“อ๋อ เอ่อ ฉันมากับเพื่อนค่ะ เรามากันหลายคน โน่นไงคะกำลังสนุกเชียว” พูดจบเธอก็บุ้ยหน้าไปตรงกลางฟลอ ซึ่งบอกได้คำเดียวว่าเยอะมาก นับไม่ถ้วนเลยทีเดียว เท่านี้เขาก็เดาได้แล้วว่าพวกเธอมาจากที่ไหนกัน“ให้ผมเดา บัณฑิตจากจอร์จทาวน์” เขาเดาได้ถูกต้องเลยทีเดียว ซึ่งเธอคิดว่าเขาได้ข้อมูลมาจากคาร่านั่นแหละ“อะไรทำให้คุณเดาได้ถูกต้องขนาดนั้น” ไอลดาหันมาถามเขาด้วยน้ำเสียงหวาน สายตายั่วยวนแปลกๆ “ก็ไม่เห็นจะยาก ผับนี้ใกล้มหาวิทยาลัยที่สุด อีกอย่างคุณมากับเพื่อนนับสิบๆ คนแบบนี้ ก็ต้องเป็นกลุ่มนึกศึกษาอยู่แล้ว” เขาเดาได้ถูกต้องอีกแล้ว และมันยิ่งสร้างความมั่นใจให้เธอเพิ่มมากขึ้น ว่าเขาคือคนที่คาร่าส่งมาชัวร์“แสดงว่าคุณก็มาที่นี่บ่อย ถึงได้ดูออกขนาดนี้ หรือไม่ก็ควงสาวนักศึกษามาด้วยหรือเปล่าคะ” เธอถามหยั่งเชิง“หึๆ เห็นผมควงใครล่ะครับ” เขายิ้มและส่งสายตาเจ้าชู้ให้กับเธอ ทำให้รู้สึกเขิน แต่ไม่ชอบความเจ้าชู้ของเขาเลย นิสัยเพลย์บอยแบบนี้ไม่ขอใกล้จะดีกว่า แต่เพื่อให้แผนของคาร่าดำเนินไปได้ ไอลดาต้องเล่นไปตามน้ำเสียก่อน จากนั้นจะตอกหน้าผู้ชายคนนี้ให้หงายไปเลย “ก็ไม่แน่ว่าคนที่คุณควงมาอาจจะอยู่ในกลุ่มของเพื่อน
“คนแปลกหน้าคงไม่รู้จักชื่อกัน แต่ผมรู้จักชื่อคุณแล้วนะไอซ์” เมื่อ นิโคไลพูดจบ เธอจึงเอี้ยวตัวหันกลับไปหาและไม่ทันได้ระวังว่าเขายืนประชิดด้านหลัง ทำให้เธอชนเข้ากับแผงอกกว้างๆ จนต้องเซถลาเล็กน้อย เป็นจังหวะให้นิโคไลสอดวงแขนขวา คว้าเอวเธอเอาไว้ไม่ให้ล้ม ก่อนจะรั้งเข้ามากอดโดยอัตโนมัติ“เอ่อ ขอบคุณค่ะ” เธอรีบตั้งสติแล้วก็ดันตัวออกจากวงแขนของเขาทันที ในความยั่วและอ่อยของเธอ เขามองว่ามีความระมัดระวังตัวอยู่พอสมควร เหมือนจะง่ายแต่ไม่ง่ายซะทีเดียว เขาคิดและยิ้มกริ่มเจ้าชู้“นะครับเต้นรำกัน” นิโคไลเอ่ยปากขอร้องอีกครั้ง ดูซิว่าเธอจะยอมหรือเปล่า แน่นอนว่าเธอจะยั่วให้ถึงขีดสุด“แต่ในมือคุณยังถือแก้วเหล้าอยู่เลย เอาเป็นว่าเราไปนั่งดื่มต่อดีกว่านะคะ” ไอลดายื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ แล้วเอ่ย ก่อนจะจับมือเขา แล้วพาเดินกลับออกไปนั่งที่เดิม จากนั้นเธอจึงปล่อยมือเขาให้เป็นอิสระ “ดูเหมือนคุณไม่อยากจะสนุกกับเพื่อนสักเท่าไหร่” นิไคไลถามพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้และหันหน้าออกไปฟลอ “ฉันมีเรื่องที่น่าสนใจต้องทำค่ะ” พูดจบปุ๊บไอลดาก็ปรายตามองเขาด้วยแววตาแพรวพราว“อย่างเช่น...” เขาถามเพื่อว่าคำตอบจะเป็นการเล่นสนุกกับเข
“อื้อ! พระเจ้า!” เขาอุทานด้วยความเจ็บและจุก ส่วนมือก็กุมส่วนนั้นเอาไว้ก่อนจะทรุดกายลงกับพื้น หากแสงสว่างมากกว่านี้คงได้เห็นเขาหน้าเขียวแล้วเพราะของรักโดนรังแก“ลาก่อนคุณแอนตัน” ไอลดากล่าวยิ้มๆ ก่อนจะเดินจากไปทว่าต้องชะงักแล้วหันมาเอ่ยกับเขาอีกครั้ง“อ๋อ ฝากอีกสักครั้งนะคะ” ทันทีที่พูดจบเธอก็มองไปที่เคาน์เตอร์ ขณะที่บาร์เทนเดอร์กำลังเสิร์ฟเครื่องดื่มให้แขกอีกคนอยู่พอดี เธอจึงคว้าเอาแก้วเหล้าแล้วสาดใส่หน้าเขาอีกครั้ง หมดกันความหล่อ“ดื่มให้สนุกนะคะ” พอสาดเหล้าใส่หน้าเขาได้ยังไม่พอ เธอยังใช้มือแตะที่ใบหน้าของเขาเบาๆ เหมือนจะเยาะเย้ย จากนั้นจึงส่งแก้วกลับคืน แล้วเดินจากไปพร้อมกับรอยยิ้มของความสะใจ“พระเจ้า! อ่า!” เจ็บและจุกยังไม่พอ ยังเสียหน้าเพราะถูกเหล้าสาดจนเปียก จังหวะเดียวกันนั่นเองเพื่อนของนิโคไลสองคนก็เข้ามาหาพอดี อันที่จริงก็สังเกตอยู่สักครู่แล้ว ว่ากำลังมีเรื่องกับสาวสวยคนนั้น“นิค! เฮ้! เป็นอะไรวะเพื่อนทำไมเนื้อตัวมีแต่กลิ่นเหล้า” แจ็คสันเพื่อนคนหนึ่งถาม พร้อมกับพยุงเขาให้ลุกขึ้น“ก็จะอะไรซะอีกล่ะ อืม พยุงทีสิ” นิโคไลลุกไม่ขึ้นเพราะยังจุกอยู่“ให้ตายสิ เพื่อนฉันโดนลบเหลี่ยมสิ้นล
“จูบอะไรช่างจืดชืด ห่วยแตก ไม่ได้เรื่อง” ไอลดาแสร้งว่าไปอย่างนั้นเอง “หึๆ นี่ถ้าอยากได้จูบหวานๆ โรแมนติกล่ะก็ ต้องแกล้งยอมเสียบ้าง ไม่ใช่ไม่ยอมคนแบบนี้” “ไม่ต้องสอนน่าเทรซีย์ ไม่มาเป็นฉันไม่รู้หรอก เฮ็งซวยที่สุด แบบนี้น่ะหล่อแค่ไหนก็ไม่มีทางเก็บไปฝันแน่นอน” “จริงเหรอ เขาก็น่าฝันถึงเหมือนกันนะ หล่อขนาดเนี่ยยอมให้จูบเลยเอ๊า” ให้ตายสิ เทรซีย์ไม่นึกเป็นห่วงเพื่อนเลย“เชิญเธอฝันไปคนเดียวเถอะ” ไอลดาว่าด้วยความไม่พอใจ ขณะเดียวกันกลุ่มเพื่อนๆ ทั้งชายและหญิงต่างพากันเดินมาสมทบที่โต๊ะ เมื่อเต็มแล้วก็นั่งโต๊ะข้างๆ ที่จองกันเอาไว้ เรียกได้ว่าไอลดารายล้อมไปด้วยเพื่อนนับสิบคน ตอนนี้คนที่กำลังหาโอกาสหรือจังหวะเวลาที่จะเข้ามาถึงตัวเธอนั้นยากยิ่งขึ้นไปอีก ทำให้แผนการที่จะลากเธอไปนอนด้วยแล้วแบลคเมลนั้นเป็นไปได้ยากเสียแล้ว เช่นเดียวกัน เพราะไอลดาก็ดันเข้าใจว่านิโคไล คือเพื่อนของคาร่า แถมยังแก้เผ็ดและหักหน้านิโคไลเสียจนลงไปนั่งจุกอยู่กับพื้น เล่นกับผู้ชายผิดคนแบบนี้เธอมีโอกาสแย่โดยไม่รู้ตัว ส่วนนิโคไลก็รอแก้แค้นแม่ตัวดีที่ตบหน้า กระทุ้งเป้า และไหนจะเอาเหล้าสาด เรียกได้ว่าสาม กระทง โดยที่เขาไม่ได้มีคว
“เอางั้นเหรอ ให้ฉันไปส่งไหมเพื่อน” เทรซีย์ขันอาสา แต่ถ้าไอลดากลับเองได้ ไม่ได้น่าเป็นห่วงเพราะย่านนี้เป็นย่านที่คนพลุกพล่านตลอดทั้งคืน อพาร์ต์เมนท์ของไอลดาก็อยู่ไม่ห่างจากผับสักเท่าไหร่ ไม่เปลี่ยว ไม่น่ากลัว“ไม่ต้องหรอกจ้ะ ฉันกลับเองเป็นประจำอยู่แล้ว ห้องพักก็อยู่ไม่ไกลด้วย อีกอย่างเธอยังไม่อยากกลับ ฉันรู้” ไอลดาบอกอย่างรู้ทัน ทำให้เทรซีย์ยิ้มหน้าเจื่อนๆ “ก็แหม หนุ่มๆ เยอะขอฉันอยู่ต่ออีกสักพักก่อน”“งั้นหนุ่มๆ ก็อยู่เป็นเพื่อนเทรซีย์ก็แล้วกันนะ เอาไว้เราเจอกันใหม่ บายนะเพื่อนๆ” “บาย!” เพื่อนๆ ของไอลดาต่างโบกมือลา จากนั้นไอลดาจึงคว้าเสื้อคลุมหนัง พร้อมกับกระเป๋าสะพายแล้วออกจากร้านไป แต่ทุกอย่างอยู่ในสายตาของนิโคไลทั้งสิ้น รวมถึงครูสเพื่อนของคาร่าก็มองตามไปจนกระทั่งไอลดาเดินพ้นจากร้าน และเมื่อครูสเห็นดังนั้นจึงรีบตามไปทันที เพราะถึงอย่างไรมันก็คือโอกาส“ฉันไปละ” นิโคไลบอกอย่างรีบร้อน ก่อนจะใส่เสื้อสูทเอาไว้ตามเดิม แล้วเดินออกไปจากร้านเช่นกัน แต่กว่าจะออกมาได้ก็ต้องเบียดเสียด จนทำให้เสียเวลาเพราะกลัวว่าไอลดาจะคลาดสายตา ขณะเดียวกันคนที่ทำให้นิโคไลรีบร้อน กำลังเดินออกมาจนถึงหน้าร้าน เ
กระทั่งเธออ่อนระทวยเสียเองและพานให้หมดสติไปด้วยฤทธิ์เตกีลา ยังไม่ทันที่เขาจะได้อิ่มเอมทว่าเธอหลับไปเสียดื้อๆ ทำเอาอารมณ์ค้างไม่น้อย แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ถอยห่างออกมาเล็กน้อยก่อนจะคลี่ยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์ “หึๆ แม่ตัวดี เดี๋ยวคุณรู้ว่าเล่นอยู่กับใคร” นิโคไลบอกด้วยน้ำเสียงเรียบ ก่อนจะหันไปจับพวงมาลัย และปล่อยให้เธอหลับไป จากนั้นก็ออกรถทันที จุดหมายปลายทางไม่ใช่อพาร์ต์เม้นต์ของไอลดาอย่างแน่นอน เพราะเขามีอะไรจะเล่นสนุกกับเธอนิดหน่อย ฉะนั้นก็ต้องเป็นเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของเขาถึงจะถูก งานนี้ไม่รู้จะโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ที่ไอลดาดันมาเจอกับนิโคไล ผู้ชายเพลบอยในฝันของสาววอร์ชิงตัน เพนท์เฮ้าส์ของนิโคไลอยู่ไม่ไกลจากผับแห่งนี้เช่นกัน แถมยังอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยจอร์จทาว ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ไอลดาเรียน อีกทั้งใกล้กับสถานที่ทำงานและหลายๆ สถานที่ซึ่งสะดวกสบายมาก เขาใช้เวลาขับรถอยู่เพียงสิบนาทีก็เดินทางถึง ตึกสูงตระหง่านกว่าสี่สิบเก้าชั้น หรูหราราคาแพงและมีแต่มหาเศรษฐีเป็นเจ้าของ หนึ่งในนั้นคือนิโคไล เมื่อลงจากรถได้ก็อ้อมมาเปิดประตูแล้วช้อนอุ้มเธอเอาไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะล็อกรถให้เรียบร้อย แล้วพาขึ้นลิ
“อย่ามาเรียกฉันว่าที่รัก” สะใจเขาเหลือเกินที่ทำให้เธอมีสีหน้าเหมือนจะระเบิดอารมณ์ออกมาเนี่ย“ก็เรานอนด้วยกันทั้งคืน คุณก็เป็นที่รักของผมแล้วจริงไหม แต่เมื่อคืนคุณก็บอกให้ผมเรียกที่รักนี่นะ จำไม่ได้จริงๆ เหรอ” พูดจบเขาก็ยิ้มกริ่มเจ้าเล่ห์ “ปล่อย ฉันจะกลับ” ยิ่งเธอพยายามที่จะดันตัวออกห่างมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรัดเอาไว้แน่นกว่าเดิม คราวนี้เธอเลยทุบและตีเขาอีกรอบกะเอาให้ช้ำกันไปข้างหนึ่งเพียะ! เพียะ! เพีย! ตุบ! ตุบ! ตุบ! “โอ้ยที่รัก! ไม่เอาอย่าดุสิ จะแปลงร่างเป็นแม่เสือตอนนี้ผมก็ไม่ไหวนะ” ยิ่งเขาพูดเธอก็ยิ่งโมโห และฝ่ามือของเธอไม่ได้ทำให้เขาสะทกสะท้านหรืออย่างไร เธอคิด “ไอ้ฝรั่งบ้า ปล่อย” เธอตัดสินใจผลักเขาออกแรงๆ กระทั่งหลุดออกจากกัน เท่านั้นแหละเธอก็รีบกระโดดลงจากเตียง แต่จังหวะเดียวกันนั้นนิโคไลกำลังจะก้าวตามหมายจะไปขวางไม่ให้เธอไปไหน ทว่าเธอตะโกนขึ้นเสียก่อน“หยุด!” คำห้ามปรามของเธอทำให้เขาหยุดชะงักจริงๆ“อะไรอีก” นิโคไลถามด้วยความสงสัยหรือแกล้งโง่กันแน่เนี่ย เธอคิดพลางมองตาขวาง“ไม่ต้องลงมานั่งอยู่ตรงนั่นแหละ” ไอลดาชี้นิ้วสั่ง สีหน้าและแววตาบอกได้เลยว่าเตรียมที่จะขย้ำคอเขาได้ทุกเ
เพื่อความแน่ใจ และเอาให้สาแก่ใจในสิ่งที่เธอทำ นิโคไลจึงจับมือเธอเอาไว้ดังเดิมและค่อยๆ กดต่ำลงไปหมายจะให้เธอจับที่เอวของเขา “นี่คุณจะทำอะไร” เธอถามทั้งที่ยังไม่ลืมตา แต่มือเรียวถูกบังคับให้เอื้อมต่ำลงทำให้เธอตกใจ“อยากรู้ก็ลืมตาสิ” เขาก้มหน้ากระซิบแผ่วเบา“มะ มะ ไม่ ปล่อยมือฉัน” เธอพยายามดึงมือกลับแต่ไม่เป็นผล และเขายิ่งจับมือเธอไว้แน่น“คุณแอนตัน ปล่อย” เธอกลัวเหลือเกินที่จะต้องสัมผัสกับส่วนนั้น ส่วนที่กำลังนึกถึงอยู่เนี่ย“ผมจะไม่ปล่อยจนกว่าคุณจะลืมตา” พอพูดจบก็ได้โอกาส เพราะเขายื่นหน้าเข้าไปแนบชิดริมฝีปากกับใบหูของเธอเสียเลย และคิดว่าถ้าหากไม่อยากเสียเปรียบเขา เธอก็ต้องลืมตาขึ้น“ไม่นะ หยุด ฉันลืมตาแล้วก็ได้” เมื่อความกลัวทำให้เธอกล้า จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นทีละนิดและทีละข้าง อันดับแรกเบื้องคือแผงอกกว้างเปลือยเปล่าอยู่ใกล้แค่คืบ จากนั้นเธอจึงไล่สายตาลงอย่างเชื่องช้าเพื่อมองที่มือของตนเอง แต่แล้วก็ต้องเบิกดวงตากว้างจะว่าหน้าแตกหรือโมโหก็ไม่รู้ที่ถูกเขาแกล้งแบบนี้“นี่! คุณไม่ได้แก้ผ้านี่” เธอต่อว่าด้วยความไม่พอใจ“แล้วใครบอกว่าผมแก้ผ้า คุณน่ะคิดลึกเองต่างหาก ในสมองคิดจะเห็นส่วนนั้นของผมล
“ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากให้คุณทำ ถือเสียว่าแกล้งออกเดตกับผม”“เราเพิ่งรู้จักกันและเริ่มต้นกันได้ไม่ดีเท่าไหร่”“งั้นเรามาเริ่มต้นกันใหม่ เดตกันตอนนี้เลย”“คุณไวไฟเกินไปหน่อยแล้ว”“ผมเชื่อว่าคุณก็ไม่ต่างกับผมสักเท่าไหร่”“ฉันไม่... ไม่... เอ่อ” ไอลดาจะบอกเขาอย่างไรดีล่ะว่าไม่ได้ไวไฟขนาดนั้น ทุกอย่างมันก็แค่การเสแสร้งเอาตัวรอด หัวดื้อหัวแข็งเพื่อผู้ชายจะได้ไม่ต้องเข้าใกล้เธอ ซึ่งอันที่จริงแล้วเธอก็อยากจะมีใครสักคน เพราะอายุขนาดนี้แล้วบางทีก็อดนึกถึงเรื่องเซ็กส์ด้วยความก๋ากั๋นไม่ได้ แต่เธอเองก็กล้าคิดเกินไปแล้ว“ไอซ์ ถ้าคิดว่าผมไวไฟ ก็ช่วยดับไฟให้ผมสิ” นิโคไลกระซิบเสียงนุ่ม ซึ่งเธอเข้าใจความหมายเป็นอย่างดี และเมื่อได้ยินเช่นนี้ก็รีบเงยหน้ามองเขาทันทีหวังจะสบตา เพื่อค้นหาความหมายในสิ่งที่เขาพูด แต่ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยริมฝีปากของเธอก็ถูกปิดสนิทแน่นด้วยเรียวปากร้อนๆ ประทับจูบลงมาอย่างถือสิทธิ์ไอลดายืนนิ่งเหมือนช็อก ขณะที่เขากดจูบหน
“อยากทานอะไรอีกไหมครับ ผมจะสั่งให้” นิโคไลชวนเธอคุยเพื่อทำลายความเงียบเมื่อเห็นว่านิ่งไป “ไม่ล่ะค่ะ ฉันอิ่มแล้ว ถ้าไม่ว่าอะไรฉันจะดื่มไวน์” จะว่าไปแล้วมันเป็นเครื่องดื่มที่เธอชอบ แต่หากดื่มเข้าไปมากมีหวังเสียการควบคุมตัวเองเหมือนคราวที่ดื่มเตกีล่าเข้าไปแน่ๆ“เดี๋ยวผมดื่มเป็นเพื่อน” จบคำเขาก็รินไวน์ให้กับเธออีกครั้ง คราวนี้ภายในร่างกายเริ่มมีแอลกอฮอลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นิโคไลคอแข็งสำหรับเครื่องดื่มแบบนี้ ทว่ากับไอลดาเมื่อดื่มไปมากหน่อยก็ทำให้มึนได้เหมือนกัน แต่เกรงว่าจะเป็นเหมือนเมื่อคืนจึงต้องหยุดดื่มเสียก่อน เมื่อนิโคไลเห็นว่าเธอกำลังเมาได้ที่ เขาจึงลุกเดินเข้าไปหา พร้อมกับโน้มตัวลงกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู“เต้นรำกับผมสักเพลงนะไอซ์” นิโคไลเอ่ยขอด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มและเรียกชื่อเล่นเธออย่างสนิทปาก ความรู้สึกบางอย่างทำให้เธอตอบรับการขอเต้นรำด้วยความเต็มใจ มันเป็นอารมณ์อยากรู้อยากลองของคนที่มีแอลกอฮอลอยู่ในเส้นเลือดนั่นเอง“ค่ะ” ไอลดาตอบรับก่อนจะลุกขึ้น จากนั้นเขาจึงพยุงให้เธอเดินมาที่กลางโซน โดยที่เพลงบรรเลงไปเรื่อยๆ ขับกล่อมให้อารมณ์ของทั้งคู่โลดแล่นไปกับความโรแมนติก ไม่มีการถกเถียงหรือต่
นิโคไลล็อกประตูเรียบร้อย แล้วจึงพาไอลดาเดินไปตามเส้นทางที่ส่งไปจนถึงส่วนที่เรือจอดอยู่ ระหว่างนี้บรรดาลูกค้าที่อยากจะมาดื่มด่ำกับอาหารสุดหรู พร้อมกับการล่องเรือชมแม่น้ำโปโตแมคเริ่มทยอยกันขึ้นเรือบ้างแล้ว เพราะเวลาหนึ่งทุ่มตรงเรือจะแล่น“เรือ Odyssey Washington” ไอลดากล่าวด้วยความทึ่งเมื่อเดินเข้ามาใกล้ๆ เรือ เพราะมันลำใหญ่มาก“เคยมาหรือเปล่า” นิโคไลถามเสียงเรียบ “ยังค่ะ ฉันไม่รู้ว่าจะมาทำไมและมากับใคร เพื่อนๆ ฉันก็ไม่มีรสนิยมแบบนี้” “ท่าทางคุณก็มีฐานะคนหนึ่ง ผมนึกว่าชอบอะไรหรูหราซะอีก” “ก็ชอบค่ะ แต่อย่างที่บอกไม่รู้จะมากับใครเหมือนกัน มาคนเดียวก็คงจะไม่สนุก” “คุณก็ได้มากับผมแล้วนี่ไง หวังว่าจะสนุกนะครับ” คงจะสนุกอยู่หรอกมากับผู้ชายที่รู้จักกันเพียงหนึ่งวันหนึ่งคืน“เอ่อ จะพยายามค่ะ” ไอลดาตอบเสียงเรียบพลางมองไปเบื้องหน้า ขณะที่กำลังจะก้าวขึ้นเรือโดยมีพนักงานต้อนรับผายมือเชิญ“ถึงกับต้องพยายามเลยเหรอ” นิโคไลอดถามไม่ได้“คุณก็รู้ว่าเรามาด้วยกันเพราะอะไร” นั่นสินะมันไม่ได้มีความหมายอะไรต่อกันเลย แต่ให้ตายสิ เขาไม่อยากให้คืนนี้ผ่านไปเร็วเลย อดคิดไม่ได้ว่าเป็นเพราะเขายังไม่ได้สอยเธอมานอ
“ออกหนึ่งทุ่มเราจะไม่ทัน ว่าแต่แต่งตัวสวยๆ นะครับ” จบคำเขาก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะสูดดมความหอมอย่างถือสิทธิ์โดยไม่ได้เอาจมูกแตะเพราะเขายังมีมารยาทพอ อีกอย่างมันยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะทำ“ปล่อยได้แล้ว” เธอสั่งเสียงต่ำและดุเข้มจากนั้นจึงผลักเขาออกแรงๆ กระทั่งหลุด นิโคไลยักคิ้วใส่เธออย่างคนเจ้าเล่ห์แต่ไร้รอยยิ้ม เมื่อพอใจแล้วเขาจึงเดินไปที่ห้องแต่งตัว เลือกชุดที่ตัวเองต้องการอยู่สักพักแล้วจึงออกไปทันที เพื่อว่าเขาเองจะได้อาบน้ำแต่งตัวในอีกห้องนอนหนึ่งแต่เล็กกว่ามาก ซึ่งห้องนั้นเอาไว้รับรองแขกนั่นเอง ส่วนไอลดาเมื่อเห็นว่าเขาออกไปแล้ว จึงได้รีบเข้าไปอาบน้ำด้วยความรวดเร็ว แล้วออกมาแต่งตัวตามที่ตามที่เขาต้องการ เวลาผ่านไปนานพอสมควรสำหรับสุภาพสตรีในการแต่งองค์ทรงเครื่อง ไม่ว่าหน้าตาหรือผมเผ้าก็ต้องสวยเป๊ะ นิโคไลอดคิดไม่ได้ว่าหากไอลดาสวมใส่ชุดที่เขานำมาให้แล้วจะสวยแค่ไหน ต้องยอมรับว่าเธอเป็นผู้หญิงไทยที่สวยมาก คิดว่าใส่ชุดอะไรก็คงสวยทั้งนั้น เขานั่งคิดไปพลางยิ้มไปพลางหลังจากที่แต่งตัวเสร็จ เผลอลืมความกริ้วโกรธไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ สำหรับนิโคไลนั้นเลือกชุดสูทสีดำเข้ารูปมาสวมใส่ พิเศษ
“คุณคงเป็นคนไทยที่ไม่รู้จักลำบาก พ่อแม่ประเคนให้ทุกอย่าง หวังจะเรียนจบสูงๆ กลับไปจะได้เป็นผู้บริหารเลย ไม่เคยสัมผัสคำว่าลูกจ้าง แต่ระวังไว้หน่อยอะไรมันก็ไม่แน่นอน เศรษฐกิจมันผันแปรตลอด วันนี้คุณไม่ต้องขอเงิน แต่วันข้างหน้าไม่แน่” “ไม่ต้องมาสอนฉัน ครอบครัวฉันก็เป็นนักธุรกิจเหมือนกับคุณนั่นแหละ” “อย่าทะนงตัวเกินไปครับ คนเรามันมีล้มกันได้ แล้วเวลาล้มไม่มีใครช่วย จะมีก็แต่คนซ้ำเติม” เขาพูดเหมือนเคยล้มมาก่อนอย่างนั้นแหละ เธอคิด “พูดเหมือนคุณเคยล้มมาก่อน” เธอถามด้วยความสงสัย “ก็ล้มก่อนที่จะมีวันนี้ไงครับ” เขาบอกเพียงสั้นๆ แต่เธอไม่คิดที่จะถามต่อเพราะไม่อยากเสียมารยาท หากเขาอยากจะเล่ามันก็อีกเรื่องหนึ่ง“เราคุยกันเรื่องธุรกิจได้ยังไงเนี่ย ฉันถามคุณกลับบ้างได้ไหม” เขายักไหล่เป็นเชิงอนุญาต“คุณไม่มีครอบครัวเหรอคะ” เธอถามรวมๆ ไม่อยากจะระบุว่ามันคือแฟนหรือพ่อแม่ “ถ้าหมายถึงพ่อแม่ท่านเสียไปหลายปีแล้ว คุณแม่ผมร่างกายไม่แข็งแรงเป็นหลายโรค พ่อผมป่วยเป็นมะเร็งกล่องเสียง ผมถึงไม่สูบบุหรี่ไง” จะบอกว่าตัวเองรักษาสุขภาพแต่ดื่มเหล้าอย่างนั้นสินะ“บุหรี่ไม่สูบแต่ดื่มเหล้าน่ะหรือคะ ประเดี๋ยวจะกลายเป็นม
“กลับกัน ผมไม่ได้มีความสุข ผมโกรธและไม่พอใจต่างหาก” พูดแล้วก็อยากจะให้เขาส่งกระจกเสียเหลือเกิน ว่าคนกำลังโกรธอยู่เป็นอย่างไร ยิ้มแย้มเจ้าเล่ห์แค่ไหน “ก็คุณมันหยาบคายจริงๆ นี่นะ ไม่รู้ตัวเลยหรือยังไง” “แล้วคุณล่ะ ดีเหลือเกินใช่ไหม พอๆ กันนั่นแหละ” เอาแล้วสิทั้งคู่เริ่มเถียงกันอีกครั้งแล้ว“ฉันไม่เคยเอาใครไปขังไว้ในห้องก็แล้วกันน่า ฉะนั้นเราสองคนน่ะมันต่างกัน” “ไม่ต่างกัน เพราะอะไรรู้ไหม คุณก็อยาก ผมก็อยาก จะแปลกอะไรถ้าเรามาจบกันที่นี่” เมื่อเขาพูดจบเธอก็อยากจะตะบันหน้าเขาสักที ถ้าไม่ติดว่ามีคดีกับเขาอยู่ หากทำอะไรไปในตอนนี้มีหวังคดีเพิ่มแล้วเขาอาจจะไม่ปล่อยกลับเลยก็เป็นได้“คุณนี่มันน่ารังเกียจ ฉันไม่ได้ต้องการอะไรฉันจะกลับ และถ้าออกไปได้จะแจ้งความจับคุณ”“คุณไม่กล้าหรอกที่รัก” ดูเหมือนเขาจะมั่นอกมั่นใจเหลือเกินว่าเธอจะไม่เอาความ“นิโคไล ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะค่ะ ฉันเรียนจบและกำลังเตรียมตัวจะกลับบ้าน” “ไม่ว่าบ้านคุณอยู่ที่ไหน มันก็ไม่หนีหายไปไหนหรอกครับ อยู่เคลียร์ปัญหาของคุณกับผมซะก่อน และอย่าคิดที่จะไปไหน ตราบใดที่ข้อตกลงของเรายังไม่สิ้นสุด” เขาบอกอย่างเด็ดขาด “ฉันยังไม่ได้ตกลงก
“พูดอย่างกับว่าฉันมีอารมณ์อย่างนั้นแหละ” เธอตอบกลับพลางเบ้ปากใส่เขาเล็กน้อย“เอาไว้เรามาสร้างอารมณ์ด้วยกัน เลิกพูดมากได้เลย ผมอยากเห็นคุณใส่เสื้อของผมนะที่รัก ผมจะรออยู่ตรงนี้ ไปเปลี่ยนชุดซะ” เขาออกคำสั่งมาหลายครั้ง จึงทำให้เธอตัดสินใจลุกขึ้นแล้วหยิบเสื้อที่เขาให้เดินเข้าห้องแต่งตัว ภายในเวลาไม่ถึงสองนาที่ก็กลับออกมาพร้อมกับชุดใหม่ ซึ่งชุดไม่ได้เลิศเลออะไรเลย มันคือเสื้อเชิ้ตสีกรมท่าของเขาที่ตัวใหญ่และยาวคลุมลงมาจนถึงน่องอวดขายาวเรียวขาวได้เป็นอย่างดี ปลุกเสือร้ายและความหื่นจากสายตาของเขาพอสมควร ทรวดทรงองค์เอวของเธอน่ามองไม่เบา เมื่อเห็นดังนั้นแล้วเขาก็ลอบยิ้มก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ“คุณใส่ชุดนี้มันก็ไม่ได้เสียหายอะไร เพราะไม่ได้ไปไหน” “แล้วคุณแต่งตัวแบบนี้จะไปไหนเหรอคะ อย่าบอกนะว่าจะขังฉันไว้ที่นี่คนเดียว”“ผมไม่ใจร้ายขนดานั้นหรอก คุณยังไม่ได้ทานมื้อเช้าไม่ใช่เหรอ”“ฉันยังไม่หิว” เธอตอบปฏิเสธทันควันทั้งที่ท้องมันกำลังทรยศ “งั้นเหรอ แต่ผมหิว ผมจะไปทำอะไรทาน ถ้าสนใจก็ตามไปที่เคาน์เตอร์ได้นะครับ” ว่าแล้วเขาก็เดินออกไปจากห้องทันที แล้วตรงไปยังเคาน์เตอร์ครัว ส่วนไอลดาก็เดินตามด้วยค
“แต่ผมก็ได้คุณมาอยู่ในห้องแล้ว และเราก็...” เขาพูดไม่จบแต่กลับยกนิ้วชี้แตะกันเอาไว้ พร้อมกับหมุนสลับกันไปมาให้เธอคิดลึกเล่นๆ “คุณ! ตกลงว่ายังไง คุณทำอะไรฉันหรือเปล่า” ไอลดาถามราวกับว่าไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน คนมีอะไรมันต้องรู้สึกถึงสัมผัสทางกาย แม้ว่าจะเสร็จสิ้นช่วงนั้นมาแล้วก็ตาม แต่นี่เธอยังไม่รู้ด้วยซ้ำ มันทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าเธอเจนจัดเรื่องอย่างว่าหรือไม่ หรือเวอร์จิ้น“คุณโวยวายอย่างกับว่าถ้าผมไม่ทำ แล้วคุณจะโกรธมากกว่านี้อย่างนั้นแหละ” “หยาบคาย” เธอจะไม่ถามอะไรอีกนอกเสียจากไปให้พ้นๆ เขา ด้วยการเดินห่างออกไปเพื่อยืนมองวิวทิศน์ของแม่น้ำอันคุ้นเคย“เอาไว้เราค่อยคุยกัน ผมขออาบน้ำก่อน แต่คุณ... เปลี่ยนชุดไว้รอก็แล้วกัน” นิโคไลยังไม่อยากถกเถียงกับเธอในเวลานี้ จึงตัดปัญหาด้วยการเดินกลับเข้าห้องอีกรอบเพื่ออาบน้ำ คิดว่าเขาจะเข้าห้องนานแต่เปล่าเลย เขากลับออกมาพร้อมกับเสื้อคลุมสีขาวกับเสื้อเชิ้ตสีกรมท่าพร้อมกับยื่นให้เธอ “เปลี่ยนซะ แล้วก็รออาบน้ำ แต่ผมจะเข้าไปอาบเสียก่อน” “ฉันไม่ใส่ชุดพวกนี้แน่ๆ” ดูเธอจะมั่นใจเหลือเกินว่าจะปฏิเสธได้ “คุณจะไม่ใส่อะไรเลย ผมก็ไม่ว่านะที่รัก ดีเสียอ
“คุณฉลาดมาก ใช่มันอยู่กับผม ผมถึงบอกไงทำให้ผมหายโกรธแล้วจะปล่อยกลับ” “แค่นี้เองเหรอ แล้วทำไมต้องลากฉันมานอนด้วย” “ผมจะทำมากกว่านอนด้วยซะอีก ถ้าคุณยัง... ร้าย” เมื่อเขาพูดจบเธอได้แต่ยืนกำมือแน่นเพื่อกดกลั้นความโกรธเอาไว้ ขณะที่เขากลับเดินตรงไปยังห้องรับแขกซึ่งมีกระจกใสบานใหญ่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำโปโตแมคได้เป็นอย่างดี จากนั้นนิโคไลก็แสร้งเป็นไม่สนใจต่ออาการเกรี้ยวโกรธของเธอ “คุณต้องการแค่ให้ฉันขอโทษเท่านั้นเหรอ แล้วทำไมต้องทำให้ฉันเสียหายด้วยการให้ฉัน... อยู่ในห้องนี้ด้วย” “อยู่กับผมมันเสียหายตรงไหน ผู้หญิงกว่าค่อนเมืองอยากนอนกับผมใจจะขาด ต่อแถวของเข้ามาในเพนท์เฮ้าสผมแทบตาย สาวๆ อิจฉาคุณนะ คุณน่าจะแฮปปี้” คำพูดนี้ช่างสำคัญตัวเองนัก ทะนงตนว่าเป็นหนุ่มในฝันสินะ สำหรับเธอเขาเป็นได้แค่ผู้ชายเพลบอยคนหนึ่งเท่านั้น คิดแล้วจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ หวังจะพูดจาเสียดแทงให้เขาได้เจ็บใจ “นี่ รู้อะไรไหม สำหรับฉันคุณมันก็แค่ผู้ชายที่ชอบปล่อยของสกปรกเรี่ยราดไปเรื่อย” พระเจ้า! เธอด่าเขาหรือเนี่ย และเมื่อได้ยินคำด่าทางอ้อมปุ๊บเขาก็หันกลับมาทันที ขณะที่มือยังถือนมสดอยู่เลย “คุณหาว่าผมปล่อยของส