ริมฝีปากหยักได้รูปประทับริมฝีปากบางเล็กที่กำลังจะส่งเสียงเรียกคนตรงข้ามประตูให้เงียบลง เสียงที่ต้องการเรียกอีกคนกลืนลงไปกับรสจูบนั้น ในหัวโล่งไปหมดแม้แต่ความคิดที่เคยมีก็หายไปเพราะความตกใจ
ปาร์คบดจูบหวานบนริมฝีปากเล็กเพียงเพราะเขาแค่ไม่อยากให้เวลานี้ที่จะอยู่ด้วยกันจบลงอย่างรวดเร็ว เพราะก่อนหน้านี้ใบหลิวพยายามหลบเลี่ยงเขา
ทำไมเขาต้องอยากอยู่กับเธอทั้งที่เป็นน้องสาว และทำไมเขาถึงทำแบบนี้กับคนที่เขาคิดว่าเป็นน้องสาว ปาร์คไม่สนใจความคิดเหล่านั้นที่ตีกันในหัว แต่กลับปล่อยตัวเองทำตามอย่างที่ใจอยากทำ
"อื้ม.."
เสียงหวานค้านเล็กน้อยในลำคอ มือเล็กที่เคยพยายามดันเขาออกในตอนแรกกลับกลายเป็นกำเสื้อเขาไว้แน่น จูบที่ล่วงล้ำอย่างต้องการทำให้เธอแทบจะเข่าอ่อน เขาจูบเก่งเกินไปจนยากที่จะปฏิเสธ
ลิ้นร้อนควานหาความหวานของเธอจนเธอต้องยินยอมและรับจูบนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้แม้เธอจะจูบไม่เป็น แต่เขาก็นำเธอให้ตามอย่างง่ายดาย
"อื้อ..."
"หรือจะไปที่รถแล้ววะ.."
ออดี้บ่นพรึมพรำอยู่หน้าประตูแต่ก็ดังพอที่พวก
.."ทำพลาดหรอ? ผู้หญิงคนนั้นมันร้ายขนาดนั้นเลยหรอ"(คนที่ร้ายไม่ใช่ผู้หญิงหรอกครับ กลับเป็นผู้ชายของคุณมากกว่า)"ไม่ได้เรื่องเลยสักนิด ฉันเสียเงินไปเยอะเพื่อจ้างนายนะ"(ผมคืนคุณได้นะครับ เพราะผู้ชายของคุณยอมจ่ายค่าชดเชยให้เด็กคนนั้นมากกว่าค่าจ้างของคุณเป็นเท่าตัว)"ห๊ะ?"(มากพอที่จะเหลือให้ผมเที่ยวเล่นได้สบายอีก น่าทึ่งชะมัด)"......."หญิงสาวกัดฟันแน่นพร้อมกับกดวางสายไปในทันที โทรศัพท์ที่อยู่ในมือก็ปลิวไปอยู่บนพื้นด้วยแรงอารมณ์ของหญิงสาว ความคิดที่ไม่อยากจะเชื่อว่าชายที่ไม่แยแสผู้หญิงคนไหนเลยอย่างเขาคนนั้นจะทำเรื่องบ้าบิ่นเพราะผู้หญิงคนเดียว และผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เธอ..เมื่อสองปีก่อนหญิงสาวสวยที่จบใหม่และได้เข้าทำงานในโรงงานน้ำมันโดยเธอพยายามอย่างมากเพื่อจะได้ตำแหน่งระดับผู้บริหารในแผนกโลจิสติกส์ และเธอก็ทำได้เพราะการทำงานอย่างหนักของเธอเอง เพราะหน้าที่การงานของเธอบวกกับหน้าตาที่สะสวยพ่อแม่จึงไม่อาจจะปล่อยให้เธอไปพบเจอผู้ชายที่ไม่มีระดับได้พวกเขาถือว่ามีลูกสาวเ
.."พี่ปาร๋ค...""ไปไหนมา? ทำไมกลับดึกขนาดนี้? ตุ๊กตาใครให้? แล้วไปทำอะไรกับออดี้สองคนดึกๆ ดื่นๆ ไม่ห่วงตัวเองบ้างหรือไง?"คำถามร่ายยาวออกมาจากชายหนุ่มที่ขมวดคิ้วแน่นตรงหน้าจนใบหลิวยืนงง เธอถอนหายใจออกมาก่อนจะหันไปตอบเขาอย่างใจเย็น"ถ้าพี่จะถามยาวขนาดนี้จะให้หลิวตอบคำถามไหนก่อนหรอคะ?""ทุกคำถาม""แล้วจะอยากรู้ไปทำไมคะ? หลิวโตแล้วจะไปไหนก็เรื่องของหลิว""โตแล้วน่ารู้คิดได้ว่าคนที่บ้านเป็นห่วง""พี่บิลลี่เป็นพี่ชายแท้ๆ ยังไม่ห่วงหรือตามหลิวขนาดนี้เลยค่ะ""เธอเป็นเด็กในปกครองของพี่ พี่ก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา""นี่มันไม่ธรรมดาแล้วค่ะ มันเกินไป...เกินไปทุกอย่าง"".........""พี่ปาร์คไม่ต้องมากังวลหรือวุ่นวายกับหลิวแล้วค่ะ หลิวหางานเองได้และจะทำให้นาน รอวันกลับไปเยี่ยมแม่""จะไปทำงานที่ไหน""พี่ไม่ต้องยุ่ง หลิวจัดการเองได้""หลิว"ใบหลิวไม่สนใจเสียงเรียกแล้วเดินลงไปด้านล่างทันทีตามที่นัดกายไว้ ปาร์คมองตามหลังคนตัวเล
.."ไอ้ปาร์ค!!!"เสียงเรียกตะโกนดังขึ้นปลุกเขาให้ตื่นจากการหลับใหล ปาร์คค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยท่าทีงัวเงียก็พบว่าเพื่อนรักของตนยืนทำหน้าตาตื่นอยู่ปลายเตียง เขามองไปรอบๆ ห้องที่ไม่คุ้นตา ก่อนหันไปมองร่างเล็กที่กำลังตื่นขึ้นมาเหมือนกัน....เวรล่ะ...."ทำไมมึงถึง...." -บิลลี่"พี่ปาร์ค!!...." -ใบหลิว"เสียงดังอะไรกันวะ?" -กาย"อ้าวเฮ้ย! ไอ้ปาร์ค...." -ออดี้ทั้งสี่คนตกลึงที่ปาร์คมานอนอยู่ในห้องของใบหลิว ยิ่งบิลลี่ยิ่งพูดไม่ออก เพราะตอนเขาเข้ามาปาร์คนอนกอดน้องสาวของตนอยู่ ใบหลิวเองก็ตกใจไม่น้อยที่ตื่นมาอยู่บนเตียงเดียวกับเขาปาร์คสะบัดหัวเล็กน้อยเพราะความแฮงค์พร้อมกับกุมขมับ เขาจำได้รางๆ แต่ก็ตกใจตัวเองเช่นกันที่ยังอยู่ในห้องของใบหลิว ปาร์คเงยหน้ามองเพื่อนๆ ที่ตั้งตารอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ"กูเมา...น่า่จะเข้าห้องผิด""มึงดื่มไปเยอะหรอ? แล้วยังเสือกกลับบ้านอีกนะ" -กาย"ดื่มเยอะขนาดไหนคนอย่างมึงไม่น่าเข้าห้องผิดนะ ไอ้ปาร์ค" -ออดี้"เฮ้
.."แล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึง พริตตี้มาโชว์กูก็ถ่ายใครๆ ก็ถ่าย มันผิดตรงไหน?""คุณก็ควรให้เกียรติเธอนะ""ช่วยไม่ได้ อยากโชว์เอง"คนรอบข้างต่างเดินเข้ามามุงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะชายวัยกลางคนเล่นโวยวายลั่น ใบหลิวเองก็ตกใจไม่น้อยเพราะมันเกิดหน้าที่จัดแสดงรถที่เธอประจำอยู่ ใบหลิวเบิกตากว้างเมื่อมองไปยังคนที่ทะเลาะกันอยู่ ชายหนุ่มรูปงามราวกับพระเอกละครยืนทำหน้าตาน่ากลัวตรงนั้น คือคนที่เธอคุ้นเคยดี"พี่ปาร์ค? ...มาได้ยังไงเนี่ย?"ใบหลิวออกจากรถคันหรูก่อนจะเดินไปไกลๆ ที่พวกเขามีปากเสียงกัน ปาร์คปรายตามองใบหลิวค้างอยู่อย่างนั้น ก่อนจะหันกลับไปมองชายวัยกลางคนตรงหน้าที่กำลังจะเอาเรื่องเขาอยู่"ขอโทษเธอเดี๋ยวนี้""เหอะ! คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ทำตัวเป็นพระเอกไปได้!"ผัวะ!!หมักหนักๆ พุ่งเข้าเต็มใบหน้าชายกลางคนจนถึงกับเซล้ม เลือดกบปากจนพูดไม่ออกได้แค่ชี้หน้า ปาร์คสะบัดมือตัวเองที่พึ่งปะทะหน้าคนเมื่อกี้เล็กน้อย
..เช้าวันต่อมาอะอายและลูกแก้วเข้ามาเยี่ยมบิลลี่และใบหลิวที่บ้านตั้งแต่เช้า บิลลี่ต้อนรับพวกเธออย่างดีใจ นานๆ ทีน้องสาวทั้งสองจะเข้ามาเยี่ยมเขา เพราะงานที่ยุ่งมากของทั้งสองจึงไม่มีโอกาสได้เข้ามาที่บ้าน แม้ว่าพวกเธอจะอยู่ใกล้ๆ ก็ตามที"ไม่คิดว่าพี่ใบตื่นเช้าเป็นกับเขาด้วย"ลูกแก้วพูดขึ้นหยอกล้อใบหลิวอย่างเป็นกันเอง ใบหลิวยิ้มแต่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเธอ กายและออดี้ก็นั่งกินขนมปังและจิบกาแฟเงียบ ปาร์คปรายตามองใบหลิวก่อนจะก้มหน้ามองโทรศัพท์อย่างยิ้มๆ"ต้องตื่นสิ ไม่งั้นพี่จะไปพังห้อง" -บิลลี่"พี่บิลก็เว่อร์"บิลลี่พูดไปพลางหัวเราะไป ใบหลิวเองก็เหลือบมองปาร์คที่นั่งเงียบ อะอายแอบเห็นจึงจ้องมองพี่สาวของตนพร้อมกับยิ้มอย่างสงสัย ใบหลิวทำหน้าเลิ่กลั่กก่อนจะก้มหน้า กินขนมปังต่อ โดยที่ลูกแก้วกับบิลลี่ไม่ทันสังเกต คนทั้งคู่ลอบมองกันไปมาแต่กลับไม่มีคำพูดใดๆ"แล้วพี่ใบทำงานที่ไหนหรอคะ?"ลูกแก้วหันมาถามพี่สาวด้วยความสงสัยหลังจากคุยกับบิลลี่จบ
..ทั้งเจ็ดคนนั่งทานอาหารและดื่มสังสรรค์กันอย่างสนุกสนานพร้อมกับพูดคุยกันตามประสาพี่น้องที่ไม่ค่อยได้เจอเท่าไหร่นัก ใบหลิวเป็นคนที่ไม่ค่อยคุยเวลาทานข้าวกับครอบครัวอยู่แล้ว เพราะเธอไม่มีอะไรที่จะเล่าหรืออวดได้ ทุกครั้งที่รวมตัวทานอาหารเธอจะทำได้แค่นั่งเงียบๆ ปล่อยให้พวกเขาคุยกันไปส่วนเธอก็เป็นผู้ฟังที่ดีปาร์คมักจะเห็นภาพนี้ประจำอยู่แล้วและเขาเองก็ไม่ค่อยพูด ถ้าถามก็ตอบแค่นั้น ตั้งแต่เด็กเขาจะมองว่าใบหลิวเป็นคนไม่ค่อยพูดหรือเปล่า แต่พอมาอยู่ด้วยกันถึงรู้ว่าเธอแค่ไม่รู้จะพูดอะไรก็เท่านั้น"อย่าดื่มเยอะ""คะ?...อ๋อ...ก็ปกตินะคะ"ปาร์คหันไปสนใจใบหลิวที่เอาแต่ยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มโดยไม่สนใจบทสนทนากับพี่ๆ เมื่อเขาบอกแต่ใบหลิวกลับทำท่าทีเมินเฉยและดื่มต่อไป ปาร์คจึงแย่งแก้วที่เธอพึ่งรินไวน์ลงไปใหม่ขึ้นมาดื่มแทนพร้อมกับจ้องมองใบหลิวด้วยใบหน้านิ่งทุกการกระทำของปาร์คอยู่ภายในสายตาของลูกแก้ว อะอายเองก็ลอบมองทั้งคู่แล้วยิ้มแต่ก็ยังคงแกล้งไม่สนใจเหมือนกำลังซุ่มจับผิดปฏิกิริยาบางอย่างของทั้งคู่โดยเฉพาะปาร์ค ถ
"......."ปาร์คยังคงไม่ตอบ กลับพาเธอเข้าไปที่ห้องของเขา กายมองตามปาร์คและใบหลิวอย่างงงงวย แต่ก็ไม่ได้ทักอะไร เพราะเขาดูก็รู้ว่าปาร์คโกรธที่เขาทำแบบนั้นกับน้องสาวคนสนิท กายคิดว่าปล่อยให้ไปเคลียร์กันเองใบหลิวเข้ามายังห้องที่เธอไม่คุ้นตารอบห้องตกแต่งอย่างเรียบง่ายและเป็นโทนสีเทาเสียส่วนใหญ่ แต่เธอจะมัวชื่นชมห้องมันก็คงไม่ดูสถานการณ์เกินไปหน่อย ปาร์คล็อกห้องก่อนจะเดินเข้าไปหาเธอด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์นัก"ดูคุ้นชินดีนี่..ดื่มก็ไม่เมา...เฟรนด์ลี่กับผู้ชายทุกคน ไม่หวงตัวเลย?""พี่ปาร์ค นั่นก็พี่ชายหลิวนะ...แล้วพี่ปาร์คเป็นอะไร?""พี่ชาย? หึ...คนที่ไปรับไปส่งดึกๆ ดื่นๆ ที่บ้านป้ารวีก็พี่ชายทั้งนั้นงั้นหรอ?""พี่ปาร์ค? พี่เอาอะไรมาพูด?""ที่เธออยากกลับบ้านนักหนา เพื่อไปหาพี่ชายพวกนั้น?""ห๊ะ???""พี่ชายแบบไหนหรอ? อธิบายหน่อยสิ..อธิบายให้เห็นภาพหน่อย""หลิวว่าพี่ปาร์คเมามากแล้วนะคะ""ไม่ตอบ? ทำไม? มันอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้หรอ? ว่าเธอไปเหลวแหลกอะไรมาบ้าง""พี่ปาร์ค! ...ถ้าจะหาเรื่อ
.แสงสาดส่องผ่านม่านหน้าต่างมากระทบกับดวงตากลมโตที่ปิดสนิทให้ค่อยๆ ลืมขึ้น ความรู้สึกเจ็บไปทั้งช่วงล่างคล้ายกับมีสิ่งของหนักๆ มากดทับใบหลิวค่อยๆพยุงตัวเองลุกขึ้นพร้อมดึงผ้าห่มเอาไว้ปิดบังร่างกายเปลือยเปล่าของตน ก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบเสื้อผ้าของตนที่ขาดวิ่นขึ้นมาสวมใส่อย่างอิดโรย พลันสายตามองไปยังร่างสูงนอนหลับเปลือยท่อนบนอยู่บนเตียงข้างๆ เธอภาพเมื่อคืนยังคงฉายขึ้นมาในความทรงจำอย่างชัดเจน ใบหลิวลุกขึ้นพร้อมมองคราบเลือดที่เปอะเปื้อนอยู่บนเตียงนั่นยิ่งตรอกย้ำชัดเจนว่าเธอตกเป็นของเขาที่เธอเรียกว่าพี่ชาย ...มันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว พวกเขาได้ล้ำเส้นคำนั้นมาอย่างน่าไม่อายใบหลิวคิดว่าเธอตกเป็นชู้อย่างไม่อาจปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงได้ ความรู้สึกผิดมหันต์ได้ก่อตัวขึ้นมาในใจ เขาเป็นคนยัดเยียดคำนั้นให้เธออย่างไม่ไยดีใบหลิวค่อยๆ เดินออกจากห้องของปาร์คและปิดประตูอย่างเบามือ ภายในบ้านยังไม่มีใครตื่นเพราะเมื่อคืนดื่มหนักและวันนี้เป็นวันอาทิตย์วันหยุดของพวกเขาเธอจึงหลบเข้าห้องของตนอย่างเงียบๆ เพราะอะอายและลูกแก้วนอนหลับอยู่เธอจัดการถอดเสื้อผ้าทิ้งและ
.."ทำไมพี่ปาร์คต้องให้หลิวเอาลูกไปฝากแม่ละคะ"ใบหลิวเอ่ยถามขึ้นหลังจากฝากลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไว้กับผู้เป็นแม่ตามที่ปาร์คขอร้องให้เอาไปฝากไว้สักวัน ทั้งที่ลูกชายของเธอพึ่งจะสี่ขวบ เธอก็ยิ่งคิดหนักและคิดถึงเป็นธรรมดาจนใบหน้าสวยสลดอย่างเห็นได้ชัด ปาร์คปรายตามองใบหลิวครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น"แค่สองสามวันเอง...พี่อยากมีเวลาอยู่กับหลิวบ้าง""ปกติก็อยู่ด้วยกันทุกวันนี้คะ ไม่เห็นต้องแยกลูกไปเลย""พี่อยากอยู่กับหลิวสองต่อสองบ้าง...เรามัวแต่ทำงานเลี้ยงลูกไม่มีเวลาให้กันเลยนะหลิว"ปาร์คเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง ใบหลิวหันมองยังเขาที่กำลังขับรถกลับในเมืองอย่างไม่เข้าใจนัก เพราะเธอคิดว่าก็อยู่ด้วยกันตลอดจะไม่มีเวลาได้ยังไง"เราไม่มีเวลา...หวานกันบ้างเลยแล้วนี่ก็ใกล้จะวันวาเลนไทน์แล้วด้วยพี่เลยอยากจะ...""วาเลนไทน์แล้วไง ไม่ใช่วันครบรอบสักหน่อย"ใบหลิวเอ่ยขัดขึ้นมาใบหน้าดูท่าทางหงุดหงิด ปาร์คหันไปมองยังภรรยาของตนครู่หนึ่งก่อนจะขับรถต่อไปเงียบๆ ภายในหัวคิ
ห้องใบหลิวปาร์คมองร่างหญิงสาวที่นอนหลับอยู่เงียบๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคิดถึงและห่วงหา มือหนาของเขายังจับมือเธอไว้แน่นโดยที่เธอไม่รู้สึกตัวเหมือนกลัวจะหายไปใบหลิวขยับตัวเล็กน้อย เพราะเธอรู้สึกคลื่นไส้อีกครั้งก่อนจะลุกพรวดขึ้นมาทันที ปาร์ครีบเข้าไปพยุงพร้อมมองเธอด้วยสายตาเป็นห่วง ตอนคุยโทรศัพท์เธอไม่เคยพูดถึงเรื่องแพ้ท้องให้เขาฟังเลยสักครั้ง“พี่ปาร์ค? แม่อนุญาตแล้วหรอคะ?”ปาร์คพยักหน้าพร้อมกับยิ้มบางๆ ตาเรียวมองใบหน้าซีดเซียวของหญิงสาวอันเป็นที่รักอย่างสลด ที่เขาไม่สามารถดูแลหรืออยู่ใกล้ๆ ได้เลยเกือบจะหนึ่งเดือนเต็ม แต่ใบหน้าซีดเซียวนั้นกลับยิ้มให้เขาอย่างดีใจที่ได้เจอกันจนลืมอาการอยากอาเจียนไปเสียหมด เมื่อเห็นเธอทำหน้าแบบนั้นชายหนุ่มจึงคว้าตัวเธอเข้ามากอดไว้แน่นด้วยความคิดถึง ก่อนจะคลายกอดอย่างอ้อยอิ่ง“ลุกไหวไหม? พ่อพี่ใกล้จะมาถึงแล้ว”“คะ? คุณปรเมตต์มาด้วยหรอคะ?”ชายหนุ่มพยักหน้าแทนการตอบคำถามของเธอ ใบหลิวทำหน้างงเล็กน้อยแต่ก็พอเข้าใจได้ เพราะนี่
..วันแล้ววันเล่าที่ปาร์คยังคงทำงานช่วยที่บ้านแม่รวีเกือบเดือนที่เขายังคงไม่ได้เห็นหน้าใบหลิวเลย ได้เพียงแค่พูดคุยผ่านโทรศัพท์ทุกคืนเพียงเท่านั้น แต่ปาร์คก็ยังไม่หนีไปและเฝ้ารอวันที่แม่รวีใจอ่อน ไหนจะปรเมตต์ผู้เป็นพ่อที่คอยโทรมาย้ำเขาตลอดว่าให้อดทนปาร์คทำงานอยู่ด้านล่างของตัวบ้านก็ได้ยินเสียงดังจากด้านบนที่ใบหลิวอยู่ เขาได้ยินกลายๆ ว่าใบหลิวแพ้ท้องหนัก แม่รวีจึงเดินขึ้นไปดูแลบ่อยๆ ชายหนุ่มทำงานไปด้วยก็แอบยิ้มไปด้วย ในใจก็คิดว่าเขากำลังจะเป็นพ่อคนแล้วจริงๆ แม้เขาจะอยากขึ้นไปดูแลเธอด้วยตัวเอง แต่เขาก็ทำได้แค่อดทนเพียงเท่านั้น“ไอ้ปาร์ค!” –บิลลี่“นี่มึงเปลี่ยนจากประธานโรงงานน้ำมันมาเป็นพ่อค้าข้าวแกงแล้วหรอวะ” -กาย“กูละยอมใจมึงจริงๆ” –ออดี้บิลลี่และคนอื่นๆ เดินเข้าบ้านมาพร้อมของฝากของบำรุงมากมาย เพื่อนทั้งสี่คนกอดทักทายกันด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเอาของไปวางไว้ที่โต๊ะกินข้าวตัวใหญ่ใต้ถุนบ้าน“แล้วแม่กูไปไหนละ”“อยู่ข้างบนดูแลหลิวอยู่”“เจ้าใบป่วยหรอ?”“เปล่า หลิวแพ้ท้องหน
..06.00 น.“มาทำไม?”“มาช่วยแม่น่ะครับ”“ไม่จำเป็น ฉันทำของฉันเองได้”ปาร์คเดินเข้ามายืนยิ้มให้กับแม่รวี แต่ก็ถูกปฏิเสธอย่างไม่ไยดี การที่เขามีหน้าที่การงานที่ดีมีฐานะดีไม่ได้ช่วยให้แม่รวียอมยกลูกสาวให้เลยแม้แต่น้อย ปาร์คจึงคิดว่าคงต้องเข้าหาว่าที่แม่ยายด้วยการพิสูจน์ว่าเพื่อใบหลิวแล้วเขาสามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหนก็ตาม“ซื้อแกงหน่อยจ้า”“ครับ เอาแกงอะไรดีครับ?”“ตายแล้ว!!! หล่ออะไรขนาดนี้พ่อคุ๊ณ อย่างกับพระเอกแน่ะ ป้ารวีนี่ลูกเขยหรอ? หล่อจนจะเป็นลม เสียดายป้าเกิดก่อนนานไปหน่อย”“ป้าก็ยังสวยอยู่นะครับ”“แหม พูดแบบนี้เอามันทุกแกงเลยล่ะกัน”ปาร์คพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเอาแกงใส่ถุงแล้วยื่นให้ เขาไม่คิดว่าจะได้ยืนขายแกง แต่มันพอดีที่เขายืนอยู่หน้าบ้าน แต่แม่รวียืนอยู่ไกล เลยเป็นเหตุให้เขาได้ช่วยไปโดยปริยาย หลังจากที่ป้าคนนั้นซื้อไปแล้ว กลับมีคนแห่มาซื้อแกงจนแทบขายไม่ทัน เพราะความหล่อที่ไม่อาจมีใครต้านทานจนไม่เหลียวมองได้ ไม่ว่
..ภายในร้านอาหารบ้านๆ เต็มไปด้วยลูกค้าแน่นไปหมด กิจการกำลังดำเนินไปได้ดีจนทุกคนวิ่งวุ่น ใบหน้าเปื้อนต้อนรับลูกค้าตลอดเวลาอย่างมีความสุข ทำให้หญิงสาวแทบจะน้ำตาคลอ เธอไม่อยากทำลายรอยยิ้มนั้นเลยแม้แต่น้อย ใบหลิวยืนมองผู้เป็นแม่อยู่ไกลๆ แต่ไม่ยอมเข้าไปที่บ้านเสียที ปาร์คเองก็ไม่ได้ว่าอะไร ได้แค่ยืนรอข้างๆ รอให้เธอพร้อมที่จะก้าวเข้าไปกับเขาปาร์คจับมือใบหลิวไว้แน่นเป็นเชิงให้กำลังใจ แต่ถึงอย่างนั้นใบหลิวก็ยังคงทำหน้าเศร้ามาคลาย จากที่ไม่ได้เจอแม่มาหลายเดือน และไม่เคยได้แวะเวียนมาเยี่ยมหา แต่เธอก็ส่งเงินมาให้ตลอดไม่ขาด แต่พอกลับมาเจอกันอีกครั้งก็ไม่รู้ว่าแม่ของตนจะดีใจหรือเสียใจ“เข้าไปกันเถอะ”“ค่ะ..”ใบหลิวตอบปาร์คก่อนจะเดินนำเขาเข้าไปยังร้านอาหารที่เธอกับแม่ช่วยกันสร้างขึ้น ใบหลิวเดินเข้าไปทั้งที่ผู้เป็นแม่ยังไม่เงยหน้าด้วยซ้ำแต่ก็ยังร้องเรียกทักทายเพราะคิดว่าเธอเป็นลูกค้า“เชิญก่อนจ้า...ด้านในว่าง...ไอ้หลิว!!”“แม่”ผู้เป็นแม่ละทิ้งทุกอย่างด้วยความดีใจที่เห็นลูกสาวท
“คนไข้อ่อนเพลีย อาจจะเสี่ยงเป็นภาวะเลือดจาง”“ปกติก็แข็งแรงดีนี่ครับ”“ค่ะ แต่เพราะตั้งครรภ์เลยทำให้เสี่ยง เด็กทารกในท้องต้องใช้เลือดคุณแม่เพื่อสร้างอวัยวะ”“!!!”“กี่เดือนแล้วครับ?”ปรเมตต์ที่นั่งอยู่พร้อมพยุงลากสายน้ำเกลือมาด้วยถามขึ้น ในขณะที่ปาร์คยังคงช็อกค้างอยู่ พยาบาลยิ้มให้ปรเมตก่อนจะส่งใบผลตรวจพร้อมอัลตราซาวท์ให้เขา ปรเมตต์และปาร์คก้มมองดูภาพก้อนกลมๆ ที่มีตัวอ่อนคล้ายลูกอ๊อดอยู่ด้วยความตื่นเต้น“สามสัปดาห์แล้วนะคะ ดูเหมือนคุณแม่จะยังไม่รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์”“ลูกแกไม่ผิดแน่ไอ้ลูกชาย ฮ่าๆๆ”ปรเมตต์เผลอหัวเราะออกมาเมื่อรู้ว่าจะมีหลาน ปาร์คมองผู้เป็นพ่อด้วยรอยยิ้มที่เขาดีใจขนาดนี้ แต่พอปรเมตต์รู้ตัวก็กระแอมเบาๆ แล้วทำหน้าเรียบเฉย“พ่อยอมรับหลิวแล้วใช่ไหม?”“ก็เรื่องมันถึงขนาดนี้ ไม่อยากยอมก็ต้องยอม”“พ่อไม่กลัวหลานโง่แล้วหรอ?”“โง่ก็ส่งไปเรียนโรงเรียนดีๆ สิฟ่ะ ยากอะไร”ปาร์คหัวเราะกับความดื้อดึงของพ่อ แต่ตอนนี้เขาก็ยอม
..ข่าวบนหน้าจอโทรทัศน์ในห้องพิเศษของโรงพยาบาลดังขึ้น ใบหลิวมองดูข่าวนั้นอย่างไม่อยากเชื่อ หรือเรื่องนี้มันกำลังจะจบลงด้วยดีแล้วกันนะ“สมใจเธอรึยังล่ะ...เหอะ!”เสียงคนป่วยที่นอนไม่ฟื้นมาหลายชั่วโมงได้ดังขึ้น ใบหลิวรีบหันหน้ากลับมามองชายวัยกลางคนที่ตื่นมาก็หันมาประชดประชันเธอเลย แต่เธอก็ไม่ได้พูดตอบโต้หรือเถียงเขาแต่อย่างใด กลับหันไปหยิบน้ำเปล่ายื่นให้ชายคนนั้นแทน มีหรือที่เขาจะยอมรับน้ำจากเด็กสาว ปรเมตต์เมินหน้าหนีแก้วน้ำที่ใบหลิวยื่นให้“ดื่มน้ำหน่อยเถอะค่ะ จะได้ดีขึ้น”“ฉันไม่ดื่ม”“ถึงจะรังเกียจฉัน แต่ก็ควรห่วงสุขภาพตัวเองนะคะ”“เด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม กล้ามาเสนอหน้าสอนฉันหรือ”“รอให้หายดีก่อนดีกว่าไหมคะคุณลุง ค่อยคิดแผนขัดขวางทีหลัง”“เด็กนี่! ไม่กิน!”ปรเมตต์ล้มตัวนอนลงพร้อมกับหันหลังให้ใบหลิว หญิงสาวกรอกตาก่อนจะถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายกับความดื้อของคนแก่รุ่นพ่อ ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้เขาอยู่ดี แต่ปรเมตต์ก็กลับสะบัดมือเธอออ
..ประธานหนุ่มเดินเข้าบริษัทมาอย่างสุขุมโดยมีผู้ช่วยสาวพ่วงตำแหน่งแฟนสาวลับๆ ของเขาเคียงข้างมาด้วย คนในบริษัทที่เขาเดินผ่านต่างทักทายเขาตลอดทางเดิน เมื่อมาถึงหน้าห้องทำงานของตนเลขาสาวก็ลุกขึ้นมองหน้าเขาปาร์คปรายตามองบีบีครู่หนึ่งด้วยสายตาเรียบนิ่งไร้ความรู้สึกก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องไป บีบีรีบตามเข้าไปทันที ส่วนใบหลิวก็กลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานโดยไม่สนใจ"มาแล้วหรอ ไอ้ลูกไม่รักดี""....."เมื่อประธานหนุ่มเดินเข้ามาในห้องก็เห็นผู้เป็นพ่อนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ปาร์คทำหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะทำงานของเขาอย่างเงียบๆ"ฉันสั่งงให้แกย้ายไปอยู่กับหนูบีบี แต่แกกลับหนีไปคลุกอยู่กับเด็กคนนั้น งามหน้าไหมล่ะไอ้ปาร์ค""......""ฉันจะเลื่อนงานแต่งให้เร็วขึ้น! เดือนหน้าแกต้องแต่งงานกับหนูบีบี"ปาร์คปรายตามองบีบีที่ลอบยิ้มอยู่อย่างดีใจที่ปรเมตต์พูดแบบนั้น ปาร์คยกยิ้มก่อนจะส่ายหน้าไปมาท่ามกลางสายตาของปรเมตต์ บีบี และปกรณ์ พวกเขามองปาร์คอย่างไม่เข้าใจ
..รถคันหรูแล่นมายังคอนโดหลังจากทานข้าวเย็นกับคู่หมั้นสาวสวยที่พ่วงตำแหน่งเลขาของเขาในบริษัท ชายหนุ่มไร้คำพูดใดๆ แม้สาวเจ้าจะชวนคุยมากแค่ไหน สิ่งที่ได้ตอบคำมาเห็นเพียงจะเป็นความเฉยชาพ่วงด้วยสายตาที่ว่างเปล่าเพียงเท่านั้นจนรถจอดสนิท"ลงไป""ปาร์คจะไปไหนคะ คุณพ่อบอกให้เราอยู่ด้วยกัน..""ไปคุมผับ""งั้นบีบีขอตามไปด้วยได้ไหมคะ จะได้ศึกษาไว้ เพราะวันหนึ่งเราก็ต้องช่วยกันดูแลอยู่แล้ว""ไม่จำเป็น""แต่ปาร์คคะ..""กลัวอะไร? หลิวก็อยู่กับปกรณ์ไง ยังไม่พอใจเธออีกหรอ จะไปดูฉันล่าด้วยเลยไหมล่ะ""ถ้าปาร์คหาที่ลง บีบีก็พร้อม""ฉันไม่มีทางแตะต้องเธอ ไปซื้อกินยังจะดีกว่าอีก""ปาร์ค!""ลงไป!!"บีบีมองหน้าชายคู่หมั้นทั้งน้ำตา เธอทั้งเสียใจและโกรธเคืองคนตรงหน้าจนพูดไม่ออก แต่ปาร์คกลับมองเธอพร้อมแสยะยิ้ม สำหรับปาร์ค เขาคิดว่าคนที่ควรเสียใจมากที่สุดน่าจะเป็นใบหลิวมากกว่า เพราะเธอโดนพ่อเขาว่าขนาดนั้นหญิงสาวยอมลงจากรถแต่โดยดีและมองดูรถของคู่หมั้นหนุ่มแล่นไปจนลับตา ก่อนจะรี