“อยู่ได้หรือไม่ ทำความสะอาดนิดหน่อยก็ดีกว่าเดิมแล้วแหละ”
แม่ของเซียวซาเอ่ยกับเจียงจวินด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน เจียงจวินยิ้มให้แม่ของเซียวซาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย
“ได้ค่ะ ป้าเซียวไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”
“อืม เช่นนั้นวันนี้ก็พักก่อน พรุ่งนี้ป้าจะพาเธอไปดูงานในบ้าน”
“ค่ะป้า”
เจียงจวินเอ่ยเรียกแม่ของเซียวซาว่าป้าเซียวนับแต่นั้น
ป้าเซียวเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินจากไป เจียงจวินวางเจียงเป่าลงบนพื้นพร้อมกับกำชับให้น้องสาวนั่งอยู่เฉยๆ ก่อนที่เธอจะตั้งใจทำความสะอาดภายในห้อง ใช้เวลาไม่นานทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อยดี เจียงจวินรู้สึกเหนื่อยล้าไม่น้อยเลยเธอจึงพาตนเองและเจียงเป่าไปอาบน้ำ วันนี้ลุงป้าบ้านเซียวซื้ออาหารมาจากด้านนอกเข้ามากินกัน อีกทั้งยังแบ่งอาหารให้เธอและน้องสาวอย่างใจกว้าง
ส่วนเซียวซาได้ยินว่าเขาสลบเหมือดเพราะดื่มสุราไปมากตั้งแต่กลับมาแล้ว
ค่ำคืนนี้อากาศค่อนข้างเย็นสบายเพราะเข้าสู่ช่วงกลางฤดูใบไม้ผลิแล้ว หลังจากที่พาเจียงเป่าเข้านอนแล้ว เจียงจวินก็เดินออกมารับลมที่ด้านนอกห้องนอน พลางมองดูดวงจันทร์บนท้องฟ้า ในใจหวนนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาอย่างครุ่นคิด
ชีวิตคนเราไม่แน่นอนจริงๆ ก่อนหน้านี้เธอยังมีชีวิตอย่างสุขสบายอยู่เลย ชั่วข้ามคืนกลับต้องมาพบเจอกับความลำบาก อีกทั้งยังมีเด็กให้เลี้ยงเพิ่มมาอีกหนึ่งคน
แต่จะให้ทำเช่นไรได้เล่า จะร้องไห้ไปก็ไม่มีประโยชน์ เธอต้องเข้มแข็งเพื่อเอาตัวรอด จะไม่ยอมอ่อนแออีกแล้ว
ด้านเซียวซานั้นเมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนเองกำลังนอนอยู่บนเตียง คาดว่าคุณพ่อคงจะสั่งให้คนงานในสวนมาแบกเขาขึ้นมานอนบนห้อง เจ้าตัวลุกขึ้นมานั่งก่อนจะยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้วของตน รู้สึกปวดหนึบและอยากจะซดน้ำแกงร้อนๆ เสียหน่อย จึงเดินออกมาจากห้อง แต่ทว่าสายตาของเขากลับมองเห็นเจียงจวินที่กำลังยืนกอดอกพลางมองไปบนท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย
เขาจ้องมองเธอครู่หนึ่ง ก่อนจะครุ่นคิดถึงวันที่เจอเธอครั้งแรก
เขาหลงรักเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่พบหน้ากัน เขารู้มาว่าเธอและแม่ของเธอรวมถึงน้องสาวช่างน่าสงสารเหลือเกิน เขาจึงมีใจคิดอยากช่วยเธอ แต่เขารู้ดีว่าเขาไม่เอาไหน นอกจากดื่มสุราเก่งแล้วก็ไม่เอาการเอางานอะไรสักอย่าง ปีก่อนคู่หมั้นก็ตายไปถึงสองคน ทำให้เขาถูกกล่าวหาว่ามีดวงกินภรรยา ไม่มีใครอยากมาแต่งงานกับเขาสักคน เขาเองก็ไม่สน ผู้หญิงพวกนั้นไม่เข้าตาเขาเลยสักคนเดียว แต่เมื่อได้พบกับเจียงจวินเขาเองกลับชื่นชอบเธอมากเหลือเกิน
เขามีชื่อว่าเซียวซา คำว่าซาแปลว่าสาม เพราะว่าเขาเป็นลูกคนที่สาม พ่อแม่รักเขามาก ต่อให้เขาจะทำตัวเช่นไรก็ไม่เคยดุด่าอย่างแรงเหมือนบ้านอื่น
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เซียวซาจึงยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินเข้าไปที่ด้านหลังของเจียงจวิน และเอ่ยกับเธอเบาๆ ที่ข้างหู
“น้องสาวมายืนชมพระจันทร์หรือ”
เจียงจวินที่กำลังเหม่อลอยพลันหยุดชะงัก ก่อนจะตกใจไม่น้อย สัญชาตญาณการป้องกันตัวเองทำงานทันที ไม่รอช้าเธอซัดหมัดเข้าใส่ใบหน้าของเซียวซาจนเขาหงายหลัง เลือดไหลซึมออกมาจากจมูกทั้งสองข้างของเขาอย่างน่าเวทนา
เซียวซามึนจนเห็นดาว ในขณะที่เจียงจวินตกใจจนทำสิ่งใดไม่ถูก
“เซียวซา คุณมาทำอะไรคะ แล้วมากระซิบข้างหูฉันทำไม โอะ เลือด!!!”
เซียวซายกมือขึ้นเช็ดเลือดตน แล้วลุกขึ้นยืนและสะบัดศีรษะไปมา ก่อนจะเอ่ยกับเจียงจวิน
“น้องสาวมือหนักเหลือเกิน”
เจียงจวินไม่ตอบ นางรีบลนลานหาผ้าเช็ดหน้าส่งให้เขา อย่างไรเสียแม้จะไม่ชอบหน้าเซียวซา แต่ยังไงลุงป้าบ้านเซียวก็ดีกับเธอไม่น้อย นางจึงไม่ควรตั้งแง่กับเซียวซาให้มากนัก
เซียวซารับผ้าเช็ดหน้าของเจียงจวินมาเช็ดเลือด ก่อนจะยิ้ม
“ผ้าเช็ดหน้าหอมเหลือเกิน”
เจียงจวินหมดคำจะกล่าว ในเวลาเช่นนี้เขายังมีอารมณ์มาเอ่ยคำพูดหยอกเย้าเธออีก
เซียวซาที่เห็นว่าเจียงจวินไม่ตอบก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดอีก เมื่อเลือดหยุดไหลแล้ว เขาจึงเอ่ยกับเธอ
“น้องสาว พี่อยากกินน้ำแกงร้อนๆ ช่วยทำให้หน่อยได้ไหม”
เจียงจวินที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อย นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยด้วยซ้ำ เธอทำให้เขากินได้อยู่แล้ว เมื่อคิดได้เช่นนั้นเธอจึงเดินเข้าครัวไป เมื่อมองดูของใช้ต่างๆ ในครัวแล้วเธอจึงลงมือทำอาหารทันที
เพราะวัตถุดิบในครัวมีไม่มาก เจียงจวินจึงทำเพียงน้ำแกงกระดูกหมูใส่หัวไชเท้าให้เขาเท่านั้น เมื่อทำเสร็จแล้วจึงยกชามน้ำแกงมาวางให้เซียวซาที่โต๊ะอาหาร กลิ่นหอมของน้ำแกงทำให้เซียวซารู้สึกอยากอาหารขึ้นมา เขายกมันขึ้นมาซดจนหมดถ้วย ก่อนจะเอ่ยกับเจียงจวิน
“น้องสาวทำอาหารอร่อยมากเลย”
เจียงจวินที่ถูกเซียวซาชมก็เพียงยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยพูด
“อิ่มแล้วใช่ไหมคะ ฉันจะขอตัวไปนอนแล้ว”
เซียวซาจ้องมองเจียงจวินก่อนจะเลิกคิ้วเล็กน้อย เจียงจวินที่ถูกเซียวซามองก็ขนลุกซู่ แววตาเช่นนี้เหมือนกับวันนั้นที่เขาวิ่งไล่ตามนางอย่างไม่ลดละเลย
ช่างเป็นภาพจำที่น่ากลัวเหลือเกิน!!!
“น้องสาว พี่เรียกเธอว่า น้องเจียงจวินได้หรือไม่ ส่วนเธอจะเรียกพี่ว่าพี่ซาก็ได้”
เจียงจวินรู้สึกพูดไม่ออก เธอไม่ได้อยากจะสานสัมพันธ์หรือผูกมัดอะไรกับเขา เดิมทีคิดเพียงว่าจะหาทางพูดคุยกับเขาว่าเธอจะใช้แรงเพื่อชดใช้หนี้หนึ่งพันหยวน หากชดใช้หนี้แล้วเธอกับน้องสาวก็จะไปจากบ้านเซียว ไปหาหนทางทำกินเอาข้างหน้า
แต่ทว่าเจียงจวินยังไม่ทันเอ่ยสิ่งใดออกไป เซียวซาก็เป็นฝ่ายชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน
“หากไม่อยากเป็นน้องสาว เช่นนั้นเป็นภรรยาก็ได้ เธออยากมีสามีชื่อพี่ซาไหม”
เจียงจวินตกใจไม่น้อย เธอจ้องมองเขาเขม็ง ก่อนจะเอ่ยตอบอย่างรวดเร็ว
“ไม่ค่ะ”
เซียวซาทำหน้าราวกับเด็กน้อยที่กำลังจะร้องไห้ ก่อนจะเอ่ย
“แต่พี่อยากมีภรรยาชื่อเจียงจวินนี่ น้องเจียงจวินทั้งทำอาหารเก่งทั้งมือหนัก พี่ซาชอบมาก”
เจียงจวินรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก ไอ้เด็กหนุ่มคนนี้นี่มันตามตื๊อเก่งจริงๆ
“ฉันจะไปนอนแล้วค่ะ ขอตัวก่อน”
เธอเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินจากไป เซียวซามองตามเจียงจวินไปจนลับสายตา ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย
เพื่อนในร้านสุราบอกว่า หากอยากชนะใจหญิงสาวที่ตนรักต้องตามตื๊อทุกวัน
เขาจะตื๊อจนกว่าเธอจะยอม ต่อให้โดนต่อยอีกกี่รอบก็ไม่สนหรอก!!!
รุ่งเช้าของวันต่อมา เจียงจวินตื่นนอนแต่เช้า ด้านเจียงเป่านั้นก็ตื่นตามเธอเช่นเดียวกัน นางพาเจียงเป่าไปล้างหน้าและเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะให้เด็กน้อยเดินตามเธอมาด้วย เมื่อมาถึงก็พบว่าป้าเซียวรอเธออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นว่าหญิงสาวมาก็ยิ้มให้เล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย“เมื่อคืนหลับสบายดีไหม”“สบายดีค่ะป้าเซียว”“อืม เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ วันนี้ป้าจะพาเธอไปดูงานทั้งในบ้านและที่สวน”“ค่ะป้าเซียว”“อ้อ เจียงเป่าก็ไปด้วยเหรอ ดีๆ ป้าจะพาไปเที่ยวนะ”ป้าเซียวเอ่ยกับเจียงเป่าด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน จนเด็กน้อยยิ้มตาหยี เจียงจวินที่เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกดีไม่น้อย เพราะอยู่ในร่างนี้มานานจึงรู้สึกรักและผูกพันกับเจียงเป่ามากเจียงจวินเดินตามป้าเซียวมาไม่ไกลมากนัก ก่อนจะพบกับสวนผลไม้และสวนผัก เมื่อมองไปที่ภูเขาก็พบกับดอกไม้มากมายที่กำลังเริ่มจะออกดอก “นี่คือสวนผลไม้และสวนผักของบ้านเซียว ส่วนด้านบนภูเขาคือสวนดอกไม้ บ้านเซียวเรามีรายได้จากตรงนี้แหละ แต่เธอไม่ต้องกังวลนะ ฉันไม่ให้เธอทำงานหนักแบบนี้ เพียงพามาดูมาทำความรู้จักกับคนงานเอาไว้ เผื่อว่าจะได้ช่วยเหลือกันได้”“ค่ะป้าเซียว”เจียงจวินมองดูเจียงเป่าที่มองไปโดยรอ
หลังจากวันนั้นเจียงจวินก็พยายามหลีกเลี่ยงเซียวซามาโดยตลอด แต่คนอยู่บ้านเดียวกันต่อให้หลบหน้าแล้วจะหลบไปได้ถึงเมื่อไหร่กัน เธอจึงเปลี่ยนความคิดใหม่ เธอจะไม่หลบหน้าเขาอีกวันนี้ป้าเซียวบ่นว่าไม่ค่อยสบาย เจียงจวินจึงอาสาไปซื้อของที่ตลาดให้ด้วยตนเอง อีกทั้งยังให้เจียงเป่าคอยอยู่เป็นเพื่อนป้าเซียวอีกด้วยตลาดที่นี่ค่อนข้างเล็ก มีของขายไม่มากเท่าไร เนื้อหมูก็ไม่ได้สดเท่าในเมือง ตั้งแต่มาอยู่ที่บ้านเซียวเธอและน้องก็ได้กินอิ่มมากขึ้น ไม่ต้องอดอยากเช่นตอนที่อยู่บ้านตระกูลกู้หลายวันก่อนได้ยินว่ากู้ชินถูกตำรวจมาลากคอไปแล้ว พราะเขาแอบไปเล่นการพนัน เจียงจวินที่รู้เรื่องก็สะใจไม่น้อยในขณะที่เธอกำลังจะเดินกลับนั้น ก็พลันมีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาดักหน้าเธอ และจ้องมองเธอด้วยสายตาที่แทะโลมคนผู้นี้เธอรู้จัก เขาก็คือ หลี่ต้ง บุตรชายของจวนตระกูลหลี่ ที่มีเรื่องกับเซียวซาไปวันนั้น ได้ยินว่าตระกูลหลี่เรียกเงินจากคนตระกูลเซียวไปไม่น้อยเลย ทั้งที่บ้านตนเองก็ไม่ได้ยากจนถึงขนาดขัดสนเงินทองเลยด้วยซ้ำ บ้านหลี่เองก็มีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง งานงานหนึ่งได้เงินมาหลายร้อยหยวนด้วย“เจียงจวิน ได้ยินว่าเธอขายตัวให้ไอ้สวะเ
สองวันต่อมาเซียวตั๋วก็เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้าน นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงจวินได้พบกับพี่ชายคนโตของเซียวซา เขาเป็นคนที่สนุกสนานร่าเริงไม่ถือตัว อีกทั้งยังรักใคร่น้องชายอย่างเซียวซาเป็นอย่างมากอีกทั้งความสัมพันธ์กับเย่ซวงผู้เป็นภรรยาก็ดีไม่น้อยเลย เซียวตั๋วดูจะรักใคร่เย่ซวงไม่น้อย เซียวตั๋วอยู่ที่บ้านเซียวต่ออีกสามสี่วันเขาก็ต้องเดินทางกลับกองทัพ ครั้งนี้บ้านเซียวต้องไปส่งดอกไม้ในเมืองพอดี จึงถือโอกาสนี้ให้คนงานขับรถไปส่งเซียวตั๋วด้วย ด้านเย่ซวงเมื่อสามีกลับไปเธอก็รู้สึกเงียบเหงาไม่น้อยบ่ายแก่ๆ ของวันนั้นเจียงเป่าก็มีไข้ขึ้นมาเสียดื้อๆ เจียงจวินพยายามเช็ดตัวให้เท่าไรไข้ก็ไม่ลดละ อีกทั้งเจียงเป่ายังไม่ยอมกินอาหารและดูอ่อนแรงอีกด้วย ตอนนี้คนในบ้านเซียวต่างไปที่สวนกันหมด ส่วนเซียวซาก็คงจะไปที่ร้านสุราอีกตามเคย เจียงจวินจึงเดินมาหาเย่ซวงก่อนจะเอ่ยถาม“พี่เย่ซวงคะ พอดีว่าน้องสาวฉันมีไข้ ฉันจะไปบอกป้าเซียวเสียหน่อย รบกวนฉันฝากน้องสาวเอาไว้กับพี่สักครู่ได้ไหมคะ”เย่ซวงปรายตามองเจียงจวินอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะพูดออกมาอย่างไร้น้ำใจ“น้องสาวเธอ เธอก็ดูเองสิ ไม่ใช่หน้าที่ฉันเสียหน่อย แล้วอีกอย่างนะ เธ
จากนั้นสองวันเจียงเป่าก็หายป่วยกลับมาวิ่งเล่นได้ตามปกติได้ เจียงจวินจึงเบาใจลง สองวันมานี้เธอแทบไม่ได้นอนเต็มตื่นเท่าใดนัก เมื่อจัดการทุกอย่างรวมถึงอาหารเช้าของเจียงเป่าเรียบร้อยแล้ว เธอจึงเดินมาที่ห้องครัวอีกรอบ ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงป้าเซียวบ่นขึ้นมา“กลับบ้านอีกแล้ว ยังเอาเงินเดือนของเซียวตั๋วไปจนหมด ฉันเป็นแม่แท้ๆ กลับไม่ได้ใช้เงินเดือนลูกชายเลยสักหยวน ช่างน่าโมโหนัก”ได้ยินเพียงเท่านั้นเจียงจวินก็รู้ได้ในทันทีว่าเย่ซวงคงกลับบ้านเดิมของเธออีกแล้ว เจียงจวินไม่อยากใส่ใจเพราะไม่ใช่เรื่องของเธอ เธอรีบทำอาหารเช้าให้เสร็จ ก่อนจะยกอาหารไปวางบนโต๊ะ และแบ่งส่วนหนึ่งเอาไว้กินเองด้วยเมื่อกลับเข้ามาในห้องก็พบว่าเจียงเป่าหลับไปอีกรอบหนึ่ง คงเพราะเพิ่งหายไข้จึงง่วงนอนกว่าปกติ เธอทิ้งกายนั่งลงที่หน้าประตูห้อง และมองดูน้องสาวตนด้วยความเอ็นดู“เจียงเป่าดีขึ้นหรือยัง”เจียงจวินเงยหน้าไปมองก่อนจะพบกับเซียวซาที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างเธอ เจียงจวินย่นจมูกเล็กน้อย กลิ่นสุราจากตัวของเขามันทำให้เธอรู้สึกมึนหัวขึ้นมาเสียดื้อๆ เธอจึงเอ่ยกับเขา“ถอยออกไปไกลๆ หน่อย เหม็นกลิ่นเหล้ามากเ
เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว ก็เป็นไปตามที่เจียงจวินคิดเอาไว้ ป้าเซียวบ่นเซียวซาไปไม่น้อย แต่กลับไม่ได้ตำหนิเธอเลยแม้แต่คำเดียว ป้าเซียวบอกว่าเธอรู้มาตลอดว่าเซียวซาชอบพอเจียงจวิน และเซียวซาก็คงบังคับซื้อของให้เธอ ป้าเซียวจึงเรียกเธอมาคุยในห้อง ก่อนจะเอ่ย"ป้าไม่ได้คิดจะขัดขวาง แต่เจียงจวินเธอเป็นเด็กดีขนาดนี้ หากจะมาอยู่กับคนไม่เอาไหนอย่างเซียวซาจริงๆ เธอจะทนได้หรือ ป้าไม่อยากให้เธอต้องมาเสียเวลากับเขา อีกอย่างเธอคงพอได้ยินมาบ้างว่าเขามีดวงกินภรรยา"เจียงจวินที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกว่าอบอุ่นในหัวใจเหลือเกิน การเข้ามาอยู่ในบ้านเซียวแรกเริ่มเธอคิดว่าช่างเป็นเรื่องที่แสนจะโชคร้าย แต่ทว่านานวันเข้ามันกลับไม่เป็นแบบนั้นทุกคนดีกับเธอและน้องมากเหลือเกิน ดีเสียจนเธอรู้สึกผิดที่เคยมีอคติกับพวกเขา เมื่อได้ยินที่ป้าเซียวพูด เจียงจวินจึงยิ้มออกมาก่อนจะตอบ"หนูไม่เชื่อเรื่องเหลวไหลอย่างการมีดวงกินภรรยาพวกนั้นหรอกค่ะป้าเซียว หนูบอกเขาแล้ว หากเขาเป็นคนดีได้ หนูถึงจะยอมคบหากับเขา หากไม่ได้ ก็เป็นเพียงเจ้าหนี้และลูกหนี้กันไป"ป้าเซียวถอนหายใจออกมาเล็กน้อย มีหรือเธอจะไม่รู้ว่าลูกชายตัวดีทำอะไรเอาไว้บ้าง ใช
เซียวซามองดูเจียงจวินอีกครั้ง เดิมทีเขาคิดจะนั่งเล่นอยู่กับเจียงเป่า แต่ไม่นานนักพ่อก็เดินมาบอกว่าให้เขาช่วยแบกปุ๋ยกลับไปเก็บที่ห้องเก็บของ เขาจึงต้องกลับบ้านไป เมื่อกลับมาถึงก็พบกับเซียวหยี่ พี่สาวที่เพิ่งแต่งงานออกไปสองเดือนกำลังนั่งร้องไห้อยู่ในบ้านเซียวซามองดูเซียวหยี่ที่ตอนนี้ใบหน้าบวมช้ำคล้ายเพิ่งถูกคนทุบตีมา ก็พอจะคาดเดาเรื่องราวต่างๆ ได้เป็นอย่างดีสองเดือนก่อนเซียวหยี่แต่งงานออกไปกับสามีต่างหมู่บ้านถัดไป ผู้ชายคนนั้นมีชื่อว่าเฉินซิง มีอาชีพทำสวนผักเช่นเดียวกับบ้านของเขา ค่อนข้างมีฐานะในระดับหนึ่ง แต่ทว่าชอบดื่มสุราเหมือนเขา เพียงได้เห็นหน้าเฉินซิงครั้งแรกเขาก็พอมองนิสัยออกแล้ว เพราะเขาเองก็ชอบดื่มเหล้า แต่เขาเองไม่เคยทำร้ายใครหากใครไม่มาหาเรื่องเขาก่อนแต่กับเฉินซิงไม่ใช่ เขาเป็นพ่อม่ายได้ยินว่าทุบตีภรรยาคนเก่าจนพิการและเลิกกันไป ส่วนภรรยาคนที่สองทนเฉินซิงไม่ไหวต้องจ้างเขาเลิกด้วยเงินถึงสามร้อยหยวน จนมาถึงภรรยาคนที่สามก็คือเซียวหยี่พี่สาวของเขาเซียวหยี่ดื้อรั้นไม่สนใจคำพ่อแม่ที่เตือน จึงถูกเฉินซิงใช้อุบายหลอกล่อจนตกเป็นภรรยา เมื่อข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกไปแล้วก็ย่อมไม่อาจทำสิ
รุ่งเช้าของวันต่อมา เซียวซา เจียงจวิน และเซียวหยี่ก็ขับรถข้ามหมู่บ้านไปที่บ้านเฉินในทันที ระหว่างทางเซียวหยี่มองเจียงจวินเป็นระยะ เมื่อเช้าตื่นนอนมาได้ยินแม่พูดว่าอีกไม่กี่วันจะแต่งเจียงจวินเข้าบ้านเซียวเป็นสะใภ้ บอกว่าเธอถูกเซียวซาเอาเปรียบ แต่เท่าที่เซียวหยี่มองเห็นกลับรู้สึกว่าสองคนนี้ดูจะชอบพอกันเป็นอย่างมากเธอเป็นคนจิตใจดี ทำให้สามารถพูดคุยกับเจียงจวินได้อย่างสนิทสนมในระยะเวลาอันสั้น เมื่อพูดคุยกันก็รู้สึกว่าถูกคอ เซียวหยี่ก็รู้สึกชอบเจียงจวินเป็นอย่างมากใช้เวลาไม่นานก็ขับรถมาถึงบ้านเฉิน เมื่อมาถึงคนทั้งหมดก็เดินลงจากรถ ทันทีที่ลงมาก็เห็นเฉินซิงกำลังนั่งกินเหล้าอยู่หน้าบ้านพอดี เฉินซิงที่เห็นว่าผู้เป็นภรรยากลับมา ก็พูดขึ้นมาทันที"ไง นังตัวดี ไสหัวกลับมาแล้วเหรอ เสนอหน้ามาทำไม ไม่อยู่บ้านพ่อแม่แกไปเลยล่ะ"เซียวหยี่กำมือแน่น พยายามระงับโทสะ ก่อนจะเอ่ยตอบ"ฉันมาเก็บของ ต่อไปนี้จะไม่อยู่กับคนชั่วๆ แบบแกอีกแล้ว"เฉินซิงที่ได้ยินแบบนั้นก็ส่งเสียงเหอะออกมาและมองเซียวหยี่อย่างดูถูก"ของของแกฉันเผาทิ้งไปหมดแล้ว ส่วนของมีค่าฉันก็เอาไปขายมาซื้อเหล้ากิน อ้อ เงินที่เหลือยังไปซื้อผู้หญิงขาย
ท้ายที่สุดเซียวหยี่ก็กลับมาอยู่ที่บ้านเซียว กว่าเธอจะทำใจยอมรับและลืมภาพที่เฉินซิงตายไปในวันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เซียวหยี่หวาดกลัวเป็นอย่างมาก เธอนอนฝันร้ายแทบทุกคืน ถึงขนาดที่ป้าเซียวต้องมานอนเป็นเพื่อนลูกสาวตนเองเพื่อให้เซียวหยี่หายกลัว เจียงจวินสงสารเซียวหยี่เป็นอย่างมาก แต่ก็นับว่าโชคดีที่คนอย่างเฉินซิงตายไปจากโลกใบนี้ได้ ไม่อย่างนั้นชีวิตของเซียวหยี่คงจะลำบากกว่าที่เป็นอยู่แน่นอนเมื่อมรสุมครั้งนี้ผ่านพ้นไป บ้านเซียวก็จัดงานแต่งงานให้กับเซียวซาและเจียงจวิน ด้านเจียงเป่าที่ยังเด็กและไม่เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง ก็เอ่ยถามพี่สาวของตนเองด้วยน้ำเสียงที่ไร้เดียงสา"พี่คะ ทำไมพี่ต้องแต่งงานกับพี่ชายด้วยล่ะคะ"เจียงจวินที่ได้ยินเจียงเป่าเอ่ยถามก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะอุ้มเจียงเป่าขึ้นมา และเอ่ยกับน้องสาวด้วยน้ำเสียงที่รักใคร่เอ็นดู"เป่าเปา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หนูต้องเชื่อฟังพี่เซียวซาด้วยนะ เราจะอยู่ที่บ้านเซียวไม่ไปไหนอีกแล้ว คนบ้านเซียวดีกับเรา พี่เซียวซาก็ดีกับเราสองคนมาก เจียงเป่าต้องดีกับคนบ้านเซียวนะคะ รู้ไหม"เจียงเป่าพยักหน้าทั้งที่ไม่เข้าใจ แต่เด็กหญิงก็ไม่เอ่ยถา
ระยะนี้เซียวตั๋วอาการดีขึ้นมาก แม้ขาจะเดินกะเผลกๆ แต่เขาก็ทำงานหลายอย่างได้มากขึ้น เซียวซาและเจียงจวินเองก็ไม่เอาเปรียบพี่ชายพี่สาว หากขายได้เยอะก็แบ่งกำไรให้เสมอ กลายเป็นเซียวตั๋วและเซียวหยี่ที่เกรงใจคนทั้งสองเจียงจวินมองดูภายในร้าน คิดว่าอาจจะต้องจ้างคนมาเพิ่ม หลายวันก่อนเยี่ยนอิงมาเยี่ยมเธอพร้อมกับเยี่ยนชาง คนทั้งสองบอกว่ามีที่ดินผืนหนึ่งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาล เป็นที่ของคุณปู่เขาเอง หากเธออยากซื้อเขาขายให้สามพันห้าร้อยตำลึง เป็นที่ดินผืนไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก เดิมทีอยากจะลดราคาให้ แต่ที่ผืนนั้นราคาดี ไม่อาจที่จะลดราคาได้มากกว่านี้แล้ว เจียงจวินเองขอปรึกษากับเซียวซาเสียหน่อย เพราะราคาที่ว่านั้นก็ไม่ใช่น้อยๆ เลย แต่เซียวซากลับบอกว่าแล้วแต่เธอ หากเธออยากซื้อเขาเองก็ไม่คัดค้านอะไรวันนี้คนในร้านค่อนข้างที่จะมากอยู่ ผู้คนต่างเข้ามาในร้านจนกระทั่งถึงเวลาเย็น บะหมี่ก็ขายดีจนหมด แม้กระทั่งสุราของเซียวซาก็ไม่เหลือ ในขณะที่กำลังจะเก็บร้านกันอยู่นั้น ก็มีหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินเข้ามาในร้าน "เจียงจวิน นั่นเธอใช่ไหม"เจียงจวินที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการคิดบัญชีรายรับรายจ่ายเมื่อได้ยินแบบนั้นจึงเ
โรงพยาบาลใหญ่"ดีใจด้วยนะครับ ภรรยาคุณตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์แล้ว"เซียวซาที่ได้ยินแบบนั้นก็อึ้งไปจนทำอะไรไม่ถูก ราวกับสติของเขาหลุดลอยไปไกลแล้ว เขาทั้งยิ้มทั้งทำหน้าตาเหมือนคนมึนงง จนเซียวตั๋วต้องพูดขึ้นมา"อาซา เมียแกท้องแล้ว!!!"อาซาพลันได้สติขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยถามหมอด้วยน้ำเสียงที่สั่นๆ"ปะ แปดสัปดาห์คืออะไรเหรอครับคุณหมอ"เขามึนงงไปหมดแล้ว สมองตอนนี้คิดหรือนึกภาพอะไรไม่ออกเลย หมอที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ท่าทีของคุณพ่อมือใหม่ก็เป็นแบบนี้กันทุกคน"สองเดือนครับ""สองเดือน""ครับ""ขอบคุณครับหมอ ผมต้องดูแลเธอยังไงบ้างครับ""คุณพ่อใจเย็นนะครับ ตอนนี้ไม่ต้องทำอะไร แค่ให้เธอนอนพักให้มากๆ กินอาหารมีประโยชน์ ช่วงนี้อย่าเพิ่งให้เธอทำงานหนักก็พอครับ""ครับๆ ผมจะทำตามที่คุณหมอบอกครับ""ครับ อย่างนั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ"หมอยิ้มให้เซียวซาอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป เซียวซาหันมามองเซียวตั๋ว ก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยความดีใจ"พี่ใหญ่ เมียผมท้องแล้ว"เขาโผเข้ากอดเซียวตั๋วด้วยความดีใจ หลัวจื่อชิวมองภาพตรงหน้าก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยครั้งนี้เขาควรตัดใจจากเธอแล้วจริงๆ สินะ ดูแล้วเธอก็คงมีความสุขดีกับค
เช้าวันต่อมาเจียงจวินและเซียวซาตื่นแต่เช้า สองสามีภรรยาเตรียมจะเข้าเมืองเพื่อไปทำความสะอาดร้าน วันนี้เธอพาเจียงเป่าและเจ้าแมวเป่าเป้ยไปด้วย เจียงเป่าค่อนข้างตื่นเต้นเหลือเกิน ส่วนเจ้าแมวเป่าเป้ยก็รู้สึกว่าวันนี้ตนจะได้ไปเปิดหูเปิดตาเสียทีหลังจากที่เอาแต่เฝ้าบ่อน้ำมานานพวกเขายังพาเซียวหยี่และเซียวตั๋วไปด้วย จะได้พากันไปเปิดหูเปิดตา เพราะไม่อยากให้พี่ชายต้องอยู่แต่ในบ้าน ส่วนพ่อแม่สามีนั้นไม่อยากเดินทางไกล เพราะเหนื่อยล้านั่งรถนานๆ ไม่ไหวแล้วร้านที่เยี่ยนชางให้เช่าทำเลดีและค่อนข้างกว้างขวาง เจียงจวินรู้ดีว่าที่เขาให้เช่าในราคาถูกเพราะเห็นแก่เธอ อีกอย่างเยี่ยนชางร่ำรวยขนาดนั้น เขาเองกลับไม่ได้มาคิดเล็กคิดน้อยกับเธอเลยด้วยซ้ำทุกคนช่วยกันทำความสะอาดร้านอย่างขยันขันแข็ง ส่วนเซียวตั๋วก็กำลังนั่งเล่นอยู่กับเจียงเป่า เด็กน้อยที่ช่างพูดและชวนเขาคุย มันทำให้เขารู้สึกดีเป็นอย่างมาก เขาตั้งใจว่านับจากนี้จะตั้งใจรักษาตัวให้ดีขึ้นกว่าเดิมใช้เวลาไม่นานร้านก็ทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย เมื่อถึงเวลาเที่ยงเซียวซาก็ไปซื้ออาหารมาให้ทุกคนได้กินกันรองท้อง เพราะต้องพาเซียวตั๋วไปที่โรงพยาบาลเพื่อปรึกษาเรื่อ
เมื่อจัดการเก็บของที่ต้องเก็บและซื้อของที่เตรียมเอาไว้ทำอาหารเรียบร้อยแล้ว เซียวซาและเจียงจวินจึงขับรถกลับบ้านเซียวกันในทันที ระหว่างทางยังไม่ลืมแวะซื้อขนมอร่อยๆ กลับไปฝากคนที่บ้านเซียวด้วยเมื่อกลับมาถึงบ้านก็พบว่าเจียงเป่ากำลังนั่งเล่นอยู่กับเจ้าแมวเป่าเป้ยที่หน้าบ้าน ส่วนพ่อแม่สามีนั้นกำลังช่วยกันรดน้ำต้นไม้อยู่ ด้านเซียวหยี่นั้นก็กำลังเก็บกวาดทำความสะอาดร้านบะหมี่ เมื่อเห็นว่าเซียวซาและเจียงจวินกลับมาแล้ว เซียวหยี่จึงเอ่ยถามทันที"กลับมาแล้วเหรอ วันนี้กลับมาไวนะ ขายดีใช่ไหม พวกเธอสองคนกินอะไรมาหรือยัง หิวไหมพี่จะไปทำอาหารมาให้"เจียงจวินยิ้มให้เซียวหยี่เล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบ"กินมาแล้วค่ะพี่ นี่ค่ะฉันกับเซียวซาซื้อขนมมาฝากคนในบ้านด้วย""อืม พวกเธอไปพักเถอะ"เจียงจวินพยักหน้า ในขณะที่เซียวซามองไปรอบๆ บ้าน และพูดขึ้นมา"แม่ครับ พี่ใหญ่ล่ะครับ"หญิงชราที่รดน้ำต้นไม้เสร็จแล้วจึงหันมามองลูกชายคนเล็ก ก่อนจะเอ่ยตอบ"อยู่ในห้องนั่นแหละ""ครับ ผมจะเอาขนมไปให้พี่ใหญ่เสียหน่อย"เซียวซาพูดจบก็เดินเข้าบ้านไปพร้อมกับห่อขนมในมือ เขามุ่งหน้าไปที่ห้องของเซียวตั๋วในทันที ก่อนจะยกมือขึ้นเคาะไปที่ประ
เซียวตั๋วถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที เซียวซาและเจียงจวินนั้นตกใจจนแทบเสียสติ เมื่อสอบถามเรื่องราวจากคนละแวกนั้นก็ได้ความว่า เซียวตั๋วมีเรื่องกับสามีใหม่ของเย่ซวง เขาดื่มมาเล็กน้อยจึงคิดจะไปหาเย่ซวง เดิมทีคิดจะกลับบ้านแต่กลับไม่ถึง เขาถูกคนของสามีใหม่เย่ซวงรุมทุบตีจนสาหัส ส่วนพวกที่ทุบตีก็หนีหายไปยังไม่ถูกจับ ด้านเย่ซวงนั้นก็บอกว่าเธอไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น อีกทั้งยังพูดอีกว่าเธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเซียวตั๋วแล้ว เขาต่างหากที่มารังควานเธอไม่ยอมเลิกราเซียวซายกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว ระยะนี้บ้านเซียวมีแต่เรื่องจริงๆ อีกทั้งเซียวตั๋วยังมาเกิดเรื่องแบบนี้อีก เจียงจวินยื่นมือของตัวเองไปจับมือของเขาเอาไว้ ก่อนจะพูดขึ้นมา"เราควรไปแจ้งความกันก่อนนะคะ ฉันจะให้พี่จื่อชิวช่วยพวกเราอีกแรง"เซียวซาถอนหายใจออกมา สีหน้าของเขาเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะพยักหน้าให้เจียงจวินและพากันไปที่โรงพักหลัวจื่อชิวที่เห็นสภาพเซียวซาที่เหมือนกับตีกับใครมาก็มองเขาเล็กน้อย ก่อนจะหันมาพูดกับเจียงจวิน"พี่จะส่งคนออกตามหาพวกนั้นให้เร็วที่สุด แต่ถ้าพวกมันเป็นเพียงคนเมาก็คงจะไม่ได้ค่าเสียหายอะไรมากนัก แล้วพี่สามีของเธ
เซียวซาและเจียงจวินจ้องมองชายหนุ่มทั้งสามคนนั้นด้วยแววตาที่เรียบเฉย เซียวซาดันเจียงจวินมาไว้ด้านหลัง ก่อนจะเอ่ยถามหนึ่งในหัวหน้าแก๊งนั้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"พวกเราจ่ายค่าเช่ากับคนที่ปล่อยเช่าไปแล้ว""เจ้าของคนไหนล่ะ ไม่เห็นรู้จักเลย ที่นี่มีแค่พี่ที่เป็นเจ้าถิ่น จ่ายมา ก่อนที่จะเจ็บตัว ที่นี่ไม่มีใครล้มพี่ได้ พวกพี่สามคนเป็นคนคุมที่นี่"เซียวซาที่ได้ยินแบบนั้นก็ส่งเสียงเหอะในลำคอ ไอ้พวกอันธพาลกวนเมืองนี่มันชอบระรานคนจริงๆ ดูแล้วคงจะทำบ่อย เพราะชาวบ้านที่มาขายของหรือพ่อค้าแม่ค้าต่างก็ก้มหน้าไม่กล้าเข้ามาช่วยพวกเขาเลยแม้แต่คนเดียวแต่เขาไม่กลัวหรอก"ไม่จ่าย หัดทำงานบ้าง ไม่ใช่มารีดไถเงินคนอื่นแบบนี้ มันน่าสมเพช"เซียวซาพูดเพียงเท่านั้น ก่อนจะหันหลังคิดจะพาเจียงจวินกลับ แต่ทว่าชายที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าแก๊งกลับยกมือขึ้นตบศีรษะเซียวซาจนเขามึนงง เซียวซาจึงหันไปมองอย่างเอาเรื่อง"ทำไมวะน้องชาย คิดจะสู้กับพี่เหรอ แถวนี้ไม่มีใครสู้กับพี่ได้ หากใครล้มพี่ได้พี่จะยอมนับถือเป็นลูกพี่เลย"เซียวซาโมโหแล้ว เขาจึงชกหัวหน้าแก๊งมันจนล้มหงายหลัง พวกลูกน้องสามคนที่เหลือคิดจะเข้ามาทำร้ายเซียวซา จึงช่วยกั
ทุกคนที่กำลังนั่งกินอาหารอยู่ถึงกับชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะเริ่มตั้งสติได้และช่วยกันนำน้ำมาดับไฟไม่ให้มันลุกลามเข้ามาในตัวบ้าน แต่เพราะว่าไฟลุกโหมไหม้รุนแรงมากเกินไป เพียงไม่นานมันก็กินพื้นที่เข้ามาถึงห้องนอนของเซียวซาและเจียงจวิน เจียงจวินส่งเจียงเป่าให้เซียวหยี่อุ้มเอาไว้ ก่อนจะรีบช่วยเซียวซาและหลัวจื่อชิวดับไฟ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็เข้ามาช่วยเหลือ เจียงจวินมัวแต่ดับไฟจึงไม่ได้มองเห็นว่าตอนนี้หลัวจื่อชิวได้วิ่งอ้อมไปอีกทางหนึ่งแล้วหลัวจื่อชิวเป็นตำรวจ ทุกสิ่งที่ผิดสังเกตย่อมอยู่ในสายตาของเขาไม่อาจหนีรอดไปได้ หลังจากที่ไฟไหม้ไม่นานเขาก็เห็นชายคนหนึ่งวิ่งหนีออกไปทางหลังบ้าน เขาไม่รอช้ารีบตามไปจับเอาไว้ได้ในทันที ชายผู้นั้นดูแล้วเพิ่งจะอายุเพียงยี่สิบต้นๆ ใบหน้าก็ไม่ได้ดูดีมากนัก ซ้ำร้ายกลิ่นเหล้ายังคละคลุ้งไปทั่วทั้งร่างกาย เมื่อถูกหลัวจื่อชิวจับได้เขาก็โวยวายขึ้นมาทันที"มาจับผมทำไม!!!""แล้วนายล่ะ เผาบ้านคนอื่นทำไม!!!""ปล่อยสิวะ!!"หลัวจื่อชิวที่รู้ว่าชายคนนั้นคิดจะหนี เขาจึงใช้เท้าถีบเข้าไปที่ข้อพับขาของมันทันที จนคนถูกถีบทรุดลงไปกองกับพื้น จากนั้นหลัวจื่อชิวก็จับตัวเขาเอาไว้และ
เมื่อหลัวจื่อชิวได้ยินแบบนั้นก็พอเข้าใจเรื่องราวต่างๆ ได้ในทันที เขามองเซียวซาครู่หนึ่ง ก่อนจะคิดในใจเขาจำได้ว่าวันนั้นเจียงจวินบอกว่าจะกลับกับสามี เธอจับมือผู้ชายคนนี้และเดินจากไป ที่แท้เขาก็คือสามีของเธอสินะผู้ชายคนนี้ผิวออกจะคล้ำ ไม่ได้ขาวมาก แต่กลับหล่อเหลาเหมือนกับดาราหนัง ไม่แปลกที่เจียงจวินจะหลงใหลจนยอมแต่งงานด้วย แต่คนนิสัยอย่างเจียงจวินไม่น่าจะชอบผู้ชายแบบเซียวซาง่ายดายถึงขั้นแต่งงาน มันเพราะอะไรกันนะ?หรือว่าเซียวซาบังคับขืนใจเธอเซียวซาจ้องมองหลัวจื่อชิวอย่างไม่ลดละ สายตาของหลัวจื่อชิวที่มองเขาด้วยความสงสัยและแฝงไว้ด้วยความดูแคลนเล็กน้อยนั้นเขามีหรือจะมองไม่ออก เซียวซาส่งเสียงเหอะออกมา ก่อนจะพูด "นี่คุณ ผมจำได้ว่าครั้งก่อนที่โรงพักคุณเคยช่วยพี่ชายผมไว้ ผมต้องขอบคุณมาก แต่คุณไม่จำเป็นต้องมองผมด้วยสายตาแบบนั้นก็ได้มั้ง ทำไม คนสวนอย่างผมมันไม่สูงส่งเท่าตำรวจแบบคุณเหรอ"หลัวจื่อชิวเม้มริมฝีปากแน่น เขาไม่ได้คิดว่าตนเองสูงส่งแบบนั้นเสียหน่อย"ขอโทษครับ ผมไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น"เซียวซาเองก็ไม่ได้อยากมีเรื่องกับหลัวจื่อชิว เมื่อคิดได้แบบนั้นเขาจึงถามหลัวจื่อชิวทันที"คุณมาถามหาภร
เมื่อเสร็จกิจแล้วสองสามีภรรยาก็นอนพักเอาแรง จนกระทั่งเวลาเย็น เจียงจวินก็รีบลุกมาทำอาหารใส่กล่องเพื่อเตรียมเอาไปให้พ่อแม่สามี ส่วนอีกสองกล่องเธอแบ่งเอาไว้ให้เซียวหยี่เซียวซา และกล่องเล็กๆ เป็นของเจียงเป่า เธอนั้นไม่ค่อยหิวเท่าไรนัก รู้สึกว่าระยะนี้ไม่ค่อยสบายตัวเท่าไรเซียวซาและเซียวหยี่รีบเข้ามาช่วยเธอหิ้วกล่องอาหารขึ้นไปที่รถ ก่อนจะมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาล เจียงเป่าเองก็ว่าง่ายเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซนเลยแม้แต่น้อยเมื่อมาถึงโรงพยาบาลก็พบว่าพ่อสามีมีสีหน้าที่ดีขึ้นมากแล้ว คาดว่าพรุ่งนี้ก็คงกลับบ้านได้ สร้างความดีใจและโล่งใจให้แก่คนทั้งบ้านเซียวเป็นอย่างมากอาหารมื้อนี้ที่โรงพยาบาลแม้จะไม่ได้หรูหรา แต่มันก็อบอุ่นเหลือเกิน ทุกคนนำอาหารในกล่องมาวางรวมกัน ก่อนจะแบ่งกันกิน พ่อสามีเองแม้จะยังกินอะไรไม่ได้มาก แต่ก็รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น เจียงจวินรู้สึกอบอุ่นใจ ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เธอกลัวแทบแย่เลยวันต่อมาพ่อสามีก็ออกจากโรงพยาบาลและกลับมาที่บ้านเซียว แต่คุณหมอสั่งห้ามว่านับแต่นี้คงจะทำงานหนักเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว พ่อสามีมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ท่านบอกว่าคนทำงานมาทั้งชีวิตอยู่ๆ จะให้มานั่งๆ นอน