แชร์

บทที่ 703

ผู้เขียน: วิ๋นเจิง
ข่าวดีอย่างที่สองคือมีเบาะแสเกี่ยวกับลูกปัดอสนีบาตจากคนที่องครักษ์เงาลำดับที่สิบเจ็ดส่งไป พวกเขาแจ้งว่าได้พบปรมาจารย์ที่รู้วิธีสร้างอาวุธเพลิงแล้ว

ทว่าปรมาจารย์ผู้นั้นกลับมีนิสัยที่ค่อนข้างแปลก เขากล่าวว่าหากต้องการให้เขาสอนวิธีทำลูกปัดอสนีบาต ก็ให้เจ้านายของพวกเขาไปเชิญด้วยตนเอง

หลังจากที่ซูชิงอู่ฟังรายงานของผู้ใต้บังคับบัญชา นางก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

“ให้ข้าไปเชิญด้วยตัวเองงั้นรึ?”

องครักษ์เงาก้มหน้าลงพลางพูดด้วยความเคารพ “พ่ะย่ะค่ะ เขายังบอกด้วยว่าเขารู้จักตัวตนของท่าน หากหลอกลวงเขา เขาจะไม่มีวันมอบวิธีสร้างลูกปัดอสนีบาตให้”

ซูชิงอู่ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ

ลูกปัดอสนีบาตเป็นอาวุธเพลิงที่ค่อนข้างโบราณ แต่น่าเสียดายที่ทักษะการสร้างอาวุธนี้สูญหายไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน

กลไกอันวิจิตรงดงามนั้นยากต่อการลอกเลียนแบบ

แต่สุดท้ายบุคคลที่ฮ่องเต้เฒ่าตามหามานานจู่ ๆ ก็วิ่งมาอยู่หน้านางและต้องการพบนาง

น่าสงสัยมาก

ลูกปัดอสนีบาตเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในแผนของนาง ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางยอดเขา จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะนำอาวุธและม้าจำนวนมากไปที่นั่น อีกทั้งป่าโดยรอบก็เต็มไปด้วยสัตว์ป่าและพิ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 704

    เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่นั้นเป็นเสื้อผ้าธรรมดาที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปหากองครักษ์เงาไม่ได้บอกนางว่าคนผู้นี้คือช่างฝีมือที่สามารถทำลูกปัดอสนีบาตได้ นางคงคิดว่าเขาโกหกอย่างแน่นอนเมื่อซูชิงอู่มองไปที่อีกฝ่าย ชายชราก็มองกลับมาด้วยเช่นกันสีหน้าของเขาไร้อารมณ์ แม้เขาจะถูกรายล้อมไปด้วยผู้คน แต่ก็ไม่มีความหวั่นกลัวบนใบหน้า เขาหันข้างแล้วพูดว่า “เข้ามาสิ แต่อนุญาตให้เข้าไปได้เพียงสองคนเท่านั้น”ท่าทางของทหารอารักขาเปลี่ยนไป เขารีบชักดาบออกมาขู่ทันทีซูชิงอู่โบกมือบอกให้คนคนนั้นถอยออกไป“ไม่ต้องถึงสองคนหรอก ข้าเข้าไปคนเดียวได้ พวกเจ้าคอยเฝ้าอยู่ด้านนอก หากมีอะไรเกิดขึ้นข้าจะเรียก”“พระชายา!”ทหารอารักขาที่อยู่รอบ ๆ มองนางอย่างกังวลในสายตาของทุกคน พระชายาเสวียนเป็นเพียงสตรีที่อ่อนโยนและงดงาม นางคงไม่มีพลังที่จะต้านทานกับอันตรายใดที่ได้เผชิญซูชิงอู่ไม่ได้อธิบาย นางเดินตามชายชราผ่านเข้าไปด้านใน จากนั้นนางก็พลิกมือไปปิดประตูเห็นได้ชัดว่าชายชราตกตะลึงไปชั่วขณะ เขาคาดไม่ถึงว่าซูชิงอู่จะมีความกล้าหาญถึงเพียงนี้“เจ้าน่าจะรู้ว่าข้าจงใจล่อเจ้ามาที่นี่ ไม่กลัวว่าข้าจะลงมือทำอะไรเจ้ารึ?”เสี

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 705

    ซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามกลับ “พวกเขาก็ไม่เห็นข้าออกคำสั่งน่ะสิ”ชายชราที่สวมหน้ากากหนังมนุษย์เปิดประตูเรียกทหารอารักขาคนหนึ่งที่อยู่หน้าประตูให้เข้ามาเมื่อทหารอารักขาเห็นซูชิงอู่ถูกขังอยู่ในกรง เขากำลังจะชักดาบ “เจ้าบังอาจนัก…”ชายชราเลิกคิ้ว “ข้าแนะนำว่าเจ้าอย่าทำอะไรเลยจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นอาจมีลูกธนูพิษยิงมาจากที่ไหนสักแห่งในบ้านนี้ ซึ่งอาจจะโดนเจ้านายของพวกเจ้าก็ได้”คำพูดของชายชราทำให้สีหน้าของทหารอารักขาเปลี่ยนไป จนเขาไม่กล้าชักอาวุธออกมาซูชิงอู่พูดว่า “เจ้าพาคนอื่น ๆ ออกไปจากภูเขานี้เสีย”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเข้าใจแล้ว”หลังจากได้ยินคำสั่งของซูชิงอู่ ทหารอารักขาก็ก้มหัวแล้วหันหลังจากไป จากนั้นเขาก็โบกมือให้คนเกือบสามสิบคนที่อยู่รอบ ๆ กระจายออกไปจากตรงนี้ชายชรามองเห็นคนเหล่านั้นเริ่มห่างออกไปเรื่อย ๆ และตอนนี้ซูชิงอู่ก็เป็นเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ที่นี่ สุดท้ายเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก พลางทำสีหน้ามุ่งมั่นเขาหยิบขวดยาจากอ้อมออก พลางเทยาเม็ดสีเลือดออกมา จากนั้นก็จ้องมองซูชิงอู่ด้วยสายตาที่ล้ำลึก“กินเข้าไป”ซูชิงอู่หลุบตาเหลือบมองยาเม็ดในมือของเขา นางรับ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 706

    หลังจากยืนยันว่าไม่มีใครอยู่ข้างใน สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปไม่นานข่าวการหายตัวไปของพระชายาเสวียนก็แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงเมื่อเย่ชิวหมิงได้ยินข่าว หัวใจของเขาก็เต้นรัว เขาลุกขึ้นยืนสั่งการด้วยสีหน้าไม่สู้ดี “รีบส่งคนไปค้นหาพระชายา แม้จะต้องพลิกแผ่นดินก็ต้องหาพระชายาให้พบให้ได้!”ความปลอดภัยของซูชิงอู่ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดหากเย่เสวียนถิงที่ยังประจำการอยู่ที่ชายแดนได้ยินข่าวนี้เข้าคงจะเกิดความวุ่นวายอย่างแน่นอนเขาเป็นผู้นำของทั้งสามกองทัพ หากเหตุการณ์นี้กระทบต่อสถานการณ์ในสนามรบ อาจจะถึงคราวอวสานของแคว้นเลยก็เป็นได้ทุกคนในเมืองหลวงที่ได้ยินข่าวต่างวิตกกังวลทำเอาองค์หญิงห้าต้องตรงดิ่งมาที่นี่นางถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เสด็จพี่ เหตุใดจู่ ๆ พี่สะใภ้ถึงเดินทางไปยังชานเมืองเล่า!”เสียงของเย่ชิวหมิงทุ้มต่ำ “นางอาจไปหาวิธีการทำลูกปัดอสนีบาต หากข้ารู้เร็วกว่านี้ก็คงไม่ยอมให้นางไปเสี่ยงอันตรายเช่นนั้นหรอก”เย่หลิงจูพูดว่า “ไม่รู้ว่าพี่สะใภ้จะกลับมาเมื่อไหร่ แล้วเด็ก ๆ ที่อยู่ที่จวนจะทำอย่างไรดี?”น้ำเสียงของเย่หลิงจูไม่ได้มีความร้อนรนราวกับถามไปอย่างไม่คิดอะไรนางไม่ได้กล

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 707

    เมื่อเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายพูดด้วยเจตนาร้าย ซูเฟยก็โกรธมาก “แล้วอย่างไรเล่า? ตอนนี้มีการค้นหาคนชั่วพวกนั้นไปทั่วทุกแห่ง คงไม่รบกวนให้กุ้ยเฟยต้องมากังวลเรื่องนี้ไปด้วยหรอก”เจียวกุ้ยเฟยหัวเราะเบา ๆ “จะไม่ให้ข้ากังวลได้อย่างไร พระชายาเสวียนเป็นสตรีที่อ่อนแอบอบบางอีกทั้งยังงดงาม ถูกลักพาตัวไปเป็นเวลานานเช่นนี้ คงจะมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับนางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ข้าจำได้ว่าก่อนที่นางจะแต่งงาน นางได้ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของพวกโจร ท่านคงรู้ว่าพวกโจรเหล่านั้นเลวทรามมากเพียงใด สตรีทุกคนที่ถูกจับไปยากจะมีชีวิตรอดนอกจากนี้ตอนที่พระชายาเสวียนแต่งงานกับอ๋องเสวียนนางก็ไม่มีแต้มพรหมจรรย์ ข้าว่าซูเฟยควรตรวจสอบให้ดีว่าเด็กทั้งสามคนนั้นเป็นบุตรของท่านอ๋องจริง ๆ หรือไม่เพราะหลังจากแต่งงานเข้าจวนอ๋องไปได้ไม่นานนางก็ตั้งครรภ์ จะไม่ให้คนอื่นคิดมากก็กระไรอยู่นะ”นางเอ่ยคำพูดยาวเหยียดต่อหน้าผู้คนมากมาย ซึ่งทุกคำล้วนเป็นการใส่ร้ายซูชิงอู่แม้แต่เย่หลิงจูที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ยังทนฟังไม่ได้ นางโกรธจนหน้าดำหน้าแดง “กุ้ยเฟยกล่าวเช่นนั้นได้อย่างไร?”เมื่อเห็นองค์หญิงห้า เจียวกุ้ยเฟยก็แสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 708

    ยามที่ไม่มีเรื่องอะไรก็ตัดแต่งกิ่งไม้หรือไม่ก็เขียนพู่กันจีนเย่ชิวหมิงจึงรู้สึกอึดอัดที่จู่ ๆ นางก็รุดมาหาเช่นนี้“ในเมื่อเสด็จแม่ไม่มีเรื่องอะไร ลูกคงจะอยู่รับรองท่านต่อไม่ได้ ลูกยังมีเรื่องต้องจัดการอีกมาก เสด็จแม่เชิญกลับไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ”หลังจากพูดจบ เขาก็หันกลับไปอ่านฎีกาต่อทันใดนั้นเจียวกุ้ยเฟยก็เข้ามากระซิบ “ชิวหมิง มีสิ่งหนึ่งที่ข้าไม่ค่อยเข้าใจ เหตุใดเจ้าถึงไม่ให้ลูกพี่ลูกน้องของเจ้าเป็นคนส่งเสบียงไปยังชายแดน จะให้เจ้าเด็กจากตระกูลซูนั่นเป็นคนไปส่งทำไม? อีกทั้งเจ้ายังไม่ให้คนสนิทของตัวเองมาทำหน้าที่ตรวจสอบคลังเสบียงและจัดสรรค่าจ้างทหาร แต่กลับส่งมอบหน้าที่นี้ให้คนนอก...คนชื่อสวีชิงโม่อะไรนั่น เขามีภูมิหลังและความสัมพันธ์อย่างไรกับเจ้า?”เย่ชิวหมิงค่อย ๆ เบิกตาพลางมองมารดาของตนอย่างไม่ค่อยเข้าใจ“เสด็จแม่ เหตุใดจู่ ๆ ท่านถึงพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา?”หากเป็นเมื่อก่อนเจียวกุ้ยเฟยคงไม่พูดอะไร แต่คาดไม่ถึงว่าทันทีที่ซูชิงอู่จากเมืองหลวงไป มารดาของเขาก็วิ่งโร่มาพูดเรื่องนี้เหตุใดถึงไม่มอบตำแหน่งสำคัญเช่นนี้ให้กับคนของตระกูลตัวเองน่ะหรือ?เจียวกุ้ยเฟยเองน่าจะรู้ดียังไม่ต้อ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 709

    “เย่ชิวหมิง เจ้าพูดกับแม่เช่นนี้ได้อย่างไร แม่พยายามอย่างหนักเพื่อปูทางให้เจ้าได้เป็นองค์รัชทายาท แล้วเจ้ากลับตอนแทนข้าเช่นนี้น่ะหรือ?”ดวงตาของเจียวกุ้ยเฟยแดงก่ำด้วยความโกรธ และนางก็กล่าวโทษเย่ชิวหมิงอย่างหมดคำพูดเย่ชิวหมิงขมวดคิ้วด้วยความปวดหัว เจียวกุ้ยเฟยเป็นมารดาของเขา เขาจึงไม่สามารถเพิกเฉยต่อนางได้ ครั้งก่อนที่นางเห็นด้วยเรื่องที่เย่อวิ๋นถูและฮองเฮาส่งคนไปลอบสังหารซูชิงอู่กับเย่เสวียนถิง นางก็ได้ล้ำเส้นซูชิงอู่ไปแล้วหากมันเกิดขึ้นอีกครั้ง เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะรักษาชีวิตนางเอาไว้ได้ซูชิงอู่ไม่ชอบให้ใครมาขัดผลประโยชน์ หากเขาไม่ได้รู้มาตั้งแต่แรกว่านางแข็งแกร่งเพียงใด เขาก็อาจจะลงเอยเหมือนเย่อวิ๋นถูไปแล้วก็เป็นได้ตอนนี้ทั่วทั้งร่ายกายของเขาได้รับบาดเจ็บไปหมด อาการบาดเจ็บครั้งล่าสุดนั้นสาหัสอย่างหนักจนทำเอาเขาเกือบสิ้นชีวิตจากการเสียเลือดมากเกินไป โชคดีที่เขายังมีชีวิตรอด แต่ถึงกระนั้นอาการบาดเจ็บก็ไม่สามารถรักษาให้หายภายในหนึ่งปีได้ยินมาว่าจุดสำคัญบางส่วนที่เขาได้รับบาดเจ็บนั้นแม้ในอนาคตอาการจะหายขาด แต่เขาก็อาจกลายเป็นคนพิการได้“เสด็จแม่ ลูกไม่ได้จะว่าอะไรหรอกนะ แต่ท่านก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 710

    จะมีใครเหมือนนางบ้างที่หยุดพักหลังจากเดินไปแค่ไม่กี่ก้าว นางใช้เวลาสี่ชั่วยามเพื่อไปถึงจุดหมายทั้ง ๆ ที่ใช้เวลาเพียงสองชั่วยามก็ถึงแล้ว“ทางออกอยู่ข้างหน้านี่ เจ้าก็เชื่อฟังหน่อยแล้วกันนะ อย่าคิดที่จะหนี เพราะเจ้าคงไม่อยากรู้ว่าหนอนกู่ในร่างกายของเจ้าจะทำอะไรหลังจากที่เจ้าหนีไป”ซูชิงอู่เลิกคิ้วพลางพูดตอบอย่างไร้เรี่ยวแรง “ไม่หนีหรอก”เมื่อเห็นว่าเชลยให้ความร่วมมือ ชายชราก็ดันฝาครอบที่ด้านบนสุดของขั้นบันได หลังจากที่เขาขยับมัน ก็มีแสงเทียนรำไรส่องลงมาจากด้านบนซูชิงอู่เงยหน้ามอง เห็นว่าชายชราดับคบเพลิงในมือและหมุนตัวปีนขึ้นไปด้านบน จากนั้นเขาก็หันกลับมามองนาง “เจ้าก็เคลื่อนที่ให้มันเร็ว ๆ หน่อย ข้างนอกมืดแล้ว”หลังจากได้ยินเช่นนั้น นางก็ปีนขึ้นมาและมองสภาพแวดล้อมโดยรอบ พบว่าจริง ๆ แล้วมันคือบ้านหลังหนึ่งในห้องตกแต่งเรียบง่าย แต่สะอาดสะอ้าน และนางกับชายชราก็คลานออกมาจากใต้โต๊ะในบ้านหลังนี้แม้ซูชิงอู่จะอยู่ในอุโมงค์ แต่นางก็ใช้ความรู้สึกเพื่อระบุทิศทาง และเดาว่าสถานที่แห่งนี้อาจอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองหลินทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงดัง เมื่อซูชิงอู่หันหน้าไปมอง นางก็เห็นว่าชายชราได

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 711

    ซูชิงอู่ขมวดคิ้วเป็นปม พลางหาเก้าอี้มานั่งลงอย่างสบาย ๆ “แค่นั้นเองหรือ?”น้ำเสียงของนางแสดงให้เห็นว่ากำลังดูถูกเงินหนึ่งหมื่นตำลึงทองทว่าสำหรับคนธรรมดา แม้แต่ครอบครัวใหญ่บางครอบครัว เงินหนึ่งหมื่นตำลึงทองนี้ไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ เลยมันสามารถช่วยให้ครอบครัวเล็ก ๆ เติบโตและมีชีวิตที่เจริญรุ่งเรืองได้และที่เขายอมเสี่ยงอันตรายก็เพื่อเงินก้อนนี้ ทว่าเงินหนึ่งหมื่นตำลึงทองกลับดูไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้าซูชิงอู่สีหน้าของเขาเคร่งขรึม “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”ซูชิงอู่เหยียดนิ้วออกสามนิ้วโดยไม่รีรอ “เงินสามหมื่นตำลึงทอง แลกกับการพาข้ากลับไปเพื่อสอนวิธีทำลูกปัดอสนีบาต”ดูเหมือนบุรุษผู้นั้นจะได้ยินไม่ชัดเจน “จะ...เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”ซูชิงอู่เชิดหน้า “ข้าพูดว่าสามหมื่นตำลึงทอง แคว้นอู๋ตะวันตกดูถูกข้ามากเกินไปแล้วนะ ตัวข้ามีค่าเท่ากับหนึ่งหมื่นตำลึงทองแค่นั้นน่ะรึ?”มุมปากของบุรุษนั้นกระตุกเบา ๆ“อย่ามาคุยโวหน่อยเลย”“คุยโวอะไรกัน? ให้ข้าเขียนสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรก็ได้ นี่เป็นข้อตกลงระหว่างเจ้ากับข้า ส่วนเรื่องที่เจ้าลักพาตัวข้ามา ข้าจะไม่ถือโทษเอาผิดเจ้าในภายหลัง”นางเดินมาไกลถึงเพียงนี

บทล่าสุด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status