“อือ ยอดขายเดือนนี้น่าจะไม่ได้ตามเป้า แบบนี้ฉันอาจจะไม่มีเงินเลี้ยงดูเธอแล้ว ต่อไปก็หาข้าวกินเองนะ” เสือพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ อย่างต้องการแกล้งนิรา อยากรู้ว่าเธอจะมีอะไรแนะนำเขาบ้างรึเปล่า ทั้งที่ความจริงยอดขายก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่เลย“ไม่ได้ ฉันกินเยอะ ฉันจะช่วยคิดละกัน” นิราพูดจบก็นั่งลงบนตักคุณเสือ ที่ขยับเก้าอี้ออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ให้เธอได้นั่งลงอย่างสบายๆ ทั้งยังแอบสูดดมกลิ่นหอมของครีมอาบน้ำตามตัวเธอด้วย“เราจะทำยังไงกันดี แบบนี้ที่ลงทุนไปต้องแย่แน่ๆ”ขายไม่ได้หรือได้ช้า ก็เท่ากับว่ายอดเงินหมุนเวียนจะลดลง ยิ่งนานเข้าบริษัทก็จะมีแต่ขาดทุน แต่คนแบบเขา วางแผนรัดกุมอยู่แล้ว ขายไม่ได้ ก็ระบายออกทางอื่น“อื้อ คุณเสือพูดเฉยๆก็ได้นี่นา ไม่เห็นต้องจับเลย” นิราย่นคอหนีคุณเสือที่กำลังสูดดมกลิ่นหอมจากซอกคอเธอ ส่วนมือก็ไวใช่ย่อย เลื่อนมากอบกุมทรวงอกเธอไว้ทั้งสองข้าง ทั้งยังใช้นิ้วขยับไปมากับจุกแป้นที่อยู่ใต้ชุดนอนเธออีก“เธอเดินเข้ามาให้ฉันขย้ำเองนะ อย่าบ่นสิ” เสือพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เขาทนมามากแล้ว ทนจนรู้สึกทึ่งกับตัวเอง ว่าทนไปได้ยังไง ทั้งที่นอนกอดเธออยู่ตลอดอาจจะเป็นเพราะทุกครั้งที่ส
“ก็นั่นอะเบา ต่อจากนี้ไม่เบาแล้ว”เสือขยับเอวไม่ต่างจากที่พูดเลย ทั้งยังฟ้อนเฟ้นฝ่ามือไปตามร่างกายเธอแรงๆ เพื่อเพิ่มความเสียวกระสัน ก่อนจะจับยึดสะโพกเธอไว้แน่น เมื่อทุกอย่างของเขาใกล้ถึงจุดหมาย“พี่ขอลูกสักคนนะครับ จะได้มีข้ออ้างให้จัดงานแต่งเร็วๆ” เสือพูดจบก็กระแทกเอวถี่ๆ ปล่อยน้ำรักเข้าหาเธอ เพื่อหวังให้ลูกของเขา เข้าไปเติบโตในท้องราบเรียบนั่น“อ๊ะ อื้อ” นิรารับรู้ทุกหยาดหยดที่หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกาย ก่อนจะถูกเสือดึงขึ้นไปกอดไว้จากทางด้านหลัง ส่วนสำคัญยังเชื่อมติดกันอยู่ และนิราก็รู้ว่ามันยังไม่จบเพียงแค่นี้“อย่าเพิ่งเหนื่อยนะ นิวยังต้องขัดดอกให้พี่อีกเยอะเลยครับ” เสือยิ้มให้อย่างอ่อนโยน เพราะนิราเอี้ยวหน้ามามองเขา“ไปที่เตียงได้ไหมคะ ยืนไม่ไหวแล้วเนี้ย”นิราพูดอย่างออดอ้อน ถ้าไม่ได้พี่เสือประคอง เธอได้ลงไปกองอยู่ในอ่างน้ำนี่แน่ๆ เสือมองสภาพของนิรานิ่งๆ ก่อนจะอาบน้ำให้เธอและเขาอย่างเร่งรีบ เพราะกลัวว่าถ้าอยู่ในนี้ต่อ เธอจะไม่สบายเอาเสืออุ้มคนที่เอาแต่ซบอยู่กับอกเขาตลอดการอาบน้ำขึ้นช้าๆ พาร่างเปลือยเปล่าแสนเย้ายวน มาวางบนเตียงกว้าง และเริ่มต้นบทรักกับเธออีกครั้ง และครั้งนี้เธอช่าง
นิราตั้งใจมาเพราะแบบนี้แหละ ตลอดสามเดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ทับทิมร่อนการ์ดแต่งงานให้เพื่อนๆ ทับทิมเอาแต่นินทาว่าร้ายนิราให้เพื่อนสมัยมัธยมฟัง นิราได้ยินเพื่อนคนนั้น คนนี้ มาเล่าให้ฟังไม่ขาดสาย ว่าเธอโดนเจ้าสาวของงานวันนี้ นินทาอะไรไปบ้างเสือนั่งมองนิราที่ยิ้มอย่างมีความสุข ได้แต่เก็บความขุ่นเคืองไว้ในใจ ยัยนี่ไปทำอะไรมา ทำไมถึงดูมีความสุขขนาดนั้น แล้วไปคุยอะไรกับไอ้นั่นมาอีกก็ไม่รู้ ไอ้นั่นถึงได้ดูมีชีวิตชีวา ต่างจากก่อนหน้าที่นิราจะเข้าไปหา“เดี๋ยวมา!”“จะไปไหนคะ” อยู่ดีๆคุณเสือก็ลุกขึ้น แล้วเดินออกไปทันทีที่พูดเสร็จ นิราได้แต่มองตามอย่างงงๆ วันนี้คุณเสือเป็นอะไร ตั้งแต่มาถึงก็เอาแต่นั่งเงียบเสือเดินหลบออกมาบริเวณซุ้มดอกไม้ด้านนอก ก้มหน้านิดๆ ให้พวกผู้หญิงในงาน ที่ส่งยิ้มมาทักทายอย่างไม่ขาดสาย ก่อนเขาจะเดินเลี่ยงออกไปอีกด้าน ที่มันเงียบกว่าตรงนี้นิดหน่อย อย่างคนที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัว“ทำไมหนีออกมาละคะ เบื่อ?” ผู้หญิงที่อยู่ในชุดไทยสีขาว เดินเข้ามาถามเสือที่ยืนอยู่คนเดียวทันทีที่เธอเห็นเขาเดินออกมา เธอก็รีบลุกตามมาทันที จนแขกในพิธีที่กำลังผูกแขนให้เธอ ทำสีหน้าตกอกตกใจกับกระกระทำข
“ฉันไม่รู้คะ ฉันไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะพูดอะไรได้ทั้งนั้น ฉันมีแต่รับอยู่ฝ่ายเดียวคุณเสือคงเบื่อมั้งคะ”คุณมิลแทบจะเป็นที่ปรึกษาของเธออยู่แล้ว เพราะคุณมิลรู้จักคุณเสือดีว่าเธอ นิราจึงกล้าพูดกับคุณมิลแทบทุกอย่าง แม้จะรู้ว่าเธอเป็นอดีตคู่หมั้นของคุณเสือก็ตาม“สมน้ำหน้า ฉันบอกแล้วว่าให้อ่อยเขาหน่อย เธอมันเล่นตัว เสือชอบคนเอาอกเอาใจนะ เสือก็ผู้ชายธรรมดาคนนึง เธอลองตามใจเขาหน่อยสิ เขาอาจจะหลงเธอเขาสักวัน แต่ผู้หญิงจืดชืดแบบเธอคงไม่เข้าใจหรอก”มัลลิกามองนิรานิ่งๆ เด็กคนนี้จะเอาเสืออยู่ได้ไง ก็เล่นตัวซะขนาดนี้ เล่นกับเสือร้ายมันต้องใจกล้ากว่านี้ ถึงจะเอาเขาอยู่หมัด สอนอะไรไปไม่จำ ไม่ทำตามอีกต่างหากนิราไม่ได้ตอบโต้อะไร เอาแต่นิ่งเงียบ มองดูช่างคนนั้นคนนี้ปรับปรุงร้านของเธอต่อไปร้านนี้ เธอตั้งใจจะทำเป็นร้านเบเกอรี่ เพราะเธอสนใจมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก และแอบไปเรียนเสริมช่วงที่ว่างจากเรียนมหาลัย แต่เธอไม่เคยมีเงินพอจะทำตามฝันตัวเองเลย จึงได้แต่เก็บให้มันเป็นแค่ความฝันตลอดมาTru“……”[คืนนี้ไม่กลับนะ บริษัทคู่ค้ามีงานเลี้ยง] เป็นคุณเสือที่โทรมา หลังจากนิรากดรับ แล้วรอเงียบๆ ว่าเขาจะพูดอะไรกับเธอ
“บอกมาว่าจะแต่ง หรือจะเลิก” นิราถามเสียงเรียบ พยายามที่สุดไม่ให้เสียงตัวเองสั่น และห้ามไม่ให้น้ำเอ่อคลอดวงตา แม้ตอนนี้จะรู้ตัวว่าบังคับทุกอย่างได้ยากเกินทนทำไมต้องเป็นทับทิม เธอพยายามไม่ให้คนทั้งคู่เจอกัน เพราะรู้ว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้แน่ๆ ทับทิมเป็นคนสวย เธอสวยมาก และอาจจะเป็นผู้หญิงที่มีนิสัยถูกใจคุณเสือมากที่สุดก็ได้ นิราเลยไม่อยากให้คนทั้งคู่เจอกัน แต่ตอนนี้สิ่งที่เธอหวาดกลัวได้เกิดขึ้นแล้ว เกิดขึ้นในตอนที่เธอกำลังจะหมดความหมายกับเขา“ถ้าไม่เลือก ฉันเลือกเองนะ” ทำไมไม่ตอบอะไรละคุณเสือ ทำไมถึงนิ่งได้ขนาดนี้ คุณเสือเล่นตลกอะไรกับนิราอีกสามเดือนที่ผ่านมาเธอทำงานอย่างหนัก ทั้งที่บริษัทเพื่อช่วยงานเขา ทั้งดูงานปรับปรุงตกแต่งร้านที่เขาบังคับให้เธอเปิด ไหนจะต้องไปหาแม่ของเขา เพื่อฝึกมารยาท บางครั้งก็อยู่กับท่านดึกดื่น เพื่อช่วยอยู่คลายเหงาให้ท่าน ไหนเธอจะต้องดูแลแม่ที่รักษาตัวจากมะเร็งอีก เธอเหนื่อยแล้วนะ เหนื่อยมากๆ ด้วย“เราเลิก /ว้าย! ปล่อยสิภพ”นิรายังไม่ได้พูดให้จบ ก็มีเสียงกรีดร้องของทับทิมแทรกขึ้นก่อน คนที่นั่งอยู่ตรงนั้นจากที่เงียบอยู่แล้วตอนนิรามาถึง กลับต้องเงียบมากกว่าเ
“หมอนั่นไม่ช่วยหรอก กลับกันเถอะ หิวข้าว” เสือถอดสูทของตัวเองออกมา ยื่นให้นิราใช้มันปกติร่างกายแสนเย้ายวน ถ้าเขาคลุมให้เอง ยัยนี่ต้องปฎิเสธอยู่แล้ว เพราะเธอกำลังโกรธเขาอย่างหนัก“ฉันอยากเลิกค่ะ”นิรามองคนที่ยื่นเสื้อมาให้เธอ ก่อนจะพูดสิ่งที่ตัวเองคิดทบทวนแล้วออกไป เสือทำเพียงแค่ยักไหล่ ก่อนจะเดินมาชิดตัว แล้วสวมเสื้อของเขาปิดบังร่างกายที่แสนยั่วยวนให้เธอ“ไม่ได้ยินเหรอคะ คุณเสือ”ช่วยพูดอะไรหน่อยสิ ไม่มีปากรึไง ทำไมถึงนิ่งกับเธอขนาดนี้ นิรามองหน้าคนที่เธอรักผ่านม่านน้ำตา ที่เธอไม่สนใจจะเช็ดมันออกเลยสักนิด“หิวแล้ว” เสือพูดย้ำคำเดิม ดึงคนที่ร้องไห้เป็นเด็กๆเข้ามากอด ไม่สนใจคำพูดที่ออกมาจากปากคนงอนสักนิด มีสิทธิ์อะไรมาขอเลิก“ได้เรียนรู้อะไรบ้างรึเปล่า หืม? บอกแล้วว่าอย่ากลับไปยุ่งเกี่ยวกันอีก ยิ่งเอาตัวไปพัวพัน ยิ่งไม่จบไม่สิ้นกันสักที คราวนี้จะถอนตัวออกมาได้รึยัง”เขาบอกเธออยู่ตลอด ว่าไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงแบบทับทิมอีกมันเสียเวลา แต่นิรากลับเอาแต่วิ่งเต้นไปตามแผน ที่ยัยนั่นวางไว้เพื่อทำลายคนรักของเขา โง่ซ้ำซ้อนจนเขาต้องหาบทเรียนให้เธอด้วยตัวเอง“คุณหมายความว่ายังไง” นิราถามทั้งๆ
ตึกๆ ตึกๆเสียงรองเท้าย้ำไปกับพื้นถนน ก่อนที่ร่างบอบบางสวมแว่น จะขึ้นไปยืนบนฟุตบาททันทีที่ข้ามถนนได้ ยืดอกให้ดูผ่าเผยขึ้น มือกำเอกสารสำคัญของตัวเองไว้แน่น สูดลมหายใจลึกๆ จึงก้าวเดินอย่างมาดมั่น เข้าไปในตึกขนาดใหญ่ เพื่อไปสัมภาษณ์งาน“สวัสดีค่ะ มาตามนัดสัมภาษณ์งานค่ะ”นิรายกมือไหว้คนที่เคยเจอแล้วตอนมากรอกใบสมัคร“ตอนนี้ท่านไม่อยู่ มีธุระด่วน เดี๋ยวติดต่อไปใหม่ หรือไม่ก็ไปสมัครที่อื่นเถอะ” คนสวยตรงหน้าพูดด้วยรอยยิ้มเหยียด ใช่ รอยยิ้มเหยียดหยัน! ที่นิรามองเห็นชัดเจน“แต่พี่คนที่อยู่ข้างๆ เมื่อวานนัดมานะคะ หนูขอรอได้ไหมคะ” เธอเอ่ยขอร้องอีกครั้ง ถ้าเธอกลับไป เธออาจจะพลาดงานนี้ก็ได้ ทั้งที่เมื่อวานพี่คนที่รับเรื่องเธอ พูดเหมือนว่าจะรับเธอเข้าทำงานแล้วด้วยซ้ำ“ท่านไม่กลับเข้ามาง่ายๆหรอก น่าจะอีกนานอะ” เธอพูดอย่างหงุดหงิด เมื่อยัยเฉิ่มข้างหน้าดูท่าจะเข้าใจอะไรยาก“งั้นเหรอคะ งั้นหนูลาเลยนะคะ” นิรารีบยกมือไหว้แล้วเดินออกไปทันที เธอเสียเวลามามากแล้ว ไม่ได้ที่นี่ก็ต้องหาที่ใหม่ต่อ แต่ในใจก็นึกโกรธคนเป็นเจ้าของที่นี่ ถ้าไม่พร้อมจะสัมภาษณ์เธอ ไม่รู้จะนัดเธอมาทำไมแต่เช้าแบบนี้“โอ้ย! !” นิราเดินออ
3 ชั่วโมงต่อมาร่างสูงสง่าดูภูมิฐานของนรสิงค์ หรือคุณสิงค์ ผู้นั่งตำแหน่งรองประธานบริษัทนำเข้าและส่งออกขนาดใหญ่แห่งนี้ เดินอย่างเร่งรีบเข้ามาในห้องทำงานของตัวเอง หลังจากเสียเวลาอยู่ในห้องประชุมนานกว่าปกติวันนี้เขาต้องเป็นประธานในการประชุม แทน คุณพยัคฆ์ หรือเสือ พี่ชายที่หนีไปหาคู่หมั่นคนสวยตั้งแต่เช้า หรือบางทีอาจจะตั้งแต่เมื่อคืน“คุณรอนานไหมครับ”นรสิงค์ถามผู้หญิงที่นั่งผงกหัวกับโซฟา เธอคงจะง่วงเพราะรอเขาตั้งนาน ไหนจะตาหวานเยิ้มที่มองเขานั่นอีก นี่เธอตื่นรึยังเนี้ย“ต้องถามด้วยเหรอคุณ คุณก็น่าจะรู้เรื่องเวลาดีที่สุด”นิราบ่นให้คนที่ดูนาฬิกาก่อนจะถามเธอด้วยซ้ำ“อ่า งั้นเรามาเริ่มกันเลยนะครับ คุณมาสัมภาษณ์งานตำแหน่งเลขาของท่านประธานสินะครับ ผมชื่อนรสิงค์ หรือสิงค์ เป็นรองประธานที่นี่ครับ”นรสิงค์เอ่ยแนะนำตัว ก่อนจะเริ่มสัมภาษณ์เธอทันที“ชื่อนิรา อายุ 25 จบโทบริหาร พูดได้ 3 ภาษา จีน อังกฤษ ญี่ปุ่น” นรสิงค์ทวนข้อมูลในเรซูเม่ของเธอช้าๆ การศึกษาเธอดีมากแม้จะจบจากมหาลัยต่างจังหวัดก็เถอะ ถือว่าใช้ได้ทีเดียว“คุณพร้อมเริ่มงานวันไหน” นรสิงค์ถามนิราที่นั่งเงียบ นี่เขาสัมภาษณ์งานหรือแค่อ่านปร