“ฉันไม่รู้คะ ฉันไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะพูดอะไรได้ทั้งนั้น ฉันมีแต่รับอยู่ฝ่ายเดียวคุณเสือคงเบื่อมั้งคะ”คุณมิลแทบจะเป็นที่ปรึกษาของเธออยู่แล้ว เพราะคุณมิลรู้จักคุณเสือดีว่าเธอ นิราจึงกล้าพูดกับคุณมิลแทบทุกอย่าง แม้จะรู้ว่าเธอเป็นอดีตคู่หมั้นของคุณเสือก็ตาม“สมน้ำหน้า ฉันบอกแล้วว่าให้อ่อยเขาหน่อย เธอมันเล่นตัว เสือชอบคนเอาอกเอาใจนะ เสือก็ผู้ชายธรรมดาคนนึง เธอลองตามใจเขาหน่อยสิ เขาอาจจะหลงเธอเขาสักวัน แต่ผู้หญิงจืดชืดแบบเธอคงไม่เข้าใจหรอก”มัลลิกามองนิรานิ่งๆ เด็กคนนี้จะเอาเสืออยู่ได้ไง ก็เล่นตัวซะขนาดนี้ เล่นกับเสือร้ายมันต้องใจกล้ากว่านี้ ถึงจะเอาเขาอยู่หมัด สอนอะไรไปไม่จำ ไม่ทำตามอีกต่างหากนิราไม่ได้ตอบโต้อะไร เอาแต่นิ่งเงียบ มองดูช่างคนนั้นคนนี้ปรับปรุงร้านของเธอต่อไปร้านนี้ เธอตั้งใจจะทำเป็นร้านเบเกอรี่ เพราะเธอสนใจมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก และแอบไปเรียนเสริมช่วงที่ว่างจากเรียนมหาลัย แต่เธอไม่เคยมีเงินพอจะทำตามฝันตัวเองเลย จึงได้แต่เก็บให้มันเป็นแค่ความฝันตลอดมาTru“……”[คืนนี้ไม่กลับนะ บริษัทคู่ค้ามีงานเลี้ยง] เป็นคุณเสือที่โทรมา หลังจากนิรากดรับ แล้วรอเงียบๆ ว่าเขาจะพูดอะไรกับเธอ
“บอกมาว่าจะแต่ง หรือจะเลิก” นิราถามเสียงเรียบ พยายามที่สุดไม่ให้เสียงตัวเองสั่น และห้ามไม่ให้น้ำเอ่อคลอดวงตา แม้ตอนนี้จะรู้ตัวว่าบังคับทุกอย่างได้ยากเกินทนทำไมต้องเป็นทับทิม เธอพยายามไม่ให้คนทั้งคู่เจอกัน เพราะรู้ว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้แน่ๆ ทับทิมเป็นคนสวย เธอสวยมาก และอาจจะเป็นผู้หญิงที่มีนิสัยถูกใจคุณเสือมากที่สุดก็ได้ นิราเลยไม่อยากให้คนทั้งคู่เจอกัน แต่ตอนนี้สิ่งที่เธอหวาดกลัวได้เกิดขึ้นแล้ว เกิดขึ้นในตอนที่เธอกำลังจะหมดความหมายกับเขา“ถ้าไม่เลือก ฉันเลือกเองนะ” ทำไมไม่ตอบอะไรละคุณเสือ ทำไมถึงนิ่งได้ขนาดนี้ คุณเสือเล่นตลกอะไรกับนิราอีกสามเดือนที่ผ่านมาเธอทำงานอย่างหนัก ทั้งที่บริษัทเพื่อช่วยงานเขา ทั้งดูงานปรับปรุงตกแต่งร้านที่เขาบังคับให้เธอเปิด ไหนจะต้องไปหาแม่ของเขา เพื่อฝึกมารยาท บางครั้งก็อยู่กับท่านดึกดื่น เพื่อช่วยอยู่คลายเหงาให้ท่าน ไหนเธอจะต้องดูแลแม่ที่รักษาตัวจากมะเร็งอีก เธอเหนื่อยแล้วนะ เหนื่อยมากๆ ด้วย“เราเลิก /ว้าย! ปล่อยสิภพ”นิรายังไม่ได้พูดให้จบ ก็มีเสียงกรีดร้องของทับทิมแทรกขึ้นก่อน คนที่นั่งอยู่ตรงนั้นจากที่เงียบอยู่แล้วตอนนิรามาถึง กลับต้องเงียบมากกว่าเ
“หมอนั่นไม่ช่วยหรอก กลับกันเถอะ หิวข้าว” เสือถอดสูทของตัวเองออกมา ยื่นให้นิราใช้มันปกติร่างกายแสนเย้ายวน ถ้าเขาคลุมให้เอง ยัยนี่ต้องปฎิเสธอยู่แล้ว เพราะเธอกำลังโกรธเขาอย่างหนัก“ฉันอยากเลิกค่ะ”นิรามองคนที่ยื่นเสื้อมาให้เธอ ก่อนจะพูดสิ่งที่ตัวเองคิดทบทวนแล้วออกไป เสือทำเพียงแค่ยักไหล่ ก่อนจะเดินมาชิดตัว แล้วสวมเสื้อของเขาปิดบังร่างกายที่แสนยั่วยวนให้เธอ“ไม่ได้ยินเหรอคะ คุณเสือ”ช่วยพูดอะไรหน่อยสิ ไม่มีปากรึไง ทำไมถึงนิ่งกับเธอขนาดนี้ นิรามองหน้าคนที่เธอรักผ่านม่านน้ำตา ที่เธอไม่สนใจจะเช็ดมันออกเลยสักนิด“หิวแล้ว” เสือพูดย้ำคำเดิม ดึงคนที่ร้องไห้เป็นเด็กๆเข้ามากอด ไม่สนใจคำพูดที่ออกมาจากปากคนงอนสักนิด มีสิทธิ์อะไรมาขอเลิก“ได้เรียนรู้อะไรบ้างรึเปล่า หืม? บอกแล้วว่าอย่ากลับไปยุ่งเกี่ยวกันอีก ยิ่งเอาตัวไปพัวพัน ยิ่งไม่จบไม่สิ้นกันสักที คราวนี้จะถอนตัวออกมาได้รึยัง”เขาบอกเธออยู่ตลอด ว่าไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงแบบทับทิมอีกมันเสียเวลา แต่นิรากลับเอาแต่วิ่งเต้นไปตามแผน ที่ยัยนั่นวางไว้เพื่อทำลายคนรักของเขา โง่ซ้ำซ้อนจนเขาต้องหาบทเรียนให้เธอด้วยตัวเอง“คุณหมายความว่ายังไง” นิราถามทั้งๆ
ตึกๆ ตึกๆเสียงรองเท้าย้ำไปกับพื้นถนน ก่อนที่ร่างบอบบางสวมแว่น จะขึ้นไปยืนบนฟุตบาททันทีที่ข้ามถนนได้ ยืดอกให้ดูผ่าเผยขึ้น มือกำเอกสารสำคัญของตัวเองไว้แน่น สูดลมหายใจลึกๆ จึงก้าวเดินอย่างมาดมั่น เข้าไปในตึกขนาดใหญ่ เพื่อไปสัมภาษณ์งาน“สวัสดีค่ะ มาตามนัดสัมภาษณ์งานค่ะ”นิรายกมือไหว้คนที่เคยเจอแล้วตอนมากรอกใบสมัคร“ตอนนี้ท่านไม่อยู่ มีธุระด่วน เดี๋ยวติดต่อไปใหม่ หรือไม่ก็ไปสมัครที่อื่นเถอะ” คนสวยตรงหน้าพูดด้วยรอยยิ้มเหยียด ใช่ รอยยิ้มเหยียดหยัน! ที่นิรามองเห็นชัดเจน“แต่พี่คนที่อยู่ข้างๆ เมื่อวานนัดมานะคะ หนูขอรอได้ไหมคะ” เธอเอ่ยขอร้องอีกครั้ง ถ้าเธอกลับไป เธออาจจะพลาดงานนี้ก็ได้ ทั้งที่เมื่อวานพี่คนที่รับเรื่องเธอ พูดเหมือนว่าจะรับเธอเข้าทำงานแล้วด้วยซ้ำ“ท่านไม่กลับเข้ามาง่ายๆหรอก น่าจะอีกนานอะ” เธอพูดอย่างหงุดหงิด เมื่อยัยเฉิ่มข้างหน้าดูท่าจะเข้าใจอะไรยาก“งั้นเหรอคะ งั้นหนูลาเลยนะคะ” นิรารีบยกมือไหว้แล้วเดินออกไปทันที เธอเสียเวลามามากแล้ว ไม่ได้ที่นี่ก็ต้องหาที่ใหม่ต่อ แต่ในใจก็นึกโกรธคนเป็นเจ้าของที่นี่ ถ้าไม่พร้อมจะสัมภาษณ์เธอ ไม่รู้จะนัดเธอมาทำไมแต่เช้าแบบนี้“โอ้ย! !” นิราเดินออ
3 ชั่วโมงต่อมาร่างสูงสง่าดูภูมิฐานของนรสิงค์ หรือคุณสิงค์ ผู้นั่งตำแหน่งรองประธานบริษัทนำเข้าและส่งออกขนาดใหญ่แห่งนี้ เดินอย่างเร่งรีบเข้ามาในห้องทำงานของตัวเอง หลังจากเสียเวลาอยู่ในห้องประชุมนานกว่าปกติวันนี้เขาต้องเป็นประธานในการประชุม แทน คุณพยัคฆ์ หรือเสือ พี่ชายที่หนีไปหาคู่หมั่นคนสวยตั้งแต่เช้า หรือบางทีอาจจะตั้งแต่เมื่อคืน“คุณรอนานไหมครับ”นรสิงค์ถามผู้หญิงที่นั่งผงกหัวกับโซฟา เธอคงจะง่วงเพราะรอเขาตั้งนาน ไหนจะตาหวานเยิ้มที่มองเขานั่นอีก นี่เธอตื่นรึยังเนี้ย“ต้องถามด้วยเหรอคุณ คุณก็น่าจะรู้เรื่องเวลาดีที่สุด”นิราบ่นให้คนที่ดูนาฬิกาก่อนจะถามเธอด้วยซ้ำ“อ่า งั้นเรามาเริ่มกันเลยนะครับ คุณมาสัมภาษณ์งานตำแหน่งเลขาของท่านประธานสินะครับ ผมชื่อนรสิงค์ หรือสิงค์ เป็นรองประธานที่นี่ครับ”นรสิงค์เอ่ยแนะนำตัว ก่อนจะเริ่มสัมภาษณ์เธอทันที“ชื่อนิรา อายุ 25 จบโทบริหาร พูดได้ 3 ภาษา จีน อังกฤษ ญี่ปุ่น” นรสิงค์ทวนข้อมูลในเรซูเม่ของเธอช้าๆ การศึกษาเธอดีมากแม้จะจบจากมหาลัยต่างจังหวัดก็เถอะ ถือว่าใช้ได้ทีเดียว“คุณพร้อมเริ่มงานวันไหน” นรสิงค์ถามนิราที่นั่งเงียบ นี่เขาสัมภาษณ์งานหรือแค่อ่านปร
“คุณเจนช่วยด้วยค่ะ ฉันยังไม่ได้เริ่มงาน แต่กำลังจะเป็นหนี้ก้อนโตซะแล้ว” นิราหันมาเกาะแขนเจนจิราที่เดินรั้งท้าย“ทุกอย่างวันนี้ฟรีค่ะ” เจนจิรายิ้มขำกับคนที่อายุน่าจะเท่ากันกับเธอ ผู้หญิงคนนี้คิดว่าเธอจะต้องทำงานชดใช้ค่าของพวกนี้เหรอ เปล่าหรอกเจ้านายตั้งใจซื้อทั้งหมดนี้ให้ยังไงละ“แต่มันแพงนะคะ ฉันไม่กล้าใช้ค่ะ”นิรายังคงบอกเจนจิราที่กำลังเลือกครีมบำรุงผิวให้เธอ แต่เจนจิราไม่สนใจ ทั้งยังเดินไปหยิบเครื่องสำอาง ที่เหมาะกับสภาพผิวของนิรามาให้อีกหลายอย่าง“แต่ต้องใช้ค่ะ คุณเสือไม่ชอบให้เลขาตัวเองหน้าจืด” เจนจิราไม่ได้ตามใจคุณสิงค์ แต่เธอกำลังทำเพื่อคุณเสือ ท่านประธานต่างหาก“เสร็จหรือยังคุณเจน” นรสิงค์ที่เดินไปนั่งรอ เดินกลับมาอีกครั้ง เมื่อมองเห็นตระกร้าขนาดใหญ่ในมือเจนจิรา“เรียบร้อยค่ะ” เธอบอกก่อนจะวางทั้งครีมทั้งเครื่องสำอางราคาแพงไว้บนเคาน์เตอร์คิดเงิน“ทั้งหมดหนึ่งแสนสองหมื่นบาทค่ะ” พนักงานบอกยอดสินค้าทั้งหมด“คะ? … เดี๋ยวค่ะ” นิรารีบไปหยิบของที่พนักงานอีกคนกำลังแพคใส่ถุงกระดาษอย่างดีไว้แน่น ตบมือป้าบกับหน้าผากตัวเอง อย่างคนตกใจทำอะไรไม่ถูกกับยอดเงินมหาศาล“ไม่เอาแล้วได้ไหมคะ ครีมอะไ
“แรดบ้างเถอะ อายุ 25 แล้ว ยังไม่มีแฟนเลย วันนี้เจ้จะแต่งให้นิราของเจ้ ถูกใจผู้หล่อๆ รวยๆ สักสิบคนไปเลย” เจ้พิมพูดแซวอย่างอารมณ์ดี ไม่สนใจที่นิราบอกสักนิด“ถ้าเยอะอย่างเจ้ว่าจริงๆ หนูได้ตายก่อนแน่เลยค่ะ” นิรายิ้มให้กับความคิดของเจ้พิมอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นเมื่อเจ้พิมหยุดมือลง“โซนวีไอพีนะ แล้วก็ห้องพิเศษ” เจ้พิมสั่งงานอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปดูร้าน เพราะตอนนี้ลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามาแล้วนิราเดินไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเป็นงาน โดยเริ่มที่โซนวีไอพีก่อนที่แรก เพราะห้องพิเศษนั้นลูกค้าที่จองไว้ยังไม่มาเลย“น้อง! เหล้าเพิ่มครับ”“น้องชงเหล้าหน่อยครับ”น้อง น้อง !นิราถูกเรียกตลอดเวลาจนไม่มีเวลาพักเลย รู้สึกหิวนิดๆ เพราะนี่ก็ผ่านมาสองชั่วโมงแล้วที่เธอทำงาน เธอกินข้าวตั้งแต่เช้าก่อนไปสัมภาษณ์งาน และกินแซนวิชไปอันเดียวก่อนจะงีบหลับ ตอนนี้เธอรู้สึกหิวมากจนจะทนไม่ไหว“พี่ค่ะ นิวขอไปหาอะไรกินก่อนได้ไหมอะ”นิราถามพี่อีกคนที่ทำโซนเดียวกัน พี่คนนั้นยิ้มแล้วพยักหน้าให้ทันที ตอนนี้ไม่มีอะไรมากแล้ว เพราะลูกค้าเริ่มเมาได้ที่แล้ว เหลือแต่ห้องพิเศษที่ยังไม่มาถึงนิราเดินหลบไปหลังร้านที่เป็นโซนห้องครัว ก่อนจะล
“เห็นไหมคะ อร่อยมากเลย” นิราบอกแขกด้วยใบหน้าแดงนิดๆ ก่อนจะยิ้มโชว์เขา ว่าเหล้าที่เธอแนะนำมันอร่อยสุดยอดแค่ไหน“อร่อยก็ยกอีกสิ” แล้วแก้วที่สอง ที่สามก็ตามมา เหล้ายิ่งหวานลิ้นเท่าไหร่ ยิ่งดื่มง่ายและเมาเร็วเท่านั้น“เห็นไหมคะ ว่าอร่อย” นิราเลียริมฝีปากเก็บเอาเหล้าที่เลอะขอบปากเธอออก หลังจากยกแก้วที่สี่หมดลงไปแล้ว ตอนนี้สติที่เธอเคยมี แทบจะปลิวหายไปหมดแล้ว“ไม่เห็นจะอร่อยเลย ไหน ‘เอาของเธอ’ มาชิมสิ” เขาพูดเบาๆ พลางกระตุกยิ้ม ร่างสวยที่นั่งอยู่ใกล้มาตลอด ขยับเข้ามาใกล้จนตัวชิดกัน ก่อนเธอจะยกแก้วเหล้าของตัวเองยื่นไปตรงหน้า ผู้ชายรูปหล่อที่กำลังยกยิ้มชั่วร้ายใส่เธอ“เอาสิคะ ชิมเลย” นิรายื่นแก้วเหล้าไปให้นานแล้ว แต่เขาไม่รับมันไปสักที นิราจึงขยับหน้าไปใกล้มากขึ้น เมื่อร่างสูงเอาแต่นั่งมองเธอนิ่งๆ“ชิมแบบนี้ดีกว่า”พูดจบก็เทเหล้าเข้าปากรวดเดียวหมด ก่อนจะเหลือไว้ในปากนิดหน่อย แล้วดึงเธอเข้ามา บดริมฝีปากตัวเองลงไป บนกลีบปากเล็กๆ ของเธอทันที“อ๊ะ อื้อ~”นิราครางเสียงแผ่ว เมื่อโดนริมฝีปากหยักสวยกดทับลงมาอย่างรวดเร็ว เธอได้แต่อยู่นิ่งๆไม่รู้จะทำยังไงดี ร่างกายที่ควรขัดขืนไร้แรงต้านทาน มีเพียงควา