เมื่อกลับไปถึงบ้าน ฉันก็ชวนให้เขาเข้าไปในบ้านด้วยกันโดยไม่สนใจสายตาของเพื่อนบ้าน ก็โดนพูดเสียๆ หายๆ ไปแล้วนี่นะ แก้ตัวอะไรก็ไม่ได้ อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ขอใครกินจะทำอะไรก็ไม่อยากสนใจใคร
ฉันให้เอกนั่งรอที่ห้องนั่งเล่นแล้วขึ้นไปหยิบไดร์เป่าผมที่เสียมาให้เขาซ่อมจริงทำให้เขาดูสลดลงไปแล้วลงมือซ่อมไดร์ให้แก่ฉันด้วยท่าทีเสียดายนิดๆ
ในขณะที่เขากำลังง่วนอยู่กับการแกะแงะซ่อมอะไรพวกนั้นอยู่ ฉันก็ให้เขาซ่อมต่อไปแล้วไปเปลี่ยนเป็นชุดลำลองออกมานั่งข้างเขาแล้วเอามือวางที่ต้นขาของเด็กหนุ่มพร้อมกับลูบไล้เบาๆ
“ท่าทางจะงัดเก่งน่าดู” ฉันถามไปพลางเอาหน้าอกถูแขนเขาไปด้วย มือก็ลูบขาเขาปลุกอารมณ์ไปด้วย
เอกตัวสั่นมือสั่นด้วยความตื่นเต้นพยายามหายใจให้เป็นปกติที่สุด แต่ฉันรู้ว่าเขาคงต้องการมากแล้ว แต่ยังลังเลว่าฉันจะยอมให้ทำจริงๆ หรือไม่
“มางัดให้พี่หน่อยสิ” ฉันพูดแล้วขยับไปนั่งที่โซฟาอีกตัว กางขาอ้าออกกว้างให้เขาเห็นว่าภายใต้ชุดกระโปรงที่ฉันสวมใส่ไม่ได้มีชั้นในปิดบังของสงวนเอาไว้
เอกตาลุกวาวแล้ววางมือจากไขควงและเครื่องมือซ่อมต่างๆ ขยับมานั่งคุกเข่าต่อหน้าฉันแล้วใช้นิ้วเขี่ยที่กลีบสวาทด้วยความหลงใหล
“ดูใกล้ๆ สวยกว่าตอนที่แอบดูผ่านหน้าต่างไหม” คำถามของฉันทำให้เขามีท่าทีตกใจเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มแล้วพยักหน้าเบาๆ
“สวยมากครับ ผมชอบ”
“ชอบก็เอาเลยสิ จะรออะไร” ฉันพูดแล้วแอ่นสะโพกสู้นิ้วเขาที่สำรวจอยู่
เอกยิ้มอย่างชอบใจแล้วมุดหน้าลงไปเลียที่เม็ดเสียวด้วยลีลาการเลียที่ไม่ธรรมดา
แผล็บ แผล็บ แผล็บ! เสียงเลียที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหายทำให้ฉันพอใจกับเสน่ห์อันเย้ายวนของตนเองเป็นอย่างมาก และบอกตัวเองว่ามันไม่ใช่การประชดอดีตสามี แต่มันคือความสุขที่ฉันควรเติมเต็มให้กับตัวเอง
ปลายลิ้นชื้นดูดเลียที่เม็ดเสียวอย่างมูมมาม ในขณะที่นิ้วของเขาก็แยงเข้ามาในร่องสวาทพร้อมกับเทคนิคการงอข้อนิ้วให้ฉันเสียวมากยิ่งขึ้น บ่งบอกว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
สวบ สวบ! แจะ แจะ! เสียงปลายนิ้วที่แยงเข้าออกผ่านน้ำใสๆ ที่หลั่งออกมาแสดงถึงความปรารถนาที่ฉันพร้อมให้เขาเอามันเข้าไปแล้ว
“อืม เอกจ๋า เอาพี่ที” ฉันครางบอกเขาเสียงกระเส่าแล้วส่ายสะโพกไปมาเรียกร้องท่อนลำจากเขา
เด็กหนุ่มที่ลีลาการเล้าโลมอย่างเด็กไม่รอช้า เขารีบลุกขึ้นถอดกางเกงออกไปในขณะที่ฉันถอดชุดกระโปรงของตัวเองออก เผยร่างเปลือยเปล่ายั่วยวนให้เขายิ่งเกิดความปรารถนา
“อมให้ผมด้วยสิครับ” เขาร้องขอฉันเสียงพร่า
ฉันจึงดึงเขาลงไปนอนราบกับโซฟายาว แล้วหมุนสะโพกไปอยู่ในท่า 69 ให้เขาจัดการเลียต่อไปในขณะที่ฉันก็ใช้มือรูดรั้งท่อนเนื้อนั้นแล้วอมมันให้เขาด้วยลีลาที่แสนเร่าร้อน
เราต่างคนต่างใช้ปากและลิ้นให้แก่กันเป็นอย่างดี ท่อนลำที่อยู่คับปากของฉันมีขนาดเต็มปากเต็มคำจนฉันอดใจไม่ไหว
“พี่ขย่มเองแล้วนะ” ฉันบอกเขาแล้วขยับไปนั่งคร่อมบนสะโพกหนา กดตัวลงไปหาสะโพกของเขาครอบครองท่อนเอ็นที่อวบอ้วนเอาไว้แล้วเริ่มขย่มเบาๆ
สวบ สวบ สวบ! ฉันขย่มลงไปช้าๆ ให้รูสวาทและดุ้นอวบได้ทำความรู้จักจนคุ้นเคยกันก็เริ่มขย่มลงไปเต็มแรง
“ซี๊ด อ๊าส์ อย่างเสียวเลยพี่ฟาง อ๊าส์ หอยยังแน่นดีอยู่เลย”
“อื้อ ซี๊ด..ดุ้นเอกอวบมาก อ๊าส์ ทำพี่คับแน่นไปหมด ซี๊ด..”
เราชื่นชมกันและกันเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของอีกฝ่าย ฉันเองก็รับคำชมนั้นแล้วเร่งขย่มโยกลงไปด้วยลีลาที่จัดว่าเด็ดพอตัวจนทำให้เขาร้องเสียงหลงด้วยความเสียวที่แทบจะขาดใจ
“อ๊าส์ พี่ฟาง อ๊าส์ หอยพี่บีบดุ้นผมเสียวจนจะแตกแล้ว อ๊าส์ ซี๊ด ไม่เคยเอาใครมันส์เท่านี้มาก่อน อ๊าส์”
“ถ้าชอบก็มาเอาพี่บ่อยๆ สิ อ๊าส์ แต่ต้องระวังพี่สาวของเอกด้วยนะ อื้อ ซี๊ด อ๊าส์ ถ้าเธอยังกัดพี่ไม่ปล่อย เอกก็จะไม่ได้สนุกกับพี่อีก ซี๊ด อ๊าส์” ฉันบอกเขาเสียงกระเส่าและไม่ลืมแซะเรื่องพี่สาวที่ปากไม่มีหูรูดของเขา
“ผมรับรองครับว่าเรื่องของเราจะเป็นความลับต่อไป”
เขาพูดจบก็ดันตัวฉันออกแล้วจับให้คุกเข่ากับโซฟาแล้วเข้ามาประกบจากด้านหลังกระหน่ำซอยท่อนลำเข้ามาไม่ยั้งจนเกิดเสียงเนื้อตีกันดังลั่นห้องทำให้เรายิ่งเกิดความกำหนัด
ตับ ตับ ตับ! เขากระแทกเข้ามาอย่างดุดันและหนักหน่วง
“อื้อ ซี๊ด อ๊าส์ เอกจ๋า พี่จะแตกแล้ว”ฉันครางลั่นเสียงหลง
“ผมก็ใกล้แล้วครับ อ๊าส์ ซี๊ด” เขาเองก็ใกล้แล้วเช่นกัน
“อย่าแตกในนะ อ๊าส์ อ๊าส์ แรงอีก ใกล้แล้ว”
ตับ ตับ ตับ! เขาเร่งโถมแรงกระแทกเข้ามาอย่างดุดัน ฉันที่กลัวเขาจะแตกก่อนก็ใช้นิ้วขยี้เม็ดเสียวของตัวเองไปด้วย
“ซี๊ด แตกแล้ว อ๊าส์ ซี๊ด” ฉันร้องบอกเขาเสียงสั่นกระเส่า รู้สึกโล่งสบายที่ท้องน้อย รู้สึกดีที่ได้ปลดปล่อยออกมาในที่สุด
“ใกล้แล้ว อ๊าส์ ซี๊ด” เขาร้องเสียงพร่าแล้วออกแรงเต็มๆ
ปั่ก ปั่ก ปั่ก! เสียงตอกอัดเน้นๆ สามที จากนั้นเอกก็ถอนดุ้นอวบออกมาปลดปล่อยน้ำรักใส่แผ่นหลังของฉัน บีบก้นเบาๆ ได้ความมันเขี้ยว ก่อนจะขยับออกไปนั่งหายใจหอบมองฉันด้วยแววตาที่พึงพอใจ
“คืนนี้ผมขอมาซ่อมไดร์ให้พี่ฟางอีกได้ไหมครับ” เอกเช็ดคราบน้ำของเขาออกไปให้ฉันอย่างเอาใจแล้วขอความสุขจากฉันอีกครั้ง
“พรุ่งนี้พี่ต้องไปแต่เช้า เอาไว้ว่างๆ นะ อีกอย่างพี่มีนัดเอากับคนคุยพรุ่งนี้ ไม่อยากให้หอยช้ำ” ฉันปฏิเสธเขาแล้วบอกความจริงไปว่าฉันไม่ได้เอากับเขาแค่คนเดียว ไม่อยากให้ความหวังเขาจนเกาะติดฉันแจ
เอกจึงพยักหน้าเข้าใจว่านี่เป็นความสัมพันธ์แบบแลกเปลี่ยนความสุขกันเท่านั้น และไม่มีวันได้เป็นตัวจริงของหญิงม่ายรักสนุกอย่างฉันแน่นอน
---------------------
เสน่ห์ของม่ายสาวอย่างฉันไม่ได้มีแค่เด็กหนุ่มกลัดมันอย่างเอกเท่านั้น แม้แต่ที่บริษัทหนุ่มๆ ที่แอบชอบฉันและอยากมีความสัมพันธ์ด้วยก็มีเข้ามาขายขนมจีบมากมายอันดับแรกที่ฉันตัดออกไปคือคนที่มีครอบครัวแล้ว เพราะหลังจากที่ถูกสวมเขา ฉันก็เข้าใจความเจ็บปวดของผู้หญิงดีและไม่คิดจะเล่นชู้กับคนรักของใคร“นี่ทำงานประสาอะไรกัน ถึงได้ทำให้พลาดลูกค้ารายใหญ่ไปแบบนี้” เสียงตวาดที่ดุดันของผู้จัดการพร้อมกับเสียงทิ้งแฟ้มฟาดลงกับโต๊ะทำให้ทั้งแผนกขายเงียบกริบคนที่รับผิดชอบลูกค้ารายใหญ่ก็หน้าเจื่อนแล้วก้มหน้าลง“คุณฟาง คุณเป็นหัวหน้าแผนก คุณไม่ได้กำชับลูกน้องคุณให้ดูรายงานดีๆ เหรอ” เขาหันมาถามฉันเสียงดุ“คือว่า..”“ตามผมเข้าไปที่ห้อง” เขากัดฟันพูดด้วยความขุ่นเคือง แล้วเดินไปรอที่ห้องทำงานส่วนตัวของเขาที่อยู่สุดทางเดิน“พี่ฟางหนูขอโทษนะคะ แต่หนูมั่นใจว่าตรวจสอบดีแล้ว เอกสารต่างๆ ก็ระบุตัวเลขถูกต้องหมดทุกอย่าง มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่” พนักงานขายคนที่รับผิดชอบงานนี้โดยตรงพูดขึ้นมาอย่างร้อนใจที่ความผิดพลาดของเธอทำให้ฉันถูกตำหนิจากผู้จัดการสาขาฉันรับแฟ้มนั้นขึ้นมาดู ทุกอย่างก็ดูปกติดีแล้วทำไมผู้จัดการต้องหาเรื่อง
ในวันอาทิตย์ที่แสนเหงา วันนี้ผู้จัดการเคไม่ว่าง น้องเอกข้างบ้านก็ไปเที่ยวกับครอบครัว ส่วนผู้ชายคนอื่นๆ ฉันก็ไม่มีใครว่าง ในวันที่ฉันมีอารมณ์มากกว่าปกติฉันทนต่อความต้องการของตัวเองไม่ไหว ในตอนเช้าจึงจัดการถูหอยสไลด์กับหมอนข้างคู่ใจไปแล้วหนึ่งครั้ง ถึงจะเสร็จสมอารมณ์หมายแต่ก็ยังไม่รู้สึกดีเท่าโดนดุ้นอุ่นๆ มาบรรเทาความหนาวเหน็บในใจตอนนี้พอถึงตอนกลางวัน ฉันที่ขี้เกียจทำอาหารก็ได้สั่งอาหารมาทานที่บ้าน ไรเดอร์ที่รับงานชื่อคุ้นมากจนต้องกดซูมดูโปรไฟล์ แล้วฉันก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจเมื่อหาคนคลายเหงาได้แล้ว“พี่บอลเองเหรอ” ฉันพึมพำออกมาแล้วยิ้มอย่างพอใจพี่บอลคือแฟนเก่าสมัยเรียน เขาเป็นคนที่ขยันทำมาหากินแต่ว่าดูซื่อๆ คบกับผู้หญิงก็โดนหลอกเอาเงินแล้วก็ทิ้งไป จนครองตัวโสดมาตลอดหลายปีนี้เขาคือทางเลือกที่ดีของฉันในวันที่แสนเหงาใจ และหากได้รำลึกความหลังกันสักยกก็คงจะดีไม่น้อยฉันนั่งติ้วรออาหารด้วยความตื่นเต้น ปลายนิ้วที่คลึงวนอยู่ที่เม็ดเสียวทำให้น้ำใสๆ ไหลเอ่อออกมาเต็มร่อง แต่ฉันไม่ได้ทำให้ตัวเองถึงจุดหมาย แค่คลึงให้เสียวเบาๆ เรียกให้น้ำเดินก็เท่านั้นสักพักพี่บอลก็มาถึง ฉันเดินออกไปรับอาหารแล้วยิ
งานเลี้ยงประจำปีของบริษัทถูกจัดขึ้นที่โรงแรมริมชายหาดแห่งหนึ่ง ตอนกลางคืนมีการแสดงริมหาดและดื่มกินกันอย่างเต็มที่ครอบครัวของท่านประธานมาร่วมงานในปีนี้ด้วย แฝดหนุ่มวัยยี่สิบที่เป็นว่าที่ทายาทลำดับถักไปของบริษัทก็มาแนะนำตัวกับพนักงานในช่วงที่ลาพักร้อนจากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ“กลับมาครั้งนี้ดูหล่อและเท่มากเลยนะคะพี่ฟาง” พนักงานรุ่นน้องดึงชายเสื้อฉันให้หันไปมองหลานแฝดของท่านประธาน“อืม ก็หล่อดี” ฉันเออออตาม แล้วหันไปมองสองแฝดที่มองมาทางฉัน สายตาแบบนั้นไม่บอกก็รู้ว่าคงจะอยากรู้จักฉันให้ลึกซึ้งกว่านี้สาวๆ ในออฟฟิศก็ยังโสดยังสาวกว่าแต่ดูเหมือนทั้งคู่จะไม่สนใจ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะไม่อยากผูกสัมพันธ์กับสาวๆ เพราะกลัวการผูกมัดและต้องแสดงความรับผิดชอบ แต่กับฉันที่เป็นม่ายหากมีสัมพันธ์ด้วยแล้วก็ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรมากพอฉันรู้ว่าพวกเขาสนใจฉัน ฉันก็หาโอกาสปลีกตัวออกไปคนเดียวแล้วรอดูท่าทีว่าพวกเขาคนใดคนหนึ่งจะตามฉันมารึเปล่า แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ฉันถึงกับอึ้งไปแล้วก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อพวกเขาสองคนเดินมาพร้อมกัน“เดินเล่นคนเดียวริมหาดแบบนี้ตอนดึกอันตรายนะครับพี่”“ให้พวกเราไปส่งที่ห้อง
การไปงานแต่งงานของเพื่อนร่วมงานในคืนนี้ทำให้ฉันได้เจอกับ ‘น็อต’ เพื่อนเก่าสมัยเรียนมัธยมปลายแล้วเราก็ได้พูดคุยกันถึงเรื่องทั่วไป“ไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณยังโสดอยู่ หล่อๆ มีเสน่ห์อย่างคุณโสด เพื่อนคนอื่นในห้องก็คงโสดทั้งแถว” ฉันพูดอย่างชื่นชม เพราะเครื่องดื่มสีหวานที่ผสมแอลกอฮอล์ทำให้ฉันพูดออกไปตรงๆอีกอย่างฉันก็แอบชอบเขามานานแล้วตั้งแต่สมัยเรียน พอรู้ว่าโสดร่างกายกับสมองก็เริ่มพยายามทำตัวให้เข้าไปสนิทสนมกับเขาเพื่อที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ฉันเพื่อนก่อนจะขยับสถานะในอนาคต“นี่นันคิดว่าผมหล่อและมีเสน่ห์เหรอ คิดอะไรกับผมรึเปล่าเนี่ย” เขาถามแล้วอมยิ้ม ทำหน้ากรุ้มกริ่มใส่ฉันตามประสาคนเจ้าเสน่ห์ที่ชอบหว่านเสน่ห์ไปทั่ว“ก็ใช่นะสิ สมัยเรียนนะใครๆ ก็ชื่นชมคุณทั้งนั้นแหละ” ฉันยอมรับไปตามตรง อายุยี่สิบแปดแล้วจะมาเล่นตัวหรือเขินอายอะไรนักหนา“พูดตรงขนาดนี้ งั้นงานเลี้ยงจบเราไปต่อด้วยกันไหมล่ะ ไปนั่งคุยกันแบบ...สองต่อสอง” โดนคนหล่อของรุ่นชวนขนาดนี้ทำไมฉันจะไม่ไปล่ะ“แค่คุยกันเหรอคะ” ฉันถามแล้วมองต่ำไปที่เป้าของเขา“นันไม่อยากคุย เราก็ทำอะไรสนุกๆ กันก็ได้” เขายิ้มกริ่มแล้วมองที่หน้าอกฉันอย่างโลมเลีย“
เราล้างตัวแล้วอาบน้ำด้วยกัน ถูกสบู่ปลุกเร้าอารมณ์กันจนแฉะไปหมดและพร้อมสำหรับรอบต่อไปแล้ว“อยากเสียวแล้วเราไปต่อในห้องนอนกันเถอะค่ะ” ฉันเป็นฝ่ายชักชวนเขาก่อน แล้วส่งสายตากระหายให้แก่เขา“อืม บรรยากาศในนี้ก็ดี อมให้ผมได้ไหม” เขาร้องขอฉันด้วยสีหน้าที่หื่นกระหาย“ได้สิค่ะ ฉันเป็นเพื่อนที่ดีอยู่แล้ว ขอแค่นี้ทำไมจะไม่ได้”ฉันคุกเข่าลงกับพื้นแล้วจับดุ้นของเขาขึ้นมาใช้ลิ้นเลียไปรอบๆ ปลายหัวหยักทั้งดูดและอมมันอย่างชำนาญเขาก้มมองริมฝีปากของฉันรูดท่อนเอ็นลำเขื่องนั้นด้วยความพอใจแล้วโยกสะโพกเบาๆ ดันท่อนเอ็นเข้ามาในปากฉัน“อมเก่งจังเลยนะครับ ทำผมเสียวดุ้นไปหมดแล้ว ซี๊ด...อ๊าส์” เขาครางเสียงสั่นเพราะรู้สึกสยิวจากปลายลิ้นของฉันฉันอมแท่งลำลงไปแล้วใช้ริมฝีปากห่อรูดมันขึ้นลงแล้วดูดส่วนปลายหัวแรงๆ น็อตโยกสะโพกสวนเข้ามาอย่างต่อเนื่องแล้วครางสูดปากเสียงดังด้วยความพอใจ มือข้างหนึ่งค้ำสะโพกตัวเองอีกมือขยุ้มกลุ่มผมฉันรั้งเข้าหาสะโพก“ไปต่อที่เตียงกันเถอะ ผมอยากดูดหอยคุณแล้ว” เขาพูดเสียงพร่า แล้วดึงมือฉันให้ตามเข้าไปที่ห้องเขานอนหงายลงไปแล้วยิ้มมองรูปร่างของฉันโดยเฉพาะตรงเนินสวาทที่อวบอูมนั้น“หันสะโพกมาให้
เราสองคนนัดเจอกันบ่อยจนเริ่มกลับมาคุยกันอย่างสนิทสนมจนตอนนี้ไม่ต้องนัดไปที่โรงแรม แต่ว่าเขาให้ฉันมาหาเขาที่บ้านของเขาแทนตอนแรกก็คิดว่าจะมีแต่เขา พอไปก็เจอกับเพื่อนอีกคนของเขาที่ฉันไม่รู้จัก“แฟนแกเหรอน็อต”“เปล่า นี่นันเพื่อนสมัยเรียนของฉันเอง” เขาแนะนำฉันให้กับเพื่อนเขาได้รู้จัก“นัน นี่จิมนะเพื่อนที่ทำงานของผมเอง”“สวัสดีค่ะคุณจิม” ฉันทักทายเขาแล้วรับหน้าที่ชงเครื่องดื่มให้กับทั้งคู่“ไม่รู้ว่าวันนี้แกมีนัดเลยมานั่งดื่มด้วย”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดื่มกันตามสบายเถอะ นันจะไปทำกับแกล้มเพิ่มให้” ฉันบอกแล้วลุกเดินไปที่ครัวปล่อยให้ทั้งคู่พูดคุยกัน ทำให้ทั้งสองมองฉันอย่างชื่นชมพอฉันทำกับแกล้มเสร็จเดินออกมาก็ไม่พบเพื่อนเขาแล้ว“อ้าว แล้วคุณจิมล่ะคะ”“กลับไปแล้ว คงไม่อยากเป็น กขค.น่ะ” น็อตยิ้มมองฉันแล้วเรียกให้เข้าไปนั่งด้วย “อื้อ ใจเย็นก่อนสิ นันยังไม่อาบน้ำเลย” ฉันบ่ายเบี่ยงเขาเมื่อน็อตพยายามจะแยกขาฉัน“ผมอยากเอานันแล้ว ตอนไอ้จิมมาผมเนี่ยลุ้นอยากให้มันกลับจนใจจะขาด พอคุณเข้าครัวผมเลยบอกให้มันกลับไปก่อน” เขาบอกเสียงพร่าพยายามจะเอาฉันคาโซฟาให้ได้“งั้นเรามาอาบน้ำด้วยกันดีไหมคะ นันเข้าครัวเมื่
หกวันแล้วที่ฉันกับน็อตต้องห่างกัน เขาไปสัมมนาที่ต่างจังหวัดกำหนดจะกลับในวันพรุ่งนี้ทำให้ฉันคิดถึงเขามาก“ทำไมไม่รับสายนะ” ฉันคิดอย่างเป็นกังวล คืนสุดท้ายที่เขาพักที่นั่นจะไปเที่ยวไหนหรือเปล่า แต่ว่าเพราะไม่อยากให้เขารำคาญจึงโทรไปแค่สายเดียวเท่านั้นเพราะฉันไม่จู้จี้ ไม่ค่อยตาม และเวลาเพื่อนเขามาก็วางตัวดี น็อตบอกว่าเขาชอบฉันที่เป็นแบบนี้เราถึงเริ่มขยับสถานะกันจนมาถึงวันนี้ฉันมองโทรศัพท์ด้วยความเป็นกังวล จากนั้นจึงตัดสินใจจะอาบน้ำเข้านอนเพราะว่ามั่นใจในตัวเขาว่าจะไม่ออกนอกลู่นอกทางพอออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าน็อตยืนยิ้มให้อยู่ตรงหน้าแล้ว“คิดถึงผมไหม” เขาพูดแล้วอ้าแขนรอรับฉันฉันยิ้มกว้างแล้วโผเข้าไปกอดเขาด้วยความคิดถึง มองใบหน้าที่หล่อเหลานั้นแล้วเขย่งเท้าขึ้นหอมแก้มด้วยความรักใคร่“ไหนบอกมาพรุ่งนี้ไงคะ”“ก็คิดถึงนันเลยต้องรีบกลับมาก่อนเวลาไงล่ะ” เขาพูดเสียงนุ่มอย่างเอาใจฉันลูบที่เป้ากางเกงของเขา รู้ว่าอีกฝ่ายก็คงอยากทำกิจกรรมนั้นแม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมากแค่ไหน“ผมไม่อยู่เหงาหรือเปล่า” เขาถามเสียงพร่าแล้วลูบต้นขาของฉันล้วงเข้าไปลูบที่สะโพก“เหงาสิคะ คิดถึงมากๆ โดยเฉพาะดุ้นอว
หลังจากเลิกงานที่ออฟฟิศแล้วฉันก็กลับมาที่ห้องพักเพื่อเปลี่ยนชุดออกไปทำงานอีกที่ต่อเพื่อหารายได้พิเศษเสริมชีวิตคนเราก็แบบนี้เงินคือปัจจัยหลักถ้าขาดเงินไปแล้วก็ไม่สามารถใช้ชีวิตต่อได้ ใครบอกว่าเงินไม่ใช่ทุกอย่าง..หึ มีแต่คนรวยเท่านั้นแหละที่ไม่รู้ว่าเงินมีค่าสำหรับคนจนมากแค่ไหนชุดเดรสสีแดงรัดรูปที่เผยให้เห็นสัดส่วนเด่นชัดและการแต่งหน้าที่สลัดคราบสาวออฟฟิศออกไปจนหมดทำให้ฉันดูสวยและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก วันนี้ฉันจะต้องทำงานอย่างเต็มที่เมื่อไปถึงร้านคาราโอเกะที่ฉันทำงานอยู่ ‘เสี่ยชัช’ แขกประจำก็เรียกฉันไปนั่งด้วยอย่างเช่นเคย“สวัสดีค่ะเสี่ย ช่วงนี้มาทุกวันเลยนะคะ” ฉันทักทายด้วยเสียงที่อ่อนหวานและนุ่มนวล เดินไปนั่งข้างเขาแล้วไหว้ที่อกช้อนตาขึ้นมองด้วยสายตาที่ยั่วยวนและชวนให้เขาหลงใหล“ก็ติดใจคนแถวนี้น่ะ” เขาพูดแล้วยิ้มกริ่มมองฉันด้วยสายตาที่ฉ่ำหวานแล้วเรียกพนักงานมาสั่งกับแกล้มสองสามอย่างกับเครื่องดื่มเอาไว้พร้อมสรรพเราร้องเพลงรอจบไปหนึ่งเพลง อาหารก็เริ่มทยอยมาเสิร์ฟ แล้วเสี่ยชัชก็สั่งไม่ให้ใครเข้ามารบกวนอีกเพื่อความเป็นส่วนตัวฉันร้องเพลงแล้วเต้นยั่วยวนเขาในเพลงย้อนยุคแบบที่เขาชอบ ที่เข
หกวันแล้วที่ฉันกับน็อตต้องห่างกัน เขาไปสัมมนาที่ต่างจังหวัดกำหนดจะกลับในวันพรุ่งนี้ทำให้ฉันคิดถึงเขามาก“ทำไมไม่รับสายนะ” ฉันคิดอย่างเป็นกังวล คืนสุดท้ายที่เขาพักที่นั่นจะไปเที่ยวไหนหรือเปล่า แต่ว่าเพราะไม่อยากให้เขารำคาญจึงโทรไปแค่สายเดียวเท่านั้นเพราะฉันไม่จู้จี้ ไม่ค่อยตาม และเวลาเพื่อนเขามาก็วางตัวดี น็อตบอกว่าเขาชอบฉันที่เป็นแบบนี้เราถึงเริ่มขยับสถานะกันจนมาถึงวันนี้ฉันมองโทรศัพท์ด้วยความเป็นกังวล จากนั้นจึงตัดสินใจจะอาบน้ำเข้านอนเพราะว่ามั่นใจในตัวเขาว่าจะไม่ออกนอกลู่นอกทางพอออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าน็อตยืนยิ้มให้อยู่ตรงหน้าแล้ว“คิดถึงผมไหม” เขาพูดแล้วอ้าแขนรอรับฉันฉันยิ้มกว้างแล้วโผเข้าไปกอดเขาด้วยความคิดถึง มองใบหน้าที่หล่อเหลานั้นแล้วเขย่งเท้าขึ้นหอมแก้มด้วยความรักใคร่“ไหนบอกมาพรุ่งนี้ไงคะ”“ก็คิดถึงนันเลยต้องรีบกลับมาก่อนเวลาไงล่ะ” เขาพูดเสียงนุ่มอย่างเอาใจฉันลูบที่เป้ากางเกงของเขา รู้ว่าอีกฝ่ายก็คงอยากทำกิจกรรมนั้นแม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมากแค่ไหน“ผมไม่อยู่เหงาหรือเปล่า” เขาถามเสียงพร่าแล้วลูบต้นขาของฉันล้วงเข้าไปลูบที่สะโพก“เหงาสิคะ คิดถึงมากๆ โดยเฉพาะดุ้นอว
เราสองคนนัดเจอกันบ่อยจนเริ่มกลับมาคุยกันอย่างสนิทสนมจนตอนนี้ไม่ต้องนัดไปที่โรงแรม แต่ว่าเขาให้ฉันมาหาเขาที่บ้านของเขาแทนตอนแรกก็คิดว่าจะมีแต่เขา พอไปก็เจอกับเพื่อนอีกคนของเขาที่ฉันไม่รู้จัก“แฟนแกเหรอน็อต”“เปล่า นี่นันเพื่อนสมัยเรียนของฉันเอง” เขาแนะนำฉันให้กับเพื่อนเขาได้รู้จัก“นัน นี่จิมนะเพื่อนที่ทำงานของผมเอง”“สวัสดีค่ะคุณจิม” ฉันทักทายเขาแล้วรับหน้าที่ชงเครื่องดื่มให้กับทั้งคู่“ไม่รู้ว่าวันนี้แกมีนัดเลยมานั่งดื่มด้วย”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดื่มกันตามสบายเถอะ นันจะไปทำกับแกล้มเพิ่มให้” ฉันบอกแล้วลุกเดินไปที่ครัวปล่อยให้ทั้งคู่พูดคุยกัน ทำให้ทั้งสองมองฉันอย่างชื่นชมพอฉันทำกับแกล้มเสร็จเดินออกมาก็ไม่พบเพื่อนเขาแล้ว“อ้าว แล้วคุณจิมล่ะคะ”“กลับไปแล้ว คงไม่อยากเป็น กขค.น่ะ” น็อตยิ้มมองฉันแล้วเรียกให้เข้าไปนั่งด้วย “อื้อ ใจเย็นก่อนสิ นันยังไม่อาบน้ำเลย” ฉันบ่ายเบี่ยงเขาเมื่อน็อตพยายามจะแยกขาฉัน“ผมอยากเอานันแล้ว ตอนไอ้จิมมาผมเนี่ยลุ้นอยากให้มันกลับจนใจจะขาด พอคุณเข้าครัวผมเลยบอกให้มันกลับไปก่อน” เขาบอกเสียงพร่าพยายามจะเอาฉันคาโซฟาให้ได้“งั้นเรามาอาบน้ำด้วยกันดีไหมคะ นันเข้าครัวเมื่
เราล้างตัวแล้วอาบน้ำด้วยกัน ถูกสบู่ปลุกเร้าอารมณ์กันจนแฉะไปหมดและพร้อมสำหรับรอบต่อไปแล้ว“อยากเสียวแล้วเราไปต่อในห้องนอนกันเถอะค่ะ” ฉันเป็นฝ่ายชักชวนเขาก่อน แล้วส่งสายตากระหายให้แก่เขา“อืม บรรยากาศในนี้ก็ดี อมให้ผมได้ไหม” เขาร้องขอฉันด้วยสีหน้าที่หื่นกระหาย“ได้สิค่ะ ฉันเป็นเพื่อนที่ดีอยู่แล้ว ขอแค่นี้ทำไมจะไม่ได้”ฉันคุกเข่าลงกับพื้นแล้วจับดุ้นของเขาขึ้นมาใช้ลิ้นเลียไปรอบๆ ปลายหัวหยักทั้งดูดและอมมันอย่างชำนาญเขาก้มมองริมฝีปากของฉันรูดท่อนเอ็นลำเขื่องนั้นด้วยความพอใจแล้วโยกสะโพกเบาๆ ดันท่อนเอ็นเข้ามาในปากฉัน“อมเก่งจังเลยนะครับ ทำผมเสียวดุ้นไปหมดแล้ว ซี๊ด...อ๊าส์” เขาครางเสียงสั่นเพราะรู้สึกสยิวจากปลายลิ้นของฉันฉันอมแท่งลำลงไปแล้วใช้ริมฝีปากห่อรูดมันขึ้นลงแล้วดูดส่วนปลายหัวแรงๆ น็อตโยกสะโพกสวนเข้ามาอย่างต่อเนื่องแล้วครางสูดปากเสียงดังด้วยความพอใจ มือข้างหนึ่งค้ำสะโพกตัวเองอีกมือขยุ้มกลุ่มผมฉันรั้งเข้าหาสะโพก“ไปต่อที่เตียงกันเถอะ ผมอยากดูดหอยคุณแล้ว” เขาพูดเสียงพร่า แล้วดึงมือฉันให้ตามเข้าไปที่ห้องเขานอนหงายลงไปแล้วยิ้มมองรูปร่างของฉันโดยเฉพาะตรงเนินสวาทที่อวบอูมนั้น“หันสะโพกมาให้
การไปงานแต่งงานของเพื่อนร่วมงานในคืนนี้ทำให้ฉันได้เจอกับ ‘น็อต’ เพื่อนเก่าสมัยเรียนมัธยมปลายแล้วเราก็ได้พูดคุยกันถึงเรื่องทั่วไป“ไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณยังโสดอยู่ หล่อๆ มีเสน่ห์อย่างคุณโสด เพื่อนคนอื่นในห้องก็คงโสดทั้งแถว” ฉันพูดอย่างชื่นชม เพราะเครื่องดื่มสีหวานที่ผสมแอลกอฮอล์ทำให้ฉันพูดออกไปตรงๆอีกอย่างฉันก็แอบชอบเขามานานแล้วตั้งแต่สมัยเรียน พอรู้ว่าโสดร่างกายกับสมองก็เริ่มพยายามทำตัวให้เข้าไปสนิทสนมกับเขาเพื่อที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ฉันเพื่อนก่อนจะขยับสถานะในอนาคต“นี่นันคิดว่าผมหล่อและมีเสน่ห์เหรอ คิดอะไรกับผมรึเปล่าเนี่ย” เขาถามแล้วอมยิ้ม ทำหน้ากรุ้มกริ่มใส่ฉันตามประสาคนเจ้าเสน่ห์ที่ชอบหว่านเสน่ห์ไปทั่ว“ก็ใช่นะสิ สมัยเรียนนะใครๆ ก็ชื่นชมคุณทั้งนั้นแหละ” ฉันยอมรับไปตามตรง อายุยี่สิบแปดแล้วจะมาเล่นตัวหรือเขินอายอะไรนักหนา“พูดตรงขนาดนี้ งั้นงานเลี้ยงจบเราไปต่อด้วยกันไหมล่ะ ไปนั่งคุยกันแบบ...สองต่อสอง” โดนคนหล่อของรุ่นชวนขนาดนี้ทำไมฉันจะไม่ไปล่ะ“แค่คุยกันเหรอคะ” ฉันถามแล้วมองต่ำไปที่เป้าของเขา“นันไม่อยากคุย เราก็ทำอะไรสนุกๆ กันก็ได้” เขายิ้มกริ่มแล้วมองที่หน้าอกฉันอย่างโลมเลีย“
งานเลี้ยงประจำปีของบริษัทถูกจัดขึ้นที่โรงแรมริมชายหาดแห่งหนึ่ง ตอนกลางคืนมีการแสดงริมหาดและดื่มกินกันอย่างเต็มที่ครอบครัวของท่านประธานมาร่วมงานในปีนี้ด้วย แฝดหนุ่มวัยยี่สิบที่เป็นว่าที่ทายาทลำดับถักไปของบริษัทก็มาแนะนำตัวกับพนักงานในช่วงที่ลาพักร้อนจากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ“กลับมาครั้งนี้ดูหล่อและเท่มากเลยนะคะพี่ฟาง” พนักงานรุ่นน้องดึงชายเสื้อฉันให้หันไปมองหลานแฝดของท่านประธาน“อืม ก็หล่อดี” ฉันเออออตาม แล้วหันไปมองสองแฝดที่มองมาทางฉัน สายตาแบบนั้นไม่บอกก็รู้ว่าคงจะอยากรู้จักฉันให้ลึกซึ้งกว่านี้สาวๆ ในออฟฟิศก็ยังโสดยังสาวกว่าแต่ดูเหมือนทั้งคู่จะไม่สนใจ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะไม่อยากผูกสัมพันธ์กับสาวๆ เพราะกลัวการผูกมัดและต้องแสดงความรับผิดชอบ แต่กับฉันที่เป็นม่ายหากมีสัมพันธ์ด้วยแล้วก็ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรมากพอฉันรู้ว่าพวกเขาสนใจฉัน ฉันก็หาโอกาสปลีกตัวออกไปคนเดียวแล้วรอดูท่าทีว่าพวกเขาคนใดคนหนึ่งจะตามฉันมารึเปล่า แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ฉันถึงกับอึ้งไปแล้วก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อพวกเขาสองคนเดินมาพร้อมกัน“เดินเล่นคนเดียวริมหาดแบบนี้ตอนดึกอันตรายนะครับพี่”“ให้พวกเราไปส่งที่ห้อง
ในวันอาทิตย์ที่แสนเหงา วันนี้ผู้จัดการเคไม่ว่าง น้องเอกข้างบ้านก็ไปเที่ยวกับครอบครัว ส่วนผู้ชายคนอื่นๆ ฉันก็ไม่มีใครว่าง ในวันที่ฉันมีอารมณ์มากกว่าปกติฉันทนต่อความต้องการของตัวเองไม่ไหว ในตอนเช้าจึงจัดการถูหอยสไลด์กับหมอนข้างคู่ใจไปแล้วหนึ่งครั้ง ถึงจะเสร็จสมอารมณ์หมายแต่ก็ยังไม่รู้สึกดีเท่าโดนดุ้นอุ่นๆ มาบรรเทาความหนาวเหน็บในใจตอนนี้พอถึงตอนกลางวัน ฉันที่ขี้เกียจทำอาหารก็ได้สั่งอาหารมาทานที่บ้าน ไรเดอร์ที่รับงานชื่อคุ้นมากจนต้องกดซูมดูโปรไฟล์ แล้วฉันก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจเมื่อหาคนคลายเหงาได้แล้ว“พี่บอลเองเหรอ” ฉันพึมพำออกมาแล้วยิ้มอย่างพอใจพี่บอลคือแฟนเก่าสมัยเรียน เขาเป็นคนที่ขยันทำมาหากินแต่ว่าดูซื่อๆ คบกับผู้หญิงก็โดนหลอกเอาเงินแล้วก็ทิ้งไป จนครองตัวโสดมาตลอดหลายปีนี้เขาคือทางเลือกที่ดีของฉันในวันที่แสนเหงาใจ และหากได้รำลึกความหลังกันสักยกก็คงจะดีไม่น้อยฉันนั่งติ้วรออาหารด้วยความตื่นเต้น ปลายนิ้วที่คลึงวนอยู่ที่เม็ดเสียวทำให้น้ำใสๆ ไหลเอ่อออกมาเต็มร่อง แต่ฉันไม่ได้ทำให้ตัวเองถึงจุดหมาย แค่คลึงให้เสียวเบาๆ เรียกให้น้ำเดินก็เท่านั้นสักพักพี่บอลก็มาถึง ฉันเดินออกไปรับอาหารแล้วยิ
เสน่ห์ของม่ายสาวอย่างฉันไม่ได้มีแค่เด็กหนุ่มกลัดมันอย่างเอกเท่านั้น แม้แต่ที่บริษัทหนุ่มๆ ที่แอบชอบฉันและอยากมีความสัมพันธ์ด้วยก็มีเข้ามาขายขนมจีบมากมายอันดับแรกที่ฉันตัดออกไปคือคนที่มีครอบครัวแล้ว เพราะหลังจากที่ถูกสวมเขา ฉันก็เข้าใจความเจ็บปวดของผู้หญิงดีและไม่คิดจะเล่นชู้กับคนรักของใคร“นี่ทำงานประสาอะไรกัน ถึงได้ทำให้พลาดลูกค้ารายใหญ่ไปแบบนี้” เสียงตวาดที่ดุดันของผู้จัดการพร้อมกับเสียงทิ้งแฟ้มฟาดลงกับโต๊ะทำให้ทั้งแผนกขายเงียบกริบคนที่รับผิดชอบลูกค้ารายใหญ่ก็หน้าเจื่อนแล้วก้มหน้าลง“คุณฟาง คุณเป็นหัวหน้าแผนก คุณไม่ได้กำชับลูกน้องคุณให้ดูรายงานดีๆ เหรอ” เขาหันมาถามฉันเสียงดุ“คือว่า..”“ตามผมเข้าไปที่ห้อง” เขากัดฟันพูดด้วยความขุ่นเคือง แล้วเดินไปรอที่ห้องทำงานส่วนตัวของเขาที่อยู่สุดทางเดิน“พี่ฟางหนูขอโทษนะคะ แต่หนูมั่นใจว่าตรวจสอบดีแล้ว เอกสารต่างๆ ก็ระบุตัวเลขถูกต้องหมดทุกอย่าง มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่” พนักงานขายคนที่รับผิดชอบงานนี้โดยตรงพูดขึ้นมาอย่างร้อนใจที่ความผิดพลาดของเธอทำให้ฉันถูกตำหนิจากผู้จัดการสาขาฉันรับแฟ้มนั้นขึ้นมาดู ทุกอย่างก็ดูปกติดีแล้วทำไมผู้จัดการต้องหาเรื่อง
เมื่อกลับไปถึงบ้าน ฉันก็ชวนให้เขาเข้าไปในบ้านด้วยกันโดยไม่สนใจสายตาของเพื่อนบ้าน ก็โดนพูดเสียๆ หายๆ ไปแล้วนี่นะ แก้ตัวอะไรก็ไม่ได้ อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ขอใครกินจะทำอะไรก็ไม่อยากสนใจใครฉันให้เอกนั่งรอที่ห้องนั่งเล่นแล้วขึ้นไปหยิบไดร์เป่าผมที่เสียมาให้เขาซ่อมจริงทำให้เขาดูสลดลงไปแล้วลงมือซ่อมไดร์ให้แก่ฉันด้วยท่าทีเสียดายนิดๆในขณะที่เขากำลังง่วนอยู่กับการแกะแงะซ่อมอะไรพวกนั้นอยู่ ฉันก็ให้เขาซ่อมต่อไปแล้วไปเปลี่ยนเป็นชุดลำลองออกมานั่งข้างเขาแล้วเอามือวางที่ต้นขาของเด็กหนุ่มพร้อมกับลูบไล้เบาๆ“ท่าทางจะงัดเก่งน่าดู” ฉันถามไปพลางเอาหน้าอกถูแขนเขาไปด้วย มือก็ลูบขาเขาปลุกอารมณ์ไปด้วยเอกตัวสั่นมือสั่นด้วยความตื่นเต้นพยายามหายใจให้เป็นปกติที่สุด แต่ฉันรู้ว่าเขาคงต้องการมากแล้ว แต่ยังลังเลว่าฉันจะยอมให้ทำจริงๆ หรือไม่“มางัดให้พี่หน่อยสิ” ฉันพูดแล้วขยับไปนั่งที่โซฟาอีกตัว กางขาอ้าออกกว้างให้เขาเห็นว่าภายใต้ชุดกระโปรงที่ฉันสวมใส่ไม่ได้มีชั้นในปิดบังของสงวนเอาไว้เอกตาลุกวาวแล้ววางมือจากไขควงและเครื่องมือซ่อมต่างๆ ขยับมานั่งคุกเข่าต่อหน้าฉันแล้วใช้นิ้วเขี่ยที่กลีบสวาทด้วยความหลงใหล“ดูใกล้ๆ สวยกว่
เรื่องราวของเสน่ห์แม่ม่ายอย่างฉันได้เริ่มขึ้นหลังจากที่ฉันหย่ากับสามีแล้วในตอนนั้นฉันเดินทางไปสัมมนาที่ต่างจังหวัด แต่บังเอิญว่างานถูกยกเลิกกะทันหันเพราะวิทยาก่อนป่วย จึงกลับไปที่บ้านแล้วพบว่าเขาพาผู้หญิงมานอนกกกอดกันบนเตียงของเราจากนั้นฉันก็ไม่ทนเพราะไม่อยากรั้งให้คนหลายใจมาอยู่ในชีวิตของฉัน ฉันถ่ายรูปทั้งหมดเอาไว้แล้วค่อยๆ เดินออกไปจากห้องโดยไม่โวยวายอะไรให้พวกเขานอนหลับกอดกันอยู่อย่างนั้นฉันส่งรูปที่เขานอนกอดกับผู้หญิงอื่นในแชทกลุ่มของครอบครัวให้ทุกคนได้รู้เห็นพร้อมกับระบุไปว่าฉันต้องการหย่าไม่นานเขาก็รีบออกมาพูดขอโทษฉันแต่ว่าฉันไม่ต้องการอะไรแล้วนอกจากอิสรภาพ“ฉันจะฟ้องหย่าและฟ้องชู้ผู้หญิงของคุณ ถ้าไม่อยากหมดตัวยอมหย่าให้ฉันดีๆ และบ้านกับรถต้องเป็นของฉันคนเดียว” ฉันบอกข้อเสนอที่เด็ดขาดและจริงจังให้กับเขา โดยไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียวเขายอมรับข้อเสนอ หย่าแล้วยอมออกไปจากชีวิตฉันโดยมีแค่รถคันเก่าและเงินเก็บส่วนของเขาติดตัวไป ส่วนเงินเก็บอีกครึ่ง บ้านและรถเป็นของฉันทั้งหมด เท่านั้นฉันก็ว่าฉันใจดีสุดๆ แล้วปัจจุบันฉันคือแม่ม่ายสาวที่มีแต่หนุ่มๆ มารุมขายขนมจีบ ‘กระดังงาลนไฟก็ยิ่งหอม