แชร์

บทที่ 433

ผู้เขียน: วิ๋นเจิง
เมื่อฮูหยินหลินถูกเรียกเข้าไป นางก็ได้เห็นลูกสาวของนางนอนดื่มโจ๊กอยู่ข้างโต๊ะ

ซูชิงอู่เช็ดมุมปากของนาง ลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ตอนนี้ท้องไส้ของท่านหญิงไม่ค่อยดี ดังนั้นนางอาจไม่สามารถกินปลาและเนื้อสัตว์ย่อยยากเหล่านี้ได้ แต่ฮูหยินก็เห็นแล้วว่าตอนนี้นางกินอาหารได้แล้ว”

เมื่อฮูหยินหลินเห็นภาพนี้ ตอนนี้นางไม่สนใจอะไรอีกแล้ว รีบพุ่งไปกอดลูกสาวเอาไว้ในอ้อมแขนทันที

สำหรับลูกสาวสุดที่รักคนนี้ ฮูหยินหลินรักดั่งแก้วตาดวงใจ แต่ตอนนี้นางประสบกับความทุกข์ทรมาน นางเองก็ผ่ายผอมลงไปมาก

เมื่อหลินเสวี่ยอิ๋งเห็นแม่ของนางเป็นเช่นนี้ นางก็ตระหนักได้ว่า ก่อนหน้านี้เป็นนางที่เอาแต่ใจเกินไป

เมื่อคิดไปได้ว่าแม่ของนางพยายามหาทางช่วยเหลือนาง ทำตามความปรารถนาของนางมาตั้งเท่าไร แต่นางกลับพยายามหลอกลวง บีบบังคับฮูหยินหลินอยู่เสมอ เสวี่ยอิ๋งก็รู้สึกผิด ใบหน้าแสดงออกว่าเสียใจเช่นกัน

ซูชิงอู่ไม่อยู่รบกวนความผูกพันแม่ลูก

นางติดตามเย่เสวียนถิงออกจากห้องไป

นางถามขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ท่านยังต้องการสิ่งอื่นอีกหรือไม่?”

"อะไรหรือ?"

เมื่อเห็นใบหน้ามีคำถามของเย่เสวียนถิง ซูชิงอู่ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มและพูดขึ้นว่า “เช่นเรื
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 434

    คราวนี้นางเตรียมพร้อมมาอย่างดี ในใจคิดถึงแต่การเอาตัวรอด ไม่สนใจชีวิตสหายอีกแล้ว หากองค์หญิงสี่ไม่แสร้งป่วย เรื่องนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นกับนาง และนางก็ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากขนาดนี้โดยรวมแล้ว เมื่อพูดถึงผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่ว่าความสัมพันธ์ฉันพี่น้องจะลึกซึ้งเพียงใด ตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้วซูชิงอู่เฝ้าดูสัมพันธ์ฉันพี่น้องคู่นี้ต่อสู้ด้วยสติปัญญาและเล่ห์กลของพวกนางขณะที่นางเดินตามหลังหมอชราไปอย่างช้า ๆ“แค่ก แค่ก แค่ก…”เสียงไอของเย่หมิงเยว่ดังมาจากข้างในหลินเสวี่ยอิ๋งเปิดม่านแล้วเดินเข้าไป นางมองไปที่เย่หมิงเย่วที่นอนหน้าซีดเซียวอยู่บนเตียง จึงนั่งลงข้างเตียง และจับมือของนางทันทีมีสีหน้าวิตกกังวลและเป็นทุกข์บนใบหน้าของนาง“หมิงเยว่ เหตุใดเจ้าถึงเป็นเยี่ยงนี้เล่า? มาเยี่ยมเจ้าไม่ได้เพราะข้าก็ป่วย เป็นไข้หวัดกลัวว่าจะเอาโรคมาติดเจ้า ตอนนี้ข้าหายดีแล้ว เลยมาเยี่ยมเจ้าโดยเร็วที่สุด…”เย่หมิงเยว่ฟังคำพูดของหลินเสวี่ยอิ๋ง ดวงตาของนางเป็นประกาย แต่กลับยิ้มด้วยความซาบซึ้ง“ข้าลุกไม่ไหว เสวี่ยอิ๋งโปรดยกโทษให้ข้าด้วย”หลินเสวี่ยอิ๋งจับไหล่ของนาง “เหตุใดระหว่างเราต้องมากพิธีด้วยเล่า?

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 435

    ซูชิงอู่ก้าวไปที่เตียงเมื่อเย่หมิงเยว่ได้ยินเสียงเคาะประตูด้านนอก ใบหน้าของนางซีดลงด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าที่ซีดเซียวอยู่แล้วของนางยิ่งดูน่าสงสารมากยิ่งขึ้น“เจ้าอย่าเข้ามานะ หากกิดอะไรขึ้นกับข้าตอนนี้ เจ้าจะต้องมีความผิดด้วยแน่นอน!”ซูชิงอู่อดไม่ได้ที่จะยิ้ม “องค์หญิงสี่เสียชีวิตจากอาการป่วย เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย?"“เจ้า…”ดวงตาของเย่หมิงเยว่จ้องมองนางอย่างเย็นชา นางโกรธจัดซูชิงอู่ไม่สนใจสายตาของนางเลย ชิงอู่ยื่นมือไปบีบคางนาง ทำให้นางไม่อาจส่งเสียงออกมาได้“องค์หญิงสี่ ท่านอยู่ในนั้นหรือเปล่าเพคะ?”“องค์หญิง ท่านเป็นอะไรหรือ?”ดวงตาของเย่หมิงเยว่เบิกกว้าง นางพยายามดิ้นรนต่อมือของซูชิงอู่แต่กำลังของของนางไม่เทียบกับซูชิงอู่ได้ นางจึงไม่อาจหลุดพ้นจากพันธนาการซูชิงอู่ยกยิ้มมุมปาก ในพริบตาก็รู้ว่าเย่หมิงเยว่ใช้วิธีการใด“เจ้าเก่งจริง ๆ ถึงสามารถหายาเปลี่ยนแปลงชีพจรได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดหมอหลวงจึงหาสาเหตุไม่พบ…”"อื้อ อื้อ อื้อ..."ดวงตาของเย่หมิงเยว่เบิกกว้าง เมื่อได้ยินคำพูดของซูชิงอู่หลินเสวี่ยอิ๋งที่อยู่ด้านข้างก็ดูโกรธจัด เมื่อได้ยินสิ่งนี

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 436

    แต่ไม่นานหลังจากที่นางพูดจบ ก็มีเสียงป่าวร้องอันเฉียบคมจากขันทีผู้น้อยด้านนอก“ไทเฮาเสด็จ ฮองเฮาเสด็จ!”เมื่อได้ยินเสียงป่าวร้องทั้งสองครั้ง นางกำนัลทุกคนในห้องก็คุกเข่าลงทันทีเย่หมิงเยว่อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าโล่งใจยังดีที่นางมีคนหนุนหลัง!เย่หมิงเยว่พยายามลุกขึ้นจากเตียงและรีบไปที่ประตูทันทีพลางคุกเข่าต่อหน้าไทเฮาและฮองเฮาซูชิงอู่ตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นฮองเฮาปรากฏตัว แต่นางก็รู้ได้ว่าคงเป็นไทเฮาที่พาฮองเฮาออกจากมาจากตำหนักเย็นใครจะคิดว่าไทเฮาที่เกลียดวิชาอาคมมากที่สุดจะยอมเข้าข้างไทเฮา?อย่างที่คาดไว้ คำพูดของเหล่าสตรีในวังหลังนั้นล้วนไม่เป็นความจริง...“เสด็จแม่ ไทเฮา โปรดช่วยหมิงเยว่ด้วย เมื่อครู่นี้พระชายาเสวียนบังคับให้หมิงเยว่ทานยา หมิงเยว่ไม่รู้ว่ามันคือยาอะไร...โปรดทรงช่วยเรียกหมอหลวงมาให้หมิงเยว่หน่อยนะเพคะ…”นางแทบรอไม่ไหวที่จะฟ้องด้วยสีหน้าร้อนรนเย่หมิงเยว่พยายามล้วงคอของตัวเอง แม้นางรู้สึกคลื่นไส้ แต่กลับไม่ได้อาเจียนเอาอะไรออกมา?สีหน้าของฮองเฮามีความเป็นกังวล จากนั้นพระนางก็รีบเข้ามาประคองเย่หมิงเยว่ให้ลุกขึ้นนับตั้งแต่ถูกกักบริเวณ ฮองเฮาก็ผอมลงไปมากแ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 437

    การถูกจับจ้องด้วยสายตาหลายคู่ทำให้มีเหงื่อเย็นไหลออกมาบนหน้าผากของนางหลินเสวี่ยอิ๋งอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ซูชิงอู่ นางคิดว่าซูชิงอู่จะกลัวหรือเป็นกังวลบ้าง แต่นางก็ตรวจไม่พบอารมณ์ใดใดจากสีหน้าของอีกฝ่ายซูชิงอู่มองนางอย่างนิ่งสงบ ราวกับไม่ว่าตนจะตอบอย่างไรนางก็ไม่สนใจแม้แต่น้อยหลินเสวี่ยอิ๋งรู้สึกเหมือนกำลังไต่เชือก หากนางเลือกทางผิด ผลที่ตามมาก็คือหายนะหัวใจของนางเต้นแรง ทำให้แก้มของนางแดงก่ำ หลินเสวี่ยอิ๋งรวบรวมความกล้าและเงยหน้าขึ้น “มะ...หม่อมฉันขอให้นางมาเพคะ!”แม้เป็นเพียงคำพูดไม่กี่คำ แต่ยามที่พูดออกมาก็หนักแน่นราวกับทองคำพันชั่งหลินเสวี่ยอิ๋งรู้สึกว่านางได้ใช้ความกล้าหาญทั้งหมดในชีวิตของตัวเองหมดแล้วนางเริ่มรู้สึกเสียใจหลังจากที่พูดออกไปนางจะทำอย่างไรหากไทเฮาทรงตำหนินาง?ไทเฮาทรงมีสีหน้าประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด พระนางคาดไม่ถึงว่าหลินเสวี่ยอิ๋งที่ปกติไม่กล้าแม้แต่จะพูดจาเหลวไหลต่อหน้าตนจะพูดเช่นนั้นฮองเฮาเงยหน้ามองหลินเสวี่ยอิ๋ง “ตอนนี้ท่านหญิงก็ยังจะพูดช่วยนางอยู่อีกหรือ เจ้าลืมความเสียใจในงานเลี้ยงครั้งก่อน อีกทั้งเรื่องที่นางแย่งชิงคนที่เจ้ามีใจให้ไปแล้วหรือ?”

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 438

    นางดึงแขนเสื้อของฮองเฮาเบา ๆฮองเฮาทรงเข้าใจความนัยของเย่หมิงเยว่ พระนางจึงหลุบตาลงพลางตบหลังเพื่อให้ความมั่นใจกับนางแม้นางจะเป็นเด็กที่ตนรับเลี้ยง แต่เย่หมิงเยว่ก็ฉลาดเฉลียว มีไหวพริบ มีคุณสมบัติเหมาะสมในการเป็นองค์หญิงเมื่อเทียบกับการต้องเสียเปล่าไปแต่งงานกับองค์ชายสามแห่งแคว้นฉีตะวันออก นางมีคุณค่ามากกว่านั้นยิ่งไปกว่านั้น ขอเพียงเย่อวิ๋นถูแต่งงานกับน้องสาวของอีกฝ่าย ความเกี่ยวดองทั้งหมดในฝั่งของฉีเทียนหยวนจะเป็นของพวกเขาโดยปริยาย ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับความปรารถนานี้เสียงฝีเท้าดังมากจากด้านนอกหมอหลวงเดินถือกระเป๋ายาเข้ามาซูชิงอู่มองไปก็พบว่าเป็นหมอหลวงที่นางไม่รู้จัก เขาคงเพิ่งจะเข้าสำนักหมอหลวงมาเขาเดินไปหาองค์หญิงสี่และพูดด้วยความเคารพ “กระหม่อมขออนุญาตตรวจชีพจรให้องค์หญิงสี่พ่ะย่ะค่ะ”เย่หมิงเยว่พยักหน้าพลางเดินตามหมอหลวงไปนั่งบนเก้าอี้พร้อมน้ำตาคลอเบ้าแล้วยื่นแขนให้อีกฝ่ายหลังจากที่หมอหลวงตรวจชีพจรของนาง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เขาหลุบตาลงเล็กน้อยและดึงนิ้วออกจากชีพจรของนางเย่หมิงเยว่ถามอย่างกังวลใจ“ท่านหมอ ร่างกายข้าเป็นอย่างไรบ้

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 439

    หลินเสวี่ยอิ๋งไม่เคยเห็นการต่อสู้เช่นนี้มาก่อน ในฐานะท่านหญิง นางถูกเอาอกเอาใจมาตั้งแต่เด็ก จึงมีน้อยคนที่กล้าลงมือกับนางแต่ถึงอย่างไรไทเฮากับฮองเฮาก็ไม่ได้ทรงสนพระทัยว่านางจะอยู่ในฐานะใดนางจึงรู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่งในสถานการณ์ตอนนี้ซูชิงอู่ยังคงไม่พูด แม้นางจะเห็นคนเหล่านั้นเดินมาหา นางกลับไม่ได้ขยับเท้าด้วยซ้ำทันใดนั้น…“ฝ่าบาทเสด็จ ซูเฟยเสด็จ...”เมื่อมีเสียงป่าวร้องดังมาจากด้านนอก ทุกคนในโถงใหญ่ก็เปลี่ยนสีหน้าซูชิงอู่เลิกคิ้วเล็กน้อยพลางมองออกไปข้างนอก นางเห็นฮ่องเต้เดินเข้ามาพร้อมกับซูเฟย เต๋อเฟย ฮุ่ยเฟยและคนอื่น ๆ เดินเข้ามาด้วยนางยิ้มมุมปากนางก็มีคนหนุนหลังเช่นกันไทเฮาทรงมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา พระนางจ้องมองไปยังกลุ่มคนที่เดินเข้ามาฮองเฮารีบก้มหน้าลงอย่างรวดเร็วและซ่อนตัวอยู่ด้านหลังไทเฮาพลางแอบมองฮ่องเต้อย่างเงียบ ๆ ด้วยสายตาคับข้องใจเและคะนึงหานางถูกขังอยู่ในตำหนักเย็นมานาน แม้แต่พระพักตร์ของฝ่าบาทก็ยังไม่เคยเห็นด้วยซ้ำฮ่องเต้เฒ่าทรงยืนอยู่ที่ทางเข้าโดยเอามือไพล่หลัง “ไทเฮาทรงมาที่นี่ได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”ไทเฮาทรงหลุบตาลงแล้วตรัสด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ห

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 440

    “คือ... ไทเฮา กระหม่อมไม่ได้หมายความเช่นนั้น...”ฮ่องเต้ทรงมีสีหน้าลำบากใจเมื่อเห็นเช่นนั้น ไทเฮาก็ค่อย ๆ ส่งสายตาเย็นชาพลางตรัสว่า “หม่อมฉันคิดว่าฝ่าบาทหมายความเช่นนั้นนะเพคะ ช่วงนี้หมอหลวงซุนมีความสนิทสนมอย่างมากกับพระชายาเสวียน รวมไปถึงซูเฟยคนอื่น ๆ ด้วย”คำพูดเหล่านั้นทำให้สีหน้าของหมอหลวงซุนเปลี่ยนไปเขาคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเกรงกลัว “ไทเฮาทรงตรัสอะไรเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่เคยมีความสนิทสนมกับเหล่าพระสนม ทุกคนในวังต่างทราบเรื่องนี้ดีพ่ะย่ะค่ะ!”“ยังจะปฏิเสธอีกหรือ? เจ้ามาช่วยเหลือพระชายาเสวียนทุกครั้ง ไหนจะทักษะด้านการแพทย์แปลก ๆ ของนางที่มีเพียงเจ้าที่เข้าใจนั่นอีก!”หมอหลวงซุนรู้สึกได้ถึงความอยุติธรรม“นั่นเป็นเพราะกระหม่อมอ่านหนังสือมามากจึงพอจะเข้าใจได้บ้าง แน่นอนว่าคงไม่ละเอียดเท่ากับพระชายาเสวียน แม้แต่กระหม่อมเองก็ยังตกใจกับทักษะด้านการแพทย์บางอย่างที่พระชายาเสวียนเคยแสดงออกมาพ่ะย่ะค่ะ”“เจ้านี่ขยันปกป้องพระชายาเสวียนเสียจริงนะ!”ไทเฮาทรงหัวเราะเยาะ คำพูดของพระนางก็แปลกเล็กน้อยหมอหลวงซุนถูกไทเฮาซักถามอย่างต่อเนื่องจนแก้มของเขาแดงก่ำด้วยความวิตกกังวล แต่เขา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 441

    ฮ่องเต้เฒ่ามีท่าทีครุ่นคิดเล็กน้อย “แม้กระหม่อมจะรู้ซึ้งในสิ่งที่ไทเฮาตรัส แต่เรื่องนั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจปล่อยผ่านไปได้!”ไทเฮาตกตะลึงพลางหรี่ตาลงแล้วตรัสว่า “เอาล่ะ เมื่อถึงตอนที่หม่อมฉันนำความจริงทั้งหมดมากองตรงหน้าฝ่าบาทเมื่อไหร่ ฝ่าบาทก็จะได้ทราบแน่ชัดเองว่าใครเจตนาดีใครประสงค์ร้าย”ฮองเฮาเม้มปากด้วยความคับข้องใจและซ่อนตัวอยู่หลังไทเฮาต่อไปองเต้ทรงเหลือบมองหลินเสวี่ยอิ๋งและซูชิงอู่แล้วโบกมือ “ปล่อยพวกนาง”หลินเสวี่ยอิ๋งรู้สึกราวกับนางสูญเสียเรี่ยวแรงทั้งหมดพลางมองซูเฟยอย่างน่าสงสาร“ท่านป้า…”ซูเฟยเองก็ร้อนใจ ด้วยเพราะไทเฮาทรงยืนกรานว่าจะไม่ให้หมอหลวงซุนวินิจฉัยและรักษาองค์หญิงสี่ เรื่องนี้ดูมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล แต่นางไม่รู้ว่าจะหาข้อแก้ตัวให้หมอหลวงซุนอย่างไรณ ตอนนี้...เย่หมิงเยว่กำลังชมการแสดงอยู่ขอบสนาม ทันใดนั้นนางก็รู้สึกแน่นหน้าอก จากนั้นก็อาเจียนออกมาเป็นเลือดนางมองเลือดที่ตัวเองอาเจียนออกมาอย่างเหลือเชื่อ ดวงตาของนางเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัวทันใดนั้นนางก็เงยหน้ามองไปทางซูชิงอู่อย่างตกตะลึง “...”นางคิดว่าซูชิงอู่คงไม่กล้าลงมือทำร้ายนางง่าย ๆทว่านางคิดผิด

บทล่าสุด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status