แชร์

บทที่ 249

ผู้เขียน: วิ๋นเจิง
ดวงตาของซู่หลานเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ นางไม่อาจเงยหน้าขึ้นได้เลยหลังจากถูกตำหนิ

นางรีบอธิบายว่า "พี่สะใภ้ ท่านพ่อ ข้าไม่รู้ว่าซูชิงอู่เป็นบ้าอะไร จู่ ๆ นางถึงได้พาผู้คนมาที่จวนของเราได้เช่นไร…”

“เจ้าไม่รู้งั้นหรือ เห็นได้ชัดว่าลูกชายของเจ้าสบายดี แต่ซูชิงอู่กลับโยนหลานทั้งสามของเจ้าลงในสระบัว นั่นซึ่งเป็นน้ำเย็น หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับพวกเขา ข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไปแน่นอน!”

ซู่หลานทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย

เพียงแค่ชั่วพริบตานางก็ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากทุกคน

ไม่นานมานี้ จู่ ๆ ทุกคนที่พยายามทำให้นางพอใจก็กลายเป็นเช่นนี้ ซึ่งนั่นทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจ

อันซู่หลานลดสายตาลงและออกจากจวนตระกูลอันไปพร้อมกับสาวใช้สองสามคน

นางต้องหาทางนำคำอธิบายมาให้ได้

“ท่านอ๋อง มีบางอย่างผิดปกติ!”

จู่ ๆ องครักษ์เงาที่สิบเจ็ดก็บุกเข้ามาในคุกใต้ดินของฝ่ายสอบสวน

ในขณะที่เย่เสวียนถิงกำลังนั่งสอบปากคำนักโทษบนบัลลังก์ไม้ลูกแพรที่อยู่ข้าง ๆ เมื่อเขาได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวเขาก็หรี่ตาลงและเงยหน้าขึ้น

"เกิดอะไรขึ้น?"

ในห้องขังเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด สายลับแคว้นอู่ตะวันตกหลายคนที่ถูกจับได้ตรงหน้า พวกเขาต่า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 250

    นิสัยของอันซู่หลานจะสร้างปัญหาใหญ่ให้กับตระกูลซูไม่ช้าก็เร็ว ผู้คนในตระกูลอันไม่ต่างอะไรจากปลิงดูดเลือด และวันหนึ่งพวกเขาจะนำหายนะมาสู่ตระกูลซูสิ่งถูกต้องคือแต่งงานกับภรรยาที่มีคุณธรรม อันซู่หลานเป็นพวกหูเบา อีกทั้งใจของนางก็ลำเอียง นางเชื่อฟังทุกสิ่งที่ตระกูลอันพูด ตระกูลซูของนางไม่ต้องการลูกสะใภ้ที่เหมือนหุ่นเชิดเช่นนี้น่าเสียดายสำหรับเคอเอ๋อร์เขายังคงเป็นเด็กน้อยแต่กลับต้องพรากจากอกแม่ไป ซูชิงอู่หรี่ตาลงพร้อมกับพูดว่า "ในเมื่อพี่ใหญ่ตัดสินใจแล้ว ข้าจะไม่พูดอะไรอื่นอีก แต่ว่าเค่อเอ๋อร์..."ซูหัวจิ่นถอนหายใจพลางพูดว่า "นี่ก็เพื่อประโยชน์ของเขาเช่นกัน ข้าไม่ต้องการให้เรื่องเช่นวันนี้เกิดขึ้นอีก!"ซูหัวจิ่นรู้สึกชาหนึบที่ศีรษะอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อนึกถึงภาพลูกชายตัวน้อยของเขาถูกผลักลงไปในสระน้ำแข็ง สิ่งนี้ทำให้ฟางเส้นสุดท้ายของเขาขาดลง หากนี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเขาจะไม่โต้เถียงกับอันซู่หลาน เพราะพวกเขาทั้งสองก็อยู่ด้วยกันมาหลายปีแล้ว…ทว่า ครั้งนี้มันทำให้หัวใจของเขาเย็นชาถึงขีดสุดแล้ว!ลูกชายของเขาเกือบถูกใครบางคนฆ่าตาย แต่อันซู่หลานกลับไม่ได้ติดตามเอาผิดคนในตระกู

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 251

    ซูหัวจิ่นมองดูสีหน้าที่ไม่เชื่อของอันซู่หลานแล้วเย้ยหยันว่า "เค่อเอ๋อร์อายุเพียงสามขวบ เจ้าควรจะรู้ว่าผลที่ตามมาจะเป็นเช่นไร หากเขาตกลงไปจริง ๆ!"อันซู่หลานส่ายหน้า "ข้าบอกท่านแล้วว่านี่เป็นเพียงอุบัติเหตุ ... "“อุบัติเหตุหรือ? ข้าเกรงว่าบางคนอาจมีเจตนาแอบแฝง”เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสตรีที่ดื้อรั้น ซูหัวจิ่นจึงขี้เกียจเกินกว่าจะอธิบายอะไรเพิ่มเติม “นี่ก็เริ่มมืดแล้ว พรุ่งนี้เช้าเจ้าควรเก็บข้าวของแล้วกลับไปยังบ้านเดิมของเจ้า ข้าจะบอกเคอเอ๋อร์ว่าเจ้าเดินทางไปไกลแล้ว ข้าจะอนุญาตให้เจ้าพบเขาเพียงเดือนละครั้งเท่านั้น!"“ซูหัวจิ่น ท่านทำแบบนี้กับข้าไม่ได้!”ดวงตาของอันซู่หลานเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ หัวใจของนางราวจมดิ่งลงสู่ก้นทะเลสาบขณะที่มองดูร่างที่จากไปอย่างเด็ดขาดของซูหัวจิ่นหนังสือหย่ายังคงอยู่ในมือของนางแน่น และใบหน้าของนางก็ซีดเผือดจะยิ่งกว่ากระดาษด้วยซ้ำไป อันซู่หลานลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งไปคว้าชายเสื้อคลุมของซูหัวจิ่น แม้ว่านางจะโง่เขลาเพียงใด นางรู้ดีว่าไม่อาจเผชิญหน้ากับซูหัวจิ่นได้อีกต่อไป นางกระซิบว่า "ข้าผิดไปแล้ว เป็นความผิดของข้าเอง ข้าจะไม่พาเคอเอ๋อร์กลับไปจวนเดิมอีกแล้ว ตก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 252

    ผู้ที่ถูกถอดผ้าคลุมออกไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพี่สะใภ้ใหญ่และพี่สะใภ้รองของตระกูลอันสีหน้าของพวกนางทั้งสองบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียดในขณะที่คุกเข่าร้องขอความเมตตา “พวกเราถูกบังคับและไม่มีทางเลือก นี่เป็นคำสั่งขององค์หญิงสี่ โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วยเพคะ!”แม้แต่ซูชิงอู่ก็คาดไม่ถึงว่าจะมีบางอย่างซ่อนอยู่ภายในเรื่องนี้นางคิดว่าเป็นเพียงความเกลียดชังหรือความริษยาของเด็กสองสามคนที่มีต่อซูเคอ เช่นนั้นพวกเขาจึงโจมตีเด็กน้อย แต่นางคิดไม่ถึงว่าจะมีความลับใหญ่หลวงซ่อนอยู่ในนั้น!องค์หญิงสี่…นั่นบุตรีบุญธรรมของฮองเฮามิใช่หรือ?เหตุใดนางถึงทำร้ายเด็กสามขวบ?ซูชิงอู่หรี่ตาลงและจมลงไปในห้วงความคิดอันลึกซึ้งพร้อมกับภายในใจที่สั่นสะท้านเมื่อนึกถึงองค์หญิงสี่ซึ่งโดยปกติแล้วไม่ได้มีท่าทีอวดดีและมีอัธยาศัยดีต่อทุกคน นางเป็นหนึ่งในเพื่อนไม่กี่คนที่ตนยังคงพูดคุยด้วยในชีวิตครั้งก่อนนี้…เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว รายละเอียดเหล่านั้นที่นางไม่เคยใส่ใจมาก่อนกลับทำให้หัวใจของซูชิงอู่สั่นสะท้าน อีกทั้งนางก็หวาดกลัวเป็นอย่างมาก นางก้าวไปข้างหน้าและคว้าคอเสื้อของสะใภ้ใหญ่ "บอกข้าหน่อยว่าเหตุใดองค์หญิงสี่ถึงทำ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 253

    เช้าวันรุ่งขึ้น จวนตระกูลอันกำลังถูกรื้อค้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นและผ่านไปอย่างรวดเร็วทำให้ทุกคนไม่ทันระวัง เมื่ออันซู่หลานกลับมาถึงตัวตระกูลอัน นางก็พบเพียงจวนที่ว่างเปล่าและมีตราประทับอยู่ที่ประตูสาวใช้สองคนที่ถูกบังคับให้ออกจากจวนอัครเสนาบดีพร้อมกับอันซู่หลานต่างตะลึงเช่นกันเมื่อเห็นภาพตรงหน้านี้ "นายหญิง ใต้เท้าและคนอื่น ๆ อยู่ที่ใดเจ้าคะ?"เมื่ออันซู่หลานเห็นข้อความใหญ่ ๆ บนตราประทับ ดูเหมือนว่าร่างกายของนางไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ใบหน้านางซีดเผือด ผมบนศีรษะนางก็ยุ่งเหยิง นางดูอ้างว้างเป็นอย่างมากมือและเท้าของนางเย็นเฉียบ ในที่สุดแล้วตอนนี้นางก็เข้าใจแล้วว่านางได้กระทำเรื่องโง่เขลาเช่นใดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่นางแต่งเข้าจวนอัครเสนาบดี ซูหัวจิ่นก็เชื่อฟังนางเป็นอย่างดี เขาไม่เคยดูถูกนางเพียงเพราะนางมาจากตระกูลที่ไม่ทัดเทียมกับเขา เขาให้นางได้มีหน้ามีตาในจวนอัครเสนาบดี เมื่อเขามาเยี่ยมที่จวนตระกูลอันในช่วงวันหยุด เขายังเตรียมของขวัญมากมายเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจนางมากเพียงใดในฐานะภรรยานางใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในตอนแรก นางพยายามอย่างระมัดระวังเพื่อทำให้ซูหัวจิ่น

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 254

    เขาเป็นคนตรงไปตรงมาและเป็นนักสู้ แต่น่าเสียดายที่บุตรชายคนโตเพียงคนเดียวของเขาตกจากหลังม้าระหว่างการออกไปเที่ยวในฤดูใบไม้ผลิไม่นานมานี้ ส่งผลให้ร่างกายครึ่งหนึ่งกลายเป็นอัมพาตหลังจากทราบเรื่องนี้แล้วเขาก็โกรธจนแทบเสียสติ…ขณะที่ซูชิงอู่นึกถึงเรื่องนี้ ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งเดินขึ้นมาจากอีกด้านหนึ่งของซูชิงอู่นางหันศีรษะไปมองในทันที ก่อนจะเห็นว่าเป็นองค์หญิงสี่ เย่หมิงเย่วที่ยิ้มให้นาง ก่อนจะเอ่ยว่า “พระชายาเสวียน ข้าขอนั่งตรงนี้ได้หรือไม่?”ซูชิงอู่มองไปที่ใบหน้าที่กระจ่างและละเอียดอ่อนพอ ๆ กับชื่อของอีกฝ่ายและเป็นการยากที่จะเชื่อมโยงใบหน้านั้นกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีเด็กอายุสามขวบที่ได้จากการสอบสวนซูชิงอู่จำได้ว่าคนที่ถูกส่งขึ้นรถม้าให้อภิเษกกับแคว้นฉีตะวันออกในชีวิตครั้งก่อนของนางคือองค์หญิงห้าเย่หลิงจูที่ทั้งเย่อหยิ่งและน่ารำคาญแต่ไม่ใช่เย่หมิงเย่ว บุตรีบุญธรรมที่อ่อนโยนราวกับพระจันทร์ภายใต้การเลี้ยงดูของฮองเฮา“พระชายาเสวียน?”น้ำเสียงของเย่หมิงเย่วนั้นอ่อนโยนราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิที่ปะทะใบหน้านาง ทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจเป็นพิเศษนางเรียกสติอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงแผ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 255

    เย่หลิงจูนั่งลงฝั่งตรงข้ามของซูชิงอู่อย่างไม่ลังเลแม้ว่าซูชิงอู่และเย่เสวียนถิงจะเปลี่ยนตำแหน่งที่นั่งกัน แต่ทั้งสองยังคงนั่งอยู่ระหว่างเย่หลิงจูและเย่หมิงเย่วเย่หลิงจูเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ท่าทางของนางแสดงออกถึงความเย่อหยิ่งและป่าเถื่อน มารดาของนางคือ เต๋อเฟยและปู่ของนางเป็นผู้อาวุโสในราชสำนัก ในฐานะองค์หญิงอันเป็นที่รักที่เอ็นดูของฮ่องเต้แล้วนั้น นางก็มีคนหนุนหลังมากเช่นกันนางเม้มริมฝีปากแล้วพูดกับซูชิงอู่ที่อยู่ข้าง ๆ นางว่า "จากนี้ไปเจ้าอย่าได้ใช้เวลาอยู่กับสตรีหน้าซื่อใจคดเช่นนั้นอีก"ใบหน้าของเย่หมิงเย่วยิ่งมืดลงเมื่อนางได้ยินเย่หลิงจูพูดไม่ดีต่อนางลับหลังจู่ ๆ ซูชิงอู่ก็เริ่มสนใจองค์หญิงห้าผู้นี้ “ขอบคุณที่ช่วยชี้แนะเพคะ”เมื่อองค์หญิงห้าได้ยินคำพูดนี้ นางก็เหลือบมองซูชิงอู่ และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าพระชายาเสวียนน่าพึงพอใจในสายตานางแน่นอนว่าใครก็ตามที่ไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับเย่หมิงเย่วแล้วนั้นนางล้วนถูกตาต้องใจ ทันใดนั้นก็มีร่างสองร่างเดินเข้ามาที่ประตูอีกครั้ง เย่ชิวหมิงและเย่อวิ๋นถูเดินขึ้นไปหาฮ่องเต้แล้วโค้งคำนับพร้อมกัน“กระหม่อมขอแสดงความเคารพฝ่าบาท”ฮ่องเต้

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 256

    ไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้เลยหากวันนี้ไม่ใช่วันฉลองปีใหม่ เขาคงจะไม่สามารถออกมาจากจวนอ๋องอวิ๋นได้ขาที่บาดเจ็บนั้นแม้พักฟื้นมากกว่าครึ่งเดือนก่อนจะกลับมาเดินได้ แต่การเดินของเขาไม่ค่อยมั่นคงนัก และตอนนี้เขาก็ถูกเย่ชิวหมิงเอาเปรียบและทำให้อับอายโดยใช้ทุกวิธีที่ทำได้แม้เย่อวิ๋นถูจะโกรธมาก แต่เขาก็ต้องยอมทนกล้ำกลืนตอนนี้ตระกูลมู่หรงกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ ในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้หากก้มหัวได้ก็ต้องทำ“เสด็จพี่ใหญ่กล่าวมาเช่นนี้ ทำเอาน้องสามเองก็อยากชมความยิ่งใหญ่ของท่านด้วยเสียแล้ว”เย่ชิวหมิงเลิกคิ้ว “ข้ากับเจ้าก็อยู่ด้วยกันตลอดทั้งปี หากเจ้าอยากจะชมก็มีโอกาสอยู่เสมอ ไม่จำเป็นต้องเป็นที่งานเลี้ยงครอบครัวหรอก น้องสามว่าเช่นนั้นหรือไม่?”สองพี่น้องต่างพากันเรียกร้องความสนใจผู้คนมากมายให้มาชม แต่กลับไม่มีใครกล้าแสดงความคิดเห็นตามใจปากดูท่าว่าหนึ่งในสองคนนี้มีแนวโน้มที่จะได้สืบทอดราชบัลลังก์มากที่สุดส่วนเย่เสวียนถิง เขายังคงเป็นคนพิการในความคิดของทุกคน และอำนาจที่คอยหนุนหลังเขาไม่ได้หยั่งรากลึกเท่ากับของตระกูลเจียวและตระกูลมู่หรงเขาจึงไม่เข้าใกล้เกณฑ์ที่เหมาะสมกับตำแหน่งรัช

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 257

    เสือขาวถูกขังไว้ในกรง รูปร่างสูงใหญ่และดุร้ายของมันทำให้ผู้คนในวังหลายคนแตกฮือเหล่าพระชายาต่างมองไปที่เสือขาวอย่างหวาดกลัวและตั้งตารอที่จริงพวกนางส่วนใหญ่จะได้เห็นสัตว์ร้ายชนิดนี้จากระยะไกลเท่านั้น แต่ตอนนี้มันอยู่ใกล้พวกนางมาก จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฮ่องเต้“ใช่แล้ว เสือขาวตัวนี้ได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอ๋องเสวียนได้ทุ่มเทดูแลมันอย่างเต็มที่”เย่เสวียนถิงไม่ได้แสดงสีหน้ากับคำเยินยอของฮ่องเต้ทันใดนั้นสถานการณ์ก็คึกคักขึ้นเนื่องจากการปรากฏตัวของเสือขาว ในขณะนั้นเองไทเฮาก็เดินออกมาจากด้านหลังม่านโดยมีราชครูเฒ่าคอยประคองฮ่องเต้ทรงลุกขึ้นพาบรรดาพระชายาและสนมทำความเคารพในทันที “ลูกขอถวายความเคารพเสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ที่ยืนขึ้นทำเคารพอยู่ด้วยมองไปยังคนที่เจอตัวได้ยากเช่นไทเฮาเฒ่าผู้นั้นไทเฮาเฒ่าเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน พระเกศาของพระนางเปลี่ยนเป็นสีเทาสนิทอีกทั้งริ้วรอยบนใบหน้าของพระนางไม่สามารถปกปิดได้อีกต่อไป ทว่านางแต่งตัวอย่างหรูหราและสง่างามอย่างยิ่ง ทำให้ทรงดูอ่อนกว่าวัยไปมากท่า

บทล่าสุด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status