อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ ฉินอันอันฟังคำสั่งของเขาและเอ่ยเหน็บแนม “ไม่ต้องรบกวนให้บอดี้การ์ดคุณต้องลำบากหรอก! ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน? ฉันจะไปหาเอง!” ที่โรงพยาบาล ฟู่สือถิงหยิบโทรศัพท์มือถือของแม่ขึ้นมา เส้นเลือดปูดขึ้นมาบนหน้าผาก เส้นลำตัวตึงแน่น! เขานึกว่าฉินอันอันจะต้องบอกเรื่องที่เธอคุยโทรศัพท์กับแม่ก่อนที่แม่ของเขาจะเสียชีวิตทางโทรศัพท์แน่ ๆ เขาปล่อยให้แม่ของเขาตายโดยไม่รู้สาเหตุไม่ได้ ฟู่ฮั่นเดินเข้าไปหาเขาอย่างระมัดระวังแล้วถามว่า “สือถิง แม่เสียแล้ว เรื่องงานศพ จัดตอนนี้เลยดีไหม?” ฟู่สือถิง “ต้องชันสูตรศพก่อน!” เขาต้องการพิสูจน์ว่ามันเป็นการฆาตกรรมหรือไม่! ถึงแม้ว่าแม่จะมีความดันโลหิตสูง แต่ผลตรวจสุขภาพของเธอก็นับว่ายังแข็งแรงดี น่าสงสัยมากว่าทำไมจู่ ๆ เธอถึงล้มและเสียชีวิตอย่างกะทันหันขนาดนี้ ฟู่ฮั่นพยักหน้า “ตกลง ฉันจะไปตามหมอ” ฟู่เย่เฉินประคองแม่ของเขาอยู่ข้าง ๆ และไม่กล้าหายใจเสียงดัง หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ รู้สึกวิตกกังวล เขาไม่สามารถแสดงข้อพิรุจใด ๆ ได้ ถ้าอาของเขารู้ว่าเขาเป็นคนผลักคุณย่าลงไปที่ชั้นล่างจนทำให้เธอเสียชีวิต อาจะต้องฆ่าเขาทันทีแน่ ๆ!
หลังจากที่ฉินอันอันได้ยินคำพูดของเธอ ในใจก็นิ่งสงบ เธอและกับฟู่สือถิงกลายเป็นศัตรูกันโดยสิ้นเชิง เธอไม่คิดว่าฟู่สือถิงจะเชื่อเธออยู่แล้ว “คุณเสิ่น คุณมีกลิ่นปาก ไม่มีใครเตือนคุณเลยเหรอคะ?” ฉินอันอันยกมือขึ้นปิดจมูก ใบหน้าของเสิ่นอวี๋บูดบึ้ง เธออยากจะโกรธและไม่กล้าเปิดปากพูด! ลิฟต์มาถึงชั้นที่กำหนด หลังจากส่งเสียงเตือน ประตูลิฟต์ก็ค่อย ๆ เปิดออก ฉินอันอันเดินออกจากลิฟต์ก่อน ไม่ไกลนัก ดวงตาที่เย็นชาของฟู่สือถิงเป็นประกายขึ้นทันทีเมื่อเขาเห็นเธอ ขายาวเดินไปหาเธอ เขาเดินไปตรงหน้าเธอพลันจับแขนเธอไว้แน่นแล้วพาเธอไปที่มุมห้อง เสิ่นอวี๋เฝ้ามองเขาทั้งสองเดินผ่านไป เธอยืนอยู่ที่เดิม ได้แต่มองดูพวกเขา เธอเห็นฉินอันอันเหวี่ยงแขนของฟู่สือถิงออก! หลังจากนั้นทันที เสียงของฉินอันอันก็ดังขึ้น “แม่ของคุณเป็นคนโทรหาฉันเอง! เราจะคุยอะไรกันมันก็เรื่องของเรา ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ! แม่ของคุณเสียชีวิตได้ยังไง คุณไม่คิดจะตรวจสอบด้วยตัวเองเลยเหรอ? นอกจากคุณจะมารบกวนฉันแล้ว คุณไม่มีทางเลือกอื่นเลยรึไง!” ดุเดือดมาก! เสิ่นอวี๋ไม่คิดว่าต่อหน้าฟู่สือถิง ฉินอันอันจะกล้าขนาดนี้! ดูเหมือนว่า
เสิ่นอวี๋ร้องไห้ “ฉินอันอัน! ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงหน้าด้านแบบคุณมาก่อนเลย! คุณกลับดำเป็นขาว กลับขาวเป็นดำ แล้วยังจะมาบอกว่าฉันเป็นคนทำอีก! ฉันบ้าหรือไง ถึงจะไปทำอะไรแบบนั้น?!” “ใช่! คุณบ้าไปแล้ว!” ฉินอันอันมองดูการแสดงของเธออย่างสงบ “คุณไม่ต้องดีใจไปหรอก ไม่ช้าก็เร็วหน้ากากของคุณจะต้องหลุดออกมาแน่” “หน้ากากอะไรกัน?! ฉินอันอัน! พูดมาให้ชัดเจนนะ...หน้ากากอะไร!” เสิ่นอวี๋ร้องไห้และรีบเดินไปหาฉินอันอัน ฉินอันอันแอบอยู่ข้าง ๆ ฟู่สือถิง เธอไม่อยากสู้กับคนบ้า มือของเธอจะสกปรกเอา หลังจากที่ฟู่สือถิงเหลือบมองเธออย่างเย็นชา เขาก็กั้นร่างของเสิ่นอวี๋ไว้ “เสิ่นอวี๋ ที่นี่คือโรงพยาบาล!” เขาเตือน “เรื่องระหว่างเธอกับผมยังพูดกันไม่จบ คุณควบคุมอารมณ์ไว้ก่อน!” หลังจากที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาจบ เขาก็คว้าแขนของฉินอันอันแล้วเดินไปที่ลิฟต์! เสิ่นอวี๋มองพวกเขาทั้งสองจากไป น้ำตาของเธอหยุดไหลทันที แม้ว่าเธอจะแค่แสดง แต่เธอก็อยากตบฉินอันอันจริง ๆ! ฟู่เย่เฉินเดินเข้ามาเงียบ ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเล็กน้อย “เสิ่นอวี๋ จู่ ๆ ผมก็รู้สึกว่าคุณกับผมอาจไม่เหมาะกัน คุณจิตใจเหี้ยมโหดเกินไป ผมสู้
รถโรลส์รอยซ์สีดำมุ่งไปข้างหน้าจากเมืองที่พลุกพล่านไปยังชานเมืองที่มีประชากรเบาบาง ฉินอันอันนั่งอยู่ที่เบาะหลังและหลับตาพักผ่อน ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน รถก็หยุด เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นเพียงป่าทึบแปลก ๆ ข้างนอกและหนาวเย็น คำถามมากมายผุดขึ้นมาในใจของเธอ ‘ที่นี่ที่ไหน?’ ‘ทำไมเขาถึงพาเธอมาที่นี่?’ “ที่นี่ที่ไหน?” เธอเงยหน้าขึ้นถามเขา “รีสอร์ทแห่งหนึ่งของผม” เขาเปิดประตูรถแล้วลงจากรถ ‘รีสอร์ท?’ เขาไม่ได้พาเธอมาที่นี่เพื่อพักผ่อนแน่นอน เธอลงจากรถแล้วเดินตามเขาไปที่รีสอร์ททีละก้าว รีสอร์ทแห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์กอทิก อาคารสีครามแห่งนี้ตั้งอยู่ในป่าทึบ เต็มไปด้วยบรรยากาศอันน่าสยดสยอง เธอรู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าไปในคุกแทนที่จะเป็นรีสอร์ท เธอหันกลับมาเห็นบอดี้การ์ดของเขาตามหลังมาติด ๆ ตอนนี้เธอไม่สามารถหลบหนีได้จริง ๆ หลังจากเข้าไปในรีสอร์ทแล้ว เธอก็ขมวดคิ้วเมื่อเห็นวิวด้านในที่เปิดโล่ง สไตล์การตกแต่งภายในดูมืดมนทำให้รู้สึกหดหู่! “ฉินอันอัน คุณเริ่มติดต่อกับแม่ของผมตั้งแต่เมื่อไร?” เสียงทุ้มต่ำของเขาดังตามมา ในขณะนั้นประตูวิลล่าป
แต่ดูสิว่าเธอปฏิบัติเขาอย่างไร? ความเมตตาและความใจอ่อนทั้งหมดของเขา ตอนนี้ดูเหมือนเป็นเพียงเรื่องตลก หลังจากตัดสินใจในระยะเวลาสั้น ๆ เขาก็หันหลังกลับ หลังจากที่บอดี้การ์ดเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร จึงลากตัวฉินอันอันออกไปทันที! จู่ ๆ ห้องโถงก็เงียบสนิทจนแทบได้ยินเสียงเข็มหล่น! เธอไม่ได้ร้องไห้หรือโวยวาย เธอแค่หายไปจากสายตาของเขาเท่านั้น เช่นเดียวกับเมื่อหลายปีก่อน เธอทิ้งเขาไว้อย่างเงียบ ๆ ...... ฉินอันอันถูกบอดี้การ์ดพาตัวไปที่ห้องใต้ดิน แสงไฟในห้องใต้ดินสลัวมาก สามารถมองผ่านไฟสลัว ๆ ได้ว่าในห้องนี้ไม่มีการตกแต่งใด ๆ พวกเขาวิ่งไปมาระหว่างคอนกรีตเสริมเหล็ก และมีเสียงแปลก ๆ ดังออกมาเป็นระยะ ๆ อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นเลือดเน่าที่น่าขยะแขยง! หลังจากเดินเข้าไปในห้องใต้ดินประมาณห้านาที บอดี้การ์ดก็ผลักเธอไปข้างหน้า! เธอไม่ได้ตั้งตัวจึงล้มลงกับพื้น! นิ้วของเธอสัมผัสกับบางสิ่งมีลักษณะเหนียว ๆ...เธอคว้ามันไว้ด้วยความกลัว... มันคือหญ้า! แต่มีเมือกบนหญ้าเยอะมาก! เมือกนี้มีกลิ่นคาวไม่พึงประสงค์! เธอขมวดคิ้วและโยนหญ้าในมือทิ้ง! “คุณฉิน ดูสิว่าข้างหลังคุณมีอะไรอยู่” บอ
ฉ่า! อ่างน้ำเย็นเทลงบนร่างของฉินอันอัน! เธอฟื้นจากการสลบแล้ว! บาดแผลบนศีรษะของเธอดึงเส้นประสาททั้งหมดในร่างกาย ทำให้เธอหายใจแผ่วเบา “ยังไม่ตาย” บอดี้การ์ดที่สาดน้ำขว้างอ่างออกไปแล้วพูดติดตลกว่า “คิดว่าตัวเองเหมือนในละครเหรอ แค่ชนนิดหน่อยก็ตายแล้ว? หึ! ตายง่ายขนาดนั้นเลย?!” “เราจะทำยังไงต่อไปดี? ผู้หญิงคนนี้พูดจาแข็งกร้าวเกินไป ถ้าไม่ใช้มาตรการรุนแรง เกรงว่าเธอจะไม่พูด” บอดี้การ์ดอีกคนพยักหน้า ฉินอันอันกัดฟันและมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา ความกลัวทั้งหมดที่อยู่ในใจกลายเป็นความเกลียดชัง ยิ่งฟู่สือถิงทำกับเธอแบบนี้มากเท่าไหร่ โอกาสที่เธอจะพูดออกมาก็จะน้อยลงมากเท่านั้น! แม้ว่าคนของเขาจะลอกหนังคว้านเนื้อของเธอก็ตาม! แม้ว่าเธอจะตาย เธอก็ไม่มีวันเล่าเรื่องลูกสองคนให้ฟัง! ส่งเด็กสองคนไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ดีกว่ามีพ่อเป็นปีศาจ! บอดี้การ์ดทั้งสองคนปรึกษากันอย่างเงียบ ๆ ที่ด้านข้าง จากนั้น หนึ่งในนั้นก็เดินมาหาเธอและจับมือเธอไว้แล้วลากเธอไปข้างหน้าอย่างโหดเหี้ยม “คุณฉิน อย่าคิดสั้นเลย...คุณสวยขนาดนี้ สามารถหาผู้ชายรวยหน้าตาได้...ไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองเลวร้ายยิ่งกว่าควา
เหมือนว่าเธอจะตายแล้ว… เมื่อมองดูเธอที่กำลังจะตาย เขาได้แต่ถามตัวเองในใจ ว่านี่คือผลลัพธ์ที่เขาต้องการงั้นหรือ?! ถ้าเธอตาย เขาก็จะเป็นอิสระใช่ไหม? แต่ทำไมใจถึงเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม?! เขาอุ้มเธอขึ้นมาจากพื้น! ร่างกายของเธอเย็นราวน้ำแข็ง ขณะที่กอดเธอ ก็รู้สึกราวกับกอดก้อนน้ำแข็ง! “ฉินอันอัน!” เขาร้องตะโกนออกมาจากลำคอ “ผมไม่ให้คุณตาย คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ตาย!” บอดี้การ์ดทั้งสองคนได้ยินเสียงร้องตะโกนของเขาว่ามีอารมณ์อื่นนอกจากความเกลียดชังด้วย! ดูเหมือนมีความตึงเครียดและไม่เต็มใจด้วยเช่นกัน! “เกิดอะไรขึ้นกับประธานฟู่? ฉินอันอันยังไม่ตายเสียหน่อยบ ฉันก็บอกเขาไปแล้วไม่ใช่เหรอ?” บอดี้การ์ดพูดอย่างงุนงง บอดี้การ์ดอีกคนกล่าว “ดูเหมือนประธานฟู่จะกลัวเธอตายน่าดูเลย” บอดี้การ์ดผู้ติดตามของฟู่สือถิงมองไปทางพวกเขาสองคน “พวกคุณสองคนทำรุนแรงเกินไป! ถ้าหากฉินอันอันอันเป็นอะไรขึ้นมา พวกคุณสองคนไม่รอดแน่!” บอดี้การ์ดสองคนตกใจอย่างรุนแรง “ประธานฟู่เป็นคนให้เราพาเธอลงไปนะครับ! อีกอย่างพวกเราอ่อนโยนต่อเธอมาก! แค่ใช้งูหลามขู่เธอเท่านั้น เธอวิ่งชนกำแพงเอง! ถ้าเธอไม่ชนกำแพง แน่ใจเลยว่าตอ
เธอควรรู้สึกเจ็บปวดหรือเสียใจถึงจะถูก ทว่าไม่มีน้ำตาไหลออกมาและไม่มีความรู้สึกใด ๆ เกิดขึ้นในใจเลย รู้สึกเพียงแค่ปวดหัวมาก ปวดจนกระทั่งแม้เพียงหายใจเบา ๆ ก็ยังฆ่าเธอได้ เธออยากลุกขึ้นมา แต่ร่างกายทั้งปวดร้าวทั้งเจ็บปวด เธอมีไข้ เห็นได้ชัดว่าร่างกายเธอร้อนมาก แต่กลับรู้สึกหนาวอย่างรุนแรง หลังจากฟู่สือถิงคุยโทรศัพท์เสร็จ เขาก็ส่งคืนให้บอดี้การ์ด บอดี้การ์ดชี้ไปทางเตียง เขามองไปที่เตียงทันทีดวงตาของเธอเปิดอยู่ แต่ใบหน้ากลับไร้ชีวิตชีวา เห็นได้ชัดว่าเธอตื่นแล้ว แต่ไม่ต่างอะไรกับตาย เขาเกลียดที่เธออยู่ในสภาพนี้! เขาอยากให้เธอทะเลาะกับเขามากกว่า! เขาก้าวเท้ายาวมาที่เตียง นิ้วเรียวยาวบีบคางเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดของเธอ ทำให้เขาปล่อยมือทันที! “ไปเรียกหมอมา!” เขาสั่งบอดี้การ์ดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด บอดี้การ์ดรีบไปเชิญคุณหมอทันที หลังจากบอดี้การ์ดไปแล้ว เธอก็หันหน้าไปอีกด้านเธอไม่อยากมองเขา เขาโกรธและบีบคางเธออีกครั้งด้วยฝ่ามือใหญ่ บังคับให้เธอหันมามองเขา “ฉินอันอัน คุณเคยคิดหรือเปล่า ถ้าคุณตาย ลูกทั้งสองคนของคุณจะอยู่ยังไง? พวกเขาเพิ่งโทรมาหาผม” เธอเคยคิดเกี่