เราสองคนนัดเจอกันบ่อยจนเริ่มกลับมาคุยกันอย่างสนิทสนมจนตอนนี้ไม่ต้องนัดไปที่โรงแรม แต่ว่าเขาให้ฉันมาหาเขาที่บ้านของเขาแทน
ตอนแรกก็คิดว่าจะมีแต่เขา พอไปก็เจอกับเพื่อนอีกคนของเขาที่ฉันไม่รู้จัก
“แฟนแกเหรอน็อต”
“เปล่า นี่นันเพื่อนสมัยเรียนของฉันเอง” เขาแนะนำฉันให้กับเพื่อนเขาได้รู้จัก
“นัน นี่จิมนะเพื่อนที่ทำงานของผมเอง”
“สวัสดีค่ะคุณจิม” ฉันทักทายเขาแล้วรับหน้าที่ชงเครื่องดื่มให้กับทั้งคู่
“ไม่รู้ว่าวันนี้แกมีนัดเลยมานั่งดื่มด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดื่มกันตามสบายเถอะ นันจะไปทำกับแกล้มเพิ่มให้” ฉันบอกแล้วลุกเดินไปที่ครัวปล่อยให้ทั้งคู่พูดคุยกัน ทำให้ทั้งสองมองฉันอย่างชื่นชม
พอฉันทำกับแกล้มเสร็จเดินออกมาก็ไม่พบเพื่อนเขาแล้ว
“อ้าว แล้วคุณจิมล่ะคะ”
“กลับไปแล้ว คงไม่อยากเป็น กขค.น่ะ” น็อตยิ้มมองฉันแล้วเรียกให้เข้าไปนั่งด้วย
“อื้อ ใจเย็นก่อนสิ นันยังไม่อาบน้ำเลย” ฉันบ่ายเบี่ยงเขาเมื่อน็อตพยายามจะแยกขาฉัน
“ผมอยากเอานันแล้ว ตอนไอ้จิมมาผมเนี่ยลุ้นอยากให้มันกลับจนใจจะขาด พอคุณเข้าครัวผมเลยบอกให้มันกลับไปก่อน” เขาบอกเสียงพร่าพยายามจะเอาฉันคาโซฟาให้ได้
“งั้นเรามาอาบน้ำด้วยกันดีไหมคะ นันเข้าครัวเมื่อกี๊ตัวเหม็นไปหมดแล้ว จะนอนนอนเอากันแบบสดชื่น” ฉันชวนเขาไปอาบน้ำด้วยกัน
เมื่อไปถึงห้องน้ำเราก็แก้ผ้าอาบน้ำด้วยกัน เขามองสัดส่วนอวบอัดของฉันด้วยสายตาที่โลมเลีย แล้วผลัดกันถูสบู่ให้แก่กัน
“ใหญ่จังเลย หัวก็บานด้วย มิน่าล่ะนันเอากี่ทีก็เสียวจนแตกแล้วแตกอีก” ฉันจ้องมองท่อนเอ็นหัวบานของเขาแล้วชื่นชมจากใจจริง
“หอยของนันก็นูนอวบเต็มมือ กลีบหอยก็หวาน แถมยังฟิตแน่น เอาแต่ละทีบีบหัวผมจนแทบทนไม่ไหว” เขาปากหวานใส่ฉันแล้วเริ่มขยับเข้ามาใกล้
เขาก็ดึงฉันขึ้นมาจูบปากกันอย่างเร่าร้อน เราแลบลิ้นออกมาเกี่ยวกันอยู่นอกปาก ดูดปลายลิ้นกันจนน้ำลายเปรอะไปทั่ว จากนั้นฉันก็คุกเข่าลงจับท่อนเอ็นของเขามาอมแล้วเลียไปรอบๆ ปรนนิบัติด้วยปากจนอีกฝ่ายครางด้วยความพอใจแล้วโยกสะโพกซอยมันเข้ามาให้ลึกขึ้น
“เพื่อนผมชอบคุณนะ แต่ผมบอกว่าผมไม่ให้จีบ ผมหวง” เขาพูดเสียงพร่าต่ำ แล้วดึงฉันให้ลุกขึ้นสบตาด้วย
ฉันยิ้มหวานแล้วดันตัวออกจากเขาไปยืนหันหน้าค้ำผนังแล้วส่ายสะโพกยั่วยวนเขาอย่างรู้ใจว่าท่าที่เขาชอบคือการยืนสอดใส่จากด้านหลังแบบนี้
น็อตยิ้มกว้างแล้วรีบเข้ามาสอดใส่ท่อนเอ็นเข้าไปแล้วขยับเข้าออกเบาๆ พรมจูบที่หัวไหล่แล้วเริ่มเร่งความเร็วของสะโพกเข้ามาถี่รัว
“รู้ใจผมแบบนี้ ผมจะไปไหนรอด อ๊าส์ เสียว”
“อ๊าส์ ท่านี้ลึกมากเลย ซี๊ด...แทงเข้ามาหนักๆ อ๊าส์ เสียวหอย ซี๊ด น็อตขา อื้ม เพิ่อนรัก” ฉันครางกระตุ้นให้เขาพอใจและใส่อารมณ์มาหาฉันให้หนักขึ้น
“ตอนเอากัน ไม่อยากเป็นเพื่อนแล้วได้ไหม อ๊าส์...”
“เพื่อนสนิทเอากันมันๆ อย่างที่น็อตบอกไงคะ ซี๊ด” ฉันพูดเตือนความจำเขา ในใจใครจะอยากเป็นแค่เพื่อน เอาเก่งขนาดนี้
ตับ ตับ ตับ! เขาตอกเข้ามาเน้นๆ จนเกิดเสียงเนื้อตีกัน
“อ๊าส์ ไปต่อที่เตียงเถอะเมียจ๋า ผัวอยากเอาบนเตียงแล้ว” เขาชักชวนฉันแล้วถอนดุ้นหัวบานออกไปชั่วคราว
ฉันเดินไปคุกเข่าที่ขอบเตียง แล้วก้มลงในท่าคลานคุกเข่า ยื่นสะโพกออกไปนอกขอบเตียงเพื่อให้เขายืนกระแทกเข้ามา ทำให้น็อตยิ้มกว้างที่ฉันเอาใจเขาอีกแล้ว
เขาขยับมายืนประชิด จับสะโพกฉันล็อกให้มั่นกระแทกเข้าใส่อย่างเต็มแรงสะโพก
ตับ! ตับ! ตับ! เขากระแทกเข้ามาแรงๆ จนเกิดเสียงดังของเนื้อที่กระทบกัน ปากก็สูดครางลั่นกับความฟิตแน่นของฉันที่เขาชื่นชอบเวลาถูกขมิบดุ้น
“อ๊าส์ เสียวหอย น็อตขา อ๊าส์... นันจะแตกแล้ว”
“ซี๊ด หอยตอดดีมากเลยนัน อ๊ะ อ๊าส์ ผมก็จะแตกแล้ว” เขาครางเสียงหนักแล้วโถมแรงกระหน่ำลงมาอย่างเต็มรัก
ตับ! ตับ! ตับ! เสียงเนื้อกระทบกันดังต่อเนื่องไม่หยุด
“อ๊าส์ ซี๊ด เสียว ตอดดีมากเลย อ๊าส์”
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ นันแตกแล้ว อ๊าส์” ฉันครางเสียงหลงเมื่อถึงจุดหมาย ในขณะที่น็อตกระแทกต่อไปตับๆ ไม่มีวี่แววว่าจะถึงจุดหมายเลยด้วยซ้ำ
เขาขึ้นไปนอนหงายแล้วเลียริมฝีปากด้วยความกระหาย ฉันรู้หน้าที่แล้วขึ้นไปขย่มบนตัวเขา มือของน็อตขยำหน้าอกที่กระเพื่อมไหวตรงหน้าแล้วบีบเคล้นมันอย่างหนักมือ
ฉันบดสะโพกลงไปส่ายอย่างเร่าร้อนที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถูสะโพกบดคลึงสลับกับการขย่มลงไปหนักๆ
สวบ สวบ สวบ! ฉันขย่มลงไปด้วยลีลาที่แสนเร่าร้อน
“ขย่มเก่งจริงๆ ไม่ผิดหวังทุกครั้งที่ถูกเอา ซี๊ด”
“แล้วน็อตชอบไหมคะ อ๊าส์ ซี๊ด”
“ชอบครับ อ๊าส์ ไม่ไหวแล้ว ขย่มแรงเกินไปจะแตกแล้ว”
“ฉันจะขย่มให้คุณน้ำแตกเลย อ๊าส์ ซี๊ด” ฉันพูดเสียงกระเส่าแล้วขย่มลงไปเน้นๆ อย่างหนักหน่วงเป็นจังหวะ
สวบ! สวบ! สวบ! ฉันเร่งขย่มลงไปหาท่อนเอ็นของเขาอย่างสุดฤทธิ์ เสียงท่อนเอ็นสวบเข้าไปในหอยดังออกมาน่าฟังเป็นอย่างมาก กระตุ้นให้เราทั้งสองมีความสุขอย่างที่สุด
“อ๊าส์ เสียวหอย ซี๊ด อ๊าส์ นันจะแตกอีกแล้วนะคะ”
“อื้ม อ๊าส์ ผมก็จะแตกแล้ว อ๊าส์” เขาครางเสียงหลงแล้วเอามือตบที่นอนแล้วรีบดันตัวฉันออกไปไม่ยอมถึงจุดหมายง่ายๆ
“ขย่มจนผมเกือบแตกแบบนี้ ต้องโดนดีแน่” เขาพูดแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ดันตัวฉันนอนหงายลงไปแล้วเข้ามาร่วมสวาทในท่ามาตรฐาน
ตับ ตับ ตับ! เขาซอยท่อนลำเข้ามาแล้วกระแทกเต็มแรง ครางในลำคอด้วยความกระสันเสียว
“ฮึ่ม เป็นไงล่ะ อ๊าส์” เขากระแทกท่อนเอ็นเสียดสีกับกลีบสวาทของฉันเป็นจังหวะอย่างต่อเนื่อง ฉันเอามือจิกผ้าปูที่นอน มองใบหน้าที่หื่นกระหายของเขาที่จ้องมองร่องสวาทตาเป็นมันก็รู้สึกเกิดอารมณ์มากขึ้น
“น็อต อ๊าส์ แรงอีก อื้อ แรงอีกสิคะ”
เขาดึงหมอนมาวางรองสะโพกแล้วเอาขาพาดที่ไหล่ของเขา คุกเข่ายืดตัวแล้วเคลื่อนสะโพกเข้ามาถี่ๆ เต็มแรงดัง ตับ! ตับ! ตับ!
“ชอบไหมครับ แรงๆ ลึกๆ แบบนี้ ซี๊ด อ๊าส์”
“ชอบมาก อ๊าส์ เยี่ยม อย่างนั้น รีบแตกพร้อมกันเถอะ อ๊าส์ ขาสั่นไปหมดแล้ว ซี๊ด” ฉันบอกเขาเสียงกระเส่าขาดช่วงเมื่อถูกเขาตอกอัดลงมาอย่างไม่ยั้ง
“ขย่มให้ผมอีกรอบสิคนดี” เขาบอกแล้วทิ้งตัวนอนลง
ฉันขึ้นไปขย่มให้กับเขา บดควงมันลงไปอย่างหนักๆ เน้นๆ บี้เม็ดเสียวถูไถออกแรงขย่มจนเขาครางเสียงหลง
“อ๊าส์ เสียว ซี๊ด ไม่ไหวแล้ว”
สวบ สวบ สวบ! ฉันขย่มลงไปเน้นๆ จนอีกฝ่ายทนไม่ไหว
“อ๊าส์ ผมยอมแล้ว ซี๊ด แตกแล้ว” เข้าปลดปล่อยน้ำขุ่นข้นเข้ามาอย่างเต็มแรง
ฉันเองก็ถึงจุดหมายไปพร้อมกันแล้วขมิบตอดรัดดุ้นที่กำลังพ่นน้ำของเขา แล้วสบสายตาด้วยความเสน่หา
“เราจะเป็นเพื่อนกันแบบนี้ตลอดไปได้ไหม เพื่อนที่จะย้ายมาอยู่ด้วยกันเป็นเพื่อนคู่คิดมิตรร่วมเตียง” เขาอ้อนฉันแล้วลูบที่เนินอวบอูมที่ฉ่ำไปด้วยน้ำรักของเขา
“ค่ะ เราจะเป็นเพื่อนกันแบบนี้ตลอดไป” ฉันบอกเขา ความหมายของการขอเป็นแฟนนั้นไม่เหมือนใครเลยจริงๆ
---------------------
หกวันแล้วที่ฉันกับน็อตต้องห่างกัน เขาไปสัมมนาที่ต่างจังหวัดกำหนดจะกลับในวันพรุ่งนี้ทำให้ฉันคิดถึงเขามาก“ทำไมไม่รับสายนะ” ฉันคิดอย่างเป็นกังวล คืนสุดท้ายที่เขาพักที่นั่นจะไปเที่ยวไหนหรือเปล่า แต่ว่าเพราะไม่อยากให้เขารำคาญจึงโทรไปแค่สายเดียวเท่านั้นเพราะฉันไม่จู้จี้ ไม่ค่อยตาม และเวลาเพื่อนเขามาก็วางตัวดี น็อตบอกว่าเขาชอบฉันที่เป็นแบบนี้เราถึงเริ่มขยับสถานะกันจนมาถึงวันนี้ฉันมองโทรศัพท์ด้วยความเป็นกังวล จากนั้นจึงตัดสินใจจะอาบน้ำเข้านอนเพราะว่ามั่นใจในตัวเขาว่าจะไม่ออกนอกลู่นอกทางพอออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าน็อตยืนยิ้มให้อยู่ตรงหน้าแล้ว“คิดถึงผมไหม” เขาพูดแล้วอ้าแขนรอรับฉันฉันยิ้มกว้างแล้วโผเข้าไปกอดเขาด้วยความคิดถึง มองใบหน้าที่หล่อเหลานั้นแล้วเขย่งเท้าขึ้นหอมแก้มด้วยความรักใคร่“ไหนบอกมาพรุ่งนี้ไงคะ”“ก็คิดถึงนันเลยต้องรีบกลับมาก่อนเวลาไงล่ะ” เขาพูดเสียงนุ่มอย่างเอาใจฉันลูบที่เป้ากางเกงของเขา รู้ว่าอีกฝ่ายก็คงอยากทำกิจกรรมนั้นแม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมากแค่ไหน“ผมไม่อยู่เหงาหรือเปล่า” เขาถามเสียงพร่าแล้วลูบต้นขาของฉันล้วงเข้าไปลูบที่สะโพก“เหงาสิคะ คิดถึงมากๆ โดยเฉพาะดุ้นอว
หลังจากเลิกงานที่ออฟฟิศแล้วฉันก็กลับมาที่ห้องพักเพื่อเปลี่ยนชุดออกไปทำงานอีกที่ต่อเพื่อหารายได้พิเศษเสริมชีวิตคนเราก็แบบนี้เงินคือปัจจัยหลักถ้าขาดเงินไปแล้วก็ไม่สามารถใช้ชีวิตต่อได้ ใครบอกว่าเงินไม่ใช่ทุกอย่าง..หึ มีแต่คนรวยเท่านั้นแหละที่ไม่รู้ว่าเงินมีค่าสำหรับคนจนมากแค่ไหนชุดเดรสสีแดงรัดรูปที่เผยให้เห็นสัดส่วนเด่นชัดและการแต่งหน้าที่สลัดคราบสาวออฟฟิศออกไปจนหมดทำให้ฉันดูสวยและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก วันนี้ฉันจะต้องทำงานอย่างเต็มที่เมื่อไปถึงร้านคาราโอเกะที่ฉันทำงานอยู่ ‘เสี่ยชัช’ แขกประจำก็เรียกฉันไปนั่งด้วยอย่างเช่นเคย“สวัสดีค่ะเสี่ย ช่วงนี้มาทุกวันเลยนะคะ” ฉันทักทายด้วยเสียงที่อ่อนหวานและนุ่มนวล เดินไปนั่งข้างเขาแล้วไหว้ที่อกช้อนตาขึ้นมองด้วยสายตาที่ยั่วยวนและชวนให้เขาหลงใหล“ก็ติดใจคนแถวนี้น่ะ” เขาพูดแล้วยิ้มกริ่มมองฉันด้วยสายตาที่ฉ่ำหวานแล้วเรียกพนักงานมาสั่งกับแกล้มสองสามอย่างกับเครื่องดื่มเอาไว้พร้อมสรรพเราร้องเพลงรอจบไปหนึ่งเพลง อาหารก็เริ่มทยอยมาเสิร์ฟ แล้วเสี่ยชัชก็สั่งไม่ให้ใครเข้ามารบกวนอีกเพื่อความเป็นส่วนตัวฉันร้องเพลงแล้วเต้นยั่วยวนเขาในเพลงย้อนยุคแบบที่เขาชอบ ที่เข
เพลงที่ฉันร้องอยู่ตอนนี้นอกจะจะทำให้เสี่ยชัชมีความสุขแล้ว ยังทำให้เขาหลงใหลฉันมากขึ้น ต้องขอบคุณที่ฉันโตมากับป้าที่ชอบฟังเพลงแนวนี้ทำให้ฉันร้องเพลงสมัยก่อนได้อย่างคล่องแคล่วและกลายเป็นตัวท็อปของวัยกลางคนที่เป็นกลุ่มลูกค้ากระเป๋าหนักแบบนี้“แหม นมกระเพื่อมสู้จริงๆ” เขามองอย่างชื่นชมหน้าอกที่กระเพื่อมไหวเวลาที่ฉันโยกตัวเต้นร่างเปลือยเปล่าของฉันโยกย้ายอย่างยั่วยวน จากนั้นก็ร้องเพลงแล้ววาดลีลาเต้นยั่วต่ออีกสองเพลง ก่อนจะยื่นไมค์ให้เสี่ยชัชได้ร้องเพลงที่เขาชอบบ้างในขณะที่เขาร้องเพลงอยู่ฉันก็นั่งข้างๆ คลอเคลียป้อนกับแกล้มและเครื่องดื่มให้เขาไม่ยอมห่างเขาร้องผิดคีย์แค่ไหนฉันก็ต้องยิ้มชมอย่างเอาใจบีบนวดที่ต้นขาของเขาและปรนนิบัติทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ตามหน้าที่ของสาวคาราโอเกะ‘ยิ่งท่วงเวลาให้เขาใช้ห้องนานแค่ไหนรายได้ฉันก็มากขึ้นเท่านั้น’ ดังนั้นสิ่งที่จะรั้งเขาเอาไว้ได้คือต้องใช้ร่างกายยั่วยวนให้เขาหลงใหลขณะที่เขาร้องเพลงอยู่นั้นฉันก็เริ่มใช้มือเลื่อนไปที่ท่อนลำที่หลับใหลอยู่ เขาหันมามองฉันด้วยสายตาที่ฉ่ำหวานเพราะฤทธิ์เหล้าและความกระหายที่มีในอารมณ์“อื้ม อ๊าส์ เอาใจเก่งจริงๆ น้องนิ้งของเส
คงเป็นเพราะครั้งก่อนฉันพูดทีเล่นทีจริงกับเขาเรื่องที่ว่าให้เลี้ยงดูฉันไปเลย วันนี้เสี่ยชัชก็พาเพื่อนของเขามาด้วยแต่กลับเรียกฉันเข้าไปดูแลแค่คนเดียวจนทำให้สาวๆ คนอื่นรู้สึกหมั่นไส้ฉันโดนเสี่ยชัชจองตัวทุกวันไม่พอ วันนี้เขาเอาเพื่อนมาด้วยก็ยังไม่เรียกใครเพิ่มอีก ทำให้ฉันมีรายได้มากกว่าคนเก่า(และแก่)ที่ทำงานอยู่ก่อนหน้านี้“สวัสดีค่ะ” ฉันเข้าไปนั่งตรงกลางระหว่างทั้งสองคน แล้วไหว้ที่อกของทั้งคู่แต่ก็ไม่ลืมที่จะเอียงตัวไปกอดเสี่ยชัชอย่างเอาใจ“นี่เสี่ยชาติ พี่ชายเสี่ยเอง”“สวัสดีค่ะเสี่ยชาติ” ฉันทักทายเขาอีกครั้งอย่างเป็นทางการแล้วยิ้มหวานให้ดูก็รู้ว่าเสี่ยชัชต้องการอะไร เขาไม่อยากให้ฉันวาดฝันว่าเขาจะชอบฉันถึงขั้นเก็บไว้เป็นเมียเก็บแต่ก็ไม่ได้อยากแบ่งปันกับลูกค้าคนอื่นถึงได้พาเสี่ยชาติมาร่วมวงด้วยแบบนี้ คงบอกเป็นนัยว่าหากฉันนอนกับคนอื่นที่เขาไม่รู้จักความสัมพันธ์แบบผูกขาดของเราก็จะจบลงทันที“เสี่ยชาติเขาอยากรู้ว่าทำไมเสี่ยถึงมาที่นี่ทุกวัน น้องนิ้งเอาใจเขาหน่อยก็แล้วกัน วันนี้เรา ‘ทั้งคู่’ อยากจะให้น้องนิ้ง ‘จับไมค์’ ให้เราฟัง” เสี่ยชัชพูดแล้วหันไปยิ้มกับพี่ชายของตนอย่างมีความหมาย“ได้ค่ะ
เสียงเพลงยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่คราวนี้เสี่ยชาติเป็นคนถือไมค์บ้างฉันรินเครื่องดื่มเอาใจทั้งสองคน ตอนนี้ขยับเข้าไปนั่งใกล้เสี่ยชัชพร้อมทั้งป้อนกับแกล้มให้เขาที่นั่งมองพี่ชายร้องเพลงโปรดอย่างตั้งใจแต่จะบอกว่าเพลงโปรดก็คงไม่ถูกนัก วิดีโอวาบหวิวประกอบเพลงต่างหากล่ะที่ทำให้เสี่ยชัชสนใจแบบนี้“ถ้าเสี่ยยังหนุ่มแน่นกว่านี้ ท่านี้เสี่ยไม่พลาดแน่” เขาโอบไหล่ฉันลูบไปมาเมื่อเห็นท่าลิงอุ้มแตงในวิดีโอประกอบเพลงในตอนนี้“แหม อุ้มไม่ได้ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ค่ะ แค่ท่าเบสิกเสี่ยก็ทำให้นิ้งแตกแล้วแตกอีก ขืนเล่นท่ายากนิ้งก็ขาสั่นไปทำงานไม่ไหวแน่” ฉันบอกเขาเสียงอ้อนอย่างเอาใจทำให้เสี่ยชัชหัวเราะออกมาอย่างพอใจกับคำพูดประจบประแจงนั้น“ก็เอาใจเก่งแบบนี้ไงล่ะ ถึงไม่อยากปล่อยให้คนอื่นเอา”“แล้วเสี่ยชาติล่ะคะ ปล่อยให้มาเอานิ้งแบบนี้ไม่หวงเหรอ” ฉันกระซิบข้างใบหูของเขาแล้วลูบมือที่ต้นขาเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ให้เขาเกิดความกำหนัด“กับเขาเสี่ยยอมได้ และที่พาเขามาเพราะหลังจากนี้ไปเสี่ยอาจไม่ว่างมาบ่อยๆ เลยจะให้เสี่ยชาติมาเหมาน้องนิ้งในวันที่เสี่ยไม่ว่าง” เขาพูดวัตถุประสงค์ของการพาพี่ชายมาร่วมสนุกกับฉัน“แหม นี่
หลังจากที่ฉันร้องเพลงรอเสี่ยชัชไปแล้วสองเพลง เขาก็พร้อมที่จะสนุกกันแบบสามคนแล้ว“หายเหนื่อยแล้วล่ะ” เขาจิบเครื่องดื่มในมือแล้วยิ้มให้กับพี่ชายของตัวเองที่รออยู่นานแล้ว“งั้นเรามาเริ่มกันเถอะ” เสี่ยชาติบอกน้องชายแล้วเขาก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อนฉันถูกเขาดันตัวให้ลงไปคุกเข่าที่พื้นแล้วทั้งสองเสี่ยก็เข้ามายืนประกบซ้ายขวาได้เวลาให้ฉันจับไมค์ส่วนตัวของพวกเขาขึ้นมาแล้วใช้มือไปพร้อมๆ กัน“อมสิน้องนิ้ง อมสลับกันทั้งสองลำ” เสี่ยชัชบอกแนวทางการเล่นรักแบบสามคนให้ ฉันจึงรีบทำตามโดยไม่รีรอแผล็บ! แผล็บ! แผล็บ! ฉันเลียปลายหัวของพวกเขาทีละคนสลับกันไป ก่อนจะดูดอมมันอย่างเต็มปากเต็มคำแล้วละเลงเลียไปรอบๆ สลับกับดูดอยู่อย่างนั้น“อ๊าส์ ดีมากเลยน้องนิ้ง”“อมเก่งมาก แบบนี้ทิปหนักแน่”ทั้งสองคนผลัดกันพูดชื่นชมอย่างพอใจแล้วแอ่นสะโพกให้ฉันใช้มือและปากต่ออย่างสะดวก“ไม่ไหวแล้วอยากเอาเข้าแล้ว” เสี่ยชาติทนต่อแรงดูดของฉันไม่ไหว เขาดึงฉันให้ขึ้นไปอยู่ในท่าคลานไปกับทางยาวของโซฟาแล้วจับไมค์ส่วนตัวหัวบานของเขชยัดเข้ามาอย่างเต็มรักแล้วเริ่มซอยถี่ๆเสี่ยชัชเข้ามายืนอยู่อีกด้านของโซฟาตรงหน้าฉันแล้วจับท่อนลำให้ฉันใช้ปากให้เขา
เรื่องราวของเสน่ห์แม่ม่ายอย่างฉันได้เริ่มขึ้นหลังจากที่ฉันหย่ากับสามีแล้วในตอนนั้นฉันเดินทางไปสัมมนาที่ต่างจังหวัด แต่บังเอิญว่างานถูกยกเลิกกะทันหันเพราะวิทยาก่อนป่วย จึงกลับไปที่บ้านแล้วพบว่าเขาพาผู้หญิงมานอนกกกอดกันบนเตียงของเราจากนั้นฉันก็ไม่ทนเพราะไม่อยากรั้งให้คนหลายใจมาอยู่ในชีวิตของฉัน ฉันถ่ายรูปทั้งหมดเอาไว้แล้วค่อยๆ เดินออกไปจากห้องโดยไม่โวยวายอะไรให้พวกเขานอนหลับกอดกันอยู่อย่างนั้นฉันส่งรูปที่เขานอนกอดกับผู้หญิงอื่นในแชทกลุ่มของครอบครัวให้ทุกคนได้รู้เห็นพร้อมกับระบุไปว่าฉันต้องการหย่าไม่นานเขาก็รีบออกมาพูดขอโทษฉันแต่ว่าฉันไม่ต้องการอะไรแล้วนอกจากอิสรภาพ“ฉันจะฟ้องหย่าและฟ้องชู้ผู้หญิงของคุณ ถ้าไม่อยากหมดตัวยอมหย่าให้ฉันดีๆ และบ้านกับรถต้องเป็นของฉันคนเดียว” ฉันบอกข้อเสนอที่เด็ดขาดและจริงจังให้กับเขา โดยไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียวเขายอมรับข้อเสนอ หย่าแล้วยอมออกไปจากชีวิตฉันโดยมีแค่รถคันเก่าและเงินเก็บส่วนของเขาติดตัวไป ส่วนเงินเก็บอีกครึ่ง บ้านและรถเป็นของฉันทั้งหมด เท่านั้นฉันก็ว่าฉันใจดีสุดๆ แล้วปัจจุบันฉันคือแม่ม่ายสาวที่มีแต่หนุ่มๆ มารุมขายขนมจีบ ‘กระดังงาลนไฟก็ยิ่งหอม
เมื่อกลับไปถึงบ้าน ฉันก็ชวนให้เขาเข้าไปในบ้านด้วยกันโดยไม่สนใจสายตาของเพื่อนบ้าน ก็โดนพูดเสียๆ หายๆ ไปแล้วนี่นะ แก้ตัวอะไรก็ไม่ได้ อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ขอใครกินจะทำอะไรก็ไม่อยากสนใจใครฉันให้เอกนั่งรอที่ห้องนั่งเล่นแล้วขึ้นไปหยิบไดร์เป่าผมที่เสียมาให้เขาซ่อมจริงทำให้เขาดูสลดลงไปแล้วลงมือซ่อมไดร์ให้แก่ฉันด้วยท่าทีเสียดายนิดๆในขณะที่เขากำลังง่วนอยู่กับการแกะแงะซ่อมอะไรพวกนั้นอยู่ ฉันก็ให้เขาซ่อมต่อไปแล้วไปเปลี่ยนเป็นชุดลำลองออกมานั่งข้างเขาแล้วเอามือวางที่ต้นขาของเด็กหนุ่มพร้อมกับลูบไล้เบาๆ“ท่าทางจะงัดเก่งน่าดู” ฉันถามไปพลางเอาหน้าอกถูแขนเขาไปด้วย มือก็ลูบขาเขาปลุกอารมณ์ไปด้วยเอกตัวสั่นมือสั่นด้วยความตื่นเต้นพยายามหายใจให้เป็นปกติที่สุด แต่ฉันรู้ว่าเขาคงต้องการมากแล้ว แต่ยังลังเลว่าฉันจะยอมให้ทำจริงๆ หรือไม่“มางัดให้พี่หน่อยสิ” ฉันพูดแล้วขยับไปนั่งที่โซฟาอีกตัว กางขาอ้าออกกว้างให้เขาเห็นว่าภายใต้ชุดกระโปรงที่ฉันสวมใส่ไม่ได้มีชั้นในปิดบังของสงวนเอาไว้เอกตาลุกวาวแล้ววางมือจากไขควงและเครื่องมือซ่อมต่างๆ ขยับมานั่งคุกเข่าต่อหน้าฉันแล้วใช้นิ้วเขี่ยที่กลีบสวาทด้วยความหลงใหล“ดูใกล้ๆ สวยกว่
หกวันแล้วที่ฉันกับน็อตต้องห่างกัน เขาไปสัมมนาที่ต่างจังหวัดกำหนดจะกลับในวันพรุ่งนี้ทำให้ฉันคิดถึงเขามาก“ทำไมไม่รับสายนะ” ฉันคิดอย่างเป็นกังวล คืนสุดท้ายที่เขาพักที่นั่นจะไปเที่ยวไหนหรือเปล่า แต่ว่าเพราะไม่อยากให้เขารำคาญจึงโทรไปแค่สายเดียวเท่านั้นเพราะฉันไม่จู้จี้ ไม่ค่อยตาม และเวลาเพื่อนเขามาก็วางตัวดี น็อตบอกว่าเขาชอบฉันที่เป็นแบบนี้เราถึงเริ่มขยับสถานะกันจนมาถึงวันนี้ฉันมองโทรศัพท์ด้วยความเป็นกังวล จากนั้นจึงตัดสินใจจะอาบน้ำเข้านอนเพราะว่ามั่นใจในตัวเขาว่าจะไม่ออกนอกลู่นอกทางพอออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าน็อตยืนยิ้มให้อยู่ตรงหน้าแล้ว“คิดถึงผมไหม” เขาพูดแล้วอ้าแขนรอรับฉันฉันยิ้มกว้างแล้วโผเข้าไปกอดเขาด้วยความคิดถึง มองใบหน้าที่หล่อเหลานั้นแล้วเขย่งเท้าขึ้นหอมแก้มด้วยความรักใคร่“ไหนบอกมาพรุ่งนี้ไงคะ”“ก็คิดถึงนันเลยต้องรีบกลับมาก่อนเวลาไงล่ะ” เขาพูดเสียงนุ่มอย่างเอาใจฉันลูบที่เป้ากางเกงของเขา รู้ว่าอีกฝ่ายก็คงอยากทำกิจกรรมนั้นแม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมากแค่ไหน“ผมไม่อยู่เหงาหรือเปล่า” เขาถามเสียงพร่าแล้วลูบต้นขาของฉันล้วงเข้าไปลูบที่สะโพก“เหงาสิคะ คิดถึงมากๆ โดยเฉพาะดุ้นอว
เราสองคนนัดเจอกันบ่อยจนเริ่มกลับมาคุยกันอย่างสนิทสนมจนตอนนี้ไม่ต้องนัดไปที่โรงแรม แต่ว่าเขาให้ฉันมาหาเขาที่บ้านของเขาแทนตอนแรกก็คิดว่าจะมีแต่เขา พอไปก็เจอกับเพื่อนอีกคนของเขาที่ฉันไม่รู้จัก“แฟนแกเหรอน็อต”“เปล่า นี่นันเพื่อนสมัยเรียนของฉันเอง” เขาแนะนำฉันให้กับเพื่อนเขาได้รู้จัก“นัน นี่จิมนะเพื่อนที่ทำงานของผมเอง”“สวัสดีค่ะคุณจิม” ฉันทักทายเขาแล้วรับหน้าที่ชงเครื่องดื่มให้กับทั้งคู่“ไม่รู้ว่าวันนี้แกมีนัดเลยมานั่งดื่มด้วย”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดื่มกันตามสบายเถอะ นันจะไปทำกับแกล้มเพิ่มให้” ฉันบอกแล้วลุกเดินไปที่ครัวปล่อยให้ทั้งคู่พูดคุยกัน ทำให้ทั้งสองมองฉันอย่างชื่นชมพอฉันทำกับแกล้มเสร็จเดินออกมาก็ไม่พบเพื่อนเขาแล้ว“อ้าว แล้วคุณจิมล่ะคะ”“กลับไปแล้ว คงไม่อยากเป็น กขค.น่ะ” น็อตยิ้มมองฉันแล้วเรียกให้เข้าไปนั่งด้วย “อื้อ ใจเย็นก่อนสิ นันยังไม่อาบน้ำเลย” ฉันบ่ายเบี่ยงเขาเมื่อน็อตพยายามจะแยกขาฉัน“ผมอยากเอานันแล้ว ตอนไอ้จิมมาผมเนี่ยลุ้นอยากให้มันกลับจนใจจะขาด พอคุณเข้าครัวผมเลยบอกให้มันกลับไปก่อน” เขาบอกเสียงพร่าพยายามจะเอาฉันคาโซฟาให้ได้“งั้นเรามาอาบน้ำด้วยกันดีไหมคะ นันเข้าครัวเมื่
เราล้างตัวแล้วอาบน้ำด้วยกัน ถูกสบู่ปลุกเร้าอารมณ์กันจนแฉะไปหมดและพร้อมสำหรับรอบต่อไปแล้ว“อยากเสียวแล้วเราไปต่อในห้องนอนกันเถอะค่ะ” ฉันเป็นฝ่ายชักชวนเขาก่อน แล้วส่งสายตากระหายให้แก่เขา“อืม บรรยากาศในนี้ก็ดี อมให้ผมได้ไหม” เขาร้องขอฉันด้วยสีหน้าที่หื่นกระหาย“ได้สิค่ะ ฉันเป็นเพื่อนที่ดีอยู่แล้ว ขอแค่นี้ทำไมจะไม่ได้”ฉันคุกเข่าลงกับพื้นแล้วจับดุ้นของเขาขึ้นมาใช้ลิ้นเลียไปรอบๆ ปลายหัวหยักทั้งดูดและอมมันอย่างชำนาญเขาก้มมองริมฝีปากของฉันรูดท่อนเอ็นลำเขื่องนั้นด้วยความพอใจแล้วโยกสะโพกเบาๆ ดันท่อนเอ็นเข้ามาในปากฉัน“อมเก่งจังเลยนะครับ ทำผมเสียวดุ้นไปหมดแล้ว ซี๊ด...อ๊าส์” เขาครางเสียงสั่นเพราะรู้สึกสยิวจากปลายลิ้นของฉันฉันอมแท่งลำลงไปแล้วใช้ริมฝีปากห่อรูดมันขึ้นลงแล้วดูดส่วนปลายหัวแรงๆ น็อตโยกสะโพกสวนเข้ามาอย่างต่อเนื่องแล้วครางสูดปากเสียงดังด้วยความพอใจ มือข้างหนึ่งค้ำสะโพกตัวเองอีกมือขยุ้มกลุ่มผมฉันรั้งเข้าหาสะโพก“ไปต่อที่เตียงกันเถอะ ผมอยากดูดหอยคุณแล้ว” เขาพูดเสียงพร่า แล้วดึงมือฉันให้ตามเข้าไปที่ห้องเขานอนหงายลงไปแล้วยิ้มมองรูปร่างของฉันโดยเฉพาะตรงเนินสวาทที่อวบอูมนั้น“หันสะโพกมาให้
การไปงานแต่งงานของเพื่อนร่วมงานในคืนนี้ทำให้ฉันได้เจอกับ ‘น็อต’ เพื่อนเก่าสมัยเรียนมัธยมปลายแล้วเราก็ได้พูดคุยกันถึงเรื่องทั่วไป“ไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณยังโสดอยู่ หล่อๆ มีเสน่ห์อย่างคุณโสด เพื่อนคนอื่นในห้องก็คงโสดทั้งแถว” ฉันพูดอย่างชื่นชม เพราะเครื่องดื่มสีหวานที่ผสมแอลกอฮอล์ทำให้ฉันพูดออกไปตรงๆอีกอย่างฉันก็แอบชอบเขามานานแล้วตั้งแต่สมัยเรียน พอรู้ว่าโสดร่างกายกับสมองก็เริ่มพยายามทำตัวให้เข้าไปสนิทสนมกับเขาเพื่อที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ฉันเพื่อนก่อนจะขยับสถานะในอนาคต“นี่นันคิดว่าผมหล่อและมีเสน่ห์เหรอ คิดอะไรกับผมรึเปล่าเนี่ย” เขาถามแล้วอมยิ้ม ทำหน้ากรุ้มกริ่มใส่ฉันตามประสาคนเจ้าเสน่ห์ที่ชอบหว่านเสน่ห์ไปทั่ว“ก็ใช่นะสิ สมัยเรียนนะใครๆ ก็ชื่นชมคุณทั้งนั้นแหละ” ฉันยอมรับไปตามตรง อายุยี่สิบแปดแล้วจะมาเล่นตัวหรือเขินอายอะไรนักหนา“พูดตรงขนาดนี้ งั้นงานเลี้ยงจบเราไปต่อด้วยกันไหมล่ะ ไปนั่งคุยกันแบบ...สองต่อสอง” โดนคนหล่อของรุ่นชวนขนาดนี้ทำไมฉันจะไม่ไปล่ะ“แค่คุยกันเหรอคะ” ฉันถามแล้วมองต่ำไปที่เป้าของเขา“นันไม่อยากคุย เราก็ทำอะไรสนุกๆ กันก็ได้” เขายิ้มกริ่มแล้วมองที่หน้าอกฉันอย่างโลมเลีย“
งานเลี้ยงประจำปีของบริษัทถูกจัดขึ้นที่โรงแรมริมชายหาดแห่งหนึ่ง ตอนกลางคืนมีการแสดงริมหาดและดื่มกินกันอย่างเต็มที่ครอบครัวของท่านประธานมาร่วมงานในปีนี้ด้วย แฝดหนุ่มวัยยี่สิบที่เป็นว่าที่ทายาทลำดับถักไปของบริษัทก็มาแนะนำตัวกับพนักงานในช่วงที่ลาพักร้อนจากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ“กลับมาครั้งนี้ดูหล่อและเท่มากเลยนะคะพี่ฟาง” พนักงานรุ่นน้องดึงชายเสื้อฉันให้หันไปมองหลานแฝดของท่านประธาน“อืม ก็หล่อดี” ฉันเออออตาม แล้วหันไปมองสองแฝดที่มองมาทางฉัน สายตาแบบนั้นไม่บอกก็รู้ว่าคงจะอยากรู้จักฉันให้ลึกซึ้งกว่านี้สาวๆ ในออฟฟิศก็ยังโสดยังสาวกว่าแต่ดูเหมือนทั้งคู่จะไม่สนใจ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะไม่อยากผูกสัมพันธ์กับสาวๆ เพราะกลัวการผูกมัดและต้องแสดงความรับผิดชอบ แต่กับฉันที่เป็นม่ายหากมีสัมพันธ์ด้วยแล้วก็ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรมากพอฉันรู้ว่าพวกเขาสนใจฉัน ฉันก็หาโอกาสปลีกตัวออกไปคนเดียวแล้วรอดูท่าทีว่าพวกเขาคนใดคนหนึ่งจะตามฉันมารึเปล่า แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ฉันถึงกับอึ้งไปแล้วก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อพวกเขาสองคนเดินมาพร้อมกัน“เดินเล่นคนเดียวริมหาดแบบนี้ตอนดึกอันตรายนะครับพี่”“ให้พวกเราไปส่งที่ห้อง
ในวันอาทิตย์ที่แสนเหงา วันนี้ผู้จัดการเคไม่ว่าง น้องเอกข้างบ้านก็ไปเที่ยวกับครอบครัว ส่วนผู้ชายคนอื่นๆ ฉันก็ไม่มีใครว่าง ในวันที่ฉันมีอารมณ์มากกว่าปกติฉันทนต่อความต้องการของตัวเองไม่ไหว ในตอนเช้าจึงจัดการถูหอยสไลด์กับหมอนข้างคู่ใจไปแล้วหนึ่งครั้ง ถึงจะเสร็จสมอารมณ์หมายแต่ก็ยังไม่รู้สึกดีเท่าโดนดุ้นอุ่นๆ มาบรรเทาความหนาวเหน็บในใจตอนนี้พอถึงตอนกลางวัน ฉันที่ขี้เกียจทำอาหารก็ได้สั่งอาหารมาทานที่บ้าน ไรเดอร์ที่รับงานชื่อคุ้นมากจนต้องกดซูมดูโปรไฟล์ แล้วฉันก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจเมื่อหาคนคลายเหงาได้แล้ว“พี่บอลเองเหรอ” ฉันพึมพำออกมาแล้วยิ้มอย่างพอใจพี่บอลคือแฟนเก่าสมัยเรียน เขาเป็นคนที่ขยันทำมาหากินแต่ว่าดูซื่อๆ คบกับผู้หญิงก็โดนหลอกเอาเงินแล้วก็ทิ้งไป จนครองตัวโสดมาตลอดหลายปีนี้เขาคือทางเลือกที่ดีของฉันในวันที่แสนเหงาใจ และหากได้รำลึกความหลังกันสักยกก็คงจะดีไม่น้อยฉันนั่งติ้วรออาหารด้วยความตื่นเต้น ปลายนิ้วที่คลึงวนอยู่ที่เม็ดเสียวทำให้น้ำใสๆ ไหลเอ่อออกมาเต็มร่อง แต่ฉันไม่ได้ทำให้ตัวเองถึงจุดหมาย แค่คลึงให้เสียวเบาๆ เรียกให้น้ำเดินก็เท่านั้นสักพักพี่บอลก็มาถึง ฉันเดินออกไปรับอาหารแล้วยิ
เสน่ห์ของม่ายสาวอย่างฉันไม่ได้มีแค่เด็กหนุ่มกลัดมันอย่างเอกเท่านั้น แม้แต่ที่บริษัทหนุ่มๆ ที่แอบชอบฉันและอยากมีความสัมพันธ์ด้วยก็มีเข้ามาขายขนมจีบมากมายอันดับแรกที่ฉันตัดออกไปคือคนที่มีครอบครัวแล้ว เพราะหลังจากที่ถูกสวมเขา ฉันก็เข้าใจความเจ็บปวดของผู้หญิงดีและไม่คิดจะเล่นชู้กับคนรักของใคร“นี่ทำงานประสาอะไรกัน ถึงได้ทำให้พลาดลูกค้ารายใหญ่ไปแบบนี้” เสียงตวาดที่ดุดันของผู้จัดการพร้อมกับเสียงทิ้งแฟ้มฟาดลงกับโต๊ะทำให้ทั้งแผนกขายเงียบกริบคนที่รับผิดชอบลูกค้ารายใหญ่ก็หน้าเจื่อนแล้วก้มหน้าลง“คุณฟาง คุณเป็นหัวหน้าแผนก คุณไม่ได้กำชับลูกน้องคุณให้ดูรายงานดีๆ เหรอ” เขาหันมาถามฉันเสียงดุ“คือว่า..”“ตามผมเข้าไปที่ห้อง” เขากัดฟันพูดด้วยความขุ่นเคือง แล้วเดินไปรอที่ห้องทำงานส่วนตัวของเขาที่อยู่สุดทางเดิน“พี่ฟางหนูขอโทษนะคะ แต่หนูมั่นใจว่าตรวจสอบดีแล้ว เอกสารต่างๆ ก็ระบุตัวเลขถูกต้องหมดทุกอย่าง มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่” พนักงานขายคนที่รับผิดชอบงานนี้โดยตรงพูดขึ้นมาอย่างร้อนใจที่ความผิดพลาดของเธอทำให้ฉันถูกตำหนิจากผู้จัดการสาขาฉันรับแฟ้มนั้นขึ้นมาดู ทุกอย่างก็ดูปกติดีแล้วทำไมผู้จัดการต้องหาเรื่อง
เมื่อกลับไปถึงบ้าน ฉันก็ชวนให้เขาเข้าไปในบ้านด้วยกันโดยไม่สนใจสายตาของเพื่อนบ้าน ก็โดนพูดเสียๆ หายๆ ไปแล้วนี่นะ แก้ตัวอะไรก็ไม่ได้ อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ขอใครกินจะทำอะไรก็ไม่อยากสนใจใครฉันให้เอกนั่งรอที่ห้องนั่งเล่นแล้วขึ้นไปหยิบไดร์เป่าผมที่เสียมาให้เขาซ่อมจริงทำให้เขาดูสลดลงไปแล้วลงมือซ่อมไดร์ให้แก่ฉันด้วยท่าทีเสียดายนิดๆในขณะที่เขากำลังง่วนอยู่กับการแกะแงะซ่อมอะไรพวกนั้นอยู่ ฉันก็ให้เขาซ่อมต่อไปแล้วไปเปลี่ยนเป็นชุดลำลองออกมานั่งข้างเขาแล้วเอามือวางที่ต้นขาของเด็กหนุ่มพร้อมกับลูบไล้เบาๆ“ท่าทางจะงัดเก่งน่าดู” ฉันถามไปพลางเอาหน้าอกถูแขนเขาไปด้วย มือก็ลูบขาเขาปลุกอารมณ์ไปด้วยเอกตัวสั่นมือสั่นด้วยความตื่นเต้นพยายามหายใจให้เป็นปกติที่สุด แต่ฉันรู้ว่าเขาคงต้องการมากแล้ว แต่ยังลังเลว่าฉันจะยอมให้ทำจริงๆ หรือไม่“มางัดให้พี่หน่อยสิ” ฉันพูดแล้วขยับไปนั่งที่โซฟาอีกตัว กางขาอ้าออกกว้างให้เขาเห็นว่าภายใต้ชุดกระโปรงที่ฉันสวมใส่ไม่ได้มีชั้นในปิดบังของสงวนเอาไว้เอกตาลุกวาวแล้ววางมือจากไขควงและเครื่องมือซ่อมต่างๆ ขยับมานั่งคุกเข่าต่อหน้าฉันแล้วใช้นิ้วเขี่ยที่กลีบสวาทด้วยความหลงใหล“ดูใกล้ๆ สวยกว่
เรื่องราวของเสน่ห์แม่ม่ายอย่างฉันได้เริ่มขึ้นหลังจากที่ฉันหย่ากับสามีแล้วในตอนนั้นฉันเดินทางไปสัมมนาที่ต่างจังหวัด แต่บังเอิญว่างานถูกยกเลิกกะทันหันเพราะวิทยาก่อนป่วย จึงกลับไปที่บ้านแล้วพบว่าเขาพาผู้หญิงมานอนกกกอดกันบนเตียงของเราจากนั้นฉันก็ไม่ทนเพราะไม่อยากรั้งให้คนหลายใจมาอยู่ในชีวิตของฉัน ฉันถ่ายรูปทั้งหมดเอาไว้แล้วค่อยๆ เดินออกไปจากห้องโดยไม่โวยวายอะไรให้พวกเขานอนหลับกอดกันอยู่อย่างนั้นฉันส่งรูปที่เขานอนกอดกับผู้หญิงอื่นในแชทกลุ่มของครอบครัวให้ทุกคนได้รู้เห็นพร้อมกับระบุไปว่าฉันต้องการหย่าไม่นานเขาก็รีบออกมาพูดขอโทษฉันแต่ว่าฉันไม่ต้องการอะไรแล้วนอกจากอิสรภาพ“ฉันจะฟ้องหย่าและฟ้องชู้ผู้หญิงของคุณ ถ้าไม่อยากหมดตัวยอมหย่าให้ฉันดีๆ และบ้านกับรถต้องเป็นของฉันคนเดียว” ฉันบอกข้อเสนอที่เด็ดขาดและจริงจังให้กับเขา โดยไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียวเขายอมรับข้อเสนอ หย่าแล้วยอมออกไปจากชีวิตฉันโดยมีแค่รถคันเก่าและเงินเก็บส่วนของเขาติดตัวไป ส่วนเงินเก็บอีกครึ่ง บ้านและรถเป็นของฉันทั้งหมด เท่านั้นฉันก็ว่าฉันใจดีสุดๆ แล้วปัจจุบันฉันคือแม่ม่ายสาวที่มีแต่หนุ่มๆ มารุมขายขนมจีบ ‘กระดังงาลนไฟก็ยิ่งหอม