เพลงที่ฉันร้องอยู่ตอนนี้นอกจะจะทำให้เสี่ยชัชมีความสุขแล้ว ยังทำให้เขาหลงใหลฉันมากขึ้น ต้องขอบคุณที่ฉันโตมากับป้าที่ชอบฟังเพลงแนวนี้ทำให้ฉันร้องเพลงสมัยก่อนได้อย่างคล่องแคล่วและกลายเป็นตัวท็อปของวัยกลางคนที่เป็นกลุ่มลูกค้ากระเป๋าหนักแบบนี้
“แหม นมกระเพื่อมสู้จริงๆ” เขามองอย่างชื่นชมหน้าอกที่กระเพื่อมไหวเวลาที่ฉันโยกตัวเต้น
ร่างเปลือยเปล่าของฉันโยกย้ายอย่างยั่วยวน จากนั้นก็ร้องเพลงแล้ววาดลีลาเต้นยั่วต่ออีกสองเพลง ก่อนจะยื่นไมค์ให้เสี่ยชัชได้ร้องเพลงที่เขาชอบบ้าง
ในขณะที่เขาร้องเพลงอยู่ฉันก็นั่งข้างๆ คลอเคลียป้อนกับแกล้มและเครื่องดื่มให้เขาไม่ยอมห่าง
เขาร้องผิดคีย์แค่ไหนฉันก็ต้องยิ้มชมอย่างเอาใจบีบนวดที่ต้นขาของเขาและปรนนิบัติทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ตามหน้าที่ของสาวคาราโอเกะ
‘ยิ่งท่วงเวลาให้เขาใช้ห้องนานแค่ไหนรายได้ฉันก็มากขึ้นเท่านั้น’ ดังนั้นสิ่งที่จะรั้งเขาเอาไว้ได้คือต้องใช้ร่างกายยั่วยวนให้เขาหลงใหล
ขณะที่เขาร้องเพลงอยู่นั้นฉันก็เริ่มใช้มือเลื่อนไปที่ท่อนลำที่หลับใหลอยู่ เขาหันมามองฉันด้วยสายตาที่ฉ่ำหวานเพราะฤทธิ์เหล้าและความกระหายที่มีในอารมณ์
“อื้ม อ๊าส์ เอาใจเก่งจริงๆ น้องนิ้งของเสี่ย” เขาร้องเพลงไปด้วยครางออกไมค์ไปด้วยอย่างมีความสุข
“ก็นิ้งเห็นเสี่ยมีความสุขแบบนี้ นิ้งเองก็มีความสุข อยากทำให้เสี่ยมีความสุขมากยิ่งขึ้นไปอีกนี่ค่ะ” ฉันรูดรั้งจนมันขยายเต็มมือแล้วพูดเอาใจเขาไปด้วย
“ก็ปากหวานแบบนี้ไง จะไม่ให้เสี่ยมาทุกวันได้ยังไง ไม่อยากให้น้องนิ้งไปเอาใจคนอื่นเลย”
“ก็ตั้งแต่นิ้งมาทำงานที่นี่ เสี่ยก็เป็นลูกค้ารายแรกของนิ้ง นิ้งยังไม่เคยได้นอนกับลูกค้าคนไหนเลย เหมาแต่นิ้งทุกวันแบบนี้จะให้นิ้งเอาเวลาไปดูแลคนอื่นได้ยังไงคะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่ออดอ้อน มือก็ยังคงทำงานไปด้วยไม่หยุด
“จะว่าไปแล้วก็จริงอย่างที่น้องนิ้งว่า เสี่ยจองตัวน้องนิ้งทุกวันเลย” เขาพูดแล้วหัวเราะด้วยความพอใจ อำนาจเงินของเขาทำให้เขาสามารถทำแบบที่ไม่มีใครสามารถทำตามได้แน่
“แหม จองตัวทุกวันแบบนี้ไม่เอาตัวนิ้งไปอยู่ด้วยให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยล่ะคะ” ฉันแกล้งพูดทีเล่นทีจริง ก่อนจะก้มลงไปเลียรอบๆ ฐานอกของเขา
เสี่ยชัชวางไมค์ลงแล้วนั่งเอนตัวอย่างผ่อนคลายไม่ได้ตอบอะไร ฉันก็ไม่ได้เซ้าซี้ถามต่อเลื่อนริมฝีปากลงไปที่หน้าท้องแล้วเลียรอบสะดือของเขา ก่อนจะครอบครองท่อนลำนั้นเข้าไปแล้วโยกคอขึ้นลงปรนเปรอความสุขให้เขาด้วยปาก
โอกาสที่ลูกค้าจะติดใจแล้วให้ไปเป็นเมียน้อยเมียเก็บนั้นค่อนข้างยาก ใครล่ะจะอยากผูกมัดความสุขไว้กับผู้หญิงแค่คนเดียว และที่พวกเขามาที่นี่ก็เพราะอยากผ่อนคลายกับเสียงเพลงไปด้วยพร้อมๆ กัน
เขายื่นมือมาจับหน้าอกของฉันแล้วบีบขยำมันเบาๆ ครางในลำคอไปด้วยความเสียวซ่านกับการปรนนิบัติที่แสนสยิวนี้ ก่อนจะดันตัวฉันออกไปนอนหงายราบกับโซฟาแล้วคร่อมทับเอาไว้
เสี่ยชัชจูบปากฉันด้วยความหื่นกระหาย แลบลิ้นเลียไปทั่วรอบริมฝีปากแล้วดูดริมฝีปากล่างฉันขบจูบเบาๆ ก่อนจะแลบลิ้นออกมาเกี่ยวจูบแลกน้ำลายกันอย่างดูดดื่ม
ท่อนแกร่งถูกกดเข้ามาแล้วเริ่มสะโพกเบาๆ มือของเขาขยำหน้าอกขณะที่เลื่อนปากลงไปไซ้จูบคอใช้ตอหนวดถูไปมาที่เนินอกจนฉันแสบหน่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน
“อ๊าส์ เสี่ยขา นิ้งมีความสุขจังเลย อ๊าส์” ฉันครางเอาใจเขา
สวบ! สวบ! สวบ! ท่อนเนื้อเริ่มแหวกกลีบเนื้อเข้าออกเมื่อเขาเริ่มซอยสะโพกเข้าหาเป็นจังหวะที่สุขสม
“น้องนิ้งฟิตดีจริงๆ อ๊าส์” เขาครางออกมาอย่างพอใจแล้วโถมแรงเข้าใส่อย่างไม่ปรานี
ตับ! ตับ! ตับ! เสียงเนื้อกระทบกันดังคลอไปกับเสียงเพลง ต้องกระแทกแรงแค่ไหนเสียงถึงดังชัดเจนขนาดนี้ อายุของเขาไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด
“อ๊าส์ แรงดีจัง อ๊าส์” ฉันครางออกมาไม่หยุด ในขณะที่เขาเองก็กระแทกเข้ามาด้วยลีลาที่ดุดัน ก่อนที่จะดึงฉันให้ลุกขึ้นยืนแล้วดันตัวไปที่ผนังห้องในท่าหันหลังให้แก่เขา
ฉันค้ำผนังเอาไว้แล้วยื่นสะโพกให้เขาแบบรู้งาน เสี่ยชัชประกบจากด้านหลังแล้วกระแทกเข้ามาในรูสวาทอย่างเมามัน
ตับ! ตับ! ตับ! เนื้อเราตีกันดังถี่ๆ ตามแรงกระแทกของเขา ทำเอาฉันขาสั่นพั่บๆ ด้วยน้ำหนักกระแทกที่รุนแรงเกินอายุของเสี่ยหนุ่มใหญ่ที่แข็งแรงราวกับม้าป่า
“อื้อ จะแตกแล้วค่ะ เสี่ยขา ซี๊ด นิ้งไม่ไหวแล้ว”
“ใกล้แล้ว อ๊าส์ ใกล้แล้ว” เขาบอกเสียงแหบพร่า ซอยดุ้นอวบเข้ามาอย่างเต็มแรง ปลายหัวหยักเกาะเกี่ยวจุดสัมผัสที่อ่อนไหวจนฉันเสียวแบบกู่ไม่กลับ แล้วยังปลายนิ้วที่เขาล้วงมาขยี้เม็ดเสียวและอีกมือที่ขยี้จุกนมทำให้ฉันไม่สามารถอดทนต่อแรงปรารถนาของเขาได้
ตับ! ตับ! เสี่ยชัชกระแทกเข้ามาเน้นๆ เร่งให้ตัวเองเสร็จ
“อ๊าส์ แตกแล้ว” ฉันร้องลั่นออกมา ขาสั่นพั่บๆ และแทบยืนไม่ไหว ในขณะที่เขาก็ถอนแท่งลำออกมาแล้วกดไหล่ฉันลงให้ฉันอ้าปากรับน้ำคาวสวาทที่เขาพ่นสาดออกมา แล้วมองหน้าฉันด้วยสายตาที่แสดงความพอใจเป็นอย่างมาก
---------------------
คงเป็นเพราะครั้งก่อนฉันพูดทีเล่นทีจริงกับเขาเรื่องที่ว่าให้เลี้ยงดูฉันไปเลย วันนี้เสี่ยชัชก็พาเพื่อนของเขามาด้วยแต่กลับเรียกฉันเข้าไปดูแลแค่คนเดียวจนทำให้สาวๆ คนอื่นรู้สึกหมั่นไส้ฉันโดนเสี่ยชัชจองตัวทุกวันไม่พอ วันนี้เขาเอาเพื่อนมาด้วยก็ยังไม่เรียกใครเพิ่มอีก ทำให้ฉันมีรายได้มากกว่าคนเก่า(และแก่)ที่ทำงานอยู่ก่อนหน้านี้“สวัสดีค่ะ” ฉันเข้าไปนั่งตรงกลางระหว่างทั้งสองคน แล้วไหว้ที่อกของทั้งคู่แต่ก็ไม่ลืมที่จะเอียงตัวไปกอดเสี่ยชัชอย่างเอาใจ“นี่เสี่ยชาติ พี่ชายเสี่ยเอง”“สวัสดีค่ะเสี่ยชาติ” ฉันทักทายเขาอีกครั้งอย่างเป็นทางการแล้วยิ้มหวานให้ดูก็รู้ว่าเสี่ยชัชต้องการอะไร เขาไม่อยากให้ฉันวาดฝันว่าเขาจะชอบฉันถึงขั้นเก็บไว้เป็นเมียเก็บแต่ก็ไม่ได้อยากแบ่งปันกับลูกค้าคนอื่นถึงได้พาเสี่ยชาติมาร่วมวงด้วยแบบนี้ คงบอกเป็นนัยว่าหากฉันนอนกับคนอื่นที่เขาไม่รู้จักความสัมพันธ์แบบผูกขาดของเราก็จะจบลงทันที“เสี่ยชาติเขาอยากรู้ว่าทำไมเสี่ยถึงมาที่นี่ทุกวัน น้องนิ้งเอาใจเขาหน่อยก็แล้วกัน วันนี้เรา ‘ทั้งคู่’ อยากจะให้น้องนิ้ง ‘จับไมค์’ ให้เราฟัง” เสี่ยชัชพูดแล้วหันไปยิ้มกับพี่ชายของตนอย่างมีความหมาย“ได้ค่ะ
เสียงเพลงยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่คราวนี้เสี่ยชาติเป็นคนถือไมค์บ้างฉันรินเครื่องดื่มเอาใจทั้งสองคน ตอนนี้ขยับเข้าไปนั่งใกล้เสี่ยชัชพร้อมทั้งป้อนกับแกล้มให้เขาที่นั่งมองพี่ชายร้องเพลงโปรดอย่างตั้งใจแต่จะบอกว่าเพลงโปรดก็คงไม่ถูกนัก วิดีโอวาบหวิวประกอบเพลงต่างหากล่ะที่ทำให้เสี่ยชัชสนใจแบบนี้“ถ้าเสี่ยยังหนุ่มแน่นกว่านี้ ท่านี้เสี่ยไม่พลาดแน่” เขาโอบไหล่ฉันลูบไปมาเมื่อเห็นท่าลิงอุ้มแตงในวิดีโอประกอบเพลงในตอนนี้“แหม อุ้มไม่ได้ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ค่ะ แค่ท่าเบสิกเสี่ยก็ทำให้นิ้งแตกแล้วแตกอีก ขืนเล่นท่ายากนิ้งก็ขาสั่นไปทำงานไม่ไหวแน่” ฉันบอกเขาเสียงอ้อนอย่างเอาใจทำให้เสี่ยชัชหัวเราะออกมาอย่างพอใจกับคำพูดประจบประแจงนั้น“ก็เอาใจเก่งแบบนี้ไงล่ะ ถึงไม่อยากปล่อยให้คนอื่นเอา”“แล้วเสี่ยชาติล่ะคะ ปล่อยให้มาเอานิ้งแบบนี้ไม่หวงเหรอ” ฉันกระซิบข้างใบหูของเขาแล้วลูบมือที่ต้นขาเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ให้เขาเกิดความกำหนัด“กับเขาเสี่ยยอมได้ และที่พาเขามาเพราะหลังจากนี้ไปเสี่ยอาจไม่ว่างมาบ่อยๆ เลยจะให้เสี่ยชาติมาเหมาน้องนิ้งในวันที่เสี่ยไม่ว่าง” เขาพูดวัตถุประสงค์ของการพาพี่ชายมาร่วมสนุกกับฉัน“แหม นี่
หลังจากที่ฉันร้องเพลงรอเสี่ยชัชไปแล้วสองเพลง เขาก็พร้อมที่จะสนุกกันแบบสามคนแล้ว“หายเหนื่อยแล้วล่ะ” เขาจิบเครื่องดื่มในมือแล้วยิ้มให้กับพี่ชายของตัวเองที่รออยู่นานแล้ว“งั้นเรามาเริ่มกันเถอะ” เสี่ยชาติบอกน้องชายแล้วเขาก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อนฉันถูกเขาดันตัวให้ลงไปคุกเข่าที่พื้นแล้วทั้งสองเสี่ยก็เข้ามายืนประกบซ้ายขวาได้เวลาให้ฉันจับไมค์ส่วนตัวของพวกเขาขึ้นมาแล้วใช้มือไปพร้อมๆ กัน“อมสิน้องนิ้ง อมสลับกันทั้งสองลำ” เสี่ยชัชบอกแนวทางการเล่นรักแบบสามคนให้ ฉันจึงรีบทำตามโดยไม่รีรอแผล็บ! แผล็บ! แผล็บ! ฉันเลียปลายหัวของพวกเขาทีละคนสลับกันไป ก่อนจะดูดอมมันอย่างเต็มปากเต็มคำแล้วละเลงเลียไปรอบๆ สลับกับดูดอยู่อย่างนั้น“อ๊าส์ ดีมากเลยน้องนิ้ง”“อมเก่งมาก แบบนี้ทิปหนักแน่”ทั้งสองคนผลัดกันพูดชื่นชมอย่างพอใจแล้วแอ่นสะโพกให้ฉันใช้มือและปากต่ออย่างสะดวก“ไม่ไหวแล้วอยากเอาเข้าแล้ว” เสี่ยชาติทนต่อแรงดูดของฉันไม่ไหว เขาดึงฉันให้ขึ้นไปอยู่ในท่าคลานไปกับทางยาวของโซฟาแล้วจับไมค์ส่วนตัวหัวบานของเขชยัดเข้ามาอย่างเต็มรักแล้วเริ่มซอยถี่ๆเสี่ยชัชเข้ามายืนอยู่อีกด้านของโซฟาตรงหน้าฉันแล้วจับท่อนลำให้ฉันใช้ปากให้เขา
เรื่องราวของเสน่ห์แม่ม่ายอย่างฉันได้เริ่มขึ้นหลังจากที่ฉันหย่ากับสามีแล้วในตอนนั้นฉันเดินทางไปสัมมนาที่ต่างจังหวัด แต่บังเอิญว่างานถูกยกเลิกกะทันหันเพราะวิทยาก่อนป่วย จึงกลับไปที่บ้านแล้วพบว่าเขาพาผู้หญิงมานอนกกกอดกันบนเตียงของเราจากนั้นฉันก็ไม่ทนเพราะไม่อยากรั้งให้คนหลายใจมาอยู่ในชีวิตของฉัน ฉันถ่ายรูปทั้งหมดเอาไว้แล้วค่อยๆ เดินออกไปจากห้องโดยไม่โวยวายอะไรให้พวกเขานอนหลับกอดกันอยู่อย่างนั้นฉันส่งรูปที่เขานอนกอดกับผู้หญิงอื่นในแชทกลุ่มของครอบครัวให้ทุกคนได้รู้เห็นพร้อมกับระบุไปว่าฉันต้องการหย่าไม่นานเขาก็รีบออกมาพูดขอโทษฉันแต่ว่าฉันไม่ต้องการอะไรแล้วนอกจากอิสรภาพ“ฉันจะฟ้องหย่าและฟ้องชู้ผู้หญิงของคุณ ถ้าไม่อยากหมดตัวยอมหย่าให้ฉันดีๆ และบ้านกับรถต้องเป็นของฉันคนเดียว” ฉันบอกข้อเสนอที่เด็ดขาดและจริงจังให้กับเขา โดยไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียวเขายอมรับข้อเสนอ หย่าแล้วยอมออกไปจากชีวิตฉันโดยมีแค่รถคันเก่าและเงินเก็บส่วนของเขาติดตัวไป ส่วนเงินเก็บอีกครึ่ง บ้านและรถเป็นของฉันทั้งหมด เท่านั้นฉันก็ว่าฉันใจดีสุดๆ แล้วปัจจุบันฉันคือแม่ม่ายสาวที่มีแต่หนุ่มๆ มารุมขายขนมจีบ ‘กระดังงาลนไฟก็ยิ่งหอม
เมื่อกลับไปถึงบ้าน ฉันก็ชวนให้เขาเข้าไปในบ้านด้วยกันโดยไม่สนใจสายตาของเพื่อนบ้าน ก็โดนพูดเสียๆ หายๆ ไปแล้วนี่นะ แก้ตัวอะไรก็ไม่ได้ อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ขอใครกินจะทำอะไรก็ไม่อยากสนใจใครฉันให้เอกนั่งรอที่ห้องนั่งเล่นแล้วขึ้นไปหยิบไดร์เป่าผมที่เสียมาให้เขาซ่อมจริงทำให้เขาดูสลดลงไปแล้วลงมือซ่อมไดร์ให้แก่ฉันด้วยท่าทีเสียดายนิดๆในขณะที่เขากำลังง่วนอยู่กับการแกะแงะซ่อมอะไรพวกนั้นอยู่ ฉันก็ให้เขาซ่อมต่อไปแล้วไปเปลี่ยนเป็นชุดลำลองออกมานั่งข้างเขาแล้วเอามือวางที่ต้นขาของเด็กหนุ่มพร้อมกับลูบไล้เบาๆ“ท่าทางจะงัดเก่งน่าดู” ฉันถามไปพลางเอาหน้าอกถูแขนเขาไปด้วย มือก็ลูบขาเขาปลุกอารมณ์ไปด้วยเอกตัวสั่นมือสั่นด้วยความตื่นเต้นพยายามหายใจให้เป็นปกติที่สุด แต่ฉันรู้ว่าเขาคงต้องการมากแล้ว แต่ยังลังเลว่าฉันจะยอมให้ทำจริงๆ หรือไม่“มางัดให้พี่หน่อยสิ” ฉันพูดแล้วขยับไปนั่งที่โซฟาอีกตัว กางขาอ้าออกกว้างให้เขาเห็นว่าภายใต้ชุดกระโปรงที่ฉันสวมใส่ไม่ได้มีชั้นในปิดบังของสงวนเอาไว้เอกตาลุกวาวแล้ววางมือจากไขควงและเครื่องมือซ่อมต่างๆ ขยับมานั่งคุกเข่าต่อหน้าฉันแล้วใช้นิ้วเขี่ยที่กลีบสวาทด้วยความหลงใหล“ดูใกล้ๆ สวยกว่
เสน่ห์ของม่ายสาวอย่างฉันไม่ได้มีแค่เด็กหนุ่มกลัดมันอย่างเอกเท่านั้น แม้แต่ที่บริษัทหนุ่มๆ ที่แอบชอบฉันและอยากมีความสัมพันธ์ด้วยก็มีเข้ามาขายขนมจีบมากมายอันดับแรกที่ฉันตัดออกไปคือคนที่มีครอบครัวแล้ว เพราะหลังจากที่ถูกสวมเขา ฉันก็เข้าใจความเจ็บปวดของผู้หญิงดีและไม่คิดจะเล่นชู้กับคนรักของใคร“นี่ทำงานประสาอะไรกัน ถึงได้ทำให้พลาดลูกค้ารายใหญ่ไปแบบนี้” เสียงตวาดที่ดุดันของผู้จัดการพร้อมกับเสียงทิ้งแฟ้มฟาดลงกับโต๊ะทำให้ทั้งแผนกขายเงียบกริบคนที่รับผิดชอบลูกค้ารายใหญ่ก็หน้าเจื่อนแล้วก้มหน้าลง“คุณฟาง คุณเป็นหัวหน้าแผนก คุณไม่ได้กำชับลูกน้องคุณให้ดูรายงานดีๆ เหรอ” เขาหันมาถามฉันเสียงดุ“คือว่า..”“ตามผมเข้าไปที่ห้อง” เขากัดฟันพูดด้วยความขุ่นเคือง แล้วเดินไปรอที่ห้องทำงานส่วนตัวของเขาที่อยู่สุดทางเดิน“พี่ฟางหนูขอโทษนะคะ แต่หนูมั่นใจว่าตรวจสอบดีแล้ว เอกสารต่างๆ ก็ระบุตัวเลขถูกต้องหมดทุกอย่าง มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่” พนักงานขายคนที่รับผิดชอบงานนี้โดยตรงพูดขึ้นมาอย่างร้อนใจที่ความผิดพลาดของเธอทำให้ฉันถูกตำหนิจากผู้จัดการสาขาฉันรับแฟ้มนั้นขึ้นมาดู ทุกอย่างก็ดูปกติดีแล้วทำไมผู้จัดการต้องหาเรื่อง
ในวันอาทิตย์ที่แสนเหงา วันนี้ผู้จัดการเคไม่ว่าง น้องเอกข้างบ้านก็ไปเที่ยวกับครอบครัว ส่วนผู้ชายคนอื่นๆ ฉันก็ไม่มีใครว่าง ในวันที่ฉันมีอารมณ์มากกว่าปกติฉันทนต่อความต้องการของตัวเองไม่ไหว ในตอนเช้าจึงจัดการถูหอยสไลด์กับหมอนข้างคู่ใจไปแล้วหนึ่งครั้ง ถึงจะเสร็จสมอารมณ์หมายแต่ก็ยังไม่รู้สึกดีเท่าโดนดุ้นอุ่นๆ มาบรรเทาความหนาวเหน็บในใจตอนนี้พอถึงตอนกลางวัน ฉันที่ขี้เกียจทำอาหารก็ได้สั่งอาหารมาทานที่บ้าน ไรเดอร์ที่รับงานชื่อคุ้นมากจนต้องกดซูมดูโปรไฟล์ แล้วฉันก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจเมื่อหาคนคลายเหงาได้แล้ว“พี่บอลเองเหรอ” ฉันพึมพำออกมาแล้วยิ้มอย่างพอใจพี่บอลคือแฟนเก่าสมัยเรียน เขาเป็นคนที่ขยันทำมาหากินแต่ว่าดูซื่อๆ คบกับผู้หญิงก็โดนหลอกเอาเงินแล้วก็ทิ้งไป จนครองตัวโสดมาตลอดหลายปีนี้เขาคือทางเลือกที่ดีของฉันในวันที่แสนเหงาใจ และหากได้รำลึกความหลังกันสักยกก็คงจะดีไม่น้อยฉันนั่งติ้วรออาหารด้วยความตื่นเต้น ปลายนิ้วที่คลึงวนอยู่ที่เม็ดเสียวทำให้น้ำใสๆ ไหลเอ่อออกมาเต็มร่อง แต่ฉันไม่ได้ทำให้ตัวเองถึงจุดหมาย แค่คลึงให้เสียวเบาๆ เรียกให้น้ำเดินก็เท่านั้นสักพักพี่บอลก็มาถึง ฉันเดินออกไปรับอาหารแล้วยิ
งานเลี้ยงประจำปีของบริษัทถูกจัดขึ้นที่โรงแรมริมชายหาดแห่งหนึ่ง ตอนกลางคืนมีการแสดงริมหาดและดื่มกินกันอย่างเต็มที่ครอบครัวของท่านประธานมาร่วมงานในปีนี้ด้วย แฝดหนุ่มวัยยี่สิบที่เป็นว่าที่ทายาทลำดับถักไปของบริษัทก็มาแนะนำตัวกับพนักงานในช่วงที่ลาพักร้อนจากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ“กลับมาครั้งนี้ดูหล่อและเท่มากเลยนะคะพี่ฟาง” พนักงานรุ่นน้องดึงชายเสื้อฉันให้หันไปมองหลานแฝดของท่านประธาน“อืม ก็หล่อดี” ฉันเออออตาม แล้วหันไปมองสองแฝดที่มองมาทางฉัน สายตาแบบนั้นไม่บอกก็รู้ว่าคงจะอยากรู้จักฉันให้ลึกซึ้งกว่านี้สาวๆ ในออฟฟิศก็ยังโสดยังสาวกว่าแต่ดูเหมือนทั้งคู่จะไม่สนใจ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะไม่อยากผูกสัมพันธ์กับสาวๆ เพราะกลัวการผูกมัดและต้องแสดงความรับผิดชอบ แต่กับฉันที่เป็นม่ายหากมีสัมพันธ์ด้วยแล้วก็ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรมากพอฉันรู้ว่าพวกเขาสนใจฉัน ฉันก็หาโอกาสปลีกตัวออกไปคนเดียวแล้วรอดูท่าทีว่าพวกเขาคนใดคนหนึ่งจะตามฉันมารึเปล่า แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ฉันถึงกับอึ้งไปแล้วก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อพวกเขาสองคนเดินมาพร้อมกัน“เดินเล่นคนเดียวริมหาดแบบนี้ตอนดึกอันตรายนะครับพี่”“ให้พวกเราไปส่งที่ห้อง
ที่สะพานกั้นระหว่างสองตำบลที่จะมีการแข่งขันขึ้นในคืนนี้ สก๊อยสาววัยใสและหนุ่มแว้นที่ชื่นชอบในการแต่งรถและความเร็วก็มารวมตัวกันเพื่อรอให้ถึงการแข่งขันของคู่เทพอ้อยมาถึงในตอนหัวค่ำด้วยสภาพที่ขาสั่นเทาแทบจะหมดแรง เพราะเธอรีดน้ำจ๊อกออกไปได้ถึงห้าน้ำตั้งแต่บ่ายจนค่ำแต่ถ้าจะให้ถูกต้องบอกว่าเธอเองเสียมากกว่าที่ถูกเขารีดน้ำจนตอนนี้แทบเดินไม่ไหว ในขณะที่จ๊อกนั้นโล่งเบาสบายตัวพร้อมทำการแข่งขันอย่างเต็มที่“ดูนังอ้อยสิ หน้าซีดเชียว” เขื่อนยิ้มอย่างพอใจ โขงที่เห็นว่าหญิงสาวที่ตนนั้นแอบรักอยู่ในสภาพที่อ่อนแรงแบบนั้นก็กำมือแน่น เพราะรู้ว่าหญิงสาวไปทำอะไรมาเขาเดินไปดึงแขนอ้อยให้มารวมกลุ่มกับพี่ชายพร้อมกับทำสีหน้าเป็นกังวล“ครั้งนี้ฉันจะลงแข่งเอง ฉันไม่ยอมให้ไอ้จ๊อกนั่นมันเอาอ้อยไปแน่” โขงออกตัวอย่างชัดเจนว่าเขาหวงสก๊อยวัยยี่สิบที่ยืนค้ำขอบราวสะพานอยู่“ฝีมือแกยังไม่สู้ไอ้เคนเลย จะเอาอะไรไปชนะไอ้จ๊อกมัน” เขื่อนส่ายหน้าไม่อนุญาตให้น้องชายลงแข่งอ้อยไม่อยากออกความเห็นอะไร เธอกำลังกลุ้มใจเมื่อเห็นว่าจ๊อกนั้นดูกระปรี้กระเปร่าแทนที่จะอ่อนเพลียจากการปลดปล่อยน้ำออกมาหลายรอบ หากเคนแพ้ครั้งนี้เธอต้องตกเป็น
เวลาผ่านไปจนกระทั่งวนกลับมาถึงการแข่งขันอีกครั้ง อ้อยรวมตัวกันกับสก๊อยสาววัยรุ่นช่วยกันเก็บขยะในเขตชุมชนท่ามกลางสายตาดูถูกของชาวบ้านแม้พวกเธอจำทำความดีแต่เพราะการแต่งกายที่เปิดโชว์เนื้อหนังที่มากเกินไป ไม่สดใสสมวัยน่ารักก็ทำให้ผู้ใหญ่หลายๆ คนไม่ค่อยให้ความเอ็นดูนักเพราะความคิดของคนรุ่นเก่าการแต่งตัวน้อยชิ้นนั้นมีแต่อาชีพผู้หญิงหากินที่เอาไว้หลอกล่อผู้ชาย แม้จะทำดีให้ตายก็คงเปลี่ยนความคิดกลุ่มคนหัวโบราณนี้ไม่ได้“ดูสิ เรามาเก็บขยะให้แท้ๆ มองเราอย่างกับว่ารังเกียจ” สก๊อยมัธยมปลายพูดด้วยความหงุดหงิดเมื่อเห็นสายตาคนที่มองเธอ“นินทาอะไรฉันพวกเด็กเหลือขอ พวกผู้ชายก็แว้นรถรบกวนชาวบ้านไปวันๆ พวกผู้หญิงก็แต่งตัวยั่วเพศ ระวังเถอะจะท้องก่อนแต่งสร้างปัญหาให้สังคม ออกไป ไม่ต้องมาเดินผ่านหน้าบ้านฉัน”“วันไหนจะแข่งรถกัน พวกมันก็ทำดีเอาหน้าพวกตัวปัญหา”หญิงวัยกลางคนทั้งสองที่อยู่บ้านตรงข้ามกันช่วยไล่ตะเพิดกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังเดินเก็บขยะตามริมถนนอย่างรังเกียจทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรให้ตนเลย“เห็นไหม พวกนั้นดูถูกพวกเรา แต่งตัวโป๊แล้วทำไมต้องมองว่ามั่วด้วยนะ”“นั่นสิ พวกหัวโบราณ”สก๊อยวัยรุ่นคุยกัน
วันต่อมาโขงก็ไปรับอ้อยมาที่บ้านของตนกับพี่ชาย ซึ่งมีพรรคพวกอีกสามคนเพื่อแบ่งเงินกันอ้อยและเคนได้ส่วนแบ่งไปถึงหนึ่งหมื่นเพราะเป็นตัวเอกในเรื่องนี้ ในขณะที่ลูกน้องของเขื่อนได้คนละห้าพันและสองพี่น้องได้ไปคนละหนึ่งหมื่นเช่นกันกับอ้อยและเคน“ไหนลูกพี่บอกว่าครั้งนี้เดิมพันหลักแสนทำไมฉันได้เท่านี้ล่ะพี่เขื่อน” ลูกน้องเขาถามอย่างไม่เข้าใจเลยถูกเขื่อนตบกบาลเข้าให้“เงินเดิมพันหลักแสน ฝ่ายเขาห้าหมื่น ฝ่ายเราห้าหมื่นไง ไอ้ควายเอ๊ย ทีตอนเสียพวกกูกับไอ้เคนจ่ายกันสามคน เวลาได้กูแบ่งให้ยังจะมีหน้ามาสงสัย ครั้งหน้ากูไม่แบ่งล่ะนะ” เขื่อนพูดด้วยความโมโหลูกน้องทั้งสองได้แต่ก้มหน้าเข้าใจแล้วไม่ถามอะไรต่อ ทำให้เขื่อนหันไปหาโขง“เมื่อคืนเป็นไง ไอ้จ๊อกมันตามไปไหม”“ตามไปจ้ะ เข้าไปจัดฉันอีกรอบ บอกว่าครั้งหน้าจะแข่งเอาฉันไปให้ได้ ไม่รู้จะทำไงดี แผนเดิมถ้าใช้อีกต้องถูกสงสัยแน่” อ้อยพูดอย่างเป็นกังวล“ไม่ต้องห่วงหรอก เอ็งก็ใช้แผนรีดน้ำมันก่อนแข่งแต่คราวนี้ไม่ต้องป้ายยา” เขื่อนบอกเธอแล้วมองดูโขงที่ไม่พอใจเพราะอีกฝ่ายแอบชอบอ้อยอยู่“เมื่อวานฉันรีดน้ำไปตั้งเยอะถ้าไม่ได้ป้ายยาก็น่าจะชนะเห็นๆ” เธอพูดตามความจริงที่
การแข่งขันเริ่มขึ้นตามเวลาที่กำหนด จุดเริ่มต้นคือหน้าบ้านร้างที่อยู่อีกฟากของสะพานไปสิ้นสุดที่หน้าตลาดสดที่อยู่อีกฝั่งของสะพานซึ่งเป็นเขตของอีกตำบลคู่แรกได้แข่งขันผ่านพ้นไปด้วยดีเป็นเด็กมัธยมอายุสิบเจ็ดทั้งคู่ ซึ่งแข่งขันกันอย่างสูสีท่ามกลางเสียงเชียร์ของเด็กสาววัยใสที่ไม่รู้เบื้องหลังในการแข่งขันจากนั้นคู่ที่สองซึ่งเป็นการพนันแข่งรถอย่างลับๆ ก็เกิดขึ้น จ๊อกวัยยี่สิบสองเป็นตัวแทนของเสี่ยชาติที่จะลงแข่งของตำบลฝั่งตลาดและเคนวัยยี่สิบเอ็ดเป็นผู้ตัวแทนตำบลของโขงกับเขื่อน ที่มีดีกรีเป็นผู้ชนะสามเดือนซ้อนในการแข่งขันบนท้องถนนอ้อยมองจ๊อกแล้วส่งสายตาให้เป็นนัยว่าอยากเชียร์เขาแต่เพราะตนอยู่อีกฝั่งตำบลเลยแสดงออกชัดเจนไม่ได้จ๊อกมองหญิงสาวตาละห้อย แต่ก็ต้องจำใจเลือกสก๊อยสาวมานั่งซ้อนท้ายเพื่อทำการแข่งขันชิงสก๊อยสาวตามธรรมเนียม แต่เบื้องหลังก็รู้กันไม่กี่คนว่าคู่นี้คือการแข่งขันเดิมพันด้วยเงินเมื่อรถเริ่มออกตัวจ๊อกก็นำเคนไปก่อนแต่เคนก็รั้งท้ายสูสีเบียดกันไปจนถึงกลางสะพาน แต่แล้วก็ดูเหมือนว่าจ๊อกจะเกิดปัญหา เขาชะลอรถลงก่อนถึงเส้นชัยทำให้เคนได้รับชัยชนะไป“เอ็งรู้ใช่ไหมอ้อย ว่าถ้าไอ้จ๊อกมันสงส
“นังอ้อยนั่นเอ็งจะไปไหน” เสียงของมารดาทำให้อ้อยรีบสาวเท้าวิ่งขึ้นรถมอเตอร์ไซค์แต่งซิ่งที่จอดรอด้วยความเร็ว“ไปเลยพี่โขง” เธอกอดเอวชายร่างเพรียวที่เป็นคนขับแล้วเอาหน้าอกแนบแผ่นหลังนั้นเร่งให้เขารีบขับออกไปมารดาวัยสี่สิบสามได้แต่เท้าสะเอวมองอย่างขัดใจที่ลูกสาววัยยี่สิบนั้นทำตัวเหลวไหลชอบออกไปกับแก๊งเด็กแว้นยามค่ำคืน แต่ก็ห้ามอะไรไม่ได้โขงพาอ้อยไปยังจุดรวมตัวที่สะพาน มีรถมอเตอร์ไซค์จอดเรียงรายหลายคัน แต่ละคันแต่งซิ่งจนเกินมูลค่าของรถที่ซื้อมา ดูเท่และสวยงามในแบบที่วัยรุ่นชอบ“พี่อ้อย” สก๊อยวัยรุ่นอายุตั้งแต่สิบห้าถึงสิบแปดปีที่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมัธยมปลายร้องเรียกสก๊อยรุ่นใหญ่ด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น“วันนี้พวกเราจอดเก็บขยะที่ใต้สะพานเส้นนี้ แล้วพวกผู้ชายก็ลงไปลอกผักตบกว่าจะเสร็จก็พากันเหนื่อยมาก” หนึ่งในสก๊อยรุ่นเยาว์พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด“ทำความดีก็ดีแล้วนี่ จะหงุดหงิดทำไม” อ้อยถามแล้วมองพวกเธอที่มองหน้ากันอย่างเซ็งๆ“พ่อแม่พวกเราไม่มีใครเข้าใจ”“ถึงเราจะเป็นสก๊อยซ้อนท้ายเด็กแว้นแต่พวกเราก็ทำความดีให้สังคมมากกว่าบางคนเสียอีก”สองสาวพูดออกมาแล้วถอนหายใจ ขึ้นชื่อว่าเป
วันนี้เป็นสุดท้ายที่คุณนายพุดจีบจะได้เล่นชู้กับคนสวนดุ้นอวบ ทั้งสองตกลงกันว่าความสัมพันธ์นี้จะจบลงเพราะหญิงสาวได้รับประสบการณ์แปลกใหม่จนพอใจแล้ว“พรุ่งนี้นายอำเภอจะมาแล้ว ฉันคงไม่ได้เล่นสนุกกับลุงคล้ายอีกแล้วสินะ”“ไม่เป็นไรนะครับคุณนาย เอาไว้นานๆ ทีถ้าอยากปรึกษาท่ายากๆ เด็ดๆ ก็ค่อยนัดผมอีกก็ได้” เขาพูดเสียงนุ่มและพร่าสั่นในขณะที่นอนลูบไล้ร่างเปลือยเปล่าที่นอนอยู่ตรงหน้า“เรามาเริ่มกันดีกว่าครับ ผมอยากเอาคุณนายจะแย่แล้ว” เขาบอกแล้วก้มลงไปจูบที่ไหล่เปลือยนั้น ลากลิ้นไปที่ต้นคอระหงแล้วไซ้จูบอย่างดูดดื่มเขาขึ้นมาคร่อมทับ โน้มลงไปจูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม ริมฝีปากหนาเลื่อนไปจูบที่ปลายคางแล้วเลื่อนลงไปเรื่อยๆ เพื่อเชยชมหน้าอกอวบอิ่มแล้วขยำมันขึ้นมาดูดเลียที่ยอดอกชูชันนิ้วมือหยาบกร้านไต่ไปบดขยี้เม็ดเสียว แล้วเลื่อนเข้าไปที่ร่องสวาทอย่างหนักมือ“อ๊าส์ ลุงคล้ายฉันเสียว” ฉันร้องเสียงกระเส่า“ขย่มให้ผมหน่อยสิครับคุณนาย” เขาลุกขึ้นนั่งขอร้องเสียงแหบพร่าและสั่นกระเส่าที่ปลายเสียงหญิงสาวขยับมานั่งบนตักเขาในท่าหันหน้าเข้าหากัน ก้มลงไปบดจูบริมฝีปากนั้น ทั้งบดริมฝีปากและแลกลิ้นอย่างดูดดื่มในขณะที่
สาวใช้มะยมเดินหน้าเศร้ามาเก็บโต๊ะอาหารเช้าที่คุณนายพุดจีบกินเสร็จแล้ว และเข้าไปในครัวเพื่อตักอาหารเช้าที่คุณนายทำเผื่อตนกินอาหารอย่างเงียบๆเมื่อเช้านี้เธออ้อนขอให้นายคล้ายเล่นรักกับตนแต่เขาปฏิเสธแล้วอ้างว่าเหนื่อยทำให้เธอรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เล่นเสียวในตอนเช้ากับเขาแล้ววันนี้นายคล้ายก็มาแค่รดน้ำต้นไม้แล้วรีบร้อนออกไปเพื่อที่จะไปทำสวนที่บ้านอีกหลัง แล้วบอกว่าตอนเย็นก็มีงานต่อถึงเธอไปหาที่บ้านเขาก็ไม่ว่าง ทำให้เธอถึงกับหงุดหงิดวัยสาวแรกรุ่นที่กำลังติดใจรสสวาท ขาดแค่วันเดียวเธอก็อยู่ไม่เป็นสุขแล้ว“เป็นอะไรไป ไม่สบายเหรอ” คุณนายพุดจีบถามเธอเห็นสีหน้าที่งอง้ำนั้น“ไม่ได้เป็นอะไรค่ะคุณนาย” มะยมพูดแล้วฝืนยิ้มออกมา“ถ้าไม่สบายวันนี้กลับก่อนก็ได้นะ ฉันไม่ว่า” เจ้านายสาวพูดแสดงความห่วงใย“งั้นหนูขอทำงานบ้านให้เสร็จ แล้วขอกลับตอนบ่ายสามนะคะ” เธอบอกคุณนายด้วยน้ำเสียงที่ซาบซึ้งใจ ไอยากลางานทั้งวันเพราะไม่อยากถูกหักเงินเดือนจึงขอทำงานถึงตอนบ่ายสาม“ได้สิ” คุณนายพุดจีบบอกแล้วชะเง้อมองออกไปในสวน“วันนี้คนสวนไม่มาเหรอ” เธอถามด้วยความสงสัย“มาค่ะ แต่มาแค่รดน้ำเดี๋ยวก็จะออกไป วันนี้ต้องไปตัดหญ้าที่
พอออกมาจากห้องหลังจากเสร็จกิจส่วนตัวแล้ว คุณนายพุดจีบก็เดินลงไปที่ชั้นล่างในจังหวะที่มะยมเข้ามาเก็บโต๊ะพอดี“วันนี้ไปตลาดให้ฉันหน่อยนะ”“ได้ค่ะคุณนาย” มะยมรับปากอย่างเต็มใจ การปั่นจักรยานไปซื้อของที่ตลาดเป็นงานที่เธอชอบที่สุดเพราะเวลามีเงินทอนคุณนายก็อนุญาตให้เธอซื้อขนมที่ชอบกินด้วย “ค่ะ” มะยมรีบเก็บโต๊ะด้วยความดีใจพุดจีบไปนั่งจดรายการของรอที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้าน พอสาวใช้มาถึงก็ยื่นใบรายการนั้นให้พร้อมกับเงินจำนวนหนึ่ง“เงินเหลือก็ซื้อขนมมากินนะ”“ขอบคุณค่ะคุณนาย”“แล้วไม่ต้องรีบนะ ระวังรถด้วย” คุณนายพุดจีบบอกเหมือนห่วงใยแต่ในใจนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นกับแผนการของตน“ค่ะ” มะยมรับปากแล้วรีบเดินไปที่จักรยานของตน ยิ่งของเยอะยิ่งออกไปนานเธอก็ยิ่งดีใจเพราะนั่นหมายถึงงานบ้านวันนี้ก็ทำน้อยลงไปด้วยเมื่อมะยมปั่นจักรยานออกไปไกลแล้ว คุณนายวัยสาวก็หันไปพูดคุยกับคนสวน“ลงต้นไม้ใหม่เสร็จแล้วจะไปบ้านไหนต่อล่ะ”“วันนี้ไม่ได้ไปไหนครับ อยู่ตัดหญ้าที่นี่ต่อ หญ้าเริ่มสูงแล้ว” เขาตอบแล้วก้มหน้าลงเล็กน้อย“ลุงซ่อมไฟเป็นไหม หลอดไฟในบ้านเสียน่ะ ช่วยไปดูหน่อยสิ” เธอเริ่มจากการชักชวนเขาเข้าไปในบ้านคุณน
เช้าวันต่อมาคุณนายพุดจีบยืนส่งสามีขึ้นรถด้วยสายตาที่อาลัยอาวรณ์เพราะเขาต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัดเป็นเวลาสามวัน“จะไม่กินอาหารเช้าก่อนจริงๆ เหรอคะ”“ไม่ล่ะ ใกล้เวลารถจะออกแล้ว เขาน่าจะพาแวะกินที่ข้างทางน่ะ” เขาตอบภรรยาเสียงนุ่ม“เดินทางปลอดภัยนะคะคุณ” เธออวยพรสามีแล้วขยับเข้าไปกอดหลวมๆ เงยหน้ามองเขาด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าเธอกังวลใจที่ต้องอยู่ลำพัง“แล้วผมจะรีบกลับมา” เขาจูบลาเธอที่หน้าผากด้วยความรัก แล้วเดินขึ้นรถขับออกไปจากบ้านพักโดยที่ภรรยาสาวมองตามจนลับตาคุณนายวัยสาวกำลังจะกลับเข้าไปในบ้านเพื่อรับประทานอาหารเช้าที่ตนเตรียมเอาไว้ มองเห็นจักรยานมะยมจอดที่โรงจอดรถแล้วแสดงว่าน่าจะมาทำงานแล้วแต่กลับไม่เห็นตัวคนเธอมองไปยังบริเวณรอบๆ บ้าน คนสวนที่ปกติจะมาช่วงเวลานี้ก็ไม่เห็นเช่นกัน ตอนแรกคิดว่ายังไม่มาแต่สายตากลับเหลือบไปเห็นว่ารถมอเตอร์ไซค์คันเก่าคร่ำครึของเขาจอดที่ริมรั้วนอกบ้าน“หรือว่าสองคนนั้น...” พุดจีบเอามือทาบอกด้วยความรู้สึกตกใจ ว่าทั้งสองใช้ช่วงเวลานี้ในการร่วมรักกันที่บ้านพักของตนกับสามีคุณนายสาวเดินไปรอบบ้านเพื่อหาว่าทั้งสองระเริงรักกันที่ไหนเพื่อที่จะตำหนิ แต่เมื่อเดินไปถึงห