Share

บทที่ 310

Author: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
เขาคิดว่า ระหว่างราชวงศ์กับขุนนางมักมีความเกี่ยวข้องที่ซับซ้อนร้อยแปดพันเก้า สุดท้ายก็เป็นเพราะเขายังไม่แข็งแกร่งพอ จึงได้ถูกผู้อื่นควบคุม

เหตุใดเสด็จพ่อจึงมอบความโปรดปรานให้กับซูกุ้ยเฟย ก็มิใช่เพราะสกุลซูเช่นกันหรือ? เสด็จพ่อถึงกับรู้ว่าสกุลซูยักยอกสวัสดิการกองทัพ แต่ก็ไม่อาจลงโทษได้ นั่นก็เป็นเพราะสกุลซูตรากตรำทำงานหนัก ปกปักชายแดน สร้างผลงานยิ่งใหญ่

เมื่อเขาขบคิดเข้าใจก็ตรงไปที่ห้องทรงอักษรทันที

รอจนเซี่ยซางจากไป เจียงเฟิ่งหัวก็เช็ดน้ำตาที่หางตา แล้วกล่าวกับเหลียนเย่ว่า “ในช่วงนี้จนกระทั่งท่านอ๋องรบชนะกลับมา ข้าจะอาศัยอยู่ในวังตลอด เจ้าไปเตรียมการสักหน่อยเถิด” นางต้องแจ้งต่ออู๋ซินเช่นกัน ให้เขาช่วยคอยประสาน สกุลเจียงจะได้รับความสำคัญจากฮ่องเต้หรือไม่ อำนาจการตัดสินใจขั้นสุดท้ายยังคงเป็นของฮ่องเต้

เมื่อเซี่ยซางไปถึงห้องทรงอักษร ก็คุกเข่าลงเบื้องหน้าฮ่องเต้ทันที แล้วกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ลูกขอให้เสด็จพ่อทรงมีราชโองการโดยเร็ว ลูกตรวจสอบพบแล้วว่า ผู้ที่เป็นแกนนำในการโจมตีต้าโจวของเราครั้งนี้ คือผู้บัญชาการของเผ่าหู ฮูเหยียนซิวหลัว ลูกเดาว่าที่เขายกทัพมาในครั้งนี้ ก็เพื่อแก้แค้นเมื
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 311  

    ครั้นออกจากวัง เซี่ยซางก็พาเจียงจิ่นเหยียนไปที่เรือนสกุลเฉิงอย่างลับ ๆ จากหน้าประตูใหญ่ของจวนสกุลเฉิงก็สามารถมองเห็นความเงียบเหงาเสื่อมโทรมของตระกูลเฉิงได้อย่างชัดเจน เจียงจิ่นเหยียนเอ่ย “กระหม่อมเคยได้ยินถึงวีรกรรมอันเฟื่องฟูของแม่ทัพใหญ่เฉิงในปีก่อนนั้น ทั้งที่เขาเองก็เป็นแม่ทัพใหญ่ผู้เกรียงไกรสร้างผลงานไว้มากมายคนหนึ่ง ไม่รู้ว่าเหตุใด แม่ทัพใหญ่เฉิงถึงได้เงียบหายไปอย่างกะทันหัน สกุลเฉิงถึงขั้นตกต่ำจนแทบไม่ต่างจากตระกูลสามัญชนคนทั่วไป” ที่แห่งนี้ยิ่งดูไม่เหมือนสกุลมารดาของฮองเฮาผู้ยิ่งใหญ่เลยด้วยซ้ำไป! ต่อให้ฮองเฮาจะมิได้รับความโปรดปราน แต่ถึงอย่างไรพระนางก็เป็นฮองเฮา และไม่สมควรมีใครกล้าหยามเกียรติดูแคลนสกุลเฉิง แต่ว่า… เซี่ยซางย่อมรู้เหตุผลดี จวนสกุลเฉิงเปลี่ยนไปเช่นนี้ล้วนมีความเกี่ยวข้องอย่างใหญ่หลวงกับเสด็จแม่ของเขา มองดูความเงียบเหงาของสกุลเฉิงแล้ว ภายในใจของเซี่ยซางพลันเกิดความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อนขึ้น หากว่าไม่มีเหตุการณ์เมื่อปีก่อนนั้น หากว่าสกุลเฉิงไม่ช่วยเสด็จแม่ พวกเขาก็คงไม่ต้องถูกเสด็จพ่อพลอยรังเกียจเดียดฉันท์ไปด้วยกัน เพราะความเข้าใจผิดเพียงครั้งเดียว ทำใ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 312  

    เขาเป็นฝ่ายอธิบายกับเฉิงหมิงและเฉิงยางก่อนเอง “น้องหญิงสามของข้าน้อยสมรสกับเหิงอ๋อง เคราะห์ดีที่เมื่อตอนนั้นได้ท่านทั้งสองช่วยข้าเตรียมของขวัญแต่งงานให้น้องหญิงสาม นางปลาบปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง” “พี่จิ่นเหยียนน้องหญิงสามคนที่ท่านคอยพูดถึงไม่ขาดปาก น้องหญิงสามคนที่มีสติปัญญาฉลาดปราดเปรื่องเป็นที่สุดได้อภิเษกสมรสกับท่านเหิงอ๋องเองหรอกหรือ ช่างมีวาสนาต่อกันจริงๆ!” นัยน์ตาของทั้งสองคนล้วนฉายประกายเสียดายออกมา พวกเขายังนึกอยากประลองหมากกระดานกับคุณหนูสามสกุลเจียงอยู่เลย  เซี่ยซางได้ยินถนัด เห็นอยู่ชัดเต็มตา ก็รู้สึกว่าเจียงจิ่นเหยียนในยามที่เอ่ยถึงน้องหญิงคนนี้ต่อหน้าคนอื่นจะต้องรู้สึกภาคภูมิใจมากเป็นแน่แท้ บัดนี้เจียงเฟิ่งหัวเป็นภรรยาของเขาแล้ว ได้สมรสภรรยาเป็นสตรีมีความรู้มากความสามารถคนหนึ่ง เขาเองก็พลอยรู้สึกภาคภูมิใจไปด้วยเช่นกัน  ตอนที่ออกจากวังนางยังโกรธกรุ่น เขาคิดเอาไว้ว่ารอให้เวลาผ่านไปก่อนนางจะต้องเข้าใจเขาแน่ เซี่ยซางรู้ว่าคนสกุลเฉิงมีเด็กหนุ่มหลายท่านกำลังเตรียมตัวสอบเคอจวี่เพื่อสร้างผลงานและชื่อเสียง กอบกู้สกุลเฉิงกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง ท่ามกลางคนเหล่านั้นก็มีเฉิงหมิง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 313  

    กาลเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วดุจอาชาขาววิ่งผ่านช่องแคบ เพียงพริบตาเดียว กองทัพใหญ่ก็ออกจากเมืองเซิ่งจิงมานานกว่าครึ่งเดือนแล้ว เจียงเฟิ่งหัวและซูถิงหว่านเองก็อยู่ในวังหลวงมาได้ครึ่งเดือนแล้ว ซูถิงหว่านตื่นนอนตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างก็ไปที่ห้องเครื่องเล็กแล้ว ครั้นต้มโจ๊กขาวถ้วยหนึ่งเรียบร้อย ซูถิงหว่านก็อาศัยช่วงที่นางข้าหลวงไม่อยู่ ถ่มน้ำลายลงไปในถ้วยหลายครั้ง ถึงกินแล้วไม่ตายแต่เจ้าได้ขยะแขยงไปจนตายแน่ อาหารโอชารสตั้งมากมายเพียงนั้นไม่รู้จักกิน กลับอยากกินโจ๊กข้าวขาวไร้เกลือไร้รสชาติ ยิ่งไปกว่านั้นโจ๊กข้าวขาวนี้ก็ต้มยากเป็นที่สุด แค่ครึ่งเดือนนางไม่รู้เลยว่าทำหม้อพังไปกี่ใบแล้วถึงจะเคี่ยวจนได้โจ๊กที่ขาวและเหนียวข้นเช่นนี้ออกมา ในตอนนี้เองสี่หมัวมัวก็เดินอุ้ยอ้ายเข้ามา พร้อมกล่าวอย่างวางมาด “พระชายารองซูลำบากแล้วเพคะ” “พระกระยาหารเช้าของฮองเฮาเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วนะเพคะ!” สี่หมัวมัวกล่าวต่อ “เตรียมเรียบร้อยแล้ว” ซูถิงหว่านเกลียดสี่หมัวมัวเข้าไส้ สักวันนางจะต้องเอาคืนความอัปยศทั้งหมดที่นางเคยได้รับจากยายปีศาจเฒ่าคนนี้ให้ได้แน่ แต่กระนั้นนางก็ไม่กล้าล่วงเกินสี่หมัวมัว มิเช่นนั้นสิ่ง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 314  

    กลับมาถึงตำหนักครั้นนางผลักประตูห้องออกก็รับรู้ได้ถึงกระแสอากาศเย็นเยียบระลอกหนึ่งพัดเข้ามาจนนางหนาวสั่นไปทั้งร่างกาย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ต้องรอให้เซี่ยซางกลับมา นางคงถูกฮองเฮาทรมานจนตายไปก่อนแล้ว ฮองเฮาและเจียงเฟิ่งหัวเกลียดนางเข้ากระดูกดำ คนอย่างพวกนางไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ ไม่รู้ว่าสงครามนี้จะยืดเยื้อไปอีกนานเท่าใด แต่นางต้องหาหนทางหลบหลีกเอาตัวรอดจากการทรมานของพวกนางให้ได้ บัดนี้ท่านป้าสูญเสียความโปรดปรานจากฝ่าบาทไปแล้ว มิหนำซ้ำยังคลุ้มคลั่งจนสติวิปลาสไปแล้ว หวังให้นางช่วยเหลือก็คงเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว ซูถิงหว่านเพิ่งออกมาจากห้องเครื่องเล็ก นางกินอิ่มแล้ว บัดนี้ความง่วงงุนเริ่มครอบงำ จึงตัดสินใจว่าจะงีบบนเตียงสักตื่นหนึ่งก่อนแล้วเรื่องอื่นค่อยว่ากัน ต่อให้จะหนีออกจากวังหลวงกลับไปที่ด่านชายแดน ก็ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ ไม่นานนัก ซูถิงหว่านก็ค่อย ๆ เข้าสู่ห้วงนิทรา ในความฝันนางเห็นเจียงเฟิ่งหัวสวมอาภรณ์เนื้อหยาบสีเรียบกำลังเย็บปะเสื้อผ้า มือของนางเต็มไปด้วยบาดแผลและรอยช้ำจากความหนาวเย็น ข้างกายของนางมีเด็กชายหนึ่งคนและเด็กหญิงอีกหนึ่งคน เสื้อผ้าที่สวมอยู่บนตัวดูเก่าคร่ำคร่า แม้

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 315  

    “นางคือเสด็จแม่ และนางก็เป็นฮองเฮา เป็นเสด็จแม่ของพวกข้า” องค์ชายน้อยตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “มีเพียงฮองเฮาที่รักพวกข้ามากที่สุด นางให้ข้ากิน ให้พวกข้าสวมอาภรณ์ชุดใหม่ แต่ท่านกลับทำได้เพียงเย็บอาภรณ์เก่า ๆ เหล่านี้ให้พวกข้า มิหนำซ้ำยังปล่อยให้พวกข้าอดอยาก พวกข้าเกลียดท่านที่สุด” เจียงเฟิ่งหัวเจ็บปวดเหมือนมีดกรีดแทงหัวใจ นางร่ำไห้น้ำตานองราวกับห่าฝน รู้สึกอึดอัดเสียใจจนพูดไม่ออก ซูถิงหว่านหรี่ตามองอย่างเยือกเย็น ก่อนจะสั่งให้คนไปนำอาหารและเสื้อผ้าดี ๆ มาให้เด็กน้อยไร้เดียงสาสองคน และให้คนพาพวกเขาทั้งสองคนกลับตำหนักคุนหนิงเพื่อจะได้ดูแลอย่างเต็มที่ หากนางรู้สึกไม่ได้ดั่งใจ ก็จะพาพวกเขากลับมาเผชิญความลำบากอีกครั้ง ทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขาก็จะจงเกลียดจงชังมารดาผู้ให้กำเนิดของเขาแล้ว นางยิ้มเยาะพลางกล่าวว่า “เจียงเฟิ่งหัว ต่อให้เจ้าเป็นชายาเอกของฝ่าบาทแล้วอย่างไร แม้จะถูกเจ้าแย่งชิงตำแหน่งพระชายารัชทายาทไปแล้วอย่างไร บัดนี้ข้าเป็นถึงฮองเฮาผู้เป็นมารดาแห่งใต้หล้าแล้ว ดูสิ! แม้แต่บุตรสองคนที่เจ้าให้กำเนิดยังไม่ยอมรับเจ้าเลยด้วยซ้ำ พวกเขาเกลียดเจ้าอย่างกับอะไรดี” เจียง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 316  

    ถือสิทธิ์อะไร? หากความฝันเป็นความจริงได้ก็คงดี นางได้เป็นฮองเฮาผู้สูงส่งไร้ใดเปรียบ ส่วนเด็กสองคนที่เจียงเฟิ่งหัวให้กำเนิดกลับต้องเรียกนางว่าเสด็จแม่ การเลี้ยงดูพวกเขาให้เสียผู้เสียคนคือเรื่องที่ทำให้นางสะใจที่สุดแล้ว ในตอนนี้เอง สี่หมัวมัวก็พาคนเข้ามาพร้อมหอบเครื่องภูษากองหนึ่งบุกเข้ามาด้วย เห็นนางยังนอนอยู่บนเตียง สี่หมัวมัวก็เริ่มเอ่ยวาจาหาเรื่องทันที “เครื่องภูษาของฮองเฮากองนี้ยังไม่ได้ทำความสะอาด แต่พระชายารองซูกลับเกียจคร้านซ่อนตัวอยู่ในห้อง” ซูถิงหว่านลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเย็นเยียบว่า “เครื่องภูษาของฮองเฮายังต้องให้ข้าทำความสะอาด เช่นนั้นจะเลี้ยงบ่าวชั้นต่ำอย่างพวกเจ้าเอาไว้เพื่ออะไร” นางคิดถึงภาพอันน่าสังเวชของเฉิงฮองเฮาที่ต้องใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างเดียวดายในความฝันขึ้นมา นางก็เกือบจะหัวเราะออกมา ไม่รู้เหตุใดเซี่ยซางจึงไม่โปรดปรานเสด็จแม่ของเขา แม้ว่าจะยอมให้นางได้เป็นไทเฮา ทว่านางก็เป็นไทเฮาแค่ในนาม อำนาจในมือล้วนอยู่ที่ท่านป้าของนางหมด สี่หมัวมัวเห็นเช่นนี้ก็เอ่ยว่า “ก่อนท่านอ๋องจะเสด็จออกไปได้มีคำสั่ง ให้พระชายารองซูอยู่ที่วังหลวงคอยดูแลปรนนิบัติฮองเฮา

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 317  

    “ขอบพระทัยเพคะฮองเฮา” นางหาที่นั่งและทิ้งบั้นท้ายนั่งลงทันที สันหลังตั้งตรง ท่าทีมองลงมาจากที่สูง นางยังคงติดตรึงในห้วงความฝันท่าทางของนางที่เปี่ยมล้นด้วยเกียรติยศและอำนาจ สมจริงถึงเพียงนี้เชียว คล้ายกับว่านั่นคืออีกครึ่งชีวิตหลังจากนี้ที่นางจะได้สัมผัสมันในวันข้างหน้า ซูถิงหว่านก็เหลือบสายตามองท้องของเจียงเฟิ่งหัว ในความฝันของนางเด็กสองคนที่เกิดจากเจียงเฟิ่งหัวจะทรมานเจียงเฟิ่งหัว จะทำให้นางเป็นทุกข์เหมือนตายทั้งเป็น ซูถิงหว่านยินดีเป็นอย่างยิ่ง นางจึงเอ่ยว่า “ได้ยินหมอหลวงเหมยกล่าวว่าพระชายาตั้งครรภ์ลูกแฝด พระชายาช่างมีโชควาสนาจริง ๆ เพคะ ตั้งครรภ์คราเดียวได้ถึงสองพระองค์” เพราะนางเอ่ยว่าเซี่ยซางได้รับชัยในสงครามแล้ว สีพระพักตร์ของฮองเฮาจึงมิได้ย่ำแย่ลง แต่กลับรับคำพูดนั้นต่ออย่างราบรื่น “ซางเอ๋อร์มีวาสนาดี ได้อภิเษกสมรสกับพระชายาผู้งดงามเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมอย่างหรวนหร่วนคนนี้ หรวนหร่วนเองก็มีความพยายาม ตั้งครรภ์คราเดียวก็ได้เจ้าตัวน้อยถึงสองพระองค์ ผิดกับบางคนที่ตลอดทั้งชีวิตก็ยังตั้งครรภ์ไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป” อันที่จริงบางคนที่นางผู้ถึงก็คือซูถิงหว่าน เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ซู

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 318  

    นางไม่อยากพิเคราะห์ซูถิงหว่าน อีกอย่างตอนนี้ก็กำลังรอให้ฮ่องเต้มีบัญชาเข้าเฝ้า ผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว ทว่าทางฝ่าบาทกลับไร้ซึ่งความเคลื่อนไหวใด ๆ ทั้งที่ความคืบหน้าของการเดินทัพควรจะมาถึงพระหัตถ์ของฝ่าบาทได้แล้ว! เจียงเฟิ่งหัวไม่อยากพึ่งพิงเฉิงฮองเฮาไปตลอด เมื่อชาติก่อนเฉิงฮองเฮาเองก็ทำให้นางอับอายไม่น้อย ครึ่งชีวิตแรกนางถูกซูชิงชิงกดขี่ ส่วนอีกครึ่งชีวิตหลังก็ยังต้องถูกนางกดขี่ ในตอนนั้นเอง อู๋ซินกงกงมาถึงตำหนักคุนหนิงก็ค้อมกายทำความเคารพต่อฮองเฮาก่อนจะกล่าวว่า “ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะฮองเฮา ขอฮองเฮาทรงพระเจริญ” ฮองเฮาทรงโปรดปรานขันทีน้อยคนนี้มาก ทั้งปากหวานเอาใจเก่งรู้สถานการณ์ ที่ฮ่องเต้กลับมาคืนดีกับนางอีกครั้ง เพราะมีอู๋ซินช่วยเอาไว้มาก ฮองเฮาตรัสว่า “ไม่ต้องมากพิธี ฝ่าบาทมีรับสั่งเรียกข้าเข้าเฝ้าหรือ” “ฝ่าบาททรงกังวลพระทัยตลอดว่าพระพลานามัยของฮองเฮาจะแข็งแรงขึ้นบ้างหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ หลายวันมานี้ฝ่าบาททรงยุ่งอยู่กับการศึกชายแดนที่ห้องทรงพระอักษรตลอด ด้วยเหตุผลนี้จึงมิได้เสด็จมาเยี่ยมฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ยังกำชับว่าให้ฮองเฮารักษาพระวรกายให้ดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ” แน่นอนว่าอู๋ซินย่อมแต่งเ

Latest chapter

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 372  

    เจียงเฟิ่งหัวออกจากตำหนักคุนหนิงก็ตรงไปยังตำหนักเฉินซีทันที ในตอนนั้น เห็นนางกำนัลคนหนึ่งท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ก็โพล่งเสียงตำหนิออกไป “ใคร” อ้าวเสวี่ยตั้งรับทันที ไม่รอให้นางเดินเข้าไปใกล้ อวิ๋นฟางก็เดินงก ๆ เงิ่น ๆ มาหยุดเบื้องหน้าเจียงเฟิ่งหัว “บ่าวคารวะเพคะพระชายา” เจียงเฟิ่งหัวเห็นนางชัดถนัดตาแล้วก็แอบคิดเงียบ ๆ ในใจ นางมีฝีมือไม่เบาเลยทีเดียว แอบลอบกลับวังมาได้ ทว่าด้วยสถานการณ์ของนางตอนนี้ ซูถิงหว่านไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ นางจนตรอกไม่มีทางถอยแล้ว จำต้องวิ่งเข้ามาหลบในวังถึงจะไม่ถูกคนไล่ล่า อ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เองก็ชะงักงันไปแล้วเช่นกัน อวิ๋นฟางช่างกล้าหาญยิ่งนัก กล้ากลับเข้ามาในวังหลวงอีก พวกนางคิดว่าหลังจากอวิ๋นฟางหนีไปทางประตูหลังของเขตเมืองหลวงแล้ว นางจะหนีออกไปจากเมืองเซิ่งจิง อย่างน้อยก็ต้องหนีให้ห่างไกลจากเรื่องวุ่นวาย ปกป้องชีวิตไว้เป็นสำคัญ “เข้ามาเถิด!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว อวิ๋นฟางตามเข้าไปในตำหนักเฉินซี นางกำนัลได้ต้มน้ำร้อนเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ภายในห้องอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ภายใต้แสงตะเกียงสว่างรุบรู่ อวิ๋นฟางก็เริ่มขะมักเขม้นทำงานสารพัดทั้งยกน้ำเทน้ำ นางยังกระตือ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 371  

    เฉิงฮองเฮาเปิดเปลือกตา ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า “มาแล้ว จัดการเรื่องข้างนอกวังเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง? ออกจากวังไปครึ่งเดือนแล้วมิใช่หรือ!” เจียงเฟิ่งหัวท่าทางมิได้หยิ่งยโสเกินควรแต่ก็มิได้ถ่อมตัวจนเกินเหตุ “ทูลเสด็จแม่ จัดการเหมาะสมเรียบร้อยดีแล้วเพคะ” “ข้าได้ยินว่าเมื่อสิบวันก่อนสินค้าและวัตถุดิบถูกส่งไปหมดแล้ว” แม่สามีของนางก็ดูจะวางมาดขึ้นเช่นกัน ราวกับต้องการให้นางยอมเชื่อฟังคำสั่งสอน เหมือนกับเมื่อชาติก่อนไม่มีผิด “เพคะ เพียงแต่ของที่ส่งออกไปเมื่อสิบวันก่อนเป็นแค่ชุดแรกเพคะ เพราะมีจำนวนมากเกินไป ชุดต่อไปจะต้องทยอยลำเลียงออกไปเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างละเอียด มองแล้วอ่อนโยนนอบน้อม สงบเสงี่ยมเรียบร้อยมารยาทเพียบพร้อมไร้ที่ติ แม้แต่เฉิงฮองเฮายังมิอาจหาจุดใส่ไฟได้เลย “ลุกขึ้นมานั่งเถิด” น้ำเสียงของเฉิงฮองเฮาฟังดูดีขึ้นเล็กน้อย “ซางเอ๋อร์มีสกุลซูคอยจุนเจือ บัดนี้เด็กในครรภ์ของเจ้าสำคัญเหนือสิ่งใด อย่ามัวเพ่นพ่านด้านนอกมากนัก อย่าไปข้องเกี่ยวกับสตรีในหมู่ขุนนางราชสำนักมากเกินไป ที่สำคัญจงอย่าได้มัวละโมบใฝ่หาความดีความชอบจนลำดับความสำคัญผิดไป” เจียงเฟิ่งหัวคิดในใจ ตอนอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 370

    “เพคะ สะใภ้รับบัญชา”จากนั้น เจียงเฟิ่งหัวก็วางหมากลงไปตัวหนึ่ง “เสด็จพ่อ ทรงแพ้แล้วเพคะ”ฮ่องเต้เหลือบมองกระดานหมากคราหนึ่ง เริ่มจากความตกตะลึง ตามด้วยสีหน้ามืดครึ้มที่มองไม่ออก จากนั้นก็ทรงหัวเราะออกมาว่า “ดูเหมือนเราไม่อาจไม่ตกรางวัลนี้แล้ว มาเล่นอีกตา หากเจ้าชนะเราอีก เราก็จะมอบรางวัลให้อีกครั้ง”เจียงเฟิ่งหัวเก็บหมากบนกระดานขึ้นมาอย่างเยือกเย็น ไร้ความลนลาน “ลูกก็ชนะมาได้อย่างหวุดหวิดเพคะ ต้องเป็นเพราะเมื่อครู่เสด็จพ่อทรงฟังลูกพูดเพลิน จึงได้ออมมือให้ลูกแน่เลยเพคะ”“เจ้าคงไม่รู้สินะ หลายวันมานี้เรามีราชโองการเรียกตัวบิดาของเจ้าเข้าวังมาเดินหมากเป็นเพื่อนเราทุกวัน เขากลับไม่เคยชนะเราเลยสักตา ช่างน่าเบื่อนัก แต่เขาบอกว่าบุตรสาวของเขาเป็นยอดฝีมือในการเดินหมาก เรายังคิดว่าเขาพูดเกินจริงเสียอีก แต่วันนี้ หลังได้เดินหมากไปกระดานหนึ่งเราก็เชื่อแล้ว”“ท่านพ่อก็เหมือนยายหวังขายแตง ที่ชอบขายเองชมเองเพคะ ต่อให้บุตรสาวของท่านจะทำสิ่งใดไม่เป็นเลย ท่านก็รู้สึกว่าดีอยู่ดีเพคะ”“ยังถ่อมตัวเข้าเสียแล้ว เมื่อมาเป็นลูกสะใภ้ของราชวงศ์เรา แค่การถ่อมตนอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ ในอนาคตยังต้องช่วยซางเอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 369

    เมื่อเจียงเฟิ่งหัวกลับวังก็ถูกฮ่องเต้เรียนตัวไปที่ห้องทรงอักษร หลังนางรายงานเรื่องภารกิจที่ฮ่องเต้มอบหมายให้นาง ก็วางแผนจะกลับตำหนักคุนหนิงไปคารวะฮองเฮาแต่จู่ๆ ฮ่องเต้ก็ตรัสขึ้นมาว่า “ได้ยินว่าพระชายาของเหิงอ๋องชำนาญการวางหมาก เราอยากหาคนมาเล่นด้วยสักตาพอดี ว่าอย่างไร จะอยู่เล่นเป็นเพื่อนเราสักตาหรือไม่”เจียงเฟิ่งหัวคารวะลงรอบหนึ่งด้วยมารยาที่พอเหมาะ ไม่ถ่อมตัวไม่เย่อหยิ่ง แล้วกล่าวอย่างเคารพว่า “เคารพมิสู้เชื่อฟัง สะใภ้ย่อมทำตามพระบัญชาของเสด็จพ่อเพคะ แต่หากเสด็จพ่อทรงเป็นฝ่ายปราชัย ลูกจะขอรางวัลจากเสด็จพ่อสักอย่างได้ไหมเพคะ”ฮ่องเต้ตรัสว่า “อยากได้อะไรก็พูดมาได้เลย หากเจ้าเอาชนะข้าได้ ก็ถือเป็นรางวัลที่เจ้ามีผลงานใดการทำคดี แต่หากพ่ายแพ้ รางวัลก็จะไม่มีแล้วนะ”เจียงเฟิ่งหัวแอบคิดว่า “ฮ่องเต้ยังคงเป็นพวกที่ไม่ยอมเสียเปรียบ ถึงกับเอารางวัลของนางมาใช้เดิมพันหมาก หากนางชนะหมากควรนับเป็นรางวัลพิเศษไม่ใช่หรือ!”“เพคะ” นางตอบอย่างว่าง่ายเพราะในท้องของเจียงเฟิ่งหัวมีเด็กอยู่ เพื่อดูแลเด็กในท้องของนาง จึงให้หัวหน้าขันทีเฉายกโต๊ะที่สูงขึ้นเล็กน้อยเข้ามาตัวหนึ่งมาใช้แก้ขัด และยังเตรียม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 368

    คนทั้งสองเท้าสะเอวหัวเราะขึ้นมา “คนที่คิดจะช่วยคุณหนูหลินของเราไถ่ตัวมีเต็มไปหมด ท่านต่อแถวไม่ทันหรอก อีกอย่าง ท่านก็ไม่มีคุณสมบัตินั้นด้วย อย่าได้เพ้อฝันอีกเลย” คุณหนูหลินไม่ขาดแคลนเงินทอง ทั่วทั้งหออี๋ชุนล้วนอยู่ใต้การตัดสินใจของนาง ไม่จำเป็นต้องไถ่ตัวเพราะนางไม่มีสัญญาขายตัว“ข้าจะต้องแต่งนางเป็นภรรยาให้ได้ พวกเจ้ารอก่อนเถอะ” กัวเซี่ยวตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะแต่งกับหลินอวี่ให้ได้ในบรรดาเหล่าคุณชายตระกูลใหญ่ กัวเซี่ยวก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เขาหน้าตาไม่เลว ชาติตระกูลก็ไม่เลว เขาจึงคิดว่าหลินอวี่ไม่มีทางปฏิเสธแน่ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น จื่อฮุ่ยจึงเอ่ยบ้างว่า “หากคิดจะแต่งกับคุณหนูของข้า นอกเสียจากว่าท่านจะเป็นจอหงวน นั่นอาจพอมีโอกาสบ้าง ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้เสียเวลาอีกเลย”กัวเซี่ยวตะลึงงันไปแล้ว ที่เขาไม่ชอบที่สุดก็คือการอ่านตำรานี่แหละเห็นเขายังคงไม่ยอมจากไปอีก พวกนางก็ไม่อยากเปลืองน้ำลายกับเขาแล้ว จึงตีกัวเซี่ยวจนสลบแล้วโยนเขาออกไปนอกหออี๋ชุนเสียเลย “ช่างน่ารำคาญเหลือเกิน คนที่อยากแต่งงานกับคุณหนูของข้าตอนนี้ต่อแถวไปถึงนอกประตูเมืองนู่นแล้ว ค่อยๆ ไปต่อแถวเถอะ” พวกนางย่อมไม่เห็น

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 367

    “แม่นางหลิน เจ้าดื่มช้าๆ หน่อย” กัวเซี่ยวไม่เหลือท่าทางเสเพลไร้ความสำรวมในอดีตอีก เขาเอ่ยห้ามปรามว่า “แม่นางหลิน เจ้าอารมณ์ไม่ดีหรือ!”“ผู้ใดบอกว่าข้าอารมณ์ไม่ดีกัน” หลินอวี่กล่าวต่อว่า “สุรานี้เจ้าเป็นคนออกเงินซื้อ ท่านจะดื่มไม่ดื่ม?” กัวเซี่ยวรีบเทเหล้าออกมาอีกจอกแล้วดื่มลงไปจนหมดในอึกเดียว “ข้าดื่ม” ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะได้ดื่มสุรากับนาง แน่นอนว่าต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้มั่นสุราผ่านไปสามรอบ กัวเซี่ยวก็ดื่มจนหน้าแดงก่ำแล้ว แม้แต่นั่งก็นั่งไม่มั่น “ดื่มอีก ข้ายังดื่มได้…ดื่ม…แม่นาง…แม่นางหลิน เจ้าช่างงามนัก”สีหน้าของหลินอวี่ยิ่งเปล่งปลั่งแดงระเรื่อ จู่ๆ นิ้วเรียวงามทั้งสิบของนางก็สัมผัสลงบนแก้มของเขา คนที่อยู่เบื้องหน้าราวกับได้กลายเป็นผู้ที่อยู่ในใจนางไปแล้ว นางพึมพำว่า “คุณชายน้อย ดื่มสุราสิ”กัวเซี่ยวถูกอารมณ์รักทำให้เลอะเลือนไปแล้ว เขาคว้ามือนางไว้แล้วดึงนางเข้าสู่อ้อมกอด “แม่นางหลิน ข้าชอบเจ้า”หลินอวี่หัวเราะอย่างหยาดเยิ้ม ตั้งแต่เด็กนางก็เรียนรู้ทักษะการล่อลวงบุรุษพวกนั้นกับเจียงเฟิ่งหัว ยามนี้นำมาใช้กับกัวเซี่ยวก็เกินจะพอ อาศัยเพียงยิ้มเดียวของนางก็ทำให้กัวเซี่ยวมัวเมาลุ่มห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 366

    ไม่รอให้ชายฉกรรจ์ตอบสนอง หลินอวี่ก็เอ่ยเสียงหนักว่า “นำสุรามา คืนนี้พี่ชายจะออกเงินครั้งละร้อยตำลึงได้มากเท่าใด ข้าก็จะดื่มเป็นเพื่อนท่านมากเท่านั้น ว่าอย่างไร?”ม่านตาของชายฉกรรจ์หดแคบลง สุราเช่นนี้พวกเขาดื่มไม่ไหวดอก ทันใดนั้น คนทั้งสองก็ห่อเหี่ยวลงทันทีหลินอวี่ลุกขึ้นมา กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้าว่าสองท่านคงไม่ได้คิดมาดื่มสุราหาความสำราญ แต่เหมือนจะมาก่อเรื่องในหออี๋ชุนของข้ามากกว่า”“ผู้ใดบอกว่าไม่ได้มาดื่มสุรากัน” บุรุษหนึ่งในนั้นลุกขึ้นมา ชี้จมูกหลินอวี่ได้ก็ด่าออกมาทันทีว่า “หอสุราเน่าๆ อะไรของพวกเจ้ากัน เหล้าจอกละร้อยตำลึง ทำไมพวกเจ้าไม่ไปปล้นเสียเลยล่ะ”พูดจบเขาก็คิดจะเริ่มทำลายข้าวของ สุราอาหารกับจอกสุราถูกเขาพลิกโต๊ะจนล้มคว่ำหลินอวี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป แต่ไม่ทันที่นางจะลงมือ ในเวลานั้นเอง ที่หน้าประตูก็มีบุรุษผู้หนึ่งบุกเข้ามาปกป้องอยู่เบื้องหน้าของนางอย่างสง่างามน่าเกรงขาม “ข้ามาแล้ว เป็นไอ้ลูกเต่าลูกตะพาบตัวไหนกล้ามาก่อเรื่องที่หออี๋ชุนกัน”“แม่นางหลินวางใจเถอะ มีข้าอยู่ไม่มีใครกล้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่แน่” ใบหน้ากัวเซี่ยวเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นหลินอวี่ถอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 365

    หิมะตกแล้ว หิมะที่ตกหนักและปลิวไสวดุจขนห่าน ทำให้เมืองหลวงอันเรืองรองประดุจปกคลุมไปด้วยอาภรณ์สีเงิน ทัศนียภาพที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะนี้ก็ดูงดงามมีเอกลักษณ์ไปอีกแบบไม่ว่าสงครามที่ชายแดนจะรบกันหนักหน่วงเพียงใด ล้วนไม่อาจส่งผลกระทบต่อเมืองหลวง ที่ยังคงคึกคักและรุ่งเรืองเช่นเดิมเจียงเฟิ่งหัวสวมเสื้อคลุมอันหรูหราที่มีหมวกคลุมศีรษะยืนอยู่ข้างหน้าต่างพลางทอดสายตาออกไปไกล ความคิดของนางล่องลอยออกไปไกลแสนไกล แววตาที่ลึกล้ำดุจบึงน้ำอันหนาวเหน็บสาดประกายเย็นเยียบออกมาคิดไม่ถึงว่าจะจัดการกับจีเฉินได้รวดเร็วเช่นนี้ ในชาติก่อน จีเฉินเป็นแรงหนุนคนสำคัญของซูถิงหว่าน พวกเขาคนหนึ่งอยู่ในวังคนหนึ่งอยู่นอกวัง ในนอกเสริมประสาน การกำจัดเขาทิ้งในเวลานี้จึงถือเป็นการกำจัดศัตรูคู่แค้นที่สำคัญไปได้คนหนึ่ง“เจ้าต้องกลับวังอีกแล้วสินะ! ข้าจะไม่ได้เห็นเจ้าอีกหลายเดือนอีกแล้วใช่หรือไม่ หวังจริงว่า ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าตอนเจ้าคลอดลูกได้ คนอื่นล้วนบอกว่า การคลอดลูกเป็นด่านความเป็นตายของผู้หญิงที่เท้าข้างหนึ่งก้าวไปอยู่ในตำหนักมัจจุราช” หลินอวี่ยืนอยู่ข้างนาย มองตามสายตาของนางไปยังควันที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ไกลออกไป

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 364

    เนื่องจากสายสัมพันธ์กับซูฮองเฮา บัดนี้ อำนาจของซูไทเฮาจึงเหนือล้ำเฉิงฮองเฮาไปแล้วดังนั้น ฝูลู่จึงไม่กล้าล่วงเกินฮองเฮาเช่นกัน เพราะไม่ว่าอย่างไรยามอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ ตำแหน่งแห่งที่ของเขาก็ยังไม่มั่นคงนัก ขันทีผู้หนึ่งแบบเขาจะไปช่วยใครได้ เขาช่วยผู้ใดไม่ได้ทั้งนั้นยังคงยุ่งเรื่องผู้อื่นให้น้อยลงจะดีกว่า!“คืนนี้ ฝ่าบาทจะทรงพลิกป้ายของพระสนมท่านใดพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้กล่าวว่า “ไม่พลิกป้ายแล้ว ช่วงนี้ข้างานราชกิจรัดตัว ไม่ต้องจัดนางสนมมาปรนนิบัติแล้ว ตรงไปที่ห้องทรงอักษรเลยเถอะ!”“พ่ะย่ะค่ะ” ฝูลู่กล่าว นับตั้งแต่ฮ่องเต้กลายเป็นองค์รัชทายาท มีวันใดที่ทรงไม่ยุ่งบ้าง เหล่าพระสนมในวังล้วนได้ไทเฮาดูแลทั้งนั้น ก็น่าจะทรงไปทำความรู้จักบ้างเฮ้อ! สถานที่ที่ฮ่องเต้ไปมากที่สุดยังคงเป็นตำหนักคุนหนิงของฮองเฮา ดูท่าเสียนเฟยคงไม่มีโอกาสแล้ว ยังดีที่นางมีลูกสองคนจึงยังรักษาตำแหน่งเสียนเฟยไว้ได้เมื่อจีเฉินที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเห็นฉากนี้ ในใจก็ยิ่งตื่นเต้น อย่างนั้นก็แปลว่าในอนาคตเจียงเฟิ่งหัวจะไม่ได้เป็นฮองเฮา และเซี่ยซางก็ไม่ได้ชอบนางด้วยแต่ไม่ถูกสิ!ลูกก็คลอดออกมาแล้ว เหตุใดพวกเขาสองคนจึงยังดู

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status