“หมอนั่นไม่ช่วยหรอก กลับกันเถอะ หิวข้าว” เสือถอดสูทของตัวเองออกมา ยื่นให้นิราใช้มันปกติร่างกายแสนเย้ายวน ถ้าเขาคลุมให้เอง ยัยนี่ต้องปฎิเสธอยู่แล้ว เพราะเธอกำลังโกรธเขาอย่างหนัก“ฉันอยากเลิกค่ะ”นิรามองคนที่ยื่นเสื้อมาให้เธอ ก่อนจะพูดสิ่งที่ตัวเองคิดทบทวนแล้วออกไป เสือทำเพียงแค่ยักไหล่ ก่อนจะเดินมาชิดตัว แล้วสวมเสื้อของเขาปิดบังร่างกายที่แสนยั่วยวนให้เธอ“ไม่ได้ยินเหรอคะ คุณเสือ”ช่วยพูดอะไรหน่อยสิ ไม่มีปากรึไง ทำไมถึงนิ่งกับเธอขนาดนี้ นิรามองหน้าคนที่เธอรักผ่านม่านน้ำตา ที่เธอไม่สนใจจะเช็ดมันออกเลยสักนิด“หิวแล้ว” เสือพูดย้ำคำเดิม ดึงคนที่ร้องไห้เป็นเด็กๆเข้ามากอด ไม่สนใจคำพูดที่ออกมาจากปากคนงอนสักนิด มีสิทธิ์อะไรมาขอเลิก“ได้เรียนรู้อะไรบ้างรึเปล่า หืม? บอกแล้วว่าอย่ากลับไปยุ่งเกี่ยวกันอีก ยิ่งเอาตัวไปพัวพัน ยิ่งไม่จบไม่สิ้นกันสักที คราวนี้จะถอนตัวออกมาได้รึยัง”เขาบอกเธออยู่ตลอด ว่าไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงแบบทับทิมอีกมันเสียเวลา แต่นิรากลับเอาแต่วิ่งเต้นไปตามแผน ที่ยัยนั่นวางไว้เพื่อทำลายคนรักของเขา โง่ซ้ำซ้อนจนเขาต้องหาบทเรียนให้เธอด้วยตัวเอง“คุณหมายความว่ายังไง” นิราถามทั้งๆ
ตึกๆ ตึกๆเสียงรองเท้าย้ำไปกับพื้นถนน ก่อนที่ร่างบอบบางสวมแว่น จะขึ้นไปยืนบนฟุตบาททันทีที่ข้ามถนนได้ ยืดอกให้ดูผ่าเผยขึ้น มือกำเอกสารสำคัญของตัวเองไว้แน่น สูดลมหายใจลึกๆ จึงก้าวเดินอย่างมาดมั่น เข้าไปในตึกขนาดใหญ่ เพื่อไปสัมภาษณ์งาน“สวัสดีค่ะ มาตามนัดสัมภาษณ์งานค่ะ”นิรายกมือไหว้คนที่เคยเจอแล้วตอนมากรอกใบสมัคร“ตอนนี้ท่านไม่อยู่ มีธุระด่วน เดี๋ยวติดต่อไปใหม่ หรือไม่ก็ไปสมัครที่อื่นเถอะ” คนสวยตรงหน้าพูดด้วยรอยยิ้มเหยียด ใช่ รอยยิ้มเหยียดหยัน! ที่นิรามองเห็นชัดเจน“แต่พี่คนที่อยู่ข้างๆ เมื่อวานนัดมานะคะ หนูขอรอได้ไหมคะ” เธอเอ่ยขอร้องอีกครั้ง ถ้าเธอกลับไป เธออาจจะพลาดงานนี้ก็ได้ ทั้งที่เมื่อวานพี่คนที่รับเรื่องเธอ พูดเหมือนว่าจะรับเธอเข้าทำงานแล้วด้วยซ้ำ“ท่านไม่กลับเข้ามาง่ายๆหรอก น่าจะอีกนานอะ” เธอพูดอย่างหงุดหงิด เมื่อยัยเฉิ่มข้างหน้าดูท่าจะเข้าใจอะไรยาก“งั้นเหรอคะ งั้นหนูลาเลยนะคะ” นิรารีบยกมือไหว้แล้วเดินออกไปทันที เธอเสียเวลามามากแล้ว ไม่ได้ที่นี่ก็ต้องหาที่ใหม่ต่อ แต่ในใจก็นึกโกรธคนเป็นเจ้าของที่นี่ ถ้าไม่พร้อมจะสัมภาษณ์เธอ ไม่รู้จะนัดเธอมาทำไมแต่เช้าแบบนี้“โอ้ย! !” นิราเดินออ
3 ชั่วโมงต่อมาร่างสูงสง่าดูภูมิฐานของนรสิงค์ หรือคุณสิงค์ ผู้นั่งตำแหน่งรองประธานบริษัทนำเข้าและส่งออกขนาดใหญ่แห่งนี้ เดินอย่างเร่งรีบเข้ามาในห้องทำงานของตัวเอง หลังจากเสียเวลาอยู่ในห้องประชุมนานกว่าปกติวันนี้เขาต้องเป็นประธานในการประชุม แทน คุณพยัคฆ์ หรือเสือ พี่ชายที่หนีไปหาคู่หมั่นคนสวยตั้งแต่เช้า หรือบางทีอาจจะตั้งแต่เมื่อคืน“คุณรอนานไหมครับ”นรสิงค์ถามผู้หญิงที่นั่งผงกหัวกับโซฟา เธอคงจะง่วงเพราะรอเขาตั้งนาน ไหนจะตาหวานเยิ้มที่มองเขานั่นอีก นี่เธอตื่นรึยังเนี้ย“ต้องถามด้วยเหรอคุณ คุณก็น่าจะรู้เรื่องเวลาดีที่สุด”นิราบ่นให้คนที่ดูนาฬิกาก่อนจะถามเธอด้วยซ้ำ“อ่า งั้นเรามาเริ่มกันเลยนะครับ คุณมาสัมภาษณ์งานตำแหน่งเลขาของท่านประธานสินะครับ ผมชื่อนรสิงค์ หรือสิงค์ เป็นรองประธานที่นี่ครับ”นรสิงค์เอ่ยแนะนำตัว ก่อนจะเริ่มสัมภาษณ์เธอทันที“ชื่อนิรา อายุ 25 จบโทบริหาร พูดได้ 3 ภาษา จีน อังกฤษ ญี่ปุ่น” นรสิงค์ทวนข้อมูลในเรซูเม่ของเธอช้าๆ การศึกษาเธอดีมากแม้จะจบจากมหาลัยต่างจังหวัดก็เถอะ ถือว่าใช้ได้ทีเดียว“คุณพร้อมเริ่มงานวันไหน” นรสิงค์ถามนิราที่นั่งเงียบ นี่เขาสัมภาษณ์งานหรือแค่อ่านปร
“คุณเจนช่วยด้วยค่ะ ฉันยังไม่ได้เริ่มงาน แต่กำลังจะเป็นหนี้ก้อนโตซะแล้ว” นิราหันมาเกาะแขนเจนจิราที่เดินรั้งท้าย“ทุกอย่างวันนี้ฟรีค่ะ” เจนจิรายิ้มขำกับคนที่อายุน่าจะเท่ากันกับเธอ ผู้หญิงคนนี้คิดว่าเธอจะต้องทำงานชดใช้ค่าของพวกนี้เหรอ เปล่าหรอกเจ้านายตั้งใจซื้อทั้งหมดนี้ให้ยังไงละ“แต่มันแพงนะคะ ฉันไม่กล้าใช้ค่ะ”นิรายังคงบอกเจนจิราที่กำลังเลือกครีมบำรุงผิวให้เธอ แต่เจนจิราไม่สนใจ ทั้งยังเดินไปหยิบเครื่องสำอาง ที่เหมาะกับสภาพผิวของนิรามาให้อีกหลายอย่าง“แต่ต้องใช้ค่ะ คุณเสือไม่ชอบให้เลขาตัวเองหน้าจืด” เจนจิราไม่ได้ตามใจคุณสิงค์ แต่เธอกำลังทำเพื่อคุณเสือ ท่านประธานต่างหาก“เสร็จหรือยังคุณเจน” นรสิงค์ที่เดินไปนั่งรอ เดินกลับมาอีกครั้ง เมื่อมองเห็นตระกร้าขนาดใหญ่ในมือเจนจิรา“เรียบร้อยค่ะ” เธอบอกก่อนจะวางทั้งครีมทั้งเครื่องสำอางราคาแพงไว้บนเคาน์เตอร์คิดเงิน“ทั้งหมดหนึ่งแสนสองหมื่นบาทค่ะ” พนักงานบอกยอดสินค้าทั้งหมด“คะ? … เดี๋ยวค่ะ” นิรารีบไปหยิบของที่พนักงานอีกคนกำลังแพคใส่ถุงกระดาษอย่างดีไว้แน่น ตบมือป้าบกับหน้าผากตัวเอง อย่างคนตกใจทำอะไรไม่ถูกกับยอดเงินมหาศาล“ไม่เอาแล้วได้ไหมคะ ครีมอะไ
“แรดบ้างเถอะ อายุ 25 แล้ว ยังไม่มีแฟนเลย วันนี้เจ้จะแต่งให้นิราของเจ้ ถูกใจผู้หล่อๆ รวยๆ สักสิบคนไปเลย” เจ้พิมพูดแซวอย่างอารมณ์ดี ไม่สนใจที่นิราบอกสักนิด“ถ้าเยอะอย่างเจ้ว่าจริงๆ หนูได้ตายก่อนแน่เลยค่ะ” นิรายิ้มให้กับความคิดของเจ้พิมอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นเมื่อเจ้พิมหยุดมือลง“โซนวีไอพีนะ แล้วก็ห้องพิเศษ” เจ้พิมสั่งงานอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปดูร้าน เพราะตอนนี้ลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามาแล้วนิราเดินไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเป็นงาน โดยเริ่มที่โซนวีไอพีก่อนที่แรก เพราะห้องพิเศษนั้นลูกค้าที่จองไว้ยังไม่มาเลย“น้อง! เหล้าเพิ่มครับ”“น้องชงเหล้าหน่อยครับ”น้อง น้อง !นิราถูกเรียกตลอดเวลาจนไม่มีเวลาพักเลย รู้สึกหิวนิดๆ เพราะนี่ก็ผ่านมาสองชั่วโมงแล้วที่เธอทำงาน เธอกินข้าวตั้งแต่เช้าก่อนไปสัมภาษณ์งาน และกินแซนวิชไปอันเดียวก่อนจะงีบหลับ ตอนนี้เธอรู้สึกหิวมากจนจะทนไม่ไหว“พี่ค่ะ นิวขอไปหาอะไรกินก่อนได้ไหมอะ”นิราถามพี่อีกคนที่ทำโซนเดียวกัน พี่คนนั้นยิ้มแล้วพยักหน้าให้ทันที ตอนนี้ไม่มีอะไรมากแล้ว เพราะลูกค้าเริ่มเมาได้ที่แล้ว เหลือแต่ห้องพิเศษที่ยังไม่มาถึงนิราเดินหลบไปหลังร้านที่เป็นโซนห้องครัว ก่อนจะล
“เห็นไหมคะ อร่อยมากเลย” นิราบอกแขกด้วยใบหน้าแดงนิดๆ ก่อนจะยิ้มโชว์เขา ว่าเหล้าที่เธอแนะนำมันอร่อยสุดยอดแค่ไหน“อร่อยก็ยกอีกสิ” แล้วแก้วที่สอง ที่สามก็ตามมา เหล้ายิ่งหวานลิ้นเท่าไหร่ ยิ่งดื่มง่ายและเมาเร็วเท่านั้น“เห็นไหมคะ ว่าอร่อย” นิราเลียริมฝีปากเก็บเอาเหล้าที่เลอะขอบปากเธอออก หลังจากยกแก้วที่สี่หมดลงไปแล้ว ตอนนี้สติที่เธอเคยมี แทบจะปลิวหายไปหมดแล้ว“ไม่เห็นจะอร่อยเลย ไหน ‘เอาของเธอ’ มาชิมสิ” เขาพูดเบาๆ พลางกระตุกยิ้ม ร่างสวยที่นั่งอยู่ใกล้มาตลอด ขยับเข้ามาใกล้จนตัวชิดกัน ก่อนเธอจะยกแก้วเหล้าของตัวเองยื่นไปตรงหน้า ผู้ชายรูปหล่อที่กำลังยกยิ้มชั่วร้ายใส่เธอ“เอาสิคะ ชิมเลย” นิรายื่นแก้วเหล้าไปให้นานแล้ว แต่เขาไม่รับมันไปสักที นิราจึงขยับหน้าไปใกล้มากขึ้น เมื่อร่างสูงเอาแต่นั่งมองเธอนิ่งๆ“ชิมแบบนี้ดีกว่า”พูดจบก็เทเหล้าเข้าปากรวดเดียวหมด ก่อนจะเหลือไว้ในปากนิดหน่อย แล้วดึงเธอเข้ามา บดริมฝีปากตัวเองลงไป บนกลีบปากเล็กๆ ของเธอทันที“อ๊ะ อื้อ~”นิราครางเสียงแผ่ว เมื่อโดนริมฝีปากหยักสวยกดทับลงมาอย่างรวดเร็ว เธอได้แต่อยู่นิ่งๆไม่รู้จะทำยังไงดี ร่างกายที่ควรขัดขืนไร้แรงต้านทาน มีเพียงควา
“ง่วงแล้วค่ะ แม่” เธอยกหน้าขึ้นไปมองใบหน้าหล่อเหลาก่อนระบายรอยยิ้มหวานส่งไป เมื่อคิดว่านอนกอดแม่ที่จากมาทำงานในเมืองกรุง“ยั่วเก่ง” เสือพูดเบาๆกับตัวเอง มองใบหน้าสวยที่ยกยิ้มหวานหยดย้อยให้เขา เพราะคิดว่าเขาเป็นแม่ซะงั้น“ฝันดีนะคะ” นิราพูดจบก็หลับตาลงอีกครั้ง เธอยังอยู่ในความฝันแสนหวาน ฝันที่ว่าได้นอนในอ้อมกอดแม่ที่เธอคิดถึงสำหรับเธอจะมีอะไรดีไปกว่านี้“ชิบหายละ!” เสือมัวแต่มองหน้าเธอ จนเผลอปล่อยเธอหลับไปอีกแล้ว นี่เขาต้องปลุกเธอยังไงดี เธอถึงจะตื่น“เธอบังคับให้ฉันทำแบบนี้เองนะ”เสือพลิกร่างเย้ายวนไปอีกด้านของโซฟา เกยร่างคร่อมทับตัวเธอไว้ กดจูบลงไปตามซอกคอขาวผ่อง แม้หน้าเธอจะไม่ขาวมาก แต่คอและผิวเนื้อที่อื่นกลับขาวเนียนละเอียดน่าฟัด“อื้อ จะ เจ็บค่ะ” นิราครางเสียงแผ่วเบา เพราะเสือกัดผิวเนื้อเธอแรงๆ เธอเลยต้องลืมตาจากฝันแสนหวาน เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง“อ๊ะ เจ็บนะคะ อื้อ” นิราดุร่างสูงเลือนรางที่คร่อมทับเธออยู่ เสือจึงต้องเงยหน้าขึ้นมองเธอ ตอนบอกเขาว่าเจ็บนิรายอมรับเลยว่าตัวเองฝันดี ผู้ชายที่เธอเห็นอยู่ตอนนี้โคตรหล่อ เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้เธอใจเต้นโครมคราม แถมยังทำให้รู้ส
“อ๊ะ อื้อ” นิราเช็ดเหงื่อตามซอกคอตัวเองออกแรงๆ ก่อนจะครางแผ่วเบาอย่างไม่ชอบใจ สภาพอากาศตอนนี้ เธอร้อน เธออยากได้แอร์เย็นๆ“อ่ะ อื้อ ร้อน” นิราบ่นกับตัวเอง เธอร้อนมาก แต่ไม่มีแรงจะเดินไปเปิดแอร์ ที่นี่ที่ไหน ขออากาศเย็นๆให้นิราหน่อย“ฮึ่ม!” นิราย่นคิ้วลง เมื่ออากาศในห้องไม่ได้เย็นขึ้นสักนิด เธอเปิดเปลือกตามองรอบกาย โดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นใครสักคน ที่ยืนมองเธออยู่ทางด้านหัวเตียงเลยอ่า! นี่ห้องเธอเอง งั้นแก้ผ้านอนคงไม่มีใครว่าหรอกมั้งนิราไม่รู้ว่าตัวเองมาที่นี่ได้ยังไง แต่ในสติอันน้อยนิดบอกว่าห้องนี้คือห้องของเธอเอง เธอคงเมานั่นแหละ เจ้พิมคงลากมาส่ง แต่เจ้พิมลืมเปิดแอร์ให้ไง โคตรร้อน“อื้อ อ่า” นิราครางอื้ออึง เมื่อพยายามถอดชุดรัดรูปของตัวเองออกจากตัว เมื่อถอดมันไม่ได้ เธอก็กระชากมันออกแรงๆ จนผ้าบางๆมันขาด จากนั้นก็ก้มลงไปดึงถุงน่องสีดำ ที่มันทำให้คันยุบยิบนั่นทิ้ง ตอนนี้ทั้งร่างของนิรา เหลือเพียงบรากับกางเกงชั้นในลูกไม้เข้าชุด“แม่งยั่วสัส! กูต้องทนไหม ก็ไม่นะ”เสือที่ยืนมองการกระทำของเธอเงียบๆ พูดกับตัวเองแผ่วเบา เขาเห็นหมดเลย ตั้งแต่เธอถอดชุดตัวเองออก ไหนจะถอดไปด้วยครางไปด้วย ม