Home / โรแมนติก / รอยรัก...ของซาตาน / บทที่6 รุ่งอรุณแห่งโชคชะตา

Share

บทที่6 รุ่งอรุณแห่งโชคชะตา

last update Last Updated: 2025-03-08 07:52:03

แสงแดดอ่อนในยามเช้าสาดส่องผ่านผ้าม่านแพรสีครีมที่พริ้วไหวทางสายลม ภายในห้องสีขาวมุกที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยเครื่องไม้แกะสลักลวดลายสวยงาม พื้นกระเบื้องลายหินอ่อนถูกปูด้วยพรหมทอมือลวดลายวิจิตรบรรจงสร้างบรรยากาศให้ดูอ่อนหวานและสวยงาม เตียงคิงไซส์ถูกคลุมด้วยผ้าปูที่นอนสีชมพูอ่อนที่ปักลวดลายดอกไม้ด้วยด้ายสีทองเข้ากันกับบรรยากาศห้องอย่างลงตัว หญิงสาวเจ้าของห้องยืนอยู่ตรงกระจกบานใหญ่ พลางยกมือขึ้นหวีผมยาวสลวยจนถึงบั้นเอว สวมใส่ชุดอานาร์กาลีสีฟ้าอ่อนประดับด้วยลูกปัดสีน้ำเงิน ที่ทำมาจากผ้าไหมเนื้อบางพริ้วไหวเวลาขยับตัว ตัวชุดคลุมไปถึงข้อเท้า ด้านในสวมใส่เลกกิ้งเพื่อความเรียบร้อย ทับด้วยส่าหรีสีขาวปักด้วยดิ้นทองอ่อนๆบางๆ คลุมพาดบนไหล่ ทำให้เธองดงามราวกับเทพธิดา หญิงสาวหมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อเช็คความเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง เสียงกระพรวนที่ข้อเท้าดังกระทบกันอย่างไพเราะ เดินผ่านห้องโถงไปยังห้องรับประทานอาหารของครอบครัว ห้องกว้างขวางถูกตกแต่งด้วยกระจกเงาแกะสลักสวยงาม โต๊ะไม้สักยาวถูกปูด้วยค่าปักลายสีทอง บนโต๊ะถูกวางด้วยชุดเครื่องถ้วยที่ทำมาจากกระเบื้องเคลือบ และประดับด้วยแจกันหินอ่อนที่มีดอกกุหลาบสีสดเสียบไว้ในแจกัน ที่หัวโต๊ะ มีหญิงสาวสวมใส่ส่าหรีสีแดงสดปักลายทอง ผมยาวดำขัดถูกรวบอย่างปราณีตเผยให้เห็นต่างหูทับทิมขนาดเล็ก ริมฝีปากแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีแดงระเรื่อรับกับดวงตาคมสวยเหลือบมองน้องสาวที่เดินมาหาด้วยรอยยิ้ม

" อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่"

" อรุณสวัสดิ์อามิ วันนี้ตื่นเช้าจังเลยนะ" อัมมาวดีทักทายน้องสาวอย่างอารมณ์ดี พลางยกถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบอย่างแผ่วเบา

" เมื่อคืนค่อนข้างฝันดีค่ะ แล้วพ่อแม่ล่ะคะ"

" พ่อพาแม่ไปโรงพยาบาล ไปตรวจน้องในท้องน่ะ" เธอบอกน้องสาวอย่างซุกซน อัมพิกาส่งยิ้มให้พี่สาวอย่างอารมณ์ดี

" ว้าว...ดีจัง"

"แล้วก็..พี่เห็นว่าแม่ใส่สร้อยมงคลสูตรเส้นใหม่" อัมพิกาเอามือปิดปากอย่างความตกใจ ดวงตาสีน้ำผึ้งเบิกกว้างสร้างความขบขันให้พี่สาว เธอมองท่าทางของน้องสาวด้วยความเอ็นดู ตั้งแต่เล็กจนโตอันพิกาสร้างความสดใสให้กับเธอมาก เธอจึงรักน้องสาวคนนี้มากที่สุดในชีวิต

"อืม...ก็เป็นเรื่องที่ดีนะคะ บางทีพ่อที่เย็นชาอาจจะถูกแม่ละลายน้ำแข็งพันปีลงก็ได้นะคะ "

" เพ้อเจ้อ" อัมมาวดีส่ายหัวให้กับคำเพ้อเจ้อของน้องสาว แล้ววางถ้วยกาแฟเปล่าลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา

" ถ้างั้นพี่ไปทำงานก่อนนะ "

"เดี๋ยวสิคะพี่" ร่างบางจับแขนของพี่สาวเอาไว้พลางทำหน้าตาออดอ้อน

" ให้หนูไปด้วยได้ไหมคะ "

" ไม่ได้ " น้ำเสียงเด็ดขาดของเธอทำให้อัมพิกาทำหน้าเศร้า ดวงตาสีน้ำผึ้งสวยคลอน้ำตา จนคนเป็นพี่สาวใจอ่อน อัมมาวดีถอนหายใจเบาๆก่อนจะบอกว่า

" ก็ได้...แต่อย่าซน เข้าใจไหม" อัมมาวดีสร้างข้อตกลงกับน้องสาวราวกับเธอเป็นเด็ก แต่เชื่อเถอะ...ว่าอามิไม่ได้เป็นเด็กเรียบร้อย อ่อนหวานกับคนในครอบครัวอย่างเดียว

" รับทราบค่ะ"

ย่าน Hathipole Market, เมืองอุทัยปุระ

ย่านการค้าสุดหรูถูกตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของอินเดีย มีร้านค้าและบริษัทระดับไฮเอนด์ตั้งอยู่ที่นี่ หนึ่งในนั้นมีร้านเสื้อผ้าและเครื่องประดับของอัมมาวดี มีชื่อว่า Elegant Threads. ร้านของเธอเอาแบบมางานสไตล์โมเดิร์นอินเดียผสมผสานกับการตกแต่งของย่านสุดหรูแห่งนี้ จำหน่ายเสื้อผ้าดั้งเดิมผสมผสานกับแฟชั่นร่วมสมัย หญิงสาวทำหน้าที่บริหารจัดการเองทั้งหมดและมักจะออกไปพบปะลูกค้าชั้นสูง และให้บริการตัดเย็บเสื้อผ้ากับบุคคลโด่งดังในวงการบันเทิงอินเดีย

" สวยจัง" หญิงสาวเดินตามพี่สาวเข้ามาในร้าน สายตากวาดมองรอบๆอย่างตื่นเต้น บรรยากาศภายในร้านเงียบสงบ มีพนักงานอยู่ประมาณหกคน สวมใส่ยูนิฟอร์มของร้ายอย่างสวยงาม

"พี่คัดพนักงานยังไงคะ มีแต่คนสวยๆทั้งนั้นเลย"

" พี่ไม่ได้เลือกพนักงานที่ความสวยหรอก แต่ว่าจะต้องมีความสามารถ บุคลิกต้องดี มีความรู้ แล้วก็ต้องมีใจรักบริการ พี่ถึงจะรับเข้าทำงาน" หญิงสาวบอกออกไป ขณะนั้นมีหญิงสาวในชุดส่าหรีสีทองเดินเข้ามาหาเธอด้วยรอยยิ้ม

"อัมมาวดีจ๋า ฉันรอชุดพิเศษที่เธอตัดให้ฉันอยู่นะ"

" รอสักครู่นะคะคุณกีตา ชุดของคุณออกมาสวยแน่นอนค่ะ" หญิงสาวหัวเราะเบาๆแล้วตอบกลับลูกค้าคนสำคัญของเธอไป น้ำเสียงตอบกลับอย่างมั่นใจของอัมมาวดีทำให้น้องสาวอย่างอัมพิการู้สึกชื่นชมในตัวของเธอเป็นอย่างมาก ร่างบางมองพี่สาวด้วยสายตาชื่นชมและภูมิใจ เธอโชคดีที่มีพี่สาวที่เก่งและมีความสามารถ

ห้องทำงานของอัมมาวดีถูกตกแต่งด้วยกระจกใสมองเห็นภายในร้าน มีโซฟาวางอยู่ข้างผนัง กลางห้องทำงานมีโต๊ะขนาดใหญ่วางเรียงรายไปด้วยผ้าสีต่างๆและข้างๆกันก็มีหุ่นจำลองที่สวมชุดที่พี่สาวของเธอออกแบบ ร่างบางเดินมานั่งที่โซฟาก่อนมองพี่สาวทำงานอย่างเพลิดเพลิน

"พี่ทำงานเก่งจัง"

" พี่ไม่ได้ทำงานเก่งหรอก พี่แค่รักในงานนี้ เป็นงานที่รักก็เลยทำออกมาได้ดีไม่ได้เก่งอะไร" หญิงสาวในชุดส่าหรีสีแดงเงยหน้าขึ้นมาตอบน้องสาว เธอจบแฟชั่นดีไซน์จากปารีส กว่าจะได้เรียนด้านนี้ คุณปราโมทย์อาละวาดบ้านแตกไม่รู้เท่าไหร่

" แต่ก็ยังดีนะคะที่พี่ออกมาเปิดร้านของตัวเองได้ หนูนี่สิ โดนพ่อกีดกัน" หญิงสาวหน้ามุ่ยลง เมื่อคิดถึงเรื่องที่พ่อกีดกันไม่ให้เธอไปสอนที่ชนบท อัมพิกาเรียนจบครุศาสตร์ ความฝันของเธอคือการไปเป็นครูสอนนักเรียนที่ชนบทให้เข้าถึงการศึกษา แต่..ความฝันของเธอก็สลายเพราะบิดาของเธอไม่เห็นด้วย

" พี่ไม่ได้โชคดีหรอก ตอนแรกอ่ะนะพ่อก็กีดกันพี่เหมือนกัน... กว่าพี่จะมาเปิดร้านกว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ก็ลำบาก เพราะไม่มีใครเห็นด้วยในสิ่งที่พี่กำลังจะทำ ทั้งเพื่อน ครอบครัว แต่โชคดีที่ตอนนั้นน่ะพี่มีศิวะ คอยช่วยเหลือดูแลแล้วก็ให้คำปรึกษา พี่ติดหนี้บุญคุณเขามากเลย..แต่พี่ก็ทำกับเขาไว้เยอะมาก " อัมมาวดียิ้มเจื่อนลง เมื่อนึกถึงสิ่งที่เธอทำกับชายหนุ่มไว้ ในใจของเธอมีความรู้สึกผิดลึกๆอยู่ข้างในที่นอกใจอดีตคนรัก

" พี่..ยังรักพี่ศิวะอยู่ไหมคะ" อัมพิกาถามเพื่อความแน่ใจ เพราะเธอรู้สึกสงสารชายหนุ่มอยู่ลึกๆพี่ต้องมาเจ็บช้ำเพราะพี่สาวของเธอ

" ไม่ได้รักแล้วล่ะ ถ้าพี่รักศิวะอยู่พี่คงไม่มีคนอื่นหรอก แล้วที่สำคัญพี่ก็เป็นคนผิด ต่อให้รักหรือไม่รักมันก็เป็นอะไรไม่ได้อยู่ดี"

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ในระหว่างที่สองพี่น้องกำลังพูดคุยอยู่นั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

"เอ่อ...ขอโทษนะคะ พอดีว่ามีแขกเข้ามาขอพบค่ะคุณอัมมาวดี"

"ใคร ได้นัดไว้หรือเปล่า" อัมมาวดีถามเสียงเข้ม

" คุณศิวะค่ะ ไม่ได้นัดเอาไว้ค่ะ" สองสาวมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนที่คนเป็นพี่สาวจะตอบกลับไป

" บอกให้เขารอก่อนเดี๋ยวฉันตามไป " หญิงสาววางงานทุกอย่างลง แล้วเดินออกไปจากห้องทำงานเพื่อที่จะไปพบอดีตคนรัก ทว่า..

" เดี๋ยวก่อนค่ะพี่ " อัมพิการีบลุกขึ้นมาฉุดรั้งแขนพี่สาวเธอเอาไว้

" มีอะไร...อามิ" ร่างบางเม้มปากแน่น ไม่รู้ว่าจะบอกพี่สาวอย่างไรดี เหตุการณ์วันนั้นผุดเข้ามาในหัวของเธอราวกับฉายภาพยนตร์

" หนู..ขอไปด้วยนะคะ" ถึงแม้ว่าจะกลัวชายหนุ่มมากแค่ไหน แต่เธอก็เป็นห่วงพี่สามารถเช่นกัน ศิวะ อัคราวัล คนนี้ไม่ใช่คนที่เธอรู้จักอีกต่อไป

" ไม่ได้พี่ไปคุยงาน "

"แต่ว่า.."

" อามิ เชื่อพี่ ศิวะเขาไม่ทำอะไรพี่หรอก เขาเป็นคนดี"

เธอจะบอกได้อย่างไร... ว่าเขาไม่ใช่คนดีอีกแล้ว ศิวะกลายเป็นอีกคน ที่เธอไม่คุ้นเคย ทั้งปากร้าย เย็นชา แข็งกระด้าง อัมพิกาไม่รู้ว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่เมื่อเห็นสายตาจริงจังของพี่สาวเธอก็อ่อนลง

" ก็ได้ค่ะ ถ้างั้นหนูจะออกไปข้างนอกแป๊บนึงนะคะ"

"ได้สิ "

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่ 7 ความสับสน

    ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำสนิทเดินเข้ามาในร้านด้วยท่าทางสง่างาม ดวงตาสีนิลมองไปรอบๆร้านอย่างคุ้นเคย งานศิลปะของอดีตคนรักถูกออกแบบอย่างปราณีตและถูกสวมใส่โดยหุ่นจำลอง ผ้าไหมและส่าหรีเต็มไปด้วยสีสันงดงามและมีความหรูหรา พลันสายตาก็สะดุดกับหญิงสาวในชุดส่าหรีสีแดงเข้มเดินเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ " คุณมาขอพบฉันมีอะไรหรือเปล่าคะ ศิวะ" ดวงตาสีน้ำผึ้งอ่อนของหญิงสาววูบไหวเล็กน้อย เธอซ่อนความรู้สึกผิดเอาไว้ในใจ น้ำเสียงอ่อนหวานสั่นเครือช่วงท้ายประโยค " ผม...อยากได้ส่าหรีให้แม่สักชุด กำลังจะถึงวันเกิดของท่านแล้วผมก็อยากให้อะไรที่มันพิเศษ " ชายหนุ่มบอกหญิงสาวเสียงนุ่ม พลางมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาคนึงหา ในใจของเขาก็พลันรู้สึกเจ็บปวด คนที่เคยอยู่เคียงข้าง เคยใกล้ชิด เคยได้รัก ตอนนี้เธอก็เดินไปเคียงข้างคนอื่นเสียแล้ว " จริงด้วย ถ้างั้นฉันจะเป็นคนตัดส่าหรีให้คุณป้าเองค่ะ รับรองว่าเสร็จก่อนวันงานแน่ๆ" เสียงหวานกล่าวกับชายหนุ่มอย่างมั่นเหมาะ ถึงอย่างไรมารดาอีกฝ่ายก็ดีกับเธอมาก อัมมาวดีอยากให้ของขวัญชิ้นนี้พิเศษกว่าทุกชิ้น " รบกวนหรือเปล่า" "ไม่หรอกค่ะ วันเกิดคุณป้าทั้งที" รอยยิ้มสดใสปรากฏบนดวงหน้าหวาน ศิว

    Last Updated : 2025-03-08
  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่8 กลัว

    งานวันเกิดของศุมิตรา อัคราวัล ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมกับเป็นภรรยาของคุณนารายณ์ อดีตประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ก่อนจะวางมือให้ลูกชายมาบริหารแทนทั้งหมด เขากลับไปบริหารโรงงานสินค้าเล็กๆของเขตอุตสาหกรรม งานถูกจัดขึ้นที่ห้องบอลรูมขนาดใหญ่ของโรงแรมหรู ในเมืองชัยปุระ ถูกจัดขึ้นอย่างงดงามและหรูหรา เพดานสูงโปร่งประดับด้วยโคมไฟคริสตัลที่เปล่งประกายสวยงาม ริมกำแพงแต่ละด้านถูกตกแต่งด้วยดอกไม้สีขาวและสีทอง เป็นดอกไม้ราคาสูงและเป็นที่นิยมสำหรับชนชั้นสูง และมีการจัดโต๊ะเป็นลักษณะวงกลม กลางห้องถูกประดับด้วยพรมแดงและโตขนาดใหญ่ถูกตั้งไว้กลางห้องถูกวางด้วยเค้กวันเกิดขนาดใหญ่ที่ถูกตกแต่งมาอย่างสวยงาม แขกทุกคนทยอยกันมาร่วมงานกันอย่างคึกคัก รวมไปถึงครอบครัวเชาฮานที่ส่งลูกสาวทั้งสองมาร่วมงานด้วย "เธอ...คุณอัมมาวดี แฟนเก่าลูกชายเจ้าของงานก็มาร่วมงานด้วยนะ" " จริงหรอ ฉันว่าข่าวลือที่เขาจบกันไม่ดีคงไม่ใช่เรื่องจริงหรอกมั้ง " " ใครบอกกันล่ะเธอ ฉันว่าพวกเขาสร้างภาพกันมากกว่า" เสียงซุบซิบจากแขกรอบด้านดังขึ้นเป็นระยะ ทำให้สองพี่น้องตระกูลเชาฮานรู้สึกไม่ดีอยู่เล็กน้อยที่พวกเธอเป็นที่สนใจสำหรับแขกในงาน"ดีใจที่คุณมา

    Last Updated : 2025-03-09
  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่9 เป็นห่วง

    อีกด้านนึงของงาน เสียงดนตรีจากไวโอลินยังคงบรรเลงขึ้นอย่างไพเราะ สร้างความผ่อนคลายและความรื่นเริงแก่แขกในงาน ทว่า...เสียงดนตรีกลับทำให้หัวใจของหญิงสาวเต้นไม่เป็นจังหวะ เรือนร่างในชุดอานาร์กาลีสีขาวปักดิ้นทองเคลื่อนผ่านกลุ่มแขกไปอย่างรวดเร็ว ชายกระโปรงพลิ้วไหวตามแรงเดิน สองมือบางจับผ้าคลุมไหล่แน่น ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกวาดมองไปรอบๆ เธอเอื้อมไปจับมือของพนักงานคนนึงเอาไว้" เห็นน้องสาวของฉันไหมคะ" น้ำเสียงหวานเอ่ยถามขึ้นอย่างรวดเร็วแฝงไปด้วยความร้อนรน" เธอมีลักษณะยังไงคะ?" พนักงานสาวลังเลเล็กน้อยก่อนที่ถามออกไป " เป็นผู้หญิงสูงประมาณนี้ ใส่ชุดสีชมพู ผมลอนค่ะ พอจะเห็นบ้างไหมคะ" หญิงสาวบอกลักษณะของน้องสาวที่รักอย่างร้อนรน ความเป็นห่วงท้วมท้นเข้ามาในหัวใจ " อ๋อ...ถ้าลักษณะแบบนี้....ฉันคิดว่าเห็นอยู่คนนึงค่ะ อยู่แถวทะเลสาบ" " ขอบคุณมากๆค่ะ" อัมมาวดียิ้มออกมาด้วยความดีใจแล้วกล่าวขอบคุณพนักงานสาวคนนั้น ก่อนจะรีบเดินออกไปมุ่งหน้าไปทางทะเลสาบหลังโรงแรม ค่ำคืนที่มืดมิด มีเพียงดวงจันทร์เป็นประกายส่องแสงท่ามกลางความมืด เสียงน้ำกระเพื่อมเบาๆกระทบขอบฝั่งจนหยดน้ำกระเซ็นเป็นประกายใต้แสงจันทร์

    Last Updated : 2025-03-11
  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่10 ลิขิตฟ้าหรือความบังเอิญ

    วิหารกลางเมืองตั้งตระหง่านท่ามกลางแสงแดดสาดส่องที่สาดส่องลงมากระทบหลังคาของวิหาร โครงสร้างของวิหารถูกแกะสลักด้วยหินทรายบอกเล่าถึงความยิ่งใหญ่ขององค์มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ ธูปหอมลอยตลลอบอวนไปในอากาศพร้อมกับกลิ่นดอกไม้ของผู้ศรัทธาที่นำมาถวายสักการะ ด้านหน้าของวิหารเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ทั้งนักบวช ผู้แสวงบุญ และชาวเมืองที่เดินทางมาไหว้สักการะศิวะมหาเทพเพื่อขอพรในเรื่องต่างๆ หนึ่งในนั้นก็คือ อัมพิกาในชุดส่าหรีสีแดงสดปักดิ้นทองอย่างประณีต ผืนผ้าพาดไหล่ข้างหนึ่งเผยให้เห็นเสื้อสั้นสีอ่อนด้านใน ข้อมือเรียวสวมกำไลทองเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ส่งเสียงกรุ๊งกริ๊งแผ่วเบาเมื่อเธอขยับตัว เธอปล่อยผมยาวสลวยถึงบั้นเอวเป็นลอนอ่อนๆประดับด้วยดอกมะลิสีขาวบริสุทธิ์ รอยจุดติกะตรงกลางหน้าผากบ่งบอกถึงผ่านการทำพิธีบูชามาแล้ว ดวงตาสีน้ำผึ้งอ่อนทอดมองไปยังหน้าพระพักตร์ของพระองค์ ความคิดที่ฟุ้งซ่านมาหลายวันก็สงบลงเมื่อได้มาสักการะมหาเทพในวิหาร " องค์มหาเทพ...ลูกไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงได้กลายเป็นแบบนี้ คนดีๆคนนึงจะเปลี่ยนไปเพราะผิดหวังในความรักแค่นั้นหรอ ลูกไม่เข้าใจ" เสียงหวานเอ่ยออกมาขณะมองหน้าพระพักตร์ " ลูกหวังว

    Last Updated : 2025-03-14
  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่ 11 แก้แค้นหรือทำลาย

    อัมพิกานิ่งงันกับคำพูดของชายหนุ่ม น้ำตาหยดแล้วหยุดเล่าไหลลงอาบแก้ม ในใจของเธอปวดหนึบจนแทบหายใจไม่ออก"พี่หมายความว่ายังไง?" เธอเอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ศิวะขบกรามแน่น สายตาแข็งกร้าวของเขาวูบไหวเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะกลับมาเย็นชาเช่นเดิม " ก็หมายความอย่างที่พูด" ดวงตาสีนิลมองหน้าหญิงสาวเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป"เพราะฉะนั้น...เธอไม่มีสิทธิ์มาขวางทางของพี่ และเธอก็ต้องยอมรับในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ถ้าไม่อยากให้คนที่เธอรักต้องเดือดร้อน ก็มาเป็นเครื่องมือของพี่ซะ" "ไม่ค่ะ" เธอไม่มีทางยอมให้อีกฝ่ายใช้เธอทำร้ายคนที่เธอรักเด็ดขาด อัมพิกามองหน้าเขาด้วยสายตาไม่ยินยอม ศิวะหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะของเขาช่างเย็นเยียบไร้อารมณ์เหลือเกิน "ก็ได้" เขาขยับเข้ามาใกล้เธอ ชายหนุ่มในเวลานี้ราวกับมีซาตานร้ายเข้ามาสิงสู่"แต่...คนที่ต้องพังทลายก็คือพี่สาวของเธอนะ" สิวศิวะเอ่ยขึ้นมาเสียงเนิบนาบ "สิ่งที่อัมมาวดีสร้างมากับมือต้องพังลงเพราะคนรักของตัวเอง" "พี่!!" หญิงสาวแทบกรีดร้องใส่เขา เสียงของเธอสั่นไหวด้วยอารมณ์โกรธ เธอไม่เคยเห็นใครบ้าได้มากขนาดนี้มาก่อนเลย"พี่..พ

    Last Updated : 2025-03-15
  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่11.1 แก้แค้นหรือทำลาย

    ท้องฟ้ายามค่ำคืนถูกปกคลุมด้วยความมืด มีเพียงแสงจันทร์เลือนลางและดวงดาวประปรายที่สองประกายบนท้องฟ้า สายลมพัดพายอดไม้ไหวเอนตามแรงลม เสียงแมลงยามค่ำคืนดังคลอกับเสียงสวดมนต์จากวิหารใกล้ๆ ในคฤหาสน์ริมทะเลของครอบครัวเชาฮาน เต็มไปด้วยบรรยากาศตึงเครียดปกคลุมไปทั่ว จนสร้างความหวั่นเกรงให้กับคนงานในบ้าน เสียงฝีเท้ากระวนกระวายดังขึ้นเป็นระยะ บรรดาคนงานมองหน้ากันอย่างเป็นกังวล ทุกคนต่างรู้ดีว่าผู้เป็นนายกำลังร้อนใจมากแค่ไหน "อามู มานั่งสงบสติอารมณ์ก่อนเถอะ" กาญจีเอ่ยกับลูกสาว ที่เดินวนไปมาหลายรอบจนเธอชักจะเวียนหัว"แม่คะ อามิยังไม่กลับมาเลยนะคะ" เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างเป็นกังวล หญิงสาวในชุดส่าหรีไหมสีเข้มขับสีผิวของเธอ ผมยาวสลวยถูกเกล้าขึ้นอย่างประณีต เครื่องประดับทองส่องประกายแวววับกับแสงไฟ ทว่าใบหน้าสวยกลับเต็มไปความกระวนกระวายและเป็นห่วง น้องสาวคนเดียวของเธอที่ยังไม่กลับบ้าน"เธอไปวิหารตั้งแต่เช้า..ป่านนี้ก็ยังไม่กลับบ้าน" "ไม่รู้ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า โทรศัพท์ก็ไม่ได้เอาไปด้วย" เสียงพึมพำของหญิงสาวดังขึ้นเป็นระยะ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหลือบนมองนาฬิกาเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่ว

    Last Updated : 2025-03-16
  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่12 ดั่งนกน้อยในกรงทอง

    แสงแดดอ่อนๆลอดผ่านผ้าม่านผืนบางมายังห้องนอนของหญิงสาว เธอขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะลืมตาขึ้นมาช้าๆ ความรู้สึกหนักอึ้งแล่นเข้ามาทันทีเมื่อเธอพยายามยันตัวเองลุกขึ้นจากที่เตียง อัมพิกาถอนหายใจยาว คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันด้วยความอ่อนเพลีย เมื่อคืนเธอแทบไม่ได้นอนเลย ดวงตาสีน้ำผึ้งเหลือบมองนาฬิกาบนผนังก่อนจะเบิกกว้างขึ้น สิบโมงกว่าแล้ว! นี่เธอตื่นสายขนาดนี้เลยหรอ"แย่แล้ว!" หญิงสาวรีบเด้งตัวลงจากเตียง แต่ทันทีที่ขยับอาการเวียนศีรษะก็เข้าจู่โจมกะทันหันจนทำให้เธอชะงักนิ่ง พยายามกะพริบตาถี่ๆเพื่อปรับโฟกัส พลางสูดลมหายใจลึกๆ แต่หัวใจของเธอกลับเต้นแรงขึ้นทุกที ทุกอย่างเริ่มหมุนคว้าง ภาพตรงหน้าพร่าเลือนลงเรื่อยๆ... จนกระทั่งโลกทั้งใบดับวูบลง"สิบโมงกว่าแล้ว" อัมมาวดีนั่งรอน้องสาวที่โต๊ะอาหารเหมือนทุกวัน เธอมองนาฬิกาติดผนังที่เข็มเวลาผ่านไปทุกนาที เธอยิ่งร้อนใจ เมื่ออัมพิกายังไม่ลงมา "ทำไม อามิยังไม่ลงมาอีกนะ" "เมื่อคืน น้องกลับดึก..อาจจะยังเพลียอยู่มั้ง" กาญจีบอกกับลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พลางคนข้าวต้มปลาในถ้วยอย่างเบามือ "ปล่อยน้องนอนไปเถอะลูก" เธอพูดออกไป แต่พอมองเห็นสายตาเป็นห่วงเป็นใยของอี

    Last Updated : 2025-03-17
  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่ 13 ความสงสัย

    เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงจากกลางวันแปรเปลี่ยนเป็นกลางคืน พระจันทร์ทอแสงสาดส่องลงมาให้แสงสว่างท่ามกลางความมืดมิด เสียงคลื่นกระทบชายฝั่งดันขึ้นเป็นระยะ สายลมพัดพาความชื้นลอดเข้ามาผ่านผ้าม่านผืนบาง แสงไฟสีวอร์มไวท์ตั้งเรียงรายรอบๆตัวคฤหาสน์ บรรยากาศแสนอบอุ่นทว่า...กลับปกคลุมด้วยความเงียบงันที่ยากจะอธิบาย อัมมาวดีพยุงกาญจีเข้าห้องเพื่อพักผ่อน หลังจากรอคอยปราโมทย์ผู้เป็นสามีกลับบ้านมานานหลายชั่วโมง " แม่นอนพักนะคะ เดี๋ยวพ่อก็กลับมาแล้ว" หญิงสาวบอกมารดาอย่างอ่อนโยน มือบางดึงผ้าห่มคลุมร่างกายของอีกฝ่ายไว้ กาญจีพยักหน้ารับก่อนจะหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า เธอรอจนมารดาหลับไปก่อนจะเดินออกมาจากห้อง หญิงสาวเดินผ่านห้องต่างๆไปอย่างช้าๆจนมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องของอัมพิกา เธอชะงักไปครู่หนึ่ง ทอดมองบานประตูราวกับจะมองทะลุมันไป มือเรียวเอื้อมไปจับลูกบิดประตูอย่างช้าๆก่อนจะหยุดชะงักลง ความลังเลฉายชัดอยู่ในดวงตาสวย อัมมาวดีพ่นลมหายใจออกมา ก่อนจะหมุนลูกบิดประตูช้าๆ แอ๊ด...ภายในห้องเงียบสงัด มีเพียงแสงจันทร์ลอดผ่านผ้าม่านสีครีมบางๆเข้ามา ทอดเงาสอนทำบนพื้นหินอ่อน หญิงสาวกวาดมองรอบๆห้อง ทุกอย่าง

    Last Updated : 2025-03-18

Latest chapter

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่ 35 คำถาม

    บ้านเชาฮาน, เมืองอุทัยปุระสายลมเย็นพัดผ่านร่างของหญิงสาวที่ออกมารับลมเล่นที่ระเบียงห้อง ดวงตาสีน้ำผึ้งทอดมองไปยังพื้นผิวของน้ำทะเลสาบที่เป็นประกายระยิบระยับใต้แสงแดด เสียงคลื่นกระทบชายฝั่งเป็นจังหวะ บรรยากาศดูสงบร่มเย็น ทว่า...หัวใจของเธอกลับไม่ได้สงบเช่นบรรยากาศ นี่ก็ผ่านมาห้าวันแล้วนับแต่วันที่เธอออกจากโรงพยาบาล ศิวะไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย จะมีเพียงแค่ส่งข้อความมากวนประสาทเป็นบางวัน เธอละสายตาจากวิวทะเลมาที่โทรศัพท์เครื่องหรูในมือ ปลายนิ้วเลื่อนปลดล็อคหน้าจอ เธอเปิดค้างอยู่ที่รายชื่อติดต่อ เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงเปิดหน้านี้ค้างไว้ แต่... อีกไม่กี่วันก็จะถึงงานหมั้นของพี่สาวของเธอ และปราโมทย์พ่อของเธอก็เชิญเขามางานนี้ด้วย ซึ่งเธอไม่มั่นใจเลยว่าชายหนุ่มจะทำอะไรที่เหนือความคาดหมายหรือเปล่า"เลิกคิดเถอะ..." เสียงหวานพึมพำกับตัวเอง ปลายนิ้วของเธอลูบคลำบนหน้าจอโทรศัพท์ไปมา ก่อนจะปิดหน้าจอลง หญิงสาวพยายามทำให้ใจสงบ ทว่า... ยิ่งพยายามสงบใจมากขึ้นเท่าไหร่ ความรุ่มร้อนภายในจิตใจก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น...ความคิดมากมายทะลักเข้ามาในหัว มือทั้งสองข้างกำเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ถ้าเกิดว่า...

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่ 34 ความรู้สึกที่ซ่อนเร้น

    เมื่อชายหนุ่มออกไปแล้ว ปราโมทย์ก็อยู่เป็นเพื่อนลูกสาวอย่างเงียบๆ เขานั่งปอกผลไม้อย่างชำนาญ เก็บแอปเปิ้ลที่ถูกหั่นชิ้นอย่างสวยงามยื่นไปที่ปากของอัมพิกาอัมพิกาอ้าปากรับผลไม้ที่คนเป็นพ่อส่งให้ด้วยรอยยิ้ม หญิงสาวปิดปากเคี้ยวด้วยความเอร็ดอร่อย การที่พ่อของเธอมานั่งปอกผลไม้และป้อนเธอนั้นเป็นสิ่งที่เห็นได้ยาก เพราะปกติแล้วปราโมทย์จะนั่งอยู่ในห้องทำงานทั้งวัน ยกเว้นเวลาทานอาหาร "ขอบคุณนะคะพ่อ" "ขอบคุณอะไร?" น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาอย่างเรียบเฉย มือที่กำลังปอกผลไม้อยู่ถึงกับชะงัก "ก็... ขอบคุณที่ดูแลหนู แล้วก็เข้าไปช่วยหนูไงคะ" หญิงสาวเอนตัวไปซบที่แขนแกร่งอย่างออดอ้อน รู้สึกถึงฝ่ามือที่กำลังลูบผมเธออย่างอ่อนโยน ดวงตาคู่สวยหลับพริ้มรับรู้ถึงความรักของพ่อที่มีต่อเธอ "ลูกสาวตกอยู่ในอันตรายทั้งที พ่อจะอยู่เฉยได้ยังไง" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น พลางดันตัวลูกสาวออกมาเบาๆ "ค่า...แล้วแม่เป็นยังไงบ้างคะ?" "ก็เรื่อยๆ... ปกติดี ไม่ได้แพ้อะไร" อัมพิกาพยักหน้า มารดาของเธออายุก็มากแล้ว แต่ดันมาตั้งครรภ์อีก ไม่รู้ว่า... น้องในครรภ์จะเป็นผู้หญิงหรือ ผู้ชายกันนะ หญิงสาวคิดขึ้นมาด้วยความสงสัย มือบางหยิบแอป

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่33 บาดเจ็บ

    อีกด้านหนึ่งของป่า ราฟีและปราโมทย์พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เดินแกะรอยทั้งสามคนเข้ามาในป่า ที่นี่เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ทำให้ป่าที่นี่ค่อนข้างจะสมบูรณ์ และมีสัตว์ร้ายชุกชุม พวกเขาก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง จนกระทั่ง...ปัง! ปัง! มีเสียงปืนดังขึ้นในอีกด้านหนึ่งของป่า ทำให้พวกเขาหยุดชะงัก หัวใจของคนเป็นพ่ออย่างปราโมทย์เต้นรัวด้วยความหวาดกลัวและเป็นห่วงลูกสาวคนเล็กอย่างสุดซึ้ง เขาภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้าให้พระองค์คุ้มครองลูกสาวของเขาด้วย "เร็วเข้า!" ปราโมทย์คำรามใส่เจ้าหน้าที่เสียงดังลั่น คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน เขาเดินไปทางต้นเสียงอย่างรวดเร็ว ราฟีและเจ้าหน้าที่เร่งเดิมตามหลังชายหนุ่มใหญ่อย่างเร่งรีบ นักการเมืองหนุ่มรับรู้ถึงความเป็นห่วงพี่มีต่อลูกสาวคนเล็กของปราโมทย์ได้เป็นอย่างดี ทว่า...เสียงปืนที่ดังใกล้ขนาดนี้ บางทีพวกเขาอาจจะอยู่ใกล้ๆแถวนี้ก็ได้ "เดี๋ยวก่อน" ชายหนุ่มหยุดว่าที่พ่อตาเอาไว้ ใบหน้าเคร่งเครียดของเขาทำให้ปราโมทย์ถึงกับหยุดชะงัก"มีอะไร?" "เสียงปืนดังใกล้ขนาดนี้ พวกคุณคิดว่าจะเป็นพวกไหน?" น้ำเสียงเรียกเฉยของเขาเอ่ยขึ้นมาอย่างเนิบนาบ ราฟีประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าเอาไว้ หากว

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่32 บาดเจ็บ

    "บ้าเอ๊ย!" อาร์มันสบถในลำคอ ก่อนจะพุ่งเข้าเข้าไปตวัดขาใส่คนพูดเป็นแรก ท่ามกลางกลุ่มคนที่มีอาวุธครบมือ ปัง! ปัง! เสียงปืนดังก้องไปทั่วป่า กระสุนวิ่งผ่านหูในระยะประชิดจนทำให้อาร์มันเบี่ยงตัวหลบหลังต้นไม้แทบไม่ทัน เปลือกไม้แตกตามแรงปะทะ ท่อนไม้ในมือศิวะถูกเหวี่ยงออกไปผัวะ! กระทบกับร่างกายของกลุ่มชายในเครื่องแบบอย่างรุนแรง จนเซถอยไปหลายก้าว ฮาร์มันสบโอกาสก็พุ่งเข้าไปตวัดเท้ากระแทกปืนในมือศัตรูจนมันหลุดกระเด็นไป ด้านศิวะก็ไม่น้อยหนาใช้เท้าเตะเสยคางหนึ่งในนั้นจนสลบเหมือดอึก! อาร์มันรีบเข้าเตะซ้ำจนแน่ใจว่าอีกฝ่ายหมดสภาพแล้ว ก่อนจะหันหลังเข้าหากันเมื่อคนที่เหลือกระจายตัวมาล้อมพวกเขาเอาไว้ "คุณเคยแสดงละครไหม?" อาร์มันหอบหายใจหนัก พลางพูดหยอกเย้าอีกฝ่ายอย่างขี้เล่น"หึ!" ใบหน้าคมเข้มกระตุกรอยยิ้มมุมปากก่อนจะพุ่งเข้าหักแขนศัตรูไปด้านหลัง พร้อมกับรับปืนมาอยู่ในมือ ปัง! เสียงลั่นไกกระทบไหล่ของชายอีกคนดังลั่น แล้วเอี้ยวตัวไปยิงเข้าที่ลำตัวของเขาทันทีโดยใช้ร่างของเพื่อนศัตรูเป็นเกราะกำบัง "เวรเอ๊ย!... ฉันไม่ใช่นักแสดงหนังบู๊นะ" อาร์มันพึมพำเสียงเบาๆ ในใจนึกถึงหน้าลูกเมียเอาไว้เพื่อเป

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่ 31 รู้สึก

    หญิงสาวขยับตัวเล็กน้อย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อรู้สึกถึงความฟกช้ำตามร่างกาย ดวงตาคู่สวยค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น สายตากวาดไปรอบๆด้วยความมึนงง ร่างเล็กยันตัวลุกขึ้นช้าๆ การกระทำของเธออยู่ในสายตาของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ไกล"ตื่นแล้วสินะ" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นอย่างเนิบนาบ อัมพิกาหันไปมองทางต้นเสียง ศิวะกำลังยืนกอดอกมองหน้าเธอด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก "..." เธอไม่ได้ตอบเขา หญิงสาวเคลื่อนตัวออกมาจากเพิง ก่อนจะพยายามลุกขึ้นยืน ทว่า... ขาทั้งสองกลับอ่อนแรงจนเธอเกือบจะล้มลง "อ๊ะ!" แต่...วงแขนแกร่งเข้ามาโอบร่างของเธอเอาไว้ก่อนที่เธอจะล้มลงกับพื้น "ระวังหน่อย" ร่างสูงเอ่ยขึ้นมาเสียงดุ ใบหน้าเคร่งขรึมของเขามองเธออย่างคาดโทษ หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น พยายามดันตัวออกมาจากอ้อมกอดของเขา แต่เรี่ยวแรงของเธอก็ช่างมีน้อยเหลือเกิน "อยู่เฉยๆ " เสียงทุ้มดุของเขาเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะช้อนตัวเธอขึ้นมาแนบอก ซึ่งบุคคลที่สามอย่างอาร์มันก็มองภาพตรงหน้าด้วยสายตายิ้มๆ พลางส่ายหน้าเบาๆ "ไหนบอกเป็นแค่เครื่องมือไง" ผู้ช่วยหนุ่มพึมพำเสียงเบา ก่อนจะเดินเข้าหาทั้งสองคน " ให้ผมช่วยไหมครับ?" ศิวะปรายตามองอาร์มันอย่าง

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่30 มุมมืด

    "หนูผิดเอง...หนูผิดเองค่ะ" เสียงสั่นเครือของเธอเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากอย่างแผ่วเบา หญิงสาวกล่าวโทษตัวเองที่เธอเป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องสาวตกอยู่ในอันตราย ถ้าเธอ...ไม่เข้าไปช่วยแม่ค้าคนนั้น น้องสาวของเธอคงจะยืนอยู่ตรงนี้"มันไม่ใช่ความผิดของคุณ อามู" ราฟีพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทว่า...คำอธิบายของชายหนุ่มกลับทำให้อีกคนเดือดดาล และรู้สึกไม่พอใจมากขึ้นเมื่อเรื่องที่ทำให้ลูกสาวของเขาถูกตามล่ามันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง"เพราะแค่เรื่องหยุมหยิมพวกนี้ พวกมันถึงกับตามล่าลูกสาวฉันเลยหรอ" ปราโมทย์แทบสบถออกมา เสียงเย็นเยียบของเขากล่าวออกมาจนราฟีเองก็สัมผัสได้ถึงแรงโทสะที่กำลังปะทุอยู่ในใจของชายสูงวัย "ใช่ครับ" ชายหนุ่มตอบสั้นๆ "พวกมันไม่ใช่แค่เป็นพ่อค้าคนกลางธรรมดา แต่ว่าพวกมันมีเบื้องลึกมากกว่านั้น พวกมันมีเส้นสายกับนักการเมืองท้องถิ่นบางคนและจ่ายส่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เลยไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้เท่าไหร่" "แล้วไอ้คนที่ถูกคุมตัวอยู่มันพูดว่าอะไรบ้าง?" เขาถามกลับ "ตอนแรกก็ไม่ยอมพูดอะไรครับ แต่ว่าพอใช้วิธีนิดหน่อย พวกมันก็เลยยอมพูด" ราฟีหรี่ตามองบิดาของคนรัก พลางยิ้มมุมปากเล็

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่29 คำถามที่ไร้คำตอบ

    คำถามนั้นทำให้ศิวะพูดไม่ออก เขาเหมือนถูกค้อนทุบที่หัว ในใจหนักอึ้งอย่างบอกไม่ถูก "เธอไม่ควรถามอะไรแบบนี้นะ" "ทำไหมคะ?" อัมพิกามองหน้าเขา น้ำตาคลอเบ้า หญิงสาวพยายามเค้นเสียงของตัวเองออกมาเพื่อถามเขา "ทำไมถึงไม่ตอบล่ะ" ชายหนุ่มกำหมัดแน่น ดวงตาคมเต็มไปด้วยความรู้สึกสับสนและเจ็บปวด "เพราะพี่...ไม่อยากมีน้องสาว" เขาพูดเสียงเรียบ พลางก้มมองหญิงสาวในอ้อมแขน พร้อมกระชับอ้อมกอดเพื่อส่งความอบอุ่นเข้าไปในร่างกายของเธอมากที่สุด ชายหนุ่มเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม เขากอดเธอนิ่งๆไม่ยอมปล่อยร่างของเธอเป็นอิสระ เขาเองก็ไม่รู้คำตอบเช่นกัน... หรือจริงๆแล้ว... เขาแค่ไม่อยากยอมรับมัน อัมพิกาเงียบไปสักพัก ก่อนจะค่อยๆหลับตาลงอีกครั้ง ร่างกายของเธออ่อนแอจนเกินรับไหว แต่ก่อนที่เธอจะจมดิ่งสู่ห้วงนิทรา เสียงแผ่วเบาของเธอก็ดังขึ้น "พี่ไม่อยากตอบ ก็ไม่เป็นไรค่ะ... หนูรู้ตัวเองดี" ว่าเป็นได้แค่เครื่องมือที่เอาไว้ใช้แก้แค้นพี่สาว....ชายหนุ่มรู้สึกถึงแรงบีบรัดที่หัวใจ มันเจ็บจนหายใจไม่ออก ลมหายใจของเขาสะดุดลงเมื่อได้ยินคำพูดตัดพ้อของคนในอ้อมกอดความแค้นที่เขายึดมั่นนักหนา... ตอนนี้กำลังจะทำให้หญิงสาวที่เคยสด

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่28 ถ่ายทอดความอบอุ่น

    เปลวไฟเต้นเร้าอยู่ในอากาศ เสียงไม้แตกกระทบกันดังสนั่นเพื่อขับไล่ความมืดและสัตว์ป่าที่จะเข้ามาทำร้ายพวกเขา อาร์มันและศิวะช่วยกันสร้างเพิงเล็กๆ 2 หลังเพื่อเป็นที่พักค้างแรมในค่ำคืนนี้ พวกเขาหาใบไม้สดมาปูรองเป็นที่นอน ชายหนุ่มเข้าไปอุ้มอัมพิกาที่นอนพิงต้นไม้ใหญ่เข้ามานอนในเพิงพร้อมจัดท่าทางให้เรียบร้อย ก่อนจะเข้ามานั่งข้างๆกับผู้ช่วยของเขา "ลำบากคุณแล้ว" ชายหนุ่มพูดขึ้นขณะนั่งมองเปลวไฟที่กำลังลุกโชนท่ามกลางความมืด "ผมไม่ได้ลำบากอะไรหรอกครับ... ผมทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของคุณ ก็ต้องช่วยคุณอย่างถึงที่สุดถูกต้องไหมครับ" อาร์มันพูดเย้าแหย่เจ้านายด้วยน้ำเสียงขี้เล่น ชายหนุ่มใบหน้าหล่อคมคายมีหนวดเคราที่ถูกจัดแต่งเป็นอย่างดี ทว่า...เขาเป็นคนอัธยาศัยดี ขี้เล่น และเป็นผู้ช่วยของศิวะมานานถึงสิบสามปี "ผมว่าผมควรจะให้โบนัสคุณเพิ่มแล้วล่ะ" ผู้ช่วยหนุ่มหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น ก่อนจะมองเจ้านายด้วยสายตาหยอกเย้า "ผมว่าคุณควรให้พักร้อนกับผมนะ " คราวนี้ถึงตาศิวะเป็นคนหัวเราะบ้างแล้ว แต่ในใจเขาก็เห็นด้วยที่จะให้พักร้อนกับผู้ช่วยของเขา อาร์มัน เขามีภรรยาและลูกๆทั้งห้าคนรออยู่ที่บ้าน "โอเค... แต่ต้อง

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่ 27 เทพบุตรหรือซาตาน

    วงแขนแกร่งโอบเอวเธอไว้อย่างอ่อนโยน ดวงตาสีนิลเหลือบมองกลุ่มผมสีดำสนิทร่วงลงมาราวกับผ้าม่าน ความห่วงหาสะท้อนชัดอยู่ในแววตาโดยที่เขาไม่รู้ตัว"เป็นอะไรไหม?""ไม่...เป็นไร" อัมพิกาหันมาตอบเขา ทว่า...ใบหน้าหล่อเหลากลับอยู่ใกล้เพียงคืบจนปลายจมูกของทั้งสองแตะกัน ดวงตาสีน้ำผึ้งสบกับดวงตาสีนิลของเขา ความเย็นชาไร้จุดหมาย แต่แฝงไปด้วยความเป็นห่วง ทำให้หัวใจของหญิงสาวเกิดสั่นไหว ร่างบางค่อยๆลงมาจากตักของเขา แล้วกระเถิบไปชิดประตูอีกฝั่ง พลางก้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อหลบกระสุนที่สาดเข้ามา อาร์มันพยายามหลบหลีกกระสุนอย่างยากลำบาก เขาส่งสายตาหาเจ้านายเพื่อต้องการความคิดเห็นดวงตาคมกริบมองหน้าของเลขาคนสนิทอย่างเรียบนิ่ง"เปิดระบบขับรถอัตโนมัติ" เขาสั่งการอย่างรวดเร็ว พลางดึงแขนของอัมพิกาเข้ามาใกล้ "มารวมตัวกับฉันเอาไว้" "ได้ครับคุณศิวะ " อาร์มันรีบเปิดระบบขับรถอัตโนมัติ ก่อนจะเข้าไปรวมตัวกับเจ้านายที่เบาะหลัง รถเคลื่อนตัวไปตามความเร็วที่ถูกตั้งไว้ จนมาถึงทางโค้งทางหนึ่ง"เราต้องรีบโดดเดี๋ยวนี้" ชายหนุ่มพูดเสียงเข้มก่อนจะรวบตัวคนตัวเล็กเอาไว้ในอ้อมกอด มืออีกข้างจากที่ประตูรถไว้แน่น เสียงปังยังคงด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status