บทที่ 11
มัดมือชก
ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นฉันก็เริ่มฮอตขึ้นมาทันที จากตอนแรกที่ไม่คิดว่าจะมีหนุ่มๆ สนใจ แต่กลับตรงกันข้าม จนตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเลือกคบกับใครดี อาจจะดูเหมือนเกินจริงแต่ทว่ามันได้เกิดขึ้นแล้ว
ตอนนี้ฉันกำลังเดินหอบเอกสารปึกใหญ่ เข้าไปในห้องทำลายเอกสารเพียงลำพัง เนื่องจากฉันเป็นน้องเล็กสุดเรื่องอะไรพวกนี้จึงตกมาเป็นหน้าที่อย่างช่วยไม่ได้ เมื่อเดินเข้าไปในห้องก็พบว่ามีช่างกำลังซ่อมแอร์อยู่ ฉันจึงชะงักเล็กน้อยแล้ววางเอกสารไว้บนโต๊ะ
“อ้าว! แอร์เสียหรอกเหรอคะเนี่ย”
“ต้องรออีกแปบนะครับคนสวย ผมเปิดหน้าต่างไว้แล้วน่าจะช่วยระบายอากาศได้บ้าง” ชายหนุ่มที่กำลังนั่งอยู่บนบันไดหันมาเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม สวมชุดหมีสีกรมท่าดูแล้วคงจะอยู่ฝ่ายวิศวกรรม ใบหน้าเขาหล่อไม่น้อย ฉันเพิ่งรู้ว่ามีคนหล่อเทียบเท่าบอสในบริษัทด้วยแฮะ
“ไม่มีปัญหาค่ะ ซ่อมตามสบายเลยค่ะพี่” ฉันยิ้มให้เขา จากนั้นก็หันมาสนใจงานของตัวเองบ้าง เสียบปลั๊กแล้วก็เปิดเครื่อง หย่อนเอกสารลงไปในช่องเพื่อเข้าสู่กระบวนการทำลาย
ในระหว่างนั้น
บทที่ 12ความอ่อนโยนเมื่อรถหรูเคลื่อนล้อมาจอดเทียบหน้าบ้านแล้ว ฉันยังคงนั่งนิ่งไม่ยอมขยับเขยื้อนตัว นั่นเพราะไม่อยากให้เขาเข้าไปในบ้านด้วยเลยสักนิด แม่เดินมายืนจ้องๆ มองๆ ที่หน้ารถเพื่อดูว่าเป็นใคร ก่อนจะยิ้มแก้มฉีกเมื่อเห็นฉันนั่งอยู่ในรถด้วย“จะลงไม่ลง” เขาเอียงหน้ามาถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน แม้จะเห็นว่าตอนนี้หน้าฉันกำลังบึ้งตึงมากแค่ไหน“บอสจะค้างจริงๆ เหรอคะ แค่ทานข้าวเย็นก็พอแล้วมั้ง”“ฉันจะค้าง” เขาเอ่ยเสียงเข้มขึ้น สายตาคมที่มองมาราวกับกำลังสะกดจิตให้ฉันยอมศิโรราบ“เฮ้อ! เอาแต่ใจจริงๆ คอยดูเถอะหนูจะหางานใหม่ บอสจะได้ไม่ต้องบังคับหนูได้อีก”“ถึงเธอจะไปทำงานที่อื่นก็อย่าหวังว่าจะหนีฉันได้ ฉะนั้นอย่าแม้แต่จะคิด จะลงไปได้หรือยังแม่เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่รออยู่แล้วโน่น”เมื่อหันไปมองก็เป็นอย่างที่บอสพูดจริงๆ ลงจากรถไปแล้วคงจะปูพรมแดงต้อนรับบอสซะดิบดีเลยล่ะสิท่า“อย่าทำตัวรุ่มร่ามละกันหนูขอแค่น
บทที่ 13สาบานว่าเธอไม่ได้โกหกหลังจากวันที่บอสมานอนค้างบ้านฉัน เขาก็เริ่มเทียวไปหาแม่บ่อยขึ้นแต่ไม่ได้ค้างคืนเหมือนวันนั้น แม่และน้องสาวฉันปลื้มเขามาก จนอยากจะยกตำแหน่งลูกเขยและพี่เขยให้ซะเต็มประดา แต่ฉันกลับไม่เข้าใจว่าเหตุใดบอสต้องทำอย่างนี้ ทั้งๆ ที่เขายังคงเย็นชากับฉัน เห็นเป็นแค่ที่ระบายความใคร่ ราวกับทำไปเพื่อต้องการเอาชนะฉัน ต้องการเอาชนะผู้หญิง ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าเขามีความแค้นฝังใจกับผู้หญิงมาก่อนหรือเปล่าฉันกำลังนั่งรอรถเมล์เหมือนเช่นทุกวัน พลางนึกถึงเรื่องราวระหว่างฉันกับบอสไปด้วย ในระหว่างนั้นก็มีรถบิ๊กไบค์คันหนึ่งขับมาจอดตรงหน้า ชุดที่เขาสวมใส่ดูคุ้นตาราวกับชุดหมีของฝ่ายวิศวกรรม เมื่ออีกฝ่ายถอดหมวกกันน็อกออกมา ก็พบว่าคือพี่มาร์คนั่นเอง เขาส่งยิ้มหล่อมาให้ทำเอาใจฉันแทบจะละลาย“อ้าว! พี่มาร์คสวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้เขา“สวัสดีครับ ขึ้นรถเร็วไปกับพี่”“ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวรถเมล์ก็มาแล้ว”“มาเถอะพี่อุตส่าห์จอดรับขนาดนี้แล้ว”“ก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ” ฉันจำต้องยอมรับน้ำใจพี่มา
บทที่ 14แขกไม่ได้รับเชิญ“ก็หนูนี่ไงคะไม่ได้ชอบผู้ชายรวยๆ” ฉันอยากให้พี่มาร์ครู้ว่ายังมีฉันคนหนึ่ง ที่ไม่ได้มองผู้ชายแค่ความรวย (แม้ว่าจะเคยหลงผิดมาช่วงหนึ่งก็ตามที)“ที่พูดออกมาสาบานว่าเธอไม่ได้โกหก!”นั่นไม่ใช่เสียงพี่มาร์คนะคะ แต่เป็นเสียงบอสที่กำลังเดินตรงมาหาเราที่โต๊ะ แถมไม่ได้มาคนเดียวอีกต่างหาก มียัยหมิวเดินยิ้มปลอมๆ ข้างกายเขาอีกด้วย บอสรู้ได้อย่างไรว่าฉันกับพี่มาร์คมาทานข้าวที่ร้านนี้ ถ้าไม่ได้ตามพวกเรามา จะตามจองเวรจองกรรมกันไปถึงไหนนะผู้ชายคนนี้“อ้าว! บอสมาได้ไงครับ” เมื่อรู้ว่าเป็นบอสพี่มาร์คก็ตกใจเล็กน้อย เพราะคงไม่คิดว่าระดับผู้บริหารจะมาทานอาหารริมทางอย่างนี้“พอดีว่าหมิวชวนมาทานข้าวน่ะ ขอร่วมโต๊ะด้วยคนนายคงไม่มีปัญหานะ” ขอนั่งร่วมโต๊ะแต่ทว่าน้ำเสียงกลับแข็งกระด้าง ไม่มีมารยาทเอาซะเลย“เชิญเลยครับบอส” พี่มาร์คขยับเก้าอี้ให้บอส ส่วนหมิวก็เดินมานั่งฝั่งเดียวกับฉัน นางยังคงยิ้มให้ราวกับนางฟ้าผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารี มีเมตตาต่อสัตว์โลกเมื่อทุกคนนั่งร่วมโต๊ะกันแล้วกลับไ
บทที่ 15เธอได้โดนแน่ยัยเด็กดื้อ“มะ...” กำลังจะเรียกแม่อีกครั้ง แต่ทว่าฉันกลับจุกในลำคอแทบพูดไม่ออก เมื่อเห็นบอสนั่งหน้าสลอนอยู่กับแม่และน้องสาว ทั้งหมดกำลังจ้องมองมาราวกับว่าฉันเป็นผู้ร้ายฆ่าคนตายซะอย่างนั้น ส่วนเขาน่ะเหรอยิ้มมุมปากราวกับซาตานร้ายก็ไม่ปาน จะเล่นงานอะไรฉันอีกล่ะเนี่ย ครั้งนี้จะไม่ยอมแล้วนะ!“ทำไม? เห็นฉันถึงกับพูดไม่ออกเลยเหรอ” เขายิ้มมุมปากราวกับซาตานร้ายก็ไม่ปาน“บอสมาที่นี่ทำไม แล้วมาฟ้องอะไรแม่หนู” ฉันเดินตรงไปหาทุกคน วางถุงขนมเบื้องไว้บนโต๊ะ ก่อนจะหย่อนก้นนั่งลงข้างน้องสาว ทำตัวเป็นปกติเหมือนไม่ได้สะทกสะท้านกับสิ่งที่แม่เอ่ยก่อนหน้านี้“แกไม่ต้องไปว่าให้คุณเขาเลย มีแฟนทำไมไม่บอกฉัน ถ้าเจ้านายแกไม่มาบอกฉันคงไม่รู้” แม่ต่อว่าฉันเสียงดัง จนอยากจะเดินขึ้นไปบนห้องแต่ทว่าฉันไม่ยอมแพ้เขาหรอก จะต้องอยู่เผชิญหน้าจนกว่าสงครามจะจบ“เรื่องแค่นี้ทำไมบอสต้องมาบอกแม่หนูด้วย”“ก็ฉันหวังดียังไงล่ะ และอีกอย่างคุณแม่คงไม่อยากได้ลูกเขยคนนี้อย่างแน่นอน” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ เพื่อร
บทที่ 16จบสิ้นกันที@คอนโดคุณบอสเข้ามาในห้องแล้วบอสก็ลากตัวฉันไปที่โซฟาหน้าจอทีวีขนาดยักษ์ ฉันนั่งหน้างองุ้มทำเป็นไม่มองเขา นั่นเพราะความโกรธแค้นยังไม่ลดดีกรีลงเลยสักนิด หลังจากเปิดทีวีแล้วบอสก็นั่งลงข้างกัน ทั้งที่โซฟามีพื้นที่เหลือตั้งเยอะแยะ ไม่รู้ทำไมต้องทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดด้วยก็ไม่รู้“จะมาเบียดทำไมเนี่ยยยย!!!” ฉันชักสีหน้าใส่บอส ก่อนจะผลักต้นแขนเขาสุดแรงเพื่อให้ออกห่างจากตัว“ก็อยากนั่งใกล้มีปัญหารึไง” เขาตีหน้านิ่งยิ้มร้ายๆ อย่างน่าหมั่นไส้“มีสิ! หนูไม่อยากนั่งใกล้คนเลวๆ อย่างบอส สิ่งที่บอสทำมันมากเกินกว่าจะอภัยให้รู้ไว้ด้วย”“จะให้ฉันทำยังไงเธอถึงจะยอมหายโกรธล่ะ” เขาเขยิบก้นเข้ามาใกล้อีกรอบ ทำหน้ายียวนกวนประสาท คงหวังจะให้ฉันยอมใจอ่อนล่ะสิท่า ไม่มีทางหรอก ต่อให้เขาทำดีแค่ไหน ฉันก็ไม่มีทางยอมยกโทษให้เด็ดขาด“ไม่มีทาง! ความรู้สึกคนเรามันเสียไปแล้วเอาคืนมาไม่ได้หรอก รู้ไหมว่าตั้งแต่เกิดมาหนูกับแม่เราไม่เคยทะเลาะกันเลย แม่ไม่เคยตบหนูเลยสักครั้ง ตั้งแต่บอสเข้ามาในครอบครัวเร
บทที่ 17หญิงร้ายชายเลวหลังกลับมาจากคอนโดบอส ฉันรีบเข้าไปปรับความเข้าใจกับแม่ ง้ออยู่ตั้งนานกว่าจะยอมใจอ่อน แม่ยอมให้ฉันคบกับพี่มาร์คได้แต่ห้ามมีอะไรเกินเลยกันเด็ดขาด นางบอกว่าหากไปกับคนนี้ไม่รอด คนต่อไปจะต้องเป็นคนรวยเท่านั้น ฉันยอมรับอย่างไม่มีข้อแม้ (แต่จะทำตามหรือเปล่านั่นอีกเรื่องหนึ่ง)แม้ต้องลำบากใจที่จะได้เผชิญหน้ากับบอสอีกครั้งที่บริษัท แต่ทว่าฉันต้องทำใจเข้มแข็งให้มากๆ หากเราแกร่งซะอย่างบอสก็ทำอะไรไม่ได้แน่นอน“ยัยดาววว!! มานี่เดี๋ยวนี้เลยย” พี่นุชกวักมือเรียกทั้งที่ฉันยังเดินไปไม่ถึงโต๊ะด้วยซ้ำ มีอะไรน่าตื่นเต้นกันนะถึงได้รวมกลุ่มกันแต่เช้าอย่างนี้“มีอะไรคะพี่ๆ” ฉันเอ่ยเมื่อเดินไปรวมกลุ่มกับสาวโสดทั้งสามคน“ข่าวใหญ่ไทยแลนด์มากก วันนี้คนเขาลือกันทั้งบางว่าบอสกับยัยหมิวเป็นแฟนกันแล้วววว” พี่เมย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แต่ทว่าฉันกลับทำสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้ยินดียินร้ายเลยสักนิดเดียว“ก็ดีแล้วนี่คะ เหมาะสมกันจะตาย” ฉันทำเสียงน่าเบื่อจนคนทั้งหมดมองมาอย่างสงสัย“นี่แกไม่ได้
บทที่ 18ร้ายนักใช่ไหมใครต่างก็บอกว่ารักแท้แพ้ใกล้ชิด ก่อนหน้าฉันอาจจะเชื่อ แต่เมื่อได้เข้ามาทำงานใกล้ชิดกับบอส ทำให้ความคิดฉันเปลี่ยนในทันที เพราะดูท่าแล้วมันอาจจะมีแต่ย่ำแย่ลงเรื่อยๆการทำหน้าที่เลขามันไม่ได้ยากสำหรับฉันเลยสักนิด แต่ทว่าสิ่งที่ยากกว่านั่นคือการต้องมานั่งคอยรองรับอารมณ์ของบอส เขาทำตัวราวกับเด็กน้อยเอาแต่ใจเป็นที่สุด ไม่รู้ว่านั่งเก้าอี้ประธานบริษัทมาได้อย่างไรกันโต๊ะทำงานฉันตั้งอยู่ตรงข้ามกับเขา ฉันพยายามจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ ทำเป็นไม่สนใจเขาให้รำคาญใจ แต่ก็รู้ว่าบอสพยายามจ้องมองมาอยู่บ่อยๆ บ่อยจนน่ารำคาญ“อิงดาว...มาหาฉันหน่อยสิ” เมื่อได้ยินเสียงเรียก ฉันก็ละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ขมวดคิ้วมองหน้าเขาอย่างหงุดหงิด จะเรียกอะไรนักหนาทุกครึ่งชั่วโมง“มีอะไรให้รับใช้คะ” ฉันกระแทกเสียงใส่เพื่อต้องการประชดประชัน“บอกให้มาก็มาสิจะถามทำไม”“ก็หนูอยากรู้ ทำไมจะถามไม่ได้” ฉันยังคงนั่งที่เดิมไม่ลุกขึ้นไปตามคำสั่ง“เธอเป็นเลขาไม่ได้เป็นแม่ฉันนะ เลขาก็ต้องทำตามค
บทที่ 19ไม่สน“เอ่อ...” บอสยืนนิ่งคิดหาคำพูดไม่ออก ฉันนั่งเบะปากมองเขาอย่างสะใจ ทีอย่างนี้ทำเป็นพูดไม่ออก ดีเหมือนกันคราวหน้าคราวหลังจะได้ไม่ต้องทำอย่างนี้อีก“ไม่ต้องไปคาดคั้นเอาอะไรกับบอสหรอกหมิว คนที่ผิดคือฉันเองต่างหากล่ะ” ในเมื่อเล่นบทนางร้ายแล้วก็ต้องร้ายให้สุด“เธอหมายความว่ายังไงดาว?” หมิวหันขวับมองมาที่ฉัน นางยังคงแสร้งทำตัวเป็นนางเอกให้บอสเห็น แม้ว่าตอนนี้อกเจียนจะระเบิดออกมาเต็มทีแล้ว“ฉันขอโทษที่สวยจนบอสห้ามใจไม่ไหว แต่เอ๊ะ! เธอไม่น่าจะตกใจขนาดนี้นะ ในเมื่อเธอเองก็รู้ดีว่าฉันกับบอสเป็นอะไรกันมาก่อน อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะเรื่องที่เธอแอบ...”“แอบอะไรดาว ฉันไม่เข้าใจ” นางตีเนียนทำเป็นหน้าใสใจซื่อจนน่าหมั่นไส้ ฉันรู้ว่าหมิวรู้ ว่าฉันหมายถึงอะไร“แอบอะไรเธอก็รู้ดีอยู่แก่ใจ แสดงตัวตนของเธอออกมาสิหมิว ฉันรู้ว่าเธอกำลังโกรธมาก โกรธจนแทบอยากจะตบหน้าฉัน” ฉันเดินเข้าไปใกล้หมิว เผชิญหน้ากับหล่อนอย่างท้าทาย ดูซิว่าจะอดทนได้สักกี่น้ำหมิวทำหน้าเหลอหลาไม่กล้าสบตา เพราะรู้ว่าฉันกำลังห
บทที่ 31อวสานแม้ว่าแก๊งสาวโสดแผนกบัญชี จะเคยมาเยี่ยมเยียนที่บ้านหลายต่อหลายครั้ง ทว่ากลับไม่เคยบอกเรื่องที่ฉันคืนดีกับบอสแล้ว วันนี้จึงตั้งใจจะเข้าไปบริษัทพร้อมกับเขา เปิดตัวในฐานะแฟนอย่างเป็นทางการ ไม่ได้อยากจะโอ้อวดแต่อยากจะเซอร์ไพรซ์คนที่เคยนินทาและดูถูก และที่สำคัญอยากจะเห็นหน้าหมิว ตอนที่นางเห็นฉันเดินควงคู่มากับบอส คิดแล้วก็รู้สึกสะใจบอสมารับฉันที่บ้านตั้งแต่เช้าตรู่ ก่อนจะใส่บาตรด้วยกัน แล้วช่วยแม่ขายของอยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงออกมาจากบ้านพร้อมกันเมื่อรถจอดสนิทในลานจอดรถของบริษัท ฉันก็หันไปยิ้มให้เขา อีกฝ่ายยิ้มตอบเอื้อมมาจับมือฉันไว้“ไม่คิดอยากจะกลับมาทำงานเหรอ”“จะให้ฉันกลับมาทำในตำแหน่งอะไรล่ะคะ”“ก็...เลขาส่วนตัวฉันไง”“ไม่เอาฉันไม่อยากไปแย่งตำแหน่งใครมาอีกแล้ว ฉันขอเป็นแม่ค้าขายข้าวแกงอยู่ที่บ้านดีกว่า หวังว่าคุณคงจะไม่รังเกียจแม่ค้าจนๆ อย่างฉันนะคะ”“ใครจะไปรังเกียจเมียตัวเองได้ลงคอล่ะครับ” ว่าแล้วเขาก็โน้มใบหน้ามาใกล้ หมายใจจะหอมแก้มแต่ทว่าฉันรีบเอื้อมมือไ
บทที่ 30คุณบอสสุดที่รักวันนี้เป็นวันหยุดบอสจึงมาช่วยขายข้าวแกงตั้งแต่เช้าตรู่ ตั้งใจทำคะแนนพิชิตใจแม่ เอาใจท่านราวกับเจ้าหญิงก็ไม่ปานหลังจากการขายของในช่วงเช้าผ่านไปแล้ว ก็ถึงเวลาพักผ่อนของแม่ค้าอย่างเราๆ ตอนนี้ฉันกับแม่นั่งดูทีวีอยู่ในบ้าน ส่วนอิงฟ้าออกไปเที่ยวกับเพื่อนข้างนอก“เจ้านายแกกลับไปแล้วเหรอ ฉันว่าแล้วอยู่ได้ไม่นานหรอก” แม่เอ่ยพลางกวาดสายตามองไปรอบบ้าน แต่ก็ไม่เจอแม้แต่เงาของแขกผู้มาเยือน“เปล่านะแม่ เห็นบอกว่าจะไปเอาอะไรที่รถน่ะ”“อ้าวเหรอ…ฉันก็นึกว่ากลับไปแล้วซะอีก” แม่พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะหันไปสนใจหน้าจอทีวีต่อหลังจากนั้นไม่นานชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรก็เดินเข้ามา ในมือเขามีถุงอะไรบางอย่างมาด้วย เห็นอย่างนั้นฉันก็มองหน้าเขา ขมวดคิ้วเล็กน้อยเชิงถามว่ามันคืออะไร อีกฝ่ายเอาแต่ยิ้มแล้วเดินนำมาวางไว้บนโต๊ะกระจกกลางวงโซฟา“อะไรเหรอคุณ?”“ฉันซื้อของมาฝากคุณแม่น่ะ” เขาตอบก่อนจะหันไปเอ่ยกับแม่ต่อทันที “คุณแม่ครับผมซื้อของมาฝาก”แม่ค่อ
บทที่ 29เขาคือคนที่ใช่ที่สุดแล้วหลังจากแยกทางกับพี่มาร์คแล้ว ฉันก็เดินออกมาหาบอสที่หน้าห้างตามสัญญา เมื่อมาถึงฉันก็ยืนอยู่ลานหน้าห้าง มองไปรอบตัวเพื่อหาเขาคนนั้น คนไม่เยอะแต่กลับหาไม่เจอแม้แต่เงาหมับ!รู้สึกตัวอีกทีก็มีใครบางคนมาสวมกอดจากด้านหลัง ด้วยความตกใจจึงพยายามดิ้น และแกะมือหนานั้นออกทันที“ปล่อยนะไอ้โรคจิต!”“อ้าว! เธอมีแฟนเป็นคนโรคจิตงั้นเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยข้างใบหูทำให้ฉันหยุดชะงัก แล้วยืนนิ่งทันที“บอส!!! ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ คนมองกันใหญ่แล้วนั่น” ใครจะไม่อายล่ะในเมื่อตอนนี้ฉันยืนอยู่ตรงกลางลานเลยล่ะฟอดด!!!“ไม่แกล้งแล้วครับ ต่อไปนี้จะตามใจเมียทุกอย่าง” ก่อนจะคลายอ้อมแขนเขาก็ไม่ลืมหาเศษหาเลย โดยการหอมแก้มฟอดใหญ่ฉันพลิกตัวหันไปมองหน้าเขาหลังจากนั้น ก่อนจะยู่หน้าใส่อย่างเอาเรื่อง“ใครเป็นเมียคุณไม่ทราบ!”“ก็เธอไงล่ะ”“เอาใหญ่แล้วนะเรา” ทำไมฉันจะต้องยิ้มเขินด้วยนะ ทำไมฉันจะต้องหลบตาเขา เกลียดตัวเองที่ไม่สามารถปกปิดความรู้สึกตัวเองได้เล
บทที่ 28พี่ชายการออกเดตในคืนนั้นทำให้คำตอบในใจฉันชัดเจนขึ้น ต้องขอบคุณพี่มาร์คที่ให้ฉันได้มีโอกาสทบทวนตัวเองอีกครั้ง จนได้พูดคุยและปรับความเข้าใจกับบอสจนได้เรานัดเจอกันที่ร้านกาแฟในศูนย์การค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ระหว่างนั่งรอพี่มาร์ค ก็มีสายใครบางคนโทรเข้ามา เมื่อดูหน้าจอมือถือฉันก็ยิ้มน้อยๆ ออกมา คงไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกค่ะ...“ว่าไงคะ”(ทำอะไรอยู่ครับคนสวย)“เอ่อ...ฉันมาทำธุระข้างนอกค่ะ”(ธุระอะไร? มากับใคร? ตอนนี้อยู่ที่ไหน?)“ธุระส่วนตัวค่ะ มาคนเดียวที่ห้างแถวบ้านนี่ล่ะ” ถามซะขนาดนี้มาหาเลยดีไหมคะ(ฉันกำลังจะออกจากบริษัทพอดีเลยเดี๋ยวแวะไปหานะ จะได้ขับรถไปส่งที่บ้านด้วย)“ไม่ต้องมาหรอกค่ะ ฉันกลับเองได้และอีกอย่างคุณไม่กลัวแม่จะด่ารึไงกัน”(มาถึงขั้นนี้แล้วจะกลัวทำไมล่ะ ถึงตายฉันก็ยอม...เพื่อเธอ)“ถ้างั้นก็...มารอที่หน้าห้างนะคะ เสร็จธุระแล้วฉันจะโทรหา”(ว่าแต่เธอมาทำธุระอะไรยังไม่ตอบเลยนะ)“วันนี้ฉันนัดกับพี่มาร์คไว้ค่ะ” ฉันตอบตามความจริง
บทที่ 27ฉันรักเธอนะนี่สินะเหตุผลที่แม่เด็กกระเตงลูกสาวมาด้วย เพราะเจ้าหนูคนนี้ช่างพูดช่างเจรจา สามารถเรียกลูกค้าได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว“อ้อนเก่งจังเลยนะเรา” เขาเอื้อมมือไปลูบกลางกระหม่อมเด็กหญิงอย่างเอ็นดู จากนั้นก็หันไปเอ่ยแม่ของเด็กต่อ “งั้นผมขอเหมาหมดเลยนะครับ ทอดแค่สิบไม้นอกนั้นห่อใส่ถุงนะครับ”“ขอบคุณมากๆ นะคะ มาทีไรก็เหมาอย่างนี้ทุกครั้งเลยใจดีสุดๆ”เห็นอย่างนั้นฉันก็อดยิ้มไม่ได้ อาจเป็นเพราะไม่เคยเห็นมุมนี้ของเขามาก่อน ทำให้รู้สึกว่าเขาก็มีความอ่อนโยนอยู่เหมือนกัน แค่ไม่เคยทำอย่างนั้นกับฉันเท่านั้นเอง“วันนี้พี่ติณณ์พาแฟนมาด้วยเหรอคะ” เด็กน้อยถามพลางจ้องมองมาที่ฉันตาแป๋ว“ไม่ใช่หรอกจ้ะพี่เป็นแค่คนรู้จัก” ฉันตอบโดยพยายามไม่มองหน้าเขา“จริงเหรอคะพี่ติณณ์”“อืม...พี่ไม่กล้าตอบอ่ะเพราะพี่ไม่ได้คิดอย่างนั้น” เขาเอ่ยออกมาตรงๆ ทำเอาฉันหน้าร้อนขึ้นมาทันที รู้สึกอายอย่างบอกไม่ถูก ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเด็กหญิงคนนั้น“แล้วพี่คิดยังไงล่ะคะ” เด็กน้อยถามเขาต่อ“
บทที่ 26ออกเดตฉันนอนคิดไตร่ตรองมาตลอดทั้งคืน จนได้ข้อสรุปว่าจะให้โอกาสเขาอีกครั้ง แม้จะยังโกรธอยู่ไม่น้อย แต่พอมาคิดดูแล้วทุกอย่างมันก็มีที่มาที่ไป เขาไม่ได้ร้ายกาจโดยเนื้อแท้ แต่เป็นเพราะเคยโดนหักหลังมาก่อนทำให้มีอคติกับผู้หญิง แถมฉันยังไปทำพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นผู้หญิงแบบที่เขาเกลียดอีกด้วยก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!“พี่ดาวเปิดประตูให้ฉันหน่อย”กำลังแต่งหน้าอยู่ดีๆ ยัยน้องสาวตัวแสบก็มาเคาะประตูห้อง จะทำอย่างไรดีเนี่ย หากเข้ามาเห็นสภาพฉันในตอนนี้คงจะสงสัยเป็นแน่ เพราะตอนนี้ฉันสวมชุดไปรเวทเตรียมพร้อมออกไปเที่ยวข้างนอก“แกมีอะไร” ฉันตะโกนส่งเสียงออกไปแต่ยังไม่ยอมลุกจากเก้าอี้“ฉันมีอะไรจะพูดด้วย ขอเข้าไปหน่อยดิ”“เอาไว้วันหลังละกัน ตอนนี้ฉันง่วงมากจะนอนแล้ว”“ง่วงอะไรแต่หัวค่ำอย่างนี้ อย่ามาโกหกหน่อยเลยน่า”“ก็บอกว่าง่วงไงยะไม่เข้าใจเหรอ” ยัยน้องสาวบ้า ทำไมถึงได้ดื้อด้านอย่างนี้ ไปซึมซับเอานิสัยคุณติณณภพมาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย“พี่ทำอะไรอยู่กันแน่ ฉันชักจะเริ่มสงสัยซะแล้ว
บทที่ 25หรือจะลองเสี่ยงทานมื้อเย็นจนอิ่มหนำสำราญแล้ว ก็ถึงเวลาที่ตองจะต้องกลับบ้าน ฉันกับอิงฟ้าเดินออกมาส่งแขกที่หน้าบ้าน ส่วนแม่ก็ไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน“จะกลับยังไงล่ะตอง” เห็นว่าค่ำมืดแล้วฉันก็นึกเป็นห่วง เพราะตองเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กน่ารัก แถมยังเป็นลูกคุณหนูอีกด้วย เกรงว่าหากกลับคนเดียวจะเป็นอันตราย“อ๋อ...ตองให้รถที่บ้านมารับค่ะน่าจะใกล้มาถึงแล้วล่ะ”“ถ้างั้นเดี๋ยวพี่รอเป็นเพื่อนนะ”“ขอบคุณค่ะพี่ดาว” ตองส่งยิ้มให้ก่อนจะหันไปเอ่ยกับเพื่อนรัก “แกฉันขอคุยกับพี่ดาวเป็นการส่วนตัวหน่อยสิ” ตองยักคิ้วให้เพื่อนเหมือนรู้กัน“โอเคๆ งั้นฉันเข้าบ้านก่อนนะไว้เจอกันพรุ่งนี้”“บาย”ฉันเดาว่าเรื่องที่ตองอยากจะคุยด้วยคงไม่พ้นเรื่องของบอสนั่นล่ะ ดีไม่ดีคงได้รับคำสั่งมาจากพี่ชาย ให้มาเจรจากับฉันเป็นแน่“ตองมีอะไรจะคุยกับพี่เหรอ”“เฮียเล่าเรื่องทั้งหมดให้ตองฟังแล้ว ตองเลยอยาก....”นั่นไงคิดเอาไว้ไม่มีผิด...“เปลี่ยนเรื่องได้ไหมพี่ไม่อยากเอ่ยถึงเขาอีกแล้ว”
บทที่ 24แขกผู้น่ารักวันต่อมาร้านขายข้าวแกงก็เข้าสู่ภาวะปกติเหมือนเช่นเคย ไม่มีหน้าม้าที่บอสจ้างมา ทำให้บรรยากาศการขายราบรื่นสบายๆ ไม่ต้องเร่งเหมือนเมื่อวาน ฉันเริ่มสนุกกับการเป็นแม่ค้าขายข้าวแกงซะแล้วสิ แม้จะไม่ได้แต่งตัวอยู่ในห้องแอร์สวยๆ แต่ทว่ากลับรู้สึกมีความสุขทางใจมากมายเหลือเกิน ได้พบเจอพูดคุยกับคนคุ้นเคยในละแวกบ้าน ได้ยิ้ม ได้หัวเราะ ได้อยู่กับคนที่เรารักทุกวัน มันเป็นอะไรที่ฉันไม่เคยนึกว่าจะเกิดขึ้นได้ในชีวิตนี้ช่วงเย็นหลังเลิกงานพี่มาร์คมาหาฉันที่บ้าน แม่จึงตั้งใจทำกับข้าวต้อนรับว่าที่ลูกเขยอย่างสุดฝีมือ ฉันจะเข้าไปช่วยในครัวแต่ก็ไม่ยอม ผลักไสให้ออกมานั่งคุยเป็นเพื่อนพี่มาร์คซะงั้นฉันยกถาดผลไม้พร้อมกับแก้วน้ำเย็น มาวางไว้กลางโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้าน ก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้าม ส่งยิ้มให้เขาเหมือนเช่นเคย พี่มาร์คนั่งเงียบราวกับมีเรื่องอัดอั้นในใจ เห็นอย่างนั้นฉันก็อดเป็นห่วงไม่ได้ อยากรู้ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้คนอย่างเขากลัดกลุ้มได้“วันนี้ขายดีไหมครับ”“ก็ดีค่ะ...ปกติแล้วขายหมดทุกวันนั่นล่ะ
บทที่ 23ง้อเช้าวันใหม่ที่สดใสของฉันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ฉันลุกขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อช่วยแม่ทำกับข้าว เมื่อเสร็จแล้วก็นำถาดออกมาวางเรียงรายไว้บนโต๊ะหน้าบ้าน ก่อนจะนำถุงแกงที่เตรียมไว้ไปใส่บาตรเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย นี่เป็นการตกงานที่มีความสุขที่สุดในโลกเลยล่ะ หลังจากช่วยแม่จัดร้านเรียบร้อยแล้ว ฉันก็ขอตัวขึ้นไปเติมหน้าสักหน่อย เผื่อว่าความสวยของฉันจะช่วยเรียกลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้นได้ ฮ่าๆ ๆขณะสาวเท้าเดินขึ้นไปบนห้อง ก็สวนทางกับยัยน้องสาวตัวแสบ นางแต่งชุดนักเรียนลงมาจากห้องเตรียมพร้อมจะออกไปเรียน เมื่อเห็นฉันใส่ชุดไปรเวทก็ขมวดคิ้วจนเป็นปม มองราวกับสงสัยซะเต็มประดา“อ้าว! วันนี้พี่ไม่ไปทำงานเหรอ”“นี่แม่ยังไม่ได้บอกแกเหรอว่าฉันลาออกแล้ว”“ห๊ะ! ลาออกแล้ว ทำไมอ่ะ” อิงฟ้าทำหน้าตกใจอย่างหนักหน่วง เพราะก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยบ่นเรื่องงานให้ใครฟังเลย พอมันได้ยินก็ตกใจไม่ต่างจากแม่ในตอนแรก“เบื่อคน” ฉันตอบสั้นๆ“ใคร! เพื่อนที่ทำงานเหรอ”“ไม่ต้องรู้หรอกน่า รีบไปเรียนเถอะฉันจะขึ้นไปแต่งหน