักเมื่อมันเห็นฉันเดินเข้ามาในงานอีกครั้งเดินด้วยท่าทางที่แบบสวย ๆ ไม่มีผัวข้างตัวใครจะรู้ล่ะว่าก่อนหน้านี้เพิ่งจะวิ่งหนีผัวมา“ธรรมดา ใครใหญ่พวกมึงก็น่าจะรู้” ฉันไหวไหล่อย่างมั่นอกมั่นใจ ต่อหน้าเพื่อนกูเล่นใหญ่บอกไว้เลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า“กูถึงเลือกชุดนี้ให้มึงไงอีแจง กูรู้ว่าผัวมึงกลัวมึง” อีเกมมันพูดเหมือนจะดูดี แต่ฉันคิดว่ามันกำลังหลอกให้ฉันดีใจ อีเกมมันต้องตั้งใจแกล้งฉันแน่ ๆ ถ้าเกิดว่าฉันลงมาแล้วใส่ชุดอื่นมันก็จะพูดล้อว่าฉันกลัวผัวแต่นี่อีแจงใส่ชุดที่มันเตรียมไงคะ มันเลยอดล้อฉัน สมน้ำหน้ามัน“ผัวกูน่ารักจะตาย ไม่ต้องพูดอะไรมา
เช้าวันต่อมา...ฉันกำลังรู้สึกว่ามีคนกำลังจ้องฉันอยู่ ฉันรู้สึกได้จากความรู้สึก รู้สึกถึงพลังงานบางอย่าง ฉันจึงยังไม่คิดจะลืมตาขึ้นใครกล้าลืมก็บ้าแล้ว แรงอาฆาตขนาดนี้ แจงไม่กล้าหรอกจ้า แล้วตอนนี้สมองก็กำลังประมวลภาพเหตุการณ์เมื่อคืนทั้งหมด แล้วภาพก็ย้อนเข้ามาในหัวเป็นฉากเป็นตอน จนถึงวินาทีสุดท้ายที่สติอีแจงวูบดับไป‘ฉิบหายแล้ว!’ ได้แต่คิดในใจ แล้วก็แกล้งเนียนทำเป็นหลับ แต่เชื่อเถอะว่าวิธีนี้ใช้ได้ไม่นานหรอก ผัวอีแจงฉลาด เรื่องแค่นี้ตบตาไม่มีทางรอด‘เอายังไงดีวะ เมื่อคืนแผลงฤทธิ์ไปตั้งเยอะ เมื่อคืนก็กร่างได้แหละ แต่พอสร่างมาก็อีกเรื่องเลยจ้า ว้า...แย่จัง ใช้แผนเดิมแล้วกัน จะเริ่มละนะ’“อื้อ ปวดหัว หัวจะระเบิดอยู่แล้วเนี่ย จัสมิน จัสมินจ๋าขอยาแก้ปวดให้แม่แจงจ๋าหน่อยจ้า” ทำเนียนเหมือนตอนไม่มีผัว ทุกเช้าที่เมาค้างก็จะร้องหายาแก้ปวดจากลูก ตอนนั้นลูกก็ดี๊ดี รีบวิ่งหามาให้แม่ทุกครั้งที่ร้องขอ มาคิด ๆ ดูฉันก็เป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องเหมือนกันนะขี้เมา ขี้โวยวาย ที่หนึ่งเลยล่ะเดี๋ยว ๆ เดี๋ยว ๆ สต๊อปแป๊ป ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาดราม่าชีวิตขี้เมานะโว้ย ตอนนี้คือช่วงทำเนียน เพราะไม่รู้เลยว่าผัวจะลงโทษแบ
ฉันนั่งร้องไห้อยู่ในห้องน้ำนานเลยล่ะ ไม่รู้ว่าจะต้องทำหน้ายังไง ไม่อยากพูด ไม่อยากคุย ไม่อยากจะทะเลาะและที่สำคัญคือฉันไม่ชอบที่มันใช้ความรุนแรงแบบนี้แต่การที่จะขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำแบบนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องไหม บางทีมันก็แค่การเจอหน้ากัน บางครั้งถ้าหนีไม่ได้ก็แค่ทำเฉยไปหรือบางคราแค่ขอโทษก็จบ... แม้ความรู้สึกจะไม่เหมือนเดิม แต่ก็คงสร้างใหม่ได้ในเวลาไม่นานพอคิดได้แบบนั้นฉันก็ลุกจากชักโครกแล้วก็เดินไปล้างหน้าแปรงฟัน น้ำยังไม่อาบหรอก ไม่ได้เอาผ้าขนหนูเข้ามา แล้วก็ถ้าอาบแล้วเดี๋ยวร่างกายจะตื่นตัว ฉันยังไม่อยากตื่น ฉันต้องการจะนอน ฉันไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้นเพราะตอนนี้เรื่องที่พี่ชายของเอตายมันย้อนเข้ามาในหัวของฉัน เรื่องนั้นมันทำให้ฉันคิดถึงคำพูดที่พี่ชายของเอได้พูดกับฉันก่อนที่เขาจะจบชีวิตตัวเองและทุกครั้งที่ฉันคิดถึง ฉันมักจะเสียใจเสมอ เพราะมันคือความผิดที่กลับไปแก้ไขไม่ได้ ฉันไม่สามารถชุบชีวิตหรือตายแทนแล้วพี่ชายของเอจะฟื้นขึ้นมาได้ถ้าพูดตามตรงฉันก็เหมือน ‘ฆาตกร’ นั่นแหละแกร๊ก!ฉันเปิดประตูห้องน้ำออกมา ซึ่งฉันก็ไม่เห็นคนเป็นผัวอยู่ในห้องแล้ว และถ้าจำไม่ผิดครอบครัวของเราทั้งสองคงกลั
แล้วเวลาก็ผ่านไปโดยที่ฉันนอนคิดอะไรไปเรื่อย นอนมองเพดานนิ่ง ๆบางทีการมองเพดานมันก็รู้สึกดีนะ นอนมองไปเรื่อย ไม่ต้องลุกไปทำอะไร ไม่ต้องคิดอะไรที่มันหนัก ๆ ทั้งนั้นนี่ฉันกำลังอยู่ในสภาวะผู้ป่วยโรคซึมเศร้ารึเปล่าวะ“เจ็บไหม” มัวแต่เหม่อรู้สึกตัวอีกทีผ้าเย็นก็สัมผัสลงที่แก้มของฉันข้างที่โดนตบแล้วคนที่ทำก็คือคนที่ตบ“...” ควรตอบว่าเจ็บตรงไหนดี ระหว่างแก้มกับใจหรือควรจะตอบว่าเจ็บทั้งสองอย่าง“ไม่พูดว่าเลิกดิ เราเพิ่งแต่งกันเองนะเว้ย มึงมาพูดว่าเลิกกูก็เลยเผลอพลั้งมือ...พลั้งปากด้วย” ฉันยังนอนมองเพดาน ส่วนมันก็วางมือที่หน้าท้องฉัน และมืออีกข้างจับผ้าเย็นอยู่บางทีเรื่องงี่เง่าของคนเรามันก็ไม่เหมือนกันไหมวะ อย่ามาด่วนสรุปคนอื่นดิ ทำตัวเองดีหรือยัง“พูดกับกูหน่อยดิ จะตบจะโวยวาย จะงี่เง่าอะไรก็ได้ แต่อย่าเงียบแบบนี้ บอกตามตรงว่ากูก็ตกใจเหมือนกันที่ตบมึงไป ขอโทษ...”“...” ไม่ได้เล่นตัวนะ แต่ฉันไม่รู้จะต้องพูดอะไร ตอนนี้คือกำลังสับสนโกรธมันก็จริง แต่ก็ไม่ได้อยากทะเลาะกันมากไปกว่านี้ ฉันเชื่อเสมอว่าไม่มีคู่รักคู่ไหนอยากจะทะเลาะกันทั้งนั้น แต่บางทีเรื่องบางเรื่องมันก็เกินจะควบคุมได้ แล้วเรื่อง
“นี่คือมึงจะหยุดจริง ๆ หรือพูดให้กูดีใจ” ผมถามอีเมียขี้เมาที่ตอนนี้มันกำลังเอาหน้าซุกที่เป้าของผมแล้วแขนเล็ก ๆ ของมันก็กอดผมอยู่“ถ้าเรื่องที่กูพูดจะทำให้มึงดีใจงั้นมึงก็ควรดีใจต่อไป เพราะกูคิดมาแล้วว่าจะหยุด” เสียงพึมพำพูดอยู่ที่เป้ากางเกงของผมนี่แหละครับพอเมียยืนยันมาว่าจะหยุดจริง ๆ แล้วที่เมื่อคืนกินเพื่อส่งท้าย ผมก็รู้สึกผิดกับเรื่องที่ทำรุนแรงกับมันน่ะสิครับคราวนี้ ใครจะคิดว่ามันจะหยุด แล้วยังพูดไม่รู้เรื่อง บอกให้เคลียร์ให้คุยมันก็ไม่เอา ไม่พูดไม่สน ทำให้คนที่อารมณ์ร้อนอย่างผมเผลอพูดเรื่องในอดีตที่แจงมันฝังใจมาตลอดเพราะผมรู้ดีอยู่เต็มอกว่าถ้าพูดเรื่องที่มันเป็นต้นเหตุทำให้คนตายแจงมันก็จะพูดขึ้นมาทันที เพราะเรื่องนี้เป็นปมฝังในใจลึก ๆ ของมันแล้วพอผมเริ่มพูด ทุกอย่างก็เริ่มลามเร็วมาก ลามไปจนถึงเอคนรักเก่าของผม ต่างคนต่างใส่อารมณ์ จนคำดูถูกหลุดออกจากผม แล้วคำว่าเลิกก็หลุดออกจากปากแจง ผมก็เลยพลั้งมือตบหน้ามันแล้วพอมือผมกระทบเข้าที่แก้มใส ๆ ของแจง ผมก็รู้สึกตัวทันทีว่าสิ่งที่ทำมันไม่ถูก ผมไม่ควรรุนแรงกับคนที่ผมรัก ยิ่งพอแจงมันเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมด้วยสายตาที่แสดงถึงความน้อยเนื้อ
“มากันแล้ว มา ๆ ลูกเข้าบ้านเร็ว” แม่ของผมกวักมือเรียกผมและภามเพื่อเข้าบ้านหลังจากที่เมื่อคืนผมโดนจัดชุดใหญ่ เพราะไม่ไว้ใจเก็บเรื่องไร้สาระของภามไปฝันเป็นตุเป็นตะ พอตื่นมาก็งี่เง่าเง้างอนนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมกลับมาบ้านแล้วโดนกระหน่ำแทงเช้ามาภามมันเลยลากผมมาทานข้าวเช้าที่บ้านของผม เนื่องจากเมื่อคืนมันบังคับให้ผมโทรนัดครอบครัวซึ่งตลอดการเดินทางมาที่บ้านแม่ของผมนั้น ผมเกร็งมากครับ เกร็งกลัวไปหมด กลัวครอบครัวจะรับเรื่องของผมกับภามไม่ได้กลัวพวกท่านจะกีดกัน ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นผมคงทนไม่ได้แน่นอน“พ่อแม่สวัสดีครับ” ภามยกมือขึ้นไหว้พ่อกับแม่ของผม ซึ่งพ่อนั่งอยู่ที่เก้าอี้ของโต๊ะอาหาร ส่วนแม่ท่านเพิ่งจะเดินไปนั่งที่ข้างกายพ่อ“นั่ง ๆ ภาม แล้วนี่นึกอะไรถึงพากันมาแต่เช้า” พ่อยิ้มรับและชวนให้นั่ง ต้องขยายความก่อนนะครับว่าภามมาที่บ้านของผมบ่อย มาในฐานะเพื่อนในความเข้าใจของครอบครัวผม“มีเรื่องจะพูดคุยกับพ่อแม่ครับ” ภามเป็นคนตอบ ส่วนผมยังยืนเกร็งเพราะกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดในเวลาอีกไม่นานที่จะถึง“ดูท่าจะซีเรียส งั้นกินข้าวกันก่อนค่อยคุยกันนะ นั่งทานลงทานข้าวสิเค” แม่ของผมบอกแล้วยิ้ม ผมจึงนั่ง
“เค เค เคด่วย ไอ้เค!!!” เสียงแว่วมาของไอ้ภามมันเอ่ยเรียกผมพร้อมกับแรงเขย่าแรง ๆ“ไอ้ภาม!!!” ผมเงยหน้ามองมันด้วยความตกใจ“เป็นบ้าอะไรของมึง เห็นกูทำไมต้องตกใจ มึงมีความผิดอะไร พูดมา” ไอ้ภามมันเดินมาที่โซฟาที่ผมนอนอยู่และนั่งลงข้างผมก่อนจะยื่นมือมาดึงจับที่ตัวผม“อย่ามาจับกู ไอ้เหี้ย มึงมันเลว ใจร้าย ทำร้ายจิตใจกู ที่ทำทุกอย่างก็แค่สงสารกู มึงไม่เคยรักกูเลย” ผมขยับตัวหนีออกจากมันปัก!ไอ้ภามมันตบที่หัวของผม“ไอ้เค รอบนี้อะไรพูดมา กูงอนเรื่องที่บ้านของมึง มึงถึงขั้นเก็บเอาไปฝันคิดว่ากูนอกใจใช่ไหม มึงถึงได้นอนร้องไห้อยู่แบบนี้”เวรแล้วครับ“อย่าบอกนะว่าทั้งหมดเพราะกูฝันเป็นตุเป็นตะ” ผมมองไอ้ภามแล้วทำหน้าอึ้งรอครับ เพราะรู้สึกเหมือนจะรู้คำตอบแล้ว“เออดิ กูเนี่ยนะจะนอกใจมึง ไอ้เหี้ย เรื่องนี้นี่คิดไม่เลิกสักทีเนอะ แล้วนี่ยังไง”“ยังไงอะไรภาม” เมื่อรู้ตัวว่าทุกอย่างคือความฝันที่ผมสรรค์สร้างมันขึ้นมา ผมก็รีบขยับตัวนอนหนุนที่ตักของคนที่ผมเรียกว่าแฟน รีบเตรียมแผนอ้อนมันเลยครับ“มึงให้ลูกค้าในร้านกอดทำไม”แต่เดี๋ยวนะ!!!เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด เรื่องนี้ผมจะนอนท่านี้ไม่ได้เหมือนจะไม่ทัน ผมรู้ตัวช
สามวันผ่านไป...สามวันผ่านไปแล้ว ชีวิตของผมก็ยังจมอยู่กับความเมา ผมเช่าห้องพักรายวันแล้วซื้อเหล้าเข้ามากินแบบไม่คิดอะไรทั้งนั้น นอกจากเรื่องราวที่ผ่านมาของผมกับไอ้ภาม ผมคิดซ้ำ ๆ วกไปวนมา คิดแล้วคิดอีกและเมาหลับไปผมโคตรเสียศูนย์ที่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้แต่วันนี้มันถึงเวลาที่ผมจะต้องกลับใช้ชีวิตของผมแล้วครับเรื่องร้านที่ทำร่วมกันมา ถ้าหากว่ามันจะเอาคนรักของมันมาทำ ผมก็พร้อมจะเดินออกมาพร้อมเงินทุนและกำไรที่ผมสมควรได้เรื่องนี้คงต้องคุยกันอีกทีให้เข้าใจแต่ที่แน่ ๆ คือผมจะไม่กลับไปอยู่ในจุดที่มันสงสารผมแน่นอนครับสองชั่วโมงต่อมา...ณ ร้านอาหาร“สวัสดีค่ะคุณเค” พนักงานในร้านยกมือไหว้ผมเหมือนที่เคยทำตลอด แต่วันนี้มันแปลกไปตรงที่ผมไม่ยิ้มครับ คนที่ตกอยู่ในอารมณ์แบบผมคงไม่มีอารมณ์มาปั้นหน้ายิ้มหรอกใช่ไหมครับ ผมไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้นผมเดินผ่านพนักงานมาที่ห้องทำงานด้วยใบหน้าที่นิ่งขรึม ซึ่งผมไม่เคยเป็นแบบนี้เลยตั้งแต่เปิดร้านมา จึงไม่แปลกที่จะเป็นจุดสนใจ เพราะผมก็หายไปสามวันเต็ม ๆผมเดินเข้ามาในห้องทำงานแล้วนั่งดูยอดบัญชีการซื้อของเข้า และเมนูอาหารที่ขายออกไป ผมตรวจผมเช็กแบบที่ผมเคยทำ เพื่อ
ตอนนี้เวลาหนึ่งทุ่มนิด ๆ ครับ ผมกลับมาบ้านของภาม บ้านที่ภามมันซื้อไว้ก่อนที่เราจะรู้จักกัน เราอาศัยอยู่ที่นี่ด้วยกัน และนาน ๆ ครั้งเพื่อนจะมาปาร์ตี้ โดยที่มีแจงเป็นสายเมาที่ชอบเต้นจนสุดเหวี่ยง และสุดท้ายก็น็อกกลางอากาศ ตั้งแต่ที่แจงมีลูกคนที่สอง การเที่ยวเตร่เมาแล้วเลื้อยของแจงก็น้อยลง หรือเพราะมีความเป็นแม่ที่มากขึ้นก็ไม่รู้นะครับ แจงถึงได้ดูกลายเป็นคนดีแต่กว่าจะดีได้ กว่าจะลงตัวกับคนที่เป็นผัวอย่างยิมก็ยากเอาเรื่องนะครับ ไหนจะเรื่องของจัสมินที่แจงปกปิดแม้กระทั่งเพื่อนว่าใครคือพ่อ ไหนจะผู้ชายที่ตามจีบ และยังเมียเก่าของยิมที่ยิมเคยรักมาก แต่ละปัญหาของทั้งคู่มันทำให้ผมเหนื่อยและท้อแทนเลยครับ“เฮ้อ” ผมถอดถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เมื่อขวดเหล้ามันกระจัดกระจายระเนระนาดไปหมด แล้วก็ต้องเป็นผมที่ต้องเก็บเป็นประจำตอนนี้คนเมาคงอยู่ในห้องนอนแต่เดี๋ยวนะ!!!ทำไมมีแก้วสองใบ ใครมาดื่มกับมันวะสองเท้าของผมรีบเดินมาที่ห้องนอน ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อใจแต่ผมแค่อยากพิสูจน์ และไม่อยากให้เป็นแบบที่ผมคิดแต่แม่ง...ไม่ใช่ไง มันไม่ใช่เมื่อเสียงที่ดังแว่วมาจากห้องนอน ตามทางเดินที่ผมกำลังก้าวไป ยิ่งผมเฉียดใกล้
สวัสดีครับ เรียกผมว่า ‘เค’ อย่างที่แจงเรียกก็แล้วกันนะครับผมมีแฟนครับ ชื่อ ‘ภาม’ เป็นเจ้าของร้านอาหารที่เราสองคนร่วมกันสร้างขึ้นมาเพื่อเลี้ยงชีพของเราทั้งสอง กิจการร้านอาหารของเราดำเนินไปได้ด้วยดีครับคงจะเพราะเจ้าของร้านทั้งสองคนหล่อกันทั้งคู่ จะว่าผมหลงตัวเองไม่ได้นะครับ เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาทานอาหารร้านผมนั้นเป็นสาว ๆ กันซะมากกว่าคงไม่ต้องบอกพวกคุณที่ตามแจงมาก็คงจะรู้ว่าผมกับภามเป็นคู่รักร่วมเพศ เป็นคู่เกย์กันขอสารภาพตามตรงนะครับว่าตอนแรกผมก็ไม่คิดที่จะชอบผู้ชายด้วยซ้ำ เพราะที่ผ่านมาผมชอบผู้หญิงมาตลอด แต่แล้วจู่ ๆ ชีวิตที่เจอแต่ความผิดหวังก็ทำให้ความรู้สึกของผมเปลี่ยนไป อาจจะเพราะจุดเริ่มต้นมันมาจากการประชดชีวิตที่คบใครก็มีแต่โดนทิ้ง โดนหักหลังมาตลอดผมก็เลยลองมองหาผู้ชายดู เผื่อว่าจะได้ไม่ต้องเจอกับความเสียใจ เหมือนตอนที่คบกับผู้หญิงจุดเปลี่ยน จุดแปลกใหม่ในชีวิตของผมเกิดขึ้นเมื่อผมต้องมากลายเป็นฝ่ายรับจากผู้ชายที่เพิ่งจะรู้จักกัน ตอนนั้นขอเรียกเป็นวันไนท์สแตนด์แล้วกันนะครับที่เรียกวันไนท์สแตนด์ก็เพราะอยากจะทดลองก่อนที่จะเริ่มมีคนรักที่เรียกว่าเพศเดียวกันและผู้ชายคนแรกที่ไ
“พวกแกจะบ้ากันหรือไง ทำอะไรกันอยู่ กล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง!!!” แม่พูดเสียงสั่นดวงตากำลังเอ่อคลอด้วยน้ำตา ท่านกำลังมองฉันและพี่ชาย“แค่เรารักกัน ทำไมแม่ไม่เข้าใจ”“รักกันฉันเข้าใจ แต่พวกแกจะรักกันแบบนี้ไม่ได้ พี่น้องจะรักกันแบบนี้ไม่ได้”“แม่…”“หยุดเรื่องน่ารังเกียจนี้ซะยัยแพท แกเป็นถึงครู แกไม่ควรให้เรื่องนี้เกิดขึ้น” แม่หยิบยาดมขึ้นมาสูดดม“เรารักกันครับแม่ ผมรู้ว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ แต่เรื่องของหัวใจมันบังคับกันได้เหรอครับ แม่ครับ…”“เงียบปากไปเลยพีค นี่พวกแกเป็นบ้ากันหรือไง กำลังทำอะไรอยู่ ทำอะไรทำไมไม่คิดถึงใจฉันบ้าง” แม่ของฉันเริ่มหลั่งน้ำตาฉันกับพี่ชายกำลังทำให้แม่บังเกิดเกล้าเสียใจ เพราะเราทั้งสองตัดสินใจกลับมาบ้านและบอกเรื่องราวที่เราสองคนได้แอบทำร่วมกันมาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี เมื่อแม่ได้ยินเรื่องที่พี่ชายเป็นคนเอ่ยปากเริ่มเล่า ท่านก็เริ่มหน้าซีด และหลั่งน้ำตาน้ำตาของแม่ทำให้ฉันรู้สึกผิดมาก แต่เมื่อพูดออกไปแล้วคงจะแก้ไขอะไรไม่ได้อีก และคงต้องยอมรับความจริงซึ่งมันดูเหมือนเราทั้งคู่บีบบังคับให้แม่ยอมรับเรื่องของเราเรื่องระยำที่เราแอบทำ“แม่คะ แพทขอโทษ แต่
“คิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรแพท” เมื่อฉันก้าวขาเข้ามาในห้องของคอนโด พี่ชายที่พ่วงด้วยตำแหน่งสามีก็เริ่มโวยวาย“ยุ่งอะไรด้วย” ฉันวางของแล้วเดินหนี“นี่ผัว”“ผัวคนอื่นน่ะสิ” ฉันสวนกลับทันที“ไม่โดนเอาหลายวันเลยปากดีว่างั้น” พีคเดินมาดึงฉันเข้าหาตัว“อย่ามาพูดแบบนี้ เราเลิกกันแล้ว ถอยไป” ฉันชักสีหน้าและน้ำเสียงไม่พอใจ“พี่ไม่เคยเลิก และอย่าคิดจะมีใหม่ มาย้ำความสัมพันธ์กันเถอะจะได้จำว่าไม่ควรไปสนิทกับผู้ชายคนไหน” พีคว่าและอุ้มฉันขึ้นพาดบ่า จากนั้นก็พาฉันเดินเข้ามาในห้องนอนวางฉันลงที่เตียงนอน“ออกไปเดี๋ยวนี้ เราเลิก…อื้อ” กลีบปากหนาประกบชิดที่ริมฝีปากของฉัน คำพูดถูกกลืนหาย สัมผัสที่คุ้นเคยมานานหลายปีถูกแทรกเข้ามาแทน“อย่าบอกว่าเราเลิกกัน พีครักแพท รักแพทมาก ๆ” พี่ชายของฉันถอนจูบออกและพูดออกมา ในขณะที่พูดเขาก็ดึงกางเกงชั้นในของฉันออก และใช้นิ้วเข้ามาเขี่ยที่รูร่องแคบ จังหวะเดียวกันกับการป้อนจูบให้ฉันเคลิบเคลิ้มอีกครั้ง และอีกครั้ง จูบซ้ำ ๆ ย้ำอยู่แบบนั้นกระทั่งแท่งเอ็นสอดเข้ามาในช่องแคบของฉัน เอ็นแท่งเดียวที่มีโอกาสได้เข้า และคงจะเป็นดุ้นเดียวตลอดไปปึก!“อ้ะ! มันจุกนะพีค” ฉันร้องเพราะพีคกระแท
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา…หลังจากที่ฉันย้ายออกมาอยู่ข้างนอกเพียงลำพัง ภาพขวางหูขวางตาที่ต้องเห็นคนรักสวีตหวานกับภรรยาของเขาก็ไม่ปรากฏให้ฉันได้เจ็บปวดหัวใจจะมีก็แต่ความคิดถึง ซึ่งฉันคิดถึงเขามาก ฉันร้องไห้ตาบวมไปสอนเด็กทุกวันก็ฉันรักเขามาตั้งนาน จะไม่ให้คิดถึงเลยฉันคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้นะ เพราะฉันคิดถึงเขามาก มากสุดหัวใจเขาโทรมา ส่งข้อความมา แต่ฉันเพิกเฉยฉันไม่อยากจะเป็นชู้อีกต่อไปแล้ว ฉันไม่อยากทำเรื่องแบบนั้นอีก“ครูแพทไปไหนต่อไหมครับ” เสียงของครูหนุ่มเอ่ยทักฉันค่ะ“แพทว่าจะกลับคอนโดเลยค่ะ ครูหนุ่มมีอะไรให้แพทช่วยเหรอคะ” ฉันตั้งคำถามเผื่อว่าครูหนุ่มจะมีอะไรให้ฉันช่วยเหลือเรื่องงานของเขาครูหนุ่มคือครูที่ย้ายมาสอนแทนครูเอกที่สอนวิชาพละศึกษา“อ้อ ผมแค่ต้องการจะถามอุปนิสัยเด็กชั้นม. 4/3 บางคนน่ะครับ เห็นครูแพทสอนเด็กห้องนั้นด้วย พอดีรู้สึกเหมือนจะมีเด็กที่แตกต่างอยู่ครับ”“อ๋อ ถ้างั้นเด็กคนไหนคะ เอ่ยชื่อมาเลย แพทก็ค่อนข้างจดจำเด็กห้องนั้นได้พอสมควร”“จะเป็นอะไรไหมครับถ้าหากว่าจะไปทานข้าวเย็นด้วยกันแล้วพูดคุยกันไป” ครูหนุ่มพูดแล้วจับลูบที่หลังคอตัวเองฉันพอจะเข้าใจที่ครูหนุ่มสื่อแล้วล่ะเพ
“ฮัลโหลลล สามี มิสยูที่สุด” พนักงานแอร์ของสายการบินหนึ่งเดินเข้ามาสวมกอดผม“เหนื่อยไหม” ผมผละกอดออกและลากกระเป๋าเดินทางให้เธอ“ไม่อะ แต่ตอนนี้หิว แวะหาอะไรทานด้วยนะคะที่รัก”“อยากกินอะไร”“สเต็กโคขุนแล้วกัน”“โอเค”จากนั้นผมและเธอก็เดินมาที่ลานจอดรถครับ ผมชื่อ ‘พีค’ เป็นเพื่อนกับไอ้ยิม และไอ้แจง ที่นั่งเบาะข้างกายผมอยู่ตอนนี้ก็คือ ‘ภรรยา’ ใช่ครับ ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่ถูกต้องตามหัวใจที่เรียกร้องเพราะคนที่ผมรักมาตลอดคือน้องสาวของผม เธอชื่อ ‘แพท’ ผู้หญิงคนเดียวที่ผมรักแตกต่างจาก ‘ครีม’ ผู้หญิงที่แม่ของผมหาให้ ผมยอมแต่งงานกับครีมเพราะไม่อยากให้แพทต้องโดนบังคับแต่งกับผู้ชายอื่นที่แม่เลือกให้ ผมก็เลยเลือกที่จะแต่งเองและก็กลายเป็นว่าผมผิดคำพูด เห็นแก่ตัว ผิดสัญญา“บนรถดีไหมพีค ครีมอยากตื่นเต้นอะ” ขณะที่ผมกำลังจะขับรถออกจากลานจอดรถของสนามบินครีมเธอก็เริ่มเอ่ยชวนพร้อมการเล้าโลม“คนเยอะ”“แต่รถติดฟิล์มดำไง นะ ๆ ตื่นเต้นดีออก ขย่มกันตอนที่คนเดินผ่านไปมา ไหนดูซิ น้องชายของพีคคิดถึงน้องของครีมไหมน้า” แล้วครีมก็เริ่มลูบตรงเป้าของผมพร้อมกับรูดซิปลง“ครีม…” ผมเผลอครางออกมาเพราะเธอใช้ปาก