เสน่ห์ของม่ายสาวอย่างฉันไม่ได้มีแค่เด็กหนุ่มกลัดมันอย่างเอกเท่านั้น แม้แต่ที่บริษัทหนุ่มๆ ที่แอบชอบฉันและอยากมีความสัมพันธ์ด้วยก็มีเข้ามาขายขนมจีบมากมายอันดับแรกที่ฉันตัดออกไปคือคนที่มีครอบครัวแล้ว เพราะหลังจากที่ถูกสวมเขา ฉันก็เข้าใจความเจ็บปวดของผู้หญิงดีและไม่คิดจะเล่นชู้กับคนรักของใคร“นี่ทำงานประสาอะไรกัน ถึงได้ทำให้พลาดลูกค้ารายใหญ่ไปแบบนี้” เสียงตวาดที่ดุดันของผู้จัดการพร้อมกับเสียงทิ้งแฟ้มฟาดลงกับโต๊ะทำให้ทั้งแผนกขายเงียบกริบคนที่รับผิดชอบลูกค้ารายใหญ่ก็หน้าเจื่อนแล้วก้มหน้าลง“คุณฟาง คุณเป็นหัวหน้าแผนก คุณไม่ได้กำชับลูกน้องคุณให้ดูรายงานดีๆ เหรอ” เขาหันมาถามฉันเสียงดุ“คือว่า..”“ตามผมเข้าไปที่ห้อง” เขากัดฟันพูดด้วยความขุ่นเคือง แล้วเดินไปรอที่ห้องทำงานส่วนตัวของเขาที่อยู่สุดทางเดิน“พี่ฟางหนูขอโทษนะคะ แต่หนูมั่นใจว่าตรวจสอบดีแล้ว เอกสารต่างๆ ก็ระบุตัวเลขถูกต้องหมดทุกอย่าง มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่” พนักงานขายคนที่รับผิดชอบงานนี้โดยตรงพูดขึ้นมาอย่างร้อนใจที่ความผิดพลาดของเธอทำให้ฉันถูกตำหนิจากผู้จัดการสาขาฉันรับแฟ้มนั้นขึ้นมาดู ทุกอย่างก็ดูปกติดีแล้วทำไมผู้จัดการต้องหาเรื่อง
ในวันอาทิตย์ที่แสนเหงา วันนี้ผู้จัดการเคไม่ว่าง น้องเอกข้างบ้านก็ไปเที่ยวกับครอบครัว ส่วนผู้ชายคนอื่นๆ ฉันก็ไม่มีใครว่าง ในวันที่ฉันมีอารมณ์มากกว่าปกติฉันทนต่อความต้องการของตัวเองไม่ไหว ในตอนเช้าจึงจัดการถูหอยสไลด์กับหมอนข้างคู่ใจไปแล้วหนึ่งครั้ง ถึงจะเสร็จสมอารมณ์หมายแต่ก็ยังไม่รู้สึกดีเท่าโดนดุ้นอุ่นๆ มาบรรเทาความหนาวเหน็บในใจตอนนี้พอถึงตอนกลางวัน ฉันที่ขี้เกียจทำอาหารก็ได้สั่งอาหารมาทานที่บ้าน ไรเดอร์ที่รับงานชื่อคุ้นมากจนต้องกดซูมดูโปรไฟล์ แล้วฉันก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจเมื่อหาคนคลายเหงาได้แล้ว“พี่บอลเองเหรอ” ฉันพึมพำออกมาแล้วยิ้มอย่างพอใจพี่บอลคือแฟนเก่าสมัยเรียน เขาเป็นคนที่ขยันทำมาหากินแต่ว่าดูซื่อๆ คบกับผู้หญิงก็โดนหลอกเอาเงินแล้วก็ทิ้งไป จนครองตัวโสดมาตลอดหลายปีนี้เขาคือทางเลือกที่ดีของฉันในวันที่แสนเหงาใจ และหากได้รำลึกความหลังกันสักยกก็คงจะดีไม่น้อยฉันนั่งติ้วรออาหารด้วยความตื่นเต้น ปลายนิ้วที่คลึงวนอยู่ที่เม็ดเสียวทำให้น้ำใสๆ ไหลเอ่อออกมาเต็มร่อง แต่ฉันไม่ได้ทำให้ตัวเองถึงจุดหมาย แค่คลึงให้เสียวเบาๆ เรียกให้น้ำเดินก็เท่านั้นสักพักพี่บอลก็มาถึง ฉันเดินออกไปรับอาหารแล้วยิ
งานเลี้ยงประจำปีของบริษัทถูกจัดขึ้นที่โรงแรมริมชายหาดแห่งหนึ่ง ตอนกลางคืนมีการแสดงริมหาดและดื่มกินกันอย่างเต็มที่ครอบครัวของท่านประธานมาร่วมงานในปีนี้ด้วย แฝดหนุ่มวัยยี่สิบที่เป็นว่าที่ทายาทลำดับถักไปของบริษัทก็มาแนะนำตัวกับพนักงานในช่วงที่ลาพักร้อนจากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ“กลับมาครั้งนี้ดูหล่อและเท่มากเลยนะคะพี่ฟาง” พนักงานรุ่นน้องดึงชายเสื้อฉันให้หันไปมองหลานแฝดของท่านประธาน“อืม ก็หล่อดี” ฉันเออออตาม แล้วหันไปมองสองแฝดที่มองมาทางฉัน สายตาแบบนั้นไม่บอกก็รู้ว่าคงจะอยากรู้จักฉันให้ลึกซึ้งกว่านี้สาวๆ ในออฟฟิศก็ยังโสดยังสาวกว่าแต่ดูเหมือนทั้งคู่จะไม่สนใจ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะไม่อยากผูกสัมพันธ์กับสาวๆ เพราะกลัวการผูกมัดและต้องแสดงความรับผิดชอบ แต่กับฉันที่เป็นม่ายหากมีสัมพันธ์ด้วยแล้วก็ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรมากพอฉันรู้ว่าพวกเขาสนใจฉัน ฉันก็หาโอกาสปลีกตัวออกไปคนเดียวแล้วรอดูท่าทีว่าพวกเขาคนใดคนหนึ่งจะตามฉันมารึเปล่า แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ฉันถึงกับอึ้งไปแล้วก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อพวกเขาสองคนเดินมาพร้อมกัน“เดินเล่นคนเดียวริมหาดแบบนี้ตอนดึกอันตรายนะครับพี่”“ให้พวกเราไปส่งที่ห้อง
การไปงานแต่งงานของเพื่อนร่วมงานในคืนนี้ทำให้ฉันได้เจอกับ ‘น็อต’ เพื่อนเก่าสมัยเรียนมัธยมปลายแล้วเราก็ได้พูดคุยกันถึงเรื่องทั่วไป“ไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณยังโสดอยู่ หล่อๆ มีเสน่ห์อย่างคุณโสด เพื่อนคนอื่นในห้องก็คงโสดทั้งแถว” ฉันพูดอย่างชื่นชม เพราะเครื่องดื่มสีหวานที่ผสมแอลกอฮอล์ทำให้ฉันพูดออกไปตรงๆอีกอย่างฉันก็แอบชอบเขามานานแล้วตั้งแต่สมัยเรียน พอรู้ว่าโสดร่างกายกับสมองก็เริ่มพยายามทำตัวให้เข้าไปสนิทสนมกับเขาเพื่อที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ฉันเพื่อนก่อนจะขยับสถานะในอนาคต“นี่นันคิดว่าผมหล่อและมีเสน่ห์เหรอ คิดอะไรกับผมรึเปล่าเนี่ย” เขาถามแล้วอมยิ้ม ทำหน้ากรุ้มกริ่มใส่ฉันตามประสาคนเจ้าเสน่ห์ที่ชอบหว่านเสน่ห์ไปทั่ว“ก็ใช่นะสิ สมัยเรียนนะใครๆ ก็ชื่นชมคุณทั้งนั้นแหละ” ฉันยอมรับไปตามตรง อายุยี่สิบแปดแล้วจะมาเล่นตัวหรือเขินอายอะไรนักหนา“พูดตรงขนาดนี้ งั้นงานเลี้ยงจบเราไปต่อด้วยกันไหมล่ะ ไปนั่งคุยกันแบบ...สองต่อสอง” โดนคนหล่อของรุ่นชวนขนาดนี้ทำไมฉันจะไม่ไปล่ะ“แค่คุยกันเหรอคะ” ฉันถามแล้วมองต่ำไปที่เป้าของเขา“นันไม่อยากคุย เราก็ทำอะไรสนุกๆ กันก็ได้” เขายิ้มกริ่มแล้วมองที่หน้าอกฉันอย่างโลมเลีย“
เราล้างตัวแล้วอาบน้ำด้วยกัน ถูกสบู่ปลุกเร้าอารมณ์กันจนแฉะไปหมดและพร้อมสำหรับรอบต่อไปแล้ว“อยากเสียวแล้วเราไปต่อในห้องนอนกันเถอะค่ะ” ฉันเป็นฝ่ายชักชวนเขาก่อน แล้วส่งสายตากระหายให้แก่เขา“อืม บรรยากาศในนี้ก็ดี อมให้ผมได้ไหม” เขาร้องขอฉันด้วยสีหน้าที่หื่นกระหาย“ได้สิค่ะ ฉันเป็นเพื่อนที่ดีอยู่แล้ว ขอแค่นี้ทำไมจะไม่ได้”ฉันคุกเข่าลงกับพื้นแล้วจับดุ้นของเขาขึ้นมาใช้ลิ้นเลียไปรอบๆ ปลายหัวหยักทั้งดูดและอมมันอย่างชำนาญเขาก้มมองริมฝีปากของฉันรูดท่อนเอ็นลำเขื่องนั้นด้วยความพอใจแล้วโยกสะโพกเบาๆ ดันท่อนเอ็นเข้ามาในปากฉัน“อมเก่งจังเลยนะครับ ทำผมเสียวดุ้นไปหมดแล้ว ซี๊ด...อ๊าส์” เขาครางเสียงสั่นเพราะรู้สึกสยิวจากปลายลิ้นของฉันฉันอมแท่งลำลงไปแล้วใช้ริมฝีปากห่อรูดมันขึ้นลงแล้วดูดส่วนปลายหัวแรงๆ น็อตโยกสะโพกสวนเข้ามาอย่างต่อเนื่องแล้วครางสูดปากเสียงดังด้วยความพอใจ มือข้างหนึ่งค้ำสะโพกตัวเองอีกมือขยุ้มกลุ่มผมฉันรั้งเข้าหาสะโพก“ไปต่อที่เตียงกันเถอะ ผมอยากดูดหอยคุณแล้ว” เขาพูดเสียงพร่า แล้วดึงมือฉันให้ตามเข้าไปที่ห้องเขานอนหงายลงไปแล้วยิ้มมองรูปร่างของฉันโดยเฉพาะตรงเนินสวาทที่อวบอูมนั้น“หันสะโพกมาให้
เราสองคนนัดเจอกันบ่อยจนเริ่มกลับมาคุยกันอย่างสนิทสนมจนตอนนี้ไม่ต้องนัดไปที่โรงแรม แต่ว่าเขาให้ฉันมาหาเขาที่บ้านของเขาแทนตอนแรกก็คิดว่าจะมีแต่เขา พอไปก็เจอกับเพื่อนอีกคนของเขาที่ฉันไม่รู้จัก“แฟนแกเหรอน็อต”“เปล่า นี่นันเพื่อนสมัยเรียนของฉันเอง” เขาแนะนำฉันให้กับเพื่อนเขาได้รู้จัก“นัน นี่จิมนะเพื่อนที่ทำงานของผมเอง”“สวัสดีค่ะคุณจิม” ฉันทักทายเขาแล้วรับหน้าที่ชงเครื่องดื่มให้กับทั้งคู่“ไม่รู้ว่าวันนี้แกมีนัดเลยมานั่งดื่มด้วย”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดื่มกันตามสบายเถอะ นันจะไปทำกับแกล้มเพิ่มให้” ฉันบอกแล้วลุกเดินไปที่ครัวปล่อยให้ทั้งคู่พูดคุยกัน ทำให้ทั้งสองมองฉันอย่างชื่นชมพอฉันทำกับแกล้มเสร็จเดินออกมาก็ไม่พบเพื่อนเขาแล้ว“อ้าว แล้วคุณจิมล่ะคะ”“กลับไปแล้ว คงไม่อยากเป็น กขค.น่ะ” น็อตยิ้มมองฉันแล้วเรียกให้เข้าไปนั่งด้วย “อื้อ ใจเย็นก่อนสิ นันยังไม่อาบน้ำเลย” ฉันบ่ายเบี่ยงเขาเมื่อน็อตพยายามจะแยกขาฉัน“ผมอยากเอานันแล้ว ตอนไอ้จิมมาผมเนี่ยลุ้นอยากให้มันกลับจนใจจะขาด พอคุณเข้าครัวผมเลยบอกให้มันกลับไปก่อน” เขาบอกเสียงพร่าพยายามจะเอาฉันคาโซฟาให้ได้“งั้นเรามาอาบน้ำด้วยกันดีไหมคะ นันเข้าครัวเมื่
หกวันแล้วที่ฉันกับน็อตต้องห่างกัน เขาไปสัมมนาที่ต่างจังหวัดกำหนดจะกลับในวันพรุ่งนี้ทำให้ฉันคิดถึงเขามาก“ทำไมไม่รับสายนะ” ฉันคิดอย่างเป็นกังวล คืนสุดท้ายที่เขาพักที่นั่นจะไปเที่ยวไหนหรือเปล่า แต่ว่าเพราะไม่อยากให้เขารำคาญจึงโทรไปแค่สายเดียวเท่านั้นเพราะฉันไม่จู้จี้ ไม่ค่อยตาม และเวลาเพื่อนเขามาก็วางตัวดี น็อตบอกว่าเขาชอบฉันที่เป็นแบบนี้เราถึงเริ่มขยับสถานะกันจนมาถึงวันนี้ฉันมองโทรศัพท์ด้วยความเป็นกังวล จากนั้นจึงตัดสินใจจะอาบน้ำเข้านอนเพราะว่ามั่นใจในตัวเขาว่าจะไม่ออกนอกลู่นอกทางพอออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าน็อตยืนยิ้มให้อยู่ตรงหน้าแล้ว“คิดถึงผมไหม” เขาพูดแล้วอ้าแขนรอรับฉันฉันยิ้มกว้างแล้วโผเข้าไปกอดเขาด้วยความคิดถึง มองใบหน้าที่หล่อเหลานั้นแล้วเขย่งเท้าขึ้นหอมแก้มด้วยความรักใคร่“ไหนบอกมาพรุ่งนี้ไงคะ”“ก็คิดถึงนันเลยต้องรีบกลับมาก่อนเวลาไงล่ะ” เขาพูดเสียงนุ่มอย่างเอาใจฉันลูบที่เป้ากางเกงของเขา รู้ว่าอีกฝ่ายก็คงอยากทำกิจกรรมนั้นแม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมากแค่ไหน“ผมไม่อยู่เหงาหรือเปล่า” เขาถามเสียงพร่าแล้วลูบต้นขาของฉันล้วงเข้าไปลูบที่สะโพก“เหงาสิคะ คิดถึงมากๆ โดยเฉพาะดุ้นอว
ตั้งแต่ที่ฉันไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยและอาศัยอยู่ที่นั่นยาวจนกระทั่งเรียนจบ พอกลับมาที่บ้านหลายๆ อย่างก็ดูเปลี่ยนไปตอนนี้พี่ชายข้างบ้านที่ฉันเคยปลาบปลื้มอยากได้เขามาเป็นแฟน และออกตัวว่าชอบเขาโดยไม่อายมาตั้งแต่เป็นสาวรุ่น พอได้กลับมาเจอกันอีกครั้งจากคนที่หล่อเหลาและมีเสน่ห์ กลายเป็นคนขี้เมาหยำเปที่ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ลุงข้างบ้านที่แกชอบเข้าวัดเข้าวาและเอาขนมที่วัดมาให้ฉันอยู่เสมอ ตอนนี้วัดไม่เข้า แม้เหล้าไม่ดื่มแต่ว่าติดการพนันงอมแงมไม่กลับบ้านมาแค่สี่ปีทุกอย่างดูเปลี่ยนไปจนฉันรู้สึกใจหายกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ โดยเฉพาะลุงเขยที่เคยเป็นคนอบอุ่นและใจดีตอนนี้เขาเองก็เปลี่ยนไป“มาช่วยป้าทำกับข้าวหน่อยสิแอน” เสียงป้าของฉันร้องเรียกขึ้นมาจากในครัว“ค่ะป้า” ฉันตอบรับแล้วเดินไปหาท่านโดยมีสายตาของลุงเขยมองตามอยู่ไม่ห่าง แววตาที่เคยเอ็นดูเปลี่ยนเป็นแววตาที่โลมเลียมันชวนอึดอัดจนฉันรู้สึกว่าไม่อยากจะอยู่ที่นี่“แล้วพ่อกับแม่ล่ะคะป้าเมื่อไหร่จะกลับ”“สองคนนั้นน่าจะกลับดึกๆ นู่นแหละกว่าตลาดจะวาย แต่วันนี้ก็ไม่แน่นะถ้ารู้ว่าแอนมาอาจจะรีบปิดร้านกลับมาแต่หัววันก็ได้” ป้าของฉันพูดแล้วยิ้มเอ็นดูฉ
ที่สะพานกั้นระหว่างสองตำบลที่จะมีการแข่งขันขึ้นในคืนนี้ สก๊อยสาววัยใสและหนุ่มแว้นที่ชื่นชอบในการแต่งรถและความเร็วก็มารวมตัวกันเพื่อรอให้ถึงการแข่งขันของคู่เทพอ้อยมาถึงในตอนหัวค่ำด้วยสภาพที่ขาสั่นเทาแทบจะหมดแรง เพราะเธอรีดน้ำจ๊อกออกไปได้ถึงห้าน้ำตั้งแต่บ่ายจนค่ำแต่ถ้าจะให้ถูกต้องบอกว่าเธอเองเสียมากกว่าที่ถูกเขารีดน้ำจนตอนนี้แทบเดินไม่ไหว ในขณะที่จ๊อกนั้นโล่งเบาสบายตัวพร้อมทำการแข่งขันอย่างเต็มที่“ดูนังอ้อยสิ หน้าซีดเชียว” เขื่อนยิ้มอย่างพอใจ โขงที่เห็นว่าหญิงสาวที่ตนนั้นแอบรักอยู่ในสภาพที่อ่อนแรงแบบนั้นก็กำมือแน่น เพราะรู้ว่าหญิงสาวไปทำอะไรมาเขาเดินไปดึงแขนอ้อยให้มารวมกลุ่มกับพี่ชายพร้อมกับทำสีหน้าเป็นกังวล“ครั้งนี้ฉันจะลงแข่งเอง ฉันไม่ยอมให้ไอ้จ๊อกนั่นมันเอาอ้อยไปแน่” โขงออกตัวอย่างชัดเจนว่าเขาหวงสก๊อยวัยยี่สิบที่ยืนค้ำขอบราวสะพานอยู่“ฝีมือแกยังไม่สู้ไอ้เคนเลย จะเอาอะไรไปชนะไอ้จ๊อกมัน” เขื่อนส่ายหน้าไม่อนุญาตให้น้องชายลงแข่งอ้อยไม่อยากออกความเห็นอะไร เธอกำลังกลุ้มใจเมื่อเห็นว่าจ๊อกนั้นดูกระปรี้กระเปร่าแทนที่จะอ่อนเพลียจากการปลดปล่อยน้ำออกมาหลายรอบ หากเคนแพ้ครั้งนี้เธอต้องตกเป็น
เวลาผ่านไปจนกระทั่งวนกลับมาถึงการแข่งขันอีกครั้ง อ้อยรวมตัวกันกับสก๊อยสาววัยรุ่นช่วยกันเก็บขยะในเขตชุมชนท่ามกลางสายตาดูถูกของชาวบ้านแม้พวกเธอจำทำความดีแต่เพราะการแต่งกายที่เปิดโชว์เนื้อหนังที่มากเกินไป ไม่สดใสสมวัยน่ารักก็ทำให้ผู้ใหญ่หลายๆ คนไม่ค่อยให้ความเอ็นดูนักเพราะความคิดของคนรุ่นเก่าการแต่งตัวน้อยชิ้นนั้นมีแต่อาชีพผู้หญิงหากินที่เอาไว้หลอกล่อผู้ชาย แม้จะทำดีให้ตายก็คงเปลี่ยนความคิดกลุ่มคนหัวโบราณนี้ไม่ได้“ดูสิ เรามาเก็บขยะให้แท้ๆ มองเราอย่างกับว่ารังเกียจ” สก๊อยมัธยมปลายพูดด้วยความหงุดหงิดเมื่อเห็นสายตาคนที่มองเธอ“นินทาอะไรฉันพวกเด็กเหลือขอ พวกผู้ชายก็แว้นรถรบกวนชาวบ้านไปวันๆ พวกผู้หญิงก็แต่งตัวยั่วเพศ ระวังเถอะจะท้องก่อนแต่งสร้างปัญหาให้สังคม ออกไป ไม่ต้องมาเดินผ่านหน้าบ้านฉัน”“วันไหนจะแข่งรถกัน พวกมันก็ทำดีเอาหน้าพวกตัวปัญหา”หญิงวัยกลางคนทั้งสองที่อยู่บ้านตรงข้ามกันช่วยไล่ตะเพิดกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังเดินเก็บขยะตามริมถนนอย่างรังเกียจทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรให้ตนเลย“เห็นไหม พวกนั้นดูถูกพวกเรา แต่งตัวโป๊แล้วทำไมต้องมองว่ามั่วด้วยนะ”“นั่นสิ พวกหัวโบราณ”สก๊อยวัยรุ่นคุยกัน
วันต่อมาโขงก็ไปรับอ้อยมาที่บ้านของตนกับพี่ชาย ซึ่งมีพรรคพวกอีกสามคนเพื่อแบ่งเงินกันอ้อยและเคนได้ส่วนแบ่งไปถึงหนึ่งหมื่นเพราะเป็นตัวเอกในเรื่องนี้ ในขณะที่ลูกน้องของเขื่อนได้คนละห้าพันและสองพี่น้องได้ไปคนละหนึ่งหมื่นเช่นกันกับอ้อยและเคน“ไหนลูกพี่บอกว่าครั้งนี้เดิมพันหลักแสนทำไมฉันได้เท่านี้ล่ะพี่เขื่อน” ลูกน้องเขาถามอย่างไม่เข้าใจเลยถูกเขื่อนตบกบาลเข้าให้“เงินเดิมพันหลักแสน ฝ่ายเขาห้าหมื่น ฝ่ายเราห้าหมื่นไง ไอ้ควายเอ๊ย ทีตอนเสียพวกกูกับไอ้เคนจ่ายกันสามคน เวลาได้กูแบ่งให้ยังจะมีหน้ามาสงสัย ครั้งหน้ากูไม่แบ่งล่ะนะ” เขื่อนพูดด้วยความโมโหลูกน้องทั้งสองได้แต่ก้มหน้าเข้าใจแล้วไม่ถามอะไรต่อ ทำให้เขื่อนหันไปหาโขง“เมื่อคืนเป็นไง ไอ้จ๊อกมันตามไปไหม”“ตามไปจ้ะ เข้าไปจัดฉันอีกรอบ บอกว่าครั้งหน้าจะแข่งเอาฉันไปให้ได้ ไม่รู้จะทำไงดี แผนเดิมถ้าใช้อีกต้องถูกสงสัยแน่” อ้อยพูดอย่างเป็นกังวล“ไม่ต้องห่วงหรอก เอ็งก็ใช้แผนรีดน้ำมันก่อนแข่งแต่คราวนี้ไม่ต้องป้ายยา” เขื่อนบอกเธอแล้วมองดูโขงที่ไม่พอใจเพราะอีกฝ่ายแอบชอบอ้อยอยู่“เมื่อวานฉันรีดน้ำไปตั้งเยอะถ้าไม่ได้ป้ายยาก็น่าจะชนะเห็นๆ” เธอพูดตามความจริงที่
การแข่งขันเริ่มขึ้นตามเวลาที่กำหนด จุดเริ่มต้นคือหน้าบ้านร้างที่อยู่อีกฟากของสะพานไปสิ้นสุดที่หน้าตลาดสดที่อยู่อีกฝั่งของสะพานซึ่งเป็นเขตของอีกตำบลคู่แรกได้แข่งขันผ่านพ้นไปด้วยดีเป็นเด็กมัธยมอายุสิบเจ็ดทั้งคู่ ซึ่งแข่งขันกันอย่างสูสีท่ามกลางเสียงเชียร์ของเด็กสาววัยใสที่ไม่รู้เบื้องหลังในการแข่งขันจากนั้นคู่ที่สองซึ่งเป็นการพนันแข่งรถอย่างลับๆ ก็เกิดขึ้น จ๊อกวัยยี่สิบสองเป็นตัวแทนของเสี่ยชาติที่จะลงแข่งของตำบลฝั่งตลาดและเคนวัยยี่สิบเอ็ดเป็นผู้ตัวแทนตำบลของโขงกับเขื่อน ที่มีดีกรีเป็นผู้ชนะสามเดือนซ้อนในการแข่งขันบนท้องถนนอ้อยมองจ๊อกแล้วส่งสายตาให้เป็นนัยว่าอยากเชียร์เขาแต่เพราะตนอยู่อีกฝั่งตำบลเลยแสดงออกชัดเจนไม่ได้จ๊อกมองหญิงสาวตาละห้อย แต่ก็ต้องจำใจเลือกสก๊อยสาวมานั่งซ้อนท้ายเพื่อทำการแข่งขันชิงสก๊อยสาวตามธรรมเนียม แต่เบื้องหลังก็รู้กันไม่กี่คนว่าคู่นี้คือการแข่งขันเดิมพันด้วยเงินเมื่อรถเริ่มออกตัวจ๊อกก็นำเคนไปก่อนแต่เคนก็รั้งท้ายสูสีเบียดกันไปจนถึงกลางสะพาน แต่แล้วก็ดูเหมือนว่าจ๊อกจะเกิดปัญหา เขาชะลอรถลงก่อนถึงเส้นชัยทำให้เคนได้รับชัยชนะไป“เอ็งรู้ใช่ไหมอ้อย ว่าถ้าไอ้จ๊อกมันสงส
“นังอ้อยนั่นเอ็งจะไปไหน” เสียงของมารดาทำให้อ้อยรีบสาวเท้าวิ่งขึ้นรถมอเตอร์ไซค์แต่งซิ่งที่จอดรอด้วยความเร็ว“ไปเลยพี่โขง” เธอกอดเอวชายร่างเพรียวที่เป็นคนขับแล้วเอาหน้าอกแนบแผ่นหลังนั้นเร่งให้เขารีบขับออกไปมารดาวัยสี่สิบสามได้แต่เท้าสะเอวมองอย่างขัดใจที่ลูกสาววัยยี่สิบนั้นทำตัวเหลวไหลชอบออกไปกับแก๊งเด็กแว้นยามค่ำคืน แต่ก็ห้ามอะไรไม่ได้โขงพาอ้อยไปยังจุดรวมตัวที่สะพาน มีรถมอเตอร์ไซค์จอดเรียงรายหลายคัน แต่ละคันแต่งซิ่งจนเกินมูลค่าของรถที่ซื้อมา ดูเท่และสวยงามในแบบที่วัยรุ่นชอบ“พี่อ้อย” สก๊อยวัยรุ่นอายุตั้งแต่สิบห้าถึงสิบแปดปีที่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมัธยมปลายร้องเรียกสก๊อยรุ่นใหญ่ด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น“วันนี้พวกเราจอดเก็บขยะที่ใต้สะพานเส้นนี้ แล้วพวกผู้ชายก็ลงไปลอกผักตบกว่าจะเสร็จก็พากันเหนื่อยมาก” หนึ่งในสก๊อยรุ่นเยาว์พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด“ทำความดีก็ดีแล้วนี่ จะหงุดหงิดทำไม” อ้อยถามแล้วมองพวกเธอที่มองหน้ากันอย่างเซ็งๆ“พ่อแม่พวกเราไม่มีใครเข้าใจ”“ถึงเราจะเป็นสก๊อยซ้อนท้ายเด็กแว้นแต่พวกเราก็ทำความดีให้สังคมมากกว่าบางคนเสียอีก”สองสาวพูดออกมาแล้วถอนหายใจ ขึ้นชื่อว่าเป
วันนี้เป็นสุดท้ายที่คุณนายพุดจีบจะได้เล่นชู้กับคนสวนดุ้นอวบ ทั้งสองตกลงกันว่าความสัมพันธ์นี้จะจบลงเพราะหญิงสาวได้รับประสบการณ์แปลกใหม่จนพอใจแล้ว“พรุ่งนี้นายอำเภอจะมาแล้ว ฉันคงไม่ได้เล่นสนุกกับลุงคล้ายอีกแล้วสินะ”“ไม่เป็นไรนะครับคุณนาย เอาไว้นานๆ ทีถ้าอยากปรึกษาท่ายากๆ เด็ดๆ ก็ค่อยนัดผมอีกก็ได้” เขาพูดเสียงนุ่มและพร่าสั่นในขณะที่นอนลูบไล้ร่างเปลือยเปล่าที่นอนอยู่ตรงหน้า“เรามาเริ่มกันดีกว่าครับ ผมอยากเอาคุณนายจะแย่แล้ว” เขาบอกแล้วก้มลงไปจูบที่ไหล่เปลือยนั้น ลากลิ้นไปที่ต้นคอระหงแล้วไซ้จูบอย่างดูดดื่มเขาขึ้นมาคร่อมทับ โน้มลงไปจูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม ริมฝีปากหนาเลื่อนไปจูบที่ปลายคางแล้วเลื่อนลงไปเรื่อยๆ เพื่อเชยชมหน้าอกอวบอิ่มแล้วขยำมันขึ้นมาดูดเลียที่ยอดอกชูชันนิ้วมือหยาบกร้านไต่ไปบดขยี้เม็ดเสียว แล้วเลื่อนเข้าไปที่ร่องสวาทอย่างหนักมือ“อ๊าส์ ลุงคล้ายฉันเสียว” ฉันร้องเสียงกระเส่า“ขย่มให้ผมหน่อยสิครับคุณนาย” เขาลุกขึ้นนั่งขอร้องเสียงแหบพร่าและสั่นกระเส่าที่ปลายเสียงหญิงสาวขยับมานั่งบนตักเขาในท่าหันหน้าเข้าหากัน ก้มลงไปบดจูบริมฝีปากนั้น ทั้งบดริมฝีปากและแลกลิ้นอย่างดูดดื่มในขณะที่
สาวใช้มะยมเดินหน้าเศร้ามาเก็บโต๊ะอาหารเช้าที่คุณนายพุดจีบกินเสร็จแล้ว และเข้าไปในครัวเพื่อตักอาหารเช้าที่คุณนายทำเผื่อตนกินอาหารอย่างเงียบๆเมื่อเช้านี้เธออ้อนขอให้นายคล้ายเล่นรักกับตนแต่เขาปฏิเสธแล้วอ้างว่าเหนื่อยทำให้เธอรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เล่นเสียวในตอนเช้ากับเขาแล้ววันนี้นายคล้ายก็มาแค่รดน้ำต้นไม้แล้วรีบร้อนออกไปเพื่อที่จะไปทำสวนที่บ้านอีกหลัง แล้วบอกว่าตอนเย็นก็มีงานต่อถึงเธอไปหาที่บ้านเขาก็ไม่ว่าง ทำให้เธอถึงกับหงุดหงิดวัยสาวแรกรุ่นที่กำลังติดใจรสสวาท ขาดแค่วันเดียวเธอก็อยู่ไม่เป็นสุขแล้ว“เป็นอะไรไป ไม่สบายเหรอ” คุณนายพุดจีบถามเธอเห็นสีหน้าที่งอง้ำนั้น“ไม่ได้เป็นอะไรค่ะคุณนาย” มะยมพูดแล้วฝืนยิ้มออกมา“ถ้าไม่สบายวันนี้กลับก่อนก็ได้นะ ฉันไม่ว่า” เจ้านายสาวพูดแสดงความห่วงใย“งั้นหนูขอทำงานบ้านให้เสร็จ แล้วขอกลับตอนบ่ายสามนะคะ” เธอบอกคุณนายด้วยน้ำเสียงที่ซาบซึ้งใจ ไอยากลางานทั้งวันเพราะไม่อยากถูกหักเงินเดือนจึงขอทำงานถึงตอนบ่ายสาม“ได้สิ” คุณนายพุดจีบบอกแล้วชะเง้อมองออกไปในสวน“วันนี้คนสวนไม่มาเหรอ” เธอถามด้วยความสงสัย“มาค่ะ แต่มาแค่รดน้ำเดี๋ยวก็จะออกไป วันนี้ต้องไปตัดหญ้าที่
พอออกมาจากห้องหลังจากเสร็จกิจส่วนตัวแล้ว คุณนายพุดจีบก็เดินลงไปที่ชั้นล่างในจังหวะที่มะยมเข้ามาเก็บโต๊ะพอดี“วันนี้ไปตลาดให้ฉันหน่อยนะ”“ได้ค่ะคุณนาย” มะยมรับปากอย่างเต็มใจ การปั่นจักรยานไปซื้อของที่ตลาดเป็นงานที่เธอชอบที่สุดเพราะเวลามีเงินทอนคุณนายก็อนุญาตให้เธอซื้อขนมที่ชอบกินด้วย “ค่ะ” มะยมรีบเก็บโต๊ะด้วยความดีใจพุดจีบไปนั่งจดรายการของรอที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้าน พอสาวใช้มาถึงก็ยื่นใบรายการนั้นให้พร้อมกับเงินจำนวนหนึ่ง“เงินเหลือก็ซื้อขนมมากินนะ”“ขอบคุณค่ะคุณนาย”“แล้วไม่ต้องรีบนะ ระวังรถด้วย” คุณนายพุดจีบบอกเหมือนห่วงใยแต่ในใจนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นกับแผนการของตน“ค่ะ” มะยมรับปากแล้วรีบเดินไปที่จักรยานของตน ยิ่งของเยอะยิ่งออกไปนานเธอก็ยิ่งดีใจเพราะนั่นหมายถึงงานบ้านวันนี้ก็ทำน้อยลงไปด้วยเมื่อมะยมปั่นจักรยานออกไปไกลแล้ว คุณนายวัยสาวก็หันไปพูดคุยกับคนสวน“ลงต้นไม้ใหม่เสร็จแล้วจะไปบ้านไหนต่อล่ะ”“วันนี้ไม่ได้ไปไหนครับ อยู่ตัดหญ้าที่นี่ต่อ หญ้าเริ่มสูงแล้ว” เขาตอบแล้วก้มหน้าลงเล็กน้อย“ลุงซ่อมไฟเป็นไหม หลอดไฟในบ้านเสียน่ะ ช่วยไปดูหน่อยสิ” เธอเริ่มจากการชักชวนเขาเข้าไปในบ้านคุณน
เช้าวันต่อมาคุณนายพุดจีบยืนส่งสามีขึ้นรถด้วยสายตาที่อาลัยอาวรณ์เพราะเขาต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัดเป็นเวลาสามวัน“จะไม่กินอาหารเช้าก่อนจริงๆ เหรอคะ”“ไม่ล่ะ ใกล้เวลารถจะออกแล้ว เขาน่าจะพาแวะกินที่ข้างทางน่ะ” เขาตอบภรรยาเสียงนุ่ม“เดินทางปลอดภัยนะคะคุณ” เธออวยพรสามีแล้วขยับเข้าไปกอดหลวมๆ เงยหน้ามองเขาด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าเธอกังวลใจที่ต้องอยู่ลำพัง“แล้วผมจะรีบกลับมา” เขาจูบลาเธอที่หน้าผากด้วยความรัก แล้วเดินขึ้นรถขับออกไปจากบ้านพักโดยที่ภรรยาสาวมองตามจนลับตาคุณนายวัยสาวกำลังจะกลับเข้าไปในบ้านเพื่อรับประทานอาหารเช้าที่ตนเตรียมเอาไว้ มองเห็นจักรยานมะยมจอดที่โรงจอดรถแล้วแสดงว่าน่าจะมาทำงานแล้วแต่กลับไม่เห็นตัวคนเธอมองไปยังบริเวณรอบๆ บ้าน คนสวนที่ปกติจะมาช่วงเวลานี้ก็ไม่เห็นเช่นกัน ตอนแรกคิดว่ายังไม่มาแต่สายตากลับเหลือบไปเห็นว่ารถมอเตอร์ไซค์คันเก่าคร่ำครึของเขาจอดที่ริมรั้วนอกบ้าน“หรือว่าสองคนนั้น...” พุดจีบเอามือทาบอกด้วยความรู้สึกตกใจ ว่าทั้งสองใช้ช่วงเวลานี้ในการร่วมรักกันที่บ้านพักของตนกับสามีคุณนายสาวเดินไปรอบบ้านเพื่อหาว่าทั้งสองระเริงรักกันที่ไหนเพื่อที่จะตำหนิ แต่เมื่อเดินไปถึงห