Share

บทที่ 288

Author: วิ๋นเจิง
นางผลักสาวใช้รอบตัวที่เป็นห่วงนางออกไป “ข้าไม่เป็นอะไร พวกเจ้าถอยออกไปเถอะ”

องค์หญิงสี่ไม่เคยถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยเช่นนี้มาก่อน

ไม่ว่านางจะแสดงความมีน้ำใจมากเพียงใด อีกฝ่ายก็ยังคงไม่สะทกสะท้าน

ทันใดนั้นเสียงหัวเราะขององค์หญิงห้าก็แว่วเข้ามาในหูของนาง ทำให้ใบหน้าขององค์หญิงสี่ซีดลง

ยิ่งองค์หญิงห้าเดินเข้ามาใกล้ รอยยิ้มของนางก็กว้างขึ้นเรื่อย ๆ “ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะถูกหลอกด้วยหน้ากากปลอม ๆ นะ ดูท่าทางพระชายาเสวียนคงมองทะลุไปถึงจิตใจอันสกปรกของเจ้า!”

สีหน้าขององค์หญิงสี่ไม่สู้ดี ซีดราวกับกระดาษ

“เจ้า…”

มุมปากของนางขยับ แต่คำพูดที่เหลือกลับถูกกลืนลงคอไป

“ข้ารึ ข้าทำไม? ดูเหมือนทุกคนคงไม่ได้ตาบอดสินะ!”

องค์หญิงสี่ที่ถูกชี้หน้าต่อว่าก็โมโหจนดวงตาแดงก่ำ

นางหลุบสายตาลงและพูดว่า “ข้าแค่อยากเป็นเพื่อนกับพระชายาเสวียน ไม่ได้มีสิ่งใดแอบแฝงเลย…”

เมื่อเห็นท่าทางที่โศกเศร้าและน่าสงสารของนาง องค์หญิงห้าก็รู้สึกมวนท้อง

นางไม่เคยเห็นใครที่อวดดีไปกว่าเย่หมิงเยว่

นางและเย่หมิงเยว่อายุเท่ากันและเติบโตมาด้วยกัน ในฐานะที่เป็นองค์หญิงอาวุโสสองคนในพระราชวัง ทว่าการปฏิบัติที่พวกนางได้รับน
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 289

    เมื่อไทเฮาทรงได้ยินเช่นนั้น ก็ทรงเทยาหนึ่งเม็ดออกจากขวดแล้วกลืนลงไปโดยไม่ลังเลราชครูเฒ่าที่จ้องมองสีหน้าท่าทางของไทเฮาอย่างเงียบ ๆ ก็เห็นไทเฮาแสดงความประหลาดใจ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง นางตบหน้าอกของตัวเองแล้วตรัสว่า “ยาของราชครูนั้นช่างมหัศจรรย์จริง ๆ ข้ารู้สึกผ่อนคลายและมีเรี่ยวแรงมากมาย”ตามที่คาดไว้ ไทเฮาเคลื่อนตัวเร็วขึ้นเรื่อย ๆ นำทุกคนไปที่ประตูวัดเหลียงซานพระภิกษุในนั้นยืนเข้าแถวรอต้อนรับอยู่นานไทเฮาทรงรู้สึกสบายใจขึ้นมาก พลางทอดพระเนตรมองราชครูเฒ่าด้วยแววตาชื่นชม เห็นได้ชัดว่าเชื่อใจเขามากขึ้นซูชิงอู่มาถึงนานแล้ว แต่นางก็ไม่รีบร้อนที่จะเข้าไป ทว่านางกลับมองดูทุกย่างก้าวของราชครูเฒ่าเมื่อเห็นเขามอบขวดลายครามให้ไทเฮา ขณะที่มองดูพระองค์เสวยยา ซูชิงอู่ก็หรี่ตาลงดูเหมือนว่านี่จะเป็นยาที่ถูกต้องตามสรรพคุณที่อวดอ้างยาอมตะในตำนานยาประเภทนี้สามารถบีบศักยภาพทางกายภาพของมนุษย์และปรับปรุงสุขภาพกายและสุขภาพจิตได้ในระยะเวลาอันสั้นแต่หากกินมากเกินไปอาจนำไปสู่การเสพติดและทำให้อายุขัยสั้นลงแล้วยาอายุวัฒนะเอย ยาอมตะเอย...โดยพื้นฐานแล้วเป็นสิ่งที่เป็นภัยต่อชีวิตอย่างไรก็ตาม นา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 290

    หมดคำจะพูดจริง ๆ !อวิ๋นจื่อหรี่ตาลงและพูดด้วยความสงสาร “เจ้าอาวาสจิ้งซินจากไปนานกว่าสิบปี ตอนนี้มีคนในวัดเหลียงซานไม่กี่คนที่รู้จักเขา การค้นหาว่าเขาไปที่ไหนนั้นยากพอ ๆ กับการไปสวรรค์เลยเพคะ”ซูชิงอู่รวบผมของตัวเอง และทันใดนั้นก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่าง “ข้ากำลังคิดถึงคน ๆ หนึ่ง หากจะถามคนอื่น ก็ควรถามเขาโดยตรงจะดีกว่า”“เอ่อ ใครหรือเพคะ?”ซูชิงอู่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ก็เจ้าอาวาสไง”เพียงแต่เจ้าอาวาสอยู่กับไทเฮาจึงไม่ง่ายเลยที่จะไปพบเขาตามลำพังอวิ๋นจื่อและอวิ๋นชิงผลัดกันยืนเฝ้าอยู่ที่ประตูห้องโถงใหญ่ ใครก็ตามที่สังเกตเห็นว่าเจ้าอาวาสออกมาแล้วจะต้องมารายงานซูชิงอู่โดยเร็วที่สุดนี่เป็นจุดประสงค์ที่สองของซูชิงอู่ในการมาที่นี่ นางไม่ยอมที่จะจากไปมือเปล่าไม่ว่าจะเป็นการสืบสวนการตายของท่านแม่หรือการสังหารราชครู ล้วนแต่เป็นสิ่งสำคัญที่นางต้องการทำมากที่สุดซูชิงอู่เองก็ไม่ได้เกียจคร้าน นางเดินสำรวจวัดเพียงลำพังแม้จะมีพระหนุ่มคอยเฝ้าอยู่หลายแห่ง แต่เมื่อเห็นนางมาพวกเขาก็ไม่กล้าเอ่ยห้าม ทำได้เพียงหลีกทางให้นอกจากที่ห้องโถงหลักแล้ว โบสถ์อื่น ๆ กลับว่างเปล่า หรืออาจจะมีพระหนุ่มกำลังเ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 291

    เย่หมิงเยว่เดินนำขึ้นมาข้างหน้าแล้วพูดว่า “ท่านทั้งสอง ข้าจะเข้าไปกับพี่สะใภ้ด้วย ข้ารับรองว่าจะไม่แตะต้องสิ่งของใดข้างในเลย”นางมีใบหน้าที่อ่อนโยน และเมื่อนางแสดงสีหน้าขอร้อง นั่นทำให้จิตใจของอีกฝ่ายอ่อนลงไปด้วยเมื่อพระหนุ่มทั้งสองเห็นสีหน้าเช่นนั้น พวกเขาก็สะเทือนใจทันที “ถะ…ถ้าเช่นนั้นผู้บำเพ็ญหญิงทั้งสองก็ออกมาเร็ว ๆ หน่อยก็แล้วกัน”เย่หมิงเยว่ค่อนข้างพอใจกับปฏิกิริยาของอีกฝ่าย “ท่านทั้งสองไม่ต้องกังวล แค่เข้าไปดูอะไร ๆ นิด ๆหน่อยเดี๋ยวก็ออกมา”หลังจากพูดจบ นางก็มาอยู่ข้าง ๆ ซูชิงอู่นางโบกมือให้คนอื่นไปรอห่าง ๆ นางตัดสินใจว่ามีเพียงนางและซูชิงอู่เท่านั้นที่จะเข้าไปซูชิงอู่ไม่ได้ปฏิเสธความเมตตาของนางในครั้งนี้ทั้งสองเข้าไปในกุฏิเจ้าอาวาสด้วยกันกุฏิมีขนาดใหญ่และกว้างขวางมากผนังด้านในตรงกลางสุดมีพระพุทธรูปสีทองวางอยู่พระพุทธรูปมีสีหน้าเมตตา ยกมือขึ้น และตามองไปข้างหน้าในห้องมีเครื่องเรือนน้อยมาก มีเพียงเบาะรองนั่งไม่กี่ผืนและโต๊ะไม้เนื้อแข็งที่มีกระถางธูปจุดอยู่ รวมไปถึงไม้มู่อวี๋และลูกประคำมีเตียงเรียบง่ายอยู่ไม่ไกลริมหน้าต่าง เมื่อมองไปจะเห็นเครื่องเรือนทั้งหมดในห

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 292

    เย่หมิงเยว่ดูตกใจเมื่อได้ยินดังนั้นแต่กระนั้นนางก็พูดว่า “หากเป็นเรื่องจริงก็แย่มากเลย”ซูชิงอู่พยักหน้าอย่างจริงจัง “หากหม่อมฉันรู้ว่าคน ๆ นั้นคือใคร หม่อมฉันจะถลกหนังของมันแน่นอน แล้วจะหั่นมันออกเป็นแปดชิ้น สับนิ้วทีละนิ้วแล้วป้อนให้ตัวมันเองกินเข้าไป จะถอนฟันมันออกมาทีละซี่ ควักลูกตาออกทีละข้าง ทำให้มันกลายเป็นมนุษย์หมูแล้วใส่ไว้ในขวดโหล...”เย่หมิงเยว่ “...”น้ำเสียงของซูชิงอู่สงบ แต่ดวงตาของนางกลับเต็มไปด้วยความโกรธเมื่อพูดถึงเรื่องนี้แค่ฟังก็ทำให้ขนหัวลุกซู่นางไม่ได้ล้อเล่น นางจะทำมันจริง ๆเย่หมิงเยว่รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นเร็วมาก แต่สีหน้าของนางยังคงเหมือนเดิมและไม่กล้าแสดงสีหน้าแปลก ๆ ออกมา“ที่พี่สะใภ้พูดมาก็ดูโหดร้ายกับคนผู้นั้นเกินไปนะเจ้าคะ”เห็นได้ชัดว่าซูชิงอู่มีความสุขเล็กน้อย นางมองไปที่เย่หมิงเยว่และถามว่า “หากองค์หญิงสี่พบกับคนเช่นนั้น ท่านจะจัดการอย่างไรเพคะ?”“ข้า?”องค์หญิงสี่คาดไม่ถึงว่าซูชิงอู่จะถามนางอย่างตรงไปตรงมานางเงยหน้ามองพระพุทธรูปที่อยู่ใกล้ ๆ แล้วลดเสียงลง “พี่สะใภ้ นี่เป็นวัดพุทธ คงไม่ดีสักเท่าไรหากจะพูดคุยเรื่องนี้กระมัง?”“ไม่ดี

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 293

    มือของซูชิงอู่ยังคงปิดปากขององค์หญิงสี่ ดวงตาของนางจับจ้องไปที่ข้อมือของเย่หมิงเยว่มีสร้อยข้อมือห้อยอยู่เมื่อครู่คือเสียงสร้อยข้อมือของนางชนกับพระพุทธรูปเย่หมิงเยว่ดูตื่นตระหนกและส่ายหัวอย่างสิ้นหวังไปที่ซูชิงอู่ พยายามบอกว่านางไม่ได้ตั้งใจนางเสียใจมากจนแม้แต่รอยคล้ำใต้ตาแทบจะกลายเป็นสีแดงซูชิงอู่รู้สึกถึงบางสิ่งในใจ นางเกือบจะได้ยินประเด็นสำคัญแล้วผลก็คือเนื่องจากเสียงที่เย่หมิงเยว่ทำ คนสองคนที่อยู่ข้างนอกจึงรู้สึกตัวสถานที่ที่เดิมทีไม่มีที่ซ่อน ขอเพียงอีกฝ่ายเดินมาตรงด้านหลังพระพุทธรูป พวกนางย่อมถูกจับได้อย่างแน่นอนจะซ่อนก็ไม่ได้ จะหนีก็ไม่พ้นเสียงฝีเท้าสองคู่เดินเข้ามาใกล้ ราชครูและพระเฒ่ายืนอยู่ขนาบข้างพระพุทธรูปพลางมองไปที่ซูชิงอู่อย่างระมัดระวังซูชิงอู่ปล่อยมือที่ปิดปากองค์หญิงสี่และโค้งคำนับให้ทั้งสองคน“ชิงอู่ทำความเคารพท่านราชครู และนมัสการท่านเจ้าอาวาสเจ้าค่ะ”ราชครูเฒ่าขมวดคิ้ว “เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร!”ซูชิงอู่พูดทันที “วัดแห่งนี้กว้างใหญ่นัก เดินไปเดินมาก็มาถึงที่นี่ ใช่หรือไม่เพคะองค์หญิงสี่?”เย่หมิงเยว่ตอบอย่างรวดเร็ว “ใช่ พี่สะใภ้กับข้าไม่ได

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 294

    เมื่อเย่หมิงเยว่ได้ยินคำตำหนิของราชครูเฒ่า นางก็เชิดคางขึ้นช้า ๆ โดยไม่มีการแสดงออกถึงความขี้ขลาดใด“ใครจะไปรู้ว่าจู่ ๆ ท่านราชครูจะมาที่นี่พร้อมกับท่านเจ้าอาวาส แม้ท่านจะอยู่ในถิ่นของตนเอง แต่ท่านก็ประมาทเกินไป”ราชครูเฒ่าที่ได้ยินดังนั้นก็พูดไม่ออกเขาวางใจกับสถานที่แห่งนี้เกินไปจริง ๆเขาคิดว่าหากมีคนคอยเฝ้าอยู่ก็คงไม่มีใครทะเล่อทะล่าเข้ามาแน่นอนว่านี่เป็นความผิดของเย่หมิงเยว่ด้วย หากนางไม่ได้เป็นคนพาเข้ามา ซูชิงอู่ก็คงไม่สามารถเข้ามาที่นี้ได้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม“เอาล่ะ นางเป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว จะไปสร้างปัญหาได้อย่างไร ในเมื่อนางไม่ได้ยินอะไรก็ไม่จำเป็นต้องจัดการต่อ ตอนกลางคืนก็คอยจับตาดูนางไว้ อย่าให้นางพูดอะไรไร้สาระออกมา ท่านเข้าใจหรือไม่?”เย่หมิงเยว่พยักหน้าเล็กน้อย “ข้าย่อมเชื่อฟังท่านราชครู เพราะท้ายที่สุดแล้ว ท่านก็ทำเพื่อผลประโยชน์ของตระกูลมู่หรงของข้า”ราชครูเหลือบมองนาง เห็นได้ชัดว่าพอใจกับความรู้และสติปัญญาของนางมาก “ตอนนี้ท่านและฮองเฮาได้ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ชนะก็ชนะด้วยกัน แพ้ก็ล่มจมทั้งคู่ ขอเพียงตระกูลมู่หรงได้ดีขึ้นมาและทำให้เย่

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 295

    อวิ๋นซีเดินไปที่หน้าต่างและเห็นผู้คนมากมายอยู่ด้านนอก พระสงฆ์มากมายกำลังเดินวุ่นไปทั่วลานโดยแสร้งทำเป็นยุ่ง“พระชายา พระพวกนั้นที่อยู่ข้างนอกดูเหมือนกำลังเฝ้าดูพวกเราอยู่เพคะ”อวิ๋นชิงก็เห็นเช่นกัน “หม่อมฉันเห็นคนหลายคนแอบมองมาทางนี้ด้วยเพคะ”ซูชิงอู่เลิกคิ้วเล็กน้อยพร้อมส่งสายตาเย็นชา จู่ ๆ นางก็ลุกขึ้นเดินไปดูที่ประตู จากนั้นนางก็พูดกับอวิ๋นซีว่า “อวิ๋นซี เรียกพระหนุ่มที่มีรูปร่างพอ ๆ กันกับข้ามาทีสิ”“เพคะพระชายา”อวิ๋นซีสายตาดี นางเดินออกจากกุฏิไปโบกมือเรียกพระหนุ่มรูปหนึ่งเมื่อพระหนุ่มได้ยินดังนั้น เขาก็เดินตามนางผ่านประตูไปทันทีด้วยความกังวลใจม่านในห้องถูกดึงออกทันทีที่พระหนุ่มเข้าไป ภาพตรงหน้าของเขามืดลง แล้วเขาก็ล้มลงไปอย่างแผ่วเบาซูชิงอู่ดึงมือกลับ “พาเขาไปที่เตียง”อวิ๋นซีและอวิ๋นชิงช่วยกัน คนหนึ่งยกเท้าขึ้นและอีกคนหนึ่งยกศีรษะขึ้น พาตัวพระหนุ่มมาวางไว้บนเตียงแล้วห่มผ้าห่มให้เขาจากนั้นก็เห็นว่าซูชิงอู่นั่งอยู่ตรงโต๊ะเครื่องแป้งแล้ว พลางเอื้อมมือไปหยิบถุงเล็ก ๆ ที่นางนำมาด้วยในนั้นมีอุปกรณ์ปลอมตัวต่าง ๆ มากมายอวิ๋นจื่อและอวิ๋นชิงที่เคยเห็นขั้นตอนเหล่านั้นมาแล

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 296

    ครึ่งชั่วยามผ่านไปในชั่วพริบตา ท้องฟ้าด้านนอกมืดลงจนหมดแล้ว แสงเทียนสลัวส่องสว่างไปทั่วทั้งห้องโถงใหญ่ ทำให้สถานที่แห่งนี้สว่างราวกับตอนกลางวันอย่างไรก็ตามในขณะนี้ เปลวไฟที่ไหววูบไปมาเดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่าง ทำให้ทั้งห้องโถงมีบรรยากาศแปลก ๆไทเฮาที่ยังทรงหลับตาอยู่ ทันใดนั้นก็ทรงสะดุ้งและลืมตาขึ้นมา“ว๊าย!”มีเสียงอุทานออกมาจากปากของนาง ทุกคนลืมตาขึ้นโดยอัตโนมัติและเห็นไทเฮาทรงเงยหน้ามองพระพุทธรูปตรงหน้าที่อยู่ไม่ไกลด้วยสีหน้าหวาดกลัวอย่างยิ่ง“ไทเฮาทรงเป็นอะไรไปเพคะ?”เจียวกุ้ยเฟยรีบเข้าไปประคองไทเฮา นางรู้สึกว่าพระวรกายของไทเฮากำลังสั่นสะท้าน เมื่อนางสังเกตสีหน้าของอีกฝ่ายก็พบว่าทรงมีใบหน้าซีดเพราะเกิดจากความกลัว“เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดดวงตาของพระพุทธรูปถึงมีเลือดไหล!”ทุกคนตื่นตระหนกพระชายาและสนมบางคนกลัวมากจนไปซ่อนตัวอยู่ตามมุมเจ้าอาวาสท่องพระนามของพระพุทธองค์ แล้วก็มีสีหน้าเคร่งขรึมในทันที เขายืนอยู่ต่อหน้าทุกคน ร่างกายที่ยืนตรงเหมือนหอคอยเหล็กของเขาทำให้ไทเฮาทรงรู้สึกปลอดภัย“ไทเฮา อาตมาเคยเห็นเหตุการณ์นี้มาก่อน คงเป็นเพราะการรุกรานของวิญญาณชั่ว พระพุทธองค์จึงทรงกรรแสงออก

Latest chapter

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status