“มีสิ แต่จุ๊ ๆ ไว้นะ” ฟีนยกมือขึ้นแตะปากไว้แล้วขยิบตาให้รุ่นน้องเล็กน้อย เพราะเรื่องนี้จะไม่ถูกแพร่งพรายออกไป ไม่อย่างนั้นถ้าถึงหูอาจารย์ พวกเธออาจจะโดนเรียกไปต่อว่าและลงโทษก็เป็นได้“เย้” หนูดีและชิงชิงหันไปตบมือใส่กันด้วยความดีใจ“อะไรเหรอ?” มีเพียงเจ้าแก้มเท่านั้นที่ไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่รหัสและเพื่อนพูดกัน“ก็ปีที่แล้วหลังรับน้องเสร็จพวกพี่เขาก็ปิดผับฉลองไง แกจำไม่ได้เหรอ?” หนูดีจึงหันมาพูดกับเจ้าแก้มอย่างร่าเริง เธอลืมไปเสียสนิทเลยว่าเมื่อปีที่แล้วเจ้าแก้มไม่ได้ไปร่วมงานนี้ด้วยกัน“จะให้ยัยนี่จำอะไรล่ะ เจ้าแก้มไม่ได้ไป” ชิงชิงจึงรีบพูดขึ้นเตือนหนูดีว่าเจ้าแก้มไม่เคยไปที่แบบนั้นกับพวกเธอ“เออ จริงด้วย ลืมไปเลย” หนูดีจึงนึกขึ้นได้“แล้วปีนี้ว่ายังไงเจ้าแก้ม?” ฟีนมองน้องรหัสของเธอยิ้ม ๆ แล้วถามถึง ปีนี้ว่าเจ้าแก้มจะสามารถไปร่วมงานได้หรือไม่ แม้อุปสรรคชิ้นใหญ่ของเจ้าแก้ม จะเป็นคุณหมอสุดหล่อทั้งสองก็ตาม“เอ่อ” แก้มไม่รู้จะตอบยังไงและมีสีหน้าที่ลังเลสับสน ใจหนึ่งเธอก็อยากที่จะไปเปิดหูเปิดตา บางแต่อีกใจหนึ่งก็เป็นกังวล กลัวว่าที่บ้านจะไม่ยอมให้ไป“ไปด้วยกันสิเจ้าแก้ม ไปเปิดโลกใหม่” หนูดี
“ไม่ได้!!!” สองพี่น้องพูดขึ้นพร้อมกับแล้วจ้องไปที่เจ้าแก้มเขม็ง“พี่กราฟ พี่กลูม” เจ้าแก้มจึงมองพี่ชายทั้งสองด้วยสายตาอ้อนวอน“ไม่ได้ เดี๋ยวนี้เกเรใหญ่แล้วนะเจ้าแก้ม” หมอกลูมจึงรีบปฏิเสธทันที และมองน้องสาวด้วยสายตาดุดัน“คุณพ่อคุณแม่”เมื่อพี่ชายทั้งสอง ไม่อนุญาตเจ้าแก้มจึงเบนเข็มทิศไปทางหมอเกรียงไกรและหมอกัลย์สุดาแทน ดวงตากลมโตมองผู้เป็นพ่อแม่ด้วยสายตาอ้อนวอนและคาดหวัง“พ่อแม่อย่าอนุญาตเด็ดขาดนะครับ” หมอกราฟจึงรีบหันไปพูด บอกพ่อกับแม่ทันทีว่าไม่ให้อนุญาตให้เจ้าแก้มไปในที่แบบนั้น“แต่...” เจ้าแก้มกำลังจะเถียงขึ้น“ไม่แต่อะไรทั้งนั้น” แต่หมอกราฟไม่ให้เธอพูดอะไรทั้งนั้น“กราฟ เงียบก่อน” หมอเกรียงไกรจึงปรามลูกชายทั้งสองให้ใจเย็น ๆ“พ่อครับ”“ทางคณะเขาจัดเหรอลูก?” หมอเกรียงไกรเมินสายตาของบุตรชาย จากนั้นก็หันไปพูดกับเจ้าแก้มเสียงนุ่ม“ไม่ใช่ค่ะ อันนี้เป็นรุ่นพี่จัดขึ้นเอง”เจ้าแก้มส่ายหน้าและเล่าให้ผู้เป็นพ่อแม่ฟังว่านี่เป็นงานที่รุ่นพี่ร่วมกันจัดขึ้นมาเองคล้าย ๆ กับการเลี้ยงสายรหัส ซึ่งปีที่แล้วก็จัด แต่เธอไม่ได้ไป“เจ้าแก้มอยากไปเหรอ?”หมอกัลย์สุดายกมือขึ้นลูบหัวลูกสาว เธอจะสังเกตได้ว่า
“อ้าว แล้วปกติแกไม่ใช่แบบนั้นหรือไง?” ชิงชิงจึงสวนกลับไปทันที“ไม่ใช่สักหน่อย” ซึ่งเจ้าแก้มก็ส่ายหน้าปฏิเสธ เธอไม่ได้เป็นแบบนั้นเสียหน่อย ที่ผ่านมาก็ตั้งใจเรียนตามปกติ“ถ้าอย่างนั้นก็เล่ามาจ้ะ ว่าอารมณ์ดีอะไรมา?”“เมื่อคืนเจ้าแก้มขอคุณพ่อคุณแม่แล้วนะ” เจ้าแก้มเลิกทำหน้าบึ้ง แล้วพูดกับเพื่อนด้วยดวงตาเป็นประกาย“จริงดิ แล้วพวกท่านว่ายังไงบ้าง?” ชิงชิงรู้สึกตกใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าจะแก้มจะกล้าพูดกับพ่อแม่และพี่ชายทั้งสองในเรื่องนี้จริง ๆ“ให้ทาย” เจ้าแก้มหรี่ตามองเพื่อนด้วยสายตาเจ้าเล่ห์“กรี๊ดดดดด” ซึ่งพอเห็นท่าทางของเจ้าแก้มเพื่อนทั้งสองก็เดาออกในทันที จึงหันไปกรี๊ดกร๊าดใส่กันด้วยความดีใจ“แล้วพี่ชายแกล่ะ?” แต่แล้วชิงชิงก็หุบยิ้ม แล้วหันขวับไปถามเจ้าแก้มถึงพี่ชายจอมหวงทั้งสองของเธอ“พี่กราฟกับพี่กลูมก็ขัดไม่ได้หรอก” เจ้าแก้มจึงกอดอกและเชิดหน้าอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า นาน ๆ ทีเธอจะข่มหมอกราฟกับหมอกลูมได้เชียวนะ“เย้ ดีใจที่สุด แกจะได้ไปเที่ยวกับพวกฉันแล้ว” สองสาวจึงพูดขึ้นด้วยความดีใจ และนัดแนะกันถึงงานในวันพรุ่งนี้สามสาวพูดคุยกันต่อด้วยความดีใจพรึบแล้วจู่ ๆ เจ้าแก้มก็รู้สึกถึงมือที่ม
กิจกรรมรับน้องของคณะเภสัชสิ้นสุดลงตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมานั้น ทำให้ทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องค่อนข้างที่จะสนิทกันไม่น้อยเจ้าแก้มมีน้องรหัสชื่อ น้องกวาง ซึ่งน่ารักมาก ๆ นิสัยคล้าย ๆ กัน แต่โชคดีที่น้องกวางไม่ใช่คนที่นี่ จึงไม่มีครอบครัวมาห้ามไปให้ไปงานเลี้ยงในคืนนี้กิจกรรมรับน้องสิ้นสุดลง ก็จะมีกิจกรรมกีฬามหาวิทยาลัยเข้ามา ซึ่งก็อยู่ในแผนของเทอมหน้าถือว่าเทอมนี้รุ่นน้องต่างก็เป็นอิสระกันแล้ว อีกอย่างก็คือใกล้สอบกันแล้วด้วย ทางมหา’ลัยจึงอยากให้ทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องจริงจังกับการสอบมากกว่ากิจกรรมและตอนนี้เจ้าแก้มก็นั่งรอฟีนมารับ โดยมีพี่ชายทั้งสองคอยกำชับข้อห้ามตั้งแต่เธอลงมานั่ง“จำไว้นะ อย่ารับแก้วจากใครเด็ดขาด” หมอกราฟพูดขึ้นเป็นรอบที่เท่าไรก็ไม่รู้ ตั้งแต่เจ้าแก้มมานั่งลง กำชับตั้งแต่ตอนไปถึง และตอนกลับ“ใช่ แล้วอย่าไว้ใจใครง่าย ๆ” หมอกลูมเองก็รีบพูดเสริมพี่ชายเช่นกัน“อย่าไปไหนคนเดียว ต้องตัวติดกับชิงชิงและหนูดีตลอด”“เข้าใจไหมเจ้าแก้ม?” พอพูดจบก็ถามย้ำว่าเจ้าแก้มเข้าใจที่พวกเขาพูดไหมซึ่งเจ้าแก้มก็พยักมากรับทุกครั้งจนแทบจะเป็นไก่อยู่แล้ว“กราฟ กลูม พอแล้วลูก” หมอเกรียงไกรท
ฟีนจับมือเจ้าแก้มเดินเข้ามาข้างในผับ ซึ่งมีแค่การ์ดที่รอตรวจบัตรที่ทางรุ่นพี่มีให้กับรุ่นน้องในคณะเพียงเท่านั้น คนอื่น ๆ ไม่สามารถมีได้ซึ่งพอเดินเข้ามาเจ้าแก้มก็ยกมือขึ้นปิดหูทันที เพราะเพลงที่เปิดค่อนข้างเสียงดังฟีนยืนรอให้เจ้าแก้มปรับตัวได้สักพัก จากนั้นก็พาเดินไปที่โต๊ะด้านหน้าเวทีซึ่งมีสายรหัสของเธอนั่งอยู่ครบทวดรหัส - นิวเคลียร์ยายรหัส - แป้งป้ารหัส - ซีรีนน้องรหัส - กวาง“มาแล้ว ๆ” พอสายรหัสหันมาเห็นเจ้าแก้มและฟีนก็รีบพูดขึ้นแล้วยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ“พี่ ๆ สวัสดีค่ะ” เจ้าแก้มจึงยกมือไหว้รุ่นพี่ทุกคนด้วยท่าทางนอบน้อม“หวัดดีเจ้าแก้ม คิดถึงมาก มาให้พี่กอดหน่อย” นิวเคลียร์ที่ต้องไปฝึกงาน ไม่ได้เจอหน้าเหลนรหัสเลย จึงลุกขึ้นมากอดเจ้าแก้มด้วยความคิดถึง“คิดถึงพี่ ๆ เหมือนกันค่ะ” เจ้าแก้มกอดตอบกลับ แล้วพูดขึ้นเสียงหวานด้วยท่าทางออดอ้อนทำเอาใจคนมองละลายไปตาม ๆ กัน“สวัสดีค่ะพี่ฟีน พี่แก้ม”กวาง รุ่นน้องปีหนึ่ง ซึ่งเป็นน้องรหัสของเจ้าแก้มยกมือไหว้รุ่นพี่ทั้งสองที่ค่อนข้างคุ้นเคยกันมากกว่ารุ่นพี่คนอื่น ๆ ในสายรหัส เพราะเจ้าแก้มและฟีนรับผิดชอบรุ่นน้องโดยตรง คนอื่น ๆ ก็มีแวบไป
ซึ่งพอโซ่มาถึงโต๊ะของเจ้าแก้มแล้ว ทุกคนบนโต๊ะก็หันไปมองเขาเป็นตาเดียว รวมถึงคนที่อยู่บริเวณนั้นด้วย“พี่โซ่” เจ้าแก้มทักทายเขาพร้อมกับยิ้มให้จนตาหยี“มานานหรือยัง?”โซ่ถามขึ้นพร้อมกับมองสำรวจ การแต่งตัวของเจ้าแก้มไปด้วย เขาพยักหน้าพอใจ นึกหวั่นว่าเธอจะแต่งตัวโป๊มากกว่านี้เสียอีก แต่ตอนนี้เขาก็ยังคงหวงเธอเช่นเดิม เจ้าแก้มแต่งตัวเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อย ๆ ที่กำลังมาวิ่งเล่นอยู่ในสถานที่อโคจร“เพิ่งมาถึงเลยค่ะ” เจ้าแก้มจึงพูดขึ้นบอกกับเขาว่าเธอเองเพิ่งจะมาถึง“พี่โซ่ นี่รุ่นพี่สายรหัสเจ้าแก้มค่ะ พี่นิวเคลียร์ พี่แป้ง พี่ซีรีน และน้องกวาง”จากนั้นก็แนะนำตัวรุ่นพี่สายรหัสของเธอแต่ละคนให้กับโซ่ได้รู้จัก“สวัสดีครับ” โซ่เองก็หันไปก้มหัวให้รุ่นพี่ของเจ้าแก้ม“จ้ะ” ซึ่งสายรหัสเจ้าแก้มไม่มีใครไม่รู้จักโซ่ หนุ่มหล่อดีกรีหลานชายเจ้าของมหาวิทยาลัย ก็เลยรู้สึกตกใจเล็กน้อยที่เห็นเขาเข้ามาพูดคุยกับเจ้าแก้มอย่างสนิทสนม ทั้งที่แต่ก่อนโซ่ไม่เคยให้ความสนิทสนมกับผู้หญิงคนไหนเลย นอกจากจะเป็นเพื่อนอย่างฟีน“เขาจีบกันอยู่เหรอ?” นิวเคลียร์ที่ทนความสงสัยไม่ไหวจึงหันไปกระซิบถามฟีนที่นั่งอยู่อีกข้างของเธอ“ค่ะ” ฟีน
“พี่นิว” ฟีนพยายามห้ามปราม“ไม่เป็นหรอกน่า วันนี้เจ้าแก้มนอนกับแกนี่ ใช่ไหม?” แต่นิวเคลียร์ไม่สนใจและถามขึ้นเพราะวันนี้เจ้าแก้มมากับฟีน ที่บ้านจึงวางใจให้ค้างที่อื่นได้ ซึ่งเจ้าแก้มก็อยากที่จะไปนอนกับฟีน“ใช่ค่ะ” ฟีนพยักหน้ารับ“ถ้าอย่างนั้นก็เมาได้” นิวเคลียร์จึงพูดสรุปกับตัวเองคนเดียว“แต่ถ้าสองหมอนั่นรู้ ฟีนตายแน่” ฟีนเบิกตากว้างด้วยความตกใจแล้วยกพี่ชายของเจ้าแก้มขึ้นมาขู่ยายรหัสของตัวเอง“ก็อย่าให้รู้สิ ไม่ต้องพูดมาก ๆ เจ้าแก้ม อยากลองหรือเปล่า?” นิวเคลียร์จึงพูดปัดไปจากนั้นก็หันไปถามเจ้าแก้ม“ลองอะไรเหรอคะ?” เจ้าแก้มไม่เข้าใจที่รุ่นพี่พูดกัน จึงถามกลับด้วยใบหน้าใสซื่อ“มา เดี๋ยวพี่ชงให้เอง” นิวเคลียร์ชงน้ำให้กับเจ้าแก้ม“นี่เขาเรียกว่าค็อกเทล ลองดู” แล้วยื่นไปให้เธอ“ขอบคุณค่ะ” เจ้าแก้มรับมาแล้วยกขึ้นจิบ เพื่อชิมรสชาติ“เป็นยังไงบ้าง?” ทุกคนบนโต๊ะต่างก็มองเธอด้วยสีหน้าลุ้น ๆ“หวาน ๆ เปรี้ยว ๆ ติดขมนิดหนึ่งค่ะ” เจ้าแก้มวิเคราะห์รสชาติเครื่องดื่มที่เธอเพิ่งดื่มไปแล้วพยักหน้าให้กับทุกคน รสชาติก็ดีไม่ได้เลวร้ายอะไร“อร่อยไหม?”“ก็กินได้นะคะ”“ถ้าอย่างนั้นก็กินนี่แหละ” นิวเคลียร์จึงหย
ทุุกสายตามองมาที่โซ่กับเจ้าแก้มเป็นตาเดียวโซ่จึงละสายตาจากใบหน้าหวานของเจ้าแก้ม จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นกวาดสายตาไปมองรอบ ๆ“มองอะไร?” จนมาหยุดที่กลุ่มเพื่อนในโต๊ะ เขาเอ่ยถามนิ่ง ๆ “เปล่า” ซึ่งทุกคนก็ส่ายหน้าและหลบสายตาของโซ่ทันที“ใครวะ?” มีหลายคนในกลุ่มนี้ที่ไม่ใช่นักศึกษาคณะเดียวกันกับโซ่และเจ้าแก้มถามขึ้นด้วยความสงสัย“เด็กมัน” เป็นจินที่ตอบแทนแล้วยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม“เด็กไอ้โซ่นี่นะ?” ซึ่งคำตอบของเขาทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องตกอยู่ในความตะลึง และมองไปที่ร่างบางบนตักโซ่เป็นตาเดียวทำให้โซ่ที่ถอดเสื้อมาคลุมร่างให้เจ้าแก้มอยู่ตวัดสายตาขึ้นไปมองอย่างดุดัน“เออ” เขาตอบขึ้นแล้วจ้องจนกลุ่มเพื่อนละสายตาออกไปโซ่รับรู้ถึงสายตาของคนที่มองมาก็รู้สึกหงุดหงิด“เจ้าแก้ม” จึงสะกิดร่างบางในอ้อมแขนให้ตื่น“เจ้าแก้ม” แต่เรียกยังไงเจ้าแก้มก็ไม่ขยับตัวเลย“แก้มกลม” เขาเองก็ไม่ได้คิดจะปลุกเธอแรง จึงก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูของเจ้าแก้ม“อื้อออออ” นั่นทำให้เจ้าแก้มเริ่มขยับตัวขยุกขยิก แต่ไม่ยอมตื่นขึ้นมาใบหน้าหวานซุกไซ้ที่หน้าอกเขาเหมือนแมวน้อยด้วยท่าทางออดอ้อน“หึ” โซ่อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู“พาไ
“คะ?” เจ้าแก้มชะงักไปทันที แล้วหันมามองโซ่อย่างตั้งคำถามอีกครั้ง“...” เพียงแต่โซ่ไม่ตอบอะไร เขามองเธอนิ่ง “เจ้าแก้มไม่ได้โกรธค่ะ” เจ้าแก้มส่ายหน้าเบา ๆ และขบคิดด้วยความสับสน“แล้วเป็นอะไร?” โซ่จึงจี้ถาม แม้จะมั่นใจแล้วก็ตามว่าเธอเป็นอะไร“เจ้าแก้มก็ไม่รู้” เจ้าแก้มส่ายหน้าตอบกลับมา เพราะเธอไม่รู้จริง ๆ ว่าตัวเองเป็นอะไร มันอธิบายความรู้สึกไม่ได้ในตอนนี้“เห็นรูปนั้นใช่ไหม?” “ค่ะ” เมื่อถูกถามอย่างนั้น เจ้าแก้มยอมรับไปตรง ๆ แล้วก้มหน้าลงทันที“พี่ไม่รู้เรื่องด้วย ไม่รู้จัก ไม่เคยคุยกันเลยด้วยซ้ำ” โซ่อธิบายให้เธอฟังอย่างใจเย็น เขาไม่รู้จักรุ่นน้องคนนั้นมาก่อน และไม่มีความคิดที่จะนอกใจเจ้าแก้มเลยสักครั้ง“อีกอย่างรูปนั้นพี่สั่งให้ไอ้ลีนไปลบให้แล้ว” แล้วก็บอกเล่าว่าเขาสั่งให้เพื่อนไปลบรูปนั้นแล้ว“พี่ดีใจนะ”“ดีใจอะไรเหรอคะ?” เจ้าแก้มเงยหน้าขึ้นแล้วมองโซ่อย่างแปลกใจ ที่จู่ ๆ ก็พูดขึ้นว่าดีใจ“ก็ดีใจที่เจ้าแก้มหึงพี่” โซ่กล่าวแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มออกมาอย่างอารมณ์ดี“บ้า ใครหึงกัน ไม่มีนะ” ทำให้เจ้าแก้มหน้าร้อนขึ้นมาแล้วรีบปฏิเสธทันที เธอไม่ได้หึงเขาเสียหน่อย แค่ไม่พอใจที่เห็นเขากับคนอื่นก็เ
เจ้าแก้มมึนตึงกับโซ่เป็นอย่างมาก จนกลายเป็นความอึดอัดใจ“วันนี้พี่ไปส่งนะ” เขาอาสาไปส่งเธอที่บ้านด้วยตัวเอง เพื่อที่จะได้คุยกัน“พี่กราฟจะมารับค่ะ” แต่เจ้าแก้มกลับปฏิเสธมาเสียอย่างนั้น“เดี๋ยวพี่จะโทรบอกพี่กราฟเอง” โซ่จึงอาสาโทรหากราฟเอง เพราะอย่างไรวันนี้ต้องได้คุยกันก่อนทำให้เจ้าแก้มไม่สามารถปฏิเสธได้“พี่ไปนะ” โซ่จำใจต้องลาเจ้าแก้ม เพื่อไปเรียน แต่ก็ยังคงมีความกังวลอยู่ไม่น้อย“แกตึงใส่เขาเกินไปหรือเปล่า?” เมื่อโซ่เดินออกไปแล้ว ชิงชิงก็หันมาถามเจ้าแก้มทันที“นั่นสิ” หนูดีเองก็เห็นด้วย ว่าเจ้าแก้มเฉยชากับแฟนหนุ่มของเธอมากไปจริง ๆ“เจ้าแก้มไม่รู้” คำพูดของเพื่อนทั้งสองทำให้เจ้าแก้มรู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีในตอนนี้“ถ้าแกไม่รู้ แกควรจะถาม หรือพูดคุยกับเขาไปนะเจ้าแก้ม ไม่ควรทำแบบนี้” ชิงชิงจึงค่อย ๆ พูดให้เจ้าแก้มคิด และเข้าใจ“เจ้าแก้มงี่เง่าไปเหรอ?” เข้าแก้มจึงถามกลับมา เธอไม่อยากเป็นอย่างนี้เลย เพียงแต่จัดการกับความรู้สึกของตัวเองไม่ได้จริง ๆ“ไม่ใช่หรอก แต่แกก็รู้ว่าพี่โซ่เขารักแกแค่ไหน”“ใช่ ตึงใส่เขาไปแบบนั้นจะเรียนรู้เรื่องไหมน่ะ” คำพูดของหนูดีทำให้เจ้าแก้มชะงัก แล
“พี่ไลอ้อน” เจ้าแก้มหยุดชะงักแล้วยกมือไหว้เพื่อนสนิทของแฟนหนุ่ม“ไม่เห็นไอ้โซ่บอกเลยว่าเราจะมา?” ไลอ้อนรับไหว้แล้วพึมพำขึ้น เพราะก่อนหน้านี้โซ่ไม่เห็นจะบอกพวกเขาเลยว่าเจ้าแก้มจะมากินข้าวที่โรงอาหารของพวกเขา“เจ้าแก้มไม่ได้บอกพี่โซ่น่ะค่ะ” เจ้าแก้มบอกกับเขาไปเสียงนิ่ง“อ้าว” นั่นทำให้ไลอ้อนขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ และไหนจะอาการมึนตึงของเจ้าแก้มอีก เขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่“ขอตัวไปสั่งข้าวก่อนนะคะ” เจ้าแก้มตัดบทแล้วขอตัวไปสั่งข้าวทันทีไลอ้อนมองตามหลังของเธอไปด้วยความงงงัน“น้องชิงชิง?” จากนั้นก็หันมามองชิงชิงอย่างตั้งคำถาม“ขอตัวนะคะ” แต่ชิงชิงไม่สามารถพูดอะไรได้เช่นกัน จึงค้อมหัวให้รุ่นพี่เล็กน้อย จากนั้นก็วิ่งตามหลังเจ้าแก้มไปติด ๆทิ้งให้ไลอ้อนได้แต่เกาหัวแกรก ๆ มองตามหลังไปทางด้านของโซ่ ในตอนนี้เขากำลังรอเจ้าแก้มตอบกลับข้อความ หลังจากที่เขาส่งไปหาเธอตั้งแต่สิบนาทีที่แล้ว“มึงเห็นนี่ยัง?” แล้วจู่ ๆ พายัพก็ยื่นโทรศัพท์ของเขาไปให้กับโซ่ซึ่งโซ่ก็มองด้วยความแปลกใจ และรับไปดูก็เห็นว่าเป็นรูปตอนที่เขาไปทำบุญเมื่อเช้านี้ และมีรุ่นน้องคนหนึ่ง มาอยู่ข้าง ๆ ซึ่งเขาไม่ได้รู้จัก หร
เช้าวันต่อมา ในวันนี้เจ้าแก้มมาเรียนโดยมีพี่ชายมาส่ง เพราะโซ่มีนัดกับรุ่นน้องแต่เช้า เพื่อมาทำบุญคณะกัน เจ้าแก้มจึงไม่ได้รบกวนเขาในขณะที่นั่งรอเรียนอยู่นั้น ก็มีเสียงฮือฮาดังขึ้นเป็นระยะ และเจ้าแก้มเองก็รู้สึกว่ามีสายตาของหลายคนมองมาที่เธอแปลก ๆเจ้าแก้มจึงเงยหน้าขึ้นมองด้วยความงงงัน จนหันมาเห็นสายตาของเพื่อนสนิททั้งสองนี่แหละ“มีอะไรเหรอ?” เจ้าแก้มถามขึ้นด้วยความสงสัย“ดูนี่สิ”“หือ?” เจ้าแก้มขมวดคิ้วด้วยความสงสัย จากนั้นก็รับโทรศัพท์จากมือของหนูดีมาดูซึ่งบนหน้าจอกำลังโชว์ภาพของโซ่และผู้หญิงคนหนึ่งกำลังทำบุญอยู่ข้างกัน พร้อมกับแคปชันหวานซึ้งเจ้าแก้มเลื่อนอ่านเม้นก็มีแต่คนพูดว่าเหมาะสมกัน และถามถึงเธอด้วย“โอเคนะ?” ชิงชิงถามขึ้นแล้วมองเจ้าแก้มด้วยสายตาเป็นกังวลเพราะสีหน้าเจ้าแก้มมีความเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังกำโทรศัพท์ในมือแน่นเจ้าแก้มได้สติเงยหน้าขึ้นมาเพื่อนสนิททั้งสองแล้วถามขึ้น“ใครเหรอ?”“เห็นบอกว่าเป็นรุ่นน้องปีหนึ่งน่ะ” หนูดีเป็นฝ่ายตอบ เพราะเธอได้ถามมาแล้วก่อนที่จะเอารูปให้เจ้าแก้มดู คนรู้จักของเธอบอกว่าเป็นรุ่นน้องปีหนึ่ง“อื้ม” เจ้าแก้มพยักหน้ารับรู้แล้วทำเป็น
โซ่เองก็ให้เจ้าแก้มมานั่งข้าง ๆ เขาเช่นกัน แล้วหยิบน้ำมาเปิดฝาให้เธอ“ขอบคุณค่ะ” เจ้าแก้มรับน้ำมาแล้วเอ่ยขอบคุณโซ่“หิวไหม?” โซ่จึงถามอย่างใส่ใจ เพราะทุกครั้งเวลานี้เจ้าแก้มจะต้องได้กินของว่าง แต่เขาติดธุระ ไม่มีเวลาไปรับเธอเลย คิดแล้วก็มีสีหน้ารู้สึกผิดขึ้นมาทันที“ไม่ค่อยหิวค่ะ” เจ้าแก้มรู้สึกหิวเล็กน้อย เพราะความเคยชินที่ได้กินอาหารเวลานี้ แต่ก็ไม่อยากรบกวนโซ่ จึงตอบกลับไป“แสดงว่าหิว?” แต่คำว่า ไม่ค่อย ของเธอนั้นทำให้โซ่ขมวดคิ้วแล้วหรี่ตามองเธอ“แฮ่ ๆ” เจ้าแก้มไม่อยากโกหกว่าไม่หิวจึงยิ้มแหยให้เขาไป“รอก่อนนะ เดี๋ยวพี่พาไปหาอะไรกิน” โซ่จึงพูดขึ้นแล้วหันไปมองตามรับน้องของคณะตัวเองด้วยความหงุดหงิด ใจเขาอยากจะเข้าไปปล่อยรุ่นน้องและพาเจ้าแก้มกลับตอนนี้เลย แต่ไม่สามารถทำได้อย่างที่คิด“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้ากินตอนนี้ กลับบ้านไปคงกินข้าวไม่ได้” เจ้าแก้มเห็นสีหน้าโซ่จึงรีบบอกกับเขาไป เพราะเวลานี้เธอคงกินอะไรไม่ได้แล้ว เพราะว่าต้องกลับไปกินข้าวกับที่บ้านต่อด้วย“อื้ม” โซ่เองก็พึ่งนึกขึ้นได้จึงพยักหน้าเข้าใจรอไม่นานกลุ่มพี่ว้ากก็มีการปล่อยรุ่นน้องให้กลับบ้านทำให้โซ่เองก็พาเจ้าแก้มกลับได้เช่นก
เวลาผ่านไป หลังจากวันนั้นที่โซ่ง้อเจ้าแก้มได้สำเร็จ ทั้งสองก็ตัวติดกันตลอด ไม่ห่างไปไหนช่วงปิดเทอมบ้านของเจ้าแก้มก็มีโซ่ไปเป็นแขกประจำ จนคุ้นเคยกับทุกคนในบ้านพี่ชายทั้งสองของเจ้าแก้ม เห็นโซ่ดูแลน้องสาวของพวกเขาเป็นอย่างดีก็อ่อนให้โซ่แล้ว ไม่มีจิกกัดเหมือนแต่ก่อนจวบจนเปิดเทอม เจ้าแก้มขึ้นปี 3 ส่วนโซ่ก็เป็นรุ่นพี่ปี 4 แล้วในวันนี้เจ้าแก้มมาที่มหาวิทยาลัยโดยมีโซ่มาส่ง ส่วนตัวเขานั้นยังไม่ได้มีการเรียนอะไร มีเพียงคอยดูแลเรื่องการรับน้องในคณะก็เท่านั้นซึ่งโซ่ได้รับเลือกเป็นประธานสภาของมหาวิทยาลัย เขาจึงวุ่นวายเป็นอย่างมากส่วนเจ้าแก้มนั้นขึ้นปีสาม เป็นปีของพี่ว้าก ที่ไม่ต้องไปวุ่นวายการรับมากนัก แต่วันนี้เธอถูกเพื่อนสนิทลากมาดูพี่ว๊าก ซึ่งก็คือเพื่อนปีเดียวกันกับเธอลงว้ากเป็นครั้งแรก“เงียบ!!”เสียงว๊ากที่ดังขึ้นทำให้น้อง ๆ ที่กำลังฮือฮากันอยู่เงียบเสียงลงทันทีบรรยากาศโดยรอบกำลังเกิดเดดแอร์ ไม่เว้นแม้แต่เจ้าแก้มที่เผลอเกร็งไปกับน้อง ๆ ด้วย“ดุชะมัด” ชิงชิงหันไปกระซิบกับหนูดีเพราะพี่ว้ากปีของพวกเธอ มาจากกลุ่มผู้ชายที่ดูจะนุ่มนวลที่สุดแล้ว ทุกคนจึงไม่เชื่อนักว่าพวกเขาจะว้ากได้จริง จึ
พรึบเขาดึงแขนเธอเข้าไปประชิดตัวเองไว้ จากนั้นก็ดันหลังเธอชนกับกำแพงห้องแล้วฉกจูบลงมา“อื้อออออ” เจ้าแก้มเบิกตากว้างอย่างตกใจแล้วก็เอามือดันไหล่เขาไว้“พะ พี่โซ่” เธอพยายามห้ามเขาที่กำลังซุกไซ้ซอกคอของเธออยู่ในตอนนี้“พี่ขอโทษ” เขาเงยหน้าขึ้นมองเจ้าแก้มด้วยสายตาอ้อนวอน ขอให้เธอหายโกรธเขาซึ่งในตอนนี้เจ้าแก้มไม่ได้โกรธเขามากขนาดนั้นแล้วจึงใจอ่อน“นะครับ” โซ่ทำเสียงออดอ้อน จากนั้นก็มองเธออย่างอ้อนวอน“เจ้าแก้มหายโกรธก็ได้ แต่พี่โซ่อย่าทำแบบนั้นอีกนะคะ”เจ้าแก้มจึงยอมใจอ่อน หายโกรธเขา แต่ก็ยังกำชับไม่ให้เขาพูดแบบนั้นอีก เพราะเธอไม่ชอบจริง ๆ“ครับ” โซ่ตอบรับแล้วยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจโซ่ทำการช้อนตัวเจ้าแก้มขึ้นอุ้มโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว“พี่โซ่!!” เจ้าแก้มหวีดร้องด้วยความตกใจแล้วยกมือขึ้นโอบรอบคอโซ่ไว้กันไม่ให้ตัวเองตกโซ่พาเธอเข้ามาในห้องนอนแล้ววางเธอลงบนเตียงอย่างทะนุถนอมหลายวันที่ผ่าน ไม่ได้คุยกับเจ้าแก้มแล้วเขารู้สึกจะคลั่งตาย โซ่สบตามองเจ้าแก้มอย่างลึกซึ้งจนเจ้าแก้มรู้สึกเขินอายฟอดดดด“ขอนะครับ” โซ่โน้มหน้ามาหอมแก้มเธอแล้วกระซิบข้างหูเสียงแหบพร่าเขาค่อย ๆ ทำการโน้มน้าวโลม
และนี่ก็สามวันแล้วที่เจ้าแก้มโกรธโซ่ ไม่ยอมพูดคุยด้วย อีกทั้งยังเมิน หลบหน้าเขาอีกด้วย จนโซ่ต้องมานั่งซึมแบบนี้ผับ F “ท่าทางจะอาการหนักว่ะ” ไลอ้อนหันไปพูดกับพายัพติดตลกแล้วมองไปที่โซ่“เออ กูก็ว่างั้น” ซึ่งพายัพเองก็เห็นด้วยเป็นอย่างมากเพราะในตอนนี้โซ่กำลังนั่งเหม่อถือแก้วเหล้ากระดกเป็นน้ำเปล่า ไม่ยอมพูดจากับใครทั้งสิ้น“มันเป็นอะไร?” คำพูดของทั้งสองทำให้คนบนโต๊ะหันไปมองโซ่เป็นตาเดียว และก็มีคนถามขึ้น“เจ้าแก้มงอนมันน่ะสิ” เรย์จึงเป็นฝ่ายตอบแล้วหยิบขวดเหล้ามารินให้กับตัวเอง“หือ?” นั่นทำให้ทุกคนที่ได้ยินขมวดคิ้วสงสัย เนื่องจากเจ้าแก้มอ่อนหวานและเรียบง่ายแบบนั้น โซ่ไปทำอะไรให้อีกฝ่ายโกรธมากันจากนั้นก็มีคนหนึ่งที่ทำการสอดส่องสาว ๆ อยู่เขาสะดุดอยู่ที่โต๊ะหนึ่งแล้วหรี่ตามอง“อะไร?” จนเพื่อน ๆ เห็นท่าทางนั้นแล้วรู้สึกสงสัย จึงถามขึ้น“มึงช่วยกูดูหน่อย ว่านั่นใคร?” คนนั้นจึงชี้ไปที่โต๊ะหนึ่งทันทีทำให้สายตาของทุกคนยกเว้นโซ่หันไปมองตาม“กะ กูไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหมว่ะ?” ไลอ้อนพูดขึ้นแล้วขยี้ตาเพราะที่พวกเขาเห็นคือเจ้าแก้มและกลุ่มเพื่อนของเธอนั่นเอง“ไอ้โซ่” ลีออนจึงหันไปเรียกโซ่ที่นั่งนิ่ง
“สวัสดีครับ”“คะ?” เจ้าแก้มหันไปมองหนุ่มหล่อหน้าตาดีในชุดมหาวิทยาลัยอื่นที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาแปลกใจ“ผมเซนนะครับ” อีกฝ่ายจึงรีบแนะนำตัวทันที“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?” เจ้าแก้มพยักหน้ารับรู้แล้วถามขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ“เอ่อ ผมจะมาขอไลน์คุณน่ะครับ” เซนยื่นโทรศัพท์ในมือมาให้เจ้าแก้ม เพื่อขอช่องทางการติดต่อของเธอตามที่พูด“เอ่อ” นั่นทำให้เจ้าแก้มมีท่าทีอึกอัก ทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที“ไม่ทราบว่าคุณชื่อ?” เซนทำเป็นไม่เห็นท่าทางลำบากใจของเธอ และทำเป็นถามชื่อ ในตอนแรกที่เขาเห็นเธอก็รู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก และมองจนเพื่อนของเขารู้ พร้อมกับเชียร์ให้เขาเข้าหาเธอ“เจ้าแก้ม” เจ้าแก้มยังไม่ทันได้ตอบอะไรไป ก็มีเสียงเรียกเธอดังขึ้นเสียก่อน“พี่โซ่!” เจ้าแก้มหันมองก็เห็นว่าเป็นโซ่นั่นเองที่ยืนหน้านิ่งอยู่ในชุดนักกีฬา“มีอะไรหรือเปล่า?” โซ่เดินเข้ามาแล้วถามขึ้น พร้อมกับปรายตามองไปที่ผู้ชายคนนั้นเล็กน้อยเขากำลังจะมาหาเจ้าแก้ม แต่กลับเห็นเธอยืนคุยกับผู้ชายคนอื่นอยู่ จึงเกิดความไม่พอใจ“คือว่า” เจ้าแก้มกำลังจะอธิบายให้แฟนหนุ่มของเธอฟัง“ผมมาขอไลน์คุณเจ้าแก้มน่ะครับ” แต่เซนกลับพูดขึ้นเสียก่อน ทำให้เธอช