Share

บทที่ 361

Author: วิ๋นเจิง
ซูหัวจิ่นเห็นว่าใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าซีดราวกับกระดาษ หายใจไม่สะดวก และเห็นได้ชัดว่านางโกรธมาก เขาจึงตัดสินใจทันที “เชียนหมิง ไปตามหมอมา”

แม้ว่าสิ่งที่ซูชิงอู่ทำจะถูกต้องตามหลักการ แต่ฮูหยินผู้เฒ่าก็ยังคงเป็นผู้อาวุโส แม้ว่านางจะทำผิดพลาดมากมาย ก็ไม่ควรทำให้ถึงตาย

เหตุผลหลักคือเขากังวลว่ามันจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของซูชิงอู่ หากฮูหยินผู้เฒ่าโกรธจนถึง

ตายไปจริง ๆ ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนจะนินทาว่าร้ายและด่าทอนางอย่างแน่นอน

ซูหัวจิ่นไม่อาจยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน

ซูชิงอู่กล่าวว่า "ไม่ต้องลำบากเรียกหมอมาหรอก นางก็แค่โกรธ ตราบใดที่ข้าอยู่ที่นี่ นางจะไม่ตาย"

นางเบะปาก แล้วก้าวไปหาฮูหยินผู้เฒ่าทันที แม่นมอูลุกขึ้นยืนและบังฮูหยินผู้เฒ่าไว้ข้างหลัง ราวกับเป็นผู้พิทักษ์

"ท่านคิดจะทำอะไร?"

"ทำอะไรน่ะหรือ?"

ซูชิงอู่มองนางด้วยความสับสน "นางเป็นแบบนี้แล้ว เป็นไม้ใกล้ฝั่งเข้าไปทุกที ข้าจะทำอะไรนางได้อีกล่ะ หลีกทาง!"

ซูชิงอู่ตวาด ก่อนที่แม่นมอูจะทันได้ลงมือ นางก็ถูกอวิ๋นจื่ออวิ๋นชิงลากออกไปด้านข้าง

ซูชิงอู่หยิบยาออกมาจากสาปเสื้อ แล้วยัดยาเข้าไปในปากของฮูหยินผู้เฒ่า

ฮูหยินผู้
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 362

    ซูหัวจิ่นตกตะลึงเล็กน้อยอัครเสนาบดีซูเป็นขุนนางมาหลายทศวรรษแล้ว และเป็นเรื่องยากมากที่จะยอมรับว่าเขาควรออกจากเมืองหลวงแต่วันนี้เขากลับพูดออกมาอย่างง่ายดาย“สิ่งที่น้องสาวเจ้าทำถูกทั้งหมด ทุกอย่างเป็นความผิดของพ่อ ข้าผิดต่อแม่ของพวกเจ้าและผิดต่อตัวพวกเจ้าด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นความผิดของข้าเอง...”เสียงของเขาแหบแห้งและเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าเหลือคณาเมื่อเห็นว่าเขาหดหู่เพียงใด ซูอวิ๋นก็ตะโกนเสียงดัง "พี่ใหญ่ ท่านกำลังทำอะไร ข้ากลับมาที่เมืองหลวงเพื่อช่วยให้ท่านกลับเข้ารับตำแหน่งโดยเฉพาะ แต่ท่านกลับต้องการออกจากเมืองหลวงเสียเอง แล้วข้าเล่า? ข้าควรทำอย่างไร!"ดวงตาของซูอวิ๋นเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ และร่างกายของนางก็สั่นสะท้านแม้ในที่สุดนางก็มีสถานะเช่นในปัจจุบันและสามารถยืนหยัดในจวนของท่านอ๋องได้ แต่นางยังต้องได้รับการสนับสนุนจากตระกูลซู หากอัครเสนาบดีซูออกจากเมืองหลวงไป อนุคนนี้ก็คงถูกกำหนดให้เป็นอนุไปตลอดชีวิต…นางไม่มีทางยอม!ดวงตาของซูอวิ๋นแดงก่ำ กัดฟันด้วยความโกรธ แผนการทั้งหมดถูกทำลายลงแล้ว!“ข้าเป็นน้องสาวของท่าน ท่านไม่สนใจข้าอีกต่อไปแล้วหรือ?”ซูอู่มองดูนา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 363

    “อู่เอ๋อร์...”ฮูหยินผู้เฒ่ายังคงอยากจะแก้ตัว แต่อัครเสนาบดีซูตวาดเสียงดัง "ท่านแม่ ท่านอย่าพูดอะไรอีกเลย!"ฮูหยินผู้เฒ่าเงียบลงทันทีอัครเสนาบดีซูมองไปที่แม่ของเขาและซูอวิ๋นที่อยู่ข้างๆ รู้สึกเวียนหัวอย่างรุนแรง“อีกนัยหนึ่งคือ ท่านใส่ร้ายฟางอี๋ซินและบอกว่านางไม่ได้ท้องกับข้าโดยไม่มีหลักฐานใด ๆ เลย?”ทั่วทั้งห้องโถงถูกความเงียบงันปกคลุมทันใดนั้นซูอวิ๋นก็พูดว่า "พี่ใหญ่ ท่านเป็นถึงอัครเสนาบดี ฟางอี๋ซินเป็นใครกัน ท่านมีภรรยาหลายคนไม่ใช่เรื่องแปลก ทำไมต้องรักษาความบริสุทธิ์เพื่อผู้หญิงคนเดียวด้วย!"อัครเสนาบดีซูพูดอย่างเย็นชา "นั่นคือสิ่งที่ข้าสัญญากับนางตอนที่นางแต่งงานกับข้า!"ซูอวิ๋นไม่เห็นด้วย "สัญญาแล้วจะอย่างไร นางแต่งเข้ามาแล้ว ยังกล้าโต้แย้งกับท่านอีกหรือพี่ใหญ่"เมื่อได้ยินสิ่งที่น้องสาวและมารดาพูด อัครเสนาบดีซูรู้สึกว่าโลกกำลังกลับหัว สองคนนี้นี่จริง ๆ เลย…ไร้ยางอายเสียจริง!ก่อนหน้านี้มันเป็นความผิดของเขา เขาเป็นคนที่ทำให้ฮูหยินของตนผิดหวัง แต่ตอนนี้ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรเขาจะยอมรับไว้เอง“การผิดสัญญาของข้าที่ทำให้อี๋ซินจากข้าไป และทำให้ข้าไม่มีวันได้เจอนางอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 364

    “น่าเสียดายที่เราไม่สามารถยึดทรัพย์สินชิ้นสุดท้ายจากจวนอัครเสนาบดีได้ พวกเขามีเงินเหล่านี้ ออกไปจากเมืองหลวงก็ยังมีชีวิตที่ดีได้”ซูชิงอู่ถึงกับพูดไม่ออก "..."ถึงคราวโหดพี่ใหญ่ก็โหดจริง ๆ!ซูชิงอู่ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ นางลดเสียงลง กระซิบข้างหูซูหัวจิ่นถึงสาเหตุที่ตนมายังจวนอัครเสนาบดีทันทีที่พูดจบ นางก็เห็นว่าพี่ใหญ่ของนางที่สงบในตอนแรกก็โกรธขึ้นมาทันที“ชิงอู่ เจ้าพูดจริงหรือ?”ซูชิงอู่กล่าวว่า "แม้ข้าจะได้ยินมาจากไทเฮา แต่ก็เป็นความจริงมากถึงเก้าในสิบส่วน"“น่ารังเกียจอย่างยิ่ง!”ซูหัวจิ่นรู้สึกคลื่นไส้ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย ใช้เวลาพักใหญ่จึงควบคุมความโกรธได้เขาเม้มริมฝีปากแล้วกล่าวอย่างเด็ดขาด "หาคนมารื้อจวนอัครเสนาบดีให้ข้าที ที่นี่สกปรก สกปรกเหลือเกิน!"เมื่อเห็นว่าพี่ใหญ่โกรธมาก พี่ชายอีกสองคนก็รู้สึกแบบเดียวกันไปโดยธรรมชาติมารดามีความสำคัญมากในใจพวกเขา สำคัญยิ่งกว่าตระกูลซูทั้งหมดหลังปีใหม่ในวันเทศกาลโคมไฟ วันที่สิบห้าของเดือนแรกของปี ทั้งเมืองหลวงรู้ข่าวใหญ่ว่าคฤหาสน์ขุนนางถูกไฟไหม้จนมอดไหม้หมดสิ้นทั้งจวนหายไปแล้วในวันรุ่งขึ้นเมื่อมองไปก็มองเห็นเพียงซากปรั

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 365

    "ไม่ต้องกังวลเพคะ พระชายา ในจวนอ๋องมีองครักษ์มากกว่าสองร้อยคน พวกเขาจะต้านคนข้างนอกได้อย่างแน่นอน!”ซูชิงอู่ไม่ได้คิดจะนั่งอยู่ในห้องนางเงยหน้าขึ้นอย่างกะทันหันพร้อมเอ่ยเสียงเย็นชา "ข้าจะออกไปดู จะได้เห็นว่าเขากล้าหยิ่งผยองต่อหน้าข้าได้อย่างไร"ที่ด้านนอกประตูจวนอ๋องมีทหารม้าในชุดเกราะสีเงินล้อมรอบประตูเป็นชั้น ๆในกลุ่มนั้นมีคนหนึ่งนั่งในเกี้ยว เป็นชายวัยกลางคนที่ดูท้วมเล็กน้อยเนื้อบนใบหน้าอูมเกือบจะเบียดกันตาเล็ก ๆ หรี่ลงเล็กน้อย“ถ้าไม่มีใครออกมา ก็เผาที่นี่ซะ!”“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง!”กงชินอ๋องลูบเคราน้อย ๆ บนคาง สีหน้าของเขาเย็นชาอย่างยิ่งเขามีอนุนับไม่ถ้วน และเขามีทายาทในท้องอนุของเขาเพียงคนเดียว แต่เมื่อนางออกไปเมื่อวานกลับมาเด็กในท้องก็หายไปแล้ว!ยิ่งเขาคิดเรื่องนี้มากเท่าใด ดวงตาของกงชินอ๋องก็เต็มไปด้วยแววตาที่น่ากลัว ราวกับว่าเขาต้องการต่อสู้กับจวนอ๋องเสวียนให้ตายกันไปข้างหนึ่ง!ทันใดนั้น ประตูจวนอ๋องเสวียนก็ถูกผลักให้เปิดออกร่างหนึ่งเดินออกมาพร้อมกับบ่าวรับใช้สองสามคนซูชิงอู่เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย และใบหน้าของนางก็งดงามมากจนทำให้บุรุษหลายคนลืมหายใจไปในทันที

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 366

    “ท่านว่าอะไรนะ พูดอีกทีซิ”“ข้าบอกว่า...”แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ ลูกศรก็ผ่าอากาศเข้ามา หากกงชินอ๋องหลบไม่ทัน ลูกธนูคงจะแทงเข้าที่ลำคอของเขาอย่างแน่นอน"อ๊า!"กงชินอ๋องกรีดร้องออกมาเสียงดัง เมื่อแตะที่คอของตัวเอง ก็รู้สึกได้ถึงเลือดบนมือของเขาดวงตาของเขาเบิกกว้าง ใบหน้าของเขาซีดลงทันที“คุ้มกัน! ปกป้องข้าเร็วเข้า!”ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมดรวมตัวกันทันทีและปกป้องกงชินอ๋องเอาไว้ พลางมองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาที่ระแวดระวังจากนั้นกงชินอ๋องก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ไม่รู้ว่ามีกี่คนกำลังขี่ม้าเข้ามา เสียงกีบม้าเหยียบย่ำไปตามพื้นผู้คนที่อยู่ใกล้ ๆ รีบหดหัวกลับเข้าไปในบ้าน ไม่กล้ามองแม้แต่น้อยกงชินอ๋องตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นว่าผู้นำสวมชุดคลุมสีดำ ผมสีเข้ม และครอบกวานสีทอง ใบหน้าหล่อเหลาหมดจดใบหน้าของเย่เสวียนถิงเย็นชาอย่างน่ากลัว เขายังคงถือธนูและลูกธนูไว้ ยกนิ้วขึ้นเพียงเล็กน้อย ก่อนจะดึงลูกธนูอีกสามดอกออกมาก่อนเล็งไปที่ศีรษะของกงชินอ๋องที่อยู่ไม่ไกลใบหน้าของกงชินอ๋องเปลี่ยนเป็นเย็นชา "เย่เสวียนถิง เจ้ากล้าโจมตีข้าหรือ?"สีหน้าของเย่เสวียนถิงนั้นเย็นชา และเขาก็ง้างคันธนูและ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 367

    เย่เสวียนถิงชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงมองไปด้านข้างขันทีที่รายงานข่าว“ข้าจะไปหลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จ”“ท่านอ๋อง!”ขันทีตัวน้อยรีบเดินผ่านฝูงชนแล้วเดินเข้าไป จากนั้นคุกเข่าตรงหน้าเขาและชูราชโองการในมือขึ้น"ขอท่านอ๋องได้โปรดละเว้นชีวิตเขาด้วย หากท่านอ๋องฆ่าเขาไปจริง ๆ สิ่งต่าง ๆ คงจะยุ่งยาก!"เย่เสวียนถิงเม้มริมฝีปาก ดาบในมือสะบัดไปที่คอของกงชินอ๋องทันทีร่องรอยเลือดปรากฎอยู่บนคอของกงชินอ๋อง ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความกลัว และขาของเขาก็อ่อนแรงจนทรุดนั่งลงบนพื้นกลิ่นฉุนจากตัวเขาแผ่กระจายออกมา มีคนเห็นรอยเปื้อนสีเข้มบนพื้นด้านล่างกงชินอ๋องเขาถึงกับ...ปัสสาวะรดกางเกงเพราะความกลัว...!ขาของกงชินอ๋องอ่อนแรง และเขาแทบจะยืนไม่ไหวในเวลานี้องครักษ์จากด้านหลังเข้ามาข้างหน้าด้วยความเคารพและช่วยพยุงเขาขึ้นไปบนเกี้ยวกล้ามเนื้อบนใบหน้าของกงชินอ๋องกระตุกเล็กน้อย และเขามองเย่เสวียนถิงด้วยสายตาขุ่นเคือง "อ๋องเสวียน ความแค้นในวันนี้ ข้าจะจำไว้!"ดวงตาของเย่เสวียนถิงเต็มไปด้วยความเย็นชาขณะที่เขาเก็บดาบกลับเข้าไปในฝักเขาหันหลังกลับและเดินไปที่ข้างของซูชิงอู่ มองนางอย่างเป็นห่วง“อ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 368

    เขากำหมัดแน่นและพูดลอดไรฟัน "ตระกูลซู ตระกูลซูนี่ดีจริง ๆ!"ผู้หญิงที่เขารักจนสุดหัวใจและไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องนางต้องได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ ทำให้ฮ่องเต้เฒ่ารู้สึกไม่สบายใจแม้แต่น้อยราวกับมีมีดทิ่มแทงหัวใจอย่างแรงทั้งโกรธและเสียใจเมื่อซูชิงอู่เห็นสีหน้าของฮ่องเต้เฒ่า นางก็รู้ว่าคำพูดของนางส่งผลกระทบต่อเขา นางจึงพูดต่อ "ในฐานะบุตรสาว หม่อมฉันต้องการล้างแค้นให้ท่านแม่ และเผาตระกูลซูเพราะหม่อมฉันรู้สึกขยะแขยง หม่อมฉันทำผิดหรือเพคะ?"ฮ่องเต้เฒ่าเงียบไปสักพักแล้วพูดว่า "ข้าเข้าใจแล้ว"แม้จะโกรธ แต่ฮ่องเต้ก็ทำอะไรไม่ได้ผู้เฒ่าซูก็เสียชีวิตไปแล้วและอัครเสนาบดีซูก็ออกจากเมืองหลวงไปแล้วเช่นกัน ตอนนี้ตระกูลซูต้องทนทุกข์ทรมานกับชะตากรรมนี้เพราะตัวพวกเขาเองยิ่งไปกว่านั้น เขาเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรเพื่อฟางอี๋ซินได้ย้อนกลับไปตอนนั้น เขาถูกฟางอี๋ซินปฏิเสธอย่างชัดเจน เพราะสิ่งที่นางต้องการ เขาให้ไม่ได้ช่างน่าขำ ที่แม้จะเป็นฮ่องเต้ มีอำนาจครองแผ่นดินแต่กลับไม่สามารถมอบความรักให้คนที่เขารักไปตลอดชีวิตได้นี่เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่สุดเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วซูอู่ได้พาผู้หญิงคนหนึ่

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 369

    ฮ่องเต้เฒ่าพูดไม่ออกอยู่พักหนึ่ง และพยายามดิ้นรนถึงสองครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จเขาถามว่า "เจ้าทำอะไร? เจ้าต่างหากที่ไปก่อเรื่องที่จวนอ๋องเสวียน!"เมื่อได้ยินคำพูดที่รุนแรงของฮ่องเต้เฒ่า กงชินอ๋องก็เงยหน้าขึ้น "พี่ใหญ่ ท่านก็รู้ว่าหลายปีนี้ข้าไม่มีทายาท ตอนนี้อนุของข้าก็ตั้งครรภ์คนหนึ่งแล้ว ข้าประคบประหงมนางอยู่ตลอด พอนางกลับไปเยี่ยมบ้านเดิม ลูกในท้องก็แท้งไปทั้งหมดเป็นเพราะผู้หญิงคนนี้! และอ๋องเสวียนจะฆ่าข้า ท่านดูรอยเลือดที่คอของข้าสิ ถ้าลึกกว่านี้อีกนิด ข้าคงไม่มีชีวิตรอดมาพบพี่ใหญ่แล้ว!”ฮ่องเต้เฒ่าฟังเขาพูดไปเรื่อย ๆ รู้สึกหัวใจเต้นถี่ขึ้นเขากุมขมับ ระงับความโกรธที่กำลังจะปะทุ“เจ้าลุกขึ้นก่อน ถ้ามีอะไรจะพูดก็ลุกขึ้นมาพูดกันดี ๆ!”“ถ้าพี่ใหญ่ไม่ให้ความยุติธรรมกับข้า ข้าก็จะไม่ลุก!”ความไร้เหตุผลนี้ทำเอาฮ่องเต้เฒ่าพูดไม่ออกเลยจริง ๆ“เจ้าอายุอานามเท่าไรแล้ว ยังทำเรื่องบ้า ๆ แบบนี้ นำกองกำลังไปปิดล้อมจวนอ๋องเสวียน หมายจะเผาจวนอ๋องเสวียนอีก ที่นี่คือเมืองหลวงไม่ใช่เมืองของเจ้า!”กงชินอ๋องตะคอกอย่างเย็นชา "หากเป็นเมืองของข้า ข้าจะลากพวกเขาออกไปตัดหัวทิ้งเสีย!"ฮ่องเต้เฒ่าพูดด้วย

Latest chapter

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status