Share

ชายาคนเดียว

last update Last Updated: 2024-11-29 15:18:39

หลังจากลงจากรถม้า หวังกู้หย่งและจางเหม่ยอิงเดินเคียงกันในตลาด ท่ามกลางความคึกคักของผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมา มีทั้งแผงขายอาหารร้อน แผงขายขนม ผลไม้อบแห้ง จนไปถึงแผงขายผ้าทอสีสันสดใส

จางเหม่ยอิงมองไปยังร้านค้าที่เรียงรายไปด้วยของสวยงามหลากหลาย แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของนางมากที่สุดคือกลุ่มเด็กน้อยวิ่งเล่นอยู่ในตลาด ซึ่งเสียงหัวเราะดังก้องไปทั่ว

หญิงสาวได้หยิบตำลึงเงินจากถุงของตัวเองมอบให้แก่แม่ค้าซาลาเปา ก่อนจะซื้อซาลาเปาหลายลูกนั้นจะถูกแจกจ่ายให้กับเด็กน้อยทั้งหลายคนที่ยืนอยู่ในบริเวณนั้น

หวังกู้หย่งยืนมองอยู่เงียบๆ รอยยิ้มบางเบาปรากฏขึ้นที่มุมปาก เขาสังเกตได้ว่าจางเหม่ยอิงจะดูเป็นตัวของตัวเองมากที่สุดเมื่ออยู่ท่ามกลางเด็กๆ

“เจ้าชอบเด็กหรือ?” เขาถามขณะก้าวเข้ามายืนข้างนาง

“เพคะ… ใช่เจ้าค่ะ ท่านพี่”

คำเรียกที่เปลี่ยนไปทำให้หวังกู้หย่งพอใจ เขายกมือขึ้นลูบคางเบาๆ พลางพยักหน้า

“ถ้าเช่นนั้น เจ้าจะไปที่ไหนหรืออยากทำอะไร บอกข้ามาเถิด วันนี้ข้าจะตามใจเจ้าหนึ่งวัน”

“องค์ชาย… เอ่อ ท่านพี่… ขอบคุณเจ้าค่ะ” นางตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

ทั้งสองเดินเคียงข้างกันต่อไปในตลาด หวังกู้หย่งยังคงมองนางด
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   อาละวาด

    หวังกู้หย่งก้าวออกมายืนกลางท้องพระโรง เสียงกระซิบกระซาบของเหล่าขุนนางค่อยๆ เงียบลงเมื่อเขาประสานสายตากับฮ่องเต้“องค์ชายสามหวังกู้หย่ง” ฮ่องเต้ตรัสด้วยน้ำเสียงที่แฝงความสง่างามแต่ก็ทรงอำนาจ “ข้าได้พิจารณาแล้วว่า สมควรให้เจ้าแต่งผิงชิงเสียบุตรีของอดีตแม่ทัพผิงจื่อหยวน เป็นพระชายารอง เพื่อเสริมสร้างสายสัมพันธ์กับตระกูลผิงที่ภักดีต่อแผ่นดินมาตลอด เจ้ามีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง?”คำตรัสนั้นสร้างแรงกดดันให้กับทุกคนในท้องพระโรง ทุกสายตาหันไปมองหวังกู้หย่งอย่างคาดหวัง บ้างมีสีหน้าปลาบปลื้ม บ้างเคร่งขรึมหวังกู้หย่งเงยหน้าขึ้น ดวงตาสงบนิ่งแต่แฝงด้วยความหนักแน่น เขาก้าวไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว ก่อนจะโค้งคำนับเบื้องหน้าฮ่องเต้ซึงมีศักดิ์เป็นเสด็จพ่อของเขา“กระหม่อมขอทูลพระองค์ด้วยความเคารพ...”บรรยากาศในท้องพระโรงเงียบสงัดทันทีราวกับว่าทุกคนกำลังจดจ่อกับสิ่งที่เขากำลังจะพูด“แม่นางผิงชิงเสียนั้นถือว่าเป็นสตรีที่มีคุณสมบัติงดงาม เพียบพร้อมทั้งรูปโฉมและความสามารถ เป็นที่น่าชื่นชมของเหล่าขุนนางทั้งหลาย กระหม่อมไม่อาจปฏิเสธความเหมาะสมในตัวนางได้เลย” คำพูดของเขาทำให้ขุนนางบางคนพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วยห

    Last Updated : 2024-11-29
  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   ธาตุแท้ 1/2

    ตั้งแต่วัยเยาว์ผิงชิงเสียต้องใช้ชีวิตท่ามกลางความสูญเสียอันเจ็บปวด เนื่องจากบิดาของนางซึ่งเคยดำรงตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ได้เสียชีวิตลงอย่างเป็นปริศนาในช่วงที่นางยังเด็ก ทิ้งไว้เพียงความทรงจำของวันวานที่ครอบครัวเคยรุ่งเรืองแม้จะได้รับความเมตตาจากองค์ชายหวังกู้หย่งดูแลนางเสมือนเป็นน้องสาว แต่ผิงชิงเสียรู้ดีว่าสิ่งที่เขามอบให้นั้นมิใช่ความรักหรือความเสน่หาแต่อย่างใด ทว่ามันคือความสงสารที่มีต่อชะตากรรมอันน่าเวทนาของหญิงสาวเพียงเท่านั้น...“เขาดูแลข้าเพราะความสงสาร...ไม่ใช่เพราะรัก ทำไมท่านถึงรักข้าในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้ ข้าอยากรู้นักว่ามันเป็นเพราะเหตุใดกัน?” นางพึมพำด้วยน้ำเสียงสั่นไหวด้วยความเจ็บปวดผิงชิงเสียเคยคิดว่าความเมตตาที่องค์ชายสามมีให้สตรีเช่นนางผู้เดียวนั้นก็เพียงพอแล้ว แต่เมื่อหวังกู้หย่งถูกบังคับให้แต่งงานกับจางเหม่ยอิง นางก็ไม่อาจอดกลั้นความริษยาที่ก่อตัวในใจได้อีกต่อไป“หากข้าไม่ได้ครอบครององค์ชาย เจ้าก็อย่าหวังเลยว่าจะได้เช่นกัน จางเหม่ยอิง!” และแผนการที่จะทำลายจางเหม่ยอิงก็ผุดขึ้นมาอีกครั้งด้วยความเชื่อว่าหากจางเหม่ยอิงถูกทำให้หายไปจากโลกใบนี้ องค์ชายหวังกู้หย่งก็อาจจะห

    Last Updated : 2024-11-29
  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   ธาตุแท้ 2/2

    จางเหม่ยอิงหันกลับมาช้าๆ สายตาเย็นชาจ้องตรงไปยังดวงตาที่สั่นไหวของผิงชิงเสีย นางเอี้ยวหลบการโจมตีได้อย่างหวุดหวิดตอนสมัยที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยนั้นจางเหม่ยอิงเคยเข้าหลักสูตรการป้องกันตู้และการต่อสู้ขั้นพื้นฐานเพื่อป้องกันตัวในเวลาที่ถูกฆาตกรทำร้ายหรือฆ่าปิดปากนิติเวชสาวใช้สติที่มีมากกว่าคนตรงหน้าเอื้อมมือคว้ากิ่งไม้ที่อยู่ใกล้และใช้มันปัดการโจมตีของผิงชิงเสีย พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน“ดูเหมือนเจ้าจะประเมินข้าต่ำไปมากทีเดียว”ผิงชิงเสียเห็นว่าตัวเองไม่น่าจะเอาชนะคนตรงหน้าได้จึงเปลี่ยนกิริยาท่าทางในบัดดลให้ตัวเองดูกลายเป็นเหยื่อทันทีท่าทางที่ผิงชิงเสียแสดงออกนั้นดูเกินจริงจนดูประดักประเดิด ก่อนจะร้องเสียงดังราวกับถูกทำร้ายมาอย่างรุนแรง“องค์ชาย! ช่วยหม่อมฉันด้วย!” นางตะโกนเสียงดัง น้ำเสียงแฝงไปด้วยความตื่นตระหนก ทว่าดวงตากลับจับจ้องไปยังมุมหนึ่งของลาน ราวกับมั่นใจว่าจะต้องมีคนปรากฏตัวอย่างไรอย่างนั้นและมันก็เป็นอย่างที่ผิงชิงเสียคาดการณ์ไว้ เสียงฝีเท้าที่หนักแน่นดังขึ้นจากเงามืด หวังกู้หย่งก้าวออกมาพร้อมแสงแดดที่สาดส่องผ่านร่มไม้“นี่มันอะไรกัน?” เสียงทุ้มของเขาดังขึ้นพอที่จะทำใ

    Last Updated : 2024-11-29
  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   หน้าที่สามีที่ดี

    ณ เรือนของพระชายา จางเหม่ยอิงกำลังนั่งเหม่อลอยทอดสายตามองไปยังมุมๆ หนึ่งที่ห่างไกล หัวใจเต้นแรงด้วยความสับสนที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดยั้งองค์ชายหวังกู้หย่ง… คนที่เคยเข้าข้างผิงชิงเสียเสมอ บัดนี้กลับปกป้องนางแทนที่จะเป็นหญิงผู้นั้นหญิงสาวไม่อาจเข้าใจความเปลี่ยนแปลงนี้ได้ ท่าทีที่อ่อนโยนและคำพูดที่แฝงความจริงใจของเขาในครั้งนี้ต่างจากความเย็นชาที่เคยเผชิญมาก่อน มันทำให้นางทั้งระแวดระวังและหวั่นไหวในเวลาเดียวกัน“เหตุใดเขาจึงทำเช่นนี้?” คำถามผุดขึ้นในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จางเหม่ยอิงพยายามที่จะหาคำตอบแต่กลับรู้สึกเหมือนถูกคลื่นความรู้สึกถาโถมจนมึนงงแม้นางยังไม่อาจเชื่อใจเขาอย่างสนิทใจ แต่ความอบอุ่นเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในใจของนางก็ไม่อาจปฏิเสธได้กลางดึกสงัดที่มีเพียงสายลมเย็นพัดผ่าน จันทร์เต็มดวงทอดเงาลงบนลานหินเล็กๆ ที่จางเหม่ยอิงนั่งนิ่ง สายตาของจางเหม่ยอิงจับจ้องไปยังสระน้ำสวยเบื้องหน้า แสงสะท้อนระยิบระยับราวกับดาวพราวบนผืนน้ำเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังใกล้เข้ามาจึงอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมอง เป็นหวังกู้หย่งที่หยุดยืนอยู่เบื้องหลังนางนั่นเอง“หลังจากทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ข้ารู้ว่าเจ้าคง

    Last Updated : 2024-11-29
  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   ความจริง

    จางเหม่ยอิงหน้าแดงจนถึงใบหู ความใกล้ชิดและคำพูดของเขาทำให้นางหมดคำจะโต้เถียง นางเพียงเบือนหน้าหนีอย่างขัดเขินหวังกู้หย่งช้อนตัวจางเหม่ยอิงขึ้นอย่างนุ่มนวลและนำพาร่างบางเข้าสู่ห้องนอน ที่แม้จะเงียบสงบแต่กลับอบอวลไปด้วยความรู้สึกที่ร้อนแรงเกินห้ามใจจางเหม่ยอิงในอ้อมอกเขาได้แต่หลับตาลง สูดลมหายใจลึกเพื่อสงบสติและเตรียมใจให้พร้อม หัวใจเต้นแรงในอก เมื่อความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาในชาติก่อน เธอไม่เคยสัมผัสประสบการณ์เช่นนี้มาก่อนเลย ทุกสิ่งในค่ำคืนนี้จึงไม่เพียงแปลกใหม่ แต่ยังชวนให้หัวใจสั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนร่างบางของจางเหม่ยอิงถูกหวังกู้หย่งโน้มลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา หลังที่ไร้อาภรณ์ใดสัมผัสลงฟูกนุ่ม ผ้าปูที่นอนเนื้อนุ่มย่นเล็กน้อยใต้แรงกดของร่างทั้งสอง ริมฝีปากของเขาแตะลงบนริมฝีปากบางอย่างนุ่มนวล ก่อนที่จะบดจูบหนักแน่นและเร่าร้อนราวกับเปลวไฟ ทั้งสองจูบกันอย่างลึกล้ำราวกับต้องการจะซึมซับทุกอณูของความปรารถนาที่ส่งให้กันผ่านริมฝีปากริมฝีปากหนาเคลื่อนไหวช้าๆ ผ่านลำคอระหงสร้างความสั่นสะท้านไปทั่วร่างบาง รอยรักสีกุหลาบถูกฝากฝังไว้ทั่วลาดไหล่ขาวเนียนปลายนิ้วของหวังกู้หย่งลูบไล้ไปที่ทรวงอ

    Last Updated : 2024-11-29
  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   คืนวสันต์

    แสงตะวันยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างและแยงเข้าสายตาของสตรีนางหนึ่งที่ยังคงนอนคุดคู้อยู่ใต้ผ้าห่ม ร่างอรชรกำลังแน่นิ่งอยู่บนเตียงแม้เวลาจะล่วงเลยถึงยามเหม่ามาเนิ่นนานมิใช่เพราะจางเหม่ยอิงเกียจคร้าน หากแต่เป็นเพราะอ้อมแขนอันอบอุ่นที่โอบรัดนางไว้อย่างแนบแน่นต่างหากที่กักขังนางไว้จนไม่อาจลุกขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่ในฐานะพระชายาตามปกติได้“องค์ชาย...” จางเหม่ยอิงเอ่ยเรียกเสียงเบาขณะหันหน้ามองชายหนุ่มผู้ยังหลับใหลอยู่ข้างกาย มองเห็นเพียงเสี้ยวหน้าคมคายที่ซุกอยู่ในแพเส้นผมของนาง“ต้องเรียกข้าว่าอะไร” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเจ้าเล่ห์ผิดกับทุกครั้งจางเหม่ยอิงชะงัก พยายามดิ้นเล็กน้อยเพื่อปลดปล่อยตัวเองออกจากอ้อมแขนนั้น แต่แรงที่กอดไว้กลับกระชับแน่นขึ้นจนทำให้นางขยับตัวหนีอย่างยากลำบาก“ปล่อยข้านะเพคะ” จางเหม่ยอิงพูดพลางพยายามเบี่ยงตัวหนีแต่เจ้าของ้ออมกอดนั้นกลับทำตรงกันข้ามพร้อมกับเปล่งเสียงหัวเราะแผ่วเบา พูดหยอกเย้าหมายอยากจะเห็นหน้าเห่อแดงของนางผู้เป็นที่รัก“เรียกข้าว่าสามีก่อน... แล้วข้าจะพิจารณาว่าควรจะปล่อยเจ้าไปดีหรือไม่” หวังกู้หย่งกระซิบข้างหูของจางเหม่ยอิงอย่างแผ่วเบาจางเ

    Last Updated : 2024-11-29
  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   ผู้ภักดี

    บนโต๊ะอาหารในตำหนักส่วนตัวขององค์ชายสาม กลิ่นหอมของชาดอกเหมยอบอวลไปทั่ว จางเหม่ยอิงนั่งลงและรับประทานอาหารอย่างเรียบร้อย ขณะที่หวังกู้หย่งนั่งตรงข้ามกันและดวงตาของเขาจับจ้องนางไม่วางตา“เหตุใดท่านมองข้าเช่นนั้น?” นางถามขณะรินชา ดวงตาคู่งามของนางเหลือบมองเขาอย่างระแวดระวัง“เพราะเจ้างาม” เขาตอบตรงไปตรงมาพลางยิ้มบางคำพูดของเขาทำให้นางนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าหนีอย่างขัดเขิน“ท่าน... ท่านก็พูดเกินไป”“ไม่จริงเลย ข้าพูดความจริง เมื่อคืน...เจ้างามมาก ไม่มีส่วนไหนของเจ้าเลยที่ไม่งดงาม”“...” จางเหม่ยอิงนิ่งไป ดวงตาของนางสั่นไหวเล็กน้อย แต่ก่อนที่นางจะตอบโต้เขาก็พูดต่อ“ข้าไม่ใช่คนที่ดีเลิศ ค่อนไปทางเลวร้ายด้วยซ้ำ แต่ข้าสัญญาว่าจะพยายามเป็นสามีที่ดีสำหรับเจ้า” หวังกู้หย่งโน้มตัวไปด้านหน้า จับมือของนางไว้เบา ๆ “เจ้าจะให้โอกาสข้าหรือไม่? ย้ายของมาอยู่ตำหนักของข้าเถิด”จางเหม่ยอิงมองมือของหวังกู้หย่งที่กุมมือของตนอยู่ ความอบอุ่นนั้นแทรกซึมเข้าสู่หัวใจ นางไม่ได้ตอบในทันที เพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก“ข้าตกลง...สามี” นางกล่าวเสียงเบาหลังจากมื้ออาหารที่หวานชื่นซึ่งเป

    Last Updated : 2024-11-29
  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   จวนบูรพา 1/2

    “กระหม่อมมีเรื่องเร่งด่วนรายงานพ่ะย่ะค่ะ” ตวนเฟิงยอบกายคำนับก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง“มีการวางแผนปลงพระชนม์พระชายา...”คำพูดนั้นทำให้บรรยากาศในห้องเงียบงันราวกับหยุดนิ่ง หวังกู้หย่งลุกขึ้นจากที่นั่งในทันที กำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้นบนหลังมือ“เจ้าว่าอะไรนะ?” เสียงของเขาต่ำและเยือกเย็น ราวกับพายุที่กำลังจะปะทุอย่างไรอย่างนั้น“กระหม่อมพบหลักฐานเบื้องต้นที่บ่งชี้ว่ามีการลอบวางผ้าแพรอาบพิษในเกี้ยวของพระชายาเมื่อยามโหย่วของวันนี้พ่ะย่ะค่ะ” ตวนเฟิงรายงานด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“แม้ยังไม่ทราบตัวผู้กระทำแน่ชัด แต่มีร่องรอยบางอย่างที่โยงไปถึงจวนแม่ทัพบูรพา... อย่างไรก็ตาม กระหม่อมเห็นว่าหลักฐานที่พบนี้โจ่งแจ้งจนดูผิดปกติราวกับต้องการป้ายความ ผิด ใครกันจะกล้าทิ้งร่องรอยชัดเจนเช่นนี้โดยไม่หวั่นเกรงว่าจะถูกจับได้?”“เตรียมรถม้า” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “ข้าจะไปตรวจสอบบางอย่างที่จวนแม่ทัพบูรพาเดี๋ยวนี้”ตวนเฟิงน้อมกายรับคำสั่งก่อนรีบออกไปจัดการตามคำสั่งขององค์ชายสามจางเหม่ยอิงนั่งอยู่ในห้องหนังสือส่วนตัว ดวงตาของนางมองกองเอกสารและหลักฐานต่างๆ ที่รวบรวมมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยหลักฐานทั้

    Last Updated : 2024-11-29

Latest chapter

  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   ข้าอยากบอกรักเจ้า

    จางเหม่ยอิงหัวเราะเบาๆ “ท่านพี่ ข้าเพียงทำหน้าที่ของข้า ประชาชนเหล่านี้คือรากฐานของบ้านเมือง หากพวกเขาสุขสงบ บ้านเมืองของเราก็จะมั่นคงนะเจ้าคะ”หวังกู้หย่งยิ้ม พลางเอื้อมมือจับมือนาง “เจ้าเป็นดั่งเพชรน้ำงามในชีวิตข้า อิงเอ๋อร์ ข้าภูมิใจในตัวเจ้ามาก”ยามเช้าของฤดูใบไม้ผลิ ดอกเหมยแดงเบ่งบานสะพรั่งรอบลานพระราชวัง แสงแดดอ่อนสาดส่องลงมาทำให้หยดน้ำค้างที่เกาะตามกลีบดอกดูระยิบระยับ หวังกู้หย่งกำลังนั่งอยู่ที่ศาลาริมบ่อน้ำในสวนหลวง เขาแต่งกายเรียบง่าย แต่ท่าทางที่สุขุมและแววตาแน่วแน่ยังคงแสดงถึงความสง่างามขององค์ชายผู้มีบทบาทสำคัญในราชสำนักจางเหม่ยอิงเดินเข้ามาพร้อมกับถาดชาที่ถือไว้ในมือ นางสวมชุดสีฟ้าอ่อนปักลายดอกเหมยที่สะท้อนความเรียบง่ายแต่สง่างาม นางวางถาดชาไว้บนโต๊ะไม้ก่อนจะนั่งลงข้างเขา“ท่านพี่ เหตุใดจึงมานั่งตรงนี้แต่เช้าเจ้าคะ?” นางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พลางยื่นถ้วยชาที่เพิ่งชงให้เขาหวังกู้หย่งรับถ้วยชามา ก่อนจะยิ้มบางๆ “ข้ามาผ่อนคลายความคิด เจ้าไม่ต้องห่วงไป ข้าเพียงอยากชมดอกไม้บาน” เขาหันมามองนาง สายตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “แต่เจ้าล่ะ มีธุระสิ่งใดหรือถึงมาหาข้าแต่เช้า?”“ข้า

  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   เวลาผ่านไป

    ความทรงจำในวันนั้นยังคงชัดเจนในใจของอาจารย์หวัง แม้เวลาจะผ่านไปนาน แต่ภาพของจางเหม่ยอิงในห้องเรียนวิทยาศาสตร์นิติวิทยาศาสตร์ยังคงตราตรึง รอยยิ้มของเธอที่มุมปากขณะตั้งใจฟัง หรือแววตาที่เป็นประกายทุกครั้งที่เธอเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ คือภาพที่ไม่มีวันเลือนหายจากใจเขา...ในมโนภาพของเขา ภาพของหญิงสาวที่เคยเป็นลูกศิษย์คนโปรดและเป็นรักเดียวในหัวใจปรากฏขึ้น เธอยืนยิ้มอยู่ใต้ต้นซากุระในวันที่ดอกไม้เบ่งบานเต็มที่ ในชุดฮั่นฝูสีฟ้าอ่อนปักลายดอกเหมยของเธอพลิ้วไหวไปตามสายลม ใบหน้าของจางเหม่ยอิงเปล่งประกายด้วยรอยยิ้มที่งดงามจนทำให้หัวใจเขาสั่นไหว ข้างๆ เธอนั้นมีชายคนหนึ่งสวมชุดจีนยุคโบราณสีน้ำเงินเข้มยืนอยู่ คนๆ นั้นมีหน้าตาที่เหมือนเขามากจนอดคิดไม่ได้ว่าบางที่เราอาจจะได้เจอกันแล้วในชาติภพใดชาติภพหนึ่ง"เหม่ยอิง… หากชาติหน้าหรือมีสักชาติภพที่เรามีโอกาส ผมขอให้ได้รักและอยู่เคียงข้างเธอ…"เสียงเครื่องวัดหัวใจในห้องดังเป็นเสียงยาว ทันทีที่ดวงตาของอาจารย์หวังปิดลงอย่างสงบ ใบหน้าของเขาเปื้อนรอยยิ้มบางๆ ราวกับว่าเขาได้พบกับจางเหม่ยอิงในฝันสุดท้าย ความทรงจำและความปรารถนาอันแรงกล้าของเขากลายเป็นส่วนหนึ่งของห้วงน

  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   สำนึกผิด

    ไม่กี่วันต่อมา ผิงชิงเสียเองก็ขอเข้าพบจางเหม่ยอิงเป็นครั้งสุดท้าย นางดูเหนื่อยล้าและเศร้าหมองเป็นอย่างมาก น้ำเสียงที่เคยเปี่ยมไปด้วยความเย่อหยิ่งกลับแปรเปลี่ยนเป็นเสียงที่แผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ“เหม่ยอิง... ข้า... ข้าขอโทษ” นางเริ่มพูด ดวงตาของนางหลุบต่ำ “สิ่งที่ข้าทำ มันไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะยอมให้อภัย”จางเหม่ยอิงมองนางด้วยความนิ่งสงบ ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ “ข้าให้อภัยเจ้า ผิงชิงเสีย... เพราะข้าเชื่อว่าในตัวเจ้ายังน่าจะมีความดีเหลืออยู่บ้าง อย่าง้นอยเจ้าก็หวังดีและไม่เคยคิดร้ายต่อองค์ชาย”ดวงตาของผิงชิงเสียเริ่มมีน้ำตา “ขอบคุณ... ขอบคุณมาก แต่ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะไปถือศีลที่อารามหลวง เพื่อไถ่บาปทั้งหมดที่ข้าได้ทำไว้” จากนั้นไม่นานผิงชิงเสียก็เดินทางไปยังอารามแห่งหนึ่งเพื่อไถ่บาปโดยไม่มีกำหนดกลับเมืองหลวงในห้องพักผู้ป่วยที่เงียบสงัด อาจารย์หวังเซินเจี๋ยในวัย 80 ปีนอนอยู่บนเตียงสีขาวสะอาด ดวงตาของเขาปิดสนิท ร่างกายซูบผอม ผิวซีดเซียวจากโรคที่กัดกร่อนพละกำลังของเขามานานหลายปี ใบหน้าที่เคยดูสง่างามบัดนี้เต็มไปด้วยรอยลึกแห่งกาลเวลาท่ามกลางเสียงเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ

  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   ปรับความเข้าใจ

    ในห้องนอนอันแสนสงบภายในตำหนักที่กว้างใหญ่ จางเหม่ยอิงกำลังบรรจงใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาดเช็ดตัวให้กับคนรักของนางอย่างอ่อนโยน“หวังกู้หย่ง...ท่านพี่” นางเอ่ยเรียกชื่อของเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและแผ่วเบาสักสักจางเหม่ยอิงได้ยินถึงเสียงฝีเท้าหนักแน่นที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ ดวงตาคู่งามเหลือบมองไปยังประตูด้วยความสงสัยไม่นานนัก ประตูเปิดออก เผยให้เห็นร่างสูงของตวนเฟิงที่ยืนอยู่“กระหม่อมต้องขออภัยที่มารบกวน แต่กระหม่อมมีเรื่องสำคัญที่อยากเรียนให้พระชายาทราบพ่ะย่ะค่ะ” “พูดมาเถอะ ตวนเฟิง” “เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น กระหม่อมคิดว่าพระชายาควรทราบความจริง... เรื่องที่องค์ชายปกป้องแม่นางผิงชิงเสีย... แท้จริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ”ดวงตาของจางเหม่ยอิงเบิกกว้างเล็กน้อย แต่ยังคงนั่งนิ่งสงวนท่าที “หากไม่ใช่ แล้วเหตุใดเขาจึงต้องปกป้องนาง แทนที่จะเป็นข้า?”“องค์ชายไม่ได้ปกป้องผิงชิงเสีย แต่เพราะองค์ชายเองทรงทราบตั้งแต่ต้นว่าผิงชิงเสียไม่ได้เป็นคนร้ายตัวจริง”ตวนเฟิงพยายามอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจัง หมายอยากจะช่วยให้นายของตนได้ปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน“คนที่อยู่เบื้องหลังการลอบว

  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   แสงสุดท้าย

    แสงยามเช้าค่อยๆ สาดส่องผ่านหน้าต่างห้องพัก กระทบกับผิวซีดของหวังกู้หย่งที่นอนแน่นิ่งบนเตียง ร่างสูงใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเคยเปี่ยมไปด้วยพลังบัดนี้ดูอ่อนแอและเปราะบาง ผ้าพันแผลสีขาวที่ซึมไปด้วยเลือดสีดำประปรายบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือดที่เขาได้เผชิญเพื่อปกป้องจางเหม่ยอิงจางเหม่ยอิงนั่งเฝ้าไข้อยู่ข้างเตียงอย่างใกล้ชิดหลังจากที่ได้รู้ว่ามีดสั้นของหลิวกงหยวนเล่มนั้นอาบยาพิษ จ้องมองใบหน้าที่ไร้สีเลือดของหวังกู้หย่ง น้ำตาที่พยายามสะกดกลั้นเอ่อล้นอีกครั้ง ราวกับหัวใจของนางถูกบีบรัดจนแทบแตกสลาย“เหตุใดท่านถึงโง่เขลาถึงเพียงนี้...ท่านรู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วข้านั้นไม่ได้ต้องการสิ่งใด นอกจากให้ท่านมีชีวิตอยู่ต่อไป...”นางเอื้อมมือเรียวบางไปจับมือหนาที่บัดนี้ไร้เรี่ยวแรงของเขา หวังกู้หย่งไม่ตอบสนอง ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจหนักหน่วงของคนที่กำลังทุกข์ทรมาน เขานิ่งราวกับไม่มีชีวิต ดวงตาของเขาปิดสนิท ราวกับจมดิ่งอยู่ในห้วงนิทราที่ไม่มีจุดจบหงเอ๋อร์ที่มีผ้าพันแผลพันรอบศีรษะนั้นทนไม่ไหวอีกต่อไป นางก้าวเข้ามาพร้อมจับไหล่ของจางเหม่ยอิงเบาๆ“พระชายาเพคะ...ท่านต้องพักผ่อนบ้าง ท่านอยู่ตรงนี้ทั้งคืนแล้ว เดี๋ย

  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   ปกป้องนาง

    “ออกมาเดี๋ยวนี้ จางเหม่ยอิง! ข้ารู้ว่าเจ้าซ่อนอยู่แถวนี้!”เสียงของหลิวกงหยวนดังก้องกังวานไปทั่ว พร้อมกับมีดสั้นที่สะท้อนแสงจันทร์วูบวาบอยู่ในมือของเขา ไม่คาดคิดมาก่อนว่าคนที่อ่อนแอมาตั้งแต่กำเนิดอย่างจางเหม่ยอิงจะวิ่งหนีเขาได้รวดเร็วขนาดนี้ทางด้านของจางเหม่ยอิงนั้นกำลังปรับลมหายใจให้เบาลงแม้ว่าร่างกายจะสั่นสะท้านไปด้วยความกังวล พลางคิดหาทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้ในวินาทีนั้นเอง เสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้น ร่างสูงสง่าร่างหนึ่งก้าวออกมาจากความมืดจางเหม่ยอิงหันขวับไปตามเสียง ใจของนางที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังเริ่มสั่นคลอน ดวงตาของนางเบิกกว้าง เมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้น เสียงที่นางรู้จักดี... เสียงที่เป็นทั้งความสิ้นหวังและแสงสว่างในเวลาเดียวกัน“หลิวกงหยวน! หยุดเดี๋ยวนี้!”หลิวกงหยวนชะงัก ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อเห็นองค์ชาย “องค์ชายสาม...”หวังกู้หย่งพุ่งตัวทะยานเข้าไปขวางหลิวกงหยวน ดวงตาของเขาวาวโรจน์ราวกับเปลวไฟที่พร้อมจะเผาผลาญทุกสิ่ง“เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงคิดทำร้ายพระชายาของข้า!”เขายกแขนขึ้นคว้าข้อมือของหลิวกงหยวนที่ถือมีดไว้แน่น แรงกดที่เพิ่มขึ้นจากมือของหวังกู้หย่งทำให้ห

  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   คนร้ายตัวจริง

    ในยามค่ำคืนที่มืดมิด มีเพียงแค่แสงจากดวงจันทร์ที่สาดกระทบลงบนพื้นหญ้าของป่าลึก สถานที่แห่งนี้หากมองด้วยตาเปล่าจะสังเกตุได้ว่ามันดูห่างไกลจากเมืองหลวงพอสมควรจางเหม่ยอิงก้าวลงจากรถม้า สายตาของนางกวาดมองไปรอบๆ ด้วยความระแวดระวัง ขณะที่หงเอ๋อร์อาสาที่จะเดินดูลาดเลาให้“คุณหนู โปรดรอสักประเดี๋ยว บ่าวจะขอเดินไปดูลาดเลาให้ก่อนนะเจ้าคะ”จางเหม่ยอิงพยักหน้าเล็กน้อย แต่ดวงตาคู่งามก็ไม่วายจับจ้องไปทั่วทุกทิศทางด้วยความระมัดระวัง“ที่นี่คือที่ใดกัน?” จางเหม่ยอิงเอ่ยถาม ถึงแม้ว่าจางเหม่ยออิงนั้นจะไม่เคยได้มีโอกาสออกมานอกเมือง แต่ด้วยสัญชาตญาณของนิติเวชสาวที่ได้สัมผัสคดีฆาตกรรมมากมายนั้นหญิงนั้นไม่สามารถละทิ้งสมมติฐานนี้ได้เลย“สถานที่ที่ความจริงจะถูกเปิดเผยอย่างไรเล่า”จางเหม่ยอิงหันไปตามเสียงของหลิวกงหยวน ด้วยน้ำเสียงของเขาจะดูเรียบไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ แต่มันกลับอัดแน่นไปด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองที่ปะทุอยู่ภายในหลิวกงหยวนที่อาสาว่าจะไปดูลาดเลาด้วยกันกับหงเอ๋อร์ กลับเดินย้อนกลับมา ท่อนไม้ท่อนหนึ่งในมือขวาของเขาเปื้อนโลหิตสีแดงฉาน“หลิวกู้หย่ง...” จางเหม่ยอิงนางจ้องมองท่อนไม้ในมือของเขา ซึ่งหยดโลหิตยัง

  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   หลบหนี

    ในค่ำคืนนี้จวนองค์ชายสามที่ควรจะเงียบสงบนั้นกลับเต็มไปด้วยเสียงฝีเท้าของเหล่าคนคุ้มกันที่เดินตรวจตราอย่างเคร่งครัด ทั้งด้านในจวนและบริเวณโดยรอบจวนถูกคุ้มกันแน่นหนาเพื่อป้องกันไม่ให้พระชายาหนีไป"นี่คือชาสำหรับทุกท่าน ข้าน้อยนำมาให้ดื่มเพื่อผ่อนคลายหลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันเจ้าค่ะ"หงเอ๋อร์กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวา ขณะที่นางยกถาดน้ำชาเดินเข้าไปในห้องพักของเหล่าทหารทหารหลายคนที่เหนื่อยล้าจากการปฏิบัติหน้าที่รับถ้วยชามาดื่มอย่างไม่ลังเล ท่าทางของหงเอ๋อร์ดูไม่มีพิษภัยจนไม่มีใครสงสัยแม้แต่น้อย"หงเอ๋อร์เจ้านี่ช่างรู้ใจพวกเราเสียจริง" ทหารคนหนึ่งเอ่ยพร้อมรอยยิ้มขณะยกถ้วยชาขึ้นดื่มใช้เวลาไม่นานนักยานอนหลับก็เริ่มออกฤทธิ์ เหล่าทหารเวรยามทั้งหมดต่างหลับไหลโดยถ้วนหน้า ไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่าพวกตนนั้นได้ถูกวางยานอนหลับหงเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ในมุมห้องเฝ้าดูพวกเขาจนมั่นใจว่ายานอนหลับได้ผล จึงรีบวิ่งไปหาพระชายาของตนที่ถูกพระสวามีใจร้ายกักขังให้อยู่ในห้อง"คุณหนู... ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ" หงเอ๋อร์กล่าวด้วยเสียงที่แผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบแต่แฝงไปด้วยความตื่นเต้น ขณะที่นางก้าวเข้าไปหาผู้เป็นนา

  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   หย่าร้าง

    จางเหม่ยอิงนั่งอยู่ในห้องรับรองของเรือนส่วนตัว ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ในเวลานี้หวังกู้หย่งยืนอยู่เบื้องหน้านาง ใบหน้าของเขาฉายชัดถึงความกังวลอย่างปิดไม่ได้"ข้าตัดสินใจแล้ว" จางเหม่ยอิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ข้าขอหย่าจากท่าน ท่านจะได้ไม่ต้องลำบากใจอีกต่อไป เพราะข้าคงไม่อยู่ขวางทางท่านกับผิงชิงเสียได้อีกแล้ว""อิงเอ๋อร์ เจ้าพูดอะไรออกมา? ข้าไม่มีวันยอมให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น! เจ้าจะเรียกร้องสิ่งใดจากข้าก็ได้ทั้งนั้น แต่การให้เจ้าไปจากข้า...ไม่มีทาง ข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป!""ข้าจะตัดสินใจอย่างไร มันไม่ใช่เรื่องของท่านอีกแล้ว" นางตอบกลับทันทีด้วยน้ำเสียงเย็นชา"ข้ารู้แล้ว...ว่าข้าไม่มีความสำคัญสำหรับท่าน ข้าเหนื่อยเกินกว่าจะต่อสู้เพื่อแย่งที่ยืนในหัวใจของท่านอีกต่อไป"หวังกู้หย่งก้าวเข้าไปใกล้นาง ยื่นมือออกมาหมายจะจับมือเรียวบางไว้ ให้จางเหม่ยอิงไปงั้นหรือ เขาจะยอมให้มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน"อิงเอ๋อร์ ได้โปรดรับฟังข้าก่อน""หากท่านรักข้าจริง ท่านคงไม่ทำให้ข้ารู้สึกโดดเดี่ยวถึงเพียงนี้ ข้าขอโทษ แต่ข้าไม่อาจทนต่อไปได้อีกแล้ว"เมื่อเห็นว่าการพูดคุยไม่มีทางเปลี่ยนแปลงอะไรได้ หวั

DMCA.com Protection Status