แชร์

บทที่ 565

ผู้เขียน: วิ๋นเจิง
คนผู้นั้นแต่งกายด้วยเสื้อผ้าเรียบง่าย เป็นสตรีอายุประมาณยี่สิบปี นางสวมผ้าคลุมหน้า ดวงตาของนางค่อนข้างน่าเกรงขามและมีท่าทางการเดินที่เด่นเป็นสง่า

ซูชิงอู่ได้กลายเป็นแม่ลูกสาม และกลิ่นอายของสตรีแรกรุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของนางก็สูญสิ้นไปมากแล้ว

ปัจจุบันดวงหน้าของซูชิงอู่มีเสน่ห์และงดงามราวกับภาพวาด นางสวมชุดลำลองที่ค่อนข้างบางเบาและเดินออกมาโดยไม่อิดออด

นางเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายแล้วพูดว่า “ท่านหมอเทวดาหญิง”

หมอเทวดาหญิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วหลุบสายตาลงอย่างสงบ น้ำเสียงของนางแม้เย็นชาแต่น่าฟัง ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความสะอาดและบริสุทธิ์

ความประทับใจแรกของซูชิงอู่ที่มีต่อนางคือท่าทางที่เป็นเอกลักษณ์และน่าจดจำ

ไม่แปลกใจที่พี่ใหญ่ยังจำนางได้แม้จะผ่านมานานแล้ว

ไม่สิ เมื่อมองหน้าตาของอีกฝ่าย นางก็รู้สึกคุ้นเคยเล็กน้อย

เหมือนเคยเห็นในภาพวาดสักภาพ

หลังจากเกิดใหม่ ความทรงจำของซูชิงอู่ก็แจ่มชัดขึ้นอย่างมาก และไม่ได้เลอะเลือนอีกต่อไป

ทันใดนั้นดวงตาของนางก็สั่นไหวราวกับนึกอะไรออก

สตรีนางนั้นค่อย ๆ โน้มตัวทักทาย “นั่นเป็นเพียงชื่อปลอมที่คนอื่น ๆ บอกกล่าวกันตามใจชอบ พระชายาเรียกหม่อมฉันว่าเจี่ยหร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 566

    ดวงตาของซูชิงอู่ยามมองอีกฝ่ายเป็นประกายวาวราวกับมีแสงส่องออกมา ทันใดนั้นนางก็จับมือของหรงหย่าอย่างสนิทสนมและเอ่ยปากออกมา “แม่นางหรง”คำเรียกนั้นทำให้หรงหย่าตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นมองซูชิงอู่อย่างระมัดระวังดูเหมือนซูชิงอู่จะรู้ตัว จึงยิ้มแล้วพูดว่า “ชื่อของท่านคือเจี่ยหรงหรง การเรียกว่าแม่นางหรงก็จะดูสนิทสนมกันมากขึ้น”คำอธิบายของนางถือว่าใช้ได้ทีเดียว แม้หรงหย่าจะรู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่นางก็พยักหน้ารับ“ตามแต่ความประสงค์ของพระชายาเลยเพคะ”เมื่อเห็นว่านางคุยด้วยง่าย ซูชิงอู่จึงลากนางไปนั่งที่เก้าอี้อีกฝั่งอย่างกระตือรือร้นทันที พลางหลุบตาลงเล็กน้อยแล้วถามว่า “ยาอยู่ที่ไหนหรือ? แล้วที่นั่นเป็นสถานที่แบบใด?”หรงหย่าคิดอย่างรอบคอบแล้วตอบว่า “พระชายาคงจะรู้จักภูเขาศักดิ์สิทธิ์ใช่ไหมเพคะ ยาที่หม่อมฉันพูดถึงเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ว่ากันว่าสามารถฟื้นชีพคนตายได้ ไม่ต้องพูดถึงอาการป่วยของท่านหญิงน้อย แม้แต่คนที่กำลังจะตายก็สามารถฟื้นคืนชีพและยืดอายุของคนผู้นั้นได้เพคะ…”ซูชิงอู่หรี่ตาลงเล็กน้อย “ทุกสิ่งที่ท่านพูดเป็นเรื่องจริงหรือ?”นัยน์ตาของหรงหย่าจริงจังมาก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 567

    นางไม่คิดว่าตัวเองมีชื่อเสียงมากพอที่จะเป็นที่จดจำไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดคือนางไม่เคยเจอซูชิงอู่มาก่อน แม้นางจะเติบโตมาจนถึงวัยนี้ นางก็แทบจะไม่ได้ออกจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์เลยหากนางไม่ได้ยินข้อมูลและความลับบางอย่างที่นางไม่ควรรู้ นางคงไม่ต้องหลบซ่อนเช่นในตอนนี้เพื่อที่จะส่งนางออกจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่พ่อแม่ของนางก็ยังต้อง…ดวงตาของหรงหย่าแดงก่ำและเสียงสั่นเล็กน้อย “ใครบอกชื่อของหม่อมฉันกับท่านหรือเพคะ?”ซูชิงอู่เห็นสีหน้าของนางและเดาได้ทันทีว่านางกำลังคิดอะไร“ข้ารู้ได้อย่างไรไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ ยิ่งข้ารู้มากเท่าไรก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อเจ้าใช่หรือไม่?”ปากของหรงหย่าขยับ ทว่านางไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำซูชิงอู่กล่าวต่อ “ยามที่คุยกับคนฉลาดไม่จำเป็นต้องพูดจาไร้สาระ ข้าเกลียดความหน้าซื่อใจคดที่สุด จงพูดอย่างเปิดเผยและอธิบายทุกอย่างให้ชัดเจนจะดีกว่า หรือว่าข้าพูดผิด?”หรงหย่าเสียงสั่น จากนั้นนางก็กัดริมฝีปากของตัวเองซูชิงอู่แข็งแกร่งมากจนนางพูดอะไรไม่ออกเลยแม้แต่คำเดียวทว่าหากพิจารณาจากคำพูดของซูชิงอู่แล้ว หากนางเป็นคนที่ใช้งานได้จริง ๆ นางไม่รู้ว่าจะต้องใช

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 568

    “ไปนำปิ่นปักผมหยกขาวคู่หนึ่งออกมาจากห้องเก็บของของข้า ที่เป็นสินสอดจากท่านแม่น่ะ”อวิ๋นชิงพยักหน้าทันที “หม่อมฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้เพคะ พระชายาโปรดรอสักครู่”สาวใช้ผู้น้อยรู้จักสิ่งเหล่านั้นดี อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญดูแลโดยเฉพาะไม่นานหลังจากนั้น กล่องที่สวยงามก็ถูกส่งให้ซูชิงอู่นางเปิดกล่องและนำสิ่งของทั้งสองมาเปรียบเทียบกัน และนางก็เกือบจะแน่ใจว่าปิ่นทั้งสี่ชิ้นนี้ทำจากวัสดุชิ้นเดียวกันชาติก่อน แม่ของนางให้ความสำคัญกับปิ่นคู่นี้มาก เมื่อตอนที่นางอายุไม่กี่ขวบ แม่ของนางที่ยังมีชีวิตอยู่มักจะนำมันออกมาตรวจดูอย่างระมัดระวังนั่นเป็นเหตุผลที่นางคุ้นเคยกับของชิ้นนี้มากทว่าตอนนี้หรงหย่ากลับหยิบปิ่นที่เหมือนกันออกมาอีกสองชิ้น ซึ่งทำให้ซูชิงอู่มีความคิดหนึ่งขึ้นมา“ท่านได้ปิ่นมาจากไหน?”คงไม่ได้ทำมาจำหน่ายหลายชิ้นหรอกนะ...จะมีเยอะได้ขนาดนี้เลยหรือ?นางรู้จักแม่ของนางค่อนข้างดี หากเป็นปิ่นปักผมธรรมดาจริง ๆ นางก็คงจะไม่ใส่ใจมากนัก ดังนั้นตอนนี้นางจึงมั่นใจว่าจะต้องมีความลับอื่นซ่อนอยู่ในนั้นอีกทั้งหรงหย่ายังบอกอีกว่าวัตถุชิ้นนี้เป็นเครื่องราง...หรงหย่ารีบอธิบายอย่างรวดเร็ว “ท

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 569

    นี่เป็นครั้งแรกจริง ๆ ที่นางได้ยินเรื่องนี้หากหรงหย่าไม่พูด ทั้งชาตินี้นางก็คงไม่สามารถหาความเชื่อมโยงของนางกับภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้คำพูดของหรงหย่าก็ค่อย ๆ คลี่คลายความสงสัยหลายประการในใจของซูชิงอู่ สิ่งที่นางไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้รู้อย่างกระจ่างแล้วที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!เหตุผลที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เข้ามาพัวพันกับตระกูลของนางอยู่ที่นี่แล้ว!ตระกูลฟางมีความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถแยกกันได้กับภูเขาศักดิ์สิทธิ์ความแค้นอันแรงกล้ากับภูเขาศักดิ์สิทธิ์คงจะเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยของท่านยาย แต่นางซ่อนตัวเป็นอย่างดีทั้งยังไม่เปิดเผยตัวตน และนางก็เลี้ยงดูลูกสาวเพียงคนเดียวมาโดยตลอดจนเติบใหญ่...ทว่าภายหลังมีกลอุบายมากมายซ่อนอยู่ในสาเหตุที่ทำให้ตระกูลฟางตกต่ำ รวมไปถึงการตายของท่านตากับท่านย่าของนาง น่าเสียดายที่ตอนนั้นนางยังเด็กมากและไม่รู้เรื่องนี้จนกระทั่งท่านแม่ ท่านตาและท่านยายของนางสิ้นลมไปแล้วถึงได้รับรู้ว่าความทุกข์ทรมานคืออะไรยังดีที่นางยังมีพี่ชายที่รักนางและทำให้นางเติบโตมาอย่างไร้กังวล นางยังบอกเช่นเดิมว่าตนโชคดี แม้จะมีแม่เลี้ยงกับพี่สาวน้องสาวที่คิดร้ายกับนาง และพ่อที่ไม่ได้ดูแลนางดี

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 570

    นางถามด้วยความงุนงงเล็กน้อย “พระชายาลำบากใจอะไรหรือเพคะ?”ซูชิงอู่หลุบตาลงพลางเอามือปิดหน้า “ท่านบอกว่าภูเขาศักดิ์สิทธิ์นั้นอันตรายมาก ข้าเป็นเพียงสตรีอ่อนแอที่ไร้กำลังอำนาจ อีกทั้งตอนนี้ข้าก็มีลูกตั้งสามคนที่เพิ่งจะอายุได้เดือนกว่า ๆ ...”หลังจากได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สายตาที่หรงหย่ามองซูชิงอู่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยนางบ่นพึมพำ “แต่พระชายาก็ยังมีท่านอ๋องนี่เพคะ ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเสวียนมีทหารองครักษ์จำนวนมากอยู่ในมือ อีกทั้งก็ทรงมีทักษะศิลปะการต่อสู้ที่โดดเด่นด้วย…”ซูชิงอู่ยังคงถอนหายใจ “แต่ติดปัญหาที่เขาเป็นคนดื้อรั้น ทุกคนคงรู้เรื่องนี้ดี”ท่าทางของหรงหย่าเปลี่ยนไปจู่ ๆ นางก็รู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจผิดที่มาหาซูชิงอู่เมื่อครู่นี้อีกฝ่ายมีท่าทีแข็งกร้าวและพูดทุกอย่างเพื่อให้นางตกใจ แต่ในพริบตาสถานการณ์ก็พลิกกลับการทำตัวน่าสงสารของซูชิงอู่ทำให้หรงหย่าตะลึงทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่หน้าประตูซูชิงอู่เงยหน้ามองไป ก็เห็นเย่เสวียนถิงที่เพิ่งกลับมาจากด้านนอกและสวมชุดเกราะสีเงินเดินเข้ามาดวงตาเหยี่ยวของเขากวาดมองมาเล็กน้อยและมาหยุดอยู่ที่หรงหย่าจากนั้นเขาก็เดินมาที่ด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 571

    หรงหย่าได้ยินเช่นนี้ก็แสดงสีหน้าอึดอัดอย่างมากนางยกมือขึ้นและควานหาในกระเป๋าของนางเป็นเวลานาน จนกระทั่งเจอเศษเงินเล็กน้อยและขวดกระเบื้องขนาดเล็กหนึ่งหรือสองขวดนางหยิบขวดกระเบื้องหนึ่งขวดขึ้นมาอย่างลังเล ด้วยสายตาที่แสดงความไม่อยากปล่อยมือ แล้วยื่นมันให้ซูชิงอู่"ไม่รู้ว่านี่ใช้ได้ไหม?"ซูชิงอู่รับขวดกระเบื้องมา เปิดแล้วดมดูในชั่วขณะนั้น สีหน้าของนางแสดงความประหลาดใจที่ไม่สามารถซ่อนได้น่าเสียดายที่หรงหย่าไม่เงยหน้าขึ้นมา จึงพลาดที่จะเห็นสีหน้าแวบเดียวนี้ ซูชิงอู่กำขวดกระเบื้องในมือเล็กน้อย และเทยาที่นางเคยคุ้นเคยมากออกมายายืดอายุขัย!ภายในขวดยังเหลืออยู่สองเม็ด เปลือกนอกถูกเก็บด้วยวิธีและวัสดุพิเศษที่สามารถรักษายาไว้ได้นานหลายสิบปีโดยไม่สูญเสียสรรพคุณเป็นวิธีเก่าแก่และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากแน่นอนว่าเย่เสวียนถิงก็จำยาเม็ดนี้ได้เช่นกันเพราะมันพิเศษอย่างมากเมื่อเขาเทมันออกจากขวดแล้วป้อนให้องครักษ์เงาสิบเจ็ด เขาถือมันไว้ในมือและชมดูเป็นเวลานานเขาจำได้ติดตา...ไม่คิดเลยว่าหรงหย่าจะสามารถนำของดีแบบนี้มาให้นางได้ เพราะยายืดอายุขัยนี้มีส่วนประกอบหลายอย่างที่ถึงแม้นางจะ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 572

    "ข้าตกลง!"หรงหย่าก็ยอมรับความเสี่ยงเช่นกันซูชิงอู่ยิ้ม ขยิบตาให้เย่เสวียนถิงประกายในดวงตานั้นเหมือนจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตัวน้อยเมื่อเห็นว่านางจัดการหรงหย่าได้ง่ายเพียงใด ในดวงตาเย่เสวียนถิงก็มีแววหัวเราะเพิ่มขึ้น แต่อีกใจก็เบาใจลงพระชายาของเขาแน่นอนว่าไม่ใช่คนที่จะถูกรังแกได้ง่าย ๆแต่เขาก็ไม่เสียใจ เมื่อได้ยินว่ามีคนนอกเข้ามาในจวนก็รีบทิ้งทุกอย่างแล้ววิ่งกลับมาทันทีเขาค่อย ๆ ลูบเส้นผมของซูชิงอู่ แล้วถามด้วยน้ำเสียงปลอบโยน “เหนื่อยไหม?”ซูชิงอู่ส่ายหัว "ข้าพักมามากกว่าหนึ่งเดือนแล้ว ร่างกายก็ฟื้นฟูจนหายดีแล้ว"ดียิ่งกว่าตอนก่อนเสียชีวิตเสียอีกหลังจากการพักฟื้นมาเป็นเวลานาน สีหน้าของซูชิงอู่ก็เปล่งปลั่ง ร่างกายฟื้นฟูได้ดีมาก ตอนนี้เมื่อมองไปที่เย่เสวียนถิง ก็อดไม่ได้ที่จะอยากผลักเขาลงบนเตียง...แต่นางแค่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และไม่ต้องการให้เย่เสวียนถิงคิดว่านางใจร้อนเกินไปน่าเสียดายที่เย่เสวียนถิงนึกถึงตอนที่ซูชิงอู่คลอดลูก เห็นน้ำเลือดที่ถูกยกออกมาจากห้องนั้น แม้เขาจะอดทนขนาดไหนก็ไม่อยากแตะต้องนางในเวลานี้ กลัวว่าจะทำให้นางได้รับบาดเจ็บ จนไม่สามารถฟื้นฟูร่างกายได้ดี

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 573

    ซูชิงอู่จัดเสื้อผ้าของนางใหม่อย่างรวดเร็วและเปิดประตูให้อวิ๋นชิง“สัตว์ประหลาดอะไร?”ใบหน้าของอวิ๋นชิงซีดลงด้วยความหวาดกลัว เมื่อนางเห็นหรงหย่าเข้ามา นางก็อธิบายทันที "รอยแผลเป็นบนใบหน้าของนางดูเหมือนจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่..."เนื่องจากหรงหย่าเอาแต่ปกปิดใบหน้าของตน ซูซิงอู่จึงไม่เห็นว่ารอยแผลเป็นใต้ผ้าคลุมของนางเป็นอย่างไรตอนนี้ได้ยินอวิ๋นชิงพูดถึงเรื่องนี้ นางจึงเดินมาอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นเช่นนี้หร่งหยาก็ปิดหน้าอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงของนางก็ลังเล "พระชายา หม่อมฉันสัญญาว่าจะไม่ทำให้คนอื่นกลัวอีก..."ซูชิงอู่พูดอย่างใจเย็น “ถอดผ้าคลุมหน้าออกให้ข้าดูหน่อย”ในตอนนั้นคนใช้รอบข้างก็รวมตัวกันเข้ามาดูมากขึ้นหรงหย่ากัดฟันเล็กน้อย และไม่กล้าขัดคำสั่งซูชิงอู่ เมื่อถอดผ้าคลุมหน้าออก ก็ได้ยินเสียงตกใจจากคนหลายคนดวงตาของซูซิงอู่จ้องมองไปที่ใบหน้าของนาง และดวงตาของนางก็ค้างอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อนางเห็นชิ้นเนื้อสีแดงบนใบหน้าของนางขดตัวขึ้นดูเหมือนบาดแผลเน่าเปื่อย ซูชิงอู่จึงหรี่ตาลงเล็กน้อยหร่งหยาก้มศีรษะลง แล้วปล่อยผมลงมาเพื่อพยายามปิดบังแผลเป็นซูชิงอู่ถามว่า "เป็นมานานแค่ไหนแล้ว?"หรงหย

บทล่าสุด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status