แชร์

ความจริงทั้งหมด

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-08 11:05:23

24

ความจริงทั้งหมด

หลังคิดว่าเหลียงฟางหรูอาจไปที่ค่ายโจร เพ่ยเลี่ยงหลินก็มิได้รอช้า เร่งพาคนและกำลังของตนเองขึ้นไปบนเขาตามที่นางเคยบอกเอาไว้ ที่ทางการไม่ยอมปราบปรามโจรป่าเพราะไม่รู้ที่ตั้งค่ายแน่ชัด แต่ยามนี้แม้ไม่ชัดก็ต้องต้องไป

เขาตามหาที่ตั้งค่ายกันอยู่นานก็ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ กระทั่งทหารคนหนึ่งพบกิ่งต้นบ๊วย ถูกปักไว้บนพื้น ราวกับมีคนตั้งใจทิ้งมันไว้ แค่รู้ว่าเป็นดอกบ๊วยเพ่ยเลี่ยงหลินก็คิดได้ในทันทีว่าเป็นเหลียงฟางหรู

เขาให้ทหารทั้งหมดตามกิ่งดอกบ๊วย ผ่านช่องเขา ผาหินซับซ้อนในที่สุดก็มาถึงค่ายโจร เพ่ยซื่อจื่อได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงตะโกนจากด้านข้างของค่ายโจร เร่งรุดตามไปด้วยความร้อนใจ อธิษฐานต่อทุกสิ่งขอให้นางปลอดภัยไร้อันตาย

แต่ดูเหมือนคำอธิษฐานของเขาจะไร้ผล ภาพหญิงสาวร่างกายบอบบางที่นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น ลมหายใจรวยริน ทำให้เขาหายใจไม่ออก เวียนหัวไปชั่วขณะ กระโดดลงจากหลังม้าด้วยมือไม้เยียบเย็น หากเขาคิดการรอบคอบกว่านี้นางคงไม่ต้องบาดเจ็บหนักถึงเพียงนี้ บ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ความต้องการสุดท้าย

    25ความต้องการสุดท้าย หิมะแรกที่ตกในวันนี้ฟ้าดินคงตั้งใจเยาะเย้ยความโง่ของนาง อากาศหนาวเหน็บทำให้ร่างกายที่ไม่ได้ขยับไปไหนเย็นยะเยียบ ปลายมือปลายเท้าชาไร้ความรู้สึก ร่างกายแทบทุกส่วนไม่มีความรู้สึกใดราวกับมันกำลังดับสิ้น สูญสลายแต่หัวใจนางกลับเจ็บปวดรวดร้าว คล้ายกับมีผู้ใดใช้มีดแทงเข้ามาช้า ๆ จากนั้นดึงออกพร้อมกับเฉือนเนื้อออกมาทีละน้อย เจ็บปวดยากจะอธิบายได้ชายคนรักนอนนิ่งอยู่ไม่ห่างกายนาง ทั้งสองไม่ได้เอื้อนเอ่ยสิ่งใดออกมาอีก หิมะยังคงตกหนัก สายลมหอบนำความเย็นมาห่มร่างทำให้ร่างกายที่สูญเสียเลือดไปมากยิ่งสั่นสะท้าน ลมหายใจใกล้หมดลงในทุกขณะนางไม่เคยทำผิดกับผู้ใด เว้นเพียงเพ่ยเลี่ยงหลินที่นางต้องรู้สึกผิด เขาช่วยเหลือนางสารพัดสิ่งแต่นางกลับพาเขามาตายที่นี่ ผู้ที่ทำให้ตายกลับรอดชีวิตไปได้ โลกนี้มีความยุติธรรมอยู่ที่ใดกัน“หึหึ” น่าขันสิ้นดี นางไม่เคยทำผู้ใดเดือดร้อนแต่สุดท้ายกลับพบชะตากรรมเช่นนี้ หญิงสาวหัวเราะแผ่วเบาน้ำเสียงแหบพร่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-09
  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   เริ่มต้นอีกครา (ภาคแก้แค้น)

    26เริ่มต้นอีกครา ม่านฟ้าถูกฉาบด้วยแสงสีเหลืองรำไรยามเย็น หญิงสาวหลือบมองสตรีทั้งสองที่อยู่อีกฝั่งของต้นบ๊วย ไม่ต้องคิดหรือทบทวนสิ่งใดมากมาย เพราะนางจำทุกสิ่งได้เป็นอย่างดี ราวกับยังวนเวียนอยู่ในเหตุการณ์นั้นซ้ำไปซ้ำมานั่งอยู่ใต้ต้นบ๊วยฟังสองแม่ลูกสนทนากันเรื่องออกจากจวนไปเที่ยวเทศกาลซีซี ร่วมชมงานประชันเย็บปักที่โรงเตี้ยมเหอชง ทุกประโยคล้วนแต่เหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน เหลียงฟางหรูเอนกายพิงโคนต้นบ๊วยนั่งอยู่ตรงนี้ต่ออีกครึ่งชั่วยามระหว่างนี้ก็ทบทวนเหตุการณ์ต่าง ๆ ในครั้งก่อน นางกล่าวไว้แล้วว่าอย่างไรก็ต้องเอาคืน แต่นางมิใช่คนฉลาดเท่าใดนักไม่เช่นนั้นคงไม่ตายอย่างอนาถทั้งที่กล่าวว่าอยากแก้แค้น แต่พอรู้ว่าตนเองยังไม่ตายสิ่งแรกที่คิดถึงกลับเป็นใบหน้าหมดจดหล่อเหลาของเพ่ยเลี่ยงหลิน ครั้งก่อนเพราะนางเขาจึงต้องจบชีวิตไปพร้อมกันโอกาสที่ได้มาในครานี้นางไม่อยากดึงเขาเข้ามาเกี่ยวข้อง นางไม่รู้ว่าด้วยความสามารถตนเองจะทำเรื่องนี้สำเร็จหรือไม่ แต่ขอเพียง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ชีวิตนี้มีเพียงต้นบ๊วย

    บทนำชีวิตนี้มีเพียงต้นบ๊วยดวงหน้างดงามผุดผาดของหญิงสาววัยสิบเจ็ดปีผินมองอีกฝั่งของต้นบ๊วย เมื่อได้ยินบางสิ่งจากคนทั้งสอง อากาศในฤดูคิมหันต์นั้นช่างร้อนเหลือคณา ทิวากรสาดแสงแรงจ้าอยู่กลางท้องฟ้า มิอาจทนอยู่ในเรือนที่อุดอู้ได้ เรือนนอนของนางมีหน้าต่างรับลมเล็ก ๆ อากาศร้อนเช่นนี้จึงไม่อาจทนอยู่ได้ เกิดมาเกือบสิบแปดปีไม่เคยได้ออกไปร่วมงานเทศกาลใดในเมือง ดังคุณหนูตระกูลใหญ่คนอื่น แม้แต่ตอนมารดาอยู่นางก็ยังไม่สามารถออกไปจากจวนได้ตามใจ หลังจากมารดาสิ้นนางยิ่งลำบากกว่าเดิม นอกจากบิดารังเกียจ แม่รองชอบรังแก ยังมีน้องสาวต่างมารดาที่บางคราก็ดี บางทีก็คอยกลั่นแกล้ง นางจึงมีชีวิตที่อาภัพมากยิ่งขึ้น กระทั่งสาวใช้บิดายังไม่ยอมให้นางมีหนึ่งในความฝันของหญิงสาวก็คงเป็นการเที่ยวงานเทศกาลบ้างกระมัง สตรีหากไม่เลยวัยปักปิ่นก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เที่ยวออกไปตระเวนอยู่นอกบ้าน แต่นางแม้เลยวัยปักปิ่นมาแล้วก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปตามใจต้องการ“ลูกอยากไปเจ้าค่ะ” น้องสาวต่างมารดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงน่าเอ็นดู มารดาที่เอ็นดูนางอยู่แล้วจึงยิ่งเอ็นดูนางเข้าไปอีก ยกฝ่ามือลูบแก้มบุตรสาวแผ่วเบา ทั้งสองคงกำลังชักชวนกันออ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   งานเทศกาล

    1งานเทศกาลแสงสุริยาในฤดูคิมหันต์ส่องสว่างไปทั่วท้องฟ้าจนไม่อาจฝืนมองสู้แสงได้ แต่ถึงอย่างนั้นเหลียงฟางหรูก็ยังคงยืนรออยู่ที่ลานข้างต้นบ๊วยต้นใหญ่ตามคำบอกกล่าวของน้องสาวต่างมารดา กำชับนางไว้เมื่อวานหากอยากไปด้วยก็ย่อมต้องรอ รอนานเท่าใดมิอาจจำได้ทว่าบัดนี้ล่วงเลยเข้าสู่ยามเซินแล้วแต่ทั้งสองก็ยังไม่มา ยามเซินสองเค่อแม่รองและน้องสาวจึงปรากฎตัวให้เห็นสตรีทั้งสองสวมชุดใหม่งดงามท่อนล่างเองก็คงเป็นชุดที่ถูกตัดมาใหม่ ต่างกับนางนักที่ไม่ว่าจะท่อนบนหรือท่อนล่างล้วนเป็นชุดเก่าของมารดาทั้ง เหลียงฟางหรูไม่ใช่ผู้คิดมากจึงมิได้ถือสาริษยาใด ๆเห็นถีเยว่สือเดินนำน้องสาวมาก่อน “คารวะท่านแม่รอง” หญิงสาวยอบกายลงเมื่อเห็นภรรยาของบิดาเดินมา พลางยิ้มอ่อนโยนให้ทั้งคู่ ท่าทางอ่อนหวานอ่อนโยน เหลียงฟางหรูเป็นเด็กสาวหัวอ่อน จิตใจดี ไม่ชอบมีเรื่องกับผู้ใดจึงมักยอมคนอยู่เสมอ ถีเยว่สือขยับริมฝีปากคว่ำลงเล็กน้อยจากนั้นจึงปล่อยมันกลับไปเป็นขีดเรียบ ๆ เช่นเดิม แม้ไม่ชอบใจเหลียงฟางหรูเท่าใดแต่ก็มีเหตุผลที่ไม่อาจแสดงท่าทีรังเกียจนางได้ในตอนนี้“พี่ฟางหรูรอนานหรือไม่” เหลียงฟางหรงผู้เป็นน้องเอ่ยถามพลางไล่มองการแต่งกายผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ร่วมประชันเย็บปัก

    2ร่วมประชันเย็บปักเสียงภายในโรงเตี้ยมชั้นล่างเงียบลงเมื่อหญิงสาวปรากฎตัว คราแรกที่เดินเข้าไปมิได้มีผู้ใดสนใจ แต่ครานี้นางเดินไปกลางโถงผู้คนจึงให้ความสนใจ และเมื่อเห็นใบหน้างดงาม ผิวขาวเนียนราวหิมะโปรยของนาง ผู้คนจึงเงียบเสียงลงสายตามากมายจดจ้องทุกการกระทำ ไม่ว่าจะเป็นการเยื้องย่าง หรือหยิบยื่น พอเสียงเงียบลงนางถึงเริ่มรู้สึกอึดอัดใจ หวั่นไหวเพราะกริ่งเกร็ง เดิมทีมีเพียงชั้นล่างเงียบแต่บัดนี้ชั้นบนก็เงียบตามไปด้วยหญิงสาวพลันหูอื้อไปชั่วขณะ ได้ยินกระทั่งเสียงลมหายใจตนเอง มือสั่นเล็กน้อยไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรก็เหตุการณ์เช่นนี้ ไม่คุ้นชิน ไม่คุ้นเคย นางเงยหน้ามองชั้นบนราวขอความช่วยเหลือ แต่ทุกสิ่งล้วนว่างเปล่าญาติสนิทสองคนด้านบนมิได้สนใจนาง นางยืนเงียบยื่นผ้าปักให้หญิงชราผู้นั้น จนกระทั่งนางเอ่ยถามจึงค่อยโล่งใจขึ้น “คุณหนูท่านชื่อแซ่ใด”“ข้าแซ่เหลียง นามฟางหรูเจ้าค่ะ”“เช่นนี้เอง คุณหนูเป็นบุตรสาวอีกคนของเหลียงซ่างซู” หญิงสาวพูดพลางยิ้มให้ รู้สึกว่าเหลียงฟางหรูน่าเอ็นดูนัก นางไม่เหมือนไม่คล้ายบรรดาคุณหนูใหญ่เลยแม้แต่น้อยเพราะบรรดาสตรีเหล่านั้นล้วนวางท่าสูงส่ง เหยียบย่ำผู้ที่ด้อยกว่า ต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ช้าไปเสียแล้ว

    3ช้าไปเสียแล้วใบหน้าหมดจดงดงามซบลงบนแผงอกกำยำ ซุกไซ้ราวกับต้องการเฟ้นหาความอบอุ่นจากร่างกายสูงโปร่งตรงหน้าที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อใด สองแขนโอบอุ้มนางขึ้นแล้วเดินผ่านเหล่าบุรุษที่มองมาอย่างงุนงงออกไปด้านข้างหอสุราชายหนุ่มถูกใบหน้างดงามชวนมองทำให้จดจ้องนางตั้งแต่อยู่บนรถเทียมม้าคันใหญ่ เผลอยิ้มตั้งไม่รู้กี่คราตอนเห็นใบหน้าเล็กเรียวนั่นตื่นเต้นกับสิ่งต่าง ๆ ภายนอกผ่านหน้าต่างรถเทียมม้า กระทั่งนางหายเข้าไปในโรงเตี้ยมจึงนั่งลิ้มรสสุราลือชื่อต่อเสียหน่อยเดิมทีเขาควรต้องรีบไปจากตลาดบูรพาแต่วันนี้เป็นเทศกาลซีซี คิดอยากดูว่านอกจากสตรีที่ไม่เคยเห็นหน้า ยังมีสิ่งใดน่าสนใจอีกหญิงสาวผู้นั้นวิ่งหอบลมหายใจราวกับกลัวว่าจะมีผู้ใดเห็น แต่ด้วยใบหน้าของนางไม่ว่าจะหลบหลีกอย่างไรก็ต้องมีคนเห็น เขาจึงหย่อนตัวลงบนเก้าอี้เช่นเดิมนั่งดูนางอีกสักครู่ ร่างเล็กกระสับกระส่ายผิดวิสัย ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดโตราวเม็ดทับทิม พวงแก้มทั้งสองแดงระเรื่อ วิ่งเข้าอาคารนั้นออกอาคารนี้เช่นนี้ไม่ปกติ ชายหนุ่มจึงโผนกายลงจากชั้นสองตามลงไป กระทั่งผู้ติดตามยังมิอาจห้ามปรามได้ทัน...“คุณชาย ให้ทำอย่างไรดีขอรับ” ผู้ติดตาม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ขุ่นข้องใจ

    4ขุ่นข้องใจหญิงสาวลืมตาตื่นเมื่อแสงสว่างจากภายนอกสาดส่องผ่านกระดาษไขเข้ามา เปลือกตาหนักพริบขึ้นลงหลายครั้ง ในหัวพยายามจัดการทบทวนทุกเหตุการณ์จนแน่ใจแล้วก็เบิกตาโพล่งขึ้นมาภาพในหัวฉายซ้ำไปซ้ำมาหลายสิบครั้ง ราวกับกำลังตอกย้ำว่านางทำสิ่งผิดมากมายเพียงใด หยาดน้ำตาก่อขึ้นหยดลงแต่เหือดแห้งไปเมื่อได้ยินเสียงกุกกักนอกห้องร่างกายที่มีเพียงชุดคลุมสีขาวบางขยับไปชิดตั่งนุ่มด้านใน หัวใจสั่นไหวราวกับภูเขาถล่ม หอบหายใจรวดเร็วกลัวว่าข้างนอกจะมีสิ่งน่ากลัวที่นางคิดอยู่ในประตูไม้ถูกเปิดเสียงแผ่วเบาคล้ายกลัวคนข้างในจะตื่น หญิงสาวอายุราวสิบสี่สิบห้ากำลังหย่อนเท้าข้ามมาอีกด้านของประตู ใบหน้าเรียบเฉยเผยยิ้มดีใจเมื่อสายตาจับจ้องชัดเจนว่าในที่สุดคนด้านในก็ตื่นเสียทีหญิงสาวย่อกายลงข้างเตียงเอ่ยถามเสียงนอบน้อม “คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ” นางถูกสั่งให้มาดูแลสตรีผู้นี้ตั้งแต่ยามเหมา คล้ายนางจะมีไข้เมื่อสัมผัสตัวแล้วจึงออกไปต้มน้ำ ทำอาหารรอให้นางตื่น“เจ้าเป็นผู้ใดกัน เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ แล้วนี่ข้าอยู่ที่ใด” สายตาเลือนลางถามออกไป ขณะเดียวกันก็พึงระลึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ ความทรงจำสุดท้ายที่จำได้คือนางกล่าว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   หนทางแก้ไข

    5หนทางแก้ไขฝ่ามือเล็กกุมแก้มเนียนของตนเองไว้มือสั่นเทาไม่คลาย แววตาวูบไหว ความรู้สึกในอกสั่นระคนเสียใจ นางรู้ดีว่าเหตุการณ์นี้ตนเองมีความผิด แต่หากบิดามีใจเมตตาสักน้อยก็ควรฟังนางเสียหน่อยเดิมทีคิดอยากแก้ตัวแต่เห็นเช่นนี้มิสู้เงียบไว้ ถูกลงโทษให้สาสมไปเลยดีกว่า“ท่านพ่อ พี่สาวมิได้ตั้งใจท่านอย่าโกรธไปเลย” หญิงสาวที่มาใหม่กล่าวด้วยถ้อยคำอ่อนหวาน ห้ามปรามบิดากลาย ๆ ไม่ให้เอาโทษพี่สาว เหลียงฟางหรงเป็นเช่นนี้เสมอนางมักวางแผนให้เหลียงฟางหรูถูกบิดามารดาเอาโทษ สุดท้ายจึงแสร้งมาขอร้องอ้อนวอนให้บรรเทาโทษเพราะเป็นเช่นนี้เหลียงฟางหรูจึงไม่เคยทันเล่ห์เหลี่ยมน้องสาว ยังหลงคิดว่านางเป็นสตรีจิตใจดีแต่ซุกซนอยู่เสมอก็เท่านั้น“ฟางหรงเจ้าไม่ต้องพูดแทนนาง มีสตรีใดในเมืองบ้างที่ยังไม่ออกเรือนแต่อยู่นอกจวนทั้งคืนดั่งนาง”“พี่สาวสำนึกแล้วเจ้าค่ะท่านพ่อ อย่าได้เอาเรื่องอีกเลย ลงโทษก็ลงโทษไปแล้ว” หญิงสาวกล่าวจบผินไปหน้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-19

บทล่าสุด

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   เริ่มต้นอีกครา (ภาคแก้แค้น)

    26เริ่มต้นอีกครา ม่านฟ้าถูกฉาบด้วยแสงสีเหลืองรำไรยามเย็น หญิงสาวหลือบมองสตรีทั้งสองที่อยู่อีกฝั่งของต้นบ๊วย ไม่ต้องคิดหรือทบทวนสิ่งใดมากมาย เพราะนางจำทุกสิ่งได้เป็นอย่างดี ราวกับยังวนเวียนอยู่ในเหตุการณ์นั้นซ้ำไปซ้ำมานั่งอยู่ใต้ต้นบ๊วยฟังสองแม่ลูกสนทนากันเรื่องออกจากจวนไปเที่ยวเทศกาลซีซี ร่วมชมงานประชันเย็บปักที่โรงเตี้ยมเหอชง ทุกประโยคล้วนแต่เหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน เหลียงฟางหรูเอนกายพิงโคนต้นบ๊วยนั่งอยู่ตรงนี้ต่ออีกครึ่งชั่วยามระหว่างนี้ก็ทบทวนเหตุการณ์ต่าง ๆ ในครั้งก่อน นางกล่าวไว้แล้วว่าอย่างไรก็ต้องเอาคืน แต่นางมิใช่คนฉลาดเท่าใดนักไม่เช่นนั้นคงไม่ตายอย่างอนาถทั้งที่กล่าวว่าอยากแก้แค้น แต่พอรู้ว่าตนเองยังไม่ตายสิ่งแรกที่คิดถึงกลับเป็นใบหน้าหมดจดหล่อเหลาของเพ่ยเลี่ยงหลิน ครั้งก่อนเพราะนางเขาจึงต้องจบชีวิตไปพร้อมกันโอกาสที่ได้มาในครานี้นางไม่อยากดึงเขาเข้ามาเกี่ยวข้อง นางไม่รู้ว่าด้วยความสามารถตนเองจะทำเรื่องนี้สำเร็จหรือไม่ แต่ขอเพียง

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ความต้องการสุดท้าย

    25ความต้องการสุดท้าย หิมะแรกที่ตกในวันนี้ฟ้าดินคงตั้งใจเยาะเย้ยความโง่ของนาง อากาศหนาวเหน็บทำให้ร่างกายที่ไม่ได้ขยับไปไหนเย็นยะเยียบ ปลายมือปลายเท้าชาไร้ความรู้สึก ร่างกายแทบทุกส่วนไม่มีความรู้สึกใดราวกับมันกำลังดับสิ้น สูญสลายแต่หัวใจนางกลับเจ็บปวดรวดร้าว คล้ายกับมีผู้ใดใช้มีดแทงเข้ามาช้า ๆ จากนั้นดึงออกพร้อมกับเฉือนเนื้อออกมาทีละน้อย เจ็บปวดยากจะอธิบายได้ชายคนรักนอนนิ่งอยู่ไม่ห่างกายนาง ทั้งสองไม่ได้เอื้อนเอ่ยสิ่งใดออกมาอีก หิมะยังคงตกหนัก สายลมหอบนำความเย็นมาห่มร่างทำให้ร่างกายที่สูญเสียเลือดไปมากยิ่งสั่นสะท้าน ลมหายใจใกล้หมดลงในทุกขณะนางไม่เคยทำผิดกับผู้ใด เว้นเพียงเพ่ยเลี่ยงหลินที่นางต้องรู้สึกผิด เขาช่วยเหลือนางสารพัดสิ่งแต่นางกลับพาเขามาตายที่นี่ ผู้ที่ทำให้ตายกลับรอดชีวิตไปได้ โลกนี้มีความยุติธรรมอยู่ที่ใดกัน“หึหึ” น่าขันสิ้นดี นางไม่เคยทำผู้ใดเดือดร้อนแต่สุดท้ายกลับพบชะตากรรมเช่นนี้ หญิงสาวหัวเราะแผ่วเบาน้ำเสียงแหบพร่า

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ความจริงทั้งหมด

    24ความจริงทั้งหมด หลังคิดว่าเหลียงฟางหรูอาจไปที่ค่ายโจร เพ่ยเลี่ยงหลินก็มิได้รอช้า เร่งพาคนและกำลังของตนเองขึ้นไปบนเขาตามที่นางเคยบอกเอาไว้ ที่ทางการไม่ยอมปราบปรามโจรป่าเพราะไม่รู้ที่ตั้งค่ายแน่ชัด แต่ยามนี้แม้ไม่ชัดก็ต้องต้องไปเขาตามหาที่ตั้งค่ายกันอยู่นานก็ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ กระทั่งทหารคนหนึ่งพบกิ่งต้นบ๊วย ถูกปักไว้บนพื้น ราวกับมีคนตั้งใจทิ้งมันไว้ แค่รู้ว่าเป็นดอกบ๊วยเพ่ยเลี่ยงหลินก็คิดได้ในทันทีว่าเป็นเหลียงฟางหรูเขาให้ทหารทั้งหมดตามกิ่งดอกบ๊วย ผ่านช่องเขา ผาหินซับซ้อนในที่สุดก็มาถึงค่ายโจร เพ่ยซื่อจื่อได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงตะโกนจากด้านข้างของค่ายโจร เร่งรุดตามไปด้วยความร้อนใจ อธิษฐานต่อทุกสิ่งขอให้นางปลอดภัยไร้อันตายแต่ดูเหมือนคำอธิษฐานของเขาจะไร้ผล ภาพหญิงสาวร่างกายบอบบางที่นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น ลมหายใจรวยริน ทำให้เขาหายใจไม่ออก เวียนหัวไปชั่วขณะ กระโดดลงจากหลังม้าด้วยมือไม้เยียบเย็น หากเขาคิดการรอบคอบกว่านี้นางคงไม่ต้องบาดเจ็บหนักถึงเพียงนี้ บ

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   แอบช่วยเหลือ

    23แอบช่วยเหลือ นางจำผู้ใดไม่ได้เลย ทว่าเมื่อได้ยินเขากล่าวถึงจวนเหลียง ภาพความทรงจำมากมายก็แวบผ่านไปผ่านมาไม่หยุดหย่อน ราวกับมันกำลังกลับเข้าที่เข้าทาง สุดท้ายนางก็จำเรื่องราวทั้งหมดได้แล้วจำได้ว่าน้องสาวต่างมารดาเป็นห่วงช่วยเหลือนางอย่างไรบ้าง จึงรวบรวมความกล้าหนีออกจากเรือนสุรายามหยิน เพื่อไปช่วยน้องสาวต่างมารดาเหลียงฟางหรงที่ค่ายโจร ซึ่งนางเคยถูกจับไปขังมาก่อน ยังพอจำได้ลาง ๆเรือนสุราอยู่ที่ร่องเขาเทียนกวาง ค่ายโจรอยู่ยอดเขาใช้เวลาเดินเท้าจากร่องเขาไปยอดเขาสองชั่วยาม หากใช้เส้นทางเดียวกับที่โจรใช้หนึ่งชั่วยามก็มาถึงทางเล็กหน้าค่ายเหลียงฟางหรูก้มตัวอยู่หลังพุ่มไม้สูงกวาดสายตามองฝ่าความมืดเข้าไปในค่าย หาที่ ๆ นางเคยถูกกักขัง ค่ายโจรที่นางกลับมาครานี้ดูใหญ่กว่าก่อนไม่น้อยเลย ระหว่างนี้พวกโจรคงไปปล้นสะดมชาวบ้านมาอีกแล้วแต่เหตุใดค่ายโจรใหญ่โตกลับเงียบเชียบไร้สุ้มเสียง นางนั่งรออยู่ที่เดิมถึงสองเค่อรอให้แน่ใจว่าไม่มีผู้ใดอยู่

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   หายตัวไป

    22หายตัวไป “ว่ามา” ร่างสูงโปร่งยืนนิ่งอยู่กลางห้องหนังสือภายในเรือนสุรา เมื่อมู่หรงหยุดฝีเท้าเขาจึงเอ่ยถามข่าวสารนั้น เดิมทีให้คนตามสืบเพราะอยากรู้ข่าวของเหลียงฟางหรูแต่ยามนี้นางไม่ได้อยู่ที่นั่น เขาไม่อยากรู้ทว่าก็ยังสงสัยว่าเรื่องนี้มันเร่งด่วนอย่างไร คนของเขาจึงเร่งส่งข่าวมา“เรียนซื่อจื่อ สายของเรารายงานว่าเหลียงฮูหยินและคุณหนูรองออกไปร่วมงานสักการะ แต่ถูกดักปล้นระหว่างทางคุณหนูรองเหลียงฟางหรงถูกโจรพาตัวไปขอรับ”“แล้วอย่างไร”“คนของเราคงคิดว่าซื่อจื่ออยากตามสืบตระกูลเหลียงจึงส่งข่าว” เพ่ยเลี่ยงหลินกล่าวถ้อยคำราบเรียบไม่ใส่ใจ เมื่อรู้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเหลียงฟางหรูจึงเดินออกไปรับหญิงสาวไปเดินเล่นด้านหลังเรือนสมุนไพร“ไปเลยดีหรือไม่” เหลียงฟางหรูหันกลับมามองผู้ถาม เขายืนอยู่กลางห้องด้วยท่าทีสงบนิ่ง ไม่ได้เร่งรีบหรือแสดงอารมณ์อื่น เขามองมายังนางที่นั่งอยู่บนตั่งริมหน้าต่าง หญิงสาวพยักหน้ายิ้มบางเบา ลุกขึ้นยืนว

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ข่าวจวนเหลียง

    21ข่าวจวนเหลียง รถเทียมม้าคันเล็กไม่โอ่อ่ามุ่งหน้าสู่ถนนฟูหลิงแม้เร่งรีบเพียงใดก็มิอาจมองข้ามความปลอดภัยได้ เพ่ยเลี่ยงหลินจำต้องเปลี่ยนชุดแทนที่รถเทียมม้าด้วยม้าเร็วไม่นานนักม้าเร็วก็มาถึงชานเมือง พร้อมด้วยองครักษ์และคนสนิท แม้ใบหน้าจะยังราบเรียบไร้อารมณ์แต่หัวกลับเต็มไปด้วยคำพูดมากมาย คิดมาตลอดทางว่าหากพบหน้านางจะพูดสิ่งใดก่อนดีเรื่องที่ยามนี้นางกำลังตั้งครรภ์อยู่ หลังพบว่านางตั้งครรภ์เขาไม่ได้บอกกล่าวเรื่องนี้แก่ผู้ใดมีเพียงเมิ่งสือซานเท่านั้นที่รู้ เกรงว่านางจะตื่นตกใจจนรับเรื่องนี้ไม่ได้อาชาบึกบึนตัวดำทะมึนราวสีหมึกหยุดฝีเท้าลงเมื่อถึงบริเวณลานพักม้าของเรือนสุรา ดีที่ม้าของเขาเป็นม้าศึกชั้นยอดไม่อย่างนั้นข่มม้าวิ่งมาไกลเช่นนี้ ม้าคงได้เป็นลมตายไปหลายตัวเลย“คารวะซื่อจื่อ” หมาจื่อที่กำลังให้อาหารม้าอยู่ตรงลานพัก วางสิ่งของในมือลงประสานมือคำนับผู้เป็นนาย ไม่ทันคิดว่าส่งสารไปเพียงวันเดียวซื่อจื่อก็มาถึงเรือนสมุนไพรแห่งนี้เสียแล้ว

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ลืมทุกสิ่งเสียสิ้น

    20 ลืมทุกสิ่งเสียสิ้น “คุณหนู จำเสี่ยวไป๋ได้หรือไม่เจ้าคะ” ผู้ถูกถามไม่ได้ตอบแต่ยังคงมองหน้าคนถามนิ่ง ๆ พิจารณาอยู่นานราวกับกำลังจัดเรียงความทรงจำทั้งหมดในยามไม่ได้สติ ครุ่นคิดเรื่องราวก่อนนี้อยู่นานนางก็ถอนหายใจออกมาแผ่วเบาพลางส่ายหน้าปฏิเสธคำถามเมื่อครู่ของเสี่ยวไป๋ นางจำสิ่งใดไม่ได้แม้แต่น้อย จำไม่ได้กระทั่งว่าที่นี่คือที่ใด เด็กสาวตรงหน้าเป็นอะไรกับตนเอง นางลืมทุกสิ่งเสียสิ้น เสี่ยวไป๋เบิกตาโพลงจ้องมองหญิงสาวบนเตียง ไม่คิดว่าเหลียงฟางหรูจะอาการแย่นัก สองสามเดือนนี้นางใช้ชีวิตเหมือนหญิงสาวทั่วไปได้เพียงสิบกว่าวันเท่านั้น “ที่นี่ที่ใดกัน เหตุใดข้าจึงมาอยู่ที่นี่” หญิงสาวบนเตียงเอ่ยถามน้ำเสียงเลื่อนลอย สายตาไม่ได้จดจ้องสิ่งใดเพียงไล่มองไปเรื่อยเปื่อย จะกล่าวว่าไม่คุ้นชินกับที่นี่ก็มิใช่เช่นนั้น หากบอกรู้จักก็มิใช่ “คุณหนูท่านรอที่นี่ เสี่ยวไป๋จะตามหมอเมิ่งเด

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ชีพจรแผ่วเบา

    19ชีพจรแผ่วเบา “นางเป็นอย่างไร” เมื่อหมอเดินออกมาจากกระโจมแม่ทัพ เพ่ยซื่อจื่อก็รีบปรี่เข้าไปถามอาการของนาง จากนั้นจึงโบกมือให้เสี่ยวไป๋ข้าไปดูแลนาง ส่วนตนเองพูดคุยกับหมอและเจ้าของกระโจมอยู่ด้านนอก“เรียนซื่อจื่อ นางตกใจมากจึงหมดสติไปเกรงว่าอาจได้รับความกระทบกระเทือนหนัก เมื่อฟื้นขึ้นมาอาจจะยังคงมีอาการเพ้อบ้าง”“รักษาได้หรือไม่” เขาถามหมอในค่ายอย่างร้อนรน นางประสบแต่เคราะห์ร้ายเมื่อเขาไม่อยู่ และเขาเองก็ไม่สามารถอยู่กับนางได้ตลอดจึงยิ่งร้อนใจ หลังกลับจากค่ายเฉิงเชียงเขาต้องไปรับโทษยังวังอ๋องที่ขัดราชโองการ ซ้ำยังบุกรุกค่ายรักษาเมืองเช่นนี้“อาจต้องใช้เวลานาน มีสิ่งหนึ่งที่กระหม่อมไม่รู้ควรพูดดีหรือไม่” ผู้เป็นหมอกล่าวติดขัด เมื่อครู่เขาได้ตรวจอาการนางพบเรื่องแปลกที่ยังไม่อาจสรุปได้หนึ่งอย่าง จึงไม่มั่นใจว่าควรกราบทูลในยามนี้หรือไม่เพ่ยซื่อจื่อขมวดคิ้วแน่นนึกโมโหอยู่ไม่น้อยที่บุรุษตรงหน้าคิดเองไม่ได้ว่าสิ่งใดสำคัญหรือไม่สำคัญ ทั้งที่ตนเองก

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   บุกค่ายเฉิงเชียง

    18บุกค่ายเฉิงเชียง ต้าซานกับมู่หรงยังประมือกับทหารหน้าค่าย ยามนี้ท่ามกลางทหารจึงมีเพียงซื่อจื่อยืนอยู่ ปอยผมหลุดร่วงจากมวยผมกลางศีรษะ หน้าอกขยับขึ้นลงอย่างหนัก เขาเดินทางไกลม้าพักแต่คนไม่ เขากระวนกระวายไม่ได้ดื่มกระทั่งน้ำเปล่า“เพ่ยเลี่ยงหลิงเจ้าอยู่ที่ใด ออกมาเดี๋ยวนี้” เพ่ยซื่อจื่อตะโกนก้องเรียกชื่อแม่ทัพประจำค่าย ทหารรอบข้างเริ่มหันมองกันแม้ไม่รู้ว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้าคือผู้ใด แต่ในเมื่ออีกฝ่ายอาจหาญมากถึงกับเอ่ยชื่อแม่ทัยค่ายเฉิงเชียงตรง ๆ เช่นนี้ เขาก็คงมิใช่สามัญชนธรรมดาเป็นแน่ไม่นานม่านกระโจมก็ถูกเลิกขึ้น ร่างสูงโปร่งในชุดเกราะสีดำทมิฬก้าวเท้าออกมาใบหน้าหล่อเหลา แม้จะเรียบเฉยแต่กลับแฝงแววตาขบขันอยู่ไม่น้อย“ข้ายังนึกว่าผู้ใดกันกล้าเอ่ยชื่อข้าตรง ๆ เช่นนี้ ที่แท้ก็เป็นเพ่ยซื่อจื่อ” น้ำเสียงไม่จริงจังกล่าวพร้อมกับเดินมาหยุดยืนตรงหน้า ทหารโดยรอบรีบลดดาบและทวนลง เมื่อรู้ว่าผู้ที่ยืนอยู่กลางวงล้อมคือเพ่ยเลี่ยงหลินซื่อจื่อแห่งแคว้นจิ้ง พี่ชายแท้ ๆ แม้จะต่าง

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status