เช้าวันเสาร์หญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะไปหาแม่ตามที่แม่ได้โทรมาบอกให้ไปหา
"แม่ขา หนูกลับมาแล้วค่าาา"ลูกสาวเดินลงจากรถขาเรียวรีบก้าวเดินไปหามารดาที่อยู่ด้านในตัวบ้าน "กลับมาแล้วเหรอ มาให้แม่กอดหน่อยคิดถึงจังเลย"ขวัญข้าวเดินไปหาแม่แล้วโอบกอดแม่ด้วยความคิดถึงเช่นกัน "ว่าแต่หายไปไหนกันหมดคะ คุณพ่อกับ เจ้าต้นไม้ ไปไหน "สายตาคู่สวยมองไปรอบบ้านที่เงียบเหมือนไม่มีคนอยู่ซึ่งเวลานี้คุณพ่อน่าจะอยู่บ้านส่วนต้นไม้น้องชายคนเดียวสงสัยไปหาเพื่อนหรือเปล่าขวัญข้าวได้แต่คิดในใจ "ปล่อยแม่ก่อน แม่อึดอัด"คนเป็นแม่ดันตัวลูกสาวที่โอบกอดตัวเองออก "คุณพ่อดูสวนกล้วยไม้อยู่หลังบ้าน ส่วนต้นไม้เห็นบอกว่าจะไปติวหนังสือที่บ้านเพื่อน มา เหนื่อย ๆ นั่งก่อน แจ่มยกน้ำมาให้คุณหนูด้วยนะ" "คะ คุณผู้หญิง" "แม่มีอะไรจะคุยกับหนูหรือเปล่าค่ะ"สายตามองไปที่มารดา "คือ แบบนี้นะ พ่ออาร์มแฟนหนูมาคุยกับพ่อกับแม่เมื่อวานว่าอยากแต่งงานกับหนู" "แม่คะ หนูไม่แต่งงานกับพี่อาร์มนะค่ะ"มารดามองไปที่ลูกสาวที่ตอนนี้ตาเริ่มแดงเหมือนจะมีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยลูกสาวตัวเองเงยหน้าขึ้นมองเพดาบ้านไม่ยอมให้น้ำตาไหลออกมาให้มารดาได้เห็น "อ้าว ทำไม เห็นว่าพรุ่งนี้เขาจะให้ผู้ใหญ่มาคุยกับพ่อแม่นะ"มารดาที่ดูพฤติกรรมลูกสาวอยู่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัยมันต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลแน่ ๆ "แม่รู้ไหมว่าาพี่อาร์มทำหนูเจ็บมากเลย"ในใจไม่อยากที่จะเล่าเรื่องราวที่แสนเจ็บปวดให้มารดาฟังแต่เรื่องที่เขาได้กระทำกับเธอมันช่างโหดร้ายไม่คิดว่าคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนจะมีพฤติกรรมที่ไม่น่าให้อภัยขนาดนี้ "เขาทำอะไรเล่าให้แม่ฟังได้ไหม"มารดาที่เริ่มเป็นห่วงลูกสาวเอ๋ยถ้าพร้อมกับให้มือที่เริ่มเหยี่ยวย่นจับลงที่มือของลูกสาวบีบเบา ๆ เหมือนเป็นการให้กำลังใจ "ก็พาผู้หญิงขึ้นคอนโดไงคะ คงไม่ต้องอธิบายหรอกมั่งว่าขึ้นไปทำอะไรกัน เพราะหนูเห็นกิจกรรมที่เขาทำด้วยกันเต็มสองตาเลย"น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ไม่ยอมให้ไหลออกมาแต่ตอนนี้เริ่มห้ามไม่อยู่แล้วเพราะน้ำใส ๆ ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย "จริงเหรอ ดีแล้วที่หนูรู้ก่อนที่จะแต่งงานถ้าแต่งกันไปแล้วทำแบบนี้สักวันก็เลิกกันอยู่ดี"มือเหยี่ยวย่นของคยเป็นแม่ยกขึ้นมาเช็ดลงที่ดวงตาคู่สวย "แล้วพ่อแม่เขาจะมาคุยกับพ่อกับแม่เหรอค่ะ" "อืมใช่จ๊ะ แต่ไม่เป็นไรนะเรื่องนี้แม่จัดการเอง" "ขอบคุณคะแม่ "ขวัญข้าวก้มลงกราบที่ตักของมารดา "อยู่ทานข้าวกับแม่ก่อนนะ อย่าเพิ่งรีบกลับ" "คะแม่กินข้าวเสร็จค่อยกลับตอนเย็น ๆ ก็ได้วันนี้หนูขับรถของยัยกุ้งนางมาด้วย นางบอกว่าอยากกินขนมฝีมือแม่คะ แม่ได้ทำขนมไว้หรือเปล่าคะ" เมื่อหญิงสาวได้เล่าเรื่องทุกอย่างให้มารดาฟังความอึดอัดที่อยู่ภายในจิตใจก็เริ่มผ่อนคลาย ตอนแรกก็สองจิตสองใจว่าจะเล่าเรื่องนี้ให้ทางครอบครัวตัวเองฟังหรือไม่ แต่ไม่คิดว่าพี่อาร์มจะมาเล่นกันเธอแบบนี้ ฮึ แต่งงานหวังมากเกินไปไหมอยากจะตะโกนใส่หน้าคนที่เป็นอดีตแฟนจริง ๆ "พูดถึงเรื่องรถ เมื่อไหร่เราจะซื้อสักคันเวลาเดินทางไปไหนมาไหนจะได้สะดวก" "ก็ดู ๆ ไว้แล้วคะ น่าอีกสักพักเก็บเงินดาวน์ก่อน" "แม่ซื้อให้เอาไหม" "ไม่เอาคะ หนูอยากเก็บเงินซื้อเอง" "ไม่ซื้อก็ไม่ซื้อไปกินข้าวเถอะ ถึงเวลาพอดี นั้นไงพ่อเราก็เดินมาแล้ว" คนเป็นพ่อเดินเข้ามาในต้วบ้านก่อนจะส่งสายตามองมาที่ลูกสาวคนสวย "มานานยังลูกสาวตัวน้อยของพ่อ"คนเป็นพ่อที่มองดูลูกสาวไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไรเขาก็มองลูกสาวเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักตลอด "พ่อ..อ่า ขวัญโตแล้วนะค่ะ" "พ่อเชื่อว่าเราโตแล้ว ถ้าไม่อย่างงั้นจะมีหนุ่มตาบอดมาขอเราแต่งงานเหรอ" "พ่อ ไม่พูดเรื่องนี้ได้ไหม หนูคุยกับแม่แล้วว่าจะไม่แต่งงาน" "อ้าวทำไมละ มันทำอะไรบอกพ่อมาพ่อจะเอาปืนไปยิงมันทิ้ง กล้ามากนะที่มาทำให้ลูกเจ็บ" "หนูไม่พูดละ อยากรู้อะไรถามแม่เลยนะ" "ว่าไงแม่"สายตาคมจ้องมองไปที่คู่ชีวิตตัวเองขณะที่แม่บอกคนทั้งหมดให้ไปทานข้าว "เดี๋ยวแม่เล่าให้ฟังตอนนี้เราไปกินข้าวกันก่อน แจ่มตั้งโต๊ะอาหารเสร็จแล้ว" ทั้งหมดจึงย้ายตัวเองมาที่โต๊ะอาหาร บรรยากาศการนั่งรับประทานอาหารที่ดูอบอุ่นสำหรับขวัญข้าวถึงแม้เธอจะเจ็บปวดจากที่ไหนมาครอบครัวเป็นส่วนสำคัญเสมอที่ทำให้เธอมีกำลังที่จะสู้ต่อไปถึงแม้ตอนนี้ยังขาดน้องชายตัวดีอีกคนที่ไม่ได้มาทานข้าวด้วยกัน "อิ่มจังเลยคะ อาหารยังอร่อยเหมือนเดิมเลย"มือเรียวลูบลงที่ท้องตัวเองเบา ๆ "ถ้าคิดถึงอาหารฝีมือแม่ก็มาบ่อย ๆ สิจ๊ะ กินกันอยู่สองคนพ่อกับแม่ก็เบื่อเหมือนกัน" "อ้าวแล้วต้นไม้ละแม่" "ช่วงนี้น้องมีกิจกรรมเยอะ เดี๋ยวไปทำรายงาน เดี๋ยวไปทำกิจกรรมที่มหาลัย ไม่ค่อยอยู่บ้านเลย"คนเป็นแม่บอกขณะที่ขวัญข้าวพยักหน้าเบา ๆเป็นการตอบรับ ขวัญข้าวนั่งคุยกับพ่อและแม่จนเวลาล่วงเลยจนท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อย ๆ หญิงสาวคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องขับรถกลับคอนโดได้แล้ว "แม่คะพ่อคะขวัญต้องกลับแล้วนะค่ะ เย็นมากแล้วถ้ามืดจะขับรถลำบาก" "จ้า ขับรถกลับดี ๆ นะแล้วนี่ขนมฝากให้กุ้งนางด้วย"มารดาส่งถุงขนมมาให้ลูกสาวที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างรถสีแดงสดที่ลูกสาวขับมา "เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงนะ เดี๋ยวพ่อกับแม่จะจัดการเอง" "คะรักพ่อกับแม่ที่สุดเลย" ขวัญข้าวกอดพ่อกับแม่ที่เดินมาส่งเธอที่รถ มือของทั้งสองลูบลงที่หัวถุยเบา ๆ อย่างรักและเอ็นดูลูกสาวคนเดียว "ไปเถอะลูกเดี๋ยวจะมืด" ขวัญข้าวจึงพละออกจากอ้อมกอดของคนทั้งสองแล้วก้าวขึ้นรถขับออกจากตัวบ้านจุดมุ่งหมายคือคอนโดของเพื่อนสนิท ตอนนี้ขวัญข้าวสิงตัวอยู่ที่คอนโดเพื่อนเพราะไม่กล้ากลับคอนโดตัวเองกลัวว่าจะมีคนมาราวี หญิงสาวขับรถเข้ามาตัวเมืองใกล้จะถึงจุดมุ่งหมายคือคอนโดเพื่อนแล้วโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น ตื้ด ตื้ด ตื้ด! มือเรียวสวยกดรับสายเมื่อเห็นว่าสายที่เรียกเข้านั้นเป็นใครที่โทรมาหา "ขวัญข้าวเธออยู่ไหน"เสียงแรกที่ออกมาจากคนปลายสาย "ขับรถอยู่กำลังจะถึงคอนโดของกุ้งนางแล้วคะ บอสมีอะไรหรือเปล่าค่ะ" "เอกสารด่วนต้องรีบเคลียร์คืนนี้ เดี๋ยวฉันขับรถไปรับเธอที่คอนโดเพื่อนเธอน่าจะไม่เกินครึ่งชัวโมง" "คะ"ขวัญข้าวรับปากกับประธานหนุ่มมือเรียวสวยต่อสายไปหาเพื่อน ไม่นานกุ้งนางก็รับสาย "ว่าไงแก" "กุ้งนาง ฉันกำลังจะถึงคอนโดแล้วแกช่วยลงมาเอาขนมที่แม่ฉันฝากมาให้กับกุญแจรถของแกด้วย" "ทำไมละ แกจะไปไหน" "บอสมีงานด่วนเดี๋ยวเขามารับฉันที่คอนโดแก ใกล้ถึงแล้วลงมาตอนนี้เลยนะ" เมื่อได้ยินที่เพื่อนบอกกุ้งนางรีบสาวเท้าลงมาหาเพื่อนที่ล๊อบบี้ของคอนโด ขวัญข้าวส่งกุญแจรถพร้อมกับถุงขนมมาให้ ก่อนจะเอ่ยบอกเพื่อน "ฉันไปดูเอกสารแป๊บเดี๋ยวมานะ บอสขับรถมาพอดี" "อืม ไปเถอะบอสแกจอดรถรอแล้วเพื่อเขารีบ" หญิงสาวพยัก ขาเรียวรีบเดินมายังรถของประธานหนุ่ม มือเรียวเคาะไปที่กระจกรถ ชายหนุ่มลดกระจกรถลง "ขึ้นมาสิ เอกสารสำคัญต้องรีบใช้ไม่งั้นฉันคงไม่เรียกเธอมาช่วยหรอก" "คะ"ขวัญข้าวตอบออกมาแค่เพียงสั้น ๆ ประธานหนุ่มจึงขับรถออกไปเพื่อมุ่งหน้าไปที่คอนโดของตัวเอง "บอสค่ะ" ทางนี้ไม่ใช่ทางไปบริษัทหนิ"หญิงสาวที่นั่งมองทางจำได้ว่าบริษัทที่ตนทำงานไม่ใช่ทางนี้ ปากบางเอ่ยถามเพื่อคลายความสงสัยทันที "ใช่ ฉันจะให้เธอไปช่วยดูเอกสารที่คอนโดฉัน"ประธานหนุ่มกล่าวสายตายังคงมองถนนข้างหน้าเท้าแตะคันเร่งมุ่งตรงไปที่จุดหมายคอนโดน้ำเหนือทันทีที่ประตูห้องเปิดออกมือหนาเอื้อมไปกดสวิสต์ไฟเพื่อเปิดให้แสงสว่างภายในห้อง สายตาคู่สวยมองไปที่แมวขาสั้นสีขาวที่กำลังเดินมาคลอเคลียที่ขาของเลขาสาวเหมียว เหมียว เหมียว เสียงร้องที่ออดอ้อนของแมวน้อยที่กำลังเอาตัวมาพันแข้งพันขาของเลขาสาว มือบางช้อนอุ้มลูกแมวตัวน้อยขนปุ๊กปุยที่น่ารักมาไว้ที่แนบอก มือเรียวสวยลูบลงที่หัวแมวน้อยไปมาอย่างอ่อนโยน"น่ารักจังเลยคะบอส น้องชื่ออะไรค่ะ"คนตัวเล็กอุ้มลูกแมวไว้ในอ้อมอกขาเรียวเดินมานั่งที่โซฟาสีเทาของเจ้าของห้องปากบางเอ่ยถามเจ้านายหนุ่มที่ยังยืนอยู่ข้างโซฟาสีเทาภายในห้องรับแขก "น้องชื่อมะลิ เธอชอบแมวเหรอ"สายตาคมของเจ้านายหนุ่มมองไปที่เลขาสาวมุมปากยกยิ้มขึ้มมาเล็กน้อย"ชอบค่ะ แต่ไม่มีเวลาดูแล เลยไม่ซื้อมาเลี้ยง"มือเรียวลูบไปที่หัว ลำตัวและเกาที่พุงน้อย ๆ แมวน้อยขนสีขาวปุกปุยหลับตาเคลิบเคลิ้มทุกครั้งเวลาที่เลขาสาวลูบลงที่หัว"เหมือนแมวฉันมันจะชอบเธอนะ เธอชอบมันไหม ถ้าชอบมาเล่นกับมันบ่อย ๆ ได้นะฉันอนุญาติ""มาเล่นกับมันได้เหรอค่ะ บอสแกล้งพูดหรือเปล่าเนี่ย! ""ฉันพูดจริง ถ้าวันไหนเธอว่าง หรือเหงาอะ มาเล่นกับน้องมะลิได้ตลอดเวลาเลย แต่ต้องโ
เลขาสาวถูกประธานหนุ่มลากจูงมายังโต๊ะทานอาหารภายในห้องครัว "กินสลัดดีกว่าเนอะ "บอสหนุ่มเปิดฝากล่องสลัดออก มือหนาใช้ช้อนตักป้อนเลขาสาว "กินสิ สลัดร้านนี้อร่อยนะ"ช้อนที่ยังจ่อปากเลขาสาว"อ้าปากสิครับ อร่อยจริงนะ"คนที่พยายามคะยั้นคะยอต่อ ช้อนที่มีสลัดผักใบเขียวจ่อปากคนตรงหน้า"ขวัญ....อึบ"ปลายช้อนถูกส่งเข้าปากบางทันทีในขณะที่หญิงสาวกำลังจะอ้าปากพูด"เป็นไง สลัดร้านนี้อร่อยใช่ไหม"ปากหนายกยิ้มสลัดคำโตถูกบดเคียวกลืนลงลำคอ"อร่อยค่ะ แต่ขวัญของกินเองดีกว่า"เสียงหวานเอ๋ยออกมาพร้อมที่หัวใจที่เริ่มเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ตึก ตึก ตึก เป็นโรคหัวใจหรือเปล่าเนี่ยทำไมหัวใจเราเต้นแรงขนาดนี้"ไม่ พี่อยากป้อน มามะกินอีกคำนะ อ้าปากเร็ว" อะไรก่อนอยู่ดี ๆ เขาก็แทนตัวเองด้วยพี่ แล้วนี่ยังไม่ยอมให้กินสลัดเองอีก ช้อนนะ จะไม่วางเลยหรือไง"พอแล้วคะ ขวัญขอไปทำงานต่อนะคะ"หญิงสาวลุกออกจากโต๊ะขาเรียวรีบเดินมายังโซฟาด้วยเร็วแสง มือน้อยกุ้มที่หน้าอกข้างซ้าย ตึก ตึก ตึก หน้าเห่อร้อนแดงระเรื่อขึ้นมาเฮอ ทำตัวไม่ถูกเลย บอสจะเล่นอะไรกันเราเนี่ย หรือเขาไม่สบายหรือเปล่า หรือกินยาแล้วลืมเขย่าขวด คิดไปปวดหัวทำงานดีกว่าเสียงแ
วันเดินทางที่จะไปเที่ยวก็มาถึงตอนนี้ฉันมารอปลายฝันอยู่ที่สนามบิน"ฝัน ทางนี้"มือเรียวสวยชูขึ้นพร้อมกับเสียงหวานตะโกนเรียกเพื่อนเสียงดัง"เบา ๆ ก็ได้แกอายเขา"ปลายฝันมองไปรอบ ๆ ตัวเห็นคนรอบข้างเริ่มหันมามองด้วยความอายเลยส่งเสียงเพื่อปรามเพื่อน"ฉันก็กลัวว่าแกจะไม่เห็นไง ไปกันยัง""พ่อ แม่ สวัสดีคะ"จ๊ะแล้วเรามารอนานยัง"เพิ่งมาเหมือนกันคะ เราเข้าไปข้างในกันเลยไหมคะ""ไปสิแก /ไปคะไปรอข้างในกัน"ยัยฝันจูงมือฉันเดินเข้าไปข้างในเพื่อรอขึ้นเครื่อง"เหนือบอกว่าจะมาด้วยนะฝันแม่ยังไม่เห็นเลยอีกครึ่งชั่วโมงเครื่องก็จะออกแล้ว"."เดี๋ยวคงมาคะแม่ ""ฝัน พี่เหนือมาด้วยเหรอ"ฉันรีบถามยัยฝันทันที"ใช่มาด้วยบอกว่าทำงานเหนื่อยอยากจะพักผ่อนอะ พอดีฉันชวน พี่เหนือรีบตอบตกลงทันทีเลยนะ พูดไม่ทันขาดคำนั้นไงเดินมาพอดี"ขาวยาวก้าวมาหยุดยืนสายตาไล่มองไปที่เก้าอี้ทีละแถวเพื่อหา คนที่จะไปภูเก็ตด้วยกัน"พี่เหนือทางนี้" ปลายฝันชูมือเรียกพี่ชายตัวเองเมื่อเห็นมือของน้องสาวพ่วงด้วยเลขาสาวที่เขาอยากเจอหน้านั่งอยู่ข้าง ๆ กันน้ำเหนือมุ่งตรงไปที่น้องสาวและเพื่อนทันที "สวัสดีครับพ่อ แม่ "น้ำเหนือนั่งลงข้างเลขาสาว "รถติดเหรอ
พรึ่บ! ผมลุกขึ้นยืนมองไปที่เลขาตัวแสบที่ยังคงยกแก้วไวน์ดื่ม"พี่เหนือจะไปไหน""พี่ว่าจะกลับแล้ว พรุ่งนี้เราต้องดำน้ำอีกเดี๋ยวตื่นไม่ทัน"มือผมคว้าแขนแม่เลขาตัวแสบ"ไปขวัญลุก"ยัยขี้เมามองมาที่ผม"พี่เหนือมาจะดึงแขนฉันทำไม ฉันยังไม่อยากกลับ ฉันอยากกินต่อได้ไหม" ดูเอาเถอะเมาเสียงยานขนาดนี้ยังอยากจะกินต่ออีก"ไม่ได้เธอต้องกลับตอนนี้ พ่อกับแม่ลงไปห้องพักแล้วถ้าฉันไม่พาเธอกลับแล้วใครจะพาเธอกลับหา"ผมตอบยัยขี้เมา"ให้ใครไปส่งก็ได้ พี่ไม่ได้เป็นอะไรกับฉันซะหน่อยจะมาห่วงกันทำไม""แต่เธอเป็นเลขาฉัน และฉันก็เป็นหัวหน้าเธอ หรือเธอลืมไปแล้ว""ฉันไม่ได้ลืม แต่ตอนนี้มันอยู่นอกเหนือเวลางาน เพราะฉะนั้นพี่เหนือก็ไม่ใช่เจ้านายฉันแล้วรู้ไว้ด้วย"ดูเอาเถอะเมาขนาดนี้เถียงฉอด ๆ ถ้าอยู่ด้วยกันสองคนรับรองว่าจะไม่มีโอกาสเถียงผมขนาดนี้แน่ ๆ "พอเถอะทั้งสองคนหยุดทะเลาะกันสักที" ฉันปลายฝันนั่งมองพี่เหนือกับขวัญข้าวเถียงไปมาตอนนี้บอกตรง ๆ ว่าฉันปวดหัวมาก เหมือนทั้งสองคนทะเลาะกันเพื่อที่จะเอาชนะกัน ถ้าเป็นแบบนี้แล้วที่คิดว่าจะเชียร์ให้ทั้งสองชอบกันคงต้องพับเก็บเอาไว้ก่อน"ขวัญแกหยุดดื่มได้แล้ว ให้พี่ชายไปส่งที่ห้องดี
10 นาทีต่อมาตอนนี้ผมมายืนอยู่หน้าห้องพักของขวัญข้าวและก็เคาะประตูหน้าห้อง ก๊อก ก๊อก ก๊อก "มาแล้วคะ แหมตรงเวลาจังเลยน้าา เจ้านายใครเนี่ย"ฉันรีบเดินไปเปิดประตูเห็นพี่เหนือยืนทำหน้าดุอยู่หน้าห้อง"เร็วยัยฝันรออยู่ช้าเพราะเธอคนเดียว""ชิ ขี้บ่น"ผมได้ยินทุกคำที่ยังเลขาตัวแสบพูดแต่ผมไม่อยากจะพูดต่อเดียวจะกลายต้องมาเถียงกันอีก ผมเดินนำหน้ามากดลิฟท์เพื่อลงไปหายัยฝัน พวกเรารีบเดินตรงมาที่ล็อบบี้ของโรงแรมเห็นฝันนั่งรออยู่ "มาแล้วเหรอขวัญ ไปไหนมาฉันเคาะห้องแกตั้งนานไม่เปิด นึกว่าลงมารอที่ล๊อบบี้ก็ไม่เห็น""อ้อ ฉันไปเดินเล่นที่สวยข้างโรงแรมมาอะ"ฉันปลายฝันที่มองไปยังทั่งสองคนที่เดินมาพร้อมกันแต่ดูจากที่เพื่อนตอบแล้วเหมือนกำลังซ่อนอะไรไว้เพื่อไม่อยากให้ฉันรับรู้"กินข้าวมายังไปกินข้าวก่อนเนอะเพราะวันนี้เราต้องผจญภัยกันทั้งวัน""ยังไม่ได้กินอะไรเลยหิวมากด้วย"และก็เดินไปที่โต๊ะเพื่อรับประทานอาหารด้วยอาการที่เมาแฮ้งเลยเลือกที่จะกินโจ๊ก แต่อีตาบอสจอมเผด็จการก็เลือกที่จะกินโจ๊กเหมือนกัน"แหมกินเหมือนกันเลย สองคนนี้มีอะไรปิดบังหรือเปล่า"นั่นไงยัยฝันแซวจนได้ฉันหันไปมองดูคนที่สั่งอาหารเหมือนฉันที่
ตอนนี้ยัยฝันกับแฟนลงจากเรือไปเที่ยวฟาร์มหอยไข่มุกแล้ว ผมยืนมองเลขาขี้เมาที่นอนหลับสนิทเหมือนไม่ทุกร้อนว่าใครจะทำอะไร ผมนั่งลงเปลข้าง ๆ ยัยเลขาขี้เมา เอื้อมมือไปเขย่าที่ท่อนแขน (แรง ๆ )"ยัยขี้เมาตื่น ยัยขวัญตื่น"เงียบ ! ยัยนี่กำลังซ้อมตายหรือเปล่ามือผมไปอั้งที่จมูกอีกรอบ ก็ยังหายใจอยู่นิ ผมเขย่าไปที่แขนยัยขวัญอีกครั้งแต่ขอบอกว่ามันแรงกว่าครั้งแรกเยอะ ผมเริ่มจะโมโหอีกรอบแล้ว เสียงผมตะโกนดังลั่นเรือเลย"ยัยขี้เมาตื่นสิ ฉันหมดความอดทนกับเธอแล้วนะ""ยัยขี้เมาตื่นเดี๋ยวนี้นะ ถ้าเธอไม่ตื่นฉันจะหอมแก้มเธอ"จริง ๆ ฉันตื่นตั้งแต่พี่เหนือปลุกครั้งแรกแล้วละ แต่อยากจะแกล้งคนเผด็จการชอบพูดจากระแหนะกระแหน แต่เมื่อได้ยินคำว่าจะหอมแก้มฉันก็ตกใจนะสิลืมตาขึ้นอย่างไว"ฮึ ฮึ เกือบได้หอมแก้ม นิ่ม นิ่มแล้ว"ฉันได้ยินเสียงพี่เหนือพูดออกมาไม่ดังมากมุมปากเขายกยิ้มดูแล้วช่างร้ายกาจยิ่งนัก"ฉันตื่นแล้วพี่เลิกเขย่าตัวฉันสักที""ตื่นก็ดีแล้วฝันกับนิวตันไปรอที่ฟาร์มหอยไข่มุกแล้ว เราสองคนก็รีบตามพวกนั้นไปเถอะ""ก็ไปสิ มั่วพูดพร่ำอะไร""อ้าวยัยนี่ฉันบอกเธอดี ๆ นะ"ผมได้ยินยัยขี้เมาตอบแล้วอยากจะทุ่มให้นอนกองอยู่ตรงนี
ตอนนี้พวกเราย้ายตัวเองมานั่งดื่ม โซจูกลิ่นผลไม้ ที่บ้านพักที่พี่นิวตันแฟนปลายฝันเปิดไว้สำหรับพักคืนนี้ บ้านพักมี 3 ห้องนอนมีระเบียนยืนออกข้างหน้าบ้านที่อยู่ติดทะเล ฉันกับปลายฝันชนขวดโซจู กัน 2 คน เปิดเพลงคลอเบา บรรยากาศโครตดีเสียงเพลงก็มา นั่งชิวอยู่ริมหาดทราย นั่งยิ้มแล้วจากไป ดันไปคิดถึงอยู่แต่เขา ไอ้เราไม่อยากจะเหงา ข้อความไปถึงเธอผ่านไลน์ แล้วก็ผ่านไป มันวนเวียนไปอยู่อย่างนั้น เมื่อไหร่จะส่งมาหา "เฮ้ยเพลงเพราะเนอะ แต่แม่งจริงแหละ เข้ากับบรรยากาศสาวโสดแบบฉันเลยแกว่าไหม""เอาน่าผ่านแล้วก็ผ่านไป หาเอาใหม่เอาดี ๆ ดว่ามันเป็นร้อยเท่าเลย""เราก็อยากจะหา แต่จะเอาเวลาที่ไหนหาแกก็เห็นฉันทำแต่งาน""ก็หาในที่ทำงานแหละแกจะไปหาที่ไหนไกล เอาใกล้ ๆ จะได้อยู่ในสายตา""ใคร แกจะให้ฉันจีบใคร""เนี่ยขวัญเราพูดตามตรงเลยนะเราว่าพี่เหนือชอบแก""บ้าฝันเขาเป็นเจ้านายเรานะ เขาจะชอบเราทำไม""ฉันอยากให้แกเปิดใจ ไม่อยากให้แกจมปรักกับอดีต ไม่เชื่อแกคอยดูว่าฉันพูดจริงไหม"เมื่อฉันได้ฟังจากที่เพื่อนพูดแล้วมันก็มีเค้าอยู่บ้างหรือพี่เหนือจะชอบเราจริงอย่างที่เพื่อนพูดตอนนี้เราสองคนนั่งจิบโซจูเบา ส่วนสองหนุ่มนะห
ฉันลืมตาขึ้นมาบนที่นอนกว้างกระพริบตาถี่ ๆ มือกดนวดขมับ อย่างมึนงง กลับมานอนในห้องได้ไง เราจำอะไรไม่ได้เลยจำได้ว่า ปลายฝันถูกพี่นิวตันลากไปนอนแล้วเราก็นั่งกินโซจูอยู่คนเดียว โดยมี บอสตัวแสบนั่งเฝ้าเรา แล้วหลังจากนั้นเรากลับมาห้องของตัวเองได้อย่างไรกันโอ้ยคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก ยิ่งคิดยิ่งทำให้ปวดหัว ไปอาบน้ำ แต่งตัวดีกว่าเพื่อทุกคนจะตื่นนอนกันแล้ว"ตื่นแล้วเหรอ ขวัญเมื่อคืนแกไปนอนตอนไหน""ก็กินโซจูจนหมดแหละ ถึงได้ไปนอน แต่จำไม่ได้ไงว่าเข้ามานอนในห้องได้ไง"ฉันเดินมานั่งเกาอี้ข้างยัยปลายฝันที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว"แล้วทำไมแกไม่ถามคนที่อยู่กับแกละขวัญ"ปลายฝันที่ส่งสายตาไปทางห้องที่น้ำเหนือนอน"แกคิดว่าฉันจะกล้าถามเหรอ เมื่อคืนทำอย่างกับจะกินหัวฉันอะ ไม่รู้ว่าฉันรอดชีวิตมาได้ไง""แล้วเป็นไง แกคิดว่าพี่เหนือชอบแกไหม"ปลายฝันจ้องมาดวงตาของฉัน"ไม่รู้...."ฉันสบตาไปที่ปลายฝันก็อยากจะค้นหาความจริงเหมือนที่เพื่อนพูดแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนก่อนดี"คุยอะไรกันอยู่ครับสาวๆ" นิวตันที่ออกไปซื้ออาหารเช้าเดินเข้ามาหาสองสาวที่กำลังเม้ามอยกันอยู่ "ก็ขวัญถามฝันว่าพี่นิวตันหายไปไหนหรือหนีกลับคนเดียวแล
ชายหาดสีขาวละเอียดฉันนอนเล่นบนเปลชายหาดของทางโรงแรม ด้วยเป็นพื้นที่ของทางโรงแรมจึงมีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก ส่วนใหญ่ก็เป็นนักท่องเที่ยวของทางโรงแรม สายตาที่ทอดมองไปที่พื้นน้ำทะเลกว้างใหญ่สีฟ้าคราม ตอนนี้ฉันอยู่ในชุดเดรสสีขาว ยาว ผ้าพริ้วไหว มีหมวกแล้วแว่นตาช่วยกันแสงแดด"สวัสดีครับ ไม่ทราบคุณมาเที่ยวเหรอครับ"ฉันลุกนั่งขึ้นบนเปลชายหาดหันมามองคนมาใหม่ที่ไม่คุ้นหน้า เอ๋ยถามด้วยเสียงที่เป็นมิตร ผู้ชายหน้าคม ผิวสีแทน ตัวสูงราว 185 ซม.ได้"ใช่คะ มาเที่ยว"ฉันเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ"ผมชื่อ กันนะครับ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไร""ชื่อขวัญคะ ขวัญข้าว คุณก็มาเที่ยวเหมือนกันเหรอคะ"ฉันเอ่ยถามคนที่ชื่อกันที่ตอนนี้เขาถือวิสาสะนั่งลงเกาอี้ชายหาด ตัวถัดจากฉัน"ใช่ครับ ผมมาเที่ยว วันนี้ตอนกลางคืนทางโรงแรมเข้าจัดปาร์ตี้ขอบคุณนักท่องเที่ยว ถ้าคุณขวัญว่างลงมาสนุกด้วยกันนะครับ"คนชื่อกันเอ่ยชวน"คะ ขอบคุณนะคะที่ชวน"ฉันเอ่ยขอบคุณตามมารยาท "ขวัญ"ฉันหันไปมองตามเสียงที่เรียกเห็นคนตัวใหญ่ที่กำลังสาวเท้ามาทางฉัน ด้วยหน้าตาบึ้งตึง"อ้าวพี่เหนือคุยงานเสร็จแล้วเหรอคะ"ฉันหันไปถามพี่เหนือปนความสงสัย พี่เหนือออกไปคุยงาน
ตลอดการเดินทางจากเขาใหญ่มากรุงเทพ เราสองคนแวะถ่ายรูปมาตลอดทาง เพราะแถวนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นฟาร์มโคนมชื่อดังหรือจะเป็นไร่องุ่นขึ้นชื่อ"พี่เหนือรูปนี้ก็สวย รูปนี้ก็สวย พี่เหนือถ่ายรูปเก่งจังเลยคะ"ฉันเลื่อนรูปจากโทรศัพท์มือถือดูทีละรูป ไม่ว่าจะเป็นภาพที่ฉันถ่ายรูปคู่กับแปลงดอกไม้ หรือจะเป็นภาพที่ถ่ายคู่กับองุ่นพวงโตที่ห้อยลงมาจากต้น"ถ้าชอบเดี๋ยวพี่พามาเที่ยวบ่อย ๆ ก็ได้ใกล้แค่นี้เอง จริงสิเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ต้องไปคุยกับลูกค้าที่หัวหินอีกเราไม่ต้องแวะที่ไหนแล้วเนอะ"ผมขับรถออกจากสถานที่ท่องเที่ยวหลังจากที่เราแวะถ่ายรูปมาเกือบตลอดทาง คิดขึ้นได้ว่าในวันรุ่งต้องไปคุยงานเลยเอ๋ยบอกคนตัวเล็กที่นั่งข้าง ๆ จ้องมองดูรูปทางโทรศัพท์"อ้าวเหรอคะ ให้ขวัญไปด้วยได้ไหมหรือจะให้ขวัญเข้าไปดูเอกสารในบริษัท"ฉันละออกจาหน้าจอโทรศัพท์เอ๋ยถามพี่เหนือที่กำลังตั้งใจขับรถกลับกรุงเทพฯ"น้องก็ต้องไปกับพี่อยู่แล้วส่วนเรื่องที่บริษัทพี่เพิ่งรับเลขาใหม่มา เลยไม่ยุ่งเหมือนตอนที่โดนเลขาคนเก่าเทงานแล้วแอบหนีไปไม่ยอมบอก"ผมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่กระแนะกระแหนนิด นึกถึงตอนที่คนตัวเล็กหนีไป งานตอนแรกที่เป็นห
ค่ำคืนอันแสนเงียบสงบภายในห้องที่แสนเงียบสนิทมีเพียงสองหนุ่มสาวที่กำลังปลุกไฟสวาท ร้อนระอุไปตามแรงอารมณ์ปราถนามือของผมยังคงสาละวนไม่ละออกจากเนินเนื้อนางที่แสนจะเย้ายวน ปลายนิ้วขยับเขยื้อนเพื่อเข้าไปสำรวจโพรงอุ่นร้อนอ่อนนุ่ม ดึงเข้าออกเป็นจังหวะ สะโพกผายส่ายขึ้นลงเป็นจังหวะเรียวนิ้วร้าย น้ำหล่อเลี้ยงเริ่มผลิตอาบชะโลมรอบนิ้วแกร่ง"อ๊า.."ฉันส่งเสียงหวานครางออกมาจาลำคอระหง ความรู้เสียวซ่านอยากที่จะอกทนต่อไปได้ เนื้อตัวอ่อนระทวย ความรู้สึกวาบหวามที่คนตัวใหญ่มอบให้ทุกครั้งที่นิ้วร้ายดันเข้าออกผมขยับปากออกจากอกอวบอิ่มเลื่อนผ่านแอ่งสะดื้นบุ๋ม มือใหญ่เกี่ยวแพ๊ทตี๊ตัวจิ๋วให้พ้นทาง โน้มใบหนาคมลงที่เนินเนื้อนาง ปลายลิ้นร้าย ส่งเข้าสำรวจรอบกลีบดอกไม้หอมมีหญ้าปกคลุมอยู่ลำไร้ ปลายลิ้นเรียวลัดเลาะตามซอกกลีบดอกไม้หอมเย้ายวน ร่องงามผลิตน้ำหวานผสมน้ำลายจนเปียกชื้น"อ๋าส์....พี่เหนือ น้องใจจะขาดอยู่แล้วใส่เข้ามาเลย"ฉันส่งเสียงครางกระเส้าทุกครั้งที่ปลายลิ้นหนาส่งผ่านมาที่ร่องน้องสาวฉัน พี่เหนือใช้นิ้วร้ายกดลงที่ปุ่มกระสันนวดคลึง ตอนนี้ฉันรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วหัวใจ อยากจะบอกคนตัวใหญ่ว่าพอแล้วดุ้นลิ้นอยากไ
ฉันมองไปที่คนตัวใหญ่ที่เดินโอบฉันอยู่ ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ ขอกลับไปนอนห้องตัวเองจะทันไหมนะ เร็วเท่าความคิดฉันเอ่ยบอกคนตัวใหญ่ทันที^_^"ขวัญว่า ขวัญกับไปนอนห้องตัวเองดีกว่า"ฉันเอ่ยตอบพี่เหนือคนตัวโตถึงกับส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ พร้อมกับสายตาวิววับเป็นประกาย ยิ่งทำให้ฉันไม่มั่นใจว่าเราสองคนจะไม่ได้แค่นอนเฉย ๆ"ขวัญไม่อยากรู้แล้วเหรอว่าทำไมพี่ถึงรู้ว่าน้องขวัญอยู่ที่นี่"ผมเอ่ยถามคนตัวเล็กที่คิดจะหนีไปนอนห้องตัวเองเรื่องอะไรผมจะยอมเมื่อทุกคนรับรู้เรื่องของเราหมดแล้ว"แล้วพี่เหนือรู้ได้อย่างไงคะ"เสียงหวานเอ่ยถามขึ้นด้วยหน้าตาที่น่ารักอยากจะดึงคนตัวเล็กเข้ามาบดจูบตรงนี้เลยแต่ติดที่ว่าตรงนี้เป็นทางเดินที่จะไปห้องพักกลัวว่าถ้าใครเดินผ่านมาเห็นมันจะดูไม่งาม"เราไม่คุยต่อที่ห้องดีกว่า"ผมไม่รอให้คนตัวเล็กได้ตอบมือใหญ่ของผมที่โอบกอดไหล่บางของคนตัวเล็กมายังห้องพักสาวเท้าเข้ามาจนถึงเตียงกว้างดึงคนตัวลงนั่งผมนั่งซ้อนด้านหลังน้องขวัญหน้าผมก้มลงจูบซับที่ไหล่บางเบา ๆ ลมหายใจที่อุ่นรดลงที่ไหล่บางจนน้องขวัญต้องขวัญหัวไหล่หนี"จะบอกขวัญได้หรือยังว่าใครเปฺ็นคนบอกพี่เหนือ"ฉันดันใบหน้าคมออกจากหัวไหล่ของฉันเ
บรรยากาศช่วงค่ำคุณป้าจัดงานเลี้ยงฉลองให้ฉันอย่างชื่นมื่น ทุกคนมีความสุขกับบรรยากาศที่ห้อมล้อมไปด้วยแมกไม้แล้วขุ่นเขาอากาศที่เย็นสบายจากแอร์ธรรมชาติกระทบกับผิวกายฉัน ที่ตอนนี้ทุกคนอยู่ในชุดสบาย ยิ่งทำให้บรรยากาศเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น"ชอบไหม ป้าจัดเลี้ยงบาร์บีคิวให้เลยนะ"คุณป้าเอ่ยถามฉันที่ตอนนี้ ฉัน พี่เหนือ ปลายฝัน พี่นิวตัน และต้นไม้ ยืนร่วมกลุ่มอยู่ข้าง โต๊ะอาหาร ส่วนพวกผู้ใหญ่ก็นั่งร่วมกลุ่มอยู่ไม่ไกลจากพวกเรามากนัก"ชอบมากเลยคะ ขอบคุณ คุณป้ามากเลยนะคะ"ฉันยกมือขึ้นไหว้คุณป้า ท่านก็ส่งยิ้มมาให้"ถ้าชอบก็พากันกินเยอะ ๆ เลยนะวันนี้ไม่อั้นจ๊ะ เดี๋ยวป้าไปนั่งกับพวกพ่อแม่เราดีกว่ายืนนาน ๆ แล้วป้าปวดขา"คุณป้าเอ่ยบอกฉันพร้อมกับหันเดินไปทิศทางของเป้าหมายทันที"ลูกเขย มาหาพ่อหน่อย"เสียงพ่อเอ่ยขึ้นพร้อมกับกวักมือเรียกพี่เหนือให้มาหา ซึงข้างหน้าพ่อมีขวดเหล้าสีอำพันตั้งอยู่"ครับคุณลุง"ผมเอ่ยตอบพร้อมกับก้าวเท้าเดินตรงไปหาพ่อตาทันที"คุณลุงอะไร ต้องเรียกพ่อซิถึงจะถูกจริงไหมแม่"คุณพ่อน้องขวัญเอ่ยขึ้น"ครับคุณพ่อ""มาดื่มเป็นเพื่อนพ่อหน่อย เรียกพ่อหนุ่มคนนั้นมาด้วย ต้นไม้ด้วยนะ ถือว่าวันนี้วันดี ม
ตอนนี้ทุกคนมาอยู่ ภายในห้องทำงานของป้ามณีเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องสงสัยทันทีที่ป้ามณีโทรหา พ่อแม่ฉัน และพี่เหนือโทรหาพ่อแม่ตัวเอง การเดินทางจากกรุงเทพ-โคราช เป็นระยะทางที่ใกล้ไปโดยถนัดตา พ่อแม่ฉันให้ต้นไม้น้องชายฉันขับรถมาให้ ส่วนพ่อแม่ของพี่เหนือให้พี่นิวตันขับรถมาให้โดยมีปลายฝันนั่งมาเป็นเพื่อนพี่นิวตันด้วย ทั้งหมดมองหน้าฉันกับพี่เหนือ"ยัยขวัญมีเรื่องอะไรหรือเปล่าถึงได้โทรหาพ่อกับแม่ฉันให้มาหาแกกับพี่เหนือถึงเขาใหญ่"ปลายฝันกระซิบถามฉันด้วยเสียงที่แผ่วเบาได้ยินกันแค่สองคน"เฮ้ย ! เดี๋ยวแกก็รู้นั่งฟังก่อน"ฉันถอนหายใจออกมาอย่างรู้สึกท้อข้างในหัวใจ"โอเค ไม่ถามแกก็ได้"ปลายฝันส่งสายตามองค้อนมาทางฉัน"เราเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าคะ ลูกชายพวกคุณมาล่วงเกินหลานสาวถึงรีสอร์ทของฉัน"เสียงคุณป้ามณีเอ๋ยขึ้นด้วยเสียงที่แข็งก้าวไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง"มันเป็นเรื่องของเด็ก ๆ พวกเราเป็นผู้ใหญ่ไม่ควรเข้าไปยุ่งนะครับ"พ่อพี่เหนือเอ๋ยขึ้นบ้าง"แต่เรื่องของเด็ก ๆ คือหลานสาวฉันนะที่เสียหาย"คุณป้าเอ๋ยสวนขึ้นทันควัน "คุณป้าคะขวัญผิดเองคะที่"ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบประโยคคุณป้าฉันก็เอ๋ยขึ้นมาทันควัน"หยุดเลยยัยขวัญทาง
ช่วงเช้าของวัน"นี่เห็นคุณขวัญไหมทำไมไม่ลงมาสักที"ป้ามณีหันมาถามพนักงานด้วยความสงสัย เพราะตอนเช้าของทุกวันต้องเห็นหลานสาวลงมาดื่มกาแฟในช่วงเช้าของทุกวัน"ยังไม่เห็นเลยคะ หนูมาทำงานตั้งแต่ 8:00 แล้วยังไม่เห็นคุณขวัญลงมาทานข้าวและดื่มกาแฟเลย"พนักงานเอ๋ยบอกเจ้าของรีสอร์ท"เป็นอะไรหรือเปล่านะ เอากุญแจห้องคุณขวัญมาให้ฉันหน่อย"คุณป้ามณีรู้สึกเป็นห่วงหลานสาวขึ้นมาทันทีเอ๋ยบอกสาวพนักให้เอากุญแจห้องพักของหลานสาวมาให้"ได้คะ"พนักงานสาวเอ๋ยตอบรับหมุนร่างบางเดินไปหยิบกุญแจที่วางอยู่ในลิ้นชักของเคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ส่งให้เจ้านาย คนเป็นเจ้านายรับกุญแจห้องพักรีบสาวเท้าไปยังห้องพักของหลานสาวด้วยความเร่งรีบป้ามณีเคาะประตูเรียกหลานสาวอยู่หลายรอบคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหลานไม่เปิดประตูให้คนเป็นป้าเสียทีด้วยความร้อนใจกลัวว่าหลานจะไม่สบายจึงรีบไขกุญแจเปิดประตูห้องเข้าไปกวาดสายตายาวไปทีละจุดเปิดประตูห้องน้ำก็ไม่เห็นหลานสาว หญิงที่อายุล่วงเลยมาจนจะใกล้เลข 60 หันมาถามพนักงานสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างร้อนใจ"อ้าวขวัญไม่อยู่ในห้องจะไปไหนได้อีก เธอแน่ใจใช่ไหมว่าไม่เห็นคุณขวัญจริง ๆ"คนเป็นนายพึมพำให้ลูกน้องสาวได้ยิน
@ Love 9ก๊อก ก๊อก ฉันเคาะไปที่ประตูห้องที่พี่เหนือพักอยู่ แต่ไม่มีสัญญาณว่าคนข้างในจะเปิดประตูห้องพักให้ฉันสักที ฉันเลยลองเอื้อมมือไปบิดที่ลูกบิดหมุนไปมาเปิดประตูห้องพัก Love 9 ดูเอ๊าไม่ได้ล๊อกเหรอเนี่ย ฉันมองเข้าไปภายในห้องที่ตอนนี้ข้างในมืดสนิทหัวคิ้วขมวดขึ้นมาชนกันจนเป็นปม ฉันเลยถือวิสาสะเดินเข้าข้างในห้องพร้อมกับเรียกคนตัวโตไปด้วย"พี่เหนืออยู่ไหมคะ"ฉันเอ๋ยเรียกด้วยเสียงที่ไม่ดังมาก"พี่เหนือขวัญมาแล้วคะ"เงียบไม่มี สัญญาณว่าจะมีพี่เหนืออยู่ข้างใน "ไปไหนของเขาหนอ" ได้แต่พึมพำคนเดียวเบาๆ"อุ๊ย ! ปล่อยนะใครเนี่ย"ฉันอุทานออกมาเสียงดังตื่นตกใจที่จู่ ๆ ก็มีคนเข้ามาสวมกอดฉันจากทางด้านหลัง แต่กลิ่นหอมเฉพาะตัวทำให้ฉันจำได้ว่าเป็นใคร"พี่เองครับ"พี่เหนือเอ๋ยบอกฉัน พร้อมกับโน้มใบหน้าคมมาคลอเคลียที่ซอกคอฉันไปมา"พี่เหนือจะทำอะไรปล่อยก่อนสิคะ"ฉันย่นคอเข้าหากันทันทีเพราะลมหายใจที่แผ่วร้อนรดลงที่ต้นคอฉันมันทั้งรู้สึกขนลุกและจักจี้ในเวลาเดี๋ยวกัน"เรื่องอะไรพี่จะปล่อย พี่ลงโทษน้องขวัญที่ทิ้งพี่ให้อยู่คนเดี๋ยว"คนตัวโตเอ๋ยบอกริมฝีหนายังคงไม่ละออกจากต้นคอฉัน"อย่าคะพี่ น้องจักจี้"ฉันดันหน้าคนหน้
การอยู่ช่วยงานป้าที่ฟ้ามณีรีสอร์ทก็ไม่เลวมีอะไรให้ทำเยอะแยะจนบ้างครั้งฉันลืมเรื่องเศร้าไปได้เยอะ แต่เมื่อไรที่กลับมาถึงห้องพักใจไม่รักดี กลับดันไปคิดถึงคนที่ทำให้เจ็บทุกครั้งฉันส่งจดหมายลาออกให้พี่เหนือเรียบร้อยแล้วทางอีเมล์คงไม่มีเรื่องอะไรต้องเจอหน้ากันอีก สายตาทอดมองออกไปนอกหน้าต่างห้องพักดูวิวภูเขาที่เขียวชะอุุ่ม หัวใจก็เริ่มคิดถึงคนที่ไม่อยากเจออีกแล้ว เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ฉันหลุดออกจากพวัง มือเรียวหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นดูหน้าจอปลายฝัน [ขวัญแกเป็นไงบ้าง] เสียงจากปลายสายดังขึ้นเมื่อฉันกดรับเป็นเสียงที่ราบเรียบแต่ทำไมใจฉันต้องว้าวุ่นด้วยก็ไม่รู้ขวัญข้าว [สบายดีแก โทรมามีอะไรหรือเปล่า] ฉันเอ๋ยถามเพื่อนสนิทเหมือนทุกครั้งปลายฝัน [ มีสิ วันที่ 9 นี้ที่แกตกลงจะมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวฉัน ยังเหมือนเดิมอยู่ไหม อีกอย่าง ฉันไม่รู้ว่าจะหาใครแทนอกด้วย] อ่อจริงสิ ใกล้ถึงงานแต่งงานเพื่อนแล้ว ฉันเสียใจจนลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท แล้วนี่ดันไปตกปากรับคำว่าจะไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้อีกขวัญข้าว [ก็ต้องไปอยู่แล้ว แกแต่งงานทั้งที] ฉันเอ๋ยบอกเพื่อนเมื่อถึงวันนั้นจริงฉันคงจะทำใจยอมรับกับชะตากรรมข้างหน้าได้