ปลายเท้าสองขาของนัฐธวีร์ก้าวเดินไปตามทางเดินของคฤหาสน์โอ่งโถงอย่างรวดเร็วนี่ไม่ใช่วิธีฉลาดเลยที่ฝ่าฝืนกฎอันเก่าแก่ดั้งเดิมของเคหาสน์สถานแห่งนี้ แต่ทว่าเขากลับรู้สึกว่ามันมีบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวเนื่องกันอยู่ไม่น้อยนัฐธวีร์มองทางผ่านเข้าออกอย่างรู้สึกตื่นกลัวไปหมด ด้านหน้าของเขามีกลุ่มสตรีสวมชุดยาวกรอมเท้าปิดบังอำพรางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเฝ้าทางผ่านระหว่างชั้นของเคหาสน์ปีกซ้ายเต็มไปหมดโชคยังดีที่เขาหลบลอดสายตาจากกลุ่มคนใช้ได้ทันเขาสังเกตเห็นที่แขนของหล่อนมีสัญลักษณ์ห้าเหลี่ยมกลับหัวดูคล้ายกับสัญญะของลัทธิอะไรสักอย่างนัฐธวีร์สะบัดไล่ความคิดสะระตะในหัวออก เมื่อเวลานี้ทางเดินไปยังห้องชั้นบนสุดแคบขึ้นเรื่อย ๆจากที่เคยเดินกว้างสี่ห้าพื้นกระดานก็เปลี่ยนมาเหลือเพียงพื้นกระดานเดียวชายหนุ่มแทบจะเดินตัวลีบไปตามทางที่คดเคี้ยวเหล่านั้นนัฐธวีร์มาถึงห้องของคุณอาผู้ดูแลเคหาสน์สถานแห่งนี้ เขาตัดสินใจเคาะประตูเพื่อเรียกคุณอาสาวอัญมณีทันทีทว่าลางสังหรณ์ของชายหนุ่มบ่งบอกว่าคุณอาอัญมณีไม่น่าจะอยู่ในห้องนั้นนัฐธวรีร์ตัดสินใจถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามายังห้องนอนของคุณอาอัญมณีแล้วรีบงับบานประตูลงอย่า
แต่น่าแปลกที่หุ่นฟางทุกตัวล้วนเป็นชื่อของผู้หญิงของพี่ชายที่หายสาบสูญไปราวกับไม่เคยมีอยู่มาก่อนนัฐธวีร์มองหุ่นฟางทั้งหลายที่ถูกเข็มเย็บผ้าทิ่มอย่างสยดสยองเขาเคยเห็นแต่ในหนัง หากแต่เขาไม่เคยนึกและไม่อยากฝันว่า คุณอาของเขากระทำการอุกอาจเช่นนี้เหงื่อเม็ดเป้งซึมผ่านไรผมของนัฐธวีร์ หางตาของชายหนุ่มเหลือบไปเห็นตุ๊กกตาหุ่นปั้นใบหน้าเหมือนนรีกุลและมีเข็มนับสิบปักอยู่“อย่าบอกนะว่า…” นัฐธวีร์ร้องขึ้นอย่างตื่นกลัวชายหนุ่มรีบเดินกลับออกมาจากห้องของคุณอาอัญมณีทันทียามนี้ทุกอย่างดูวังเวงเต็มไปหมด บรรยายกาศของปีกฟากซ้ายของคฤหาสน์มีเพียงคบไฟสลัว ๆ ที่สาดส่องแสงสว่างเพียงน้อยนิดหากเงาสะท้อนที่ทออดยาวลงมาไม่ใช่แค่ร่างสูงโปร่งเพียงคนเดียวอีกต่อไปแต่กลับมีเงาของใครบางคนเดินตามหลังโดยที่นัฐธวีร์ไม่ทันได้สังเกต!!!!นัฐธวีร์ออกตามหานรีกุลไปทุกชั้น เขามั่นใจว่าเธอจะต้องหลบอยู่ที่ไหนสักที่ในบ้านผีสิงแห่งนี้ความกังวลฉายชัดผ่านแววตาของชายหนุ่มเขาเดินวนทุกห้องอย่างร้อนรนราวหนูติดจั่น“อย่าเป็นอะไรไปน่ะนุ่น” นัฐธวีร์ได้แต่ภาวนาออกมาห้องใต้ดิน“ไม่นะคะ คุณอา” นรีกุลร้องปฏิเสธเสียงดังสนั่นเมื่อเห็นคุณอ
“อ๊อก” นรีกุลอาเจียนโฮกฮากเป็นครั้งที่ร้อย หากแต่เวลานี้เธอกลับลืมเปลือกตาบนแทบไม่ขึ้นหญิงสาวมองไปบนฝ้าเพดานอย่างเลื่อนลอยหล่อนมองเห็นช่อดอกกุหลาบหลายช่อถูกแต้มสีตุ่น ๆ ไว้บนผืนผนังเวลานี้นรีกุลรู้ดียาสั่งกำลังทำงาน ชาตินี้เจ้าหล่อนไม่นึกไม่ฝันเลยว่าคุณอาของนัฐธวีร์จะเป็นคนจิตใจโหดร้ายใจทมิฬหินชาติได้มากถึงเพียงนี้หล่อนยังจำนาทีที่น่าหวาดผวานั้นได้วินาทีที่หล่อนถูกจับกรอกยาสั่งน้ำสีม่วงรสชาติเฝื่อนคล้ายกันกับน้ำอัญชันเนื้อมนุษย์ที่เธอเคยได้รับประทานเข้าไปในวันแรกที่นรีกุลเหยียบย่างเข้ามาเพียงได้ยินคำว่าเนื้อมนุษย์นรีกุลรู้สึกขยะแขยงอัญมณีอย่างถึงที่สุดหากว่าเธอเลือกได้คนแรกที่เธอจะยัดเข้าตารางคืออัญมณีนี่แหละคนเลวเช่นอัญมณีสมควรได้รับรางวัลหายนะ แต่ในเวลาเจ็บปวดเช่นนี้ไฉนหล่อนจึงไม่เห็นแม้แต่เงาของชายคนรักนรีกุลไอโขกจนออกมาเป็นเลือดหล่อนมองเห็นโลหิตสีแดงฉานขุ่นขลั่กไหลออกมาเปื้อนผ้าปูเตียงสีซีดสัญชาติญาณของหญิงสาวบอกเธอว่า เธอจะต้องทำอะไรสักอย่างไม่เช่นนั้นเธอก็จะตายเหมือนอย่างเช่นจารีย์ และผู้หญิงคนอื่น ๆ เธอจะไม่ยอมอยู่ในสภาพเช่นนี้เป็นแน่นรีกุลรวบรวมแรงกำลังที่มีทั้
“อะไรนะครับ” นัฐธวีร์กล่าวอย่างงุนงง“ออ ตาโอ๊คเป็นเพื่อนของตากรชัยน่ะ หลานวีร์จำตาไม่ได้เหรอ” ชายชรากล่าวขึ้นพลางเอ่ยแนะนำตนเองอย่างเป็นกันเอง“เมี้ยว” เสียงร้องของแมวดังขึ้นมาจากด้านหลัง นัฐธวีร์ที่เห็นแมวจากคฤหาสน์หลุดออกมาเขารีบเดินเข้าไปอุ้มทันที“ไงเจ้าสามฉี” ชายหนุ่มอุ้มแมวขึ้นมาพลางมองไปทางคุณตาที่หันมาอีกทีเขาก็ไม่เห็นคุณตาคนนั้นเสียแล้วสายตาคู่คมของชายหนุ่มเหลือบมองเห็นสร้อยคอที่ห้อยเจ้าแมวสามฉีเป็นรูปตัวเอ็นเขารีบวางเจ้าแมวลงแล้ววิ่งเข้าไปในคฤหาสน์มอนอฟอยด์ทันทีรองเท้าขัดมันของนัฐธวีร์ก้าวเท้าไปทางห้องแคบ ๆ อย่างรวดเร็ว สมองของเขาเริ่มประมวลผลขึ้นหากนัฐธวีร์คาดการณ์ไม่ผิดไปจากความเป็นจริงมากนักนรีกุลอาจถูกขังไว้ในห้องใต้ดินที่เดียวกับเจ้าแมวสามฉีที่หลุดออกมาก็เป็นได้ตั้งแต่ที่เขาย้ายออกมากับกรพจน์ บิดาของเขา เจ้าแมวฉามฉีถูกนำมาฝากไว้กับคุณอาอัญมณีแต่คุณปู่กรชัยที่แพ้ขนแมวสั่งให้ขังเจ้าสามฉีไว้ในห้องใต้ดินและถัดจากห้องใต้ดินนั้นเป็นห้องของแอนกับอันนา สาวใช้สองคนที่เสียชีวิตไปได้หลายปีก่อนหากนัฐธวีร์คะเนแล้ว ถ้านรีกุลอยู่ในห้องใต้ดินนั้นจริง แปลความหมายได้ว่าใครบาง
“มันยังไม่ตายหรอกนังนุ่นนะ” เสียงหนึ่งดังขึ้นเรียกสติของนัฐธวีร์ให้หันมาทางต้นเสียง“คุณอาทำแบบนี้ทำไมครับ” นัฐธวีร์กล่าวด้วยความโมโหที่เวลานี้ภรรยาสุดรักของเขาใกล้จะจากไปเต็มที“แล้ววีร์คิดว่าอาทำไปทำไมล่ะ” อัญมณีถามพลางเอื้อมมือมาสัมผัสใบหน้าของหลานชายด้วยความรู้สึกที่ไม่ปิดบังอีกต่อไป“ทุเรศ ทุเรศที่สุด ผมรังเกียจคุณอา” นัฐธวีร์กล่าวขึ้นเขาเบือนหน้าหนีจากอัญมณีทันที“หยุดเดี๋ยวนี้นะ อาไม่ใช่แม่นั่นนะที่วีร์จะทำอะไรก็ได้”สิ้นเสียงของอัญมณีหล่อนก็โผเข้ากอดหลานชายนอกไส้พลางพยายามเบียดส่วนโค้งเว้าลงไปจนนัฐธวีร์ร้องลั่น“คุณอา ปล่อยผม” นัฐธวีร์กล่าวอย่างไม่พอใจที่อัญมณีเอื้อมมือมาสัมผัสตัวของเขาด้วยความกระหายกลัดมันนัฐธวีร์รวบรวมแรงทั้งหมดใช้สองมือผลักอกของอัญมณีให้กระเด็นออกไปห่างจากเขาอย่างรวดเร็ว“เสียแรงที่ผมไว้ใจคุณอา” นัฐธวีร์กล่าวเสียงเข้ม“อา อาไม่ได้ตั้งใจนะวีร์” อัญมณีกล่าวพลางพยายามลุกขึ้น“อย่าเข้ามายุ่งกับผมนะ คุณอาเป็นฆาตกรที่ฆ่าทุกคนในบ้านทั้งพี่จารีย์ และ พี่กรวีร์ด้วย”นัฐธวีร์กล่าวแล้วจ้องมองอัญมณีดวงตาวาวโรจน์“อาไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าอีนั่น อีจารีย์” อัญมณีแผดเสียงออกมา
“อาตอบแล้ว แต่วีร์ต้องปล่อยอาก่อน” อัญมณีหว่านล้อม“อย่ามาเล่นลิ้น ถ้าเมียกูตาย กูจะส่งมึงไปเข้าตาราง จะตอบหรือไม่ตอบ”“หนึ่ง”“สอง”“สาม”“สี่”“ได้ จ้ะ อาตอบแล้ว” อัญมณีร้อง“น้ำยาที่อาให้นรีกุลเป็นยาสั่งผสมสารพิษดอกยี่โถที่ต้องใช้ว่านรางจืดล้างเท่านั้น” อาสาวตอบอย่างจนมุมในที่สุด“แค้ก” นัฐธวีร์เหวี่ยงอัญมณีออกอย่างขยะแขยงทันทีเขารีบช้อนร่างของนรีกุลเดินผ่านอัญมณีไปท่ามกลางความเจ็บแค้นของอัญมณี“รักมันเข้าไปเถิด รู้ไว้เสียด้วย อีนุ่นมันเป็นเมียผีพยนต์พี่ชายแก” พูดจบอัญมณีก็กรีดเสียงหัวเราะร่วนนัฐธวีร์ที่กำลังก้าวเท้าผ่านออกจากห้องชะงักอยู่หน้าประตู เขามองอัญมณีอย่างไม่อยากเชื่อสายตา“ที่นุ่นได้กับผีพยนต์พี่กรวีร์ก็เป็นเพราะคุณอา จำเอาไว้ต่อให้ผมไม่มีนุ่นผมก็ไม่เลือกคุณอาอยู่ดี” นัฐธวีร์พูดแทงใจดำ“กรี๊ด” อัญมณีหวีดเสียงแหลมร้องดังลั่นห้องใต้ดินนัฐธวีร์อุ้มร่างนรีกุลเดินออกมาจากประตูบานนั้นเขาไม่แม้แต่จะสนใจอัญมณีอีกเลย“ได้…พวกแกจะต้องตาย ตายกันหมดอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้แหละ” อัญมณีคำรามเล็ดลอดไรฟันด้วยความคั่งแค้นคุณอาสาวคว้าคบเพลิงที่จุดแล้วขว้างออกไปอย่างบ้าคลั่งหมายจะปาออกไป
“เราจะไปไหนกันครับพ่อ” นัฐธวีร์กล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรน แววตาของเขาฉายรอยวิตกอย่างเห็นได้ชัด“ไปรักษาหนูนุ่นกัน” บิดาของนัฐวีร์กล่าวรถสปอร์ตคันหรูของกรพจน์แล่นออกไป เขาเลี้ยวไปตามทางอย่างชำนาญจนกระทั่งออกห่างจากตัวคฤหาสน์มอนอฟอยด์ไปนัฐธวีร์ประคองร่างไร้สติของนรีกุลอย่างหวงแหน หากหญิงสาวกลับไม่สามารถลืมตาขึ้นมามองเขาได้เลยกรพจน์มองไปยังนัฐธวีร์ลูกชายคนเล็กอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าพวกเขาทั้งสองจะต้องผ่านเรื่องราวเลวร้ายอะไรมาบ้างในคฤหาสน์แห่งนั้น‘นี่เขาทำอะไรลงไป ทำไมเขาไม่ห้ามบุตรชายตั้งแต่ตอนแรก’กรพจน์ยังขับรถต่อไปจนกระทั่งถึงสถานที่แห่งหนึ่งดูคล้ายกับสำนักทรงเจ้าเข้าผีกรวีร์มองพ่อที่ปลดสายเข็มขัดลงรถไปอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง“พ่อหมอ พ่อหมอช่วยพวกเราด้วย” กรพจน์เอ่ยขึ้นพลางมองบุตรชายที่อุ้มร่างของนรีกุลไว้แน่น“เอ้า เอาเธอวางลง” พ่อหมอไสยเวทย์กล่าวนัฐธวีร์มีสีหน้าลังเล ขณะที่เขามองการรักษาของบิดาอย่างงุนงงแต่จะมีอะไรดีไปกว่าการได้ช่วยเหลือภรรยาคนรักของเขาในเวลานี้ มันไม่มีทางเลือกอะไรอีกต่อไปแล้วล่ะนัฐธวีร์วางหญิงคนรักไว้บนแคร่ไม้ ขณะเดินกลับไปนั่งข้าง ๆ บิดาของเขาที่นั่
วินาทีเขารู้แล้วว่า เขารักผู้หญิงตรงหน้ามากเพียงใดและเขาสัญญาว่าชาตินี้ทั้งชาติเขาจะมีเพียงนรีกุลคนเดียวตลอดไป“วีร์คะ นุ่นปวดหัวจังคะ” นรีกุลร้องบอกชายคนรัก“นุ่นอย่าเป็นอะไรไปนะ” นัฐธวีร์ร้องเมื่อเห็นนรีกุลกำลังจะหมดสติอีกครั้ง“รีบพานังหนูนี่ส่งโรงพยาบาลเถิด ข้าแก้ของให้แล้ว” เสียงของพ่อหมอดังขึ้นทำให้นัฐธวีร์ได้สติเขารีบช้อนร่างนรีกุลขึ้นรถ แล้วบึ่งไปโรงพยาบาลทันทีหน้าห้องฉุกเฉิน “ผมขอเตียงให้คนไข้ด้วยคัรบ” เสียงเข้มเอ่ยกับพยาบาลอย่างร้อนรนพยาบาลกรูกันเข้ามาอุ้มร่างไร้สติของนรีกุลขึ้นมาวางไว้บนเตียงพยาบาลบุรุษพยาบาลเข็นร่างของนรีกุลเข้าไปด้านใน โดยมีนัฐธวีร์ตามไปติด ๆ…เขามองเห็นกรพจน์อยู่ห่างออกไปนัฐธวีร์หยุดยืนนิ่ง“ไปซิเจ้าวีร์ แกจะปล่อยนังหนูนุ่นเข้าไปคนเดียวได้ยังไง” กรพจน์ร้องตะโกนป้องปากอยู่หน้าโรงพยาบาลนัฐธวีร์ยิ้มให้บิดาทั้งน้ำตาอย่างสุขใจ เขารีบเดินตามบุรุษพยาบาลเข้าไปทิ้งให้กรพจน์ขับรถออกไปตามลำพัง“นุ่นอย่าเป็นอะไรไปนะ” นัฐธวีร์ร้องบอกร่างของนรีกุลถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว ขณะที่ประตูปิดลง“ญาติคนไข้เข้าไปไม่ได้นะคะ รออยู่ข้างนอกก่อนค่ะ” พยาบาลสา
ชายหนุ่มดันร่างอรชรให้นอนราบไปกับพื้นเตียง เวลานี้นรีกุลรู้สึกปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูกมือเรียวของนัฐธวีร์ซอนไซ้ไปยังร่องสวรรค์ของหญิงสาว ลมหายใจของนรีกุลกระตุกขึ้นในทันทีเจ้าบ่าวสอดนื้วเข้าไปเพื่อสำรวจห้องแห่งความลับสวรรค์อย่างที่เขาต้องการมานานแสนนานไม่ว่าจะผ่านไปเนิ่นานเพียงใด นรีกุลก็เป็นสตรีที่เขาชอบอยู่เสมอไม่ว่าจะส่วนเว้าส่วนโค้งที่เห็นได้จนเด่นชัดหรือจะเป็นความเด็ดขาดจริงใจก็ตามเขาจุมพิตหล่อนอย่างดูดดื่ม จนนรีกุลรู้สึกราวกับว่าหล่อนกำลังฝันไปหญิงสาวอดรู้สึกไม่ได้ว่าอุณหภูมิในเรือนกายร้อนผะผ่าวกับเวลานี้อยู่ในห้องอบซาวน่าก็ไม่ปานดวงหน้าคมเข้มของนัฐธวีร์ก้มลงตักตวงความหอมหวานจากน้ำตกสวรรค์ของหล่อนอย่างรวดเร็วนรีกุลครวญเสียงหวานยามเมื่อเวลานี้ชายหนุ่มก้มลงสำรวจซอนไซ้ซุกซนอยู่ตรงปากทางเข้าหว่างขาของหล่อน“ซี้ดดด” นรีกุลร้องสุดเสียงยามเมื่อเวลานี้ชายหนุ่มลากลิ้นสากขึ้นลงราวกับจะมุดร่องสวรรค์ของหล่อนลิ้นเหนียวลากไล้ไปมาจนเจ้าหล่อนอดรู้สึกกำซาบซ่านไปทั่วกายาไม่ได้นรีกุลกำผ้าปูที่นอนแน่นบามเมื่อเวลานี้ชายคนรักกำลังดอมดมดแกกุหลาบสีหวานในถ้ำอย่างหลงใหลนัฐธวีร์ปลดชั้นในตัวจิ๋วของ
ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์ งานแต่งงานของนรีกุลและนัฐธวีร์จัดขึ้นอย่างใหญ่โตอีกครั้งกรพจน์บิดาของเขาเชิญแขกมาทั้งตำบลเพื่อมาเป็นสักขีพยานให้กับบ่าวสาวห้องแต่งตัวเจ้าสาวภาพที่ปรากฎตรงหน้ากระจกบานใหญ่เป็นภาพของสตรีสวมชุดวิวาห์ยาวกรอมเท้าดวงหน้าหวานรูปไข่ คิ้วเรียวเข้มโค้งดั่งคันศร จมูกของหล่อนโด่งรั้นเชิดขึ้นริมฝีปากสีแดงระเรื่อดูน่าสัมผัสเวลานี้นรีกุลไม่นึกฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับนัฐธวีร์ใหม่อีกครั้งท่ามกลางความเห็นดีเห็นงามจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นรีกุลและนัฐธวีร์ผ่านอะไรร้าย ๆ มาตั้งมากมายหากหล่อนไม่มีกรพจน์ได้ช่วยเหลือเธอในวันนั้นอาจจะไม่มีนรีกุลหลงเหลืออยู่เลยนรีกุลอดรู้สึกขึ้นมาไม่ได้ว่าเวลานี้หล่อนช่างเป็นหญิงที่โชคดีที่สุดในโลกที่จะได้เป็นสะใภ้ตระกูลจิระชาญและในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ เธอกำลังจะเข้าพิธีมงคลสมรสกับสามีที่รักเธอสุดดวงใจพิธีแต่งงานของนรีกุลเป็นไปอย่างราบรื่น วันนี้นรีกุลดูงดงามมากในสายตาของนัฐธวีร์“ขอเชิญบ่าวสาวมาตัดเค้กได้”สิ้นเสียงพิธีกรที่ ได้รับเชิญมา นรีกุลสาวเท้าเข้ามายืนใกล้ๆ กับนัฐธวีร์หล่อนมองดูเค้กแต่งงานของเธออย่างไม่น
“งั้นเราเข้าไปข้างในกันเถอะคุณพ่อกับคุณแม่ท่านรอนานแล้วล่ะ” นัฐธวีร์กล่าวด้วยเสียงนุ่มนรีกุลมองมือของนัฐธวีร์ที่ยื่นมาทางหล่อน หญิงสาวนิ่งไปชั่วอึดใจในวันนี้ตั้งแต่ที่หล่อนเข้ามาเป็นสะใภ้ในบ้านของนัฐธวีร์ ไม่มีวันไหนที่หล่อนไม่เลือกเขา นรีกุลและสามีผ่านอะไรด้วยกันมามากมายไม่ว่าเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตจะดีหรือร้ายก็ตามแต่นรีกุลได้เตรียมใจและได้เลือกเส้นทางนี้เอง นั้นคือการได้อยู่กับสามีของหล่อนยอ่างนัฐธวีร์ ผู้ชายเพียงคนเดียวที่ชาตินี้ทั้งชาตินรีกุลจะรักนัฐธวีร์ตลอดไปเวลานี้นรีกุลเลือกแล้วว่าจะซื่อสัตย์ต่อหัวใจของตนเอง“นุ่นคุณฟังผมอยู่ไหม” นัฐธวีร์ถามย้ำเมื่อหญิงสาวยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างใจลอย“ค่ะวีร์ เราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ” นรีกุลกล่าวพลางยื่นมือออกไปกุมมือของชายคนรัก“ครับคุณภรรยา” นัฐธวีร์กล่าวพลางพานรีกุลเข้าไปด้านในบ้านหลังใหม่ของพวกเขา“หนูนุ่น แม่เตรียมอาหารไว้แล้วล่ะ หนูคงหิวแล้วใช่ไหมจ้ะ” มารดาของนัฐธวีร์กล่าวอย่างไม่ถือตัวเหมือนแต่ก่อนนรีกุลที่เห็นดังนั้นชะงักไปเพียงเล็กน้อย หล่อนพยักหน้ารับคำมารดาของเขาอย่างรวดเร็ว“ไปเจ้าวีร์พาหนูนุ่นไปกินข้าวเสียซิ” ก
ไม่กี่วันต่อมาหมอเจ้าของไข้ก็ให้นรีกุลกลับบ้านได้ นัฐธวีร์ได้พานรีกุลออกมาขึ้นรถกลับไปบ้าน“นุ่นคาดเข็มขัดดี ๆ นะ” ชายหนุ่มเอ่ยหยอกล้อกับคนรัก ทว่าเขากลับมีสีหน้าจริงจังนรีกุลอดสงสัยขึ้นมาไม่ได้ กระนั้นดวงหน้าหวานยังคงแต้มรอยยิ้มกว้างอย่างเดิมนรีกุลเอื้อมมือคาดเข็มขัดนริภัย ไม่กี่นาทีต่อมานัฐวีร์ก็ขับรถพุ่งทะยานออกไป“เราจะไปไหนกันคะวีร์” นรีกุลเอ่ยถามอย่างสงสัยในตัวของสามีไม่น้อย“ไปที่ที่เป็นของเรา” นัฐธวีร์กล่าวด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง“ที่ที่เป็นของเรา” นรีกุลทวนคำตอบของชายคนรัก“เดี๋ยวนุ่นก็รู้เองล่ะน่า” นัธธวีร์บอกปัด“ก็ได้ค่ะวีร์” นรีกุลตอบ หล่อนเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ข้างคนขับรถยนต์ของนัฐธวีร์แล่นไปตามถนนใหญ่เรื่อย ๆในที่สุดรถขอองชายหนุ่มก็ไปหยุดอยู่หน้าบ้านหลังโตสไตล์มินิมอลหลังหนึ่ง“นุ่นตื่นได้แล้วครับ” นัฐธวีร์กล่าวพลางเขย่าตัวของหญิงสาวให้ตื่นขึ้น“คะ วีร์” หญิงสาวงัวเงียตอบออกมาด้วยเสียงอู้อี้“ถึงแล้วค่ะ ที่นี่แหละที่ของเรา” นัฐธวีร์กล่าวพลางเอื้อมปลดสายเข็มขัดนริภัยให้เธอนรีกุลลงจากรถอย่างรวดเร็วตามหลังนัฐธวีร์ สามีไปติด ๆ…ดวงตาคู่สวยของนรีกุลเบิกกว้างกว่าเดิม หล่
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณย่า นุ่นอภัยให้” นรีกุลตอบออกมาในที่สุด“แต่ผมว่าคุณอาควรมาขอโทษนุ่นด้วยตนเองนะครับ” นัฐธวีร์เอ่ยเสียงแข็งเขาจะไม่ยอมให้นรีกุลยอมอ่อนข้อให้คนในตระกูลของเขาอีกต่อไปแล้วอย่างไรเสียอัญมณีก็ควรมาขอโทษด้วยตนเองไม่ใช่หลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นมารดาปลอม ๆ เช่นนี้“หลานวีร์ อัญมณีเขา…” คุณย่าเอ่ยอย่างไม่ทันจบประโยคดี หยาดน้ำใสไหลคลอหน่วยตาของหญิงชรานัฐธวีร์และนรีกุลมองสบสายตากันอย่างรู้สึกสังหรณ์ในใจ“อัญมณี เขาเสียชีวิตแล้ว เมื่อเช้านี้” คุณย่าพูดเพียงเท่านั้นก็ปล่อยโฮออกมาทันทีจนผู้เป็นสะใภ้ต้องเข้ามาปลอบประโลม“พ่ออยากให้แกอภัยให้อาของแกสักครั้งนะวีร์” เสียงของกรพจน์อ่อนลงมากในเวลาเช่นนี้“แต่ที่คุณอาทำมันมากเกินการให้อภัย” นัฐธวีร์โต้เถียงกลับไปอย่างไม่ลดละ“พ่อเข้าใจ จริง ๆ พ่อก็ยังไม่ชอบใจกับการกระทำของเขาแต่อัญมณีถูกทำร้ายก่อนโดยบิดาของเขาเอง”“คุณพ่อหมายความว่ายังไงครับ” นัฐธวีร์ถามเสียงเข้มของนัฐธวีร์ทำให้ผู้เป็นบิดาเล่าความจริงบางอย่างออกมา“อัญมณีถูกคุณพ่อจับไปทดลอง ทำให้หล่อนกลายเป็นยักษ์ร้าย” กรพจน์เล่าเท้าความ“จับไปทดลอง” ชายหนุ่มทวนคำ“ใช่ ใช่พ่อของฉันรับอัญ
หยดน้ำใสไหลหยดออกมาจากดวงตาของนัฐธวีร์หล่นลงบนแขนขวาของนรีกุลแพขนตางอนยาวหนากระพือเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า นรีกุลค่อย ๆ ลืมตาขึ้น“นุ่น คุณตื่นแล้วใช่ไหม”“นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” นัฐธวีร์ถามย้ำนรีกุลไม่ตอบอะไร หล่อนคลี่ระบายรอยยิ้มเล็กน้อยมือเรียวของนัฐธวรีร์กดออดเรียกพยาบาล เขากรอกเสียงลงไปตามสายอย่างรวดเร็ว“หมอครับ หมอครับ ภรรยาของผมฟื้นแล้วครับ” ชายหนุ่มกรอกเสียงลงไปฉับพลันพยาบาลสาวรีบเข้ามาตรวจดูคนไข้อย่างรวดเร็วนัฐธวีร์ถอยออกมาจากห้องพักพิเศษผู้ป่วยนอกให้แพทย์ได้เข้ามาตรวจนรีกุลได้อย่างเต็มที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้นัฐธวีร์ละสายตาจากหญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู“หนูนุ่นเป็นอย่างไรบ้างตาวีร์” ปลายสายเป็นมารดาของเขาโทรถามอาการของภรรยาสุดรัก“นุ่นปลอดภัยแล้วครับแม่” นัฐธวีร์กล่าวขึ้นแม่ดีใจด้วยนะตาวีร์ มารดาเขาตอบกลับมาด้วยความยินดี“ครับแม่” นัฐธวีร์น้ำตารื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเขาอดรู้สึกดีใจขึ้นมาไม่ได้ว่าครอบครัวเขาเองก็เป็นห่วงภรรยาของเขาเหมือนกันชายหนุ่มสังเกตเห็นตอนที่กรพจน์ขับรถ เขามองแววตานั้นออกแววตานั้นคล้ายกับแววตาที่ผู้เป็นพ่อมองบุตรสาวความห่วงหา และห่วงใยที
วินาทีเขารู้แล้วว่า เขารักผู้หญิงตรงหน้ามากเพียงใดและเขาสัญญาว่าชาตินี้ทั้งชาติเขาจะมีเพียงนรีกุลคนเดียวตลอดไป“วีร์คะ นุ่นปวดหัวจังคะ” นรีกุลร้องบอกชายคนรัก“นุ่นอย่าเป็นอะไรไปนะ” นัฐธวีร์ร้องเมื่อเห็นนรีกุลกำลังจะหมดสติอีกครั้ง“รีบพานังหนูนี่ส่งโรงพยาบาลเถิด ข้าแก้ของให้แล้ว” เสียงของพ่อหมอดังขึ้นทำให้นัฐธวีร์ได้สติเขารีบช้อนร่างนรีกุลขึ้นรถ แล้วบึ่งไปโรงพยาบาลทันทีหน้าห้องฉุกเฉิน “ผมขอเตียงให้คนไข้ด้วยคัรบ” เสียงเข้มเอ่ยกับพยาบาลอย่างร้อนรนพยาบาลกรูกันเข้ามาอุ้มร่างไร้สติของนรีกุลขึ้นมาวางไว้บนเตียงพยาบาลบุรุษพยาบาลเข็นร่างของนรีกุลเข้าไปด้านใน โดยมีนัฐธวีร์ตามไปติด ๆ…เขามองเห็นกรพจน์อยู่ห่างออกไปนัฐธวีร์หยุดยืนนิ่ง“ไปซิเจ้าวีร์ แกจะปล่อยนังหนูนุ่นเข้าไปคนเดียวได้ยังไง” กรพจน์ร้องตะโกนป้องปากอยู่หน้าโรงพยาบาลนัฐธวีร์ยิ้มให้บิดาทั้งน้ำตาอย่างสุขใจ เขารีบเดินตามบุรุษพยาบาลเข้าไปทิ้งให้กรพจน์ขับรถออกไปตามลำพัง“นุ่นอย่าเป็นอะไรไปนะ” นัฐธวีร์ร้องบอกร่างของนรีกุลถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว ขณะที่ประตูปิดลง“ญาติคนไข้เข้าไปไม่ได้นะคะ รออยู่ข้างนอกก่อนค่ะ” พยาบาลสา
“เราจะไปไหนกันครับพ่อ” นัฐธวีร์กล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรน แววตาของเขาฉายรอยวิตกอย่างเห็นได้ชัด“ไปรักษาหนูนุ่นกัน” บิดาของนัฐวีร์กล่าวรถสปอร์ตคันหรูของกรพจน์แล่นออกไป เขาเลี้ยวไปตามทางอย่างชำนาญจนกระทั่งออกห่างจากตัวคฤหาสน์มอนอฟอยด์ไปนัฐธวีร์ประคองร่างไร้สติของนรีกุลอย่างหวงแหน หากหญิงสาวกลับไม่สามารถลืมตาขึ้นมามองเขาได้เลยกรพจน์มองไปยังนัฐธวีร์ลูกชายคนเล็กอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าพวกเขาทั้งสองจะต้องผ่านเรื่องราวเลวร้ายอะไรมาบ้างในคฤหาสน์แห่งนั้น‘นี่เขาทำอะไรลงไป ทำไมเขาไม่ห้ามบุตรชายตั้งแต่ตอนแรก’กรพจน์ยังขับรถต่อไปจนกระทั่งถึงสถานที่แห่งหนึ่งดูคล้ายกับสำนักทรงเจ้าเข้าผีกรวีร์มองพ่อที่ปลดสายเข็มขัดลงรถไปอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง“พ่อหมอ พ่อหมอช่วยพวกเราด้วย” กรพจน์เอ่ยขึ้นพลางมองบุตรชายที่อุ้มร่างของนรีกุลไว้แน่น“เอ้า เอาเธอวางลง” พ่อหมอไสยเวทย์กล่าวนัฐธวีร์มีสีหน้าลังเล ขณะที่เขามองการรักษาของบิดาอย่างงุนงงแต่จะมีอะไรดีไปกว่าการได้ช่วยเหลือภรรยาคนรักของเขาในเวลานี้ มันไม่มีทางเลือกอะไรอีกต่อไปแล้วล่ะนัฐธวีร์วางหญิงคนรักไว้บนแคร่ไม้ ขณะเดินกลับไปนั่งข้าง ๆ บิดาของเขาที่นั่
“อาตอบแล้ว แต่วีร์ต้องปล่อยอาก่อน” อัญมณีหว่านล้อม“อย่ามาเล่นลิ้น ถ้าเมียกูตาย กูจะส่งมึงไปเข้าตาราง จะตอบหรือไม่ตอบ”“หนึ่ง”“สอง”“สาม”“สี่”“ได้ จ้ะ อาตอบแล้ว” อัญมณีร้อง“น้ำยาที่อาให้นรีกุลเป็นยาสั่งผสมสารพิษดอกยี่โถที่ต้องใช้ว่านรางจืดล้างเท่านั้น” อาสาวตอบอย่างจนมุมในที่สุด“แค้ก” นัฐธวีร์เหวี่ยงอัญมณีออกอย่างขยะแขยงทันทีเขารีบช้อนร่างของนรีกุลเดินผ่านอัญมณีไปท่ามกลางความเจ็บแค้นของอัญมณี“รักมันเข้าไปเถิด รู้ไว้เสียด้วย อีนุ่นมันเป็นเมียผีพยนต์พี่ชายแก” พูดจบอัญมณีก็กรีดเสียงหัวเราะร่วนนัฐธวีร์ที่กำลังก้าวเท้าผ่านออกจากห้องชะงักอยู่หน้าประตู เขามองอัญมณีอย่างไม่อยากเชื่อสายตา“ที่นุ่นได้กับผีพยนต์พี่กรวีร์ก็เป็นเพราะคุณอา จำเอาไว้ต่อให้ผมไม่มีนุ่นผมก็ไม่เลือกคุณอาอยู่ดี” นัฐธวีร์พูดแทงใจดำ“กรี๊ด” อัญมณีหวีดเสียงแหลมร้องดังลั่นห้องใต้ดินนัฐธวีร์อุ้มร่างนรีกุลเดินออกมาจากประตูบานนั้นเขาไม่แม้แต่จะสนใจอัญมณีอีกเลย“ได้…พวกแกจะต้องตาย ตายกันหมดอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้แหละ” อัญมณีคำรามเล็ดลอดไรฟันด้วยความคั่งแค้นคุณอาสาวคว้าคบเพลิงที่จุดแล้วขว้างออกไปอย่างบ้าคลั่งหมายจะปาออกไป