"ควรเลิกมองกูแบบนั้นนะแจง" มันพูดข่มฉันอีกแล้ว แต่ฉันก็ยังจ้องหน้ามัน ไอ้ห่านี่ชอบข่มขู่ฉันอยู่เรื่อย รู้สึกหงุดหงิดชะมัดทำไมฉันไม่มีเรื่องมาข่มให้เหนือกว่ามันบ้างนะ ฉันจะอ่อนให้มันตลอดเลยหรือไงได้แต่คิดแล้วก็สงสัยในตัวเอง"สรุปไม่โดนสักที ไม่ดีขึ้นเลยใช่ไหม" มันพูดชิดริมหูฉัน"ยิม! " ฉันชักจะโมโหกับนิสัยบ้า ๆ ของมันแล้วล่ะ ทำอะไรควรสนใจสถานที่สักนิด แต่นี่ไม่เลย นั่งอยู่หน้าร้านเสือกมาลวนลามบีบหน้าอ่งหน้าอกฉันอยู่ได้ไอ้ยิมที่ฉันเคยรู้จักมันไม่ใช่คนแบบนี้เลยแม้แต่นิดเดียว"อย่ามาขึ้นเสียงใส่ เดี๋ยวกูอดใจไม่ไหวก็ปิดร้านขย่มแม่ง" มันขู่อีกแล้ว รอบนี้มันบีบนมฉันอย่างแรงด้วยตั้งแต่กินข้าวเสร็จมันก็ไม่ให้ฉันลุกไปไหน ให้ตามติดทุกฝีก้าว จะดีหน่อยก็ตรงที่ฉันได้หายใจตอนเข้าห้องน้ำ นอกนั้นอยู่ในสายตามันตลอด"หยาบโลน" ฉันว่าแล้วหันหน้าหนีจากมัน"หยาบกับมึงแค่คนเดียว" แม่งพูดแล้วก็กดจมูกมาหอมที่หัวฉันฉันหันไปมองหน้ามันไอ้บ้านี่มันจะรู้บ้างไหมว่าฉันใจเต้นแรงแค่ไหนกับทุกการกระทำบ้า ๆ ของมัน"ทำไมถึงแค่กูคนเดียว มึงเกลียดกูมาก หรือเพราะมึงรักกู ถ้าแค่เพื่อชดใช้ ให้กูเจ็บ มึงก็แค่เลิกยุ่งแล้วด่
แล้วฉันก็กลับมาบ้านเพื่อหาเสื้อผ้าที่สวยเซ็กซี่ดูดี แต่ต้องมิดชิดกลบเกลื่อนรอยดูดเรื่องความสงสัยที่ไอ้ภามพูดทิ้งไว้นั้น อีแจงเก็บไว้ก่อน หลังจากที่ยืนพูดคนเดียวอยู่นานก็คิดขึ้นมาได้ว่า 'ควรแต่งตัว'เท่านั้นแหละตอนนี้อีแจงเลยมาหัวปั่นกับชุด เมื่อก่อนมันไม่ใช่เรื่องน่าเครียดอะไร เพราะคนอย่างอีแจงเป็นคนสวย ใส่อะไรก็สวยก็มั่นไปหมดแต่ตอนนี้รอยดูดมันเต็มหน้าอก หน้าท้องก็มี ส่วนต้นขานั้นบานเบอะ คือถ้าคนเห็นก็จะนึกว่าอีนี่มันโรคจิตหรือไง ถึงได้รอยดูดเต็มไปหมด"เวรกรรม" และคำตัดพ้อก็ออกมาจากเรียวปากสวย ๆ ของฉัน เพราะจะลองสักกี่ชุด ก็ไม่มีชุดไหนปิดมิด ถึงแม้สถานที่ที่จะไปจะเป็นบ้านเพื่อน แต่ฉันอายโว้ยแม่ง! สุดท้ายชุดที่ฉันเลือกใส่แล้วให้ความมั่นใจสุดก็คือ กางยีนส์ขายาว กับเสื้อฮู๊ดมีหมวก"สุดยอดมาก สวยสุด ๆ " ฉันเอ่ยชมความสวยที่ถูกปกปิดไว้ภายใต้หมวกหลังจากที่เช็คความสวยที่มีมากมายแล้ว ฉันก็เตรียมพร้อมที่จะไปหาผู้ชายข้างบ้าน เพื่อนจะไปชวนมันอีกสักครั้ง แม้จะโดนด่าก็ตามฉันเดินมาที่หน้าต่างห้องนอนเพื่อที่จะปิดม่าน แต่พอหันมาทางหน้าต่างก็ถึงกับตกใจเล็กน้อยฉันจึงหยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดเข้า Appl
(แจง: ชุดใหญ่อะไร เจอดีอะไร คนขี้ตอบไลน์ไม่ได้) ทางรอดที่เป็นทางออกที่อีแจงคนนี้ฉุกคิดขึ้นมาได้คืออ้างว่าปวดขี้หวังว่าจะรอดนะ เพราะมันกดอ่านเร็วมากแล้วทุกอย่างก็เงียบสนิท ไม่มีการตอบกลับหรือเสียงตะโกนดังลั่นบ้านสงสัยรอด เก่งสุดก็อีแจงนี่แหละพอโล่งใจฉันก็ลุกจากชักโครก ซึ่งฉันพาตัวเองมาเข้าห้องน้ำที่ชั้นสองซึ่งอยู่ถัดจากห้องมันประมาณสองห้อง ที่คิดแผนนี้ออกเพราะด้อม ๆ มอง ๆ หาวิธีก็เลยเห็นห้องน้ำพอดี"เอาตัวรอดเป็นยอดดี อิอิ" ฉันยิ้มให้ตัวเองในกระจกอย่างอารมณ์ดีอย่างน้อย ๆ ก็รู้ว่ามันรู้สึกกับฉัน ฉันจะทนแม้มันจะปากหมาด่าเก่งและที่อารมณ์ดีมาก ๆ คือฉันรอดจากคำว่าชุดใหญ่ด้วยสมองอันชาญฉลาดของตัวเองอย่างไอ้หมายิมไม่ได้แดกอีแจงผู้นี้แน่นอน ฮ่า ๆฉันยิ้มสวย ๆ ให้ตัวเองอีกรอบก่อนจะหันหลังให้กระจกแล้วเปิดประตูอย่างมั่นอกมั่นใจเต็มร้อย"กรี๊ดดดด ทำบ้าอะไร" ฉันร้องจนสุดเสียง เมื่อไอ้หมายิมมันผลักฉันเข้ามาข้างในห้องน้ำ ก็พอฉันเปิดประตูมันก็ยืนเป็นเทวรูปมารหน้าโหดใส่ฉัน ฉันไม่ทันได้อ้าปากทักท้วงมันก็จู่โจมทันที"ไอ้สัส นึกว่ามึงจะรอดเหรอแจง ปั่นกูขึ้นแล้วลงยากกูบอกเลย" ไอ้หมายิมมันว่าก่อนที่จะ
"ทำไมสั่งมาเยอะ มาแค่สองคน" ฉันมองของตรงหน้าที่มันมากมายจนไม่น่าจะใช่คนสองคนที่จะจัดการหมด"เสียพลังงานเยอะ แดก ๆ ไปเถอะ ผอมจะตายอยู่ละ ถ้าแดกไม่หมดไม่ได้แดกเหล้า" ไอ้หมายิมมันว่าพร้อมกวาดของทุกอย่างลงหม้อ"กินหมดนี่ก็กินเหล้าไม่ได้พอดี" ฉันกะพริบตาปริบ ๆ ใส่มัน"อย่ามางอแง""งอแงกับมึงได้เหรอ" ฉันกะพริบตาถี่กว่าเดิม"กะพริบเหี้ยไรนัก อยากโดนตะเกียบจิ้มตาบอดไหม" ไอ้เวรนี่ปากหมาจริง"เฮ้อ..." ฉันทำหน้าเศร้านิด ๆ"ไอ้แจง" มันเอ่ยเรียก"..." มองหน้ามันแต่ไม่พูด"ดูแลตัวเองบ้าง ไม่ใช่ยัดห่าแต่เหล้า" หืมมมมม ไอ้หมายิมมันพูดด้วยโทนเสียงที่ปกติพูดเหมือนห่วงฉันเลยว่ะอีแจงเหลิงต่อไม่รอแล้วนะ"มึงเป็นผัวมึงก็ดูแลดิ" ฉันจ้องหน้ามันแล้วยิ้ม พอมั่นใจว่ามันรู้สึกฉันก็หยอดไม่บันยะบันยังพูดง่าย ๆ คือมึงเตรียมโดนกูอ่อยเลยอ่ะ"เป็นง่อยเหรอไอ้สัส เลิกกวนกูแล้วแดก" มันนิ่งไปพักใหญ่แล้วก็กลบเกลื่อนด้วยคำด่า"ลืมไปว่ามึงเกลียดกู แต่ไม่เป็นไร มีผู้ชายอยากดูแลกูเยอะอยู่ เพราะกูสวย" ฉันพูดจบก็คีบหมูเข้าปากอย่างมีความสุขแต่แล้วความสุขของฉันก็หยุดลง เมื่อ..."ไม่กวนตีนกูสักสิบยี่สิบนาทีมึงจะตายไหมแจง หรือมึ
"อะไรคือการเตรียมใจ มึงยังไม่ขอกูเป็นแฟนเลยไหม" ฉันที่นึกขึ้นมาได้นั้นรีบร้องถาม"เป็นเมียกูแล้วเถอะ เอากันแล้วไม่อยากเป็นแค่แฟน แหวนก็อยู่ในมือ มึงควรรู้สึกตัวตั้งแต่ที่กูใส่แหวนให้มึงแล้วไหม" ไอ้หมายิมมันพูดโดยไม่มองหน้าฉันคำที่มันพูดสื่อว่าฉันรู้สึกตัวช้า หรือ สื่อว่าฉันโง่วะ"เป็นเมียก็ต้องแต่งก่อนไหม" ฉันยักคิ้วกวน ๆ"ไอ้สัส จะแต่งเลยไหม" มันสวนทันที"บ้าไปแล้ววววว" อีแจงตลกกลบเกลื่อน"เฮอะ""หิวข้าว ได้กินหมูแค่คำเดียวเอง" ฉันเปลี่ยนเรื่องคุย เมื่อท้องมันร้อง รู้สึกหิวมากมาย เสียดายของที่สั่งไปที่สุด"กินไร""กินมึงได้ไหม" อ่ะจ้ะ อีแจงหยอดได้หยอดใหญ่แต่คงลืมไปว่าหยอดคนบ้า มันก็เลยตบไฟเลี้ยวจอดข้างทาง"อื้อ! " พอมันจอดรถเรียบร้อยมันก็ดึงฉันเข้าไปจูบทันทีไอ้นี่มันบ้า มันบ้าจริง ๆ"อย่าลองดีกับพี่ เพราะพี่คนจริง" มันถอนจูบออก แล้วก็กัดที่แก้มฉันเบา ๆส่วนฉันนั้นยังคงตกใจ ทำอะไรไม่ถูก"สรุปกินไร" มันเอ่ยถามก่อนที่จะแตะจูบฉันอีกรอบ"จะตามใจเหรอ" นั่นไง พอตั้งสติได้ก็ปากดีเลย"มึงควรเลิกปั่นประสาทกูนะแจง จะแดกเหี้ยอะไรรีบพูดมา เดี๋ยวกูก็พากลับไปล่อที่บ้าน ไม่ต้องไปต่อบ้านไอ้ภามหรอก
สามวันผ่านไปได้มั้ง หลังจากที่อีแจงโดนทำโทษไปในเช้าวันนั้น ไม่ต้องถามว่าหนักหนาเพียงใด เพราะน่าจะรู้ว่าไอ้หมายิมมันบ้าแค่ไหน"แจง" ไอ้หมายิมมันเรียกฉัน ซึ่งฉันนั้นกำลังดูซีรี่ส์เกาหลี และกินมาม่ากระปุก ส่วนมันนั่งดูลายเส้นของทองพร้อมกับจดยอดอะไรไม่รู้ อีแจงไม่ได้สนใจ สนใจแต่ซีรี่ส์"ว่า" มันเรียกฉันก็ขาน แต่ประสาทสัมผัสทุกอย่างของฉันไม่ได้รู้หรอกว่ามันพูดอะไรมาบ้าง"...กันนะ" อะไรไม่รู้ อีแจงเข้าใจแค่คำว่ากันนะ ซึ่งน่าจะเป็นการชวนไปกินข้าวที่ไหนสักแห่ง แบบหลาย ๆ วันที่ผ่านมา"อืม" ฉันที่ไม่เคยขัดอะไรได้สักอย่างก็เลยตอบไปแค่ 'อืม' สั้น ๆ แค่นั้น เพราะตอนนี้พระเอกของเรื่องกำลังทำฉันฟิน ก็พระเอกกำลังขอนางเอกแต่งงานท่ามกลางร้านอาหารหรูโคตรน่าอิจฉา"มึงตกลงแล้วนะ ห้ามคืนคำ""อืม" แล้วอีแจงก็ 'อืม' อีกตามเคย"คืนนี้เดินทางเลย ที่บ้านของเราสองคนไปจัดเตรียมสถานที่และทุก ๆ อย่างไว้แล้ว" ไอ้หมายิมมันพูดแต่เดี๋ยวนะ! อะไรคือที่บ้านเราสองคนวะ ฉันกด stop ความฟินแล้วหันไปมองหน้ามันทันที"ที่บ้านเราจัดเตรียมสถานที่อะไรเหรอยิม" ฉันถามพลางตักมาม่าเข้าปาก"เมื่อกี้ที่มึงตอบว่าอืม มึงได้ยินกูถามว่าอะไร
"แม่แจงจ๋านี่สอนแต่อะไรดี ๆ ให้ลูกจำเนอะ" ไอ้หมายิมมันกระซิบที่ข้างหูฉันน้ำเสียงของมันบ่งบอกถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมากฉันหันไปยิ้มเจื่อน ๆ ให้มัน"จัสจ๋า เรียกแบบนั้นไม่ได้แล้วนะคะเพราะตอนนี้คุณลุงเขาสติดีแล้วค่ะ" ฉันรีบแก้ต่างกับลูกรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ยังไงไม่รู้ ถึงจะโดนบ่อย แต่ก็ไม่เคยชิน"งั้นเรียกพ่อยิมจ๋าได้ไหมจ๊ะ"เอิ่มมมมมไม่เจอกันแค่ไม่กี่วันทำไมลูกอีแจงช่างเจรจานักล่ะ มีจ๊ะ มีจ๋า"เอ่อ..." อีแจงอ้ำอึ้ง ควรพูดอะไรต่อดี"ก็ยายแจ๋มบอกว่าลุงยิมจะมาเป็นพ่อ ต่อไปให้เรียกพ่อยิม จัสก็เลยเติมจ๋า เหมือนที่เรียกแม่แจงไงจ๊ะ" จัสมินอธิบาย ทำให้ฉันนึกถึงตัวการของเรื่องขึ้นมาทันทีถ้ายายแจ๋มไม่ตกลง งานนี้ไม่มีทางเกิด ฉันต้องการเคลียร์กับยายแจ๋ม"จ้ะ เอาที่จัสสบายใจเลยนะลูก แต่ตอนนี้ยายแจ๋มอยู่ไหนจ๊ะ บอกแม่แจงหน่อยซิ แม่แจงคิดถึงยายแจ๋มมาก" หลอกถามลูกคือเรื่องปกติของอีแจง"ยายแจ๋มอยู่ในครัวจ้ะ" จ๊ะจ๋านี่มาหมดเลยลูกสาวฉัน เฮ้อ... น่ารักเหมือนแม่จริง ๆ"งั้นแม่แจงขอไปหายายแจ๋มก่อนนะจ๊ะ หนูอยู่กับพ่อยิมของหนูไปก่อนนะ" ฉันหอมที่แก้มทั้งสองข้างของลูกสาว"เดี๋ยวมานะ" ฉันหันไปบอกไอ้ว่าที่เจ้าบ
"ในที่สุดอีแจงก็ได้ไอ้ยิมเป็นผัว" ไอ้ภามมันยกยิ้มพอใจ"กว่าจะได้มาเป็นผัวตีกันแทบตาย" ไอ้นายว่า"แต่หลังจากนี้คงไม่มีเพื่อนแดกเหล้า" ไอ้พีคโอดครวญ"กูไง" ฉันเสนอตัวทันใด"เฮอะ ผัวมึงได้แดกหัวพวกกูเรียงตัว" แล้วพวกมันก็พูดพร้อมเพรียงกัน"ผัวกูไม่ใจร้ายขนาดน้าน..." ฉันลากเสียง"ไอ้ยิมแหละโคตรร้าย หวงฉิบหายเมียขี้เมา เวลาเอาไม่เหม็นเหล้ารึไง" ไอ้ภามมันด่าฉันหรือด่าไอ้หมายิมวะ"มึงจะด่าผัวกูไม่ได้นะ" อีแจงออกโรงป้องผัว"แหม่ะ พอจะแต่งกันปุ๊บ ก็ป้องกันปั๊บ อะไรจะขนาดนั้นหวงผัวเกิ้น" ไอ้เคแฟนไอ้ภามเอ่ยแซวบ้าง"หวงผัวผิดตรงไหนคะ" ฉันเลิกคิ้วสูง ทำท่ามั่นอกมั่นใจ"ผิดตรงน่าหมั่นไส้ไง" แพทตอบและยิ้ม"สรุปคืนนี้เมากันนะ" ฉันออกปากชวนเพื่อนด้วยความตั้งอกตั้งใจ ก็ฉันไม่ได้แตะเหล้ามานานมาก ๆ มันหลายวันแล้วนะ ฉันก็แค่อยากจะลื่นคอบ้าง"เมาค_ยกูไหมไอ้สัส" เสียงไอ้ยิมดังขึ้นและแก้มทั้งสองข้างของฉันก็ถูกบีบพร้อมการบังคับให้แหงนหน้าขึ้นทำให้เห็นหน้าโหด ๆ ของผัวปากหมา"คำพูดคำจาไม่น่ารักเอาซะเล้ย" ฉันสลัดหน้าออกจากมือมัน แล้วก็แกล้งส่ายหัวไปมา"มึงอยากโดนงัดไหมแจง เดี๋ยวก็โดนกูแบกขึ้นห้อง" ผัวฉันพูดแล้ว
“มากันแล้ว มา ๆ ลูกเข้าบ้านเร็ว” แม่ของผมกวักมือเรียกผมและภามเพื่อเข้าบ้านหลังจากที่เมื่อคืนผมโดนจัดชุดใหญ่ เพราะไม่ไว้ใจเก็บเรื่องไร้สาระของภามไปฝันเป็นตุเป็นตะ พอตื่นมาก็งี่เง่าเง้างอนนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมกลับมาบ้านแล้วโดนกระหน่ำแทงเช้ามาภามมันเลยลากผมมาทานข้าวเช้าที่บ้านของผม เนื่องจากเมื่อคืนมันบังคับให้ผมโทรนัดครอบครัวซึ่งตลอดการเดินทางมาที่บ้านแม่ของผมนั้น ผมเกร็งมากครับ เกร็งกลัวไปหมด กลัวครอบครัวจะรับเรื่องของผมกับภามไม่ได้กลัวพวกท่านจะกีดกัน ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นผมคงทนไม่ได้แน่นอน“พ่อแม่สวัสดีครับ” ภามยกมือขึ้นไหว้พ่อกับแม่ของผม ซึ่งพ่อนั่งอยู่ที่เก้าอี้ของโต๊ะอาหาร ส่วนแม่ท่านเพิ่งจะเดินไปนั่งที่ข้างกายพ่อ“นั่ง ๆ ภาม แล้วนี่นึกอะไรถึงพากันมาแต่เช้า” พ่อยิ้มรับและชวนให้นั่ง ต้องขยายความก่อนนะครับว่าภามมาที่บ้านของผมบ่อย มาในฐานะเพื่อนในความเข้าใจของครอบครัวผม“มีเรื่องจะพูดคุยกับพ่อแม่ครับ” ภามเป็นคนตอบ ส่วนผมยังยืนเกร็งเพราะกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดในเวลาอีกไม่นานที่จะถึง“ดูท่าจะซีเรียส งั้นกินข้าวกันก่อนค่อยคุยกันนะ นั่งทานลงทานข้าวสิเค” แม่ของผมบอกแล้วยิ้ม ผมจึงนั่ง
“เค เค เคด่วย ไอ้เค!!!” เสียงแว่วมาของไอ้ภามมันเอ่ยเรียกผมพร้อมกับแรงเขย่าแรง ๆ“ไอ้ภาม!!!” ผมเงยหน้ามองมันด้วยความตกใจ“เป็นบ้าอะไรของมึง เห็นกูทำไมต้องตกใจ มึงมีความผิดอะไร พูดมา” ไอ้ภามมันเดินมาที่โซฟาที่ผมนอนอยู่และนั่งลงข้างผมก่อนจะยื่นมือมาดึงจับที่ตัวผม“อย่ามาจับกู ไอ้เหี้ย มึงมันเลว ใจร้าย ทำร้ายจิตใจกู ที่ทำทุกอย่างก็แค่สงสารกู มึงไม่เคยรักกูเลย” ผมขยับตัวหนีออกจากมันปัก!ไอ้ภามมันตบที่หัวของผม“ไอ้เค รอบนี้อะไรพูดมา กูงอนเรื่องที่บ้านของมึง มึงถึงขั้นเก็บเอาไปฝันคิดว่ากูนอกใจใช่ไหม มึงถึงได้นอนร้องไห้อยู่แบบนี้”เวรแล้วครับ“อย่าบอกนะว่าทั้งหมดเพราะกูฝันเป็นตุเป็นตะ” ผมมองไอ้ภามแล้วทำหน้าอึ้งรอครับ เพราะรู้สึกเหมือนจะรู้คำตอบแล้ว“เออดิ กูเนี่ยนะจะนอกใจมึง ไอ้เหี้ย เรื่องนี้นี่คิดไม่เลิกสักทีเนอะ แล้วนี่ยังไง”“ยังไงอะไรภาม” เมื่อรู้ตัวว่าทุกอย่างคือความฝันที่ผมสรรค์สร้างมันขึ้นมา ผมก็รีบขยับตัวนอนหนุนที่ตักของคนที่ผมเรียกว่าแฟน รีบเตรียมแผนอ้อนมันเลยครับ“มึงให้ลูกค้าในร้านกอดทำไม”แต่เดี๋ยวนะ!!!เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด เรื่องนี้ผมจะนอนท่านี้ไม่ได้เหมือนจะไม่ทัน ผมรู้ตัวช
สามวันผ่านไป...สามวันผ่านไปแล้ว ชีวิตของผมก็ยังจมอยู่กับความเมา ผมเช่าห้องพักรายวันแล้วซื้อเหล้าเข้ามากินแบบไม่คิดอะไรทั้งนั้น นอกจากเรื่องราวที่ผ่านมาของผมกับไอ้ภาม ผมคิดซ้ำ ๆ วกไปวนมา คิดแล้วคิดอีกและเมาหลับไปผมโคตรเสียศูนย์ที่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้แต่วันนี้มันถึงเวลาที่ผมจะต้องกลับใช้ชีวิตของผมแล้วครับเรื่องร้านที่ทำร่วมกันมา ถ้าหากว่ามันจะเอาคนรักของมันมาทำ ผมก็พร้อมจะเดินออกมาพร้อมเงินทุนและกำไรที่ผมสมควรได้เรื่องนี้คงต้องคุยกันอีกทีให้เข้าใจแต่ที่แน่ ๆ คือผมจะไม่กลับไปอยู่ในจุดที่มันสงสารผมแน่นอนครับสองชั่วโมงต่อมา...ณ ร้านอาหาร“สวัสดีค่ะคุณเค” พนักงานในร้านยกมือไหว้ผมเหมือนที่เคยทำตลอด แต่วันนี้มันแปลกไปตรงที่ผมไม่ยิ้มครับ คนที่ตกอยู่ในอารมณ์แบบผมคงไม่มีอารมณ์มาปั้นหน้ายิ้มหรอกใช่ไหมครับ ผมไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้นผมเดินผ่านพนักงานมาที่ห้องทำงานด้วยใบหน้าที่นิ่งขรึม ซึ่งผมไม่เคยเป็นแบบนี้เลยตั้งแต่เปิดร้านมา จึงไม่แปลกที่จะเป็นจุดสนใจ เพราะผมก็หายไปสามวันเต็ม ๆผมเดินเข้ามาในห้องทำงานแล้วนั่งดูยอดบัญชีการซื้อของเข้า และเมนูอาหารที่ขายออกไป ผมตรวจผมเช็กแบบที่ผมเคยทำ เพื่อ
ตอนนี้เวลาหนึ่งทุ่มนิด ๆ ครับ ผมกลับมาบ้านของภาม บ้านที่ภามมันซื้อไว้ก่อนที่เราจะรู้จักกัน เราอาศัยอยู่ที่นี่ด้วยกัน และนาน ๆ ครั้งเพื่อนจะมาปาร์ตี้ โดยที่มีแจงเป็นสายเมาที่ชอบเต้นจนสุดเหวี่ยง และสุดท้ายก็น็อกกลางอากาศ ตั้งแต่ที่แจงมีลูกคนที่สอง การเที่ยวเตร่เมาแล้วเลื้อยของแจงก็น้อยลง หรือเพราะมีความเป็นแม่ที่มากขึ้นก็ไม่รู้นะครับ แจงถึงได้ดูกลายเป็นคนดีแต่กว่าจะดีได้ กว่าจะลงตัวกับคนที่เป็นผัวอย่างยิมก็ยากเอาเรื่องนะครับ ไหนจะเรื่องของจัสมินที่แจงปกปิดแม้กระทั่งเพื่อนว่าใครคือพ่อ ไหนจะผู้ชายที่ตามจีบ และยังเมียเก่าของยิมที่ยิมเคยรักมาก แต่ละปัญหาของทั้งคู่มันทำให้ผมเหนื่อยและท้อแทนเลยครับ“เฮ้อ” ผมถอดถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เมื่อขวดเหล้ามันกระจัดกระจายระเนระนาดไปหมด แล้วก็ต้องเป็นผมที่ต้องเก็บเป็นประจำตอนนี้คนเมาคงอยู่ในห้องนอนแต่เดี๋ยวนะ!!!ทำไมมีแก้วสองใบ ใครมาดื่มกับมันวะสองเท้าของผมรีบเดินมาที่ห้องนอน ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อใจแต่ผมแค่อยากพิสูจน์ และไม่อยากให้เป็นแบบที่ผมคิดแต่แม่ง...ไม่ใช่ไง มันไม่ใช่เมื่อเสียงที่ดังแว่วมาจากห้องนอน ตามทางเดินที่ผมกำลังก้าวไป ยิ่งผมเฉียดใกล้
สวัสดีครับ เรียกผมว่า ‘เค’ อย่างที่แจงเรียกก็แล้วกันนะครับผมมีแฟนครับ ชื่อ ‘ภาม’ เป็นเจ้าของร้านอาหารที่เราสองคนร่วมกันสร้างขึ้นมาเพื่อเลี้ยงชีพของเราทั้งสอง กิจการร้านอาหารของเราดำเนินไปได้ด้วยดีครับคงจะเพราะเจ้าของร้านทั้งสองคนหล่อกันทั้งคู่ จะว่าผมหลงตัวเองไม่ได้นะครับ เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาทานอาหารร้านผมนั้นเป็นสาว ๆ กันซะมากกว่าคงไม่ต้องบอกพวกคุณที่ตามแจงมาก็คงจะรู้ว่าผมกับภามเป็นคู่รักร่วมเพศ เป็นคู่เกย์กันขอสารภาพตามตรงนะครับว่าตอนแรกผมก็ไม่คิดที่จะชอบผู้ชายด้วยซ้ำ เพราะที่ผ่านมาผมชอบผู้หญิงมาตลอด แต่แล้วจู่ ๆ ชีวิตที่เจอแต่ความผิดหวังก็ทำให้ความรู้สึกของผมเปลี่ยนไป อาจจะเพราะจุดเริ่มต้นมันมาจากการประชดชีวิตที่คบใครก็มีแต่โดนทิ้ง โดนหักหลังมาตลอดผมก็เลยลองมองหาผู้ชายดู เผื่อว่าจะได้ไม่ต้องเจอกับความเสียใจ เหมือนตอนที่คบกับผู้หญิงจุดเปลี่ยน จุดแปลกใหม่ในชีวิตของผมเกิดขึ้นเมื่อผมต้องมากลายเป็นฝ่ายรับจากผู้ชายที่เพิ่งจะรู้จักกัน ตอนนั้นขอเรียกเป็นวันไนท์สแตนด์แล้วกันนะครับที่เรียกวันไนท์สแตนด์ก็เพราะอยากจะทดลองก่อนที่จะเริ่มมีคนรักที่เรียกว่าเพศเดียวกันและผู้ชายคนแรกที่ไ
“พวกแกจะบ้ากันหรือไง ทำอะไรกันอยู่ กล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง!!!” แม่พูดเสียงสั่นดวงตากำลังเอ่อคลอด้วยน้ำตา ท่านกำลังมองฉันและพี่ชาย“แค่เรารักกัน ทำไมแม่ไม่เข้าใจ”“รักกันฉันเข้าใจ แต่พวกแกจะรักกันแบบนี้ไม่ได้ พี่น้องจะรักกันแบบนี้ไม่ได้”“แม่…”“หยุดเรื่องน่ารังเกียจนี้ซะยัยแพท แกเป็นถึงครู แกไม่ควรให้เรื่องนี้เกิดขึ้น” แม่หยิบยาดมขึ้นมาสูดดม“เรารักกันครับแม่ ผมรู้ว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ แต่เรื่องของหัวใจมันบังคับกันได้เหรอครับ แม่ครับ…”“เงียบปากไปเลยพีค นี่พวกแกเป็นบ้ากันหรือไง กำลังทำอะไรอยู่ ทำอะไรทำไมไม่คิดถึงใจฉันบ้าง” แม่ของฉันเริ่มหลั่งน้ำตาฉันกับพี่ชายกำลังทำให้แม่บังเกิดเกล้าเสียใจ เพราะเราทั้งสองตัดสินใจกลับมาบ้านและบอกเรื่องราวที่เราสองคนได้แอบทำร่วมกันมาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี เมื่อแม่ได้ยินเรื่องที่พี่ชายเป็นคนเอ่ยปากเริ่มเล่า ท่านก็เริ่มหน้าซีด และหลั่งน้ำตาน้ำตาของแม่ทำให้ฉันรู้สึกผิดมาก แต่เมื่อพูดออกไปแล้วคงจะแก้ไขอะไรไม่ได้อีก และคงต้องยอมรับความจริงซึ่งมันดูเหมือนเราทั้งคู่บีบบังคับให้แม่ยอมรับเรื่องของเราเรื่องระยำที่เราแอบทำ“แม่คะ แพทขอโทษ แต่
“คิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรแพท” เมื่อฉันก้าวขาเข้ามาในห้องของคอนโด พี่ชายที่พ่วงด้วยตำแหน่งสามีก็เริ่มโวยวาย“ยุ่งอะไรด้วย” ฉันวางของแล้วเดินหนี“นี่ผัว”“ผัวคนอื่นน่ะสิ” ฉันสวนกลับทันที“ไม่โดนเอาหลายวันเลยปากดีว่างั้น” พีคเดินมาดึงฉันเข้าหาตัว“อย่ามาพูดแบบนี้ เราเลิกกันแล้ว ถอยไป” ฉันชักสีหน้าและน้ำเสียงไม่พอใจ“พี่ไม่เคยเลิก และอย่าคิดจะมีใหม่ มาย้ำความสัมพันธ์กันเถอะจะได้จำว่าไม่ควรไปสนิทกับผู้ชายคนไหน” พีคว่าและอุ้มฉันขึ้นพาดบ่า จากนั้นก็พาฉันเดินเข้ามาในห้องนอนวางฉันลงที่เตียงนอน“ออกไปเดี๋ยวนี้ เราเลิก…อื้อ” กลีบปากหนาประกบชิดที่ริมฝีปากของฉัน คำพูดถูกกลืนหาย สัมผัสที่คุ้นเคยมานานหลายปีถูกแทรกเข้ามาแทน“อย่าบอกว่าเราเลิกกัน พีครักแพท รักแพทมาก ๆ” พี่ชายของฉันถอนจูบออกและพูดออกมา ในขณะที่พูดเขาก็ดึงกางเกงชั้นในของฉันออก และใช้นิ้วเข้ามาเขี่ยที่รูร่องแคบ จังหวะเดียวกันกับการป้อนจูบให้ฉันเคลิบเคลิ้มอีกครั้ง และอีกครั้ง จูบซ้ำ ๆ ย้ำอยู่แบบนั้นกระทั่งแท่งเอ็นสอดเข้ามาในช่องแคบของฉัน เอ็นแท่งเดียวที่มีโอกาสได้เข้า และคงจะเป็นดุ้นเดียวตลอดไปปึก!“อ้ะ! มันจุกนะพีค” ฉันร้องเพราะพีคกระแท
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา…หลังจากที่ฉันย้ายออกมาอยู่ข้างนอกเพียงลำพัง ภาพขวางหูขวางตาที่ต้องเห็นคนรักสวีตหวานกับภรรยาของเขาก็ไม่ปรากฏให้ฉันได้เจ็บปวดหัวใจจะมีก็แต่ความคิดถึง ซึ่งฉันคิดถึงเขามาก ฉันร้องไห้ตาบวมไปสอนเด็กทุกวันก็ฉันรักเขามาตั้งนาน จะไม่ให้คิดถึงเลยฉันคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้นะ เพราะฉันคิดถึงเขามาก มากสุดหัวใจเขาโทรมา ส่งข้อความมา แต่ฉันเพิกเฉยฉันไม่อยากจะเป็นชู้อีกต่อไปแล้ว ฉันไม่อยากทำเรื่องแบบนั้นอีก“ครูแพทไปไหนต่อไหมครับ” เสียงของครูหนุ่มเอ่ยทักฉันค่ะ“แพทว่าจะกลับคอนโดเลยค่ะ ครูหนุ่มมีอะไรให้แพทช่วยเหรอคะ” ฉันตั้งคำถามเผื่อว่าครูหนุ่มจะมีอะไรให้ฉันช่วยเหลือเรื่องงานของเขาครูหนุ่มคือครูที่ย้ายมาสอนแทนครูเอกที่สอนวิชาพละศึกษา“อ้อ ผมแค่ต้องการจะถามอุปนิสัยเด็กชั้นม. 4/3 บางคนน่ะครับ เห็นครูแพทสอนเด็กห้องนั้นด้วย พอดีรู้สึกเหมือนจะมีเด็กที่แตกต่างอยู่ครับ”“อ๋อ ถ้างั้นเด็กคนไหนคะ เอ่ยชื่อมาเลย แพทก็ค่อนข้างจดจำเด็กห้องนั้นได้พอสมควร”“จะเป็นอะไรไหมครับถ้าหากว่าจะไปทานข้าวเย็นด้วยกันแล้วพูดคุยกันไป” ครูหนุ่มพูดแล้วจับลูบที่หลังคอตัวเองฉันพอจะเข้าใจที่ครูหนุ่มสื่อแล้วล่ะเพ
“ฮัลโหลลล สามี มิสยูที่สุด” พนักงานแอร์ของสายการบินหนึ่งเดินเข้ามาสวมกอดผม“เหนื่อยไหม” ผมผละกอดออกและลากกระเป๋าเดินทางให้เธอ“ไม่อะ แต่ตอนนี้หิว แวะหาอะไรทานด้วยนะคะที่รัก”“อยากกินอะไร”“สเต็กโคขุนแล้วกัน”“โอเค”จากนั้นผมและเธอก็เดินมาที่ลานจอดรถครับ ผมชื่อ ‘พีค’ เป็นเพื่อนกับไอ้ยิม และไอ้แจง ที่นั่งเบาะข้างกายผมอยู่ตอนนี้ก็คือ ‘ภรรยา’ ใช่ครับ ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่ถูกต้องตามหัวใจที่เรียกร้องเพราะคนที่ผมรักมาตลอดคือน้องสาวของผม เธอชื่อ ‘แพท’ ผู้หญิงคนเดียวที่ผมรักแตกต่างจาก ‘ครีม’ ผู้หญิงที่แม่ของผมหาให้ ผมยอมแต่งงานกับครีมเพราะไม่อยากให้แพทต้องโดนบังคับแต่งกับผู้ชายอื่นที่แม่เลือกให้ ผมก็เลยเลือกที่จะแต่งเองและก็กลายเป็นว่าผมผิดคำพูด เห็นแก่ตัว ผิดสัญญา“บนรถดีไหมพีค ครีมอยากตื่นเต้นอะ” ขณะที่ผมกำลังจะขับรถออกจากลานจอดรถของสนามบินครีมเธอก็เริ่มเอ่ยชวนพร้อมการเล้าโลม“คนเยอะ”“แต่รถติดฟิล์มดำไง นะ ๆ ตื่นเต้นดีออก ขย่มกันตอนที่คนเดินผ่านไปมา ไหนดูซิ น้องชายของพีคคิดถึงน้องของครีมไหมน้า” แล้วครีมก็เริ่มลูบตรงเป้าของผมพร้อมกับรูดซิปลง“ครีม…” ผมเผลอครางออกมาเพราะเธอใช้ปาก