‘ผู้หญิงอยู่บ้านผู้ชายทั้งวัน แล้วผู้หญิงบอกว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอและไม่สามารถบอกใครได้ ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะธรรมดาได้ยังไง?’ ในมุมมองของฟู่สือถิง ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่เพียงแต่จะไม่ธรรมดาเท่านั้น แต่ยังเรียกได้ว่าพิเศษอีกด้วย! “ผมรู้ครับ” เขาได้ยินเสียงของตัวเองโดยไม่มีอารมณ์ใด ๆ ไม่สนใจเหรอ? ไม่ใช่ ไม่มีแรงต่างหาก ฉินอันอันจะไปอยู่ที่บ้านของผู้ชายคนอื่นทั้งวันโดยไม่บอกเหตุผล เขาจะทำอะไรได้? ง้างปากเธอได้เหรอ? ต่อให้เธอยอมอ้าปาด เธอก็คงไม่พูดอะไร ที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยหลักฐานว่าฉินอันอันไม่ได้อยู่กับเสิ่นอวี๋ในเวลาที่เกิดเหตุ หลังจากได้ยินสิ่งนี้แล้ว เสิ่นอวี๋กลับไม่เชื่อ “ตอนนี้ฉันตาบอด ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย จะให้เป็นไปตามที่คุณพูดคงไม่ได้… ฉันไม่เชื่อพวกคุณหรอก!” เสิ่นอวี๋กล่าวด้วยอารมณ์ที่รุนแรง “คุณเสิ่น คุณสามารถบอกให้ญาติของคุณตรวจสอบหลักฐานเหล่านี้ได้นะครับ” เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดพร้อมกับมองไปที่ฟู่เย่เฉิน “คุณเป็นญาติของเธอหรือเปล่า?” ฟู่เย่เฉินกล่าวทันที “คุณตำรวจ ผมเชื่อในผลการสอบสวนของตำรวจครับ” เสิ่นอวี๋ตะโกนสุดปอด “เขาไม่ใช่ญาติของ
“เมื่อคืนฝนตกหนักขนาดนั้น เธอเปิดประตูทำไมเหรอ?” ที่จริงไมค์เดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่ไม่อยากแสดงออก ถ้าเธอไม่อยากให้เขารู้ เขาก็ไม่ถาม “เสิ่นอวี๋บอกว่าตอนเธอถูกควักลูกตาเธอได้ยินเสียงฉัน” สีหน้าท่าทางของฉินอันอันนั้นเย็นชาและน้ำเสียงเย็นชายิ่งกว่า “ถึงจะเป็นคำโกหกที่ไม่ได้เรื่องขนาดนั้น แต่กลับมีคนเชื่อ” ไมค์ “โชคดีที่พี่เว่ยเป็นพยานให้เธอได้ ว่าแต่เมื่อวานเธอไปทำอะไรที่บ้านพี่เว่ยเหรอ?” “มีธุระเรื่องงานนิดหน่อย” เธอตอบเลี่ยง ๆ “แต่ถ้าฉันเป็นคนบอกเรื่องนี้ ไม่มีใครเชื่อแน่นอน” “มีอะไรให้ไม่เชื่อล่ะ เธอกับพี่เว่ยรู้สึกรักกันฉันชู้สาวได้อีกเหรอ? ถ้าเป็นแบบนั้นจริง พวกเธอสองคนคบกันไปนานแล้ว” ไมค์พูดเหน็บแนม “แต่พูดตามตรงนะ ฉันเองก็ยังชอบผู้ชายแบบพี่เว่ยมากเลย แต่ว่าผู้ชายแบบพี่เว่ยก็ชอบแต่ผู้หญิงไม่ดี” ฉินอันอันโต้กลับ “พี่เว่ยไม่มีทางคบกับผู้หญิงไม่ดีแน่” “ฉันไม่ได้พูดว่าพี่เว่ยคบกับผู้หญิงไม่ดี ฉันบอกว่าเขาชอบผู้หญิงไม่ดี” “นายอย่าพูดแบบนั้นนะ! ผู้หญิงดี ๆ ก็ชอบพี่เว่ยเหมือนกัน!”“ได้ ๆ! ฉันพูดผิดเอง พี่เว่ยจะต้องได้เจอผู้หญิงที่ดีมาก ๆ แน่นอน” ไมค์แก้ไขคำพูด ฉินอั
“ผมทรมานเธองั้นเหรอ?” เขาพึมพำแล้วจู่ ๆ ก็พูดเสียงดังขึ้นอย่างเย็นชา “เว่ยเจิน คุณไม่รู้สึกว่าตัวเองหน้าไม่อายมากหรือไง?” “ผมหน้าไม่อาย ความผิดทั้งหมดอยู่ที่ผม แต่ขอล่ะอย่ามองอันอันด้วยทัศนคติที่คับแคบของคุณ” น้ำเสียงของเว่ยเจินสงบและตรงไปตรงมา “อันอันมาหาผมเมื่อคืน เหตุผลแรกเพื่อมาค้นหาบันทึกทางการแพทย์ของศาสตราจารย์หูชิงก่อนหน้าที่เขายังมีชีวิตอยู่ เหตุผลที่สองคือแสดงแผนการรักษาให้ผมดู เพื่อให้ผมแสดงความคิดเห็น ถึงแม้ระดับความรู้ทางการแพทย์ของผมจะไม่ล้ำลึกเท่าเธอ แต่ความรู้ทางทฤษฎีองผมค่อนข้างดี” เมื่อเว่ยเจินพูดคำเหล่านี้ออกมา ฟู่สือถิงหายใจหนักขึ้นอยู่อีกด้านของโทรศัพท์ “อันอันรับงานผ่าตัด” เว่ยเจินพูดต่อ “ถ้าคุณคิดว่าเธอทำเพราะเงิน คุณก็เป็นคนที่ตื้นเขินเกินไป ถ้าคุณรักเธอ คุณเรียนรู้ที่จะเคารพเธอก่อนได้ไหม?!” เว่ยเจินพูดเสียงดังกับคนอื่นแบบนี้น้อยมาก การฝึกฝนตนเองอย่างดีทำให้เขาสามารถยับยั้งชั่งใจได้ แต่ว่าฟู่สือถิงทำให้เขาไม่สามารถเงียบได้อีกต่อไป หลังจากที่ฟู่สือถิงเงียบไปครู่หนึ่งก็โต้เขาว่า “สิ่งที่คุณเรียกว่าความเคารพ คือการปล่อยเนื้อปล่อยตัวอย่างไม่มีขอบเขต! ถ้
“คุณลุง ผมเสียใจมากที่เสิ่นอวี๋เป็นแบบนี้ ผมนอนไม่หลับมาสองวันแล้ว เธอเอาแต่อยากตาย ผมไม่อยากให้เธอตายจริง ๆ” คุณพ่อเสิ่นพูดแทงใจดำ “คุณไม่อยากให้ลูกของพวกคุณตายเหรอ? คุณกับเสิ่นอวี๋ไม่เคยรักกันเลยนี่นา” “ผมไม่อยากเถียงกับคุณ แต่ว่าคุณเองก็รู้ดีว่าเสิ่นอวี๋กับผมไม่ได้รักกัน” ฟู่เย่เฉินสีหน้าหนักใจ “ลูกของพวกเราบริสุทธิ์ ผมจะดูแลเสิ่นอวี๋อย่างดีจนกว่าเธอคลอดลูก หลังจากเด็กคลอดแล้ว ผมจะให้เงินคุณก้อนหนึ่ง คุณพาเสิ่นอวี๋กลับไปใช้ชีวิตที่ประเทศบี คุณบอกตัวเลขมาแล้วผมจะพยายามอย่างเต็มที่และรับรองว่าคุณและเสิ่นอวี๋ไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นอยู่ไปตลอดชีวิต” คุณพ่อเสิ่นไม่ได้ตอบทันที ดูเหมือนว่าเขากำลังคิดอยู่ เสิ่นอวี๋ยืนอยู่ในประตูห้องผู้ป่วยและได้ยินคำพูดของพวกเขาชัดเจน ตอนนี้เธอไม่ใช่คนปกติอีกต่อไป แต่เป็นสินค้าชิ้นหนึ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะเด็กในท้องยังมีค่าอยู่บ้าง ฟู่เย่เฉินไม่มีทางอยู่กับพวกเธอในห้องผู้ป่วยและยิ่งไม่มีทางเสนอตัวเลขให้พ่อ เธอไม่มีอะไรจะพูดกับฟู่เย่เฉิน แต่เธอผิดหวังกับพ่อของเธอ! เธอใช้มือคลำทางเพื่อเดินไปห้องน้ำ นอกห้องผู้ป่วย หลังจากคุณพ่อเสิ่นครุ่นคิดอยู่
นี่เป็นเรื่องที่เธอคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ คนเราจะต้องสิ้นหวังและหดหู่ขนาดไหนถึงขั้นฆ่าตัวตายไปแบบนี้! เสิ่นอวี๋ไม่เพียงแค่กำจัดชีวิตตัวเองทิ้งเท่านั้น แต่ยังไม่เหลือทางให้เด็กมีชีวิตรอดอีกด้วย เธออดที่จะเริ่มสงสัยต่อข้อกล่าวหาตอนที่เสิ่นอวี๋ยังมีชีวิตไม่ได้ หรือที่เสิ่นอวี๋บอกว่าได้ยินเสียงของเธอตอนที่ถูกควักลูกตา เป็นเรื่องจริง? ใครเป็นคนลงมือกับเสิ่นอวี๋? ทำไมคนคนนี้ถึงใส่ร้ายเธอ? ฟู่เย่เฉินงั้นเหรอ? แต่เสิ่นอวี๋กำลังตั้งท้องลูกของเขา ไม่มีเหตุผลที่เขาต้องทำกับเสิ่นอวี๋ขนาดนี้ หรือว่า...สาเหตุจริง ๆ ที่อยู่เบื้องหลังการทำร้ายเสิ่นอวี๋ คนร้ายต้องการจัดการเธอ?! ไม่อย่างนั้นจะอธิบายได้ยังไงว่าทำไมตอนควักลูกตาเสิ่นอวี๋ถึงมีเสียงของเธอดังขึ้น?!ทันใดนั้นมีเหงื่อเย็นไหลออกมาด้านหลังของเธอ ไมค์ถือโจ๊กร้อน ๆ มาที่ห้องของเธอ เขาเห็นเธอนั่งตัวแข็งทื่อบนเตียง ดวงตาว่างเปล่า ถึงเขาเข้ามา เธอก็ไม่รู้ตัว “อันอัน เธอกำลังคิดอะไร?” ไมค์วางโจ๊กร้อน ๆ ลงบนโต๊ะข้างเตียง แล้วโบกมือตรงหน้าเธอ “กำลังคิดเรื่องของเสิ่นอวี๋สินะ?” ฉินอันอันได้สติกลับมาอีกครั้ง แล้วมองไปทางไมค์พร้อมพูดพึ
“แย่แล้ว! เสี่ยวหานตกอยู่ในอันตราย!” ไมค์ตะโกน “อันอัน เธอรออยู่ในรถนะ! ฉันจะไปหาเขา!” เขารีบจอดรถริมถนนพร้อมกับเปิดไฟฉุกเฉิน จากนั้นวิ่งไปทางสถานีรถไฟใต้ดินวันนี้เป็นวันหยุดของเสี่ยวหาน รถบัสพิเศษของค่ายฤดูร้อนส่งพวกเขาทุกคนที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน เสี่ยวหานซื้อของขวัญให้แม่ที่ห้างสรรพสินค้า ทว่าตอนจ่ายเงิน เขาพบว่ามีคนแอบดูเขาอยู่ เขาออกมาจากห้างสรรพสินค้าและคิดไม่ถึงเลยว่าคน ๆ นั้นจะตามเขามาถึงสถานีรถไฟใต้ดิน ดังนั้นเขาจึงแน่ใจว่าตนเองถูกติดตามแล้ว ฉินอันอันไม่มีทางนั่งนิ่งรออยู่ในรถได้ หลังไมค์ลงจากรถ เธอเองก็ลงเช่นกันแล้วก้าวเท้าไปทางสถานีรถไฟใต้ดิน บอดี้การ์ดประคองเธอพร้อมเกลี้ยกล่อมว่า “เจ้านายครับ ระวังเด็กในท้องด้วย! ถ้าปากมดลูกขยาย คุณอยากจะคลอดลูกที่ริมถนนเหรอครับ?!” เดิมทีฉินอันอันไม่รู้สึกอะไรเลยในท้อง แต่เมื่อบอดี้การ์ดพูดเช่นนี้ เธอรู้สึกปวดท้องขึ้นมาราง ๆ เธอหยุดเดินแล้วเอามือกุมท้อง “คุณรีบไปหาเสี่ยวหาน! ไมค์คนเดียวจะทำได้ยังไง? ถ้าเขาตกอยู่ในอันตรายด้วยอีกคนจะทำยังไง?!” บอดี้การ์ดไม่สามารถทิ้งเธอไปได้ “ในสถานีรถไฟมีเจ้าหน้าที่
“เธอจะแก้ไขปัญหายังไง?” ไมค์เท้าเอวด้วยมือทั้งสองข้าง “เว็บนั่นไม่ควรถูกระเบิดทิ้ง ในเมื่อนั่วนั่วรู้จักดาร์คเว็บ นั่นก็หมายความว่าเธอต้องรู้จักกับกลุ่มคนหรือองค์กรในนั้น บางทีพวกเราอาจค้นพบบางอย่างบนเว็บไซต์นั้น” หลังจากเสี่ยวหานฟังเขาพูดแล้วก็ก้มหน้าลงอย่างหงุดหงิดใจ ตอนนั้นเขาตกใจกลัว ถึงได้หุนหันพลันแล่นขนาดนั้น ตอนนี้คิดดูแล้ว ไม่ควรทำแบบนั้นจริง ๆ “ปล่อยเรื่องนี้เป็นหน้าที่ลุง” ไมค์ลูบหัวเขาแล้วพูดว่า “ในที่สุดเธอก็ได้วันหยุดสองวัน คืนนี้พักผ่อนมาก ๆ พรุ่งนี้ใช้เวลาอยู่กับแม่ เอาคอมพิวเตอร์ของเธอให้ลุง ลุงจะพยายามกู้คืนเว็บไซต์นั่นให้เอง” เสี่ยวหาน “นั่วนั่วคนนั้นต้องไม่ใช่คนดี คุณลุงต้องบอกแม่ให้อยู่ห่างผู้หญิงคนนั้นนะครับ” “เป้าหมายของผู้หญิงคนนั้นคือพ่อของเธอ เธอกับแม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร” เสี่ยวหานไม่ได้สนใจว่าฟู่สือถิงจะอยู่หรือตาย ดังนั้นจึงไม่พูดอะไรอีก วันต่อมา หลังจากฉินอันอันตื่นแล้ว เธอทำอาหารเช้าให้เสี่ยวหาน เสี่ยวหานออกมาจากห้องแล้วเดินไปที่ห้องครัว “แม่ครับ วันนี้ลุงไมค์ออกไปเที่ยวกับพวกเราไม่ได้แล้วครับ” ฉินอันอันปิดไฟแล้วพูดงง ๆ ว่า “เขาป
“มีใครอยากลองไหม?” เจ้าหน้าที่ถามเอ่ยถามนักท่องเที่ยวที่สนใจ มีคนยกมืออยากลองจำนวนไม่น้อย ฉินอันอันเองก็ยกมือขึ้นเช่นกัน ทว่าร่างกายของเธอราวกับถูกมนต์สะกด ตัวเธอแข็งทื่ออย่างหนัก จนขยับไม่ได้ เธอเกือบลืมไปแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศนี้ ทว่าตอนนี้ ความทรงจำเหล่านั้นก็หลั่งไหลออกมาอย่างท่วมท้น! เธอคิดไม่ถึงเลยว่า เทคโนโลยีในปัจจุบันจะพัฒนาจนก้าวหน้าขนาดนี้ หุ่นยนต์สามารถเลียนแบบเสียงคนได้จริง ดังนั้นตอนที่เสิ่นอวี๋ถูกควักลูกตาแล้วได้ยินเสียงของเธอ เป็นไปได้ไหมว่าเสียงที่เธอได้ยินคือเสียงของหุ่นยนต์ ผู้หญิงคนหนึ่งได้รับเชิญขึ้นไปบนเวที เธอทักทายหุ่นยนต์ว่า “ไฮ สวัสดี ฉันชื่อลิลลี่ ฉันอยากทดสอบว่าคุณสามารถเลียนเสียงของฉันได้จริงไหม” หุ่นยนต์เงียบไปสองสามวินาที จากนั้นพูดว่า “สวัสดีลิลลี่ ฉันกำลังพยายามเลียนแบบเสียงของคุณ! คุณคิดว่าเหมือนไหม?” มีเสียงหัวเราะดังมาจากด้านล่างเวที! เสียงเลียนแบบของหุ่นยนต์นั้นค่อนข้างคล้ายคลึง เพียงแต่ท้ายที่สุดแล้วมันคือหุ่นยนต์ มันจึงพูดช้า ๆ และ ทื่อ ๆ ทำให้ฟังแล้วรู้สึกค่อนข้างแปลก จู่ ๆ หัวใจที่ตึงเครียดของฉินอันอันก็ผ่อนคลายลง ผ