หลังจากที่ฉันร้องเพลงรอเสี่ยชัชไปแล้วสองเพลง เขาก็พร้อมที่จะสนุกกันแบบสามคนแล้ว
“หายเหนื่อยแล้วล่ะ” เขาจิบเครื่องดื่มในมือแล้วยิ้มให้กับพี่ชายของตัวเองที่รออยู่นานแล้ว
“งั้นเรามาเริ่มกันเถอะ” เสี่ยชาติบอกน้องชายแล้วเขาก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อน
ฉันถูกเขาดันตัวให้ลงไปคุกเข่าที่พื้นแล้วทั้งสองเสี่ยก็เข้ามายืนประกบซ้ายขวาได้เวลาให้ฉันจับไมค์ส่วนตัวของพวกเขาขึ้นมาแล้วใช้มือไปพร้อมๆ กัน
“อมสิน้องนิ้ง อมสลับกันทั้งสองลำ” เสี่ยชัชบอกแนวทางการเล่นรักแบบสามคนให้ ฉันจึงรีบทำตามโดยไม่รีรอ
แผล็บ! แผล็บ! แผล็บ! ฉันเลียปลายหัวของพวกเขาทีละคนสลับกันไป ก่อนจะดูดอมมันอย่างเต็มปากเต็มคำแล้วละเลงเลียไปรอบๆ สลับกับดูดอยู่อย่างนั้น
“อ๊าส์ ดีมากเลยน้องนิ้ง”
“อมเก่งมาก แบบนี้ทิปหนักแน่”
ทั้งสองคนผลัดกันพูดชื่นชมอย่างพอใจแล้วแอ่นสะโพกให้ฉันใช้มือและปากต่ออย่างสะดวก
“ไม่ไหวแล้วอยากเอาเข้าแล้ว” เสี่ยชาติทนต่อแรงดูดของฉันไม่ไหว เขาดึงฉันให้ขึ้นไปอยู่ในท่าคลานไปกับทางยาวของโซฟาแล้วจับไมค์ส่วนตัวหัวบานของเขชยัดเข้ามาอย่างเต็มรักแล้วเริ่มซอยถี่ๆ
เสี่ยชัชเข้ามายืนอยู่อีกด้านของโซฟาตรงหน้าฉันแล้วจับท่อนลำให้ฉันใช้ปากให้เขาไปพร้อมๆ กัน
ตอนนี้ฉันส่งเสียงครางออกมาไม่ได้เลย ทั้งๆ ที่เสียวและตื่นเต้นเป็นอย่างมากกับการเล่นรักสามคนครั้งแรกในชีวิต
“อื้อ อื้อ...” ฉันได้แต่ครางในลำคอด้วยความเสียว
รูคับแคบถูกเสี่ยชาติลำบานกระแทกซอยเข้ามาอย่างดุดัน ปลายหัวบานเกาะเกี่ยวจุดสัมผัสที่อ่อนไหวแล้วดันเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ปากก็ถูกดุ้นอวบยัดเขามาในปากอย่างถี่รัวไม่ยอมให้ฉันได้มีโอกาสครางเลยสักนิด
“อ๊าส์ รูฟิตตอดดีมาก” เสี่ยชาติบอกเสียงพร่ากระเส่า
“ซี๊ด รีบเถอะอั๊วอยากย้ายรูแล้ว” เสี่ยชัชบอกพี่ชายที่กำลังสนุกกับรูสวาทของฉันด้วยน้ำเสียงที่หื่นจัด
“อ๊าส์ รอหน่อยสิ อั๊วกำลังติดใจอยู่ ซี๊ด เสียวดีจริงๆ” เสี่ยคนพี่บอกด้วยน้ำเสียงที่สั่นพร่าเมื่อกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม
ตับ! ตับ! ตับ! เขาออกแรงกระแทกเข้ามาจนฉันต้องดันตัวเสี่ยชัชออก เพราะไม่อย่างนั้นฟันของฉันต้องโดนท่อนเอ็นอวบของเขาแน่
เสี่ยชัชถอยออกไปเล็กน้อย ฉันจึงใช้มือให้เขาแทนแล้วรับแรงกระแทกของเสี่ยชาติไปด้วย
“อ๊าส์ เสี่ยขา นิ้งจะแตกแล้วค่ะ ซี๊ด” ฉันร้องเสียงหลงแล้วช้อนตามองเสี่ยชัชที่เขาคงกำลังเกิดอารมณ์เป็นอย่างมาก
เสี่ยชาติกระแทกเข้ามาเต็มแรงจนร่างฉันโยกคลอน เสี่ยชัชไม่สนใจอะไรเขายัดท่อนเนื้อเข้ามาในปากของฉันอีกครั้งจนฉันต้องโก่งคออมอย่างระมัดระวัง
ตับ! ตับ! ตับ! เสี่ยชาติกระแทกต่อไปอย่างดุดัน ในขณะที่ฉันใช้สมาธิกับการอมดุ้นให้เสี่ยชัช แล้วเขาก็ถอนท่อนอุ่นออกไปแล้วให้น้องชายเข้ามาแทนที่
เสี่ยชัชนั่งลงแล้วจับให้ฉันนั่งหันหลังขย่มให้แก่เขา เสี่ยชาติย่อตัวลงมาจูบที่ซอกคอแล้วบีบหน้าอกฉันมาดูดเลีย ยังไม่แตะจงอางลำใหญ่ของเขาคงเพราะชะลอการหลั่งของตนเองลง
สวบ! สวบ! สวบ! ฉันขย่มลงไปบนตักของเสี่ยคนน้องด้วยลีลาที่เร่าร้อน เสี่ยคนพี่ยกตัวขึ้นโน้มลงมาจูบปากฉันอย่างดูดดื่ม มือหนึ่งขยำหน้าอกอีกมือก็ล้วงลงไปขยี้จุดกระสัน
“ไม่ไหวแล้ว” เสี่ยชาติร้องขึ้นมาแล้วพยักหน้าส่งสัญญาณให้น้องชาย
เสี่ยชาตินอนหงายลงกันโซฟาแล้วดึงฉันให้หันหน้าไปขย่มบนตัวเขา ในขณะที่เสี่ยชัชเดินไปหยิบอะไรบางอย่างมาป้ายที่รูจีบของฉัน
พอฉันรู้ว่ากำลังจะโดนประตูหลัง เสี่ยชาติก็รั้งท้ายทอยฉันลงไปจูบก่อนแล้วเสี่ยคนน้องก็ป้ายเจลเข้ามาควานที่รูจีบก่อนที่จะกดท่อนลำปลายมนเข้ามาทีละนิด
“อื้อ อื้อ..” ฉันได้แต่ครางในลำคอด้วยความจุกและเสียวเสียดที่ท้องน้อย แล้วสักพักก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นคงเพราะปริมาณของเจลและท่อนลำของเสี่ยชัชที่มีปลายมนเรียวไม่ได้ใหญ่มาก
ดุ้นหัวบานของเสี่ยชาติอยู่ที่รูหน้า ส่วนดุ้นยาวปลายหัวมนเรียวถูกซอยเข้ามาที่รูจีบด้านหลัง มันช่างเป็นความเสียวที่เกินบรรยายเป็นอย่างมาก
“อ๊าส์ สองลำพร้อมกันแบบนี้ ลำใดลำหนึ่งขยับอีกลำก็รู้สึกไปด้วย อ๊าส์ เสียวมาก ซี๊ด” เสี่ยชาติร้องลั่น ขนาดว่าเขาอยู่เฉยๆ และฉันเองก็อยู่ในท่าคลานนิ่งๆ เพราะความจุก มีเพียงแค่เสี่ยชัชที่ขยับที่รูจีบเพียงคนเดียวแต่เสียวถึงสามคน
“นิ้งไม่ไหวแล้วเสี่ยขา นิ้งเสียวเหลือเกิน ซี๊ด”
“อ๊าส์ รูหลังฟิตดีมาก จะทนไม่ไหวแล้ว อ๊าส์” เสี่ยชัชร้องเสียงหลง เมื่อรูจีบที่คับแน่นอยู่แล้ว พอมีอีกดุ้นคาอยู่อีกรูก็ยิ่งคับแน่นไปใหญ่
สวบ! สวบ! สวบ! เข้าดันท่อนเนื้อปลายเรียวเข้ามาอย่างดุดัน กระแทกดัง ปั่ก! ปั่ก! อย่างไม่ปรานี
“อ๊าส์ ไม่ไหวแล้ว ซี๊ด...” ฉันร้องเสียงหลงแล้วตัวอ่อนฟุบลงไปที่ร่างกำยำของเสี่ยชาติ
เสี่ยชัชเองก็ทนไม่ไหว เขาซอยเข้ามารัวๆ แล้วควบคุมไม่ไหวปล่อยน้ำอุ่นข้นเข้าไปในรูจีบแล้วครางออกมาเสียงดัง
เสี่ยชาติดันตัวฉันคุกเข่ากับพนักพิงโซฟา แล้วยืนประกบจากด้านหลัง เข้าซอยเข้ามาในรูหน้าอย่างถี่รัวแล้วครางออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“ฮึ่ม อ๊าส์...ซี๊ด ฮึ่ม....หอยแน่นขนาดนี้ อีกรูจะแน่นแค่ไหนนะ” เขากัดฟันกระแทกไปพูดไปแล้วถอนแท่งลำออกมาเพื่อเปลี่ยนรูในการร่วมรัก
พรวด!
“ฮึ่ก อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อถูกท่อนลำหัวบานดันพรวดเข้ามาเต็มแรง
“อ๊าส์ ฟิตมาก” เสี่ยชาติกัดฟันพูดด้วยความเสียว
เสี่ยชัชตอนนี้ที่ปล่อยไปแล้วสองน้ำนั่งจิบเครื่องดื่มมองดูพวกเราเล่นรักกันแล้วหยิบไมค์มาร้องเพลงที่เป็นจังหวะสามช่า
เสี่ยคนพี่ที่รัวกระแทกรูจีบของฉันอยู่ กระแทกตามจังหวะเพลงอย่างเมามัน
“อื้อ จุก ซี๊ด” ฉันร้องเสียงสั่น ท่านี้รูปกติก็เข้าลึกอยู่แล้ว พอมาเจอรูหลังฉันก็ถึงกับขาสั่นพั่บๆ เพราะความจุกที่ทะลวงเข้ามาหาฉันอย่างหมูอย่างหมา
ตับ! ตับ! ตับ! เสี่ยชาติตอกอัดเข้ามาเต็มแรงแล้วฉันก็ทนต่อความเสียวปนจุกไม่ไหว ถึงเส้นชัยไปอย่างจุกๆ
“อ๊าส์ แตกแล้ว ซี๊ด” เสี่ยชาติครางลั่นแข่งกับเสียงเพลงแล้วพ่นน้ำสวาทเข้ามาจนดันน้ำของเสี่ยชัชที่พ่นเข้าไปก่อนหน้านี้ออกมาไหลล้นเต็มขาจนฉัน
สองเสี่ยร้องเพลงต่อในขณะที่ฉันหมดแรง สะโพกร้าวไปหมดเพราะการกระแทกสองรูอย่างพร้อมเพรียงของทั้งคู่ กว่าจะตั้งตัวลุกมาเช็ดคราบน้ำรักและแต่งตัวได้ก็ใช้เวลานานพอสมควร
ทั้งคู่ร้องเพลงสุดท้ายด้วยกันแล้วยื่นเงินค่าทิปไม่รวมค่าตัวให้มาหนึ่งหมื่นฉันจึงยิ้มออก
“คืนพรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานนะ เสี่ยสองคนไม่ว่าง คืนหน้าเสี่ยจะมาร้องเพลงด้วยอีก” เสี่ยชาติบอกฉันเสียงนุ่ม
“ค่ะ นิ้งยินดีที่ได้ปรนนิบัติเสี่ยทั้งสองนะคะ” ฉันบอกด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างเอาใจ
งานนี้ทำให้ฉันมีรายได้และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบาย แต่ก็ต้องแลกกับอะไรหลายๆ อย่างเช่นกัน
**จบ**
เรื่องราวของเสน่ห์แม่ม่ายอย่างฉันได้เริ่มขึ้นหลังจากที่ฉันหย่ากับสามีแล้วในตอนนั้นฉันเดินทางไปสัมมนาที่ต่างจังหวัด แต่บังเอิญว่างานถูกยกเลิกกะทันหันเพราะวิทยาก่อนป่วย จึงกลับไปที่บ้านแล้วพบว่าเขาพาผู้หญิงมานอนกกกอดกันบนเตียงของเราจากนั้นฉันก็ไม่ทนเพราะไม่อยากรั้งให้คนหลายใจมาอยู่ในชีวิตของฉัน ฉันถ่ายรูปทั้งหมดเอาไว้แล้วค่อยๆ เดินออกไปจากห้องโดยไม่โวยวายอะไรให้พวกเขานอนหลับกอดกันอยู่อย่างนั้นฉันส่งรูปที่เขานอนกอดกับผู้หญิงอื่นในแชทกลุ่มของครอบครัวให้ทุกคนได้รู้เห็นพร้อมกับระบุไปว่าฉันต้องการหย่าไม่นานเขาก็รีบออกมาพูดขอโทษฉันแต่ว่าฉันไม่ต้องการอะไรแล้วนอกจากอิสรภาพ“ฉันจะฟ้องหย่าและฟ้องชู้ผู้หญิงของคุณ ถ้าไม่อยากหมดตัวยอมหย่าให้ฉันดีๆ และบ้านกับรถต้องเป็นของฉันคนเดียว” ฉันบอกข้อเสนอที่เด็ดขาดและจริงจังให้กับเขา โดยไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียวเขายอมรับข้อเสนอ หย่าแล้วยอมออกไปจากชีวิตฉันโดยมีแค่รถคันเก่าและเงินเก็บส่วนของเขาติดตัวไป ส่วนเงินเก็บอีกครึ่ง บ้านและรถเป็นของฉันทั้งหมด เท่านั้นฉันก็ว่าฉันใจดีสุดๆ แล้วปัจจุบันฉันคือแม่ม่ายสาวที่มีแต่หนุ่มๆ มารุมขายขนมจีบ ‘กระดังงาลนไฟก็ยิ่งหอม
เมื่อกลับไปถึงบ้าน ฉันก็ชวนให้เขาเข้าไปในบ้านด้วยกันโดยไม่สนใจสายตาของเพื่อนบ้าน ก็โดนพูดเสียๆ หายๆ ไปแล้วนี่นะ แก้ตัวอะไรก็ไม่ได้ อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ขอใครกินจะทำอะไรก็ไม่อยากสนใจใครฉันให้เอกนั่งรอที่ห้องนั่งเล่นแล้วขึ้นไปหยิบไดร์เป่าผมที่เสียมาให้เขาซ่อมจริงทำให้เขาดูสลดลงไปแล้วลงมือซ่อมไดร์ให้แก่ฉันด้วยท่าทีเสียดายนิดๆในขณะที่เขากำลังง่วนอยู่กับการแกะแงะซ่อมอะไรพวกนั้นอยู่ ฉันก็ให้เขาซ่อมต่อไปแล้วไปเปลี่ยนเป็นชุดลำลองออกมานั่งข้างเขาแล้วเอามือวางที่ต้นขาของเด็กหนุ่มพร้อมกับลูบไล้เบาๆ“ท่าทางจะงัดเก่งน่าดู” ฉันถามไปพลางเอาหน้าอกถูแขนเขาไปด้วย มือก็ลูบขาเขาปลุกอารมณ์ไปด้วยเอกตัวสั่นมือสั่นด้วยความตื่นเต้นพยายามหายใจให้เป็นปกติที่สุด แต่ฉันรู้ว่าเขาคงต้องการมากแล้ว แต่ยังลังเลว่าฉันจะยอมให้ทำจริงๆ หรือไม่“มางัดให้พี่หน่อยสิ” ฉันพูดแล้วขยับไปนั่งที่โซฟาอีกตัว กางขาอ้าออกกว้างให้เขาเห็นว่าภายใต้ชุดกระโปรงที่ฉันสวมใส่ไม่ได้มีชั้นในปิดบังของสงวนเอาไว้เอกตาลุกวาวแล้ววางมือจากไขควงและเครื่องมือซ่อมต่างๆ ขยับมานั่งคุกเข่าต่อหน้าฉันแล้วใช้นิ้วเขี่ยที่กลีบสวาทด้วยความหลงใหล“ดูใกล้ๆ สวยกว่
เสน่ห์ของม่ายสาวอย่างฉันไม่ได้มีแค่เด็กหนุ่มกลัดมันอย่างเอกเท่านั้น แม้แต่ที่บริษัทหนุ่มๆ ที่แอบชอบฉันและอยากมีความสัมพันธ์ด้วยก็มีเข้ามาขายขนมจีบมากมายอันดับแรกที่ฉันตัดออกไปคือคนที่มีครอบครัวแล้ว เพราะหลังจากที่ถูกสวมเขา ฉันก็เข้าใจความเจ็บปวดของผู้หญิงดีและไม่คิดจะเล่นชู้กับคนรักของใคร“นี่ทำงานประสาอะไรกัน ถึงได้ทำให้พลาดลูกค้ารายใหญ่ไปแบบนี้” เสียงตวาดที่ดุดันของผู้จัดการพร้อมกับเสียงทิ้งแฟ้มฟาดลงกับโต๊ะทำให้ทั้งแผนกขายเงียบกริบคนที่รับผิดชอบลูกค้ารายใหญ่ก็หน้าเจื่อนแล้วก้มหน้าลง“คุณฟาง คุณเป็นหัวหน้าแผนก คุณไม่ได้กำชับลูกน้องคุณให้ดูรายงานดีๆ เหรอ” เขาหันมาถามฉันเสียงดุ“คือว่า..”“ตามผมเข้าไปที่ห้อง” เขากัดฟันพูดด้วยความขุ่นเคือง แล้วเดินไปรอที่ห้องทำงานส่วนตัวของเขาที่อยู่สุดทางเดิน“พี่ฟางหนูขอโทษนะคะ แต่หนูมั่นใจว่าตรวจสอบดีแล้ว เอกสารต่างๆ ก็ระบุตัวเลขถูกต้องหมดทุกอย่าง มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่” พนักงานขายคนที่รับผิดชอบงานนี้โดยตรงพูดขึ้นมาอย่างร้อนใจที่ความผิดพลาดของเธอทำให้ฉันถูกตำหนิจากผู้จัดการสาขาฉันรับแฟ้มนั้นขึ้นมาดู ทุกอย่างก็ดูปกติดีแล้วทำไมผู้จัดการต้องหาเรื่อง
ในวันอาทิตย์ที่แสนเหงา วันนี้ผู้จัดการเคไม่ว่าง น้องเอกข้างบ้านก็ไปเที่ยวกับครอบครัว ส่วนผู้ชายคนอื่นๆ ฉันก็ไม่มีใครว่าง ในวันที่ฉันมีอารมณ์มากกว่าปกติฉันทนต่อความต้องการของตัวเองไม่ไหว ในตอนเช้าจึงจัดการถูหอยสไลด์กับหมอนข้างคู่ใจไปแล้วหนึ่งครั้ง ถึงจะเสร็จสมอารมณ์หมายแต่ก็ยังไม่รู้สึกดีเท่าโดนดุ้นอุ่นๆ มาบรรเทาความหนาวเหน็บในใจตอนนี้พอถึงตอนกลางวัน ฉันที่ขี้เกียจทำอาหารก็ได้สั่งอาหารมาทานที่บ้าน ไรเดอร์ที่รับงานชื่อคุ้นมากจนต้องกดซูมดูโปรไฟล์ แล้วฉันก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจเมื่อหาคนคลายเหงาได้แล้ว“พี่บอลเองเหรอ” ฉันพึมพำออกมาแล้วยิ้มอย่างพอใจพี่บอลคือแฟนเก่าสมัยเรียน เขาเป็นคนที่ขยันทำมาหากินแต่ว่าดูซื่อๆ คบกับผู้หญิงก็โดนหลอกเอาเงินแล้วก็ทิ้งไป จนครองตัวโสดมาตลอดหลายปีนี้เขาคือทางเลือกที่ดีของฉันในวันที่แสนเหงาใจ และหากได้รำลึกความหลังกันสักยกก็คงจะดีไม่น้อยฉันนั่งติ้วรออาหารด้วยความตื่นเต้น ปลายนิ้วที่คลึงวนอยู่ที่เม็ดเสียวทำให้น้ำใสๆ ไหลเอ่อออกมาเต็มร่อง แต่ฉันไม่ได้ทำให้ตัวเองถึงจุดหมาย แค่คลึงให้เสียวเบาๆ เรียกให้น้ำเดินก็เท่านั้นสักพักพี่บอลก็มาถึง ฉันเดินออกไปรับอาหารแล้วยิ
งานเลี้ยงประจำปีของบริษัทถูกจัดขึ้นที่โรงแรมริมชายหาดแห่งหนึ่ง ตอนกลางคืนมีการแสดงริมหาดและดื่มกินกันอย่างเต็มที่ครอบครัวของท่านประธานมาร่วมงานในปีนี้ด้วย แฝดหนุ่มวัยยี่สิบที่เป็นว่าที่ทายาทลำดับถักไปของบริษัทก็มาแนะนำตัวกับพนักงานในช่วงที่ลาพักร้อนจากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ“กลับมาครั้งนี้ดูหล่อและเท่มากเลยนะคะพี่ฟาง” พนักงานรุ่นน้องดึงชายเสื้อฉันให้หันไปมองหลานแฝดของท่านประธาน“อืม ก็หล่อดี” ฉันเออออตาม แล้วหันไปมองสองแฝดที่มองมาทางฉัน สายตาแบบนั้นไม่บอกก็รู้ว่าคงจะอยากรู้จักฉันให้ลึกซึ้งกว่านี้สาวๆ ในออฟฟิศก็ยังโสดยังสาวกว่าแต่ดูเหมือนทั้งคู่จะไม่สนใจ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะไม่อยากผูกสัมพันธ์กับสาวๆ เพราะกลัวการผูกมัดและต้องแสดงความรับผิดชอบ แต่กับฉันที่เป็นม่ายหากมีสัมพันธ์ด้วยแล้วก็ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรมากพอฉันรู้ว่าพวกเขาสนใจฉัน ฉันก็หาโอกาสปลีกตัวออกไปคนเดียวแล้วรอดูท่าทีว่าพวกเขาคนใดคนหนึ่งจะตามฉันมารึเปล่า แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ฉันถึงกับอึ้งไปแล้วก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อพวกเขาสองคนเดินมาพร้อมกัน“เดินเล่นคนเดียวริมหาดแบบนี้ตอนดึกอันตรายนะครับพี่”“ให้พวกเราไปส่งที่ห้อง
การไปงานแต่งงานของเพื่อนร่วมงานในคืนนี้ทำให้ฉันได้เจอกับ ‘น็อต’ เพื่อนเก่าสมัยเรียนมัธยมปลายแล้วเราก็ได้พูดคุยกันถึงเรื่องทั่วไป“ไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณยังโสดอยู่ หล่อๆ มีเสน่ห์อย่างคุณโสด เพื่อนคนอื่นในห้องก็คงโสดทั้งแถว” ฉันพูดอย่างชื่นชม เพราะเครื่องดื่มสีหวานที่ผสมแอลกอฮอล์ทำให้ฉันพูดออกไปตรงๆอีกอย่างฉันก็แอบชอบเขามานานแล้วตั้งแต่สมัยเรียน พอรู้ว่าโสดร่างกายกับสมองก็เริ่มพยายามทำตัวให้เข้าไปสนิทสนมกับเขาเพื่อที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ฉันเพื่อนก่อนจะขยับสถานะในอนาคต“นี่นันคิดว่าผมหล่อและมีเสน่ห์เหรอ คิดอะไรกับผมรึเปล่าเนี่ย” เขาถามแล้วอมยิ้ม ทำหน้ากรุ้มกริ่มใส่ฉันตามประสาคนเจ้าเสน่ห์ที่ชอบหว่านเสน่ห์ไปทั่ว“ก็ใช่นะสิ สมัยเรียนนะใครๆ ก็ชื่นชมคุณทั้งนั้นแหละ” ฉันยอมรับไปตามตรง อายุยี่สิบแปดแล้วจะมาเล่นตัวหรือเขินอายอะไรนักหนา“พูดตรงขนาดนี้ งั้นงานเลี้ยงจบเราไปต่อด้วยกันไหมล่ะ ไปนั่งคุยกันแบบ...สองต่อสอง” โดนคนหล่อของรุ่นชวนขนาดนี้ทำไมฉันจะไม่ไปล่ะ“แค่คุยกันเหรอคะ” ฉันถามแล้วมองต่ำไปที่เป้าของเขา“นันไม่อยากคุย เราก็ทำอะไรสนุกๆ กันก็ได้” เขายิ้มกริ่มแล้วมองที่หน้าอกฉันอย่างโลมเลีย“
เราล้างตัวแล้วอาบน้ำด้วยกัน ถูกสบู่ปลุกเร้าอารมณ์กันจนแฉะไปหมดและพร้อมสำหรับรอบต่อไปแล้ว“อยากเสียวแล้วเราไปต่อในห้องนอนกันเถอะค่ะ” ฉันเป็นฝ่ายชักชวนเขาก่อน แล้วส่งสายตากระหายให้แก่เขา“อืม บรรยากาศในนี้ก็ดี อมให้ผมได้ไหม” เขาร้องขอฉันด้วยสีหน้าที่หื่นกระหาย“ได้สิค่ะ ฉันเป็นเพื่อนที่ดีอยู่แล้ว ขอแค่นี้ทำไมจะไม่ได้”ฉันคุกเข่าลงกับพื้นแล้วจับดุ้นของเขาขึ้นมาใช้ลิ้นเลียไปรอบๆ ปลายหัวหยักทั้งดูดและอมมันอย่างชำนาญเขาก้มมองริมฝีปากของฉันรูดท่อนเอ็นลำเขื่องนั้นด้วยความพอใจแล้วโยกสะโพกเบาๆ ดันท่อนเอ็นเข้ามาในปากฉัน“อมเก่งจังเลยนะครับ ทำผมเสียวดุ้นไปหมดแล้ว ซี๊ด...อ๊าส์” เขาครางเสียงสั่นเพราะรู้สึกสยิวจากปลายลิ้นของฉันฉันอมแท่งลำลงไปแล้วใช้ริมฝีปากห่อรูดมันขึ้นลงแล้วดูดส่วนปลายหัวแรงๆ น็อตโยกสะโพกสวนเข้ามาอย่างต่อเนื่องแล้วครางสูดปากเสียงดังด้วยความพอใจ มือข้างหนึ่งค้ำสะโพกตัวเองอีกมือขยุ้มกลุ่มผมฉันรั้งเข้าหาสะโพก“ไปต่อที่เตียงกันเถอะ ผมอยากดูดหอยคุณแล้ว” เขาพูดเสียงพร่า แล้วดึงมือฉันให้ตามเข้าไปที่ห้องเขานอนหงายลงไปแล้วยิ้มมองรูปร่างของฉันโดยเฉพาะตรงเนินสวาทที่อวบอูมนั้น“หันสะโพกมาให้
เราสองคนนัดเจอกันบ่อยจนเริ่มกลับมาคุยกันอย่างสนิทสนมจนตอนนี้ไม่ต้องนัดไปที่โรงแรม แต่ว่าเขาให้ฉันมาหาเขาที่บ้านของเขาแทนตอนแรกก็คิดว่าจะมีแต่เขา พอไปก็เจอกับเพื่อนอีกคนของเขาที่ฉันไม่รู้จัก“แฟนแกเหรอน็อต”“เปล่า นี่นันเพื่อนสมัยเรียนของฉันเอง” เขาแนะนำฉันให้กับเพื่อนเขาได้รู้จัก“นัน นี่จิมนะเพื่อนที่ทำงานของผมเอง”“สวัสดีค่ะคุณจิม” ฉันทักทายเขาแล้วรับหน้าที่ชงเครื่องดื่มให้กับทั้งคู่“ไม่รู้ว่าวันนี้แกมีนัดเลยมานั่งดื่มด้วย”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดื่มกันตามสบายเถอะ นันจะไปทำกับแกล้มเพิ่มให้” ฉันบอกแล้วลุกเดินไปที่ครัวปล่อยให้ทั้งคู่พูดคุยกัน ทำให้ทั้งสองมองฉันอย่างชื่นชมพอฉันทำกับแกล้มเสร็จเดินออกมาก็ไม่พบเพื่อนเขาแล้ว“อ้าว แล้วคุณจิมล่ะคะ”“กลับไปแล้ว คงไม่อยากเป็น กขค.น่ะ” น็อตยิ้มมองฉันแล้วเรียกให้เข้าไปนั่งด้วย “อื้อ ใจเย็นก่อนสิ นันยังไม่อาบน้ำเลย” ฉันบ่ายเบี่ยงเขาเมื่อน็อตพยายามจะแยกขาฉัน“ผมอยากเอานันแล้ว ตอนไอ้จิมมาผมเนี่ยลุ้นอยากให้มันกลับจนใจจะขาด พอคุณเข้าครัวผมเลยบอกให้มันกลับไปก่อน” เขาบอกเสียงพร่าพยายามจะเอาฉันคาโซฟาให้ได้“งั้นเรามาอาบน้ำด้วยกันดีไหมคะ นันเข้าครัวเมื่
หกวันแล้วที่ฉันกับน็อตต้องห่างกัน เขาไปสัมมนาที่ต่างจังหวัดกำหนดจะกลับในวันพรุ่งนี้ทำให้ฉันคิดถึงเขามาก“ทำไมไม่รับสายนะ” ฉันคิดอย่างเป็นกังวล คืนสุดท้ายที่เขาพักที่นั่นจะไปเที่ยวไหนหรือเปล่า แต่ว่าเพราะไม่อยากให้เขารำคาญจึงโทรไปแค่สายเดียวเท่านั้นเพราะฉันไม่จู้จี้ ไม่ค่อยตาม และเวลาเพื่อนเขามาก็วางตัวดี น็อตบอกว่าเขาชอบฉันที่เป็นแบบนี้เราถึงเริ่มขยับสถานะกันจนมาถึงวันนี้ฉันมองโทรศัพท์ด้วยความเป็นกังวล จากนั้นจึงตัดสินใจจะอาบน้ำเข้านอนเพราะว่ามั่นใจในตัวเขาว่าจะไม่ออกนอกลู่นอกทางพอออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าน็อตยืนยิ้มให้อยู่ตรงหน้าแล้ว“คิดถึงผมไหม” เขาพูดแล้วอ้าแขนรอรับฉันฉันยิ้มกว้างแล้วโผเข้าไปกอดเขาด้วยความคิดถึง มองใบหน้าที่หล่อเหลานั้นแล้วเขย่งเท้าขึ้นหอมแก้มด้วยความรักใคร่“ไหนบอกมาพรุ่งนี้ไงคะ”“ก็คิดถึงนันเลยต้องรีบกลับมาก่อนเวลาไงล่ะ” เขาพูดเสียงนุ่มอย่างเอาใจฉันลูบที่เป้ากางเกงของเขา รู้ว่าอีกฝ่ายก็คงอยากทำกิจกรรมนั้นแม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมากแค่ไหน“ผมไม่อยู่เหงาหรือเปล่า” เขาถามเสียงพร่าแล้วลูบต้นขาของฉันล้วงเข้าไปลูบที่สะโพก“เหงาสิคะ คิดถึงมากๆ โดยเฉพาะดุ้นอว
เราสองคนนัดเจอกันบ่อยจนเริ่มกลับมาคุยกันอย่างสนิทสนมจนตอนนี้ไม่ต้องนัดไปที่โรงแรม แต่ว่าเขาให้ฉันมาหาเขาที่บ้านของเขาแทนตอนแรกก็คิดว่าจะมีแต่เขา พอไปก็เจอกับเพื่อนอีกคนของเขาที่ฉันไม่รู้จัก“แฟนแกเหรอน็อต”“เปล่า นี่นันเพื่อนสมัยเรียนของฉันเอง” เขาแนะนำฉันให้กับเพื่อนเขาได้รู้จัก“นัน นี่จิมนะเพื่อนที่ทำงานของผมเอง”“สวัสดีค่ะคุณจิม” ฉันทักทายเขาแล้วรับหน้าที่ชงเครื่องดื่มให้กับทั้งคู่“ไม่รู้ว่าวันนี้แกมีนัดเลยมานั่งดื่มด้วย”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดื่มกันตามสบายเถอะ นันจะไปทำกับแกล้มเพิ่มให้” ฉันบอกแล้วลุกเดินไปที่ครัวปล่อยให้ทั้งคู่พูดคุยกัน ทำให้ทั้งสองมองฉันอย่างชื่นชมพอฉันทำกับแกล้มเสร็จเดินออกมาก็ไม่พบเพื่อนเขาแล้ว“อ้าว แล้วคุณจิมล่ะคะ”“กลับไปแล้ว คงไม่อยากเป็น กขค.น่ะ” น็อตยิ้มมองฉันแล้วเรียกให้เข้าไปนั่งด้วย “อื้อ ใจเย็นก่อนสิ นันยังไม่อาบน้ำเลย” ฉันบ่ายเบี่ยงเขาเมื่อน็อตพยายามจะแยกขาฉัน“ผมอยากเอานันแล้ว ตอนไอ้จิมมาผมเนี่ยลุ้นอยากให้มันกลับจนใจจะขาด พอคุณเข้าครัวผมเลยบอกให้มันกลับไปก่อน” เขาบอกเสียงพร่าพยายามจะเอาฉันคาโซฟาให้ได้“งั้นเรามาอาบน้ำด้วยกันดีไหมคะ นันเข้าครัวเมื่
เราล้างตัวแล้วอาบน้ำด้วยกัน ถูกสบู่ปลุกเร้าอารมณ์กันจนแฉะไปหมดและพร้อมสำหรับรอบต่อไปแล้ว“อยากเสียวแล้วเราไปต่อในห้องนอนกันเถอะค่ะ” ฉันเป็นฝ่ายชักชวนเขาก่อน แล้วส่งสายตากระหายให้แก่เขา“อืม บรรยากาศในนี้ก็ดี อมให้ผมได้ไหม” เขาร้องขอฉันด้วยสีหน้าที่หื่นกระหาย“ได้สิค่ะ ฉันเป็นเพื่อนที่ดีอยู่แล้ว ขอแค่นี้ทำไมจะไม่ได้”ฉันคุกเข่าลงกับพื้นแล้วจับดุ้นของเขาขึ้นมาใช้ลิ้นเลียไปรอบๆ ปลายหัวหยักทั้งดูดและอมมันอย่างชำนาญเขาก้มมองริมฝีปากของฉันรูดท่อนเอ็นลำเขื่องนั้นด้วยความพอใจแล้วโยกสะโพกเบาๆ ดันท่อนเอ็นเข้ามาในปากฉัน“อมเก่งจังเลยนะครับ ทำผมเสียวดุ้นไปหมดแล้ว ซี๊ด...อ๊าส์” เขาครางเสียงสั่นเพราะรู้สึกสยิวจากปลายลิ้นของฉันฉันอมแท่งลำลงไปแล้วใช้ริมฝีปากห่อรูดมันขึ้นลงแล้วดูดส่วนปลายหัวแรงๆ น็อตโยกสะโพกสวนเข้ามาอย่างต่อเนื่องแล้วครางสูดปากเสียงดังด้วยความพอใจ มือข้างหนึ่งค้ำสะโพกตัวเองอีกมือขยุ้มกลุ่มผมฉันรั้งเข้าหาสะโพก“ไปต่อที่เตียงกันเถอะ ผมอยากดูดหอยคุณแล้ว” เขาพูดเสียงพร่า แล้วดึงมือฉันให้ตามเข้าไปที่ห้องเขานอนหงายลงไปแล้วยิ้มมองรูปร่างของฉันโดยเฉพาะตรงเนินสวาทที่อวบอูมนั้น“หันสะโพกมาให้
การไปงานแต่งงานของเพื่อนร่วมงานในคืนนี้ทำให้ฉันได้เจอกับ ‘น็อต’ เพื่อนเก่าสมัยเรียนมัธยมปลายแล้วเราก็ได้พูดคุยกันถึงเรื่องทั่วไป“ไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณยังโสดอยู่ หล่อๆ มีเสน่ห์อย่างคุณโสด เพื่อนคนอื่นในห้องก็คงโสดทั้งแถว” ฉันพูดอย่างชื่นชม เพราะเครื่องดื่มสีหวานที่ผสมแอลกอฮอล์ทำให้ฉันพูดออกไปตรงๆอีกอย่างฉันก็แอบชอบเขามานานแล้วตั้งแต่สมัยเรียน พอรู้ว่าโสดร่างกายกับสมองก็เริ่มพยายามทำตัวให้เข้าไปสนิทสนมกับเขาเพื่อที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ฉันเพื่อนก่อนจะขยับสถานะในอนาคต“นี่นันคิดว่าผมหล่อและมีเสน่ห์เหรอ คิดอะไรกับผมรึเปล่าเนี่ย” เขาถามแล้วอมยิ้ม ทำหน้ากรุ้มกริ่มใส่ฉันตามประสาคนเจ้าเสน่ห์ที่ชอบหว่านเสน่ห์ไปทั่ว“ก็ใช่นะสิ สมัยเรียนนะใครๆ ก็ชื่นชมคุณทั้งนั้นแหละ” ฉันยอมรับไปตามตรง อายุยี่สิบแปดแล้วจะมาเล่นตัวหรือเขินอายอะไรนักหนา“พูดตรงขนาดนี้ งั้นงานเลี้ยงจบเราไปต่อด้วยกันไหมล่ะ ไปนั่งคุยกันแบบ...สองต่อสอง” โดนคนหล่อของรุ่นชวนขนาดนี้ทำไมฉันจะไม่ไปล่ะ“แค่คุยกันเหรอคะ” ฉันถามแล้วมองต่ำไปที่เป้าของเขา“นันไม่อยากคุย เราก็ทำอะไรสนุกๆ กันก็ได้” เขายิ้มกริ่มแล้วมองที่หน้าอกฉันอย่างโลมเลีย“
งานเลี้ยงประจำปีของบริษัทถูกจัดขึ้นที่โรงแรมริมชายหาดแห่งหนึ่ง ตอนกลางคืนมีการแสดงริมหาดและดื่มกินกันอย่างเต็มที่ครอบครัวของท่านประธานมาร่วมงานในปีนี้ด้วย แฝดหนุ่มวัยยี่สิบที่เป็นว่าที่ทายาทลำดับถักไปของบริษัทก็มาแนะนำตัวกับพนักงานในช่วงที่ลาพักร้อนจากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ“กลับมาครั้งนี้ดูหล่อและเท่มากเลยนะคะพี่ฟาง” พนักงานรุ่นน้องดึงชายเสื้อฉันให้หันไปมองหลานแฝดของท่านประธาน“อืม ก็หล่อดี” ฉันเออออตาม แล้วหันไปมองสองแฝดที่มองมาทางฉัน สายตาแบบนั้นไม่บอกก็รู้ว่าคงจะอยากรู้จักฉันให้ลึกซึ้งกว่านี้สาวๆ ในออฟฟิศก็ยังโสดยังสาวกว่าแต่ดูเหมือนทั้งคู่จะไม่สนใจ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะไม่อยากผูกสัมพันธ์กับสาวๆ เพราะกลัวการผูกมัดและต้องแสดงความรับผิดชอบ แต่กับฉันที่เป็นม่ายหากมีสัมพันธ์ด้วยแล้วก็ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรมากพอฉันรู้ว่าพวกเขาสนใจฉัน ฉันก็หาโอกาสปลีกตัวออกไปคนเดียวแล้วรอดูท่าทีว่าพวกเขาคนใดคนหนึ่งจะตามฉันมารึเปล่า แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ฉันถึงกับอึ้งไปแล้วก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อพวกเขาสองคนเดินมาพร้อมกัน“เดินเล่นคนเดียวริมหาดแบบนี้ตอนดึกอันตรายนะครับพี่”“ให้พวกเราไปส่งที่ห้อง
ในวันอาทิตย์ที่แสนเหงา วันนี้ผู้จัดการเคไม่ว่าง น้องเอกข้างบ้านก็ไปเที่ยวกับครอบครัว ส่วนผู้ชายคนอื่นๆ ฉันก็ไม่มีใครว่าง ในวันที่ฉันมีอารมณ์มากกว่าปกติฉันทนต่อความต้องการของตัวเองไม่ไหว ในตอนเช้าจึงจัดการถูหอยสไลด์กับหมอนข้างคู่ใจไปแล้วหนึ่งครั้ง ถึงจะเสร็จสมอารมณ์หมายแต่ก็ยังไม่รู้สึกดีเท่าโดนดุ้นอุ่นๆ มาบรรเทาความหนาวเหน็บในใจตอนนี้พอถึงตอนกลางวัน ฉันที่ขี้เกียจทำอาหารก็ได้สั่งอาหารมาทานที่บ้าน ไรเดอร์ที่รับงานชื่อคุ้นมากจนต้องกดซูมดูโปรไฟล์ แล้วฉันก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจเมื่อหาคนคลายเหงาได้แล้ว“พี่บอลเองเหรอ” ฉันพึมพำออกมาแล้วยิ้มอย่างพอใจพี่บอลคือแฟนเก่าสมัยเรียน เขาเป็นคนที่ขยันทำมาหากินแต่ว่าดูซื่อๆ คบกับผู้หญิงก็โดนหลอกเอาเงินแล้วก็ทิ้งไป จนครองตัวโสดมาตลอดหลายปีนี้เขาคือทางเลือกที่ดีของฉันในวันที่แสนเหงาใจ และหากได้รำลึกความหลังกันสักยกก็คงจะดีไม่น้อยฉันนั่งติ้วรออาหารด้วยความตื่นเต้น ปลายนิ้วที่คลึงวนอยู่ที่เม็ดเสียวทำให้น้ำใสๆ ไหลเอ่อออกมาเต็มร่อง แต่ฉันไม่ได้ทำให้ตัวเองถึงจุดหมาย แค่คลึงให้เสียวเบาๆ เรียกให้น้ำเดินก็เท่านั้นสักพักพี่บอลก็มาถึง ฉันเดินออกไปรับอาหารแล้วยิ
เสน่ห์ของม่ายสาวอย่างฉันไม่ได้มีแค่เด็กหนุ่มกลัดมันอย่างเอกเท่านั้น แม้แต่ที่บริษัทหนุ่มๆ ที่แอบชอบฉันและอยากมีความสัมพันธ์ด้วยก็มีเข้ามาขายขนมจีบมากมายอันดับแรกที่ฉันตัดออกไปคือคนที่มีครอบครัวแล้ว เพราะหลังจากที่ถูกสวมเขา ฉันก็เข้าใจความเจ็บปวดของผู้หญิงดีและไม่คิดจะเล่นชู้กับคนรักของใคร“นี่ทำงานประสาอะไรกัน ถึงได้ทำให้พลาดลูกค้ารายใหญ่ไปแบบนี้” เสียงตวาดที่ดุดันของผู้จัดการพร้อมกับเสียงทิ้งแฟ้มฟาดลงกับโต๊ะทำให้ทั้งแผนกขายเงียบกริบคนที่รับผิดชอบลูกค้ารายใหญ่ก็หน้าเจื่อนแล้วก้มหน้าลง“คุณฟาง คุณเป็นหัวหน้าแผนก คุณไม่ได้กำชับลูกน้องคุณให้ดูรายงานดีๆ เหรอ” เขาหันมาถามฉันเสียงดุ“คือว่า..”“ตามผมเข้าไปที่ห้อง” เขากัดฟันพูดด้วยความขุ่นเคือง แล้วเดินไปรอที่ห้องทำงานส่วนตัวของเขาที่อยู่สุดทางเดิน“พี่ฟางหนูขอโทษนะคะ แต่หนูมั่นใจว่าตรวจสอบดีแล้ว เอกสารต่างๆ ก็ระบุตัวเลขถูกต้องหมดทุกอย่าง มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่” พนักงานขายคนที่รับผิดชอบงานนี้โดยตรงพูดขึ้นมาอย่างร้อนใจที่ความผิดพลาดของเธอทำให้ฉันถูกตำหนิจากผู้จัดการสาขาฉันรับแฟ้มนั้นขึ้นมาดู ทุกอย่างก็ดูปกติดีแล้วทำไมผู้จัดการต้องหาเรื่อง
เมื่อกลับไปถึงบ้าน ฉันก็ชวนให้เขาเข้าไปในบ้านด้วยกันโดยไม่สนใจสายตาของเพื่อนบ้าน ก็โดนพูดเสียๆ หายๆ ไปแล้วนี่นะ แก้ตัวอะไรก็ไม่ได้ อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ขอใครกินจะทำอะไรก็ไม่อยากสนใจใครฉันให้เอกนั่งรอที่ห้องนั่งเล่นแล้วขึ้นไปหยิบไดร์เป่าผมที่เสียมาให้เขาซ่อมจริงทำให้เขาดูสลดลงไปแล้วลงมือซ่อมไดร์ให้แก่ฉันด้วยท่าทีเสียดายนิดๆในขณะที่เขากำลังง่วนอยู่กับการแกะแงะซ่อมอะไรพวกนั้นอยู่ ฉันก็ให้เขาซ่อมต่อไปแล้วไปเปลี่ยนเป็นชุดลำลองออกมานั่งข้างเขาแล้วเอามือวางที่ต้นขาของเด็กหนุ่มพร้อมกับลูบไล้เบาๆ“ท่าทางจะงัดเก่งน่าดู” ฉันถามไปพลางเอาหน้าอกถูแขนเขาไปด้วย มือก็ลูบขาเขาปลุกอารมณ์ไปด้วยเอกตัวสั่นมือสั่นด้วยความตื่นเต้นพยายามหายใจให้เป็นปกติที่สุด แต่ฉันรู้ว่าเขาคงต้องการมากแล้ว แต่ยังลังเลว่าฉันจะยอมให้ทำจริงๆ หรือไม่“มางัดให้พี่หน่อยสิ” ฉันพูดแล้วขยับไปนั่งที่โซฟาอีกตัว กางขาอ้าออกกว้างให้เขาเห็นว่าภายใต้ชุดกระโปรงที่ฉันสวมใส่ไม่ได้มีชั้นในปิดบังของสงวนเอาไว้เอกตาลุกวาวแล้ววางมือจากไขควงและเครื่องมือซ่อมต่างๆ ขยับมานั่งคุกเข่าต่อหน้าฉันแล้วใช้นิ้วเขี่ยที่กลีบสวาทด้วยความหลงใหล“ดูใกล้ๆ สวยกว่
เรื่องราวของเสน่ห์แม่ม่ายอย่างฉันได้เริ่มขึ้นหลังจากที่ฉันหย่ากับสามีแล้วในตอนนั้นฉันเดินทางไปสัมมนาที่ต่างจังหวัด แต่บังเอิญว่างานถูกยกเลิกกะทันหันเพราะวิทยาก่อนป่วย จึงกลับไปที่บ้านแล้วพบว่าเขาพาผู้หญิงมานอนกกกอดกันบนเตียงของเราจากนั้นฉันก็ไม่ทนเพราะไม่อยากรั้งให้คนหลายใจมาอยู่ในชีวิตของฉัน ฉันถ่ายรูปทั้งหมดเอาไว้แล้วค่อยๆ เดินออกไปจากห้องโดยไม่โวยวายอะไรให้พวกเขานอนหลับกอดกันอยู่อย่างนั้นฉันส่งรูปที่เขานอนกอดกับผู้หญิงอื่นในแชทกลุ่มของครอบครัวให้ทุกคนได้รู้เห็นพร้อมกับระบุไปว่าฉันต้องการหย่าไม่นานเขาก็รีบออกมาพูดขอโทษฉันแต่ว่าฉันไม่ต้องการอะไรแล้วนอกจากอิสรภาพ“ฉันจะฟ้องหย่าและฟ้องชู้ผู้หญิงของคุณ ถ้าไม่อยากหมดตัวยอมหย่าให้ฉันดีๆ และบ้านกับรถต้องเป็นของฉันคนเดียว” ฉันบอกข้อเสนอที่เด็ดขาดและจริงจังให้กับเขา โดยไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียวเขายอมรับข้อเสนอ หย่าแล้วยอมออกไปจากชีวิตฉันโดยมีแค่รถคันเก่าและเงินเก็บส่วนของเขาติดตัวไป ส่วนเงินเก็บอีกครึ่ง บ้านและรถเป็นของฉันทั้งหมด เท่านั้นฉันก็ว่าฉันใจดีสุดๆ แล้วปัจจุบันฉันคือแม่ม่ายสาวที่มีแต่หนุ่มๆ มารุมขายขนมจีบ ‘กระดังงาลนไฟก็ยิ่งหอม